สายรุ้งเชื่อมรัก
สีที่แตกต่างกันระหว่างกันของสายรุ้ง กลับกลายเป็นสายรุ้งสีขาวอันบริสุทธิ์ ซึ่งได้เชื่อมคำว่าครอบครัวให้คงอยู่ต่อไป
ผู้เข้าชมรวม
280
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
แสงสีทองอร่ามกำลังสาดส่องกระทบบนแผ่นฟ้าสีขาวอันกว้างใหญ่ไกลสุดลูกหูลูกตา ดุจดังแสงสว่างที่คอยนำพาชีวิตของลูก ให้เดินไปสู่จุดมุ่งหมายอย่างสำเร็จ แสงสีชมพูอันเกิดจากคนสองคน ก่อเกิดเป็นความรัก ความอบอุ่น ที่ได้ถ่ายทอดมาสู่ลูก ความอบอุ่นของพ่อแม่ที่ได้ค่อยๆเรียงร้อย ทีละเล็กทีละน้อยตั้งแต่เด็กจนโต รักนั้นดุจดั่งดอกไม้สีขาว อันแสนบริสุทธิ์ที่กำลังผลิดอกแรกแย้ม กลับกลายเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของลูก มิอาจหาสิ่งใดมาเทียบเคียงความรักของพ่อแม่ได้
“ พ่อจ๋า หนูรักพ่อค่ะ แม่จ๋า หนูรักแม่
ค่ะ” เสียงจากหัวใจลูก ยังคงกึกก้องอยู่ภายในใจลูกเสมอมา
บ้านแห่งรักได้สร้างขึ้นภายในใจลูก ความอบอุ่น ได้คอยปกป้องและให้ความอุ่นใจแก่ลูกอยู่ตลอดเวลา
นานแสนนานบ้านแห่งรักถูกรายล้อมไว้ด้วยความอบอุ่น ที่พ่อและแม่ได้ถ่ายทอดออกมาเรื่อยๆ รักนี้ยังคงทำให้ลูกมีความสุข สุขที่ลูกรู้สึกได้อยู่ทุกเวลา ถึงจะเป็นช่วงเวลาที่หนาวเหน็บสักเพียงใด เสียงลูกยังคงดังขึ้นว่า “ หนูรู้สึกอบอุ่นจ๊ะ พ่อจ๋า แม่จ๋า”
เช้าวันหนึ่ง....ทุกคนในบ้านต่างพากันไปเดินเล่นรอบๆบ้าน พ่อกับแม่ยิ้มแย้มให้กันอย่างมีความสุข ยังคงมีเพียงเข็มนาฬิกาที่ยังคงหมุนไปตามเวลาเช่นเคย แต่บ้านหลังนี้กลับเริ่มมีปัญหาเกิดขึ้น ต่างฝ่ายก็กล่าวโทษซึ่งกันและกัน ไม่มีใครให้อภัยให้กันเลย มีเพียงสีหน้าของพ่อกับแม่เริ่มเปลี่ยนไปเป็นใบหน้าที่มีแต่ความเย็นชาเกิดขึ้น แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นกลับไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด ก่อเกิดเป็นก้อนเมฆก้อนเล็กเกิดขึ้นทันใด เมื่อไม่มีใครปรับความเข้าใจกันก็ทำให้ก้อนเมฆนั้นเพิ่มขนาดขึ้นเรื่อยๆ
วันเวลาผ่านไป บ้าน ก็กลับไม่เป็นบ้าน ก่อเกิดก้อนเมฆก้อนใหญ่ เข้าปกคลุมความสว่างและความอบอุ่นที่พ่อและแม่ได้ถ่ายทอดออกมา ความมืดเริ่มเข้ามาแทนที่ เสียงลูกร้องดังขึ้นด้วยความตกใจ “ พ่อจ๋า แม่จ๋า เกิดอะไรขึ้น” ไม่มีแม้แต่คำตอบที่ลูกอยากรู้ ในใจผู้เป็นลูกยังคงร้องดังด้วยความสะอื้นว่า “หนูกลัวเหลือเกิน พ่อจ๋า แม่จ๋า” น้ำตาเริ่มคลอภายในลูกตาทั้งสองของลูก น้ำนั้นกลับกลายเป็นสายเลือดแห่งความปวดร้าวที่ได้ไหลรินลงบนพื้น แต่กลับไม่ทำให้ต้นไม้บริเวณนั้นชุ่มชื้นขึ้น ต้นไม้เหล่านั้นกลับเหี่ยวเฉาอย่างน่าตกใจ
