ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    #ประธานโหด ll kpop x you

    ลำดับตอนที่ #4 : #ประธานโหด : 03

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 369
      3
      22 ต.ค. 60

     

    ประธานโหด 03

     "คนนี้หรอ น้องของจองซูจอง"


                หลังจากที่ซูจองกับวอนอูรอรับอาหารเสร็จ พวกเขาทั้งสองก็เริ่มหาที่นั่งกัน ซูจองเลือกโต๊ะยาวโต๊ะหนึ่งที่น่าจะพอกับสภาคนอื่นที่จะตามมาด้วยมาทานด้วยกัน พวกเขาทั้งสองทานข้าวด้วยกันก่อน โดยที่เพื่อนๆในสภาคนอื่นๆก็เริ่มทยอยมานั่งแจมด้วย

     

                “วอนโฮ เดี๋ยวฉันว่าจะออกไปข้างนอกแปปนึงนะ ถ้ามาประชุมสายก็โทษทีนะ”ซูจองพูดกับวอนโฮ ในขณะที่ตัวของเขาเองก็กำลังทานข้าวอยู่ด้วยเช่นกัน ตอนนี้จำนวนคนที่มาร่วมทานข้าวกันก็มีบ๊อบบี้ มิโน วอนโฮ ส่วนพวกซึลกิหรือคนอื่นๆก็ยังไม่มาเพราะไม่แน่พวกเขาอาจจะเรียนอยู่

     

                ซูจองแนะนำวอนอูให้เพื่อนๆในสภาตัวเองอีกครั้ง ทำให้วอนอูที่แอบเงียบอยู่สักพักเริ่มสบายใจมากขึ้นหลังจากที่รู้ว่าเพื่อนในสภาคนอื่นๆที่รู้จักกับซูจองก็ไม่ได้โหด เป็นคนง่าย

     

                “อื้อ ตามสบาย ไหนๆก็วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์หนิ อย่าบอกนะว่าจะแอบไปเดทอะ - - ประธานเดี๋ยวนี้เหลวไหลจริงๆ คนเราหนอคนเรา”วอนโฮเริ่มยุที่จะแกล้งเธอ

     

                “ไปดงไปเดทอะไรเล่า! ยังไงก็เถอะ ฉันก็ฝากพาทัวร์ฝากอะไรให้วอนอูหน่อยนะ”

     

                “อื้อ โอเคๆไม่มีปัญหา แต่ก็รีบๆกลับมานะ เผื่อไอ้พวกที่อวดดีมันมาตีกันอีก ยิ่งถ้าพวกมันไม่เห็นเธอ มันคงได้ใจไปตีกันอีกแน่ๆ”

     

                “รู้แล้วน่า”เธอตอบตกลงเขาไปก่อนที่จะหันไปทานข้าวของตัวเองต่อให้เสร็จ และในที่สุดเธอก็ทานข้าวเสร็จ ซูจองหันไปสังเกตฝ่ายวอนอูว่าว่าตอนนี้เขาทานไปถึงไหนแล้ว แต่นั่นก็ทำให้รู้ว่าเขาก็ทานเสร็จมาสักพักแล้ว ซูจองชวนเขาไปเก็บจาน แล้วหลังจากที่เธอกับเขาเก็บจานกันเสร็จ ซูจองก็บอกเขาว่าจะพาไปร้านเบเกอรี่ร้านประจำของเธอหน่อย

     

                “ร้านที่นี่ขนมอร่อยมากนะ พี่เจ้าของร้านก็ใจดีด้วย ฉันอยากชวนนายมาที่นี่ก็เพราะเวลาที่นายหิว อยากหาของว่างทานละก็ ต้องขอแนะนำร้านนี้เลย”วอนอูมองซูจองที่กำลังสนุกกับการแนะนำร้านของเธอไป ก่อนที่จะพาเขาเข้าไปในร้าน เขาชอบนะ ที่เห็นเธอเป็นแบบนี้

     

