คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : III l Breakfast or Lunch
09.00 น .
Knock!! Knock!!!
“จองซูจอง!
เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะจองซูจอง!!” เสียงคนเคาะประตูกันเสียงตะโกนชื่อเจ้าของห้องเกิดขึ้นมาแล้วห้านาที
ไม่มีใครนอกจากหัวหน้างาน “คิม จงอิน” อีกแล้ว เพราะยังไงต่อให้มันยากแค่ไหน
ความเผด็จการของเขา ใช้ได้ทุกสถานการณ์เสมอ
และที่เขามาคอยตะโกน
เคาะไปมาเป็นเวลาห้านาทีแล้วก็ไม่พ้นสาเหตุไหน
นั่นก็คือซูจองไม่ได้เข้ามาในบริษัทตามเวลาที่เขาบอกไว้เมื่อวาน
เขาเลยตัดสินใจที่จะรีบไม่ตามตัวเธอแน่นอน ตามที่อยู่ที่ฮันซลส่งมาเมื่อวาน
แย่หน่อยที่ไม่รู้ว่าเลขห้องเบอร์อะไร เขาเลยต้องใช้อำนาจเผด็จการ ถาม
ชัดแม่น้ำทั้งห้ามา จนในที่สุดก็รู้ว่าอยู่ห้องไหน
แค่การหาห้องก็ทำให้เขาโมโหจะได้อยู่แล้ว
แต่พอมาดูตอนนี้การที่เขามาคอยเคาะประตูเรียกเธอมาจวนจะ 10 นีแล้วมันคืออะไร
กริ่งก็กดไปพราง ชื่อก็เรียกไปจนคล้ายจะเพลียไปอีก เพราะยังไม่ได้ทานข้าวเช้า ตอนนี้คือเขาโทษทุกอย่างแก่ซูจองแล้ว
…..
09.15 น.
กับการที่นอนแล้วตื่นขึ้นมาในพื้นแผ่นดินของโซลอีกครั้งมันคือสิ่งที่น่าประทับใจสำหรับฉันอีกครั้ง
และเตียมนุ่มๆที่ผลิตมาอย่างพิเศษอย่างกับเตียงนี้ในเบาะมันคือน้ำ
เวลาแบบนี้ยังไม่อยากตื่นหรอก แต่เพราะมีคนมาเคาะประตูหน้าห้องน่ะสิ
น่ารำคาญชะมัดเลย ทั้งกดกริ่ง เรียกชื่อ เคาะประตู
ทำไมวะโว้ย
ทำไมชอบทำบรรยากาศดีๆวันที่สองที่มาเยือนโซลด้วย !
ฉันหัวร้อนนิดหน่อยเพราะคนหน้าห้องยังคงไม่หยุดมือ
ฉันรีบลุกขึ้นจากเตียงก่อนที่จะรีบจะเปิดประตูทันที
แน่นอนเปิดแล้วไม่ใช่เปิดธรรมดา ..จะด่าด้วย!
“มาแล้วๆ What da …SHIT!!” ทันทีที่เปิดประตูไปฉันก็เผชิญหน้ากับจงอิน หัวหน้างานฉันเมื่อวานนี้
และทันทีที่เห็นหน้าเขา คำพูดที่เขานัดให้ไปที่ทำงานตอนเช้าก็ผุดขึ้นมาทันที..
“การปล่อยให้เจ้านายรอสิบนาทีกว่ามันคืออะไร
ทำไมเธอถึงไม่มาตามที่บอกไว้ .. หรือว่ากลับมาที่นี่แล้วเห่อเหรอ
พาผู้ชายเข้าห้องจนลืมงานไปเลย..”ประโยคของเขาถูดตัดโดยฉัน
“ไอ้จงอินบ้า!!
ไม่ใช่ว่าแม่ฉันยกให้แล้วจะทำตามใจได้นะ ฉันได้ยินไหมว่าเหนื่อย
นาฬิกาก็ตั้งปลุกแล้วแต่มันไม่ได้ยิน เมื่อวานฉันกลับมาช่วงบ่าย
ต้องมามีเรื่องกับนาย นายว่าฉันไม่เหนื่อยหรอ
แล้วฉันจะพาใครมาก็ไม่ใช่อะไรของนายด้วย!!”
“ฉันเป็นเจ้านายเธอ ฉันมีสิทธิ์ถามเธอทุกอย่าง
และเธอก็ต้องตอบด้วย!”
“แต่ถ้าเป็นเวลานอกสถานที่
กนายก็ไม่มีสถานะเป็นเจ้านายอีกแล้ว ตอนนี้นายมันก็แค่ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่ง
พอๆกับฉันนั่นแหละ!”
“เออ!
