ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กลรักวังหลวง [서현]

    ลำดับตอนที่ #33 : คำสั่งเสีย [100%]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.86K
      134
      28 มิ.ย. 62

    ตอนที่ 33 คำสั่งเสีย





         "ท่าน... ท่านคือ" ซอฮยอนตกตะลึงจนพูดไม่ออก

         "จะตกใจอะไรหนักหนา" เซโจซังกุงถาม "เจ้าคือซอฮยอนใช่หรือไม่"

         "เจ้า... เจ้าค่ะนายหญิง" หญิงสาวลนลานตอบ

         "เจ้าน่ะโชคดีมากรู้ตัวรึไม่"

         "โชคดี? โชคดีอะไรหรือเจ้าคะนายหญิง" 

         เซโจซังกุงหันไปสั่งมหาดเล็กสองพี่น้อง

         "จงเพิ่มชื่อนางเข้าไปเป็นผู้สมัครอีกคน"

         สองมหาดเล็กรวมถึงซอฮยอนอ้าปากค้าง

         "นาย... นายหญิง เพราะอะไร ทำไมถึง" จองเจถามเสียงตะกุกตะกัก

         "ที่นางมาช้าเพราะช่วยซังกุงอาวุโสคนหนึ่งให้พ้นมลทินจากคดีใต้เท้าคัมจาในอดีต"

         "ใต้เท้าคัมจารึขอรับ ท่านหมายถึงอดีตใต้เท้าต้นเครื่องหรือ" จองพันถามหน้าตาตื่น
        
         "ถูกต้อง คดีที่ดำมืดมานานถูกไขให้กระจ่างโดยเด็กคนนี้และผู้ร้ายตัวจริงก็ได้รับการลงโทษทำให้นางมาสมัครช้าไป สาเหตุที่มาช้าคงจะไม่เป็นไรใช่รึไม่หากจะให้ท่านทั้งสองผ่อนปรนให้นาง เด็กคนนี้หากนำความไปทูลฝ่าบาทอย่างไรก็ต้องได้รับความดีความชอบแน่นอน แต่ก่อนอื่นข้าอยากให้โอกาสนางเข้าวัง ราชสำนักจะได้มีคนเก่งเพิ่มเข้ามาอีกคนหนึ่ง หวังว่าท่านคงเข้าใจ" เซโจซังกุงกล่าว

         "แต่ว่านายหญิง--" จองเจร้อง

         "ทำไม ท่านไม่อยากรื้อรายชื่อมาทำใหม่เช่นนั้นหรือ เกรงว่าท่านต้องทำใหม่เสียแล้ว"

         "เอ่อ"

         เซโจซังกุงเหลือบมองหน้าจองเจ

         "ท่านไม่อยากทำหรือ" นางถามเสียงสูง "ทั้งๆ ที่ท่านรู้อยู่แก่ใจว่านางติดเหตุอันใดถึงได้มาล่าช้า ท่านก็ยังจะไม่ให้โอกาสนางหรือ"

         "เอ่อ ข้า... ข้า"

         "หลายสิบปีก่อนเด็กชายพี่น้องสองคนยืนตัวเปียกฝนอยู่นอกวัง ผู้พี่อ้อนวอนให้ใครก็ได้พาเขาและน้องชายเข้าวังในฐานะมหาดเล็ก แน่นอนว่าด้วยเพราะกำพร้าและไร้หัวนอนปลายเท้าจึงยากยิ่งที่จะเข้าวัง แต่เพราะได้โอกาสจากเจ้ากรมมหาดเล็กถึงเข้ามาได้ อีกทั้งยังได้เป็นลูกบุญธรรมของใต้เท้ายู เห็นรึยังเล่าว่าโอกาสนั้นสำคัญไฉน ในอดีตท่านทั้งสองเคยได้รับมัน ปัจจุบันนี้ท่านมีช่องทางเหมาะที่จะให้โอกาสแก่ผู้อื่นบ้างแล้ว เหตุใดจึงไม่ทำ"

         จองเจและจองพันก้มหน้าลง

         "เด็กคนนี้ฉลาดเฉลียวและมีความพากเพียรมุมานะเป็นเลิศ ตอนข้าได้ยินเรื่องนางครั้งแรกก็พิศวงนัก ที่น่าตกใจคือนางสามารถเอาชนะใจฮงซังกุงได้อีกด้วย"

         "เอาชนะใจซังกุงประหลาดได้หรือ!" จองพันร้องขึ้น

         "นางมีชื่อแซ่ หาใช่ซังกุงประหลาด!" เซโจซังกุงตำหนิ จองพันรีบก้มหน้าลง

         "และถึงกฎการอบรมจะถึงยกเลิกไป ฮงซังกุงก็ได้ฝากสิ่งนี้มาให้ท่านด้วย"

