ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กลรักวังหลวง [서현]

    ลำดับตอนที่ #75 : บาปแห่งวังหลวง [100%]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.54K
      103
      1 ส.ค. 62

    ตอนที่ 75 บาปแห่งวังหลวง






         ซอฮยอนถูกนำตัวมาที่เรือนพักของเชวซังกุงอย่างเงียบๆ หญิงสาวงุนงงกับพฤติกรรมลับๆ ล่อๆ ของนายหญิงก่อนจะนั่งลงช้าๆ

         "นายหญิง มีอะไรหรือเจ้าคะ" ซอฮยอนถามด้วยความสงสัย

         "เงียบ!" เชวซังกุงสั่งเสียงเฉียบขาด นางชะโงกหน้ามองออกไปนอกห้องอย่างระแวดระวังก่อนจะเลื่อนประตูปิด

         "บอกข้ามาตามตรง" เชวซังกุงนั่งลงตรงหน้าหญิงสาว "เจ้าเขียนเรื่องเกี่ยวกับอะไรในโจทย์การสอบคราวนี้"

         "ทำไมหรือเจ้าคะ"

         "อย่ามาย้อนถาม ตอบข้ามา"

         "ก็เขียนเรื่องตามโจทย์ที่พระมเหสีทรงให้ไว้อย่างไรเล่าเจ้าคะ" ซอฮยอนตอบตามปกติ

         "ข้ารู้ว่าตามโจทย์  แต่เจ้าเขียนถึงใคร และเขียนเรื่องอะไรลงไป"

         ซอฮยอนแน่นิ่ง

         "นายหญิงเปิดอ่านหรือเจ้าคะ"

         "ไม่ใช่ แต่ถ้าข้ารู้ก่อนว่าเจ้าแต่งเรื่องบ้าอะไรลงไปข้าคงจะไม่ส่งผลงานเจ้าไปกองกลางอย่างแน่นอน"

         "นายหญิง ข้าไม่ได้แต่งขึ้นนะเจ้าคะ ที่ข้าเขียนลงไปเป็นเรื่องจริงทุกประการ เพียงแต่ว่าไม่ได้ใส่ชื่อไปเท่านั้นเอง"

         "เจ้านี่เป็นอะไรนักนะ" เชวซังกุงร้อง "ทำไมชอบเอาตัวเองไปเสี่ยงกับเรื่องร้ายๆ ตลอดเวลาแบบนี้"

         "มันร้ายตรงไหนเจ้าคะ"

         "ที่เจ้าเขียนนั่นยังไม่เรียกว่าเลวร้ายอีกหรือ! ที่ผ่านมาเจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือว่าวังหลวงมันเป็นอย่างไร คิดจะพูดคิดจะเขียนอะไรก็ได้อย่างนั้นหรือ"

         "แต่มันเป็นเรื่องจริงนะเจ้า--"

         "มันไม่ได้เกี่ยวกับว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง ซอฮยอน" เชวซังกุงกล่าวเสียงดัง "มันเป็นเรื่องที่อะไรสมควรควรพูดไม่สมควรพูดต่างหาก"

         "นายหญิง ถ้างานวรรณกรรมของข้าจะมีอันตรายต่อข้าจริง ก็ให้มันรู้ไปสิเจ้าคะว่าปลายพู่กันมันก็ทำร้ายคนได้" ซอฮยอนกล่าวรัวเร็ว

         "ได้สิ! มันทำได้!" นายหญิงทุบโต๊ะ "ข้าอยู่ในแวดวงการเขียนมานานจนพอจะรู้ว่าเวลาเราใช้ปลายพู่กันเขียนอะไรลงไปนั้นมันสามารถให้คุณให้โทษกับตัวเราได้มากมายมหาศาลแค่ไหน"

         ซอฮยอนก้มหน้าลง

         "ถ้านายหญิงไม่ได้เปิดงานข้าอ่าน แล้วท่านรู้ได้อย่างไรเจ้าคะว่าข้าเขียนอะไรลงไป"

         "ซุนฮวาบอกข้า"

         "อะไรนะเจ้าคะ! นางเปิดอ่านงานข้าหรือ"

         "ใช่ นางเปิดอ่านของเจ้าและมาบอกข้า นางเป็นห่วงเจ้านะ"

         "ความจริงนางเหมือนจะยังโกรธข้าอยู่" ซอฮยอนเอ่ยขึ้นเบาๆ

         "ถ้านางโกรธเกลียดเจ้า นางคงปล่อยให้งานของเจ้าไปถึงกองกลางโดยไม่ทันได้บอกข้าแล้วแหละ และถ้างานเจ้าไปถึงกองกลางพร้อมกับโดนตรวจจากเหล่าซังกุงอาวุโส เจ้าได้ถึงที่ตายแน่"

