คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : II l Independent
Episode : ll
“ตามจริงไม่ต้องชวนผมมาก็ได้นะครับ วันนี้คุณก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว พรุ่งนี้ไอ้จงอินมันก็เรียกให้คุณด้วยหนิครับ พักผ่อนก่อนดีกว่านะ”
“จริงๆแล้วฉันก็ไม่ให้คนนอกที่เคยเจอกันครั้งแรกเข้ามาในห้องของฉันง่ายๆหรอก แต่ถ้าให้เดา สักพักเพื่อนของนายก็จะบอกนายให้มาสืบที่อยู่ของฉันเพื่อมาป่วนประสาทฉันแน่ๆ เพราะฉะนั้นไม่ต้องเกรงใจหรอกน่า ยังไงก็อย่าไปบอกว่าฉันอยู่ห้องไหนแล้วกันนะ บอกว่าอยู่ที่นี่ก็พอ” หลังจากที่ฮันโซลบอกว่าจะอาสามาส่งฉัน ฉันก็เลยยอมให้เขามาส่งตามที่เขาขออาสามา ระหว่างไปคอนโดที่หลับอาศัยของฉัน เราก็คุยแลกเปลี่ยนความคิดกัน อย่างฮันโซลเองก็แนะนำเรื่องระบบงานของบริษัทให้ฉันฟังด้วย
แอบเล่าให้ฟังว่า เจ้าผู้ชายที่ชื่อคิม จงอินคนนั้นเจ้าเล่ห์มากๆ ระวังตัวเอาไว้ให้ดี ..คือจากที่เคยรู้จักหมอนั่นมาก่อน ก็ดูออกมาตั้งแต่หน้าแล้วว่าสันดารเป็นไง คนอย่างนั้นเหรอจะเป็นคนดีของประชาชนได้ เหอะ
แต่ตอนนี้ก็ขอยอมรับเลยว่า พอนึกถึงเรื่องที่ผ่านมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว แล้วอยู่ดีๆอารมณ์ตอนนี้มันก็ ..
อารมณ์เสีย อารมณ์เสีย อารมณ์เสีย!
อารมณ์โคตรบ่จอยอย่างรุนแรงหลังจากที่เจอเจ้านายคนนี้มา คนอะไรแย่ที่สุด มีที่ไหนกันวันหยุดให้พนักงานมาทำงานกัน หา?! แต่เออ ก็ยอมรับว่าธรรมดาอยู่แล้วถ้าเจ้านายจะสั่งลูกน้องให้มาทำอะไร แต่ เฮ้ย นี่มัน คิม จงอินนะเว้ย คิม จงอิน นะ ความเกลียดขี้หน้า เบื่อหนังหน้า ไม่ชอบหนังหน้า นี่เพิ่มขึ้นมาเป็น 30 เปอร์เซ็นต์เลย
แล้วนี่อะไรอีกละ ทำตัวซะเหมือนเป็นพ่อฉันด้วย หืม มันหน้ามั้ยล่ะ มันหน้าโบกเรียกสติให้สักทีสองที นี่กรรมหรืออะไรทำไมต้องวนมาเจอคนที่ไม่ชอบที่สุดด้วย เมื่อก่อนยอมรับว่ารู้จักกันตอนอยู่ไฮสคูล ชอบสุดๆ แถบจะถวายตัวให้ แต่พอมาแบบนี้ส่ายหัวแทนเลย พอกันทีผู้ชายตัวดำ
แล้วนี่พรุ่งนี้ก็กังวลว่าจะต้องเจออะไรอีก เพราะตอนนี้ก็เดาไอ้ผู้ชายคนนั้นไม่ออกเลยซักนิด ถึงจะปากดีต่อหน้าเขาก็ตาม แต่จริงๆมันก็มีแอบหวั่นเหมือนกันละน่า ไม่ใช่ว่าจะแข็งไปหมดซักหน่อย แต่ยังไง บางเรื่องฉันก็จะไม่มีทางยอมให้เขาชนะไปได้ตลอดหรอก ฉันต่างหากที่จะต้องชนะ