                “จินอาออนนี่ ฉันมาหาพี่แหละ”ซูจองเรียกชื่อเจ้าของร้าน และในที่สุดก็มีคนเดินออกมาจากห้องเก็บของ แต่นั่นไม่ใช่พี่จินอา พี่สาวเจ้าของร้านคนนั้น แต่คนที่ออกมาก็คือจุนเฮว

     

                “พูดอะไรให้เทือนแบบนี้วะ จินอานูนาออกไปเอาของมาเพิ่ม มีอะไรจะซื้อก็รีบซื้อรีบๆจ่ายด้วย”อะไรของเขากัน ก่อนหน้านี้ก็คุยดีปกติกันอยู่เลย แล้วทำไมตอนนี้เขาถึงมาทำหน้าตูดใส่เธอ แถพูดเชิงไล่ด้วย เมนส์ไม่มารึไง

     

                จุนเฮวมองซูจองร่วมถึงวอนอูผู้ชายแปลกหน้าที่ยืนอยู่ข้างๆซูจองด้วย ความคิดแรกที่เขาผุดขึ้นมาบนหัวคืออะไรรู้มั้ย?..หมอนั่นคือใคร..เขามาอยู่กับเธอได้ไง..ทำไมต้องมาเวลานี้ เขาไม่รู้อะไรเหมือนกัน แต่มันหงุดหงิดอะ แม่ง หงุดหงิด แทบจะหยิบคุกกี้ข้างๆมาแดกให้เต็มปาก เฮอะ

     

                ซูจองมองหน้าพ่อค้าประจำร้าน(ชั่วคราว)ก่อนที่จะทำปากหงุมหงิมไปหลังจากที่โดนจุนเฮวพูดแบบนั้นใส่ เธอหยิบถาดก่อนที่จะหันไปเลือกขนมข้างๆ

     

                “วอนอู นายอยากเอาอะไรปะ ที่นี่อร่อยทุกอันเลยนะ ไม่ต้องเกรงใจนะ ฉันเลี้ยง สาเหตุที่มาเป็นไกด์ให้ทั้งวันไม่ได้”

     

                “โห ไม่เป็นไรหรอก ฉันก็เพิ่งอิ่มข้าวอยู่”

     

                “หย๊า จอน วอนอู กินคาวไม่กินหวานสันดานไพร่นะ งั้นเดี๋ยวฉันเลือกให้แล้วกัน”ซูจองไม่รีรอให้เขาปฏิเสธอะไรทั้งสิ้น เธอก็หันไปหยิบส่วนที่เป็นของวอนอูมาใส่ไว้ในถาดเรียบร้อยแล้ว


    ถึงแม้ซูจองพูดกับวอนอูสองคนแต่คนนอกอีกคนที่กำลังยืนหัวโด่อยู่ก็พยายามเงียหูฟังเหมือนกัน เหอะ ขอโทษที่ไม่ได้เป็นไกด์ให้ทั้งวัน พูดอะไรให้มันมีสาระกว่านี้สิ

     

    หลังจากที่พวกเขาเลือกกันเสร็จ(แต่เหมือนซูจองจะเลือกเองมากกว่า)พวกเขาก็ตรงไปยังเคาท์เตอร์ที่จุนเฮวยืนอยู่ ก่อนที่จะรอให้เขาเอาขนมจัดใส่ถุงให้ ระหว่างที่จุนเฮวทำไป หน้าเขาก็อย่างกับก้นลิงบาบู ใส่ขนมไปก็มองหน้าไอ้บุคคลที่ชื่อจอน วอนอูไปอย่างไม่คลาดสายตา จะคิดเงินก็จิ้มไปมองไป จิ้มผิดจิ้มถูกไม่รู้ แต่ก็ยังเสนอหน้าที่จะมองหน้าวอนอูต่อ ถึงแม้จะรู้ว่าคนที่เขากำลังมองอยู่ก็มองกลับมา

     

    “ทั้งหมด 7,500 วอน”

     

