ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กลรักวังหลวง [서현]

    ลำดับตอนที่ #92 : แผนการลี้ลับ [100%]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.18K
      82
      22 ส.ค. 62

    ตอนที่ 92 แผนการลี้ลับ






         องค์ชายยิมโฮตัวแข็งทื่อ ปากและดวงตาเปิดค้างแบบคนที่ตกตะลึงอย่างถึงขีดสุด เขาจ้องมองเซจาพินอยู่ชั่วอึดใจหนึ่งคล้ายจะไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่

         ฮยอนจองเซจาพินยิ้มมุมปาก นางรู้สึกสนุกทีเดียวเมื่อเห็นยิมโฮแทกุนผู้รักษาภาพพจน์ดีเยี่ยม ผู้มีแต่คนร่ำลือว่าเก็บงำความรู้สึกเก่งนั้นกลับกลายเป็นคนเสียหลักได้ขนาดนี้ นางไม่รู้ว่าองค์ชายมีความสัมพันธ์อย่างไรกับเซจีและสกุลคิม แต่ที่รู้ๆ คือมันสามารถทำให้ชายตรงหน้าตกใจได้พอสมควร

         "พระชายา" องค์ชายตรัสออกมาได้ในที่สุด "พระชายาตรัสว่าคิมเซจีหรือพ่ะย่ะค่ะ"

         "ใช่ ทำไมรึ" เซจาพินแสร้งตีหน้าซื่อ "เจ้ารู้จักนางหรือ ท่าทีเจ้าดูตระหนก"

         "ทำไมจู่ๆ ถึงพูดเรื่องการแต่งตั้งพระชายาของหม่อมฉัน อีกทั้งยังเสนอชื่อเซจีขึ้นมาด้วยเล่า" ลียิมโฮถามอย่างคลางแคลง

         "แปลกตรงไหน ในวังเวลานี้อำนาจของขุนนางล้วนแล้วแต่เป็นอิทธิพลของสกุลคิมทั้งสิ้น คิมเซจีเป็นลูกหลานสกุลนี้และอยู่ในวัยแรกรุ่นพอดี มันแปลกตรงไหนหรือที่จะให้นางมาเป็นพระชายาเจ้า ถ้าหากข้าคว้าพวกชนชั้นไพร่มาสิค่อยว่าแปลก"

         "สกุลซินก็มีอิทธิพลพอๆ กับสกุลคิม" ชายหนุ่มเถียง

         "มันก็จริง แต่เจ้าอย่าลืมสิว่าฮวารยอนซึ่งเป็นอดีตพระชายาองค์ก่อนที่ฆ่าตัวตายไปก็เป็นคนในสกุลซินนะ เจ้าอยากจะได้คนในตระกูลนางมาอีกรึ ที่ข้ารู้มาคือตระกูลนี้ไร้ซึ่งบุตรสาวที่เป็นทายาทสายตรงแล้ว และถึงต่อให้มี เจ้าไม่ละอายใจต่อฮวารยอนบ้างหรือ"

         "มันจะไม่มีพระชายาที่จะมาจากตระกูลไหนทั้งนั้นพ่ะย่ะค่ะ ทั้งสกุลคิมทั้งสกุลซิน" องค์ชายประกาศกร้าว

         "เจ้าโตมากแล้วนะยิมโฮ อนาคตอย่างไรก็ต้องมีพระชายา ถึงข้าไม่ให้เจ้ามีวันนี้ วันหน้าพระมเหสีก็ต้องบังคับให้เจ้ามีอยู่ดี"

         "แต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องส่วนตัวหม่อมฉัน และต้องอยู่ในความเห็นชอบของพระมเหสี พระชายาไม่สมควรก้าวก่ายนะพ่ะย่ะค่ะ"

         เซจาพินนิ่งไป พระนางยกชาขึ้นจิบเล็กน้อยอีกหน

         "ก็ได้ ข้าไม่ก้าวก่ายก็ได้" ชายาองค์รัชทายาทตรัส "แต่แร่หินดำร้อยหีบก็ต้องมลายหายไปพร้อมกัน"

         "พระชายา!"

