คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ยัยตัวแสบ
ตึง !!!!!!
“เฮ้ย!!” เสียงกระทบของอะไรสักอย่างที่ผมมั่นใจว่า มันไม่ใช่เสียงแมวกระโดดลงมาวิ่งเล่นบนหลังคาบ้านของผมแน่ๆ ผมไม่รอช้าที่จะเดินออกไปดูที่ระเบียงเผื่อมีอะไรตกลงมา นั่นอะไรน่ะ ?? ผมนึกสงสัยในใจและเดินเข้าไปใกล้มันมากขึ้นเรื่อยๆ วัตถุสีเงิน เรียวยาว สะท้อนแสง แต่มันแปลกตรงที่ว่า วัตถุนั้นยิ่งผมใกล้มากเท่าไหร่ก็จะส่งประกายมากขึ้นเท่านั้น
“หยุดนะ อย่าเข้าใกล้มัน” เสียงนี้แทบจะตะโกนได้เลยล่ะ มันทำให้ผมตกใจ ผมแหวนหน้าขึ้นไปมองตามต้นเสียง หวังว่าที่ผมจะมองเห็นคือคนนะ ไม่ใช่ ผี !!
“อ้ากกกกกกก ผีหลอก” สิ้นเสียงผมก็หมดสติล้มลงไป นี่แหละที่ผมจำได้
.
“นี่ นาย นาย นาย นายยยยยย” เสียงใครนะ เท่าที่จำได้ ผมอยู่บ้านคนเดียวนะ แม่ก็ไปทำงานที่อเมริกากว่าจะกลับก็ปีหน้า แล้วมันใครกันล่ะ ขโมย ขโมย ขโมย งั้นเหรอ ผมไม่รอช้าที่จะแอบเอื้อมมือหยิบนาฬิกาปลุกข้างเตียง ขอเน้นว่า แอบจริง และจัดการสิ่งที่ว่า ต่อให้เป็นผู้ชายคงไม่ทำกับผู้หญิงหรอก ใช่แล้วล่ะ !! ผมแทบจะทุ่มนาฬิกานั่นไปทางหัวของเธอคนนั้น
โป้ก !! สิ้นเสียง ผมก็รีบลุกออกมาจากเตียง หนอย !! เป็นผู้หญิงบังอาจจะมาเป็นขโมย ยัยบ้า
“โอ้ยยยย นาย
“นี่ ยัยขโมย บ้านฉันไม่มีอะไรให้เธอขโมยหนอก หน้าตาก็ดูดี มาเป็นขโมย ฉันจะจับเธอส่งตำรวจ” ว่าแล้วผมก็ไม่รอช้าที่จะเดินไปจับยัยนั่น
“เฮ้ นายจะมาจับฉันไม่ได้นะ แค่ฉันตกลงมาที่ระเบียงบ้านนาย นายก็ทึกทักเอาเองว่า ฉันเป็นผี แล้วนายก็สลบไป แล้วนายก็จะมาหาว่าฉันเป็นขโมยเหรอ นี่ๆๆๆๆ ให้มันรู้ซะบ้างนะ ว่าการที่ฉันต้องตกลงมาเนี่ย มันความผิดของหลังคาบ้านนาย” ยัยนั่นพูดรัวเร็ว แต่มือยังคงกุมหัวของตัวเอง ผมมั่นใจว่าผมทุ่มนาฬิกาปลุกลงไปที่หัวเธอนะ และนาฬิกาปลุกนั่นน่ะ เหล็กไปเกือบทั้งเรือน แต่แปลกที่ยัยนี่แค่กุม แล้วเลือดเธอล่ะ มันจะไม่ไหลออกมาสักหยดเลยรึไงนะ
“ประสาท” คำนี้ทำให้ยัยนั่นหันมามองผมตาขวาง คงลืมไปล่ะสิว่าตอนนี้เธออยู่ในห้องของผม เล่นนั่ง เอ้ย พูดผิดสิ เธอแทบจะนอนลงไปบนเตียงของผมเลยล่ะ ยัยนั่นรีบลุกออกมากระชากคอเสื้อผมทันที
“นายหาว่าใครประสาท นายสิประสาท รู้มั๊ย ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้บ้านหลังนี้มันสูงสี่ชั้น ฉันคงไม่ต้องมานั่งเป็นนังบ้าหลงโลกอยู่ที่นี่หรอกนะ”