    “นายจ้องเขาไปเขาก็ไม่ท้องหรอกนะไอ้ขี้เก๊ก”ซูจองประชดเขาก่อนที่จะยื่นเงินให้เขาไป

     

    “เอาที่ประธานสบายใจเลยครับ ขอบคุณ”เขาทำหน้านิ่งก่อนที่จะส่งเงินทอนพร้อมกับถุงขนมให้เธอ”รีบๆเดินกันด้วยนะครับ ผมจะถูพื้น”

     

    เอ้ย ไอ้บ้านี่ เห็นเราเป็นแบคทีเรียหรืออะไร ทำไมต้องรีบไล่ขนาดนั้น เธอทำหน้ามองค้อนใส่เขาก่อนที่จะยอมเดินออกไปจากร้านแต่โดยดี

     

    “ดูเขาไม่ค่อยจะชอบฉันเลยนะ เขาเป็นแฟนเธอหรอ”และทันที่ที่คำๆนั้นออกมาจากปากวอนอู นั่นก็ถึงกับทำให้เธอแทบอยากจะดุดเท้าตัวเองเลยจริงๆ

     

    “โอ๊ยย ไม่มีทาง หมอนั่นเป็นหนึ่งในนักเรียกที่มีพฤติกรรมไม่ดีก็เท่านั้นแหละ โดนหักคะแนนบ่อย เข้าปกครองบ่อย มันก็เลยทำให้รู้จักกับผ่านเรื่องแบบนี้นี่แหละ แต่ยังไงก็เถอะ ฉันว่าอีกเดี๋ยวฉันก็ต้องไปแล้วล่ะ นายคงไม่ได้อึดอัดมากหรอกใช่มั้ยที่อยู่กับพวกบ๊อบบี้ ไม่ต้องห่วงนะ ระหว่างที่ฉันไม่อยู่ ฉันว่านายคงได้เพื่อนใหม่เป็นพวกเขาแน่นอน”

     

    “อื้อ ฉันโอเค ไม่มีปัญหา เธอก็รีบไปเถอะ เดี๋ยวจะสายเอานะ”

     

    “โอเค รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย อะ-อันนี้ส่วนของนาย”ซูจองยื่นถุงขนมอีกอันที่อยู่ในมือตัวเองมา ส่งให้วอนอูไป”ต้องรับนะ เพราะนี่นอกจากจะเป็นของขวัญขอโทษแล้ว ยังเป็นของขวัญที่เราได้เป็นเพื่อนกันอีกด้วย”เธอรีบยัดมัดลงไปบนมือเขา”ไปนะ”เธอลาเขาก่อน ก่อนที่จะวิ่งตรงไปยังต้นไม้ต้นใหญ่ที่เคยนัดให้จงอินมารอไว้

     

    ทันทีที่เธอวิ่งไปถึง สิ่งที่พบก็คือ จงอินที่กำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้พร้อมกับสุนัขของเขา แต่นั่นก็ทำให้เธอรู้สึกว่า สัตว์เลี้ยงของเขาอาจจะป่วยจริงๆเหมือนที่บอก แต่ยังไงก็ตาม กฎก็คือกฎถ้าไม่มีเหตุผลที่เหมาะสมละก็ ..โดนแน่นอน

     

    “ไปกันเถอะ จะได้ไม่เสียเวลา”เธอไม่รอเรียกเขา ก่อนที่จะเดินนำให้เขาเดินตามไป ส่วนจงอินเองก็เก็บลูกสุนัขของเขาไว้ในกระเป๋าเป้ตัวเองที่พกมาด้วย เพื่อไม่ให้ดูน่าสงสัย แล้วรีบเดินตามซูจองไป แต่ฉากนั้นดันไม่ใช่มีแค่พวกเขาสองคนนะสิที่รู้ ดันมีคนอีกคนหนึ่งที่แอบหลบดูพวกเขากันอยู่ใกล้ๆด้วย

     

    “ฉันจะไม่ยอมให้ใครแย่งเธอไปหรอก”..