         "ตกใจอันใด"

         "พระองค์กำลังเอาแร่หินดำมาต่อรองอย่างนั้นหรือ"

         "ก็แล้วแต่เจ้าจะคิด"

         องค์ชายกำหมัดแน่น เขารู้ว่านี่คือแผนการร้ายแน่นอน ทุกอย่างมันมีคนบงการไว้อยู่แล้ว เผลอๆ อาจจะก่อนที่ท่านทูตจะเดินทางมาถึงเสียด้วยซ้ำ

         "คิมซังกุงมาเข้าเฝ้าพระนางใช่รึไม่พ่ะย่ะค่ะ" เขาถามตรงๆ

         "เจ้าจะรู้ไปทำไม"

         "เพราะสกุลคิมกับพระนางไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกัน แต่วันนี้กลับมีผลประโยชน์ทับซ้อน"

         "ผลประโยชน์ย่อมมีทุกหัวระแหงในวังหลวง"

         "เช่นนั้นหม่อมฉันก็จะหาแร่หินดำด้วยตัวของหม่อมฉันเอง"

         "เจ้าจะหาจากที่ไหน ไม่มีที่ใดให้หาได้ ฝ่าบาทเองก็ทดสอบเจ้าอยู่ หรือว่าจะไปพึ่งพระมเหสีรึ ตระกูลของชุงจอนมามะไม่มีเหมืองแร่เหมือนตระกูลข้าซึ่งได้รับสัมปทานเต็มที่ เจ้าจะมีปัญญาหาจากไหนได้อีก มันเป็นไปไม่ได้เลย"

         "ได้แร่หินดำจากพระนางเพื่อแลกกับการให้หม่อมฉันมีพระชายามันก็เป็นไปไม่ได้เหมือนกัน"

         "เหตุใดเจ้าจึงมีปัญหากับเรื่องนี้นัก หรือว่าเจ้ากลัวที่จะต้องออกไปจากวังหลังแต่งงานแล้ว"

         "พระชายาและเสด็จพี่ซองแจรู้ดีอยู่แก่ใจว่าหม่อมฉันไม่หวังในตำแหน่งรัชทายาทอยู่แล้ว สมัยก่อนที่พระนางให้หม่อมฉันไปอยู่นอกวังหม่อมฉันก็ทนอยู่ได้โดยไม่ปริปากบ่น คราวที่บังคับให้สมรสกับฮวารยอน หม่อมฉันก็ทำโดยไม่เกี่ยงงอน"

         "แล้วเหตุใดคราวนี้เจ้าถึงไม่ทำ ข้าไม่ได้ขออะไรมากมายจากเจ้าเลย มีแต่จะให้เสียด้วยซ้ำ"

         "เพราะชาตินี้หม่อมฉันไม่มีวันเอาคิมเซจีมาเป็นพระชายาแน่นอน แล้วอีกอย่างนางเป็นนางใน จะให้มาเป็นพระชายาหม่อมฉันได้อย่างไร"

         "เจ้าพูดอะไรน่ะ" เซจาพินชะงัก "ทำราวกับว่ารู้จัก--"

         "ใช่พ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันรู้จักนาง"

         "รู้จักกันก็ดีแล้ว ส่วนเรื่องนางใน ใต้เท้าคิมจะทูลขอนางให้เจ้าเอง ไม่ต้องห่วง ในประวัติศาสตร์เคยมีองค์รัชทายาทและองค์ชายทูลขอนางในของแนเมียงบูมาจากพระราชามาเป็นนางในตำหนักของตนเองมากมาย"

         "แต่ว่า--"

         "พรุ่งนี้ข้าจะให้คนจัดแร่หินดำร้อยหีบส่งไปที่ตำหนักแทเพียง ถ้าเจ้าตกลงกับข้าเรียบร้อยเสียตรงนี้"