“แล้วคนที่ไหน เค้าจะไปลอยอยู่บนหลังคาได้ล่ะ หรือเธอจะเกาะล้อเครื่องบินมารึไง แล้วเธอจะบอกว่าพอถึงบ้านฉัน เธอก็เลยปล่อยมือจากล้อ แล้วก็เลยกระแทกกะหลังคาบ้านฉัน งั้นเหรอไง ถ้าฉันเชื่อเธอ ฉันก็บ้า แต่มันจะแปลกนะ ก็ถ้าเธอทำได้ เธอก็ไม่ใช่คน
“หึ เรื่องที่นายคิดน่ะ ถูกครึ่งนึงนะ เพราะฉันบอกรึยังว่า ฉันน่ะเป็นคน” ยัยนั่นพูดพร้อมปล่อยมือจากคอของผม แรงยัยนี่เยอะชะมัดเลยแฮะ แล้วก็เดินวนรอบห้องของผม พลางลูบไอ้ไม้นั่นไปมา
“จะบอกให้นะ ว่าฉันไม่ใช่คน”
สิ้นคำพูดที่ยัยนั่นบอกผม ถ้าเป็นคุณ คุณจะทำไง ข้อแรกงง ข้อสองช็อก ข้อสามหัวเราะร่าน้ำตาเล็ด ผมเลือกข้อสามเป็นคำตอบสุดท้าย
“ 55555 เธอประสาท เธอบ้าไปแล้วแน่ๆ ยัยติ๊งต๊อง” ผมหัวเราะพร้อมกับเอามือกุมท้อง ก็มันจะไม่ขำได้ไง เธอเล่นตีหน้าจะขรึมซะขนาดนั้น
“นายขำอะไร นายไม่เชื่อใช่มั๊ย อ๋อ ต้องพิสูจน์ล่ะสิ ก็ได้” ว่าแล้วยัยนั่นก็หยิบแจกันที่ตอนนี้เป็นที่ใส่ช่อดอกไม้ที่ผมได้จากบรรดาแฟนคลับทั้งหลายของผมขึ้นมา ใช่แล้ว!! เธอทุ่มมันลง และมันก็แตกไงล่ะ
“เฮ้ย นั่นแจกันที่ปู่ฉันซื้อให้ตอนบ้านเราไปเที่ยวกันนะ ยัยบ้า เธอทำอะไรน่ะ เธอ”
“shut up !!” ยัยนั่นตะคอกผม แง๊ แม่ครับ ลูกชายสุดที่รักของแม่ต้องมาเจอนังบ้าที่ไหนไม่รู้ แม่ครับยัยนั่นเดินมาทางผมแล้ว แม่ค้าบ ลาก่อน แม่!!ค้าบบบบบ
“นี่ นี่ นี่ แหกตามาดูก่อน ว่ามันเกิดอะไรขึ้น นายซื่อบื้อ” ยัยนั่นเดินเข้ามาหาผม และก็เขกหัวของผม ทำให้ผมต้องรีบเปิดตาดู แจกัน มันกลับเหมือนเดิมแล้ว
“เฮ้ย เธอทำได้ยังไงอ่ะ บ้า นี่ฉันตาฝาดแน่เลย” ผมไม่เชื่อหรอก เพราะเมื่อ20วินาทีที่แล้ว ภาพที่เห็นคือ ยัยนั่นกำลังทุ่มแจกันที่ปู่ผมซื้อให้ แม้มันจะไม่ใช่สิ่งที่ผมจะปลาบปลื้มกับมันมากนัก แต่นั่นมันคือของที่ปู่ให้ผมนะ
“นี่ นายเลิกเรียกฉันว่า ยัยนั่นซะทีเถอะน่า”
“ฉันไม่ได้เรียกเธอซะหน่อย” .... เฮ้ย !! ยัยนั่นรู้ได้ไงวะ ว่าผมเรียกเธอว่า “ยัยนั่น”
“เธอ เธอ เธอ เธอรู้ได้ไงอ่ะ ว่าฉันเรียกเธอว่ายัยนั่น แต่เรียกในใจนะ” ผมอึ้งแทบตาย นี่มันอะไรน่ะ แจกันไม่ได้แตกแต่อยู่สภาพเดิม ยัยนั่นอ่านใจผมออก ได้ยินสิ่งที่ผมคิดในใจ