ผู้ชายธรรมดาๆที่ว่านี่แหละจะจับเธอปล้ำโยนลงเตียงแน่ๆถ้าเกิดเธอยังไม่หาเสื้อมาทับ
เธอก็น่าจะรู้นะว่าฉันเป็นคนตื่นกับเรื่องแบบนี้”
เชี่ย!
ลืมไปเลยว่าตอนนี้ชุดนอนในสภาพของคนไม่ได้นอนมา คือเวลาฉันนอนคนเดียวฉันจะชอบใส่อะไรสั้นๆบางๆเพราะฉันเป็นคนร้อนง่าย
พอโดนหมอนั่นสังเกตขึ้นมาแล้วมันเจ็บใจชะมัดเลย ฉันรีบวิ่งกลับไปในห้องตัวเองเพื่อไปเปลี่ยนชุด
แล้วมาในสภาพกางเกงขอสั้นกับเสื้อฮู้ดแขนสั้นแทน
“ตามจริงเธอไม่ต้องเปลี่ยนก็ได้นะ
ฉันชอบ : ) ของนี่
มันเปลี่ยนไปได้ตามเวลาจริงๆ”
“อย่ามาพูดจาจกเปตรใส่ฉันซะให้มากไปเลย
ฉันไม่ยอมให้นายแกล้งอีกต่อไปแล้ว”
“ไม่แกล้งอยู่แล้ว
แต่จะเอาแทนแบบนี้น่าจะโอเคเนาะ” จากที่หน้าตานิ่งๆทำหน้ากวนตีนใส่เขา ตอนนี้ฉันกลับจ้องเขม็งใส่เขาเต็มๆเลย
“ฉันว่านายเล่นมากเกินไปแล้ว
จะมาด่ากับมาป่วนแค่นี้ใช่ไหม ตอนนี้ก็กลับไปเถอะ
ยังไงวันจันทร์ฉันรับรองว่าไม่สายแน่นอน”
“มันก็มีส่วน
แต่มันก็มีอีกหลายสาเหตุ ฉันมาเจอเธอที่นี่ในฐานะเจ้านายเยี่ยมลูกน้อง มาเยี่ยมบ้านคนที่เคยแอบหลงใหลฉันหัวปักจนยกไม่ขึ้น
อะไรประมาณนี้”
“แต่คนที่เคยแอบหลงใหลนายก็ได้เลิกความคิดนั้นไปแล้ว..แย่จังเลยเนอะ”
“เอาเถอะ
ยังไงเธอก็ต้องกลับมาชอบฉันอีกแน่ๆ
ยังไงซะแสดงความเป็นภรรยาที่ดีให้ว่าที่สามีดูหน่อยสิ ฉันยังไม่ได้ทานข้าวเช้าเลย”เขาไม่สนใจอะไรฉันอีกแล้ว
เพราะตอนนี้เขาเดินหนีฉันก่อนที่จะเข้าไปนั่งบนเก้าอี้ที่เป็นเคาท์เตอร์ติดกันเป็นจุดเดียวกับห้องครัว
ฉันเดินตามเข้าไปในครัว โดยที่ไม่บ่น
ว่า ด่าอะไรเลย หรือเถียงอะไรเขาสักนิด
“ฉันก็ไม่ได้จะทำอะไรเอาใจนายหรอกนะ
แค่ที่จะทำให้เพราะสงสารที่เรียกชื่อและรอมาด่าฉันตั้งแต่หกเจ็ดโมง แต่ฉันก็ไม่ยอมเสนอหน้าไปที่บริษัทจนได้
ทำให้กินแล้วก็รีบๆกลับด้วย”
เขามองฉันไม่พูดอะไร
ก็ได้แต่ยิ้มให้อย่างเดียว ก็นะ ยอมสงบศึกก่อนสักแปปก็ได้
เพราะฉันดันยิ้มกลับไปให้เขาจนได้
“อย่ามายิ้มแบบนั้นนะ
มันไม่ใช่ตัวของนายเลย”ฉันพูดหยอกเขาไป แล้วก็ทำอาหารไปพลางๆด้วย”อ้อ
มีเครื่องดื่มนะ ถ้าอยากกินไรก็ไปเอาได้
ตอนทำอาหารฉันไม่อยากกเห็นหน้านายตลอดเวลาหรอกนะ” แต่เขาก็ยังคงนิ่งไม่ยอมไปไหน
ฉันไม่รู้จะไล่ยังไงให้เขาไปแล้วก็ได้แต่ปล่อยไปตามเดิม
“นี่ก็สิบโมงกว่าแล้ว
ก็ทานเผื่อเที่ยงไปเลยนะ ฉันทำเสร็จคงยี่สิบกว่านาที”
“เอาน่า ได้หมดนั่นแหละ”
ฉันไม่สนอะไรเขาแล้วเลยตั้งใจทำอาหารอย่างเดียวเลย
ฉันทำสปาเก็ตตี้ผัดขี้เมาทะเลง่ายๆ
