คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : intro
grey
แกร๊ก
เสียงเปิดประตูห้องโดยสารด้านข้างของรถคันหรูดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงโปร่งที่ก้าวลงมายืนบนพื้นถนน คิมจงอินหยุดยืนรอให้อีกคนเดินอ้อมรถมาหาเขา ฝ่ามือกว้างยื่นออกไปรอรับ สัมผัสมือขาวภายใต้ถุงมือหนังคู่หนาแล้วกุมกระชับไว้แน่น
ไม่มีคำพูดใดๆจะเอื้อนเอ่ย นอกจากรอยยิ้มละมุนที่ส่งไปให้หัวใจดวงน้อยๆของโอเซฮุนเต้นระส่ำอย่างเคย เด็กหนุ่มที่บัดนี้เติบโตเป็นผู้ใหญ่คลี่ยิ้มออกช้าๆ พยักหน้าตอบรับกับคำถามจากดวงตาอบอุ่นคู่นั้นก่อนจะก้าวเดินไปด้วยกัน ไม่ว่าจะที่ไหนหรือเมื่อไหร่ เซฮุนรู้สึกปลอดภัยที่มีจงอินอยู่เคียงข้าง
“รอตรงนี้นะเด็กดี”
นับเป็นครั้งแรกที่เซฮุนได้มาเหยียบที่นี่ วันนี้ที่สำนักงานคนเยอะเหลือเกิน บรรดาเจ้าหน้าที่ต่างเดินกันขวักไขว่ เซฮุนได้แต่นั่งเกร็งอยู่ที่มุมห้อง พยักหน้าตอบรับ หลับตาพริ้มรับฝ่ามืออบอุ่นที่แตะสัมผัสลงบนหัวของเขา
จงอินหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ที่นี่วุ่นวายเหลือเกิน เหมือนจะมีปากเสียงกันนิดหน่อยที่ชั้นบน แต่โอเซฮุนก็ไม่ได้สนใจอะไรไปมากกว่านั้น เด็กหนุ่มหันมองไปรอบๆ นักโทษที่กำลังรอตัดสินคดีถูกตรวนด้วยกุญแจมือเดินผ่านหน้าเขาไป คนที่หนึ่ง คนที่สอง คนที่สาม .. กระทั่งถึงคนสุดท้าย
!!!
“ปล่อยกู!! ไม่งั้นไอ้หมอนี่ตาย!”
เกิดเสียงโครมครามดังลั่นไปทั่วสำนักงานเมื่อจู่ๆร่างของเด็กหนุ่มก็ถูกชายแปลกหน้าที่ถูกตรวนไว้ด้วยโซ่กระชากเขาให้ลุกขึ้น เก้าอี้ไม้หงายหลังล้มลงไป เซฮุนตกใจจนแทบผวา ต้นแขนกร้านคล้ำกำลังกอดรัดที่ลำคอของเขา ฝ่ามือหยาบบีบปลายคางมนไว้แน่นเพื่อรอจะหักคอเขาได้ทุกเมื่อ
“เฮ้! .. เฮ้ .. เย็นไว้เพื่อน ปล่อยเด็กคนนี้ไป ไม่งั้นโทษแกจะหนักขึ้นกว่านี้นะ”
โอเซฮุนเบิกตากว้าง เมื่อตำรวจนายหนึ่งกำลังจ่อปืนมายังเขา มันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ใกล้เสียจนเขากลัว ขืนยิงพลาดล่ะก็ เขาคงจะได้ไปเฝ้าพระบิดาพร้อมกับไอ้หมอนี่แน่ๆ ฝ่ามือขาวกำแน่น ความรู้สึกเดิมเมื่อครั้งยังวัยเยาว์หวนกลับมาอีกครั้ง ได้ยินเสียงหอบหายใจของชายแปลกหน้าดังก้องอยู่ในโสตประสาท ลมร้อนๆเป่ารดข้างใบหูชวนให้ขนอ่อนลุกชันไปทั้งกาย กลิ่นน้ำมันเหม็นหืนจากโซ่เส้นหนากำลังจะทำให้เขาอาเจียนออกมา
“เย็นไว้เพื่อน เย็นไว้ แบบนั้นล่ะ .. ดี ที่นี้ปล่อยเขา แล้วฉันจะไม่ทำอะไรแก”
ตำรวจหนุ่มทำท่าจะวางปืน พร้อมกับเดินเข้ามาหาช้าๆ สองมือยกชูขึ้นในอากาศ ดวงตายังสบอยู่กับนัยน์ตาที่ฉายแววหวาดกลัวนั้น หากแต่ชายแปลกหน้ายังคงพาเขาเดินถอยหลังไปเรื่อยๆ แรงบีบรัดบริเวณลำคอกลับแน่นขึ้นทุกขณะจนเซฮุนแทบจะสิ้นลมหายใจ
ปัง!!
