ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    『 Miss Karma,Krystal Jung 』#ฟิคคุณบอส

    ลำดับตอนที่ #3 : III l Breakfast or Lunch

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.ย. 59


     
    T
    B
     Episode : III

     

    09.00.

     

    Knock!! Knock!!!

     

    “จองซูจอง! เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะจองซูจอง!!” เสียงคนเคาะประตูกันเสียงตะโกนชื่อเจ้าของห้องเกิดขึ้นมาแล้วห้านาที ไม่มีใครนอกจากหัวหน้างาน “คิม จงอิน” อีกแล้ว เพราะยังไงต่อให้มันยากแค่ไหน ความเผด็จการของเขา ใช้ได้ทุกสถานการณ์เสมอ

     

    และที่เขามาคอยตะโกน เคาะไปมาเป็นเวลาห้านาทีแล้วก็ไม่พ้นสาเหตุไหน นั่นก็คือซูจองไม่ได้เข้ามาในบริษัทตามเวลาที่เขาบอกไว้เมื่อวาน เขาเลยตัดสินใจที่จะรีบไม่ตามตัวเธอแน่นอน ตามที่อยู่ที่ฮันซลส่งมาเมื่อวาน แย่หน่อยที่ไม่รู้ว่าเลขห้องเบอร์อะไร เขาเลยต้องใช้อำนาจเผด็จการ ถาม ชัดแม่น้ำทั้งห้ามา จนในที่สุดก็รู้ว่าอยู่ห้องไหน

     

    แค่การหาห้องก็ทำให้เขาโมโหจะได้อยู่แล้ว แต่พอมาดูตอนนี้การที่เขามาคอยเคาะประตูเรียกเธอมาจวนจะ 10 นีแล้วมันคืออะไร กริ่งก็กดไปพราง ชื่อก็เรียกไปจนคล้ายจะเพลียไปอีก เพราะยังไม่ได้ทานข้าวเช้า ตอนนี้คือเขาโทษทุกอย่างแก่ซูจองแล้ว

     

     

    …..

     

     

    09.15.

     

    กับการที่นอนแล้วตื่นขึ้นมาในพื้นแผ่นดินของโซลอีกครั้งมันคือสิ่งที่น่าประทับใจสำหรับฉันอีกครั้ง และเตียมนุ่มๆที่ผลิตมาอย่างพิเศษอย่างกับเตียงนี้ในเบาะมันคือน้ำ เวลาแบบนี้ยังไม่อยากตื่นหรอก แต่เพราะมีคนมาเคาะประตูหน้าห้องน่ะสิ น่ารำคาญชะมัดเลย ทั้งกดกริ่ง เรียกชื่อ เคาะประตู

     

    ทำไมวะโว้ย ทำไมชอบทำบรรยากาศดีๆวันที่สองที่มาเยือนโซลด้วย !

     

    ฉันหัวร้อนนิดหน่อยเพราะคนหน้าห้องยังคงไม่หยุดมือ ฉันรีบลุกขึ้นจากเตียงก่อนที่จะรีบจะเปิดประตูทันที แน่นอนเปิดแล้วไม่ใช่เปิดธรรมดา ..จะด่าด้วย!

     

    “มาแล้วๆ What da …SHIT!!” ทันทีที่เปิดประตูไปฉันก็เผชิญหน้ากับจงอิน หัวหน้างานฉันเมื่อวานนี้ และทันทีที่เห็นหน้าเขา คำพูดที่เขานัดให้ไปที่ทำงานตอนเช้าก็ผุดขึ้นมาทันที..

     

    “การปล่อยให้เจ้านายรอสิบนาทีกว่ามันคืออะไร ทำไมเธอถึงไม่มาตามที่บอกไว้ .. หรือว่ากลับมาที่นี่แล้วเห่อเหรอ พาผู้ชายเข้าห้องจนลืมงานไปเลย..”ประโยคของเขาถูดตัดโดยฉัน

     

    “ไอ้จงอินบ้า!! ไม่ใช่ว่าแม่ฉันยกให้แล้วจะทำตามใจได้นะ ฉันได้ยินไหมว่าเหนื่อย นาฬิกาก็ตั้งปลุกแล้วแต่มันไม่ได้ยิน เมื่อวานฉันกลับมาช่วงบ่าย ต้องมามีเรื่องกับนาย นายว่าฉันไม่เหนื่อยหรอ แล้วฉันจะพาใครมาก็ไม่ใช่อะไรของนายด้วย!!

     

    “ฉันเป็นเจ้านายเธอ ฉันมีสิทธิ์ถามเธอทุกอย่าง และเธอก็ต้องตอบด้วย!

     

    “แต่ถ้าเป็นเวลานอกสถานที่ กนายก็ไม่มีสถานะเป็นเจ้านายอีกแล้ว ตอนนี้นายมันก็แค่ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่ง พอๆกับฉันนั่นแหละ!