ความรัก ความอบอุ่นที่ลูกเคยสัมผัส เริ่มค่อยๆจางหายไป มีเพียงแต่สายลมแห่งความเย็นชาได้พัดผ่านเข้ามากระทบใจลูกอย่างช้าๆ ความหนาวเหน็บเข้าปกคลุมภายในบ้านแห่งรัก ใจลูกเริ่มหนาวสั่น ร่างกายนั้นเต็มไปด้วยบาดแผลเล็กๆทั่วร่างกาย อันก่อเกิดจากความหนาวเย็น เสียงลูกร้องดังด้วยเสียงสั่นว่า “ พ่อจ๋า แม่จ๋า หนูทรมานเหลือเกิน”
นานนับวันความไม่เข้าใจ เริ่มก่อตัวเป็นก้อนเมฆฝนที่พร้อมจะหลั่งน้ำฝนลงมาได้ทุกเมื่อ เมฆดำก้อนนั้นยังคงลอยและใหญ่ขึ้นเรื่อยๆกว่าที่เป็นอยู่ ลูกเริ่มรับรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นทำได้แต่ยืนมองเหตุการณ์นั้นดำเนินไปด้วยความปวดใจ ดุจดั่งมีเข็มพิษมาคอยทิ่มแทงลงที่หัวใจ หัวใจดวงน้อยๆนั้นกำลังเริ่มบอบช้ำขึ้นเรื่อยๆ มีเพียงร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลฝืนยืนด้วยความปรารถนาที่ไม่ให้พ่อแม่ทะเลาะกัน ซึ่ง กลับไม่สามารถช่วยให้ก้อนเมฆก้อนนั้นคลี่คลายและจางหายไปจากตัวบ้านได้เลย เมฆดำก้อนนั้นกำลังลอยตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ แล้วเริ่มเคลื่อนตัวมาบดบังความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว เวลาผ่านไปเมฆนั้นยิ่งหนักอึ้งไป ด้วยน้ำตาที่อัดอั้นอยู่ภายในใจลูกๆ มากขึ้นเรื่อยๆ แต่พ่อแม่มิอาจรับรู้ได้ว่าลูกกำลังเสียใจอยู่ น้ำตาที่อัดอั้นก่อเกิดเป็นน้ำฝนที่ตกลงภายในครอบครัว เม็ดฝนเหล่านั้นกลับเปรียบเสมือนมีดที่ตกมาเฉือนใจลูกเรื่อยๆ ระหว่างที่ฝนตกเกิดฟ้าแสบ ฟ้าผ่า เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ลูกเริ่มทรุดตัวลงด้วยเจ็บปวด เสียงลูกร้องดังขึ้นว่า “ พ่อจ๋า แม่จ๋า หยุดเถียงกัน หยุดทะเลาะกันเถอะนะ หนูทรมานเหลือเกิน” หลังจากนั้นลูกก็ล้มลงนอนราบกับพื้น ทันใดนั้น พ่อกับแม่ตกใจเมื่อเห็นลูกล้มลงไป จึงรีบมาอุ้มลูกขึ้น ทั้งสองมองดูร่างกายลูกที่บอบช้ำไปด้วยบาดแผลทั่วร่างกาย ความเจ็บช้ำที่ลูกรู้สึกได้จากการกระทำของคนทั้งสอง เสียงที่ลูกบอกยังคงกึกก้องอยู่ในใจคนทั้งสอง พ่อกับแม่เริ่มกอดกันพร้อมกับร่างของลูกที่นอนไร้สติ น้ำตาของคนทั้งสองเริ่มไหลรินลงบนร่างกายลูก บาดแผลนั้นเริ่มค่อยจางหายไป ความเสียใจกับเหตุการณ์นี้เริ่มเกิดขึ้น “ พ่อขอโทษ ยกโทษให้พ่อนะ..