ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กลรักวังหลวง [서현]

    ลำดับตอนที่ #24 : สิ้นชื่อสกุลฮง [100%]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.96K
      127
      27 เม.ย. 62

                          ตอนที่ 24 สิ้นชื่อสกุลฮง







         ซอฮยอนอ้าปากค้าง 

         "นายหญิง ท่านพูดจริงหรือ"

         ซูกยินพยักหน้า ซอฮยอนถลาเข้ามากุมมือนางทันทีอย่างรวดเร็ว

         "เช่นนั้นมีวิธีไหนที่จะช่วยนางได้บ้างเจ้าคะ วิธีไหนก็ได้ มีบ้างรึไม่เจ้าคะนายหญิง"

         "เจ้าจะบ้าหรือ" จางซังกุงต่อว่า "เจ้าจะไปช่วยอะไรได้ นางต้องโทษทางอาญาเพราะฆ่าคนนะซอฮยอน แล้วคนที่นางฆ่าใช่คนธรรมดาเสียที่ไหน เป็นถึงใต้เท้าต้นเครื่อง ซึ่งถ้านางไม่ได้ทำ ด้วยกระบวนการการไต่สวนก็จะยืนยันความบริสุทธิ์ของนางเอง แต่ถ้าผิดจริงนางก็ต้องรับโทษตามกฎหมายบ้านเมือง แล้วเจ้าจะไปช่วยอะไรได้"

         "ข้อนั้นข้ารู้ดีเจ้าค่ะ แต่ข้าทนเห็นนางถูกกรมอาญาจับไปไม่ได้" ซอฮยอนกล่าวเสียงสั่นสะท้าน

         "เจ้าทำอะไรไม่ได้ มันไม่ใช่เรื่องของเรา สิ่งที่ทำได้คือปล่อยให้มันเป็นไป เหตุการณ์ร้ายแรงใดในวังหลวงถ้ามันไม่ใช่เรื่องของเราก็อย่าไปยุ่งเกี่ยว หาไม่จะมีอันตราย เจ้าควรปิดหูปิดตาเสีย"

         "นายหญิง! ท่านก็พูดง่ายสิเจ้าคะ ข้าอยู่กับนางมา ถึงเวลาจะไม่มากมายแต่ข้าจะปล่อยให้นางต้องโทษโดยตัวเองนิ่งเฉยไม่ทำอะไรเลยไม่ได้ดอกนะเจ้าคะ"

         "แล้วเจ้าจะทำอันใด รับผิดแทนนางหรือ นางทำผิดจริงนะซอฮยอน เจ้าเองก็รู้ ถ้านางถูกใส่ร้ายก็ว่าไปอย่าง หยุดเพ้อเจ้อแล้วนอนเสีย ดึกมากแล้ว"

         "ข้านอนไม่หลับดอกเจ้าค่ะ" ซอฮยอนเอ่ยเสียงเศร้าสร้อย

         จางซังกุงทำเสียงหงุดหงิด

         "เช่นนั้นก็เรื่องของเจ้า ข้าเพลียนัก คืนนี้มีแต่เรื่อง" พูดจบก็เป่าเทียนให้ดับก่อนจะล้มตัวลงนอน

         ซอฮยอนนั่งกอดเข่าพิงผนังห้อง ในหัวครุ่นคิดหลายเรื่องไปมา นางไม่อยากจะเชื่อว่าชั่วยามก่อนตัวเองเพิ่งจะกังวลว่าฮงซังกุงยังจะโกรธนางเรื่องเข้าวังด้วยความแค้นอยู่รึไม่ แต่ทว่าเรื่องอดีตของฮงซังกุงที่เกิดขึ้นกะทันหันนั้นกลบให้นางลืมเลือนเรื่องนั้นไปเสียสิ้น

         หญิงสาวนึกขึ้นได้ว่าลืมกระบะไม้ที่ใส่เสื้อผ้าไว้หน้าห้องของฮงซังกุงซึ่งป่านนี้นางคงมาเจอและรู้ว่าตนเองมายืนแอบฟังเรื่องราวทุกอย่างแล้วเป็นแน่ แต่นั่นไม่สำคัญแล้วในเวลานี้

