ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    xx ห้องเก็บของ B.Bear xx

    ลำดับตอนที่ #13 : ลำดับตอนที่ 13

    • อัปเดตล่าสุด 30 ส.ค. 56


    เสียงแผ่วเบาแว่วตามสายลม คล้ายเสียงกระซิบ คล้ายเสียงร้องไห้ เอ หรือจะเป็นเสียงหัวเราะเยาะกันนะ

    เขาว่ากันว่า ในยามที่ตกต่ำที่สุด เราจะเป็นตัวเองมากที่สุด เจ้าว่าจริงหรือไม่..

    เสียงนั้นเอ่ยแผ่วเบาจนคล้ายกับพูดกับตัวเอง

     

    “ไม่จริงๆหรอก เพราะชายเป็นตัวเองตลอดเวลา เพราะอันตัวชายนี้จะเป็นผู้อื่นก็มิควรยิ่งนักเพราะไม่มีใคร งดงามเทียบเทียมที่ชายแจสจะเป็นผู้อื่นได้ไงล่ะ อะโฮะ ๆ ๆ”

    เขาพูดพร้อมป้องปากอย่างสง่างาม ทวงท่าที่ยกมือขึ้นป้องปากนั้นก็งามล้ำเกินผู้ใด และเมื่อเขาเริ่มเปิดปากหัวเราะ สถานที่รอบๆ นี้ก็เปล่งประกายราวกับเขาคือผู้เฉิดฉายโลกทั้งโลกให้น่าอยู่

     

    “โอะ !! ว่าแต่เมื่อกี้นั้นเสียงใคร !!! หรือว่า

    เขาพูดเสียงแผ่วเบาลงพร้อมมองไปรอบๆ อย่างหวาดระแวง

     

    “ปิ๊ง! ต้องเป็นแฟนคลับที่อดทนต่อความงดงามของเราได้แน่ๆ โฮะๆ ถึงขนาดแอบตามมาแบบนี้ โฮะๆ ข้าเข้าใจเจ้านะเพราะงั้นจงยลโฉมความงามพร้อมของเราให้ดีเรามิหวงแน่นอน เพราะนอกจากเรายังรูปงามแล้วนั้นยังมีจิตใจอันงามพร้อมดั่งเพชรเม็ดงามอีกตั้งหาก อะโฮะๆๆ”

    เขาพูดพร้อมตัดปัญหากังวลใจจากเสียงแปลกๆ นั่นไป พร้อมกับเดินลูบผมอันสลวยและโพสท่า(?) ไปตลอดทางเพื่อให้คนที่เขาคิดว่าเป็นแฟนคลับยลโฉมเขาได้อย่างอิ่มเอมใจ(?)

     

     

    พึ่บ!

    โดยไม่ทันตั้งตัว ร่างๆหนึ่งก็ร่วงหล่นลงมาก่อนจะค้างอยู่กลางอากาศหน้าคุณด้วยด้ายที่แขวนไว้ราวกับตุ๊กตาหุ่นเชิด ร่างไร้วิญญาณที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือดเหม็นคาวคละคลุ้ง ใบหน้าขาวซีด ดวงตาแดงก่ำเบิกกว้างจ้องมองยังดวงตาของคุณอย่างเคียดแค้น

     

    แต่คุณเองก็หน้าซีดไม่ต่างกัน ใบหน้าที่จ้องมองมานั้น ใบหน้าของคนที่คุณรักมากที่สุด น้องน้ำลายยืด!!  บัดนี้กลับสิ้นไร้ซึ่งลมหายใจ

    “ทะ..ทำไม”

    เขาก้าวถอยหลังช้าๆ บ่าแข็งแกร่งทั้งสองข้างสั่นเทาอย่างไม่เคยเป็น..ดวงตาคมกริบสั่นไหวอย่างแรง ก่อนภาพความทรงจำทั้งหลายจะผุดขึ้นมาราวกับม้วนฟิล์มถ่ายทอดหนังชุดใหญ่