     

     

     

     

    ตอนนี้ทั้งจงอินและซูจองก็ออกมาจากโรงเรียนกันแล้ว ตอนแรกลุงยามว่าจะไม่ปล่อยไปหลังจากที่เห็นจงอิน แต่ก็ต้องลอดมาได้อยู่ดี เพราะมีซูจองอยู่ด้วย พวกเขาตัดสินใจที่จะใช้รถจงอินเพื่อที่จะไปคลินิคสัตว์ และนั่นก็อยู่ใกล้ๆไม่ไกลจากที่นี่ด้วย

     

    เพราะรถของจงอินคือมอเตอร์ไซด์ใหญ่หรือที่เรียกกว่าบิ๊กไบค์ รถของเขาส่วนหลังคือจะดูสูงกว่ารถมอเตอร์ไซด์ปกติมาก ทันทีที่เธอนั่นไปคือ ถ้าไม่ตุงก็หล่นลงไปแผ่บนพื้นเรียบร้อยร้อยแล้ว จงอินเลยบอกให้เธอเกาะเขาไว้แน่นๆ

     

    และไม่กี่นาทีต่อมา พวกเขาก็ถึงคลินิกกัน ระหว่างรอคิวจงอินที่อุ้มเพื่อนของเขาอยู่ด้วยก็หันมาถามซูจองด้วยความสงสัย “ทำไมตอนแรกเธอถึงไม่จัดการฉัน ทันทีที่เห็นเจ้าหมอนี่”เขาชี้มาที่สุนัขของเขา “ปกติคือจะเอะอะโวยวายแล้วนี่”

     

    “ก็ตอนแรกฉันก็จะทำแบบนั้นนั่นแหละ ไม่ต้องคิดว่าฉันใจดีขึ้นมาหรอกนะ แต่เห็นว่าหมานายไม่สบายก็เลยอยากพิสูจน์ดูไง ปกติของฉันน่า”

     

    “ปกติก็ปกตินั่นแหละ แต่ฉันว่ามันมีบางอย่างที่ไม่ค่อยปกติวะ”จงอินคิดกับตัวเองคนเดียว

     

    “หมายเลข 65 คุณ คิม จงอิน ค่ะ เชิญเข้าที่ห้อง 3 เลยนะคะ”

     

     

     

    และในที่สุดครั้งนี้ก็ทำให้ซูจองรู้ว่า ครั้งนี้เขาไม่ได้โกหกจริงๆ สุนัขของเขาไม่สบายจริงๆด้วย หลังจากที่เธอรู้เธอก็ต้องเก็บมาคิดกับตัวเองใหญ่ เพราะมันก็จริงถ้าจะปล่อยให้ลูกหมาอยู่โดดเดี่ยวไปในบ้าน แล้วถ้าเกิดไปทานอะไรผิดสำแดงขึ้นมาก็คงแย่ใหญ่เลย แต่ตอนนี้ผอ.ก็ไปทัวร์ประเทศไทยอยู่ด้วย อาทิตย์หน้า เขาก็คงกลับ คิดไปคิดมาเธอก็เลยคิดว่าเธอจะยอมอนุญาตให้เขาเอามงกู(เพิ่งรู้เมื่อกี้ว่าชื่อหมาของเขาชื่อนี้)มาที่โรงเรียนสักพัก ..ทำไมเธอแลดูแม่ชีเหลือเกิน - -;;

     

    แต่เอาเถอะ เธอก็เลยตัดสินใจที่จะบอกจงอินไป แต่ก็ขอให้แอบๆบ้างเวลาอยู่กับเพื่อนของเขา เพราะบางคนันอาจจะมาก่อม็อปก็ได้ เขาขอบใจเธอก่อนที่จะพาเธอเดินมาที่ร้านไอศกรีมที่อยู่ไม่ห่างจากคลินิกที่นี่ไม่มาก

     