         ซอฮยอนซุกหน้าระหว่างหัวเข่าสองข้างอย่างเหนื่อยอ่อนพลางคิดในใจว่าไม่แน่ขุนนางคนนั้นอาจจะแค่ขู่ฮงซังกุงก็เป็นได้ แต่ไม่กล้าเปิดโปงจริงๆ คิดได้เท่านั้นหญิงสาวก็จมลงสู่ห้วงนิทราในที่สุด






         นางหลับไปนานเท่าใดไม่รู้ได้แต่ก็ต้องสะดุ้งตื่นเพราะเสียงเรียกอันแหบโหยของใครบางคนจากหน้าเรือนพัก ซอฮยอนยันตัวขึ้นนั่งอย่างงัวเงีย สายตาพร่าเลือนด้วยยังไม่ชินกับความมืดตะคุ่มภายในห้อง อากาศเย็นในเวลาเช้ามืดทำให้นางต้องห่อไหล่ด้วยความหนาว

         เสียงแหบโหยคล้ายจะเรียกชื่อใครสักคนดังขึ้นอีกครั้ง ซอฮยอนหันขวับไปมองที่ประตูพลางเงี่ยหูฟัง

         เสียงเงียบไปแล้ว

         หญิงสาวไม่เคยเจอวิญญาณและไม่เชื่อเรื่องวิญญาณ แต่เสียงเรียกชวนขนหัวลุกในเวลาเช้ามืดเช่นนี้ก็ทำเอาขวัญผวาได้เหมือนกัน

         เทียนในห้องถูกจุดขึ้น จางซังกุงตื่นแล้ว นางเหลือบมองมาที่ซอฮยอนอยู่ชั่วครู่ แสงสว่างจากดวงเทียนส่องให้ทัศนวิสัยในห้องแจ่มชัดขึ้น

        "นายหญิง" ซอฮยอนเรียก "ได้ยินเสียงอะไรจากหน้าห้องรึไม่เจ้าคะ"

        "เสียงอะไรรึ ข้าไม่เห็นได้ยิน" ซูกยินพูดพลางขมวดคิ้วมองไปที่ประตู "เจ้าฝันร้ายหรือไร"

        "ไม่ใช่เจ้าค่ะ ข้าได้ยินจริงๆ"

        "จางซังกุง ซอฮยอนอยู่กับเจ้ารึไม่" เสียงแหบโหยจากหน้าห้องดังขึ้นอีกรอบ คราวนี้ได้ยินชัดเจน

         ซูกยินตาเหลือกรีบวิ่งไปเปิดประตูห้องออกทันที

         มินซังกุงในชุดสีขาวล้วนยืนตัวสั่นด้วยความหนาวอยู่หน้าห้อง เมื่อนางเงยหน้ามองเห็นซอฮอยอนผ่านดวงตาที่ฝ้าฟาง เข่าของซังกุงชราก็ทรุดลงกับพื้นทันทีอย่างหมดแรง

         "นายหญิง!" จางซังกุงกับซอฮยอนกรีดร้องขึ้นพร้อมกันก่อนจะถลาเข้ามาหาซังกุงชราและค่อยๆ พยุงร่างอันสั่นเทาของนางเข้ามาในห้องเพื่อหลบลมหนาว

         "นายหญิง! นี่มันอะไรกันเจ้าคะ ขาแข้งท่านไม่สู้ดีเหตุใดถึงมาถึงที่นี่เล่าเจ้าคะ เรียกให้ข้าไปหาก็ได้" จางซังกุงรีบพูด 

         ซอฮยอนสังเกตว่ามินซังกุงกำลังร้องไห้ นางเอื้อมมือเหี่ยวย่นมากอบกุมมือบอบบางของตนเอาไว้

         "ซอฮยอน ได้โปรดช่วยกาเชทีเถิด ช่วยกาเชที" นางร่ำร้อง

         "นายหญิง เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ"

         "ช่วยกาเชที นางไม่ได้ทำผิด นางไม่ได้ทำผิด"