“อ้ากกกกกก!"
เสียงโหยหวนของชายแปลกหน้ากรีดร้องดังลั่นไปทั่วทั้งสำนักงาน ลูกกระสุนนัดคมยิงเจาะลงบนหัวเข่าของนักโทษอย่างจังจนต้องยอมปล่อยตัวประกันในอ้อมแขนแล้วล้มลงไป เซฮุนทรุดลงบนพื้นอย่างหมดแรงในทันที ปลายจมูกรั้นสูดเอาอากาศเข้าปอดอย่างแรง ร่างทั้งร่างสั่นเทิ้ม รู้สึกว่าเมื่อครู่เขาได้เฉียดใกล้ความตายไปอีกหนึ่งก้าวแล้ว
“นี่ห้องทำงานของจงอิน คุณอยู่ในนี้ดีกว่า ที่เหลือผมจะจัดการให้เอง”
ประตูไม้ถูกเปิดออกพร้อมกับเสียงทุ้มห้าวที่เอ่ยบอกเรียบๆ เซฮุนเดินเข้าไปในห้องนั้นช้าๆ เขาแทบไม่รู้สึกตัวเลยด้วยซ้ำว่าตัวเองเดินขึ้นมาถึงห้องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกที เจ้าของดวงตาดุดันคู่นั้นก็ทำให้เขาสะดุ้งหลุดจากภวังค์แล้ว
“ขอบคุณที่ช่วยผมนะครับ คุณ .. เอ่อ..”
“อี้ชิงครับ .. จาง อี้ชิง”
เซฮุนพยักหน้าตอบรับ ก่อนประตูจะถูกปิดลงเบาๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าตำรวจคนนั้นรู้ได้ยังไงว่าเขามากับจงอิน แต่นั่นไม่ใช่เรื่องน่าสนใจไปกว่าข้าวของภายในห้อง เซฮุนเดินดูไปตามตู้ ตามชั้น กลิ่นสะอาดของยาสีฟันรสมิ้นต์ที่คุ้นเคยบวกกับกลิ่นของไม้มะฮอกกานีกำลังทำให้เขารู้สึกสงสัยอย่างประหลาด
ทุกอย่างในห้องนี้ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบสมกับเป็นห้องทำงานของจงอิน เซฮุนเดินไปที่โต๊ะทำงานที่วางตั้งอยู่ด้านหลังของห้องอย่างเชิญชวน กองเอกสารที่วางระเกะระกะอยู่บนนั้นช่างดูขัดกับข้าวของอย่างอื่นภายในห้องเสียเหลือเกิน ราวกับมันมีอะไรบางอย่างดึงดูดให้เขาเข้าไปค้นหามัน เสียงรองเท้าหนังที่กระทบลงบนพื้นไม้ทุกๆฝีก้าวชวนให้ใจเต้น ฝ่ามือขาวสัมผัสลงบนหน้าปกแฟ้มสีดำเล่มใหญ่ ตรงกลางประทับหมึกสีแดงคาดไว้บนนั้น
“ลับสุดยอด..”