         เซโจซังกุงวางกระดาษแผ่นหนึ่งลงบนโต๊ะ มันคุ้นตาซอฮยอนอย่างบอกไม่ถูก แต่เมื่อนางเพ่งมองดีๆ ก็ตกใจ เพราะมันคือใบนับแต้มผู้สมัครเป็นนางกำนัลนั่นเอง

         "เด็กคนนี้ได้สี่สิบแต้ม ฮงซังกุงให้เต็มครบทุกช่องซึ่งไม่มีใครเคยทำได้เลย และต่อให้กฎไม่ถูกยกเลิกข้าก็มั่นใจว่าไม่มีผู้สมัครคนใดทำได้เช่นนาง" 

         มหาดเล็กสองพี่น้องตกตะลึงมองซอฮยอน

         "เอ่อ นายหญิงเจ้าคะ" ซอฮยอนถาม

         "มีอะไรหรือ" นางหันมามอง

         "นายหญิงรู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไรเจ้าคะ"

         "ข้าว่าเจ้าลงชื่อก่อนเถิด เจ้ามานี่เพื่อจะสมัครสอบมิใช่หรือ" นางท้วง

         ซอฮยอนนึกขึ้นได้จึงรีบจับพู่กันจุ่มน้ำหมึกและเขียนลงไปในกระดาษที่จองเจชี้ให้ดู กระดาษแผ่นนั้นปรากฏชื่อผู้สมัครเรียงรายมากมาย หญิงสาวเขียนชื่อตนเองลงไปเป็นคนสุดท้าย

         "กำหนดการคัดเลือกนางในและการจัดสอบจะมีขึ้นในวันมะรืนที่ลานหน้าฝ่ายใน อย่าลืมมาล่ะ หากช้าอีกจะไม่มีใครช่วยเจ้าได้อีกแล้วนะคราวนี้" จองเจกล่าว

         "เจ้าค่ะใต้เท้า" ซอฮยอนรับคำ

         "เรียบร้อยแล้วใช่รึไม่" เซโจซังกุงถาม

         "ขอรับนายหญิง" จองเจตอบ

         "เอาล่ะเจ้า" เซโจซังกุงพูดกับซอฮยอน "ตามข้าออกมาสิ" นางพูดพลางเดินนำออกไปนอกห้องแต่ยังมิวายชวนคุย

         "ข้าได้ยินว่าเจ้าตีความที่ซ่อนไว้ในบทกวีจนรู้ว่าจดหมายถูกซ่อนอยู่ใต้ต้นอึนแฮงนามุอีกทั้งยังลงมือขุดเองกระทั่งเจอเลยหรือ"

         "เอ่อ ข้า... ข้าก็แค่ทำตามที่บทกวีใบ้ไว้แค่นั้นเองเจ้าค่ะ"

         "ดูเจ้าสิ" เซโจซังกุงหัวเราะ "ช่างถ่อมตัวนัก ว่าแต่รู้รึไม่ว่าจะเข้าเป็นนางกำนัลห้องใดหลังจากสอบผ่าน ห้องเครื่องหรือ" 

         "ข้ายังไม่แน่ใจเจ้าค่ะ แต่ที่คิดไว้อาจจะเป็นห้องจดบันทึก"

         "ห้องจดบันทึกหรือ สังกัดกองงานวรรณกรรมนี่นะ เจ้าต้องได้แต้มสูงมากเลยนะถ้าจะเข้าห้องนี้และมีฝีมือในวรรณศิลป์พอสมควรด้วย จงหมั่นอ่านตำราให้ดีถ้าอยากจะเข้าไปจริงๆ"

         "ต้องได้แต้มประมาณเท่าใดเจ้าคะ" 

         "ที่ข้ารู้มาก็ต้องเป็นผู้ที่ทำแต้มได้สูงสุดเจ็ดคนแรกจากผู้สมัครสอบร้อยกว่าคน แต่อย่าเพิ่งกังวลเลย เจ้าอยากรู้มิใช่หรือว่าเหตุใดข้าจึงรู้เรื่องทั้งหมดของเจ้า ออกมาดูเสียสิ"

         เมื่อหญิงสาวเดินออกมาจากห้องรับสมัครสอบเซ็งกักชิก็พบบุคคลสี่คนยืนเรียงกันอยู่หน้าห้อง ซอฮยอนอ้าปากค้าง