         "นายหญิง ใจเย็นๆ ก่อนเจ้าค่ะ ค่อยๆ พูด" จางซังกุงกล่าว

         "เมื่อครู่ ทหารจากกรมอาญามาจับฮงซังกุงที่เรือนพัก ด้วยข้อหาในอดีตที่ฆ่าใต้เท้าต้นเครื่อง" มินซังกุงพูดทั้งน้ำตา

         "อะไรนะเจ้าคะ!" ซอฮยอนร้องลั่น จางซังกุงอ้าปากค้าง

         "ทหารพวกนั้นไม่สนใจสักนิดว่าที่นี่คือเรือนพักของนางใน จู่ๆ ก็บุกเข้ามาจับกุม ช่างเลวทรามนัก กาเชนางไม่ได้ทำผิดอะไรสักนิด"

         "นายหญิงเจ้าคะ ฮงซังกุงทำจริงๆ เจ้าค่ะ" จางซังกุงพูดเบาๆ

         ซังกุงชราขมวดคิ้ว หันไปมองซูกยินช้าๆ

         "เจ้า... เจ้าว่าอะไรนะ"

         จางซังกุงตัดสินใจเล่าเรื่องที่ซอฮยอนไปได้ยินมาจากหน้าห้องฮงกาเชให้ซังกุงชราฟังจนหมด

         มินซังกุงหน้าซีดเผือด ส่ายหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย น้ำตาไหลพรั่งพรูอาบแก้ม

         "ไม่ ไม่ใช่ ไม่จริง ไม่ใช่ความจริง" นางคร่ำครวญ

         "เป็นความจริงเจ้าค่ะนายหญิง ฮงซังกุงเองก็ไม่ปฏิเสธ" จางซังกุงพูดต่อ

          "ไม่จริง!" ซังกุงชรากรีดเสียง "ข้าสอนนางมากับมือ รู้จักนางดีกว่าใคร นางไม่มีวัน ไม่มีวันทำเช่นนี้ เรื่องที่นางมีใจให้ทหารชื่อบยอลชินนั่นเป็นความจริง แต่นางไม่มีทางจะฆ่าใครแน่ นี่เป็นการใส่ร้าย ใส่ร้ายชัดๆ --ซอฮยอน" ซังกุงชรารีบหันมาเขย่าแขนหญิงสาว

         "เจ้าต้องช่วยกาเชนะ ต้องช่วยนางนะ ข้ามั่นใจว่านางไม่ได้ทำผิด นางไม่ได้ทำผิดจริงๆ"

         "นายหญิง" จางซังกุงพูดเสียงแผ่ว

         ฉับพลัน ซอฮยอนก็ลุกขึ้นยืนเปิดประตูห้องและวิ่งพรวดตุบตับออกไปจากเรือนพักด้วยความรวดเร็วจนซูกยินตกใจ

        "ซอฮยอน! เจ้าจะไปไหนน่ะ ซอฮยอน นี่" จางซังกุงตะโกนไล่หลังไปทว่าซอฮยอนไม่สนใจ นางวิ่งหายไปทางห้องของฮงซังกุงด้วยความรวดเร็ว

        ซูกยินหลังจากปลอบซังกุงชราจนสติอารมณ์เริ่มสงบลงแล้วก็ค่อยๆ ลุกขึ้นพยุงมินซังกุงช้าๆ และเดินตามซอฮยอนออกไปนอกห้อง





         หญิงสาววิ่งมาถึงหน้าห้องของฮงซังกุงก็พบนางในและบรรดาซังกุงรวมถึงพวกมหาดเล็กยืนออกันอยู่เต็มไปหมด หลายคนต่างจับกลุ่มพูดคุยเสียงดังเซ็งแซ่ บางคนก็พยายามชะเง้อคอมองเข้าไปในห้องด้วยความอยากรู้อยากเห็น

         ทหารจากกรมอาญาในชุดสีดำแดง บนศีรษะใส่หมวดสีดำมีพู่ห้อยพร้อมสายลูกประคำอยู่ใต้คางเดินกันขวักไขว่พร้อมดาบเล่มใหญ่ในมือ บริเวณเอวมีผ้าคาดพร้อมกับตราของกรมอาญา

