ลำดับตอนที่ #98
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #98 : เกาะวัว(1) [100%]
ตอนที่ 98 เกาะวัว
ซังกุงตรวจการกลับมายังลานหินหน้าเรือนพักนางในอีกครั้ง ตามด้วยลีซังกุงที่ดูจะโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงมากกว่าใครเพื่อน
"มีใครออกจากบริเวณนี้บ้างตอนที่ข้าไปบ่อน้ำ" ซังกุงตรวจการถามทุกคนที่ยืนอยู่
บรรดาซังกุงและนางในมองหน้ากันไปมาด้วยความงุนงง ใต้เท้ามุนขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะตอบออกไปว่า
"ไม่มีใครไปไหนทั้งนั้น ท่านก็สั่งไว้เองมิใช่หรือ"
"โกหก!" ลีซังกุงกรีดเสียง "มีคนแอบไปช่วยนางให้หนีชัดๆ หนึ่งในพวกเจ้าต้องสมรู้ร่วมคิดกับเรื่องนี้แน่ๆ!"
"อะไรนะ หนีหรือ" เชวซังกุงร้องเสียงสูง "ซอฮยอนหนีไปหรือ"
"อย่ามาตีหน้าซื่อทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจนะ!"
"มีสติบ้างเถิด ลีซังกุง" เชวซังกุงกล่าวอย่างดูหมิ่นก่อนจะหันไปทางซังกุงตรวจการ "นายหญิง นี่มันเรื่องอะไรกันเจ้าคะ"
"นางในซอฮยอนไม่อยู่ที่บ่อน้ำ ตามหาโดยรอบเท่าไรก็ไม่เจอ" นางตอบ
"เอ่อ ข้าขอโทษเจ้าค่ะ ข้าจำผิด วันนี้ไม่ใช่เวรนางแช่กระดาษหรอกเจ้าค่ะ แต่เป็นเวรอีซึลต่างหาก" ซุนฮวารีบพูดออกไป หวังว่าการโกหกในครั้งนี้จะกู้ความเสียหายก่อนหน้าที่เผลอพูดออกไป
อีซึลหันมามองซุนฮวาที่ยืนข้างกายอย่างงุนงง แต่เมื่อถูกเท้าใต้กระโปรงชอโกรีของนางเหยียบลงมาเบาๆ ก็เข้าใจในเจตนา หญิงสาวรีบพูดออกไปว่า
"ใช่เจ้าค่ะนายหญิง วันนี้เวรข้าเอง" อีซึลเอ่ย
"โกหกอีกตามเคย เมื่อครู่ข้าวของระเกะระกะที่ข้างบ่อน้ำเห็นได้ชัดๆ เลยว่าก่อนหน้านี้มีนางในกำลังแช่กระดาษอยู่แต่หยุดค้างกะทันหันเพราะมีคนมาพาหนีไป" ลีซังกุงกล่าวเสียงดัง
"ก็ตอนที่ข้าทำอยู่มีซังกุงตรวจการมาที่เรือนพักและเรียกรวมทุกคน ข้าก็ต้องหยุดงานในมือเพื่อรีบมาตรงนี้สิเจ้าคะ แปลกตรงไหนกัน" อีซึลพูดต่อ
ลีซังกุงอ้าปากเตรียมตวาด แต่ไม่รู้ว่าจะหาข้อใดมาจับผิดอีกจึงได้แต่ทำปากพะงาบๆ อยู่ฝ่ายเดียว
"แล้วตอนที่ซุนฮวาบอกว่าวันนี้เป็นเวรซอฮยอน ทำไมเจ้าถึงไม่เห็นคัดค้านเล่าเมื่อรู้ว่านางจำผิด" ซังกุงตรวจการถามอีซึล