อ่านออกเสียงช้าๆ ไม่รู้ว่าอะไรคือเรื่องลับสุดยอดที่ว่า อาจจะเป็นความลับระดับประเทศหรือระดับโลก.. เซฮุนไม่อาจเก็บความสงสัยไว้ได้อีกต่อไป ปกแฟ้มเล่มหนาถูกเปิดออกอย่างใคร่รู้ กระทั่งเห็นรูปใบหน้าของใครคนหนึ่งชัดๆที่มุมบนขวาของกระดาษ ใบหน้าและชื่อที่คุ้นเคยนั้นแทบจะทำให้เด็กหนุ่มยืนไม่อยู่
ประวัติอาชญากรรม ปาร์ค ชานยอล
ม่านใสเบิกกว้างด้วยความตกใจ ฝ่ามืออันสั่นเทาค่อยๆเปิดผ่านไปทีละหน้า ทีละหน้าอย่างช้าๆแม้ใจจะเต้นรัวจนแทบจะหลุดออกมาจากอก ในแฟ้มเล่มนี้เก็บข้อมูลทุกอย่างของปาร์คชานยอลเอาไว้ทั้งหมด ข้อมูลที่แม้แต่เขาเองก็ยังไม่รู้เสียด้วยซ้ำ
ที่ฝั่งซ้ายของโต๊ะล้วนเป็นรูปของปาร์คชานยอลที่กำลังถูกแอบถ่ายไว้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะที่ลานจอดรถ หรือระเบียง หรือแม้แต่บนถนน แถมเอกสารที่กองรวมกันอย่างเละเทะอยู่ข้างๆก็เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการดักฟังที่เขียนบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ทุกอย่างสามารถใช้ออกหมายจับและมัดตัวชานยอลไว้ได้อย่างอยู่หมัดแน่ๆ คราวนี้คงดิ้นไม่หลุด
โอเซฮุนกำลังคิดหนัก หลักฐานทุกชิ้นมีบันทึกวันที่กำกับไว้ด้วย ล่าสุดก็คงไม่เกินสองสัปดาห์ที่ผ่านมา นั่นหมายความว่าจงอินยังไม่ยอมปล่อยปาร์คชานยอลไปง่ายๆ เซฮุนไม่รู้ว่าป่านนี้ผู้ชายคนนั้นไปอยู่ที่ไหน และไม่รู้ว่าจงอินกำลังรออะไรอยู่ แต่ถ้าจงอินเลือกที่จะลงมือ จนถึงตอนนั้นปาร์คชานยอลคงไม่รอดแน่
ร่างโปร่งทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ เอนหลังพิงพนักอย่างหมดแรง นี่มันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ข่าวของปาร์คชานยอลเงียบหายไปจนเขาคิดว่าผู้ชายคนนั้นคงไม่มีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไปแล้ว เซฮุนรู้สึกใจชื้นที่ได้รับรู้ว่าปาร์คชานยอลยังมีชีวิตอยู่ ในขณะเดียวกันก็รู้สึกใจหาย ใจหนึ่งก็อยากเจอ แต่อีกใจก็อยากให้ผู้ชายคนนั้นหนีไปให้ไกลแสนไกล .. ไกลจากเขา ไกลเกินกว่าที่จงอินจะตามเจอ
“การตัดสินโทษ .. ร้ายแรง ถึงขั้น ..”
