ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กลรักวังหลวง [서현]

    ลำดับตอนที่ #13 : บททดสอบแรก [100%]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.09K
      92
      27 เม.ย. 62

                        ตอนที่ 13 บททดสอบแรก






         "ซังกุงประหลาด เจ้าพูดว่าซังกุงประหลาดหรือ" มหาดเล็กพันซอกถามเสียงดังลั่น

         "ใช่ นางจะมาร่วมด้วย"

         "แล้วพระมเหสีก็ทรงเห็นด้วยหรือ" 

         "ขอรับ ข้าก็ไม่รู้ว่าเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร แต่แน่นอนว่านางขอเข้าร่วมการคัดคนด้วย"

         "นี่มันบ้าชัดๆ นางจะออกจากวังอยู่แล้วทำไมถึงยังมายุ่มย่ามกับเรื่องนี้นะ" พันซอกเอ่ยอย่างครุ่นคิด

         "แล้วกฎใหม่ที่พระมเหสีทรงรับสั่งคืออะไรหรือ" มหาดเล็กจองโฮถามขึ้นบ้าง

         "ข้าก็ยังไม่รู้แน่ชัด แต่ซังกุงคนสนิทพระองค์จะมาที่นี่เพื่อประกาศกฎใหม่ พวกเราก็รีบเถิด"

         ทันทีที่รู้ว่าซังกุงจากตำหนักกลางจะมาที่นี่เหล่ามหาดเล็กก็รีบทำงานด้วยความว่องไวทันที ไม่นานผู้สมัครทุกคนก็ยืนอยู่ใต้เรือนหลังคากระเบื้องจนครบถ้วน ซอฮยอนมองไปรอบตัวก็รู้สึกว่าหญิงสาวทุกคนมีอาการสำรวมเรียบร้อยนักราวกับฝึกกิริยามารยาทจากนอกวังมาแล้วอย่างเชี่ยวกรำกระนั้น เมื่อเห็นเช่นนี้ก็พลันหวนนึกถึงตนเองที่ไม่เคยผ่านการขัดเกลาเฉกเช่นสตรีชาววังมาก่อนเลย 
     
         ปาร์คฮาวอนยืนมองอยู่ไม่ห่าง ซอฮยอนรีบยกมือส่งสัญญาณให้เขามาใกล้ๆ ชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็เดินเข้ามาถาม

         "มีอะไรหรือ"

         "ข้ามีเรื่องสงสัย ซังกุงประหลาดคืออะไรรึ"

         ฮาวอนหัวเราะ

         "นางคือซังกุงสูงอายุ ใกล้จะออกจากวังเต็มทีเพราะแก่ตัวมากแล้ว ที่มีคนกล่าวขานว่าประหลาดก็เพราะอุปนิสัยนาง"

         "อย่างไรรึเจ้าคะ" หญิงสาวซักต่อ

         "นางเป็นคนดุที่ไม่เคยพอใจกับสิ่งใดสักอย่าง เอาใจยาก เรื่องมาก เคร่งระเบียบชอบจับผิดเพ่งโทษ สิ่งใดที่ผิดหูผิดตานาง นางจะขจัดออกไปจนหมด" ฮาวอนเล่า

         "ข้าว่าก็เป็นเพียงอุปนิสัยนางนี่เจ้าคะ หาประหลาดตรงไหนไม่" ซอฮยอนเอ่ย

         "เจ้าไม่เคยพบนางเจ้าไม่มีทางรู้ดอก นางกำนัลทั้งวังต่างชังน้ำหน้าเพราะความเอาแต่ใจของนาง เรื่องบางเรื่องผ่อนปรนได้ก็มิเคยยอม ครั้งหนึ่งมีคนนวดให้นางผิดจุดนางไล่ตะเพิดไปอยู่นอกวังเลย วันดีคืนดีทหารในลานฝึกซ้อมรบเสียงดัง นางเดินถือโคมไฟมาปาใส่อีกทั้งยังชี้หน้าด่าทุกคนกราดไปหมด"

         "อะไรนะเจ้าคะ! นี่เป็นเรื่องจริงหรือ"

         "จริงสิ ข้าถึงยังไม่เข้าใจอยู่นี่อย่างไรเล่าว่าเหตุใดเบื้องบนจึงส่งซังกุงคนนี้มาร่วมคัดนางกำนัลเข้าวังหลวง นางไม่เหมาะสมสักนิด คัดเลือกปีนี้ได้ปั่นป่วนเป็นแน่" ฮาวอนกล่าวอย่างกังวล