         ซอฮยอนชะงัก ก่อนจะหันมองนายหญิงตัวเองช้าๆ

         "นายหญิง... นี่หมายความว่า งานของข้า... งานของข้าไม่ได้ถูกส่งไปหรือเจ้าคะ"

         เชวซังกุงไม่ตอบ นางหยิบหนังสือออกมาเล่มหนึ่งและวางมันไว้บนโต๊ะตรงหน้า มันคือหนังสือที่ซอฮยอนเขียนเป็นผลงานในการสอบออซองเคียงวอนนั่นเอง

         หญิงสาวยื่นมือเข้าคว้าหนังสือตรงหน้าแต่ไม่ทัน เพราะถูกเชวซังกุงคว้าเอาไปก่อน

         "นายหญิง เอาหนังสือข้าคืนมานะเจ้าคะ"

         "ไม่! ที่ข้าทำแบบนี้ก็เพื่อตัวเจ้าเองนะ"

         "นายหญิง!"

         "ตอนนี้ยังพอมีเวลา จงเขียนเรื่องใหม่ออกมาเสีย ข้าจะไปส่งที่กองกลางให้เจ้าเอง"

         "ไม่เจ้าค่ะ ข้าจะไม่เขียนเรื่องใหม่ ข้าจะส่งเรื่องนี้เท่านั้น"

         "ทำไมถึงดื้อนักนะ!"

         "สมัยก่อน ท่านยังเคยเขียนบันทึกฝ่ายในที่เปิดโปงเรื่องชั่วร้ายต่างๆ ของเชื้อพระวงศ์ฝ่ายสตรีออกมาได้เลยนี่เจ้าคะ แล้วทำไมข้าจะทำบ้างไม่ได้"

         "มันคนละเรื่องกันเลยนะ ที่ข้าเขียนมันคือคดีความดำมืดในอดีต แต่ที่เจ้าเขียนมันคือปัจจุบัน มันสะเทือนราชสำนักเกินไป มันเป็นบาปของวังหลวงเลยนะซอฮยอน"

         "สมควรแล้วเจ้าค่ะที่บาปนั้นจะถูกเปิดโปง"

         "พอที! หยุดเถียงข้าแล้วทำตามที่ข้าสั่ง"

         "ไม่เจ้าค่ะ!" ซอฮยอนตะโกนเสียงดังลั่นจนเชวซังกุงตกตะลึง หญิงสาวลุกพรวดขึ้นและเดินออกจากห้องไปด้วยความโกรธ ทันทีที่นางเลื่อนประตูกรุกระดาษออกก็เจอซุนฮวายืนอยู่พอดี 

         ซอฮยอนชะงักเล็กน้อยก่อนจะหรี่ตาลง

         "สมใจเจ้าแล้วใช่รึไม่ สาแก่ใจเจ้าแล้วใช่ไหมที่งานข้าไม่ได้ถูกส่งไป"

         "ไม่ใช่นะซอฮยอน แต่งานเจ้ามันอันตรายเกินไป เกินไปกว่าที่จะให้คนนอกได้อ่าน" ซุนฮวารีบพูดพลางเอื้อมมือมาจับต้นแขนซอฮยอน "ข้าไม่อยากให้เจ้าไปข้องเกี่ยวกับเรื่องดำมืดพวกนี้ ได้โปรดเขียนเรื่องใหม่ตามที่นายหญิงบอกเถิดนะ" 

         "ไม่!" ซอฮยอนสะบัดแขนอย่างแรงก่อนจะวิ่งออกไปด้วยความโกรธ

         ซุนฮวาทรุดลงกับพื้น

         "ข้า... ข้าไม่ได้มีเจตนาจะทำอะไรไม่ดีต่อนางเลย ข้าแค่เป็นห่วงนางเท่านั้น" หญิงสาวร่ำร้อง

         "ให้เวลานางหน่อยเถิด" เชวซังกุงเดินเข้ามาแตะไหล่ปลอบ

         "แต่เวลาจะไม่มีแล้วนะเจ้าคะ ถ้านางไม่รีบเขียนเรื่องใหม่ขึ้นมาจะไม่ทันการณ์ และก็ไม่ผ่านออซองเคียงวอนนะเจ้าคะ" ซุนฮวาพูด

