คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอน1
หน้าเอกสารสำหรับเครื่องพิมพ์ ส่งเรื่องนี้ต่อให้เพื่อนอ่าน
Voynich menuscript
หน้า: 1/4
ตูน
ห้องสมุดเบนเนคเก้ (Beinecke Rare Bood & Manuscript Library) ของมหาวิทยาลัยเยล สหรัฐอเมริกา เป็นแหล่งหนังสือหายาก รวมทั้งเอกสารต้นฉบับ สมุดบันทึกด้วยลายมือของเจ้าของ หลายพันเล่ม
จากยุคกลาง และ เรอเนสซองส์ มีสมุดบันทึกที่มีนักวิชาการจำนวนมากได้แวะเวียนเข้ามาศึกษาโดยตลอด แต่ ไม่มีผู้ใดสามารถทำความเข้าใจสาระที่บันทึกไว้ในสมุดเล่มนี้ได้เลย
หนังสือเล่มนี้พบในปี 1912 โดยนักค้าหนังสือเก่าชาวอเมริกัน-รัสเซีย ชื่อนาย วิลฟริด เอ็ม. วอยนิช (Wilfrid M.Voynich) ขนาด 6 คุณ 9 นิ้ว หนา 11/2นิ้ว มีอยู่ 240 หน้า แต่บางหน้าขาดหายไป ปกสมุดทำจากหนังลูกวัวสีครีม ไม่มีการระบุชื่อผู้เขียน ชื่อเรื่องหรือปีที่เขียนใด ๆ ทั้งสิ้น
รายละเอียดมีทั้งภาพและอักษรในสมุดมีความเฉพาะตัวเขียนด้วยปากกาขนนกซึ่งทำให้ดูสง่างาม เป็นตัวอักษรที่ไม่เคยพบเห็นในที่ใด ๆ ในโลกมาก่อนและ แทบทุกหน้ามีวาดภาพประกอบ มีทั้ง พืชพันธุ์ แปลก ๆ ภาพผู้หญิงเปลือย เชื่อมด้วยท่อที่ดูคล้ายเส้นโลหิต มีภาพคล้ายแผนผังเกี่ยวกับดาราศาสตร์ ที่มองจากกล้องเทเลสโคป และภาพคล้ายเซลล์ สิ่งมีชีวิตที่มองผ่านกล้องจุลทรรศน์
การได้มาของหนังสือเล่มนี้
นายวอยนิช ได้มาจากอิตาลี และกลับไปอเมริกาเพื่อประกาศหาผู้เชี่ยวชาญมาดูเพื่อศึกษาและแปล อักขระ วันนี้ เกือบ 100 ปี ก็ยังไม่มีใครสามารถแปลความหมายของสมุดบันทึกเล่มนี้ได้แต่คำเดียว
สิ่งที่บอกได้คืออายุและแหล่งที่มาของสมุด จากการวิเคราะห์ลักษณะของภาพวาด เสื้อผ้า ทรงผมของรูปคน รูปปราสาท รวมถึงหนังสัตว์และสีที่ใช้ ภายในเล่ม สันนิษฐานว่า เขียนขึ้นโดยชาวยุโรป ราวศตวรรษที่ 15 หรือ ระหว่างปี 1450-1520
ภายในสมุดมีจดหมายสอดอยู่ เขียนด้วยภาษาลาติน วันที่ 19 สิงหาคม 1666 เป็นจดหมายที่ โจฮันส์ มาร์คุส มาร์ซี่ อดีตอธิการบดีของ มหาวิทยาลัยชาร์ลส์ แห่งกรุงปราก (ปัจจุบัน อยู่ในสาธารณรัฐเชค) เขียนถึง อธานาเซียส เคอร์เชอร์ นักวิชาการนิกายเจซูอิท แห่งวิทยาลัยโรมาโน ในกรุงโรม เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษา ผู้จัดทำ พจนานุกรมภาษาคอปติค (เป็นภาษาอียิปต์โบราณที่ใช้ในระหว่าง ปีค.ศ. 200-1100)
อนาธาเซีย เคอร์เชอร์
ภายในจดหมายมีใจความว่า “สมุดบันทึกที่ส่งมาด้วยนี้ จอร์จ บาเรช (Georg Baresch) เพื่อนสนิทได้มอบให้ข้าพเจ้าก่อนเสียชีวิต และเป็นผู้ซึ่งเคยได้ส่งสำเนาบางส่วนของสมุดเล่มนี้มาให้ท่านเพื่อลองศึกษาและแปลความหมายดูแล้ว แต่เวลานั้นท่านได้ขอให้ส่งสมุดทั้งเล่มมา แต่ บาเรช ได้ปฏิเสธ ทำให้เรื่องหายเงียบไปอย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้ายังมั่นใจว่าท่านจะสามารถแปลความหมายในสมุดบันทึกเล่มนี้ได้อย่างแน่นนอน...”