          มหาดเล็กทุกคนในชุดสีเขียวเดินเข้ามาในเรือนที่บรรดาผู้สมัครยืนอยู่ ก่อนจะยืนเรียงแถวอยู่ด้านหลังอย่างสงบ เหล่าญาติของผู้สมัครรวมถึงฮาวอนก็ค่อยๆ เดินถอยห่างออกไป

          ไม่นานก็ปรากฏนางกำนัลประมาณสิบคนเดินเรียงแถวกันเข้ามาอย่างเป็นระเบียบ ทุกคนใส่เสื้อชอโกรีสีแดง คอเสื้อและข้อมือขลิบด้วยสีดำ หน้าอกมีผ้าผูกเป็นปมเรียบร้อยถัดลงมาเป็นกระโปรงซีมาคลุมเท้าสีน้ำเงินเข้ม ซอฮยอนสังเกตว่าทุกนางจะไว้ผมทรงแซอังมอรี(1)กันหมด แทงกีด้านหลังก็ผูกกระชับไว้เรียบร้อยดูงดงาม

         แต่ละนางยืนล้อมรอบผู้สมัครเว้นระยะห่างกันประมาณหนึ่งช่วงแขน ก่อนจะกุมมืออย่างสำรวมและก้มหน้าลงโดยไม่พูดคุยกันเลยซึ่งบ่งบอกถึงการถูกฝึกมาอย่างดีเยี่ยม ผู้สมัครทุกคนในเรือนต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่ก บรรยากาศอันน่าอึดอัดบางอย่างที่บอกไม่ถูกค่อยๆ แผ่ลงมาปกคลุมทุกคน แม้แต่ซอฮยอนเองก็รู้สึกเกร็งแปลกๆ ผู้หญิงบางคนแสดงสีหน้าวิตกกังวลออกมาอย่างเด่นชัด เหงื่อซึมออกมาตามไรผมเพราะความกดดันและเคร่งเครียด

         "ตายจริง! พวกนางมาแล้ว" หญิงสาวนางหนึ่งร้องขึ้นและชี้มือไปที่ลานหิน ทุกคนมองตาม

         ขบวนซังกุงกำลังเคลื่อนที่ตัดผ่านลานหิน ซังกุงชุดสีเขียวเข้มไว้คาเชเด่นเหนือกว่าทุกคนในคณะอีกทั้งยังมีออ-ยอมจกดูรีประดับศีรษะเดินนำเหล่าซังกุงชุดสีเขียวอ่อนเข้ามา การแต่งกายของพวกนางจะต่างกับนางกำนัลอีกอย่างหนึ่งคือเสื้อซึ่งมีชายผ้าทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และทุกนางจะซุกมือไว้ในชายผ้าด้านหน้ากันอย่างสำรวม

         "โปรดอยู่ในความสงบด้วย" นางกำนัลคนหนึ่งเอ่ยเตือนเมื่อเห็นบรรดาผู้สมัครชะเง้อคอมองอย่างลุกลี้ลุกลน ทุกคนได้ยินก็รีบยืนก้มหน้าลงดังเดิมทันที

         ซังกุงชุดเขียวอ่อนยืนประจำตำแหน่งโดยรอบ ยกเว้นเพียงซังกุงชุดเขียวเข้มที่เดินเข้ามาในเรือนต่อหน้าผู้สมัครทั้งหมด นางยืนกวาดตามองทุกคนอย่างประเมินค่า

         "นั่งลง" นางสั่งเสียงห้วน ทุกคนรีบนั่งลงกันอย่างพร้อมเพรียงยกเว้นนางกำนัลและซังกุงที่ยืนล้อมรอบอยู่

         "ข้าคือยุนซังกุง ซังกุงคนสนิทของพระมเหสีและนี่คือพระบัญชา" ยุนซังกุงหยิบม้วนสารสีแดงที่คล้ายฎีกาเวลาถวายให้ฝ่าบาทคลี่ออกอ่านด้วยเสียงอันดัง

         "ทุกปีราชสำนักจะมีการใช้เส้นสายอุปถัมภ์ค้ำจุนให้สตรีที่อายุสิบสามปีจนถึงสิบหกปีเข้าวังหลวง ซึ่งเป็นการผิดกฎอย่างมหันต์เพราะนางในต้องฝึกตั้งแต่ยังเป็นนางกำนัลเด็ก แต่เพราะสตรีเหล่านั้นเป็นลูกขุนนางที่มีผลประโยชน์กับราชสำนักจึงรับเข้าหมดทุกคนในทุกปี แต่ทว่าปีนี้พระมเหสีทรงมีพระดำริให้เปลี่ยนกฎใหม่นั่นคือ"