        ฮงซังกุง มินซังกุง จางซังกุงและใต้เท้าวอนโจเจ้ากรมอาญานั่นเอง

        "นะ... นายหญิง ใต้... ใต้เท้า นี่มันอะไรกันเจ้าคะ"





    [ต่อจาก 50%]




         ทุกคนแย้มยิ้มให้ซอฮยอนอย่างยินดีพลางเดินเข้ามาหา หญิงสาวมองหน้าแต่ละคนด้วยความสับสนเล็กน้อย

         "เจ้าอุตส่าห์ยอมเสียสละโอกาสมาช่วยข้า เจ้าคิดว่าข้าจะใจจืดใจดำหรือ" ฮงซังกุงพูดยิ้มๆ

         "นายหญิง..."

         "ตอนที่ฮงซังกุงเรียกทุกคนไปคุยยกเว้นเจ้า" จางซังกุงเอ่ยขึ้น "ข้าบอกกับฮงซังกุงว่าเจ้าน่ะมุ่งมั่นอยากช่วยเหลือคดีใต้เท้าคัมจาถึงขั้นเสี่ยงภัยไปห้องเก็บหลักฐานและตั้งใจค้นหาจดหมายใต้ต้นไม้จนไม่สนเรื่องสมัครสอบ ข้าเห็นว่ามันไม่เป็นธรรมกับเจ้าเลยขอให้ฮงซังกุงกับมินซังกุงช่วยเหลือ แน่นอนว่าทั้งคู่ต้องไปหาเซโจซังกุงเท่านั้นถึงจะช่วยได้"

         "ใช่" มินซังกุงพยักหน้า "แต่ถึงข้ากับฮงซังกุงจะเป็นซังกุงระดับสูงและอาวุโส ทว่าก็ไม่มีอำนาจจะไปขอให้เซโจซังกุงมาช่วยอยู่ดี"

         "ข้าจึงอ้อนวอนใต้เท้าวอนโจให้ไปคุยกับเซโจซังกุง เจ้ากรมอาญาแอบชื่นชมเจ้าตลอดเวลาที่ไต่สวน อีกทั้งสามารถไขคดีได้ เขาจึงยอมไปคุยกับเซโจซังกุงให้ โชคดีที่เซโจซังกุงเห็นชอบด้วยจึงมาช่วยเจ้าด้วยตัวเอง แต่เผอิญไม่เจอเจ้าที่เรือนพักนางในจึงคิดว่าเจ้าอาจจะมาที่นี่เลยรีบตามมา แล้วก็เจอจริงๆ" ฮงซังกุงเล่าต่อจนจบ

         ซอฮยอนปลาบปลื้มจนพูดไม่ออก นางก้มศีรษะคำนับทุกคนครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความซาบซึ้ง

         "ขอบคุณเจ้าค่ะนายหญิง ขอบคุณเจ้าค่ะใต้เท้า ขอบคุณ... ขอบคุณจริงๆ" 

         "เอาล่ะ ถ้าสิ้นเรื่องทุกอย่างแล้วข้าขอตัวก่อน" เซโจซังกุงกล่าว ทุกคนยกเว้นใต้เท้าวอนโจก้มหัวให้ นางเหลือบมองซอฮยอนเล็กน้อยก่อนจะกล่าว่า "หวังว่าจะได้เจอเจ้าเป็นนางกำนัลในแนเมียงบูนะ"

         "เจ้าค่ะนายหญิง"

         เซโจซังกุงเอาสองมือสอดชายผ้าด้านหน้าเดินจากไปอย่างสง่าผ่าเผยพร้อมกับใต้เท้าวอนโจในชุดแดง

         จางซังกุงเดินเข้ามาตีแขนซอฮยอนด้วยความตื่นเต้น

         "นี่เจ้าน่ะ โชคดีมากเลยนะรู้รึไม่"

         "อะไรหรือเจ้าคะ"

         "ก็เซโจซังกุงลงมาหาเจ้าด้วยตนเอง ปกติเคยเกิดขึ้นได้ง่ายๆ เสียเมื่อไร นางเป็นซังกุงที่อยู่เหนือทุกคนเชียวนะ ขนาดพระสนมบางพระองค์ยังต้องเกรงใจนาง"

         "จริงหรือเจ้าคะ"

         "จริงสิ นางเป็นซังกุงปกครองนี่นะ เวลาพระมเหสีทรงมีเรื่องเกี่ยวกับฝ่ายในที่ต้องมีพระบัญชาก็ต้องปรึกษากับเซโจซังกุงเสมอๆ ข้านะเข้าวังมาสามสิบปีจนถึงระดับซังแล้วยังไม่เคยได้มีโอกาสพูดคุยกับนางตามลำพังได้เลย เจ้าเพิ่งเข้าวังมาไม่กี่วันก็ได้คุยกับนางสองต่อสองแล้ว น่าอิจฉาเสียจริง"
         