         ซอฮยอนเดินหลบฝูงชนแออัดจนในที่สุดก็สามารถมองเข้าไปเห็นภายในห้องนายหญิงของตนได้ นางยกมือขึ้นปิดปากทันทีด้วยความตกใจ

         สภาพประตูโครงไม้กรุกระดาษหักพังไม่มีชิ้นดี ภายในห้องพบเสื่อ ที่นอน หมอน โต๊ะตัวเตี้ยกระจัดกระจายเละเทะไปคนละทิศคนละทาง ข้าวของถูกรื้อค้น ฮงซังกุงในชุดสีเขียวเข้มกำลังถูกทหารจับมัดมือไพล่หลังและใช้เชือกสีแดงเส้นใหญ่พันรอบเอวของนางอีกทีอย่างแน่นหนาและกระชากตัวนางให้ลุกขึ้นหามีความปรานีไม่จนซังกุงสูงอายุเซแล้วเซอีก

         ทหารที่แต่งกายคล้ายหัวหน้าหน่วยหันหน้ามาประกาศกับทุกคนที่ยืนดูอยู่ ขณะนั้นจางซังกุงได้พามินซังกุงมาถึงพอดี

        "ฮงกาเชต้องโทษร้ายแรงคดีวางยาพิษลงในอาหารของใต้เท้าคัมจา อดีตใต้เท้าต้นเครื่องจนถึงแก่ความตาย ความผิดนี้ใหญ่หลวงนัก การไต่สวนจะเต็มขั้นและโทษสูงสุดคือประหารชีวิตให้ตายตกไปตามกันและยึดทรัพย์สินสกุลฮงเข้าหลวงทั้งหมด"

         "ไม่!" มินซังกุงกรีดร้องเสียงดังลั่นก่อนจะเป็นลมล้มลงหมดสติไป






    [ต่อจาก 50%]




         "นายหญิง! นายหญิงเจ้าคะ" เสียงของจางซังกุงหวีดร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนกก่อนจะรีบเข้าประคองร่างของซังกุงชราเพื่อไม่ให้หัวฟาดพื้น ผู้คนที่อออยู่หันมามองเป็นตาเดียว

         "ยืนมองกันอยู่ได้ ช่วยพานางเข้าไปในที่ร่มสิ" ซูกยินสั่งนางในที่ยืนอยู่โดยรอบ ทว่าทุกคนกลับนิ่งเฉย ไม่มีใครก้าวเข้ามาให้ความช่วยเหลือสักคน

         "หูหนวกหรืออย่างไร ข้าบอกให้มาช่วยกัน" จางซังกุงตวาด

         "เราไม่ช่วยคนที่มีความเกี่ยวข้องกับฆาตกรเจ้าค่ะ" นางในคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างไม่แยแส

         "เจ้า... เจ้าว่าอะไรนะ"

         "ฮงซังกุงเป็นนางในที่มินซังกุงดูแลมาตั้งแต่เด็ก มีหรือเจ้าคะที่จะไม่รู้เรื่อง ไม่แน่ว่าอาจจะมีส่วนรู้เห็นกับการตายของใต้เท้าคัมจาก็ได้นะเจ้าคะ"

         "นางตัวดี! นี่เจ้ากล้า--"

         "นายหญิงเจ้าคะ" ซอฮยอนรีบวิ่งมาหา "ไม่ต้องสนใจเจ้าค่ะ ปล่อยพวกนางพูดไป เราพานายหญิงเข้าห้องพักก่อนเถิดเจ้าค่ะ" หญิงสาวเข้าประคองร่างมินซังกุงอีกแรง ซูกยินที่ยังโมโหอยู่หันมองพวกนางในแล้งน้ำใจตาขวางก่อนจะค่อยๆ พาซังกุงชราเข้าไปในเรือนพัก

         เมื่อพาร่างของนางมาไว้ในห้องเรียบร้อย จางซังกุงก็รีบวิ่งไปสำนักหมอหลวงเพื่อให้หมอหญิงมาช่วยตรวจอาการของนาง ส่วนซอฮยอนเดินไปเปิดประตูห้องเพื่อให้อากาศถ่ายเท ตอนนั้นเองที่ฮงซังกุงถูกทหารคุมตัวออกมาหน้าเรือนพัก หญิงสาวเห็นดังนั้นก็รีบวิ่งมาทันที