"ใช่ๆ ทำไมเล่า" ลีซังกุงรีบพูดสนับสนุนทันที
"ตอนนั้นข้าง่วนอยู่ในเรือนพักอยู่เลยเจ้าค่ะ พวกท่านรื้อของข้าออกมากระจัดกระจายขนาดนั้น ข้ามัวแต่เก็บกวาดอยู่จึงไม่รู้หรอกเจ้าค่ะว่าด้านนอกซุนฮวากล่าวอะไรกับนายหญิงไปบ้าง" อีซึลลดเลี้ยวต่อ
"จริงรึ เจ้ายังอยู่ข้างในรึตอนนั้น" ซังกุงตรวจการถามเสียงคลางแคลง
"จริงเจ้าค่ะ ข้ายืนยันได้" เชวซังกุงพูดแทรก "นางในหลายคนยังไม่ออกมาจากเรือนพักเลยตอนนั้น อีซึลเองก็ด้วยเจ้าค่ะ"
ซังกุงตรวจการหรี่ตาลงสักพักก่อนจะถามว่า
"เช่นนั้น นางในซอฮยอนก็ออกไปทำงานนอกวังจริงๆ อย่างที่เจ้าว่าหรือเชวซังกุง"
"ใช่เจ้าค่ะ ข้าบอกนายหญิงไปแล้วตั้งแต่ก่อนจะมาค้นที่เรือนพักเสียอีก"
"เช่นนั้นนางไปที่ไหน ไปทำอะไร แล้วกลับเมื่อใด"
"ไปวัดบนเขาเจ้าค่ะ นางไปคัดบทสวดมนต์และคัมภีร์ของไต้ซือกัมจง ส่วนเวลานั้นข้าให้เวลานาง 10 วันเจ้าค่ะ"
"อะไรนะ!" ซังกุงตรวจการอุทาน "แค่จดคัมภีร์ทำไมถึงใช้เวลาเป็นสิบวัน"
"มันเยอะมากนะเจ้าคะ แล้วมีหลายฉบับมาก บางฉบับก็ต้องเขียนแปลความหมายอีกทีทั้งภาษาจีนและฮันกึลด้วย นางต้องทำและค้นคว้าคนเดียว ข้าว่า 10 วันน้อยไปด้วยซ้ำเจ้าค่ะ"
"นายหญิง" ลีซังกุงเอ่ยขึ้น "เห็นได้ชัดว่าพวกนางพูดเพื่อปกป้องนางในคนนั้น มันเป็นการรวมหัวกันชัดๆ"
"รวมหัวรึไม่เดี๋ยวก็รู้ เพราะว่าเมื่อใดที่นางผู้นั้นกลับมาก็ต้องได้รับการไต่สวนอยู่ดี" ซังกุงตรวจการกล่าวจบก็หันกายเดินออกจากบริเวณนั้นไปพร้อมกับเหล่าซังกุงคนอื่นๆ ที่ก้าวตามหลัง ลีซังกุงส่งสายตาพยาบาทให้เหล่านางในห้องเขียนหนังสือและจ้ำอ้าวตามออกไปเช่นกัน
"นี่เจ้าคิดจะทำอะไร ทำไมถึงโกหกไปเช่นนี้" ใต้เท้ามุนยองนัมเดินเข้ามาถามเชวซังกุงทีนทีที่ฝ่ายตรวจการเดินจากไป
"แล้วจะให้ทำอย่างไรเจ้าคะ ก็มีแค่ข้ออ้างนี้เท่านั้นเพราะข้าเคยส่งนางในไปลอกคัมภีร์ที่วัดบนเขามาจริงๆ ข้าคิดข้ออ้างอื่นไม่ออกหรอกเจ้าค่ะ ส่วนเรื่อง 10 วัน ข้าก็แค่ยืดให้มันนานหน่อย เพราะต่อให้ซอฮยอนกลับมาก่อนก็ไม่ได้เสียหายอะไร"
"แต่ถ้าพวกนางรู้ความจริง--"