     

    เสียงกระซิบที่มักปลุกเขาจากห้วงความฝันทุกเช้า….ยามนี้คงไม่มีอีกแล้วสินะ

    เสียงออดอ้อนที่เคยได้ฝันจนเคยชินยามนี้เสียงนั้นคงไม่เรียกขานเขาอีกแล้วสินะ

    อ้อมกอดที่ออเซาะออดอ้อนเขาเสมอ ..วันนี้คงไม่มีไออุ่นนั่นแล้วสินะ

    ทำไมละทั้งที่การกระทำเหล่านั้นน่าจะดูน่ารำคาญสำหรับคนที่มาเกาะแกะคุณชายผู้เลิศเลอแบบเขา

    แต่ทำไมวันนี้เพียงมองเห็นร่างที่คุ้นเคยแน่นิ่งเช่นนี้ ทำไมเขาถึงได้รู้สึกโหวงไปหมดราวกับตกสู่หลุมลึกยังไงยังงั้น

     

    “มอนิ่งค๊าบบบบ”

    เสียงใสๆ นั่นที่เรียกเค้า

     

    “รีบกลับมานะครับ”

    ก็รู้ๆ อยู่ว่าเค้ากลับดึกยังจะรอทำไมกันนะ

     

    “คิดถึงนะครับ”

    คงพูดแบบนี้กับทุกคนสินะ แต่ทำไมเค้าฟังแล้วยิ้มไม่หุบเลยนะ!!

     

    ภาพความทรงจำยามมีร่างที่แน่นิ่งข้างกายไหลวนมาไม่หยุด มันช่างบีบใจเขาให้แหลกสลายสิ้นดี!!

    น้ำตาที่ไม่เคยหลั่งออกมาไม่ว่าจะเรื่องหนักหน่วงแค่ไหน กับไหลเปรอะเปื้อนใบ้หน้าคมอย่างงายได้

    ริมฝีปากเรียวบางเม้มแน่น

     

    “น่ารำคาญ!!

    เสียงตะคอกที่ทำให้ร่างเล็กๆนั่นสั่นกลัวไม่ใช่ใคร นั่นคือเสียงเขาเอง!

     

    “จะกลับช้าหรือเร็วแล้วทำไมเรื่องของนายหรอ”

    คำพูดที่ไร้เยื่อใยขนาดนั้นเขาพูดขึ้นมาได้ยังไงนะ!

     

    “คิดว่าฉันคนนี้อยากฟังงั้นเรอะ!

    ทำไมเค้าช่างโง่งมแบบนี้ ทำไมทำไม เขาถึงกล้าพูดแบบนี้!!

     

    “มั่นใจในตัวเองหน่อยสิครับ..ผมรู้นะว่าคุณสง่างามเกินใครและแข็งแกร่งเกินใครนะครับ”

    เขาพูดที่ยามที่เค้าอ่อนแอที่สุดได้รับ มีเพียงเสียงที่คุ้นชินเพียงคนเดียว

     

    ทำไม ทำไม ทำไม!! ทำไมเค้าถึงทำพลาดไปหมด ทำไมวันนั้นเขาถึงไม่กอดร่างนี้ไว้แล้วพูดจาดีๆนะ ทำไมจะต้องห้ถึงวาระสุดท้ายเขาถึงจะรู้ตัว เขานี่ช่างโง่งมสิ้นดี!!

     

     

     

    ฆาตกร!!

    เสียงหนึ่งกรีดร้องจากความมืด พลันในมือคุณก็รู้สึกถึงมีดเย็นเฉียบที่เต็มไปด้วยเลือดสีแดงสด ในความมืดรอบตัวปรากฎใบหน้าของเหล่าคนที่คุ้นเคย เพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง คนรู้จัก หากแต่แววตาที่พวกเขามองมาช่างเย็นชาและห่างเหินเสียเหลือเกิน

     

    “ไม่ ..เราไม่ได้ทำนะ เราไม่ได้ทำ!!!