แม่ แม่ขอโทษ ยกโทษให้แม่นะ..พ่อ” ทั้งสองให้อภัยซึ่งกันและกัน จึงเริ่มทลายกำแพงที่ขวางกั้นหัวใจ ทั้งสองเริ่มปรับความเข้าใจกัน ความไม่เข้าใจที่เคยมีเริ่มจางหายไป ลูกรู้สึกตัวอีกครั้ง ร่างกายลูกนั้นอบอุ่นเหมือนเดิม ไม่มีซึ่งความเจ็บปวดอีกต่อไป พ่อแม่ รู้สึกดีใจ เมื่อเห็นลูกรู้สึกตัว พ่อกับแม่พูดด้วยเสียงดีใจว่า “ ลูก....พ่อขอโทษ ยกโทษให้พ่อนะ.... ลูก... แม่ขอโทษ ยกโทษให้แม่นะ..” ลูกได้แต่ยิ้ม น้ำตาเริ่มไหลรินบนแก้มของเด็กน้อย น้ำตานี้ได้ไหลลงบนพื้นบ้านแห่งหัวใจอีกครั้ง และได้ให้ความชุ่มชื้นกับต้นไม้ให้เติบโตแล้วออกดอกเบ่งบาน ส่งกลิ่นหอมให้คนในบ้านมีความสุขอีกครั้ง
หลังจากเมฆฝนก้อนนั้นได้นำพาน้ำที่หนักอึ้งตกลงมาหมดแล้ว เมฆนั้นก็เริ่มเคลื่อนตัวจางหายไปแล้ว บริเวณบ้านแห่งหัวใจก็เริ่มสว่างขึ้น พ่อและแม่หันหน้าเข้าหากัน พูดคุยกันด้วยความเข้าใจ นั่นคือภาพที่ลูกๆทุกคนอยากจะเห็น ภาพที่พ่อแม่มาปรับความเข้าใจกันให้ดีดั่งเดิม ดวงอาทิตย์นั้นก็ เริ่มทอแสงขึ้นให้ความอบอุ่นลูกดั่งเดิม ก่อเกิดเป็นสายรุ้งที่กำลังทอแสงพาดผ่านแสงอาทิตย์สีแดงอมเหลืองส่องเป็นประกาย อันสดใสในเวลาต่อมา สายรุ้งเริ่มปรากฏขึ้น หลังจากเมฆฝนได้ถูกความเข้าใจกันของพ่อกับแม่พัดผ่านไป ซึ่งเปรียบดั่งสะพานสีที่เชื่อมรักระหว่างกันขึ้นอีกครั้ง แสงจากสายรุ้งเชื่อมขึ้นจากความแตกต่างกัน กลับกลายเป็นแสงสว่างสีขาวอันบริสุทธิ์ นำพาชีวิตลูกต่อไป ความงดงามที่ลูกสัมผัสได้จากรักที่พ่อกับแม่เข้าใจกัน และรักกันเหมือนเดิม สายรุ้งที่พาดผ่านบ้านแห่งหัวใจนี้ เมื่อลูกมองขึ้นไปบนผืนแผ่นฟ้า สายรุ้งนี้ยังคงเชื่อมรักของคนในครอบครัวต่อไป
ครอบครัวจะเป็นดั่งสายรุ้งที่คอยเชื่อมรักระหว่างกันไว้ แม้บางครั้งจะมีปัญหาเกิดขึ้น ทำให้เราไม่เข้าใจกัน เราก็ควรหันหน้าคุยกันด้วยความรักและความเข้าใจกันดีกว่า
หันมามองถึงความรู้สึกของลูกบ้าง เพราะลูกๆทุกคนไม่ต้องการให้พ่อกับแม่ทะเลาะกัน
บางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการทะเลาะกันของพ่อกับแม่ อาจก่อเกิดเป็นภาพความแห่งความทรงจำอันโหดร้าย อาจจะถูกเก็บฝังลงบนในใจลูก กลับกลายดาบสองคมที่จะคอยทิ่มแทงลูกๆพวกเราต่อไป
ผลงานอื่นๆ ของ เพชรรัตน์ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ เพชรรัตน์
ความคิดเห็น