         "นั่นน่ะสิ ใต้เท้ามุนยองนัมก็มีประชุมกับเหล่าขุนนาง ถ้าเขาอยู่คงจะพอช่วยเกลี้ยกล่อมซอฮยอนได้บ้าง" เชวซังกุงถอนหายใจ "แต่ข้าสงสัยอยู่อย่าง ทำไมซอฮยอนต้องเขียนเรื่องพวกนี้ออกมา มีเหตุผลอะไรกัน ข้าให้เปลี่ยนก็ไม่ยอมเปลี่ยน เหมือนกับมันสำคัญมากอย่างนั้นแหละ สังเกตดูราวกับว่านางต้องการที่จะให้เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป"

         ซุนฮวาคิดใคร่ครวญตามคำพูดของซังกุงห้องเขียนหนังสือ

         "เดี๋ยวข้าจะพูดกับนางเอง เจ้าไปทำเรื่องของเจ้าเถิด แล้วก็อย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกกับใครเด็ดขาด เข้าใจรึไม่" เชวซังกุงกำชับ

         "เจ้าค่ะนายหญิง"

         






          ซุนฮวาเดินแบกกองหนังสือมาวางไว้ในห้องเก็บตำราก่อนจะคัดแยกทีละเล่ม แนอินของกองงานวรรณกรรมที่นั่งกันอยู่สองสามคนเห็นซุนฮวาเดินเข้ามาก็ส่งเสียงถาม

         "ซุนฮวา เจ้าเขียนเรื่องอะไรลงไปหรือ"

         "นายหญิงมีกฎว่าห้ามถามเรื่องผลงานกันไม่ใช่หรือ" หญิงสาวเอ่ย

         "ไม่เห็นเป็นไรนี่ เขาก็พูดกันทั้งนั้น อย่างข้านี่เขียนเรื่องนางโลมไปล่ะ"

         "นางโลมเนี่ยนะ" ซุนฮวาร้องถาม

         "ก็โจทย์บอก มีปากก็เหมือนไม่มี ก็คือนางโลมเนี่ย ไม่สามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำกับคนนอกได้ว่าทำอาชีพอะไร อีกข้อคือ ถูกกระทำก็เหมือนไม่ถูกกระทำ อันนี้ง่ายๆ เวลานางมีความสัมพันธ์ทางกายกับใครนางก็มีไปได้เรื่อยๆ ราวกับไม่เคยหยุดที่ใครเลยอย่างไรล่ะ"

         ซุนฮวาทำหน้าพะอืดพะอม

         "ข้าว่าไม่ใช่หรอกนะ เจ้าคงตีความผิดแน่ๆ"

         "แล้วเจ้าแต่งอะไรออกมา"

         "ไม่บอก"

         "ทำเป็นหวง บอกข้ามาเถอะน่า"

         "ไม่"

         "เชอะ ไม่อยากบอก ข้าก็ไม่อยากรู้ ไปก็ได้" นางกำนัลพูดจบก็ชักชวนเพื่อนเดินออกไปจากเก็บตำรา ซุนฮวาส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะหันกลับมาคัดแยกตำราต่อไป

         เสียงประตูไม้ถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง ซุนฮวากล่าวขึ้นโดยไม่หันไปมอง

         "อย่ามาเซ้าซี้ถามข้าน่า ข้าไม่บอกหรอก"

         เงียบ ไม่มีเสียงตอบ

         ซุนฮวาเอะใจเล็กน้อย นางค่อยๆ หันหลังไปมอง

         นางในร่างใหญ่ผิวคล้ำคนหนึ่งยืนทำหน้าถมึงทึงอยู่กลางห้อง ใบหน้าที่ดูดุร้ายนั้นส่อแววโกรธแค้นออกมาอย่างเด่นชัด ดวงตาดุจงูร้ายจ้องมาที่ซุนฮวาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ที่น่าสะพรึงกลัวกว่านั้นคือข้างแก้มด้านซ้ายของนางมีรอยแผลเป็นพาดยาวขับให้เครื่องหน้าทั้งปวงดูน่าคร้ามเกรงยิ่งขึ้น

         "เจ้า... เจ้าเป็นใคร" ซุนฮวาเอ่ยออกมาพลางก้าวถอยหลังช้าๆ ดูจากชุดชอโกรีสีแดงของนางในตรงหน้าก็พอจะคาดเดาได้ว่ามีตำแหน่งสูงกว่าตนแต่ไม่รู้ว่าอยู่ส่วนงานไหน

         "เจ้าต้องการอะไร มาทำอะไรที่นี่" ซุนฮวาถามอีกรอบ

         "เจ้ากำลังทำผิดมหันต์" นางในแปลกหน้าพูดขึ้นด้วยเสียงที่ฟังดูคุกคาม

         "อะไรนะ"

         "เจ้ากำลังทำผิดอย่างใหญ่หลวงที่ไม่ให้ซอฮยอนส่งวรรณกรรมของตัวเองไปกองกลาง!"