    พวกเขาสองคนตอนนี้ถึงแม้จะใส่ยูนิฟอร์มกันอยู่ทั้งคู่ แต่มันก็ไม่แปลกตาเลยเพราะตอนนี้รอบข้างของพวกเขาก็มีด้วยเหมือนกันทั้งมาจากโรงเรียนเดียวกัน และต่างโรงเรียน ที่จะมากันก็มากันเป็นคู่ส่วนใหญ่ตามประสาวันวาเลนไทน์ บางคนก็มากันเป็นกลุ่มเพื่อนเพราะอยากจะมาเปลี่ยนสภาพรอบข้าง

     

    “ฉันเคยมากินที่นี่ตอนที่ร้อนๆหรือหลังเลิกเรียนน่ะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว จะเลี้ยงประธานก็แล้วกัน”จงอินหันไปสั่งโดยที่ไม่คิดจะถามเธอสักนิดว่าเอาอะไร แต่ก็เอาเถอะ เธอก็ไม่สนอะไรมาก เพราะยังไงเธอก็ทานได้ทั้งนั้น เธอตามไปนั่งกับเขาโดยที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขา

     

    นั่งไปก็มองคนรบข้างไป อะไรมันจะขายดีแบบนั้น แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรสนใจมาก ที่น่าจะสนก็ 90% รอบข้างของจงอินและซูจองตอนนี้ เต็มไปด้วยการเป็นโรคไร้เรี่ยวแรงทันทีแบบชั่วคราว เพราะอะไรนะหรอ ก็ผลัดกันป้อนไปมากันอยู่นั่นแหละ ขอให้เจอขี้มูกคนขายทีเถอะ - -‘’

     

    และในที่สุด ออร์เดอร์ที่จงอินเพิ่งใส่ไปก็มาถึง ซูจองมองมันก่อนที่เธอเองแทบจะอุทานว่าโอ้โห คืออะไรมันจะดูดี ดูน่าทานขนาดนั้น รสชาติไม่ต้องพูดถึงอร่อยแน่นอนตามประชากรที่มาแย่งอากาศกันหายใจ คือมันดูดีน่าทานมาก มันแบบเชอร์เบทเลยแก โอ๊ย ;____;

     

     

     

     

                “ขอบคุณที่เลี้ยงไอศครีมวันนี้นะ แล้วก็หวังว่าเพื่อนของนายจะหายป่วยไวๆด้วย”ระหว่างที่จงอินกับซูจองกำลังจะเดินกลับเข้าไปในตึกโรงเรียนต่อ ซูจองก็เลยพูดกล่าวขอบคุณเขาตามมารยาท

     

                “อื้อ ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก ไปเถอะ เดี๋ยวเพื่อนเธออาจจะรอนาน”

     

                “ทำมาพูดดีด้วย ขอย้ำอีกรอบนะเว้ย ว่ายังไงก็ตามถ้าไม่จำเป็นอย่าพามงกูออกมาบ่อยๆนะ ส่วนนาย ขอเตือนไว้ว่า กรุณาเพลาเรื่องที่พยายามจะปั่นหัวพวกฉันด้วยนะ เหมือนจะไม่จำเลยใช่ไหมที่ทำโทษไป”

     

                อยู่กับจงอินแบบนี้ เขาก็ดูปกติดีหนิ อาจจะดีกว่าใครบางคนในห้องซะด้วยซ้ำ แต่ติดอยู่นิดเดียว ทำไมชอบหาเรื่องเข้าตัวเอง ชอบหาเรื่องป่วนให้ฝ่ายปกครองกัน

     

                “กฎมีไว้ต้องแหก ยิ่งมีประธานแบบนี้ยิ่งอยากแหกเข้าไปใหญ่เลย”

     

                “คงอีกนานกว่าจะเข้าใจกัน นายก็รีบๆไปที่ๆนายเคยอยู่เถอะ ฉันไปต้องไปก่อน”

     