“แล้วรู้จักกับไอ้จงอินตอนเรียนไฮสคูลกันหรอ เห็นมันเล่าว่าหลังจากที่เรียนจบเกรด 12 คุณก็ออกเลยนี่ ไม่มางานพรอมด้วย”
“อื้อ ใช่ ตามจริงก็จะออกตอนกลางเทอมแล้วตอนเกรด 12 เพราะตอนนั้นคุณปู่ที่อยู่คนเดียวที่ฮาวายป่วยหนัก ไม่มีใครว่างดูแลเลยคิดพยายามที่จะออกกลางคันแล้วไปเรียนต่อที่นู่น แต่พ่อของฉันบอกว่าเรียนให้จบก่อนดีกว่าแล้วค่อยไป หลังจากที่เรียนจบฉันก็รีบบินไปอยู่ที่โฮโนลูลูถาวรเลย จะกลับมาเยี่ยมครอบครัวก็สองถึงสามครั้งต่อเดือน และในที่สุด ไม่รู้เป็นมายังไง ก็ถูกแม่เรียกให้กลับมาอยู่โซลมาช่วยบริษัทของเพื่อนพ่อฉัน จนพึ่งรู้อีกทีว่าบริษัทของเพื่อนพ่อเป็นบริษัทที่เพื่อนของนายบริหาร ดูแลอยู่”ที่ไม่รู้ว่ากล้าพูดเรื่องแบบนี้ไปได้ยังไงนะ แต่ยังไงฉันก็คิดว่าฉันเชื่อใจเพื่อนใหม่คนนี้ได้
“แต่ที่ฟังมาไอ้จงอินบอกว่าคุณเคยสารภาพรักกับมันก่อนจะเรียนจบ แล้วมันก็อะไรไม่รู้ พูดอะไรเยอะแยะ แต่มันบอกผมว่าวันนั้นเหมือนมันจะบอกว่ามันทำคุณหน้าแตกต่อหน้าทุกคนที่อยู่ที่นั่น แล้วไม่กี่วันจากนั้นคุณก็หายไป ไม่มาเรียน หลังจากเรียนจบไปมันก็พึ่งรู้จากปากครูประจำชั้นว่าคุณลาออก ไปเรียนต่อที่ฮาวายแล้ว”
“เพื่อนนายรู้ตัวด้วยหรอว่าทำอะไรกับคนอื่นไว้บ้าง รู้สึกเป็นด้วยงั้นสิ ถ้าไม่ติดว่าฉันรู้ว่าเป็นเขาที่จะต้องมาช่วยบริษัทละก็ ฉันก็จะไม่มาที่นี่แน่นอน บางทีก็จะอยู่นู่นไปตลอดเลยก็ได้”ก็อยากจะขอบใจที่รู้ว่าตัวเองเคยทำอะไรไว้ แต่ขอบอกว่า ต่อไปจะไม่ยอมให้มันเป็นเหมือนอดีตอีกแล้ว
“ใจเย็นน่า ยังไงก็คิดว่าช่วยชีวิตมันหน่อยแล้วกันนะ จริงๆมันก็รู้สึกแหละ แต่อาจจะปากไม่ตรงกับใจก็ได้ จริงๆมันก็แคร์คนอยู่นะ”
“แคร์เป็นหรอ คนอย่างเขาแคร์คนหรอ นายคบกับเขานานเท่าไหร่เนี่ย ถ้านายอยู่ตรงนั้นด้วย นายจะรู้ว่าเพื่อนของนายไม่มีคำว่าแคร์ใครเป็นเลย”
“งั้นเดี๋ยวครั้งนี้คุณก็ลองดูแล้วกันว่ามันจะแคร์คนเป็นอย่างที่ผมพูดรึเปล่า”
หลังจากประโยคนั้นที่ออกมาจากปากฮันโซลฉันก็เงียบไปสักพักพร้อมคิดกับตัวเองไป พลางสงสัยไปว่าอะไรที่ทำให้เขามั่นใจไขนาดนั้นว่าเพื่อนของเขาเป็นคนใส่ใจคนอื่น นี่เหรอใส่ใจคนอื่น ดูเจอกันครั้งแรกสิ ทักทายกันแบบนี้หรอ ..แต่หลังจากนั้นไม่ทาน หลังจากที่ฮันโซลดื่มชาเสร็จ เขาก็ขอตัวกลับก่อน เพราะโดนจงอินเรียกไป ทำให้ตอนนี้ฉันอยู่ในห้องคนเดียว