"ข้ารู้เจ้าค่ะ แต่ตอนนี้พวกนางยังไม่รู้ไม่ใช่หรือ ข้อสงสัยตอนนี้คือใครที่พาซอฮยอนหนีไปต่างหาก"
"ข้าเองก็สงสัยข้อนี้เหมือนกัน ซุนฮวา เจ้าเองก็ไม่รู้หรือ"
"ไม่ทราบเลยเจ้าค่ะใต้เท้า"
"หรือนางจะหนีไปเอง?" อีซึลตั้งข้อสันนิษฐาน
"ไม่ใช่หรอก ซอฮยอนไม่ใช่คนหนีปัญหา" ซุนฮวาพูด
"นายหญิงเชวซังกุง" นางวังรับใช้คนหนึ่งเดินเข้ามาก้มศีรษะให้ "มีจดหมายจากมหาดเล็กคนหนึ่งฝากข้ามาให้ท่านเจ้าค่ะ"
"มหาดเล็กอะไรกัน" นางถาม
"ไม่ทราบเจ้าค่ะ นายหญิงเปิดอ่านดูเองเถิด" นางวังส่งจดหมายให้เชวซังกุงก่อนจะโค้งคำนับและเดินจากไป
นายหญิงแห่งห้องเขียนหนังสือเปิดจดหมายออกอ่านช้าๆ ทันทีที่นางอ่านจบก็ถึงกับขยุ้มจดหมายเป็นก้อนกลมทันทีอย่างรีบร้อนก่อนจะส่งมันให้ซุนฮวา
"เอาไปเผาทิ้ง เร็วเข้า"
"อะไรนะเจ้าคะ"
"ข้าบอกให้เอาไปเผาทิ้ง แล้วตามข้ามาที่ห้องพักด้วย เรียนเชิญท่านด้วยนะเจ้าคะ ใต้เท้ามุน"
"อะไรนะ! นางหนีไปได้หรือ" คิมซังกุงตะเบ็งเสียงลั่นเรือนพัก
"นายหญิง เบาๆ หน่อยเจ้าค่ะ" ซงฮวันซึ่งนั่งอยู่ใกล้ๆ กับซังกุงตรวจการกล่าวเสียงอ่อนอย่างกลัวว่าคนข้างนอกจะได้ยิน
"บอกข้ามาอีกที นางหนีไปได้อย่างไร"
"เหมือนจะมีคนพานางหนีไปมากกว่าเจ้าค่ะ" ซังกุงตรวจการตอบ "เชวซังกุงและนางในพากันอ้างว่าส่งซอฮยอนไปทำงานนอกวังเป็นเวลา 10 วัน แต่ข้าดูออกว่าพวกนางโกหก"
"แล้วใครกันที่พานางหนี แล้ว... แล้วหนีไปไหน"
"ข้าไม่ทราบเจ้าค่ะ"
คิมซังกุงนิ่งไป
"ไม่แน่ว่ามันอาจจะเป็นผลดีก็ได้นะ นางไปอยู่นอกวัง แก้ต่างให้ตัวเองไม่ได้ เราก็จัดการไต่สวนไปเลยสิ แล้วก็ปลดออกจากการเป็นนางในเสีย แค่นี้นางก็กลับวังมาดำรงสถานะนางในไม่ได้อีกแล้ว และถึงจะบากหน้ากลับมาก็ต้องได้รับโทษจากพระสนมมินอยู่ดี"
"เป็นวิธีที่ดีเจ้าค่ะ" ซังกุงตรวจการยอมรับ
"แต่มันก็น่าสงสัยนะเจ้าคะ ว่าใครพานางหนี" ซงฮวันสงสัย
"ข้ารู้" ประตูไม้เลื่อนเปิดออก คิมเซจียืนอยู่ตรงนั้น
"เซจี เจ้าว่าเจ้ารู้หรือ" คิมซังกุงร้องถาม
นางโค้งคำนับให้ซังกุงรับบัญชาและซังกุงตรวจการก่อนจะนั่งลงช้าๆ
"คนที่พาซอฮยอนหนีไป คือองค์ชายยิมโฮเจ้าค่ะ"
"อะไรนะ!"