                ซูจองรีบปัดบอกลาก่อนที่จะเดินกลับไปยังที่ห้องเรียนตัวเองเพื่อที่จะขึ้นไปเอาข้าวของ ของตัวเองที่พะรุงพะรังมากมายที่เกลื่อนอยู่ที่โต๊ะตัวเอง ตามด้วยไปประจำที่ในของสภาโรงเรียน ซึ่งเวลานี้ วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ สำหรับที่เชนไฮสคูลนั้น จะมอบอิสระให้นักเรียนตั้งแต่คาบเที่ยงเป็นต้นไป ทำให้ตอนนี้ตอนที่เธอขึ้นไปยังห้องเรียนประจำของเธอของนั้น

     

                มีบางส่วนที่เป็นส่วนใหญ่ ได้เอากระเป๋าของตัวเองเอาออกไปแล้ว แต่บางส่วนก็ยังคงอยู่ เช่น “โอ เซฮุน” ตอนที่เธอเข้าไปในห้องนั้น สำหรับตัวเธอแล้วเธอคิดว่าทำไมเซฮุนถึงดูแปลกๆดูเสงี่ยมแตกต่างจากตอนเช้า ที่ดูเฮฮาปกติดี เพียงเธอก้าวเข้าไปในห้องในตอนนั้น มันก็เป็นเวลาเดียวที่เซฮุนหันมาทางเธอพอดี

     

                ซูจองรีบเข้าไปหยิบสัมภาระของตัวเองทุกๆอย่างร่วมถึงของขวัญบ้าๆบอๆที่ได้จากเจ้าพวกด้วย ถ้าตาเธอไม่ฝาดไปเธอเหมือนจะสังเกตได้ว่าเหมือนเซฮุนอยากจะพูดอะไรสักอย่างกับเธอ แต่อยู่ดีๆเขาก็หันหน้ากลับไปทางกระดานเฉย ซูจองก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะก็ไม่ได้อยากจะยุ่งกับคนๆนี้อีกสักเท่าไหร่ เลยออกมาโดยที่ไม่ใส่ใจ

     

                ระหว่างที่ซูจองอยู่ข้างนอกห้องที่กำลังจะเดินเข้าไปในห้องสภา ฟังจากเสียงข้างในแล้วดูเหมือนจะเฮฮามาก มีเสียงวอนอูพูดหยอกเกี่ยวกับฟันกระต่ายของบ๊อบบี้ ล้ออะไรนู่นนี่กัน ต่อมาซูจองตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป ในภาพที่เธอเห็นคือภาพของ 2 ส่วน 4 ของคนในห้องตอนนี้หน้าตาแลดูเลอะเทอะกับสีลิปสติกสีแดงที่มีลวดลายอยู่บนหน้า

     

                ผู้ที่โชคร้ายในห้องนั้นมี ชางกยุน บ๊อบบี้ มิโน ..และไอ้รายชื่อที่ว่ามานั้น สภาพที่พวกมันเห็นหน้าของซูจอง พวกมันร้อนรนเหมือนรีบจะหาอะไรมาเช็ดกับลิปสติกสีแดงสดที่เลอะอยู่บนหน้า

     

                “ในรอบ 3 ปี กว่าจะเห็นสามผู้ในสภาพนี้นับว่าเป็นบุญตาจริงจริ๊ง”เธอพูดไปขำไปแล้วก็หันไปสังเกตวอนอูต่อ รายนั้นก็น่าขำไม่แพ้กัน มีการมัดจุกผมเล็กๆอยู่โดยที่ติดกิ๊บรูปโบว์สีชมพูหวานแต๋วจนขัน เสียดายที่ตอนนี้ไม่มีซึลกิ เห็นว่าต้องไปติวนอกเวลาให้น้องๆเกรด 10 แทนอาจารย์เลยไม่ได้อยู่ที่นี่

     

                “มาแบบนี้ แล้วต่อไปกูจะมีหน้าไปจีบมึงต่อได้ไงวะซูจอง”ชางกยุน

     

                “อย่ามาจับเล่นนะไอตี๋ ค้างตังค์อยู่ 400 ไม่ทวงก็ดีแค่ไหนละ”

     

                ซูจองตอบขำๆไปโดยที่ตัวเธอเองก็กำลังเอาของขวัญที่ได้มาเอาไปเก็บที่มุม มุมหนึ่งของห้อง