กษัตริย์รูดอล์ฟที่ 2
นอกจากนี้ในจดหมายได้เล่าว่าสมุดเล่มนี้เคยอยู่ในครอบครองของจักรพรรดิ รูดอล์ฟที่ 2 แห่งโบฮีเมีย ปี 1552-1612 ซึ่งซื้อมาด้วยเหรียญทองคำถึง 600 เหรียญ (เทียบเท่าทองคำที่น้ำหนักประมาณ 3.5 กิโลกรัมในปัจจุบัน)เพราะเชื่อว่าเป็นสมุดบันทึกของโรเจอร์ เบคอน (Roger bacon-พระโรมัน คาทอลิกชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียง ทั้ง ดาราศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ และ สาขาอื่น ๆ อีกมาก รวมทั้งเรื่องการแปรธาตุ เขามีชีวิตระหว่างปี 1214-1294) แต่มาร์ซีไม่มั่นใจ มีหลักฐานว่าในปี 1608 สมุดได้อยู่กับ เจโคบุส เดอ เทเพเนคซ์ (Jacobus de Tepenecz) ซึ่งเป็นแพทย์ส่วนพระองค์และเป็นผู้อำนวยการดูแลสวนสมุนไพรของจักรพรรดิรูดอล์ฟที่ 2 สันนิษฐานว่า พระองค์มอบให้เขาเพื่อศึกษา
หลังจากนั้น จนกระทั่ง เคอร์เชอร์ เสียชีวิต ในปี 1680 และถูกเก็บไว้ใน วิทยาโรมาโน (ปัจจุบันคือ Pontifical Gregorian University)
King Victor Emmanuel
1870 กษัตริย์ วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล ที่ 2 แห่งอิตาลี (King Victor Emmanuel) ได้ส่งกองทัพเข้ายึดกรุงโรมและรวมกรุงโรมเข้ากับรัฐพาพัล(Papal State) เป็นรัฐบาลใหม่ของอิตาลี เข้ายึดทรัพย์สินของโบสถ์และห้องสมุดของวิทยาลัยแห่งนี้ แต่ทางวิทยาลัยได้แอบขนย้ายหนังสือต่าง ๆ ในห้องไปเก็บไว้ห้องสมุดส่วนตัวของ พีทรัส เบคซ์(Petrus Beckx) ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะเจซูอิท และอธิการบดีของวิทยาลัยในขณะนั้น
ต่อมาห้องสมุดก็ย้ายไปอยู่ในวิลล่า มอนดรากอน ที่ฟราสคาติ (Villa Mondragone) ใกล้กรุงโรม
แต่ในปี 1912 ทางวิทยาลัยจำเป็นต้องแบ่งขายทรัพย์สินและหนังสือบางส่วนออกไป เนื่องจากขาดเงินหมุนเวียน และนายวอยนิช คือผู้ที่เข้ามารับซื้อไป
เมื่อนาย วอยนิชเสียชีวิตไป สมุดเล่มนี้ได้มีนักค้าหนังสือเก่าอีกคน ชื่อ ฮันส์ พี. เคราส์ (Hans P. Kraus) ซื้อในราคา 26,000 ดอลลาร์ และเขาตั้งราคาขายต่อ 160,000 ดอลลาร์ แต่ไม่มีใครซื้อ เขาจึงมอบสมุดเล่มนี้ให้กับ มหาวิทยาลัยเยล เก็บไว้
ความคิดเห็น