เมื่อทั้งสามคนอยู่ในห้องพักเชวซังกุงเรียบร้อย นายหญิงแห่งห้องเขียนหนังสือก็ถามซุนฮวาก่อนทันที
"เจ้าเผาจดหมายทิ้งแล้วใช่รึไม่"
"เรียบร้อยเจ้าค่ะนายหญิง ว่าแต่จดหมายนั่นคืออะไรเจ้าคะ"
"จดหมายจากโชคังอิน มหาดเล็กคนสนิทของยิมโฮแทกุน เขาบอกว่าคนที่พาซอฮยอนหนีไปคือองค์ชายเอง"
"อะไรนะ!" ใต้เท้ามุนอ้าปากค้าง "แล้วองค์ชายทรงรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร"
"จำตอนที่เราคุยกับลีซังกุงในห้องได้รึไม่เจ้าคะใต้เท้า ที่จู่ๆ ประตูก็เปิดออกเองราวกับมีคนยืนฟังอยู่ นั่นแหละคือมหาดเล็กโช เขาคงนำเรื่องที่ได้ยินไปทูลองค์ชาย และองค์ชายก็รีบมาช่วยซอฮยอน"
"แต่ข้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ทำไมองค์ชายยิมโฮจู่ๆ จึงมาห่วงเรื่องซอฮยอนเล่า"
"คงเพราะซอฮยอนเคยช่วยเหลือองค์ชายเรื่องสายลับญี่ปุ่นกับเรื่ององค์หญิงดายองกระมังเจ้าคะ" เชวซังกุงเดา
"ไม่เจ้าค่ะ" ซุนฮวากล่าวขึ้น "ข้าว่ามีมากกว่านั้น"
"เจ้าจะพูดอะไร" ใต้เท้ามุนหันมามอง
"ตอนที่นางจะออกไปนอกวังเพื่อหากระโปรงพระมเหสีทันกยองในการสอบออซองเคียงวอน องค์ชายก็เข้ามาคุยกับนางราวกับสนิทกันดีฉะนั้น และวันที่นางกลับวัง พวกนางในคนอื่นๆ ก็ลือกันหนาหูว่าซอฮยอนนั่งเกี้ยวโดยมีองค์ชายทรงม้าอยู่เคียงข้าง"
ใต้เท้ามุนยองนัมตกตะลึง ส่วนเชวซังกุงยกมือขึ้นปิดปาก
"ข้าว่านางน่าจะรู้จักกับองค์ชายเป็นอย่างดีเจ้าค่ะ"
"แล้วเป็นเช่นนี้จะไม่ยิ่งแย่หรือ นางในเป็นของต้องห้ามสำหรับชายอื่นยกเว้นฝ่าบาท แต่องค์ชายพาหนีไปแบบนี้จะไม่ยิ่งกลายเป็นเรื่องใหญ่หรือ" หัวหน้ากองงานวรรณกรรมกล่าวอย่างกังวล
"เพราะเหตุนั้นข้าจึงให้ซุนฮวาเผาจดหมายทิ้งอย่างไรเล่าเจ้าคะ เพราะถ้ามีคนอื่นรู้จะยิ่งแย่" เชวซัวกุงบอก
"แล้วองค์ชายพาซอฮยอนไปที่ใด ในจดหมายมีบอกรึไม่"
"มหาดเล็กโชไม่ได้บอกไว้เจ้าค่ะเพราะกลัวว่าจดหมายอาจจะตกไปอยู่ในมือคนอื่น เขาบอกแค่ว่าองค์ชายมีพระประสงค์เสด็จออกไปพักผ่อนนอกวังเท่านั้น แต่ถ้ามองในแง่ดี การที่องค์ชายพาซอฮยอนหนีไปก่อนก็ช่วยให้ข้ออ้างเรื่องส่งนางไปวัดบนเขาฟังขึ้น ระยะเวลาก่อนนางจะกลับมาก็ต้องค้นหาให้ได้ว่าใครใส่ร้ายนาง"
"เจ้าคิดว่าใครใส่ร้ายนางหรือ"
"คิมซังกุงเจ้าค่ะ"
"อะไรนะ!"