         "เจ้าพูดอะไรน่ะ แล้ว... แล้วรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร"

         หญิงหน้าแผลเป็นย่างสามขุมเข้ามาใกล้ ซุนฮวารีบถอยกรูดชิดผนังห้องอย่างขวัญเสีย

         "ฟังที่ข้าพูดเอาไว้ให้ดี" 

         "พูด.... พูดอะไร"

         นางในร่างใหญ่ยิ้มมุมปาก





    [ต่อจาก 50%]






      
         คิมเซจียื่นห่อผ้าสีม่วงในมือส่งให้คิมซังกุง ผู้เป็นนายหญิงจับจ้องห่อผ้านั้นอยู่สักพักก่อนที่จะค่อยๆ เอื้อมมือคลี่ปมออกและเปิดดูสิ่งของที่อยู่ภายใน

         "เซจี!" เสียงร้องด้วยความตกตะลึงดังลั่นเรือนพัก ดวงตาของคิมซังกุงวาววับอย่างเหลือเชื่อปนอัศจรรย์ใจ "นี่... นี่คือผลงานของเจ้าหรือ"

         "ใช่เจ้าค่ะ ข้าเพิ่งทำเสร็จเมื่อตอนบ่าย นายหญิงคิดว่าอย่างไรเจ้าคะ"

         คิมซังกุงหยิบผลงานชิ้นนั้นขึ้นมาตรวจดูก่อนจะยิ้มอย่างพึงพอใจ

         "นี่มันสุดยอดมากเลยนะ... สุดยอดจริงๆ เจ้าทำได้อย่างไรน่ะ ช่างเก่งนัก" คิมซังกุงชม

         "นายหญิงคิดว่าสิ่งนี้เคยมีคนประดิษฐ์แล้วรึยังเจ้าคะ ในโชซอน" เซจีถาม

         "ไม่มีอยู่แล้ว และข้าว่าของชิ้นนี้ก็ตรงตามโจทย์ของพระมเหสีทุกประการ"

         "จริงหรือเจ้าคะ"

         "ใช่ เจ้านี่อัจฉริยะมากเลยนะ ของคนอื่นๆ นี่สู้เจ้าไม่ได้สักคน เห็นทีเจ้าคงต้องเป็นหนึ่งในสามผลงานกลางลานหินแน่นอน"

         "ขอบคุณมากเจ้าค่ะนายหญิง"

         "รู้อย่างนี้ข้าไม่น่าไปคุยกับปาร์คซังกุงเลย"

         "ปาร์คซังกุง? นางคือซังกุงอาวุโสที่เป็นผู้ตัดสินผลการสอบออซองเคียงวอนในปีนี้ใช่รึไม่เจ้าคะ" เซจีสงสัย

         "ใช่"

         "แล้วนายหญิงไปคุยอะไรกับนางมาเจ้าคะ"

         "ลองเดาสิ"

         เซจีอ้าปากค้าง

         "นายหญิง! ข้าบอกท่านแล้วไม่ใช่หรือเจ้าคะว่าอย่าติดสินบนใคร ข้าจะชนะการแข่งคราวนี้ด้วยตัวของข้าเอง"

         "ข้ารู้เซจี แต่กันไว้ก็ดีกว่าแก้ไม่ใช่หรือ ข้าจ่ายนางไปเยอะมากจนนางรับรองว่าชิ้นงานของเจ้าจะได้เป็นหนึ่งในสามชิ้นงานบนลานหินอย่างแน่นอน แต่ดูท่าแล้วข้าว่าต่อให้ไม่ต้องพึ่งปาร์คซังกุง ผลงานเจ้าก็ต้องได้เป็นอยู่แล้ว โดดเด่นเสียขนาดนี้" พูดจบคิมซังกุงก็ก้มลงดูสิ่งที่อยู่ในห่อผ้าอีกครั้งด้วยความชื่นชม

         "ข้าแค่อยากจะทำอะไรโดยที่ไม่ต้องหวังพึ่งเส้นสายเท่านั้นเองเจ้าค่ะ" เซจีพูด

         "อย่าโง่ไปหน่อยเลย เราต้องรู้จักวางแผนทุกทางสิ" คิมซังกุงดุ "แล้วก็เลิกคิดเรื่องนี้เสียที ส่วนผลงานชิ้นนี้ก็รีบเอาไปส่งยังกองกลางก่อนที่ฟ้าจะมืด เข้าใจรึเปล่า"

         "เจ้าค่ะนายหญิง"