อ่านมาจนถึงบรรทัดล่างสุดของหน้าสุดท้าย เสียงใสกลับขาดห้วง ไม่อาจอ่านคำสุดท้ายในประโยคนั้นได้ หยดน้ำตาร่วงเผาะลงบนหน้ากระดาษ ปลายนิ้วเรียวแตะลงบนรูป สัมผัสใบหน้าอีกฝ่ายผ่านเนื้อกระดาษด้วยความคิดถึงจับใจ ปาร์คชานยอลซูบผอมเหลือเกิน ใบหน้าคมคายทั้งกร้านและคล้ำ แถมยังมีรอยสักที่คอและไหปลาร้าเพิ่มมาด้วย เขาไม่รู้เลยว่าตอนนี้ชานยอลเป็นยังไงบ้าง สบายดีรึเปล่า ยังสูบบุหรี่จัดอยู่รึเปล่า
เด็กหนุ่มฟุบหน้าลงบนโต๊ะ ในใจได้แต่ภาวนา ขออย่าให้จงอินหาผู้ชายคนนั้นเจอเลย
…
ลมหนาวพัดเอื่อยในยามเย็น ไม่บ่อยนักที่คนอย่างปาร์คชานยอลจะมาอยู่ที่นี่ในเวลาแบบนี้ ร่างสูงโปร่งยืนพิงประตูรถ ม่านคมมองลอดผ่านแว่นกันแดดออกไปไกลสุดลุกหูลุกตา สีโทนเย็นของแม่น้ำที่ตัดกับสีโทนส้มของดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าให้ความรู้สึกดีอย่างประหลาด จำไม่ได้แล้วว่าครั้งล่าสุดที่รู้สึกสบายใจอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
หน้าหนาวในแอลเอก็ไม่ได้เลวร้ายสักเท่าไหร่ ชายหนุ่มจุดบุหรี่อัดควันเข้าปอด พ่นควันอุ่นๆลอยวนในอากาศออกมาแทนที่ลมหายใจอันแสนน่าเบื่อ เขี่ยก้นบุหรี่ร้อนๆลงบนขอบสะพาน ฝ่ามืออีกข้างซุกอยู่ในกระเป๋ากางเกงเพื่อเพิ่มความอบอุ่น ลำพังเสื้อโค้ทตัวเดียวคงเอาไม่อยู่
ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เขามาที่นี่ ฝ่ามือกว้างหยิบรูปโพลารอยด์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อโค้ท มองจ้องมันเหมือนทุกวันราวกับมีอะไรน่าสนใจนักหนา
“…”
ริมฝีปากหยักคลี่ยิ้มน้อยๆ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ยังคิดถึง โพลารอยด์ในมือเป็นรูปที่เซฮุนกำลังถ่ายกับเขาเมื่อนานมาแล้ว เพียงแต่ตอนนั้นเขาเองก็ไม่ได้ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร ปาร์คชานยอลยังจำภาพวันนั้นได้ดีที่เขาปัดกล้องสีสันสดใสของเซฮุนออกไปจนมันแทบจะหลุดมือ รูปที่ได้ออกมาก็เลยเห็นแค่เสี้ยวหน้าเบลอๆของเขา แต่สิ่งที่มหัศจรรย์กว่านั้นก็คือภาพใบหน้าของเซฮุนที่ยังยิ้มตาหยีอย่างชัดเจนอยู่ในเฟรม
ชานยอลคาบบุหรี่คาปาก ใช้สองมือสัมผัสแผ่นกระดาษเล็กๆนั่นด้วยความคิดถึงจับใจ ไม่รู้ว่าป่านนี้เด็กคนนั้นจะเป็นยังไงบ้าง เขาไม่ได้ติดต่อกลับไปอีกเลยหลังจากที่ย้ายมาที่นี่ ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปราวกับหลุดออกมาคนละโลก โซฮุนคงจะเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากกว่าที่เคย บางทีจงอินคงจะสอนอะไรดีๆให้เด็กดื้อของเขา เซฮุนคงจะมีชีวิตที่ดี อยู่ในสังคมดีๆ ต่างจากปาร์คชานยอลที่ยังคงจมปลักอยู่กับเรื่องเลวๆ เหมือนกับมันถูกกำหนดไว้แล้วว่าเขาต้องเดินเข้ามาในเส้นทางที่ยากลำบากเช่นนี้ เขาไม่มีทางเลือก
..ครืด ปึง!