     

    “เออ! ผู้ชายธรรมดาๆที่ว่านี่แหละจะจับเธอปล้ำโยนลงเตียงแน่ๆถ้าเกิดเธอยังไม่หาเสื้อมาทับ เธอก็น่าจะรู้นะว่าฉันเป็นคนตื่นกับเรื่องแบบนี้”

     

    เชี่ย! ลืมไปเลยว่าตอนนี้ชุดนอนในสภาพของคนไม่ได้นอนมา คือเวลาฉันนอนคนเดียวฉันจะชอบใส่อะไรสั้นๆบางๆเพราะฉันเป็นคนร้อนง่าย พอโดนหมอนั่นสังเกตขึ้นมาแล้วมันเจ็บใจชะมัดเลย ฉันรีบวิ่งกลับไปในห้องตัวเองเพื่อไปเปลี่ยนชุด แล้วมาในสภาพกางเกงขอสั้นกับเสื้อฮู้ดแขนสั้นแทน

     

    “ตามจริงเธอไม่ต้องเปลี่ยนก็ได้นะ ฉันชอบ : ) ของนี่ มันเปลี่ยนไปได้ตามเวลาจริงๆ”

     

    “อย่ามาพูดจาจกเปตรใส่ฉันซะให้มากไปเลย ฉันไม่ยอมให้นายแกล้งอีกต่อไปแล้ว”

     

    “ไม่แกล้งอยู่แล้ว แต่จะเอาแทนแบบนี้น่าจะโอเคเนาะ” จากที่หน้าตานิ่งๆทำหน้ากวนตีนใส่เขา ตอนนี้ฉันกลับจ้องเขม็งใส่เขาเต็มๆเลย

     

    “ฉันว่านายเล่นมากเกินไปแล้ว จะมาด่ากับมาป่วนแค่นี้ใช่ไหม ตอนนี้ก็กลับไปเถอะ ยังไงวันจันทร์ฉันรับรองว่าไม่สายแน่นอน”

     

    “มันก็มีส่วน แต่มันก็มีอีกหลายสาเหตุ ฉันมาเจอเธอที่นี่ในฐานะเจ้านายเยี่ยมลูกน้อง มาเยี่ยมบ้านคนที่เคยแอบหลงใหลฉันหัวปักจนยกไม่ขึ้น อะไรประมาณนี้”

     

    “แต่คนที่เคยแอบหลงใหลนายก็ได้เลิกความคิดนั้นไปแล้ว..แย่จังเลยเนอะ”

     

    “เอาเถอะ ยังไงเธอก็ต้องกลับมาชอบฉันอีกแน่ๆ ยังไงซะแสดงความเป็นภรรยาที่ดีให้ว่าที่สามีดูหน่อยสิ ฉันยังไม่ได้ทานข้าวเช้าเลย”เขาไม่สนใจอะไรฉันอีกแล้ว เพราะตอนนี้เขาเดินหนีฉันก่อนที่จะเข้าไปนั่งบนเก้าอี้ที่เป็นเคาท์เตอร์ติดกันเป็นจุดเดียวกับห้องครัว

     

    ฉันเดินตามเข้าไปในครัว โดยที่ไม่บ่น ว่า ด่าอะไรเลย หรือเถียงอะไรเขาสักนิด

     

    “ฉันก็ไม่ได้จะทำอะไรเอาใจนายหรอกนะ แค่ที่จะทำให้เพราะสงสารที่เรียกชื่อและรอมาด่าฉันตั้งแต่หกเจ็ดโมง แต่ฉันก็ไม่ยอมเสนอหน้าไปที่บริษัทจนได้ ทำให้กินแล้วก็รีบๆกลับด้วย”

     

    เขามองฉันไม่พูดอะไร ก็ได้แต่ยิ้มให้อย่างเดียว ก็นะ ยอมสงบศึกก่อนสักแปปก็ได้ เพราะฉันดันยิ้มกลับไปให้เขาจนได้

     

    “อย่ามายิ้มแบบนั้นนะ มันไม่ใช่ตัวของนายเลย”ฉันพูดหยอกเขาไป แล้วก็ทำอาหารไปพลางๆด้วย”อ้อ มีเครื่องดื่มนะ ถ้าอยากกินไรก็ไปเอาได้ ตอนทำอาหารฉันไม่อยากกเห็นหน้านายตลอดเวลาหรอกนะ” แต่เขาก็ยังคงนิ่งไม่ยอมไปไหน ฉันไม่รู้จะไล่ยังไงให้เขาไปแล้วก็ได้แต่ปล่อยไปตามเดิม

     

    “นี่ก็สิบโมงกว่าแล้ว ก็ทานเผื่อเที่ยงไปเลยนะ ฉันทำเสร็จคงยี่สิบกว่านาที”

     

    “เอาน่า ได้หมดนั่นแหละ”

     