         เมื่อฟ้าเริ่มมืดลง เหล่านางวังรับใช้ก็จัดการเก็บกวาดบริเวณรอบๆ กองงานวรรณกรรมตามกิจวัตร บางคนก็เดินตามไฟยังจุดต่างๆ เพื่อให้เกิดแสงสว่าง ส่วนเหล่านางกำนัลและนางในเดินตบเท้ากลับไปยังเรือนพักเช่นเดียวกับซังกุงทั้งหลาย

         แนอินคนหนึ่งนั่งหลบมุมอยู่ในเงามืดของห้องทำงานซังกุงกับต้นไม้ใหญ่ นางวังรับใช้หลายคนเดินผ่านนางผู้นั้นโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น และเมื่อคนเริ่มเบาบางลง หญิงสาวในเงามืดก็ค่อยๆ ขยับไหวอีกครั้งก่อนจะผลุบหายเข้าไปในห้องทำงานของซังกุงคนหนึ่งราวกับนินจาของพวกนิจิฮง

         ผ่านไปชั่วอึดใจนางก็กลับออกมาอีกครั้ง คราวนี้ในมือมีหนังสือเล่มหนึ่งติดออกมาด้วย สตรีปริศนามองซ้ายมองขวาก่อนจะเดินลงมาจากเรือนซังกุงช้าๆ

         ซุนฮวาเดินสวนเข้ามาปะทะกับหญิงสาวที่เพิ่งลงมาพอดี ทั้งคู่ชะงักกึก

         "ซอฮยอน!" 

         "ซุนฮวา..."

         "เมื่อเย็นเจ้าไปไหนมา ข้าไม่เห็นเจ้าที่โรงอาหารเลย"

         "พอดีข้าไม่หิว" ซอฮยอนตอบ

         "แล้วเจ้ามาทำอะไรที่นี่ เอ๊ะ ในมือนั่นอะไร"

         หญิงสาวรีบเอาหนังสือซ่อนไว้ข้างหลัง

         "ซอฮยอน..."

         "ไม่... ไม่มีอะไร"

         "หนังสือของเจ้าใช่ไหม เจ้าเอามาจากห้องของเชวซังกุงหรือ"

         ซอฮยอนหลับตา

         "ซุนฮวา ขอร้อง ข้าต้องส่งเรื่องนี้จริงๆ ข้าแต่งเรื่องอื่นส่งไม่ได้แล้ว"

         ซุนฮวายืนนิ่ง

         "อีกอย่างข้าก็ไม่มีเวลามานั่งแต่งใหม่แล้วด้วย ผลงานทุกชิ้นของนางกำนัลทุกส่วนงานในการสอบออซองเคียงวอนต้องถูกส่งไปที่กองกลางภายในคืนนี้ เจ้าช่วยหลีกทางข้าเถอะนะ"

         "ซอฮยอน... ข้าขอโทษ"

         "เจ้าจะไม่ช่วยข้าจริงๆ หรือ"

         "ข้าไม่ได้ขอโทษเจ้าเรื่องนี้ แต่ข้าอยากจะขอโทษเรื่องที่ข้างี่เง่า ไม่ไว้ใจเจ้าต่างหาก" ซุนฮวากล่าว

         "อะไรนะ"

         "ข้ารู้แล้ว ข้ารู้แล้วซอฮยอน" 

         "รู้อะไร"

         "เรื่องทุกอย่าง รวมถึงจุดประสงค์ที่เจ้าแต่งหนังสือเรื่องนี้ขึ้นมาด้วย ข้ารู้แล้ว"

         "เจ้ารู้ได้อย่างไร" ซอฮยอนรีบถาม

         "พวกนาง... พวกนางมาเจอข้า"

         "อะไรนะ เจ้าเจอกับพวกนางแล้วหรือ" 

         "ใช่ และก็รู้เรื่องทุกอย่างแล้วด้วย ทั้งความจำเป็นของเจ้า และสิ่งที่เจ้ากำลังจะทำ"

         "เช่นนั้นเจ้าจะไม่ขัดขวางข้าที่จะส่งหนังสือเล่มนี้ใช่ไหม"

         ซุนฮวาส่ายหน้า

         ซอฮยอนโผเข้ากอดเพื่อนรักด้วยความดีใจ

         "ในที่สุด... ในที่สุดเจ้าก็เข้าใจข้า" หญิงสาวพูดออกมาอย่างตื้นตัน "ว่าแต่พวกนางมาเจอเจ้าได้อย่างไรกัน"

         "เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนดีไหม ตอนนี้รีบไปส่งงานของเจ้าก่อนเถิด" ซุนฮวาเตือน