แต่แล้วเสียงปิดประตูรถที่ดังขึ้นจากอีกฝั่งก็เรียกให้ชายหนุ่มสะดุ้งหลุดจากภวังค์ มีใครคนหนึ่งวิ่งมาขึ้นรถของเขาทั้งๆที่ยังไม่ได้ขออนุญาต ปาร์คชานยอลเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เก็บรูปใบโปรดใส่กระเป๋าเสื้อโค้ทแล้วเอื้อมมือไปเปิดประตู แต่ยังไม่ทันจะได้เปิด ชายแปลกหน้าคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาหาเขา
“Sorry sir, did you see a boy came this way with his bathrobe ?” (ขอโทษที คุณเห็นเด็กผู้ชายใส่ชุดคลุมอาบน้ำผ่านมาทางนี้รึเปล่า)
หนุ่มมะกันร่างยักษ์กำลังหอบแฮ่ก ในมือถือปืนลูกซองมันวับแกว่งไปมาต่อหน้าเขา ถ้าเป็นคนอื่นคงจะวิ่งหนีไปแล้ว แต่สำหรับปาร์คชานยอลไม่ใช่อย่างนั้น ชายหนุ่มยังคงใจเย็น เหล่มองใครคนหนึ่งที่กำลังแอบอยู่ในรถของเขา และไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร สองคนนี้คงต้องฆ่ากันในรถของเขาแน่ถ้าเขายอมเอ่ยปากออกไป
“um .. if I was right he went that way” (ถ้าผมไม่ได้เข้าใจผิด เขาวิ่งไปทางนั้น)
ชายผิวสีพยักหน้าพร้อมกับเอ่ยขอบคุณก่อนจะจากไป ปาร์คชานยอลยังคงมองตามด้วยความสงสัย รอยสักที่แขนของไอ้หมอนั่นคุ้นเหลือเกิน เหมือนกับว่าเขาเคยเห็นที่ไหนสักแห่งเมื่อนานมาแล้ว แต่เรื่องนั้นไม่ได้น่าสนใจไปกว่าคนที่อยู่ในรถของเขา ฝ่ามือกว้างเอื้อมไปเปิดประตูรถ ได้กลิ่นเหล้าฉุนกึกแสบจมูกจนต้องเบ้หน้า
“He’s gone. Why he’s chasing you ?” (ไอ้หมอนั่นไปแล้ว เขาไล่ตามนายทำไม)
ที่ห้องโดยสารด้านหลัง ปรากฏร่างของเด็กหนุ่มในชุดคลุมอาบน้ำกำลังนั่งกอดเข่าตัวลีบติดประตูอีกข้าง ใบหน้าสวยหวานราวกับอิสตรีกำลังหวาดผวา ม่านกลมรื้นน้ำเบิกกว้างพร้อมกับหอบหายใจถี่รัว ฝ่าเท้าเปลือยเปล่าและท่อนขาเรียวเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำสดใหม่
“…”
ไม่มีคำตอบจากเด็กหนุ่มปริศนานอกจากสายตาหวาดระแวงที่ส่งมาให้เพียงเท่านั้น ใบหน้าน้อยส่ายไปมา น้ำตาไหลอาบสองข้างแก้มทั้งๆที่เขายังไม่ทันได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ ปาร์คชานยอลขบกรามแน่น พยายามจะใจเย็นให้ถึงที่สุด เห็นได้ชัดว่าไอ้เด็กเวรนี่พยายามใช้ฝ่าเท้าถีบไปมาด้วยแรงอันน้อยนิดเพื่อไม่ให้เขาเข้าไปใกล้
“Can you speak English?” (นายพูดภาษาอังกฤษได้รึเปล่า?)
ไม่แม้แต่จะพยักหน้าตอบรับหรือส่ายหัวปฏิเสธ ใบหน้าจิ้มลิ้มก้มงุดลงกับเข่า กอดร่างอันบอบช้ำของตัวเองไว้แน่นด้วยความหวาดกลัว ไอ้เด็กนี่กำลังจะชะตาขาด ถ้าไม่ได้ตายด้วยปืนของไอ้นิกนั่นก็คงจะตายด้วยน้ำมือของเขา ปาร์คชานยอลไม่ใช่คนที่จะอดทนกับอะไรได้นานๆ
“Do you understand me ?”(เข้าใจที่ฉันพูดไหม?)