“ก็ฉันบอกแล้วไงว่า ฉันไม่ใช่คน นี่ฉันแสดงให้นายดูตั้งหลายอย่าง เพื่อพิสูจน์ว่า ฉันไม่ได้โกหก ฉันไม่ใช่คน อีกครั้งคือ ฉัน ไม่ ใช่ คน” ยัยนั่นยื่นหน้ามาใกล้ผมมาก ผมได้กลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวเธอ มันเป็นกลิ่นดอกไม้แหะ หอมจัง !! ^_________^
“นี่ นายเลิกเรียกฉันว่า ยัยนั่น แล้วก็เลิกวิจารณ์ทุกอย่างได้แล้ว” ยัยนั่นเอามือมาจิ้มหน้าผากผมอีกแล้ว หน้าเราใกล้กันมาก จนผมสังเกตได้ว่า หน้าผากของยัยนั่นไม่เป็นอะไรเลย เป็นไปไม่ได้อ่ะ
“อ๋อ ถ้านายคิดว่า ทำไมฉันไม่หัวแตก หรือไม่ก็เลือดไหลอ่ะนะ ของแค่นี้ทำไรฉันไม่ได้หรอก ชิวล์ๆอ่ะ แล้วอีกอย่าง ฉันไม่มีเลือดแบบพวกนาย 555+ อันหลังฉันโกหกน่ะ”
“หยุดก่อน ฉันงง เธอไม่เจ็บ เธอทำของที่แตกให้ไม่แตกได้ เธอซ่อมมันได้ เธออ่านใจคนออก .. เธอเป็นนักมายากลเหรอ” โง่ โง่ที่สุด สมองส่วนหน้า หลัง กลางของผม มันสั่งให้ผมคิดได้แค่นี้จริงๆใช่มะ
“โถ นายบื้อ อ่านปากของฉันนะว่า ฉัน เป็น แม่ มด” ยัยนั่นยื่นหน้ามามองทางผม ดวงตาของเธอหยีเล็กลง พร้อมกับยิ้มน่ารักๆให้ผม หรือว่า ผมโมเมไปเอง เธอคงขำกับความปัญญาอ่อนของผมแหละ เชอะ !!
“โธ่ ที่แท้ก็แม่มดน่ะเอง โฮะๆๆๆ ฮุๆๆๆ 555+” เฮ้ย แม่มด แม่มดโว้ยยยยยยย ยัยนี่คือลูกหลานของคนฆ่าสโนไวท์นั่นเอง ยัยคนป่าเถื่อน
“นี่ นาย ฉันไม่ใช่แม่มดที่ฆ่าสโนไวท์นะ มันเป็นเทพนิยายย่ะ แล้วในโลกของฉัน การฆ่าคนมันคือบาปหนาย่ะ ฉันไม่ทำ รู้ไว้ซะ ชริ”
“แล้วเธอมาทำอะไรที่นี่ไม่ทราบ จะมาเรียนหนังสือที่โลกของมนุษย์น่ะเหรอ หรือว่า เธอรับเคราะห์จากอะไรสักอย่างทำให้ต้องมาเป็นแม่มด คงไม่ใช่แบบเรื่องแม่มดน้อยโดเรมีหรอกนะ” สมอง สมอง สาบานสิ ว่านี่คือการคิดของคนที่ขรึมที่สุดในบรรดาพวกกลุ่มของผม ถ้าพวกสาวๆที่รร.รู้ว่าผมมานั่งทายอะไรติ๊งต๊องแบบนี้ จากคะแนนนิยมที่ล้นหลามคงตกลงมาประมาณ60เปอร์เซนต์
“ฉัน เป็น แม่ มด จริง จริง นะ นาย ซื่อ บื้อ” เธอยังคงเน้นทุกพยางค์เสียงอย่างกับว่า การเน้นเสียงจะทำให้ผมจำแล้วซึมซับมันลงไปในสมอง
“งง งง งงโว้ย อะไรเนี่ย แม่มด แม่มดมาบ้าน เธอจะมาสาปฉันเหรอ ฉันสู้ตายนะ ยัยแม่มดผี” ตอนนี้ผมเริ่มจะเชื่อเธอและแหละ เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็อยู่ๆก็มีแมวสีดำกระโดด ไม่สิ มันลอยมาตะหาก ลอยออกมาจากลิ้นชักของผมน่ะ ลิ้นชักที่ผมใช้เก็บ ... หนังสือโป๊