         "จริงด้วย" ซอฮยอนพยักหน้า

         ทั้งคู่วิ่งห้อออกไปในความมืดผ่านประตูกองงานวรรณกรรมก่อนจะมุ่งหน้าเข้าสู่ฝ่ายใน ทหารยามสามนายมองแนอินสองคนที่วิ่งผ่านหน้าไปอย่างแปลกใจ โชคดีที่ยังไม่ถึงเวลาซึ่งห้ามไม่ให้นางกำนัลออกมาเพ่นพ่าน ทั้งซอฮยอนและซุนฮวาจึงไม่สนใจอะไรนอกจากจะวิ่งไปให้ถึงกองกลางเท่านั้น

         เมื่อสองสาววิ่งมาถึงก็พบว่าประตูส่วนกองกลางเปิดอยู่อีกทั้งยังมีแสงเทียนจุดไว้ข้างในก็โล่งอก แต่ความสบายใจมีอยู่ได้ไม่นานเพราะซังกุงคนหนึ่งกำลังเดินมาดึงบานประตูไม้ปิดพอดี

         "นายหญิง!" ซุนฮวาตะโกนลั่นพลางโบกมือไปมา "อย่าเพิ่งปิดเจ้าค่ะ" หญิงสาวรีบจูงแขนซอฮยอนวิ่งเข้าไป

         ซังกุงคนนั้นสะดุ้งโหยงก่อนจะเปิดบานประตูออกดูก็เห็นนางกำนัลสองคนที่วิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น

         "อะไรกันเนี่ย เอะอะโวยวายอะไรกัน ไม่รู้จักสำรวม" นางตวาด

         "นายหญิง... อย่า... อย่าเพิ่งปิดประตูเจ้าค่ะ" ซุนฮวาพูดพลางหอบหายใจ

         ซอฮยอนรีบยื่นหนังสือของตัวเองให้ซังกุงเบื้องหน้าของตน

         "นี่คืออะไร" นางถาม

         "ข้าเป็นนางกำนัลห้องเขียนหนังสือและจดบันทึกสังกัดกองงานวรรณกรรม นี่คือผลงานของข้าในออซองเคียงวอนเจ้าค่ะ"

         "อะไร ทำไมเพิ่งมาส่งเอาป่านนี้ ทุกผลงานถูกส่งเข้ามากันตั้งแต่ตอนเย็นแล้วนะ เจ้ามัวทำอะไรอยู่น่ะ" ซังกุงต่อว่า

         "ข้าติดธุระบาง--"

         "เพราะข้าเจ้าค่ะ" ซุนฮวาแทรกขึ้น "เป็นความผิดข้าเองที่ทำให้นางมาส่งช้า นายหญิงอย่าโทษนางเลยนะเจ้าคะ"

         "แต่นี่มันไม่ตรงเวลาเอาเสียเลยนะ" ซังกุงทำท่าเหมือนจะไม่อยากรับหนังสือของซอฮยอน

         "นายหญิง ได้โปรดเถิดเจ้าค่ะ" ซุนฮวาอ้อนวอน

         ซังกุงทำสีหน้ารำคาญใจอยู่ชั่วครู่ก่อนจะยื่นมือไปรับหนังสือมาจากซอฮยอน

         "ข้าจะยอมให้แค่หนเดียว ทีหน้าทีหลังอย่าชักช้าอีก เข้าใจรึไม่"

         "เข้าใจเจ้าค่ะ" ทั้งสองรับคำเสียงใสก่อนจะโค้งคำนับขอบคุณซังกุงและเดินกลับกองงานของตน

         "ทีนี้ก็มีเรื่องกังวลอยู่แค่เรื่องเดียวแล้วสินะ" ซุนฮวาพูดเมื่อทั้งคู่กลับมาถึงเรือนพักนางกำนัล

         "อะไรหรือ" ซอฮยอนถาม

         "ก็กังวลว่าเราจะสอบผ่านรึเปล่าน่ะสิ" ซุนฮวา "ถ้าข้าไม่ผ่านก็ต้องออกจากวัง"

         "ต้องผ่านสิ แต่ของข้าต่างหากที่อาจจะไม่ผ่าน"

         ซุนฮวาจับมือซอฮยอนอย่างให้กำลังใจ

         "ข้าเชื่อว่ากรรมการผู้ตัดสินการสอบต้องเห็นใจให้ผ่านแน่หลังจากเห็นสิ่งที่เจ้าเขียนลงไป เชื่อข้าสิ"

         "แล้วเชวซังกุงล่ะ เราจะบอกนายหญิงอย่างไรดี"

         ซุนฮวาทำท่าครุ่นคิด

         "ข้าจะไปบอกนางเองว่าเจ้าเขียนเรื่องใหม่ส่งไปแล้ว เอาตามนี้นะ"

