คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ๖ โจรสกปรก 1/4
๖
โจรสกปรก
กริ๊ง ๆ
หลังจากที่อาเจียนจนท้องไส้แทบไม่หลงเหลือเศษอาหารเสียงกริ่งที่ประตูก็ดังขึ้น เรียกความสนใจให้กับร่างอ่อนแรงที่กำลังซวนเซ ออกจากห้องน้ำพอดี ใบหน้าของเธอพราวไปด้วยหยดน้ำ ริมฝีปากแดงจัดเปรอะเปื้อนไปด้วยลิปสติก เป็นผลจากการล้างแบบไม่ใส่ใจ ผมเผ้ายุ่งเหยิงจนดูแทบไม่ได้ ร่างบางเหนื่อยจากการอาเจียนแทบทรงตัวไม่อยู่ ใช้หลังมือเช็ดหยาดน้ำตาออกลวก ๆ อย่างรวดเร็ว รีบก้าวขาที่พยายามให้มั่นคงไปทางประตู อดที่จะยิ้มออกมาอย่างมีความหวังไม่ได้
“พ่อ...” นั่นเป็นบุคคลแรกที่เธอนึกถึง พ่อมาตามเธอกลับบ้านแน่นอน พ่อยังรักและห่วงใยเธอเสมอ มือบางรีบตะครุบลูกบิดประตูราวกับกลัวว่ามันจะหายไป
รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้างามหุบหายไปในทันทีที่ประตูถูกกระชากเปิดออก ไม่ใช่บิดาอย่างที่คิด! แล้วเขาเป็นใครกัน!
“คะ...คุณเป็นใคร มาทำไมที่นี่ มาผิดห้องหรือเปล่า”
“ฮึ” เสียงเหี้ยมชวนขนลุกดังขึ้นในลำคอแกร่ง ก่อนที่ร่างสูงใหญ่กำยำจะผลักประตูเข้ามาอย่างแรงจนร่างบางที่ยืนพิงประตูโงนเงนอยู่แล้วถึงกับเซล้มลงไปนั่งกองกับพื้น ในขณะเดียวกันคนเสียมารยาทก็ก้าวพรวดพราดเข้ามายืนอยู่ในห้องและปิดประตูล็อกไว้แน่นหนาอย่างถือวิสาสะ
ดวงตาคู่คมของหญิงสาวเบิกกว้างอย่างตกใจ ริมฝีปากสีแดงสดเปิดอ้า งงงวยกับพฤติกรรมหยาบ ๆ ของแขกไม่ได้รับเชิญ เธอเงยหน้ามองไอ้หน้าโจรเต็ม ๆ ตาแล้วก็เริ่มหวาดหวั่น ร่างบางถึงกับลืมความเจ็บปวด รีบพยุงกายลุกขึ้นยืนพลางลนลานก้าวถอยห่างสะเปะสะปะ แต่ก็ยังจดจ้องไปยังผู้บุกรุกด้วยแววตาเอาเรื่องอยู่ในที
“นี่แกเป็นใคร โจรอย่างน้านเหรอ ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้นะ ไม่อย่างนั้นฉันเรียกตำรวจแน่ หน้าอย่างแกคงมีคดีติดตัวมาไม่ใช่น้อยละสิ ถ้าตำรวจจับได้ครั้งนี้แกคงได้ติดคุกหัวโตไม่ได้ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันกับเขาแน่ ไอ้โจรสกปรก” แม้จะกลัวอยู่ไม่น้อยแต่ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้ความกล้าที่ปกติก็มากพอตัวอยู่แล้วยิ่งเพิ่มสูงขึ้นไปอีก คำด่าทอจึงหลุดออกไปอย่างไม่หวั่นเกรง