กับไก่ทอดที่หมักค้างไว้เมื่อคืนแต่ลืมทอดเลยเอามาทอดซะตอนนี้เลย ผ่านไปราวๆยี่สิบกว่านาทีฉันก็เอาสปาเก็ตตี้ใส่จานของฉันกับของเขามาด้วย
รวมถึงเสริ์ฟถึงโต๊ะอีกตามเคย เพราะเขาขี้เกียจไม่ยอมลุกเอง
ฉันก็นั่งตรงข้ามกับเขาโดยที่มีจานของฉันด้วย และของว่างก็คือไก่ทอด
และตามมารยาทเจ้าบ้าน น้ำกับแก้วน้ำฉันก็ต้องหยิบให้เองตามเคย สรุป
เขาไม่แตะอะไรสักอย่าง
“เธออยู่ที่ฮาวาย เธอทำงานอะไรน่ะ”ทันทีที่เราเริ่มทานเขาก็พาฉันคุยไปเรื่อย
“ก็ทำงานแบบที่ทำประจำก็เหมือนจะเป็นพวกนักออกแบบอะนะ
บางทีก็ไปเป็นออแกไนซ์ให้ที่บริษัทบ้าง เป็นล่ามให้ตอนที่ไปตามประเทศงี้”
“เธอทำได้หลายอย่างนะ
อย่างงี้เงินเดือนก็ดีน่ะสิ”
“ก็ตามนั้นแหละ แต่บริษัทที่ฉันอยู่แทบจะไม่มีอายุใครทิ้งห่างกันเลยนะ
ไล่เลี่ยกันหมด เวลาเราแนะอะไรมันก็เลยคุยกันได้ง่าย”
“งั้นแล้วทำไมถึงมาช่วยงานที่นี่ล่ะ”
“ก็รู้ๆกับว่าครอบครัวขอให้มาช่วยยังไงเล่า
ถ้ารู้ว่าคนนั้นเป็นนายที่จะต้องมาช่วยงานล่ะก็ ฉันก็ไม่พักงานมาหรอก”
“ฉันแย่มากเลยรึไง ทำไมถึงไม่ชอบฉันขนาดนั้น”
“ถามมากทำไมซ้ำๆก็รู้ๆกันอยู่
เงียบซะแล้วกินไก่ไปเลย”ฉันหยิบไก่ในจานเข้าไปยัดปาก
จากนั้นเราสองคนก็เงียบอีกครั้ง ได้แต่กินไก่ไปเรื่อย
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอทอดไก่มาเพราะรู้ว่าฉันชอบมันหรือบังเอิญก็ตาม
แต่มันก็อร่อยดี”
“ไม่ต้องมาชม มาคุยดีกับฉันหรอกนะ
เดี๋ยวยังไงนายก็ต้องมาว่า…”ยังพูดไม่จบ เสียงคนกดกริ่งหน้าห้องก็มาอีกแล้วจนได้
และในที่สุดเสียงของคนกดกริ่งก็ตามมา
“ตู้หู้ว ซูจองที่รักทายซิใครมา~~~~~~”ชานยอล
“สี่สหายสิบน้ำไม่เปื่อย นาอึน ซูจี ซอลลี่ ชานยอล ของเธอไงงงง!!”ซอลลี่ นาอึน ซูจี
เอาแล้วไงพวกบ้า มาผิดเวลาแล้วไง
ทำไมมันต้องเป็นวันนี้!! - - !
“เปิดประตูเซ่~ ถึงพวกเราจะไม่ใช่
อิม แจบอมของ ชิน โฮซอก นัม แฮยอน เธอ หรือ อิม ชางกยุน หรืออีกสารพัดร้อยหนุ่มของเธอก็ตามัน่นแหละ
แต่เราก็สำคัญกว่าพวกนั้นนะโว้ย”
เอาแล้วไงร่ายชื่อแฟนเก่ากันแล้วไง
“ให้ทายไหม อิมๆไรนั่น ผู้ชายของเธอหมดเลย”
“ก็แล้วจะทำไมเล่า! ฉันจะเคยคบใครก็เรื่องของฉันน่า”
“ไม่รู้ อยู่ดีๆก็เกลียดชื่อพวกมัน”
อย่าห่วงว่าเขาจะพูดดีกันเลยนับต่อจากนี้
เราขอให้พวกคุณคิดว่านี่คือการเริ่มต้นของคำว่า
เจ้านายเอาแต่ใจ Upgrade to เจ้านายยิ่งกว่าเอาแต่ใจ
-
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์ค่ะ –
#fickkarma
ความคิดเห็น