"ใช่เจ้าค่ะใต้เท้า" ซุนฮวากล่าวขึ้นบ้าง "เพราะซงฮวันรู้เรื่องราวทั้งหมดก่อนผู้ใด แล้วนางก็เป็นมือเป็นเท้าทำเรื่องสกปรกแทนคิมซังกุงตลอด ยิ่งเกี่ยวกับซอฮยอนด้วยแล้ว ข้าว่าไม่พ้นพวกคนเหล่านี้แน่นอนเจ้าค่ะ"
"เช่นนั้นพวกเราต้องทำงานแข่งกับพวกนาง หาไม่ซอฮยอนจะเป็นอันตรายเมื่อนางกลับวังมา" ใต้เท้ามุนกล่าว
"เจ้าค่ะใต้เท้า" เชวซังกุงกับซุนฮวารับคำพร้อมกัน
[50%]
[ต่อจาก 50%]
ม้าสีดำตัวใหญ่เหยาะย่างมาถึงรั้วไม้เตี้ยที่คลุมด้วยฟางตลอดแนว สภาพรอบด้านเป็นดินโคลนชื้นแฉะ เศษหม้อเศษไหแตกกระจายราวกับมีคนนำมาโยนทิ้งไว้บริเวณนี้ ซอฮยอนที่นิ่งเงียบมาตลอดทางชะโงกมองไปรอบตัวอย่างสงสัยเพราะไม่เคยมาส่วนนี้ของวังหลวงมาก่อน และมันดูเหมือนจะเป็นบริเวณแห่งเดียวที่ไม่มีโคมไฟจุด
หญิงสาวขยับตัวอย่างอึดอัดเพราะกลัวว่าตนจะไปโดนหน้าอกของบุรุษที่นั่งซ้อนอยู่ข้างหลังอีกครั้ง นางพยายามอย่างยิ่งที่จะเกร็งตัวและไม่หันไปมอง
"เจ้าโดนงูพิษกัดรึ" เสียงห้าวๆ ของชายหนุ่มร้องถามมาจากด้านหลัง
"งูพิษกัด?" ซอฮยอนหันมองรอบตัว "ไม่มีนี่เพคะ"
"ก็ข้าเห็นเจ้านั่งเกร็งราวกับถูกตัวมีพิษอะไรสักอย่างกัดจนร่างกายเป็นอัมพาตฉะนั้น"
ซอฮยอนแอบกลอกตาในความมืด
"กลอกตาบ่อยระวังตาค้างนะ"
หญิงสาวทำจมูกฟุดฟิดอย่างหงุดหงิด องค์ชายข้างหลังเหมือนจะรู้อากัปกิริยาของนางไปเสียทุกอย่างแม้จะมองไม่เห็น
"ทำตัวตามสบายเถิด" องค์ชายตรัสแผ่วเบา
"หม่อมฉันกลัวตกม้าต่างหากเพคะ"
"อะไรกัน" ยิมโฮแทกุนแสร้งทำเสียงประหลาดใจ "อายุสิบหกไฉนยังนั่งม้าไม่เป็นเล่า"
"หม่อมฉันเป็นผู้หญิงนะเพคะ"
"อ่าว นี่เจ้าเป็นผู้หญิงหรอกรึ"
"สรุปองค์ชายพาหม่อมฉันมาพูดยียวนเล่นอย่างนั้นหรือเพคะ"
"ไม่ใช่แน่นอน"
"เช่นนั้นได้โปรดปล่อยหม่อมฉันกลับไป"
"ข้าทำเช่นนั้นไม่ได้ ในวังตอนนี้อันตรายสำหรับเจ้า"
ซอฮยอนถอนหายใจหนักหน่วงก่อนจะกล่าวว่า
"หม่อมฉันก็รอฟังมานานแล้วนะเพคะว่าเกิดอะไรขึ้น พระองค์ก็ไม่ทรงเล่าเสียที"
"ให้ถึงจุดหมายก่อนแล้วข้าจะเล่า"
"องค์ชายกำลังทำให้หม่อมฉันถูกขับออกจากวังนะเพคะ นางในห้ามออกจากวังเด็ดขาดใครๆ ก็รู้"
"ต่อให้อยู่ในวังเจ้าก็ถูกขับอยู่ดี สู้ออกไปเตรียมตัวหาหลักฐานแก้ต่างให้ตัวเองไม่ดีกว่าหรือ"
"หลักฐานแก้ต่าง?" ซอฮยอนทวนคำอย่างสงสัย