Rrrrrrr
มีสายเรียกเข้าจากชานยอลมัน ..เอ๊ย วิดีโอคอลด้วยหรอ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ลองชวนพวกนี้ไปดื่มด้วยแล้วกัน ฉันกดรับสาย ก่อนที่จะจัดเตรียมกล้องถืออะไรให้ดี หลังจากที่กดรับไปก็เป็นภาพของคน 4 คนนอนกองทับกันอยู่บนเตียง นอนยิ้มแฉ่งให้ฉันผ่านโทรศัพท์ของฉัน ให้ทายว่านี้เป็นห้องขอไอ้ปาร์คมันแน่นอน
ระหว่างรอจับสัญญาณได้ฉันก็เดินเข้าไปในห้องนอนตัวเองก่อนที่จะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงเหมือนพวกนั้นที่ทำอยู่ด้วย
“ฮัลโหลลล จอง ซูจองง คิดถึงจังเลยย”นาอึนทักขึ้นมาคนแรก
“Hi~ Do you guys want to hang out with me?” ฉันโลกมือทันทายก่อนที่จะเปิดปากชวนไปดื่มทันที
“Let’s meet at ‘Phoenix Club’ about 22.30 PM.”ชานยอลตอบก่อนที่จะยักคิ้วส่งมาให้ฉัน แค่หลังจากที่พวกเราได้ยินคำว่า “ฟินิกซ์ คลับ” แค่คำๆนั้นก็ทำให้พวกเราทั้งหมดที่อยู่ในสายแสยะยิ้มขึ้นมาพร้อมกันอย่างดูมีเลศนัย จริงๆก็ไม่มีอะไรหรอก เป็นคลับของพวกเราที่ไปกับประจำก็เท่านั้น จะมีคนที่รู้จักที่อยู่ของร้านนั้นน้อย เพราะส่วนใหญ่จะไม่มีใครรู้เส้นทางไปกันทั้งๆที่หลายๆคนเองอยากจะไปกันเหลือกัน เพราะมันเป็นคลับเฉพาะ และเจ้าของคลับเองก็โคตรประหลาดเลย ไม่ต้องถามว่ายังไงทุกคนก็คงพอดูออกแล้วว่าแปลกจริงๆ แต่ก็เห็นเคยได้ยินอยู่ว่าจริงๆแล้วเจ้าขอคลับที่นั่นจริงๆแล้วเป็นคนเฮฮาปาร์ตี้มาก เป็นกันเองสุดๆ ตอนที่รู้ก็แทบจะปากหวอกันเลยทีเดียว
ตอนนี้กี่โมงนะ..ฉันสังเกตเวลาบนจอโทรศัพท์ของฉัน ’18.35 น.’ งั้นก็หาเวลานี้นอนพักเอาแรงก่อน ก่อนที่จะไปเจอพวกนั้นทีเดียวเลยแล้วกัน …ฉันรีบบอกลาพวกนั้นว่าจะขอวางสายไปนอนก่อน แล้วค่อยเจอกันทีเดียวตอนสี่ทุ่ม ตอนแรกพวกนั้นมันก็โวยวายใหญ่ว่าถ้ารู้แบบนี้ พวกกูจะคอลมาหาทำเพื่ออะไรวะ แล้วสักพักก็ดึงสติตัวเองกละบาเป็นปกติแล้วก็ยอมวางสายไปเองแต่โดยดี
… = ________= … อ ะ ไ ร ข อ ง พ ว ก แ ก กั น
“ไปไหนมาวะไอโซล เมื่อกี้เห็นยังอยู่ที่บริษัทอยู่เลย”จงอินทักฮันโซลทันทีหลังจากที่เห็นเพื่อนของตัวเองเดินเข้ามาในห้องทำงานของเขาอย่างหน้าตาอิ่มเอมมีความสุข