         สีหน้าของซังกุง นางกำนัลและมหาดเล็กในบริเวณนั้นต่างมองมาที่ฮงซังกุงอย่างชิงชังรังเกียจ บางคนถึงขั้นเหยียดหยาม 

         "ไหนว่าเป็นคนดี ถือกฎถือเกณฑ์เป็นที่หนึ่งไม่ใช่หรือ ทำไมอดีตจึงเน่าเฟะนัก" 

         "ก็ทำเรื่องชั่วมาอย่างไรเล่า ถึงอยากปกปิด แต่จะปกจะปิดอย่างไร ความชั่วก็ต้องสำแดงมาอยู่ดี เหมือนนางนี่ไง ทำตัวเป็นคนดี แต่ใจสกปรก"

         "ข้าได้ยินว่านางมีเรื่องชู้สาวด้วย กับนายทหารคนหนึ่ง"

         "ตายจริง มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ เสียแรงที่นับถือ"

         "นั่นน่ะสิ ข้าว่า--โอ๊ย" 

         กลุ่มนางในที่จับกลุ่มคุยต่อว่าต่อขานฮงซังกุงกระเด็นเสียหลักไปคนละทิศคนละทางเพราะซอฮยอนจงใจเดินเข้ามาแทรกกลางกลุ่มและชนทุกคน

         "นางบ้า! ไม่มีตามองรึไง" คนหนึ่งตะโกนก่นด่าไล่หลังซอฮยอนมา แต่นางไม่สนใจ

         ฮงซังกุงที่ถูกมัดกลางลำตัวด้วยเชือกสีแดงอย่างแน่นหนาถูกกระชากอย่างแรงจนนางล้มลงกับพื้น จะลุกก็ลุกไม่ได้เพราะโดนมัดมือไว้ด้านหลัง ทหารนายหนึ่งจึงฉุดให้ลุกขึ้นยืนจนฮงซังกุงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

         "อย่าทำอย่างนั้น อย่าทำกับนายหญิงอย่างนั้น" ซอฮยอนพูดทั้งน้ำตา นางไม่รู้ว่าร้องไห้ตั้งแต่เมื่อใด แต่ภาพที่ฮงซังกุงถูกลากถูลู่ถูกังทำให้นางน้ำตาไหลออกมาทันทีอย่างไม่รู้ตัว ฮงกาเชที่หลับตาอยู่ค่อยๆ เงยหน้าลืมตาเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหู เมื่อเห็นซอฮยอนซังกุงอาวุโสก็ส่ายศีรษะช้าๆ

         "หลบไปให้พ้นทาง เราจะนำนักโทษไปไต่สวนที่กรมอาญา" นายทหารพูดพลางโบกดาบในฝักเพื่อไล่ผู้คนที่ยืนมุงอยู่

         "นักโทษอะไรกัน ท่านพูดบ้าอะไร นางจะเป็นนักโทษได้อย่างไร" ซอฮยอนร้องออกมา 

         "นางต้องโทษฆ่าคน เจ้าโง่" นายทหารตวาด

         "การไต่สวนยังไม่เริ่มด้วยซ้ำ จะกล่าวหานางได้อย่างไรกัน" หญิงตะเบ็งเสียงสู้

         "หุบปากนะ!"

         "ไม่! โอ๊ย!" ซอฮยอนถูกนายทหารผลักอย่างแรงจนล้มหงายลงไปกับพื้น

         "ซอฮยอน ซอฮยอน" ฮงซังกุงตะโกนด้วยความตกใจ

         "นายหญิง นายหญิงเจ้าคะ" หญิงสาวร้องเรียก จะลุกก็ไม่ไหวเพราะยังจุกที่โดนผลักล้มกระแทกพื้น

         "ซอฮยอน" เสียงของฮงซังกุงค่อยๆ เลือนหายเพราะถูกพาตัวออกไปและโดนเสียงคนอื่นดังกลบจนหมด 