"เอาไว้ทีหลัง" องค์ชายตรัสพลางบังคับม้าไปยังช่องทางเดินที่สร้างขึ้นอย่างลวกๆ ด้วยกิ่งไม้แห้ง มันถูกดัดโค้งเข้าหากันคล้ายซุ้มประตู เหนือขึ้นไปมีต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านปกคลุมก่อให้เกิดความมืดทะมึนรอบด้าน เสียงนกกลางคืนบนยอดไม้กับเสียงลมครวญครางชวนให้รู้สึกขนลุกเกรียว ซอฮยอนรู้สึกไม่ดีกับสถานที่แบบนี้เอาเสียเลย
"ไม่มีโคมไฟสักอันเลย..." หญิงสาวพูดเบาๆ "ที่นี่คือ--"
"ใช่ ที่นี่คือประตูมรณะ" องค์ชายตรัสตอบมาด้วยเสียงอันแผ่วเบาเช่นกัน
ทั้งๆ ที่ไม่มีใครอยู่ แต่หนุ่มสาวบนหลังม้าก็เจรจาด้วยเสียงต่ำแผ่วเบาราวกับรู้อยู่แก่ใจกันว่าไม่ควรส่งเสียงดังในที่แห่งนี้
"อย่ามองต้นไม้นะ" องค์ชายเตือน
ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ หญิงสาวเผลอเงยหน้ามองต้นไม้ใหญ่เหนือหัวเต็มๆ และเมื่อรู้ตัวว่าทำอะไรลงไปก็รีบก้มหน้าลงกับแผงคอม้าอย่างอกสั่นขวัญแขวน
"หม่อม... หม่อมฉันเผลอมองไปแล้วเพคะ" ซอฮยอนหวีดร้อง
"โธ่..."
"ทำไมเพคะ มีอะไรหรือ"
"เจ้าเห็นอะไรรึไม่"
"ไม่... ไม่เห็นนะเพคะ"
"เขาว่ากันว่าตอนกลางคืนจะมีคนมาผูกตอตายบนยอดไม้นี้"
ซอฮยอนหยุดหายใจไปชั่วขณะ
"เจ้ากลัวหรือ"
"หม่อมฉันแค่ตกใจ"
"นึกว่าเจ้าเชื่อเรื่องพวกนี้"
"แล้วพระองค์ทรงเชื่อรึไม่เพคะ"
"ไม่นะ"
"แล้วเหตุใดถึงห้ามไม่ให้หม่อมฉันเงยหน้ามอง"
"ก็นกมันจะขี้ใส่เอาน่ะสิ มีเป็นร้อยตัวเลยนะบนต้นนั้น เกาะคอนกันเยอะนัก"
"องค์ชาย!"
ยิมโฮแทกุนหัวเราะเสียงเบาก่อนจะค่อยๆ พาม้าเดินออกจากซุ้มประตูอย่างช้าๆ
"องค์ชายคงไม่เชื่อเรื่องโชคลางเหมือนกันสินะเพคะ" หญิงสาวถาม
"รู้ได้อย่างไร"
"ก็พาองค์เองกับหม่อมฉันออกทางประตูนี้ แสดงว่าไม่กลัวลางร้าย"
"มันก็แค่ชื่อประตู ซอฮยอน" ลียิมโฮกล่าว "แม้มันอาจจะดูน่ากลัวเพราะเป็นที่ลำเลียงนักโทษประหารหรือคนตายออกมาจากวัง แต่ใช่ว่าคนเป็นจะใช้เป็นที่สัญจรไม่ได้ ข้าไม่ชอบเอาความงมงายที่พิสูจน์ไม่ได้มาเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิต"
ซอฮยอนนิ่งไป
"พระองค์คิดว่ามีไหมเพคะ"
"มีอะไรหรือ"
"คนที่ออกมาทางประตูนั้นทั้งๆ ที่ไม่เต็มใจ"
องค์ชายหยุดชักม้าไปชั่วขณะ
"ย่อมมีแน่นอน" พระองค์ตอบออกมาในที่สุดหลังจากนิ่งไปนาน "เจ้าอาจจะไม่เคยได้ยินชื่ออดีตพระชายาของข้ามาก่อนเพราะตอนนั้นเจ้ายังไม่เข้าวัง แต่นางคือคนหนึ่งที่ต้องตายอย่างอนาถและถูกส่งพระศพออกมาทางประตูนี้"