         ซอฮยอนพยักหน้า

         









         เช้าวันรุ่งขึ้นเชวซังกุงก็เชิญใต้เท้ามุนยองนัมมายังห้องทำงานเพื่อคุยเรื่องผลงงานที่ซอฮยอนเขียนส่งในออซองเคียงวอน

         "ดีนะที่นางยอมเขียนเรื่องใหม่ส่งไป มิฉะนั้นได้ตายแน่"

         "แล้วงานชิ้นแรกที่นางเขียนขึ้น มันเกี่ยวกับอะไรหรือ" หัวหน้ากองงานวรรณกรรมถาม

         "ใต้เท้าลองอ่านเองแล้วกัน และท่านก็จะรู้ว่าซอฮยอนเป็นคนที่บ้าบิ่นขนาดไหน" เชวซังกุงเดินอ้อมมาที่โต๊ะตัวเตี้ยก่อนจะก้มลงไปค้นหาสิ่งของข้างใน

         มือที่ควานหาหนังสือนั้นปัดป่ายไปมาอย่างรุนแรง เชวซังกุงตาเบิกกว้างก่อนจะก้มลงไปมอง

         หนังสือของซอฮยอนหายไปแล้ว!

         "อะไร...  อะไรกัน" นางก้มลงหารอบที่สองรอบที่สามก็ไม่พบหนังสือดังกล่าว

         "มีอะไร เชวซังกุง" ใต้เท้ามุนยองนัมถาม

         "หนังสือ... หนังสือของซอฮยอนหายไปเจ้าค่ะ!"

         "อะไรนะ!"
         
         เชวซังกุงหน้าซีดเผือด นางผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนจะเดินไปเปิดประตู

         "มีใครอยู่บ้าง"

         "เจ้าคะนายหญิง" นางวังรับใช้คนหนึ่งที่กำลังใช้ผ้าชุบน้ำถูชานไม้หน้าห้องหันมามอง

         "มีใครเข้ามาในห้องนี้ตอนที่ข้าไม่อยู่รึไม่" 

         "เอ ไม่มีนะเจ้าคะ แต่ถ้าเมื่อคืนเห็นมีอยู่นางหนึ่ง"

         "อะไรนะ! แล้วทำไมเจ้าปล่อยให้นางเข้าไป"

         "ก็ข้านึกว่านายหญิงสั่งซอฮยอนให้มาเอาของน่ะเจ้าค่ะ"

         "เจ้าจะบ้าหรือ! ข้าไม่เคยสั่งอะ-- เดี๋ยวนะ เมื่อครู่เจ้าพูดว่าซอฮยอนหรือ"

         "ใช่เจ้าค่ะ แล้วก็ซุนฮวาด้วย"

         "เจ้า... เจ้าว่าอะไรนะ ซุนฮวารึ ไหนเมื่อเช้ามืดนางมาบอกข้าว่าซอฮยอนส่งเรื่องใหม่ไปแล้วนี่ แล้วนี่มันคืออะไรกัน"

         "แสดงว่าพวกนางหลอกเจ้าเสียแล้ว" ใต้เท้ามุนยองนัมกล่าวขึ้น

         เชวซังกุงตกตะลึง 

         "ปล่อยนางไปเถิด ส่งแล้วก็ถือว่าส่งไป"

         "ใต้เท้าไม่เข้าใจ งานของนางจะให้คนอื่นรู้คนอื่นอ่านไม่ได้นะเจ้าคะ" เชวซังกุงเดินไปเดินมาอย่างร้อนรน "ข้าต้องไปที่กองกลาง ไปบอกซังกุงผู้ตัดสินการสอบว่าหนังสือนั่นไม่ใช่ของซอฮยอน หาไม่นาง... นางจะตกอยู่ในอันตราย"

         เชวซังกุงวิ่งลงจากเรือนพักไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ฟังคำทัดทานจากหัวหน้ากองงานวรรณกรรม นางในหลายคนที่อยู่แถวนั้นถึงกับพากันหันมองนายหญิงตัวเองที่วิ่งจนชุดทังอีสะบัดด้วยความแปลกใจ

         กองกลางตอนนี้คลาคล่ำไปด้วยฝูงชนที่มาฟังผลการสอบ นางกำนัลมากมายยืนออกันเต็มแน่นจนแทบไม่มีเนื้อที่ที่จะเดินแทรกเข้าไป หลายคนมีอาการตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด บริเวณบันไดทางขึ้นกองกลางปรากฏซังกุงสิบกว่าคนกำลังยืนเอามือสอดชายผ้าด้านหน้าอย่างสำรวม เชวซังกุงเดินเข้าไป