         ความเงียบเข้าปกคลุม ผู้สมัครทุกคนกลั้นหายใจเพื่อรอฟังยุนซังกุงกล่าวต่อ ซังกุงคนสนิทยิ้มก่อนจะประกาศออกมา

         "ผู้สมัครจะไม่สามารถเข้าวังได้ทุกคน และต้องเข้ารับการทดสอบที่เรียกว่า 'การรับรองจากซังกุงอบรม' ซึ่งถ้าใครไม่ผ่านก็จะตกรอบทันที"





                                 


         "อะ... อะไรนะเจ้าคะ" หญิงสาวในชุดชอโกรีสีม่วงร้องถาม "กฎอะไรกันเจ้าคะ ปีนี้ไม่รับทุกคน นายหญิงหมายความว่าอย่างไร"

         "ไม่รับทุกคนก็หมายความว่าพวกเจ้าที่ยืนอยู่ตรงหน้าข้าตอนนี้จะมีบางคนไม่ได้เข้าวังเป็นนางกำนัล" ยุนซังกุงกล่าวเสียงกังวาน

         ผู้สมัครทุกคนรีบหันหน้าคุยกันทันที หลายเสียงที่ดังออกมาแสดงความไม่พอใจอย่างเด่นชัด

         "เงียบนะ!" ยุนซังกุงตวาด

         "ข้าไม่สนใจว่าพวกเจ้าจะเป็นลูกใคร บิดามารดาจะใหญ่คับวังแค่ไหน แต่ถ้าจะเข้ามาอยู่ฝ่ายในก็ต้องทำตามกฎ อย่าคิดว่าทำสิ่งใดก็ได้ตามอำเภอใจ  และการทดสอบครั้งนี้ก็เพื่อคัดกรองคนไปเข้าสอบเซ็งกักชิ(2)เพื่อเป็นแนอิน (นางกำนัลไม่มียศ) เต็มตัว"

         "นี่หมายความว่า 'การทดสอบจากซังกุงอบรม' อะไรนั่นไม่ได้การันตีว่าเราจะได้เข้าวังเลยหรือเจ้าคะ ต้องไปสอบเซ็งกักชิอีกรึเจ้าคะ"

         "ถูกต้อง ซึ่งต่อให้เจ้าผ่าน 'การทดสอบจากซังกุงอบรม' แต่ถ้าเซ็งกักชิตกก็ไม่มีโอกาสเป็นนางกำนัล แต่ข้าว่าเจ้าควรสนใจบททดสอบแรกก่อนที่จะไปคิดเรื่องเซ็งกักชิดีกว่า"

         "นี่มันไม่ยุติธรรมชัดๆ" หลายเสียงตะโกนออกมาอย่างไม่เห็นด้วย "จะให้เราทดสอบอะไรหลายรอบเล่าเจ้าคะ ปีก่อนไม่เห็นเป็นอย่างนี้เลย"

         "แล้วเจ้าคิดว่าการที่พวกเจ้าใช้อิทธิพลของตระกูลเข้าวังมาตอนโตโดยไม่ต้องฝึกฝนใดๆ จู่ๆ ก็เข้ามาเลยโดยไม่ต้องผ่านการทดสอบนั้นยุติธรรมกับนางกำนัลที่เข้ามาแต่เด็กแล้วอย่างนั้นหรือ" ยุนซังกุงเอ่ยพลางผายมือไปทางเหล่านางกำนัลชุดแดงที่ยืนสงบนิ่งรอบด้าน

         "พวกนางเหล่านี้เข้าวังมาตั้งแต่หกขวบ ผ่านการฝึกฝนและทดสอบต่างๆ อย่างหนักซึ่งพวกเจ้าไม่เคยได้เคยสัมผัสเลยแม้แต่นิดเดียว พระมเหสีทรงพระปรีชาชาญเล็งเห็นถึงความจริงข้อนี้จึงทรงตั้งกฎใหม่ขึ้นมาเพื่อความเท่าเทียมกัน"