ช่อแก้วกวาดตามองชายฉกรรจ์ ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเครา ผมเผ้าหยักศกยาวประบ่า ดวงตาที่คงจะโหดเหี้ยมนั้นถูกปกปิดเอาไว้ด้วยแว่นตาดำ ทำให้หญิงสาวมองไม่เห็นแววตาที่กำลังจ้องมองเรือนร่างของเธอราวกับเสือหิวโซที่บังเอิญมาเจอเหยื่ออันโอชะ หากแต่ไม่ใช่จุดประสงค์ที่เขาปกปิดดวงตาคมกล้านั้นไว้สักนิด มีบางอย่างภายใต้กรอบแว่นตาดำนั้นที่ยังไม่ถึงเวลาจะเปิดเผยให้ผู้หญิงคนนี้ได้รับรู้ เพราะหากรู้ตั้งแต่แรก เกรงว่าเธอจะช็อกตายไปเสียก่อนที่เขาจะได้เล่นอะไรสนุก ๆ
“ฉันให้โอกาสแกอีกครั้ง รีบออกไปจากห้องฉันซะ”
หญิงสาวยังออกคำสั่งปนขู่เสียงแข็ง ทำใจดีสู้เสือ ในขณะที่เท้าก็ก้าวถอยห่างจากอันตรายที่ย่างกรายเข้าหา มาพร้อมกับความเงียบราวกับไม่เอาปากติดตัวมา
“นี่แกเป็นใบ้หรือไงฮะ พูดอะไรออกมาสักคำสิ แกจะเอายังไง” เมื่อเริ่มทนกับสงครามประสาทของคนตรงหน้าไม่ไหวหญิงสาวก็โพล่งขึ้นอย่างโมโห
“ฮึ ปากดีนักนะ ดีไม่เคยเปลี่ยน”
เสียงเข้มดุดันดังขึ้นในที่สุด แม้จะไม่ได้ให้คำตอบในสิ่งที่ต้องการ หากแต่นั่นก็ทำให้หญิงสาวใจชื้นขึ้นมาบ้าง หวังว่ามันคงไม่ใช่โจรโรคจิตพูดไม่รู้เรื่องอย่างที่เธอนึกหวั่น
ร่างสูงยังคงเดินเข้าหาเหยื่ออย่างเชื่องช้า ยิ่งเห็นใบหน้าหวาดระแวงของเหยื่อสาวยิ่งได้ใจ ร่างเย้ายวนรีบถอยห่างไปหลบอยู่อีกฝั่งของโซฟา คงคิดว่าการมีสิ่งขวางกั้นบดบังจากเขาจะทำให้เธอปลอดภัย หากจะคิดเช่นนั้นก็ตามสบาย ชายหนุ่มเดินไปเท้าแขนทั้งสองข้างกับโซฟาอีกตัวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยท่าทางราวกับเป็นเจ้าถิ่น
“แล้วไอ้ความหวานของมันจะยังมีหลงเหลืออยู่ไหมนะ หรือป่านนี้มันจะเหม็นเน่าคาวโลกีย์ไม่เหลือคราบความหอมหวานแล้วล่ะ” คำพูดดูถูกดูแคลนดังขึ้นตามประโยคแรกมาติด ๆ สายตาภายใต้กรอบแว่นดำอันใหญ่นั้นยังคงจับจ้องไปยังเรือนร่างเย้ายวนด้วยความพึงพอใจ แม้สภาพของเธอยามนี้ไม่ได้ต่างจากลูกหมาที่เพิ่งเก็บได้จากข้างถนนนัก แลดูตลกต่างจากเมื่อตอนที่อยู่ในผับอย่างสิ้นเชิง หากความเย้ายวนน่าสัมผัสกลับไม่ได้ลดลง รังแต่จะเพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาด เพียงแค่คิดว่าอีกไม่นานเกินรอ เขาจะได้ครอบครองความงามนั้นสมใจ หัวใจของคนหนุ่มก็เริ่มร้อนรุ่มเต้นไม่เป็นจังหวะขึ้นมาอย่างไม่เคยเป็น