         "พวกท่านกำลังรออะไรกันหรือ" นางไต่ถามด้วยเสียงอันดังเพื่อกลบเสียงอึกทึกของฝูงชนรอบตัว

         "ผลการสอบกำลังจะประกาศ พวกข้ามารอรายชื่อนางกำนัลในส่วนงานของตัวเองที่สอบผ่าน"

         "อะไรนะ ผลจะประกาศแล้วหรือ"

         ประตูกองกลางถูกเปิดออกช้าๆ ซังกุงอาวุโสในชุดทังอีสีเขียวเข้มเดินออกมา

         "ผลการสอบออซองเคียงวอนประกาศแล้ว ซังกุงแต่ละส่วนงานจงมารับรายชื่อคนที่สอบผ่าน"

         เสียงร้องระงมด้วยความตื่นเต้นของเหล่านางกำนัลดังสนั่นไปทั่วกองกลาง บรรดาซังกุงที่ยืนรออยู่เดินขึ้นบันไดไปเพื่อรับรายชื่อแนอินของตนที่สอบผ่าน

         "ซังกุงห้องเขียนหนังสือใช่รึไม่" ซังกุงอาวุโสถามเชวซังกุง

         "ใช่เจ้าค่ะนายหญิง"

         "นี่คือรายชื่อคนที่สอบผ่าน" นางยื่นซองกระดาษสีขาวให้ เชวซังกุงยื่นมือไปรับ
       
         "เดี๋ยวก่อน..." เสียงเรียกของใครบางคนดังขึ้นจากในห้อง เชวซังกุงชะงักก่อนจะมองเข้าไปก็เห็นซังกุงร่างท้วมอีกคนหนึ่งนั่งอยู่ด้านใน

         "เจ้าบอกว่าเป็นซังกุงห้องเขียนหนังสือรึ" นางถาม

         "ใช่เจ้าค่ะ" เชวซังกุงตอบ

         ซังกุงร่างท้วมหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาชูให้ดูก่อนจะถามว่า "ชิ้นงานนี้ใช่แนอินของท่านรึเปล่าที่เขียนขึ้น"

         เชวซังกุงใจหายวาบ... นั่นคือหนังสือของซอฮยอน

         "ใช่... ใช่เจ้าค่ะ"

         "เข้ามานี่หน่อย ข้ามีอะไรจะคุยด้วย"

         เชวซังกุงใจหล่นลงไปถึงตาตุ่มก่อนจะกลั้นใจเดินเข้าไป...












         นางกำนัลห้องเขียนหนังสือบนเรือนชางวีกำลังเดินกันอย่างสับสนอลหม่าน หลายคนพากันชะเง้อคอมองว่าเมื่อใดนายหญิงของตนจะกลับมา

         "โอ๊ย ข้าทนรอไม่ไหวแล้วนะ ตื่นเต้นจะตายอยู่แล้ว ทำไมนายหญิงยังไม่มาสักทีนะ" คนหนึ่งร้องขึ้น

         "นั่นสิ ส่วนงานอื่นเริ่มประกาศกันแล้วนะ ข้าไม่มีสมาธิจะทำอะไรแล้ว"

         "นายหญิงมาแล้ว!" นางกำนัลคนหนึ่งวิ่งขึ้นบันไดมาก่อนจะร้องบอกทุกคนหน้าตาตื่น คนอื่นๆ พากันกรีดร้องก่อนจะรีบนั่งที่ตัวเองอย่างรวดเร็ว

         เชวซังกุงเดินขึ้นมาบนเรือนชางวี ในมือมีซองกระดาษสีขาวอยู่ ทุกคนมองตามด้วยความตื่นเต้น 

         "สีหน้านางแปลกๆ นะว่าไหม" นางกำนัลคนหนึ่งแอบกระซิบเบาๆ กับเพื่อน

         เชวซังกุงเปิดซองสีขาวและหยิบแผ่นรายชื่อผู้สอบผ่านออกมากางต่อหน้าทุกคน

         "สิบคนที่ข้าจะประกาศต่อไปนี้คือรายชื่อผู้สอบผ่านออซองเคียงวอนในปีนี้ ใครที่ไม่มีชื่อในประกาศก็จงเก็บของและออกไปจากวังได้เลย"

         หลายคนนั่งนิ่งตัวแข็ง แต่บางคนนั้นถึงกับตัวสั่นอย่างใจจดใจจ่อ

         "และรายชื่อผู้สอบผ่าน... มีดังนี้"








    โปรดติดตามตอนต่อไปได้ในชื่อตอน ที่คาดได้และที่คาดไม่ถึง
        





         



         

         
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×