         "ข้าไม่สน ข้าเป็นลูกสาวเจ้ากรมอาญาใต้เท้าจางอึยจอง เหตุใดถึงยังต้องมาเข้ารับการทดสอบโง่ๆ นี่ บิดาข้าทำความดีความชอบให้กับราชสำนักมากมายนะเจ้าคะ" หญิงสาวคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างโกรธเคือง

         "ถ้าเช่นนั้นก็เชิญกลับไป เดินออกนอกประตูไปเสีย ฝ่ายในไม่ต้องการนางกำนัลเห็นแก่ตัวเช่นเจ้า" 

         "นายหญิง! ท่านกล้าพูดกับข้าขนาดนี้เชียวหรือ"

         "หุบปากนะนางตัวดี!" ยุนซังกุงกรีดเสียงตาลุกวาว "นี่คือพระบัญชาจากพระมเหสีประมุขของแนเมียงบู ถ้ารับไม่ได้หรือทำไม่ได้ ถือว่าตนเป็นลูกคุณหนูก็ไสหัวออกไปเสีย"

         หญิงสาวลูกใต้เท้ากรมอาญาพูดไม่ออก ได้แต่ก้มหน้าลงกับพื้นอย่างยอมจำนน

         "มีใครจะคัดค้านอะไรอีกรึไม่" ซังกุงคนสนิทของพระมเหสีประกาศ คราวนี้ทุกคนเงียบสนิทไม่มีใครกล้าพูดอันใดออกมาอีก

         ยุนซังกุงหันไปพยักหน้ากับซังกุงที่ยืนด้านข้าง นางก้มศีรษะให้และหยิบไหใบสีขาวออกมาวางบนโต๊ะสูงจนทุกคนมองเห็นได้เด่นชัด

         "ไหใบนี้บรรจุกระดาษม้วนเล็กๆ หลายใบ พวกเจ้าต้องเข้ามาหยิบไปคนละใบ ซึ่งในนั้นจะมีชื่อซังกุงที่เจ้าต้องไปรับการทดสอบเพื่อรับรองการเข้าวัง จำไว้เสมอว่า ถ้าซังกุงของเจ้าไม่ให้ผ่าน ก็คือตกรอบ"

         ทุกคนเดินต่อแถวเข้ามาล้วงหยิบแผ่นกระดาษไปคนละใบ ซอฮยอนเองก็ได้มาใบหนึ่งเช่นกัน ปาร์คฮาวอนที่ยืนอยู่ด้านนอกโบกไม้โบกมือให้กำลังใจ เมื่อผู้สมัครได้แผ่นกระดาษครบถ้วนทุกคนก็เปิดชื่อออกดู

         "ข้าได้ชีซังกุงล่ะ" คนหนึ่งร้องขึ้น "ซังกุงตำหนักไหนกันนะ"

         "ข้าได้เชวซังกุง นางใจดีนี่น่า โอ๊ยโล่งอกไปที" อีกคนพูดด้วยความดีใจ

         "เจ้าได้ใคร" หญิงสาวคนหนึ่งถามซอฮยอนพลางเหลือบมองแผ่นกระดาษในมือ

         ซอฮยอนคลี่กระดาษออกดูชื่อและพูดออกมา

         "ฮงซังกุง"

         ทุกคนในเรือนหลังคากระเบื้องเงียบกริบ หันมามองนางเป็นตาเดียว แม้แต่ยุนซังกุงเองก็เบนสายตามาจับจ้องที่ซอฮยอนแน่นิ่ง

         "มีอันใดผิดปกติหรือ" ซอฮยอนเอ่ยถามอย่างแปลกใจ ยุนซังกุงถอนหายใจและพูดออกมา

         "ฮงซังกุงที่เจ้าจับได้ คือซังกุงประหลาด"




    โปรดติดตามตอนต่อไป


    เชิงอรรถ


    (1) แซอังมอรี หมายถึง ทรงผมของเหล่าสตรีในฝ่ายในชั้นนางในระดับกลางลงมาตลอดจนหมอหญิงและคนงานต่างๆ โดยรวบผมที่ถักเปียไว้หลังศีรษะแล้วผูกด้วยริบบิ้นผ้า (แทงกี)

    (2) เซ็งกักชิ หมายถึง นางกำนัลเด็ก ซึ่งในที่นี้แม้ผู้สมัครที่เข้ามาเป็นนางกำนัลจะโตเป็นสาวแล้วแต่ก็ต้องผ่านการสอบเป็นเซ็งกักชิตามธรรมเนียมของฝ่ายใน



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×