         "น่าอิจฉาตรงไหนเล่าเจ้าคะ" 

         "แล้วเป็นอย่างไร นางดุรึไม่"

         "ไม่เชิงดุเจ้าค่ะ แต่นางดูน่าเกรงขามนะเจ้าคะ"

         ซอฮยอนมองตามหลังเซโจซังกุงที่เดินหายไปจนลับสายตา

         




         เมื่อทั้งสี่กลับเข้ามายังเรือนพัก มินซังกุงก็ขอตัวไปพักผ่อนที่ห้องของนาง ส่วนฮงซังกุงขอค้างที่ห้องของจางซังกุงเพราะประตูห้องนางยังไม่ได้ซ่อม

         "นายหญิง" ซอฮยอนรีบถามทันทีที่นั่งลง "แล้วซอซังกุงเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ"

         "นางปลอดภัยดี ตอนนี้กลับบ้านไปแล้ว" ฮงซังกุงตอบ 

         "นี่หมายความว่านางไม่ต้องรับโทษหรือเจ้าคะ" ซอฮยอนถาม

         "ใต้เท้าวอนโจเห็นว่านางถูกสั่งให้ทำ ถึงแม้จะทำด้วยความแค้นแต่ความแค้นนั้นก็เกิดมาจากฮวอนซังที่วางแผนเอาไว้แต่แรกเช่นกัน อีกอย่างนางเข้าวังมาอีกครั้งเพื่อเปิดเผยความจริงทุกอย่าง ความชอบอันนี้จึงทำให้โทษนางลดลงเหลือแค่ขับออกจากวัง ซึ่งปกตินางก็อยู่นอกวังมาตลอดอยู่แล้ว โทษสถานนี้จึงแทบไม่ได้มีผลอะไรกับนางเลย" 

         "โอ้ จริงหรือเจ้าคะ"

         "ใช่ ชีซังบกพานางออกไปและข้าก็ได้ปรับความเข้าใจกับนางเรียบร้อย ตอนนี้เราทั้งคู่ก็ไม่มีเรื่องติดค้างกันอีกต่อไป"

         "แล้วหมอหญิงคนนั้นเล่าเจ้าคะ" ซอฮยอนเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง "นางเปิดเผยความลับในสำนักหมอหลวง นางจะทำงานที่นั่นได้อยู่รึไม่เจ้าคะ" 

         "ได้สิ" จางซังกุงตอบแทน "ใต้เท้าวอนโจไปกวาดล้างสำนักหมอหลวงด้วยตัวเองพร้อมผู้อำนวยการสำนักหมอหลวง ตำแหน่งหมอใหญ่ก็ถูกเปลี่ยนมาหลายปีแล้ว ข้าว่านางไม่เป็นอะไรแน่นอน"

         "แล้ว... แล้วฮวอนซังเล่าเจ้าคะ" ซอฮยอนถามช้าๆ

         "รายนั้นไม่น่ารอด ถึงรอดก็ถูกเนรเทศ" จางซังกุงพูดอย่างไม่แยแส

         "เนรเทศหรือเจ้าคะ" หญิงสาวรำพึง

         "ทำไม เจ้าห่วงเขารึ" ฮงซังกุงถาม

         "ไม่ใช่เจ้าค่ะ ว่าแต่นายหญิง โทษของท่านที่ไปคุยกับใต้เท้าวอนโจเป็นการส่วนตัวนั่น คืออะไรเจ้าคะ ท่านบอกข้าได้รึยัง" 

         ฮงซังกุงนิ่งเงียบก่อนจะหันไปมองจางซังกุงและพยักหน้าช้าๆ ซังกุงห้องเครื่องปรุงลุกขึ้นพลางเดินออกไปนอกห้องปล่อยให้ทั้งคู่อยู่ตามลำพัง

         ฮงกาเชนิ่งเงียบไปสักพักก่อนจะเอ่ยว่า

         "นี่แหละคือวังหลวง เห็นรึยังว่าความสวยงามของพระราชวัง ความยิ่งใหญ่น่าเกรงขามของราชสำนักจะแฝงเรื่องราวร้ายกาจเช่นนี้ไว้ได้ ซอฮยอน เจ้าจะพบสิ่งเลวร้ายเช่นนี้และอาจรุนแรงกว่านับร้อยนับพันเท่าเมื่อเจ้าเข้าวังเป็นนางใน ตอนนั้นข้าคงไม่อาจไปตามสั่งสอนเจ้าได้อีกแต่ขอให้บทเรียนครั้งนี้และคำพูดของข้าฝังไว้ในหัวใจเจ้าดั่งดวงไฟส่องนำทางยามรอบด้านมืดมน