“…” เสียงทุ้มเอ่ยถามอีกครั้ง แต่สิ่งที่ได้กลับมาก็ยังคงเป็นความเงียบ
“Fuck it .. get out” (ช่างแม่ง .. ลงไปได้แล้ว)
ปาร์คชานยอลไม่สนใจเรื่องนั้นอีกต่อไป ใบหน้าหล่อเหลากำลังตึงเครียด เริ่มจะหมดความอดทนเต็มที เห็นฝุ่นที่หมอนั่นเหยียบขึ้นมาบนรถแล้วก็รู้สึกหงุดหงิดจนอยากจะจับโยนออกไปจากรถซะเดี๋ยวนี้ เสียงทุ้มห้าวเอ่ยบอกเรียบๆ แต่อีกฝ่ายกลับส่ายหัวปฏิเสธ
“get out of my car now!” (ลงไปจากรถของฉันเดี๋ยวนี้!)
นิ้วเรียวชี้สั่ง พร้อมกับเสียงทุ้มห้าวที่พูดเน้นทีละคำ แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมลงจากรถ ไม่รู้ว่าฟังเขารู้เรื่องรึเปล่า ใบหน้าจิ้มลิ้มกวาดมองไปรอบๆพลางพึมพำไปมาอย่างเสียสติ กระทั่งข้อเท้าเล็กถูกชานยอลกระชากเข้าไปหา เด็กหนุ่มหวีดร้องลั่นด้วยความกลัวจับใจ
“สัดกูบอกให้ลงมาไงวะ!”
ฟิวส์ขาดแล้ว ปาร์คชานยอลหลุดพูดภาษาบ้านเกิดออกมาในทันที ฝ่ามือหนาคว้าข้อเท้าของอีกฝ่ายไว้ กระชากมันอย่างแรงจนร่างเล็กๆลอยหวือ ก่อนจะจับอุ้มขึ้นจากเบาะแล้วโยนลงไปจากรถด้วยโทสะ แผ่นหลังบอบบางกระแทกลงบนพื้นถนนอย่างแรงจนเจ็บจุกไปหมด
ไม่มีเสียงร้อง ไม่มีแม้แต่แรงที่จะขยับตัว จู่ๆร่างเล็กๆของเด็กหนุ่มก็นิ่งไปซะเฉยๆ ปาร์คชานยอลสบถด่าเพียงไม่กี่คำก่อนจะปิดประตูรถแล้วเดินข้ามร่างของคนที่นอนงออยู่บนพื้นเพื่อไปขึ้นรถ หากแต่อาการผิดสังเกตของอีกฝ่ายกลับรั้งเขาไว้ ชายหนุ่มหยุดยืนมอง ใช้ฝ่าเท้าเขี่ยสีข้างของอีกฝ่ายให้นอนหงาย
ชายหนุ่มยืนกอดอกมอง ชุดคลุมอาบน้ำไม่ได้ผูกเชือกไว้ แผ่นอกที่เปลือยเปล่าเต็มไปด้วยรอยจูบเป็นจ้ำๆดูน่ากลัว แถมยอดอกข้างหนึ่งก็ถูกตุ้มเหล็กเจาะคาไว้ บาดแผลบนเรือนร่างนั้นบ่งบอกได้ดีว่าเด็กคนนี้ผ่านเรื่องเลวร้ายมามากแค่ไหน ฉับพลันก็นึกถึงครั้งแรกที่เขาเจอเซฮุนที่งานประมูลซ้อนทับกับภาพตรงหน้า ปาร์คชานยอลถอนหายใจ จิ๊ปากด้วยความหงุดหงิดก่อนจะก้มลงช้อนร่างนั้นขึ้นมาอีกครั้ง
โยนร่างของเด็กหนุ่มไว้ที่เบาะหลังก่อนจะอ้อมมาที่ฝั่งคนขับ ปาร์คชานยอลปรายตามองอีกฝ่ายผ่านกระจกมองหลังเพียงครู่ก่อนจะขับรถออกไป หวังว่าเขาคงจะคิดไม่ผิดที่เอาไอ้เด็กนี่กลับบ้านไปหรอกนะ
to be continue
ความคิดเห็น