     

    เฮือก!

    ร่างสูงโปร่งสะดุ้งตื่น หลังชุ่มไปด้วยเหงื่อ ความฝันนั่นช่างเหมือนจริงเสียคุณยังรู้สึกถึงกลิ่นคาวเลือด สายลมพัดกิ่งไม้เสียดสีกับกระจก แต่คุณกลับได้ยินเป็นคำพูดชัดเจน

     

    ในยามที่ไม่เหลืออะไรนอกจากร่างกายและดวงวิญญาณนี้ เจ้าจะทำเยี่ยงไร...

     

    “เจ้าจะบอกว่าถ้าหากทุกคนเข้าใจว่าเราเป็นฆาตกรชิงชังเรา เกลียดเรา สาปแช่งเรา แล้วเราจะทำยังไงงั้นหรอ นั่นคือคำถามที่เจ้าอยากจะถามใช่มั้ย ถ้าหากเราถูกทอดทิ้งไม่เหลือใคร เหลือแค่ชีวิตไปวันๆ….

     

    เขาพูดเสียงแผ่วลง ก่อนจะกำมืดแน่นจนสั่นไปหมด

    “ข้าน่ะไม่มีวันนั้นหรอกนะ

    เขาคลายมือออกช้าๆ

    “เพราะเสมอมาข้ามี น้องน้ำลายยืดเสมอ

    เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะเผยยิ้มเศร้าๆ

    “ถึงแม้ว่าหากวันนั้นเจ้าแน่นิ่งและหมดลมหายใจ แต่ข้าก็เชื่อว่าเจ้ายังอยู่กับข้า เชื่อข้า และโอบกอดข้าแม้ข้าจะไม่สามารถสัมผัสไออุ่นมัน แต่ข้าเชื่อว่า ไม่มีวันไหน ที่ข้าไม่มีเจ้า มันจะเป็นแบบนี้ไม่ใช่ตลอดไป แต่

    นิรันด์

    “ฮ่าๆ ไอ้ขี้หลงตัวเองเอ้ยย คุณชายอะไรกัน วันส่องแต่กระจกเพ้ออย่างกับคนบ้า อ้อ ข้ารู้แล้วคุณชายโรคจิตใช่มั้ย 555

    เสียงหัวเราะเยาะพร้อมกับก้อนหินที่ปาใส่มันเป็นอย่างนี้ทุกวันจนเขาเคยชินเสียแล้ว

    “คุณชายครับ มั่นใจหน่อยสิครับ คุณชายงดงามที่สุดสำหรับผมเสมอไม่ว่าจะในโลกนี้จะมีคนกี่ล้านคน ก็ไม่สามารถที่จะเทียบคุณชายได้เลย ..คุณชายไม่ต้องกลัวนะครับ หากวันนึงคุณชายไม่เหลือใคร หรือคุณชายรู้สึกว่าโดดเดี่ยว จำเอาไว้นะครับ ว่ายังมีผมที่ไม่มีวันห่างกายคุณชายไปไหน

    ..จำเอาไว้นะครับ”

     

    “ข้าจำได้ทุกคำพูด .. และข้าจะไม่วันอ่อนแอ พวกเขาที่รุมประณามข้า เขาพวกนั้นเคยอยู่ข้างข้าหรือไม่? ก็ไม่ ดังนั้นต่อให้ข้าไม่เหลือเศษสวะเหล่านั้น ข้าก็เดินต่อได้ เพราะข้าเชื่อว่าอ้อมกอดที่มองไม่เห็นกำลังปลอบประโลมว่าข้าควรมีชีวิตอยู่ต่อไป อย่างน้อยข้าก็อยากให้เจ้าเห็นนะ ว่าข้าไม่ใช่คุณชายที่ไม่เอาไหน แต่ข้าคือเพชรเม็ดงามอย่างที่เจ้าเคยบอกว่าข้าเหมือนมัน




    THE★ FARRY
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×