         ยิมโฮแทกุนทำสีหน้าครุ่นคิด











         เมื่อองค์ชายเสด็จออกมาจากตำหนักของเซจาพินและเดินหายไปพร้อมกับมหาดเล็กประจำพระองค์เรียบร้อย คิมซังกุงซึ่งแอบหลบอยู่ในเงามืดของต้นไม้หน้าตำหนักก็ค่อยๆ เผยกายออกมาต้องแสงจันทร์ ซังกุงรับบัญชาเหลียวซ้ายแลขวาก่อนจะรีบวิ่งขึ้นไปบนตำหนักของฮยอนจองอย่างรวดเร็ว

         "รีบทูลเร็วเข้า" นางเร่งซังกุงหน้าตำหนัก

         เมื่อเซจาพินอนุญาตให้เข้ามาได้ นางก็รีบถลาเข้ามาถามทันทีโดยที่ยังไม่ทันได้คำนับใดๆ ทั้งสิ้น

         "เป็นอย่างไรบ้างเพคะพระชายา องค์ชายตกลงรึไม่"

         ฮยอนจองเซจาพินถอนหายใจ

         "เขาบอกแค่ว่าจะเอาไปไตร่ตรองดู"

         คิมซังกุงชะงักไป

         "ไตร่ตรองรึเพคะ! นี่มันไม่ต่างจากการปฏิเสธชัดๆ"

         "ถ้าเขาจะปฏิเสธ คงปฏิเสธข้าไปตรงๆ แล้ว การที่เขาตอบว่าจะเอาไปไตร่ตรองดูแสดงว่าอาจจะพอมีโอกาสบ้าง เพราะว่ามีแค่ตระกูลข้าที่จะช่วยเขาเรื่องแร่หินดำได้"

         "แต่หม่อมฉันก็ไม่วางใจอยู่ดี"

         "องค์ชายน่ะหมดหนทางแล้ว เจ้าสบายใจเถิด"

         คิมซังกุงหรี่ตาลง

         "เห็นทีหม่อมฉันต้องทำจดหมายสนเท่ห์ขึ้นมากระมัง"

         "จดหมายสนเท่ห์คืออะไรกัน"

         "จดหมายลับไร้ชื่อผู้ส่งผู้รับที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาแบบพิศวงเพคะ บ้างก็อยู่ในสำรับอาหาร บ้างก็อยู่ในไหเหล้า บ้างก็ถูกผูกติดกับลูกธนูมา"

         "นั่นมันผิดกฎในวังมิใช่หรือ" เซจาพินตกใจ

         "ใครจะสนใจกฎเล่าเพคะ" คิมซังกุงกล่าวอย่างไม่แยแส "หม่อมฉันจะสั่งคนให้ทำจดหมายสนเท่ห์ส่งไปให้ทูตต้าหมิง"

         "ส่งไปให้ทูตรึ เจ้าจะส่งไปว่าอย่างไร"

         "หม่อมฉันต้องการเห็นเขาจำกัดเวลาที่ให้องค์ชายในการหาแร่หินดำร้อยหีบนั้นน้อยลง เพราะเมื่อเวลายิ่งรัดตัวเท่าไร องค์ชายก็จะยิ่งจนใจและตอบรับข้อเสนอของพระนางเร็วเท่านั้นเพคะ" คิมซังกุงกล่าวจบก็หัวเราะออกมา

         เซจาพินไม่ได้หัวเราะไปด้วย ทว่าลอบมองคิมซังกุงด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไป ดวงตาซึ่งแอบจับจ้องซังกุงรับบัญชานั้นหรี่เล็กลงอย่างสงสัย











         "อะไรนะ!" ใต้เท้ากึมแฮเงยหน้าจากกองกระดาษบนโต๊ะอย่างตกใจ "เจ้าว่าอะไรนะ"