     

                “จากที่พวกประพฤติไม่ดีไม่ค่อยชอบหน้าเธอตอนแรก เดี๋ยวนี้ถึงมีขั้นเปลี่ยนใจมายันส่งของให้เลยหรอ สูตรอะไรขอหน่อยดิ ฮ่าๆ”มิโน

     

                “ตอนแรกที่ไม่รู้ว่าซูจองเป็นประธานนักเรียนนะ ฉันก็คิดว่าเธอจะเป็นพวกผู้หญิงที่ป๊อปมากในโรงเรียนซะอีก”วอนอูเสริม

     

                “ยัยนั่นถ้าไม่โหดเกินละก็ มันก็เป็นอย่างที่นายคิดนั่นแหละ แต่นิสัยยัยนี่มันต่างกันไง ฮ่าๆ”บ๊อบบี้ตอบ ก่อนที่จะเดินมาหาซูจองเอาแขนข้างหนึ่งมาพาดคอของเธอไว้ก่อนที่จะยีหัวเล่น

     

                “กินตีนไหมจีวอน”

     

                “เชี่ย เรียกชื่อจริงเอาซะธรรมมะเลย”และสีหน้าจากที่เฮฮาฟันเฉาะของเอาออกมาทักทายกับโลกภายนอก พอซูจองเรียกชื่อจริงบ๊อบบี้เท่านั้นใบหน้าของบ๊อบบี้ก็ดูเปลี่ยนไปทันที แต่นั่นก็ทำให้เรียกเสียงหัวเราะชุดใหญ่ออกมาดังไปเกือบทั่วไปทั้งชั้น

     

     

     

                Knock Knock

     

                หลังจากที่สิ้นเสียงหัวเราะที่ใช้พลังงานของทุกๆคนไปเกือบหมด ทำให้ตอนนี้ทุกๆคนห็ต้องกลับมาเงียบอีกครั้ง แต่เพียงไม่กี่นาทีต่อมา ก็มีเสียงเคาะประตูจากข้างนอก ซูจองที่พอจะเดาออกว่าเป็นใครเลยลุกขึ้นไปเปิดประตูเอง

     

                ทันทีที่เธอเปิดประตูออกไป มันก็เป็นไปอย่างที่คาดเอาไว้แล้วว่าต้องเป็นคนๆนี้แน่ๆ

     

                “กลับบ้านกันเถอะ”กีฮยอนส่งยิ้มกว้างมาให้คริสตัลทันทีหลังจากที่เจอเธอ

     

                “โอเคครับผม”ซูจองรีบตอบอย่างรวดเร็วก่อนที่จะหันไปบอกเพื่อนๆในห้องสภาก่อน “เอ่อ..งั้นตอนนี้พวกเรากลับกันเถอะ วันนี้ก็ไม่มีอะไร ปัญหาก็เหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนวอนอู นายกลับบ้านยังไงหรอ”

     

                “อ้อ ฉันบอกของบ๊อบบี้แล้วก็ไอเอ็มว่าจะไปที่เกมเซนเตอร์อะ”

     

                “โอเคเลย งั้นฉันฝากวอนอูด้วยนะ ฉันต้องกลับก่อน พอดีวันนี้อยู่กับไอ้แสบแค่สองคน ต้องไปทำอาหารให้มันทาน”

     

                “เออ ไปเถอะๆ เดี๋ยวเราปิดห้องให้เอง”

     

                “โอเค ไปก่อนนะทุกๆคน กลับบ้านดีๆนะ ขับรถก็ตั้งใจด้วย ไปละ”ซูจองโบกมือลาทุกๆคนในห้องโดยที่ไม่ลืมว่ามีของๆตนอยู่กองใหญ่ แม้จะลำบากในการถือหน่อยแต่ก็พอแบกได้ละนะ

     

                แต่ทันทีที่กีฮยอนเห็นของใหญ่โตที่อยู่ในมือของคซูจองนั้น เขาก็ถึงกับรีบช่วยหยิบของที่หนักๆมาไว้ที่เขาเอง “ช่วยนะ”