“นี่แกพูดเรื่องอะไรของแก ออกไปนะ” ความสงสัยเริ่มก่อมวลขึ้นในแววตา ไอ้โจรบ้านี่พูดเหมือนรู้จักเธอมาก่อน อากัปกิริยาที่ทำตัวตามสบายจนเกินเหตุ ไม่มีอาการลุกลี้ลุกลนดั่งเช่นโจรปกติ ทำให้หญิงสาวนึกหมั่นไส้ อย่าให้หาทางเรียกตำรวจได้ก็แล้วกัน ถูกจับเมื่อไรจะหัวเราะเยาะให้สะใจเชียว
“ฉันจะออกไปก็ต่อเมื่อฉันได้ในสิ่งที่ฉันต้องการ”
“แกต้องการอะไร เงินอย่างนั้นหรือ หึ แกคงมาผิดที่แล้วละ เงินที่ฉันมีติดตัวมันคงไม่คุ้มกับที่แกเสี่ยงบุกขึ้นมาจนถึงตรงนี้หรอก นั่นไงกระเป๋า ไปเอาสิ ฉันมีแค่นั้น อยากได้ก็เอาไป แล้วก็รีบ ๆ ไปให้พ้นห้องฉันไม่อย่างนั้นแกได้กลับไปนอนในคุกแน่”
ชายหน้าโจรเดินอ้อมไปตามทางที่หญิงสาวชี้ ก่อนจะนั่งลงบนโซฟา ยกขาขาไขว่ห้างด้วยท่าทางสบาย ไม่มีท่าทีจะหวั่นเกรงต่อคำขู่ของเธอสักนิด มือหนาหยิบกระเป๋าที่ว่าขึ้นมาเปิดดู สำรวจตรงนั้นตรงนี้อย่างไม่เกรงใจ กระเป๋าใบเล็กไม่มีอะไรมากนอกจากเครื่องสำอางไม่กี่ชิ้น และกระเป๋าเงินอีกหนึ่งใบ
เขาเปิดมันออกดู เห็นธนบัตรใบละร้อยในกระเป๋าไม่ถึงสิบใบ ก่อนจะโยนมันกลับไปที่เดิม และเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของกระเป๋าที่ตอนนี้วิ่งปรู๊ดไปยืนตัวลีบอยู่ไกล ๆ นัยน์ตาคมสวยปนแววหวาดหวั่นนั้นแอบชำเลืองมองไปยังประตูอยู่หลายหนเพราะนั่นคือความหวังเดียว หากกระนั้นก็เจือแววสิ้นหวังส่งออกมาประปราย ก็ลองวิ่งมาสิ! เขาอยู่ตรงนี้จะไปไหนรอด คนถือไพ่เหนือกว่านึกอย่างผู้มีชัย
“อืม มีเงินอยู่แค่นี้ ไม่คุ้มจริง ๆ ด้วยสิ อุตส่าห์เสี่ยงขึ้นมาแล้วมันก็น่าจะได้อะไรที่คุ้มกว่าเงินแค่ไม่ถึงพันหน่อยเนอะ เธอว่าไหม”
“เออ! แกอยากได้อะไรก็ขนไปแล้วกัน ถ้าคิดว่าขนได้ก็ขนไป”
“ของที่เธอว่าในห้องนี้ มีอย่างเดียวที่ฉันสนใจ เธอจะให้ได้หรือเปล่าล่ะ ถ้าไม่ให้ฉันก็ไม่ไป”
“บอกแล้วไงอยากได้อะไรแกก็ขนไป แล้วก็รีบ ๆ ออกไปซะ ฉันง่วง ฉันจะนอน” ช่อแก้วรีบบอกปัดออกไปอย่างต้องการให้จบ
เธอคงไม่เสี่ยงหาทางสู้กับไอ้โจรล่ำนี่แน่นอน มีหวังร่างบาง ๆ คงโดนหักกระดูกออกเป็นชิ้น ๆ ไม่เหลือดี ควรยอม ๆ มันไปเพื่อรักษาชีวิตตัวเองให้รอดเสียก่อน
“แสดงว่าเธอยกให้ แหม เด็กนอกนี่มันใจป้ำดีจริ๊ง”
เด็กนอกอย่างนั้นหรือ มันรู้ได้ยังไง
ความคิดเห็น