“ฮาคุ ออกมาได้ยังไง ฉันบอกแล้วใช่มั๊ยว่า อย่าเพิ่งออกจนกว่าฉันจะสั่ง” ยัยนั่นหันไปพูดกับไอ้แมวผีนั่น ท่าทางว่า มันจะชื่อ ฮาคุ
“ก็ โซระไม่ให้ออกมาหนิ แล้วในนั้นก็มีแต่หนังสืออุบาทว์ๆทั้งนั้น” หนอย ๆ ไอ้แมวผีแกว่าหนังสือที่ฉันสะสม เอ้ย ที่ฉันอ่านมันเป็นของอุบาทว์งั้นเหรอ
“ไหนๆๆๆ ดูหน่อยสิ” ยัยนั่นกำลังจะเดินไปหยิบ เฮ้ย !! เวรแล้ว ปากแกนะ ไอ้แมวผี ยัยนั่นยังคงเดินต่อไปไม่หยุด อีก2ก้าว ถึงลิ้นชักแล้ว อ๊ากกกก อัปยศอดสูที่สุด ลิ้นชักถูกเปิดออกแล้ว แงงงงงงง หมดกัน ภาพพจน์ฉัน
“เฮ้ยยยยย นี่มันหนังสือกายวิภาคเหรอ ยอดเลยแฮะ ” นี่เป็นสิ่งที่ผมได้ยินใช่มะ ยัยนั่นมองหนังสือโป๊เป็นกายวิภาค ไม่ผิดแน่ เธอมองมาทางผม แล้วก็ถามว่า
“นายเป็นหมอเหรอ” 5555+ ยัยซื่อบื้อเอ้ย เธอนั่นแหละ ซื่อ แถมยังน่ารักด้วย ยัยนั่นมองผมด้วยตากลมๆของเธอนั่นแหละ แต่ผมสังเกตว่า ไอ้แมวผีนั่นยังคงทำหน้าแปลกๆใส่ผม คงไม่อยากให้ผมแกล้งเจ้านายมันล่ะสิ
“เปล่าน่ะ แค่ซื้อมาศึกษาเฉยๆ” ผมตอบออกไปโดยไม่คิดอะไรมาก ยัยนี่หลอกง่ายชะมัดเลยแหะ
“โซระ นี่โซระดูไม่ออกเหรอ ว่าโลกมนุษย์น่ะ เค้าเรียกมันว่าอะไร” ไอ้แมวผีฮาคุ แกอย่าเจ๋อสิวะ ให้ยัยนั่นเข้าใจฉันแบบนั้นก็ดีอยู่แล้ว ถ้าอยู่ๆยัยนั่นรู้ว่า หนังสือนี่มันเอาไว้ .. ฉันได้ถูกยัยนั่นหาว่า หื่นแน่ๆ
“แล้วมันคือ ..” โซระเว้นพื้นที่ให้ผมตอบเธอ
“หนังสือโป๊ไง” ผมตอบเธอหน้าตาย เพราะสำหรับมนุษย์อย่างผม และมนุษย์ผู้ชายด้วยสิ การอ่านหนังสือโป๊ มันเป็นเรื่องปกติธรรมดาอยู่แล้ว แต่สำหรับโลกยัยนี่น่ะ ผมไม่รู้
“หาาา หนังสือโป๊เหรอ นายอ่านเพื่ออะไร” โว้ยยยย ยัยนี่ทำไมสงสัยอะไรโง่ๆนะ เธอกี่ขวบเนี่ย ยัยบ้าเอ๊ยยย
“ช่างเถอะ เดี๋ยวฉันจะเอาไปเก็บให้หมด” ผมพูดและดึงหนังสือออกมาจากมือของโซระ และยกทั้งหมดในลิ้นชักใส่ลงในถุง ขืนปล่อยนานกว่านี้ยัยนั่นคงได้เป็นผู้หญิงบ้ากามเดินถือหนังสือโป๊ร่อนไปมาโดยคิดว่ามันเป็นตำรากายวิภาค ยัยบ้า!!
“นี่ กี่โมงแล้วน่ะ” ผมหันไปถามโซระ
“ตอนนี้ก็ประมาณ11โมงอ่ะ” โซระยังคงดูผมเก็บหนังสือต่อไป
เฮือกก o_O !! 11โมง วันนี้วันเปิดเทอมวันแรก
เฮือก !! วันนี้มันวันซวยของผมจริงๆโว้ยยยยย ซวยที่ต้องมาเจอกับยัยตัวยุ่งนี่แหละ เพราะเธอ เธอคนเดียว ยัยจอมป่วน
ความคิดเห็น