         บรรดาคนที่ยืนอยู่พากันแยกย้ายไปคนละทางจนในที่สุดก็เหลือซอฮยอนนั่งปาดน้ำตาอยู่คนเดียว หญิงสาวสะอึกสะอื้นก่อนจะเดินขึ้นมาที่ห้องของฮงซังกุง นางค่อยๆ เก็บข้าวของทุกชิ้นให้เป็นระเบียบดังเดิม กล่องไม้และถ้วยชามบางชิ้นหักพังเสียหายก็ถูกกองไว้มุมหนึ่ง ในขณะนั้นที่ทำน้ำตาก็ไหลพรั่งพรูออกมาไม่หยุดด้วยความสงสารฮงซังกุง เมื่อทุกอย่างเก็บเข้าที่ก็เหลือเพียงบานประตูซึ่งถูกทหารพังจนหักเสียหาย สิ่งนี้ซอฮยอนแก้ไขไม่ได้จริงๆ

         "ฮึ" 

         ขุนนางในชุดสีน้ำเงินหน้าซูบตอบเดินเข้ามามองในห้องและทำเสียงดูแคลนออกมาทีหนึ่ง ซอฮยอนหันไปมอง

         เขาคือคนที่มาคุยกับฮงซังกุงเมื่อคืนนั่นเอง! ถึงแม้จะเห็นในความมืดแต่นางก็มั่นใจว่าคือเขาแน่นอน

         ซอฮยอนผุดลุกขึ้นยืนด้วยความรวดเร็วจนเขาหันมามองด้วยความแปลกใจ

         "สาแก่ใจท่านแล้วใช่รึไม่เจ้าคะ" ซอฮยอนกล่าวเสียงสั่น

         ขุนนางแก้มตอบขมวดคิ้ว

         "เจ้าว่าอะไรนะ"

         "ท่านพอใจรึยังเจ้าคะที่ฮงซังกุงโดนจับไป ไม่ใช่เพราะท่านหรือ!" นางต่อว่า

         ดวงตาของชายชุดน้ำเงินเบิกกว้างอยู่ชั่วขณะด้วยความตกใจก่อนจะค่อยๆ หรี่เล็กลง

         "เจ้าพูดเหลวไหลอะไร" 

         "อย่ามาทำไขสือสิเจ้าคะ ท่านเองมิใช่หรือที่ไปแจ้งกรมอาญาเรื่องฮงซังกุง"

         "ถ้าไม่มีหลักฐานก็อย่าได้บังอาจมากล่าวหาข้า ข้าเป็นใครเจ้ามิรู้หรือ"

         "เป็นใครแล้วสำคัญตรงไหนเจ้าคะ" ซอฮยอนเถียง

         "ซอฮยอน!" จางซังกุงวิ่งพรวดเข้ามาในห้อง เมื่อเห็นขุนนางชุดสีน้ำเงินยืนอยู่ก็รีบโค้งคำนับทันที

         "เอ่อใต้เท้า มาทำอะไรที่นี่เจ้าคะ" 

         ชายหน้าซูบไม่ตอบ เขาตวัดสายตาประสงค์ร้ายมาที่ซอฮยอนก่อนจะเดินออกไปจากเรือนพัก

         "อะไรกัน ถามดีๆ เหตุใดถึงไม่ตอบ" ซูกยินบ่นตามหลัง

         "นายหญิงรู้จักใต้เท้าคนนี้ด้วยรึเจ้าคะ" ซอฮยอนถาม จางซังกุงหันหน้ากลับมา

         "ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว แค่รู้ว่าเขาเป็นใคร เจ้าถามทำไมหรือ"

         "เขาเป็นใครหรือเจ้าคะ"

         "ใต้เท้าฮวอนซัง เป็นผู้ดูแลเรื่องการสอบคัดควากอ" 

         "ใต้เท้าฮวอนซังหรือเจ้าคะ" ซอฮยอนทวนคำช้าๆ พลางทำสีหน้าครุ่นคิด

         "ทำไม เจ้ามีอะไรรึ" ซูกยินสงสัย

         "ใต้เท้าผู้นี้แหละเจ้าค่ะ คนที่มาคุยกับฮงซังกุงเมื่อคืน"

         "อะไรนะ!"







    โปรดติดตามตอนต่อไป
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×