รู้จักสิ ทำไมจะไม่รู้จัก ซอฮยอนคิดในใจ นางรู้จักฮวารยอนยิ่งกว่าผู้ใดถ้าไม่นับบิดานาง และเพราะการตายของฮวารยอนนี่แหละ นางจึงต้องมาเป็นนางในเช่นนี้ หญิงสาวนึกเล่นๆ ว่าถ้าหากองค์ชายยิมโฮรู้ว่าสตรีที่เขาพาขึ้นม้ามากลางดึกคืนนี้คือน้องสาวต่างมารดาของอดีตพระชายาที่ตัวเองเพิ่งเล่าไป เขาจะตกใจแค่ไหนหนอ
"อดีตพระชายาฮวารยอน" ซอฮยอนกล่าวเสียงเรียบ "หม่อมฉันเคยได้ยินมาบ้างเพคะ"
"เจ้าคงคิดว่าข้าเป็นคนไม่เอาไหนสินะ"
"พระองค์เคยรักพระนางบ้างไหมเพคะ" ซอฮยอนถามพลางจ้องไปในความมืดของถนนเบื้องหน้า
"อะไรนะ"
"ด้วยฐานะของหม่อมฉัน การถามคำถามส่วนพระองค์เช่นนี้ถือเป็นการละลาบละล้วงเบื้องสูงอย่างรุนแรง แต่พระองค์ก็สามารถเลือกที่จะไม่ตอบได้นะเพคะ"
ลียิมโฮนิ่งเงียบไปสักพัก
"ข้าไม่รู้ว่าสิ่งที่มีให้นางคือความรักรึไม่ แต่หลังจากที่เสียนางไปข้าก็รู้สึกผิดมาโดยตลอด"
"ผิดเพราะปกป้องพระนางไม่ได้หรือเพคะ"
"ไม่ใช่ แต่นางปลิดชีพตัวเองเพราะข้า"
ซอฮยอนหลับตาลง ภายในใจสับสนไปหมด คราวแรกที่นางเข้าวังมาใหม่ๆ นางชิงชังยิมโฮแทกุนพอๆ กับคิมซังกุงเพราะคิดว่าเขาปล่อยให้พี่สาวต่างมารดาของตนตาย แต่พอนานวันเข้าก็รู้สึกว่าองค์ชายไม่ใช่คนที่ไม่รับผิดชอบขนาดนั้น แต่ทว่าเรื่องจริงมันเป็นอย่างไรเล่า เห็นทีนางต้องรีบขึ้นเป็นซังกุงเพื่อเปิดอ่านจดหมายฉบับที่สองของฮวารยอนแล้ว
องค์ชายยิมโฮเริ่มควบม้าให้เร็วขึ้นเรื่อยๆ หลังจากพ้นเขตพระราชวังออกมา เสียงกีบเท้าม้าดังก้องไปตามถนนที่เปล่าเปลี่ยวไร้ผู้คน ลมเย็นพัดต้องผิวกายซอฮยอนจนต้องห่อตัวด้วยความหนาว สักพักแขนแกร่งของชายหนุ่มด้านหลังก็ขยับมาประชิดตัวซอฮยอนเพื่อให้ความอบอุ่นอย่างสุภาพ
"องค์ชาย เราจะไปที่ไหนกันเพคะ ตอนนี้ก็ห่างจากวังมาพอสมควรแล้ว ปล่อยหม่อมฉันลงเถิดเพคะ"
"ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าเดินหรือเล่าอะไรให้ฟังจนกว่าจะไปถึงท่าเรือชายฝั่ง"
"ท่าเรือชายฝั่ง?" หญิงสาวร้องเสียงสูง "ไปทำอะไรถึงที่นั่นเพคะ"
"เพราะข้าจะพาเจ้าไปเกาะวัว"
โปรดติดตามตอนต่อไป
(ขออภัยนักอ่านทุกท่านที่ผมหายไปสามวัน แถมวันนี้ยังอัปได้ค่อนข้างน้อย พอดีสุนัขผมป่วย ต้องผ่าตัด ช่วงนี้จึงยุ่งๆ จึงขออภัยทุกท่านด้วยฮะ แต่จะพยายามอัปให้ได้ทุกวันครับ ขอบคุณที่ยังติดตามกันครับ)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น