         "ตอนรู้ว่าเจ้าเข้าวังมาเพื่ออยากแก้แค้น ข้าโกรธนัก แต่หาได้เกลียดเจ้าไม่ ในใจตอนนั้นมีแต่ความกลัว กลัวว่าคนดีอย่างเจ้าจะเป็นเช่นข้าในอดีต สมัยก่อนตอนคนรักถูกฆ่า ข้าก็อยากแก้แค้นมากเสียจนเป็นเหตุให้คนชั่วใช้ความแค้นข้าเป็นเครื่องมือกำจัดศัตรู ข้าเคยพลาดไปในอดีตจึงไม่อยากเห็นเจ้าพลาดอีกเช่นข้า ฉะนั้นข้าจึงโกรธเจ้ามาก 

         "แต่ข้ารู้แล้วว่าเจ้าจะไม่เป็นเช่นนั้น เจ้ายอมทำทุกอย่างเพื่อช่วยข้าจนไม่สนการสมัครสอบ เจ้าเลือกช่วยเหลือแทนที่จะเข้าวังไปแก้แค้น สิ่งนั้นทำให้เห็นว่าเจ้าเหนือกว่าข้า"

         "โธ่ นายหญิง"

         "ข้าจึงมั่นใจว่าเจ้าจะเข้าวังได้แน่นอนและสนับสนุนเต็มที่ ไม่ขัดขวางใดๆ อีก เจ้าพิสูจน์ให้ข้าเห็นแล้วว่าตัวเจ้ามีจิตใจที่สูงส่งนัก"

         ฮงซังกุงเอื้อมมาจับมือของซอฮยอนไว้

         "ขอให้เจ้าโชคดีในการสอบเซ็งกักชินะ ซอฮยอน ข้าคงไม่อาจไปตามดูแลเจ้าได้อีกแล้ว"

         "ทำไมเล่าเจ้าคะนายหญิง"

         "ถึงเวลาที่ข้าต้องออกจากวังเสียที"

         "อะไรนะเจ้าคะ!"

         "ซอฮยอน ข้าอยากออกจากวังมานานแล้วและคาดว่าหลังอบรมผู้สมัครที่เข้ามาเป็นนางกำนัลเสร็จแล้วจึงจะจากไป เพราะอยากดัดนิสัยพวกลูกขุนนางที่ใช้เส้นสายเข้ามา แต่เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้งส่งให้เจ้ามาอยู่กับข้า กลายเป็นว่าข้ากลับถูกเจ้าดัดนิสัยแทน" ฮงซังกุงพูดพลางหัวเราะ

         "แสดงว่าที่ท่านออกจากวังก็คือโทษที่ท่านได้รับหรือเจ้าคะ ที่ไปคุยกับใต้เท้าวอนโจก็คือเรื่องนี้หรือ"

         ฮงซังกุงพยักหน้า

         "ซอฮยอน เจ้าอย่าเศร้าไปเลย เราแค่จากเป็น ไม่ได้จากตาย บ้านข้าก็ไม่ไกลจากวังหลวง เป็นโรงตีดาบที่ใหญ่ที่สุดในฮันยางที่ใครๆ ก็รู้จัก เจ้าจะมาหาข้าเมื่อใดก็ย่อมได้"

         ซอฮยอนขยับตัวเข้ามาสวมกอดฮงซังกุงช้าๆ แต่แนบแน่น ฮงซังกุงลูบศีรษะนาง

         "พรุ่งนี้ช่วงเย็นข้าจะออกไปจากวังพร้อมกับมินซังกุง ต่อไปเจ้าต้องดูแลตัวเองดีๆ นะซอฮยอน มองคนให้เป็น รู้จักคบคน ใครควรเข้าใกล้ ใครควรถอยห่าง เรื่องใดควรยุ่งไม่ควรยุ่ง เจ้าจงใช้สติปัญญาไตร่ตรองดูให้ดี ส่วนหนังสือทั้งหมดในห้องข้าขอมอบให้กับเจ้าทั้งหมด สอบเป็นนางกำนัลให้ได้นะซอฮยอน"

         "เจ้าค่ะ... เจ้าค่ะนายหญิง"






    โปรดติดตามตอนต่อไป
       

         
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×