    ฉันไม่สนอะไรเขาแล้วเลยตั้งใจทำอาหารอย่างเดียวเลย ฉันทำสปาเก็ตตี้ผัดขี้เมาทะเลง่ายๆ กับไก่ทอดที่หมักค้างไว้เมื่อคืนแต่ลืมทอดเลยเอามาทอดซะตอนนี้เลย ผ่านไปราวๆยี่สิบกว่านาทีฉันก็เอาสปาเก็ตตี้ใส่จานของฉันกับของเขามาด้วย รวมถึงเสริ์ฟถึงโต๊ะอีกตามเคย เพราะเขาขี้เกียจไม่ยอมลุกเอง ฉันก็นั่งตรงข้ามกับเขาโดยที่มีจานของฉันด้วย และของว่างก็คือไก่ทอด และตามมารยาทเจ้าบ้าน น้ำกับแก้วน้ำฉันก็ต้องหยิบให้เองตามเคย สรุป เขาไม่แตะอะไรสักอย่าง

     

    “เธออยู่ที่ฮาวาย เธอทำงานอะไรน่ะ”ทันทีที่เราเริ่มทานเขาก็พาฉันคุยไปเรื่อย

     

    “ก็ทำงานแบบที่ทำประจำก็เหมือนจะเป็นพวกนักออกแบบอะนะ บางทีก็ไปเป็นออแกไนซ์ให้ที่บริษัทบ้าง เป็นล่ามให้ตอนที่ไปตามประเทศงี้”

     

    “เธอทำได้หลายอย่างนะ อย่างงี้เงินเดือนก็ดีน่ะสิ”

     

    “ก็ตามนั้นแหละ แต่บริษัทที่ฉันอยู่แทบจะไม่มีอายุใครทิ้งห่างกันเลยนะ ไล่เลี่ยกันหมด เวลาเราแนะอะไรมันก็เลยคุยกันได้ง่าย”

     

    “งั้นแล้วทำไมถึงมาช่วยงานที่นี่ล่ะ”

     

    “ก็รู้ๆกับว่าครอบครัวขอให้มาช่วยยังไงเล่า ถ้ารู้ว่าคนนั้นเป็นนายที่จะต้องมาช่วยงานล่ะก็ ฉันก็ไม่พักงานมาหรอก”

     

    “ฉันแย่มากเลยรึไง ทำไมถึงไม่ชอบฉันขนาดนั้น”

     

    “ถามมากทำไมซ้ำๆก็รู้ๆกันอยู่ เงียบซะแล้วกินไก่ไปเลย”ฉันหยิบไก่ในจานเข้าไปยัดปาก จากนั้นเราสองคนก็เงียบอีกครั้ง ได้แต่กินไก่ไปเรื่อย

     

    “ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอทอดไก่มาเพราะรู้ว่าฉันชอบมันหรือบังเอิญก็ตาม แต่มันก็อร่อยดี”

     

    “ไม่ต้องมาชม มาคุยดีกับฉันหรอกนะ เดี๋ยวยังไงนายก็ต้องมาว่า”ยังพูดไม่จบ เสียงคนกดกริ่งหน้าห้องก็มาอีกแล้วจนได้ และในที่สุดเสียงของคนกดกริ่งก็ตามมา

     

    “ตู้หู้ว ซูจองที่รักทายซิใครมา~~~~~~”ชานยอล

     

    “สี่สหายสิบน้ำไม่เปื่อย  นาอึน ซูจี ซอลลี่ ชานยอล ของเธอไงงงง!!”ซอลลี่ นาอึน ซูจี

     

    เอาแล้วไงพวกบ้า มาผิดเวลาแล้วไง ทำไมมันต้องเป็นวันนี้!! - - !

     

    “เปิดประตูเซ่~ ถึงพวกเราจะไม่ใช่ อิม แจบอมของ ชิน โฮซอก นัม แฮยอน เธอ หรือ อิม ชางกยุน หรืออีกสารพัดร้อยหนุ่มของเธอก็ตามัน่นแหละ แต่เราก็สำคัญกว่าพวกนั้นนะโว้ย”

     

    เอาแล้วไงร่ายชื่อแฟนเก่ากันแล้วไง

     

    “ให้ทายไหม อิมๆไรนั่น ผู้ชายของเธอหมดเลย”

     

    “ก็แล้วจะทำไมเล่า! ฉันจะเคยคบใครก็เรื่องของฉันน่า”

     

    “ไม่รู้ อยู่ดีๆก็เกลียดชื่อพวกมัน”

     

     

    อย่าห่วงว่าเขาจะพูดดีกันเลยนับต่อจากนี้

    เราขอให้พวกคุณคิดว่านี่คือการเริ่มต้นของคำว่า

    เจ้านายเอาแต่ใจ Upgrade to เจ้านายยิ่งกว่าเอาแต่ใจ

    -          ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์ค่ะ –

    #fickkarma

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×