     

                “ขอบคุณค่ะ”ซูจองส่งยิ้มหวานให้เขา

     

                “หลายปีแล้วนะที่ไม่เห็นเราได้ถืออะไรแบบนี้ ตั้งแต่เกรดสิบแล้วเนอะ”

     

                “แหงแหละ ก็ฉันมันหน้านิ่งตลอดเวลาใครมันจะมีใครกล้าล่ะ ว่าแต่พี่เหอะ ปีนี้มีใครมาขอถ่ายรูปกี่คนเนี่ย”

     

                “อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลย นี่แอบไปหลบอยู่บนดาดฟ้าสักพัก แล้วค่อยลงมาอีกทีนึงอะ พี่เบื่อคนเยอะๆมันมึนหัวแปลกๆ”

     

                “แต่พี่ก็ห้ามให้สาวน้อยทั้งหลายเลิกปลื้มพี่ไม่ได้หรอกนะ”

     

                “อย่างที่เราบอกเลย ฮ่าๆ”

     

                ระหว่างเดินทางกลับบ้านไป ทั้งคู่ก็เดินคู่กันอย่างนี้เรื่อยเปื่อย บางทีก็มีหยอกล้อกันบ้างตามความสนิท ในซอยบ้านของทั้งคู่ บ้านซูจองจะถึงก่อนบ้านกีฮยอนประมาณหกเจ็ดหลังได้ กีฮยอนแวะเข้าไปส่งซูจองในบ้าน ก่อนที่ตัวเขาเองก็เดินตรงกลับไปยังบ้านของตัวเองต่อ

     

                “กลับมาแล้วโว้ย”ทันทีที่ซูจองกลับมา ตะโกนเอาทั่วบ้าน เสียงต่อมาก็จะเป็นเสียงวิ่งตึงตังของใครบางคน “วู้ววว หิวจนปวดจู๋แล้วซูจอง” เป็นเสียงของเจโฮป หรืออีกชื่อหนึ่งคือโฮซอก เขามาในท่าไลด์มากับราวบันได แทนที่ตนจะเดินให้เหมือนชาวบ้านนั้น

     

                แต่ซูจองก็ไม่ได้พูดไร เธอรีบเอาสัมภาระทุกอย่างไปกองอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขกที่อยู่กลางบ้าน และคนอย่างเจโฮปทันทีที่เห็นของพรรค์นี้อยู่ในมือพี่สาวที่แก่กว่าเพียงไม่กี่เดือกกับเขานั้นก็ต้องร้องโอ้โหออกมา

     

                “เธอไปทำมนต์ดำมากับใครทำไมถึงได้ของพวกนี้ซะเยอะเลยวะ”

     

                “ไอแสบ ถ้าอยากมีปากไว้ทานข้าวก็เงียบแล้วเอาของไปไว้ในห้องฉันซะ”

     

                “หยอกหน่อยทำเป็นอ่อนไหว อะโด่”เขาพูดทำน้ำเสียงน้อยใจพี่สาวของตัวเอง โดยที่มีการแจกท่าเบ้ปากก่อนไป เพียงตัวของเจโฮปคนเดียวนั้นมันก็โอบของทั้งหมดที่ตั้งอยู่ได้หมดแล้ว เขารีบยกก่อนที่จะเดินขึ้นบันได้สะบัดก้นซ้ายขวาไปมาตลอดทาง จนบางทีซูจองก็คิดว่าน้องชายของเธอมีฮอร์โมนส์ผู้หญิงมากกว่าผู้ชายหรือเปล่า

    -          - - - - - - - - - - - - - - -

    ตอนหน้ามีหนุ่มบุกบ้านจอง! และจะขอมอบพาร์ทให้โฮปจองเช่นกัน

    จำแค่นั้นพอ555555555555555555

    ช่วยคอมเม้นต์ให้หน่อยนะคะ ><


    ? cactus
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×