“ไปส่งพนักงานคนใหม่มา..ซูจอง” ฮันโซลรีบตอบจงอินไปหลังจากที่รู้ว่าเขาจะพูดอะไรออกมา หลังจากที่เขาพูดว่าพนักงานคนใหม่ คนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานเองก็เหมือนจะร้อนรนรีบจะเปิดปากถามว่าใคร และเขาเองก็รู้ทันว่าจะถามอะไร เขาเลยเพิ่มรายละเอียดตามความอยากรู้ของเพื่อนไป ตามความต้องการของจงอิน
“ว้าว เซอร์ไพรส์ดี”จงอินพยายามปั้นสีหน้านิ่งปกติ แต่คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าจงอินก็ดูออกอยู่ดีว่าเพื่อนของเขาคนนี้มันเป็นพวกชอบเก็บความรู้สึก
“ความรู้สึกมีไว้ให้แสดงไม่ใช่กั๊กเอาไว้ เนียนได้ไม่ตลอดหรอกเว้ย”ฮันซล
“อย่ามารู้ดีไปมากกว่าตัวฉัน แล้วพรุ่งนี้ก็อย่าลืมมาไวๆด้วย ฉันนัดเธอไว้ตอนเก้าโมงครึ่ง นายก็มาก่อนไวๆก็แล้วกัน”
“รู้แล้วน่า ซูจองเรียนแปปเดียวก็ได้อยู่แล้ว ลูกสาวคุณลุงเรียบจบกันมาดีๆทั้งนั้นแหละ”
“เหมือนจะรู้จักเธอดีมาก ทั้งๆที่เจอกันครั้งแรก”
“ก็นะ ก็ในฐานะพี่เลี้ยง ยังไงก็ต้องสนิทกันไว้อยู่แล้ว มีที่อยู่ด้วยนะ สนใจไหมครับคุณคิม จงอิน”ฮันโซลพูดขำๆก่อนที่จะแกล้งถามไปเล่นๆ แต่หลังจากที่ฮันโซลพูดคำว่าที่อยู่ของซูจองของา สายตาของจงอินที่โฟกัสกับแผ่นกระดาษในแฟ้มงานก็ต้องหันมาสบตากับฮันโซลสักพักก่อนที่จะหันมาทำงานตัวเอง
ในฐานะที่ฮันโซลรู้จักกับจงอินมาหลายปี เขาดูออกนะว่าจงอินเป็นยังไงรู้สึกยังไง เขายิ้มกับตัวเองหลังจากที่จะทำทีเป็นจะเดินออกจากห้องไป แต่หลังจากที่ฮันโซลกำลังจะบิดลูกบิดประตู ก็มีเสียงหนึ่งกล่าวออกมาจากข้างหลังเขา
“ส่งคาคาทอร์คมา”
… ฮันโซลยิ้มกับตัวเองด้วยความซึนของเพื่อนของเขาที่แสดงออกมาเมื่อไม่นานมานี้ “ทำตัวอย่างกับไม่เอา”
ฮันโซลกดส่งที่อยู่ของซูจองอย่างที่บอกไปเมื่อกี้ โดยที่ข้อควาหลายนั้นถูกพิมพ์ค้างไว้อยู่ก่อนแล้วเพราะเขาต้องมั่นใจว่าจงอินจะอยากรู้แน่ๆ เขาส่งที่อยู่ไปอย่างที่บอก แต่ก็ไม่ได้บอกจงอินไปว่าเธออยู่ห้องไหน เพราะเขาก็สัญญากับซูจองไว้แล้วว่าจะไม่บอกใคร ..ยังไง ที่เหลือก็พึ่งสิทธิ์ของตัวเองแทนก็แล้วกันนะเพื่อนรัก
อ่านแล้วช่วยเม้นท์ด้วยนะคะ
จะหาเวลาว่างมาอัพบ่อยๆนะ ขอขอบคุณทุกคอมเม้นท์มากๆเลยค่ะ
ชอบประโยคนี้ของฮันโซลมาก
“ ทำตัวอย่างกับไม่เอา”
5555555555555555555555555555
คำผิดแก้ทีหลังนะแก 555555555555555555
รอบนี้มาสั้นนิดนึง ขออภัยด้วยค่า 555555
ความคิดเห็น