         "เซจาพินทรงตกลงรับปากว่าจะให้แร่หินดำร้อยหีบกับองค์ชายเพื่อไปแก้ปัญหาการแลกเปลี่ยนกับทูตต้าหมิงเรื่องพรมแดน ถ้าองค์ชายยอมเข้าพิธีแต่งงานกับคิมเซจีหลานสาวคิมซังกุง" มหาดเล็กโชคังอินพูดออกมา เขารีบนำเรื่องนี้มาเล่าให้ใต้เท้ากึมแฮ ณ ห้องทรงพระอักษรฟังทันทีหลังจากที่ได้ยินเรื่องนี้มาจากพระโอษฐ์ของยิมโฮแทกุน

         "คิมเซจี สกุลคิมรึ" ขุนนางอาวุโสขมวดคิ้ว "นางอยู่ในตระกูลที่เหมาะสมใช่รึไม่"

         "เหมาะสมขอรับ แต่ต่อให้เหมาะสมกว่านี้ องค์ชายก็ไม่มีวันรับนางผู้นี้มาเป็นชายาหรอกขอรับ"

         "ทำไมรึ"

         "นางเคยหลอกลวงองค์ชายและทะเยอทะยานอยากเป็นพระชายาจนองค์ชายรังเกียจนาง"

         "แล้วมันจะเป็นอย่างไรต่อไปเล่า" ใต้เท้ากึมแฮสงสัย

         "ถ้าทางพระมเหสี แน่นอนว่าไม่มีวันยอมที่จะให้ลูกชายไปแต่งงานกับหลานคิมซังกุง ใครๆ ก็รู้ว่าทั้งสองคนชิงชังกันแค่ไหน" โชคังอินกล่าว

         "แล้วทางองค์ชายเล่า"

         "ถ้าพระองค์ทรงเห็นแก่บ้านเมือง ข้าว่ามีความเป็นได้สูงที่องค์ชายจะยอมแต่งงานกับเซจี"

         เสียงคล้ายคนทุบประตูห้องทรงอักษรดังขึ้นอย่างแรงจนทั้งสองคนสะดุ้งโหยง มหาดเล็กโชพุ่งไปที่ประตูด้วยสัญชาตญาณระแวงภัย เขาเปิดมันออกอย่างแรงก่อนจะชะโงกหน้าออกไปดู

         หลังของซอฮยอนไหวๆ อยู่ในความมืด นางวิ่งเหมือนคนรีบร้อนจะไปที่ไหนสักแห่ง แม้โชคังอินจะอยู่ยืนอยู่ห่างพอสมควรก็ดูออกว่าเมื่อครู่ซอฮยอนต้องมายืนอยู่หน้าห้องและได้ยินทุกอย่างที่ตนคุยกับใต้เท้ากึมแฮแน่นอน ถึงได้ตกใจอย่างหนักจนวิ่งหน้าตั้งออกไปเช่นนั้น






    [ต่อจาก 50%]





         "สองวัน!"

         ยิมโฮแทกุนร้องออกมาด้วยความตกใจ เขากำลังนั่งอยู่ในห้องส่วนตัวของตำหนักแทเพียงตามลำพังกับทูตหวางจื่อห้าว

         "ใช่ สองวัน" 

         "หมายความว่าอย่างไรท่านทูต ไหนท่านบอกว่าให้เวลาเราในการหาแร่หินดำเจ็ดวันมิใช่หรือ ไฉนถึงลดเหลือสองวันเล่า"

         "ข้ารู้ว่าองค์ชายลำบาก แต่ทางข้าเองก็ไม่มีทางเลือกอื่น" หวางจื่อห้าวตอบ

         "ท่านหมายถึงอะไร"

         "ฮ่องเต้ต้าหมิงมีราชโองการให้ข้าและคณะกลับไปโดยเร็วที่สุด เมื่อเป็นเช่นนี้ข้าจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเร่งรัดท่าน"

         "แปลกเหลือเกินนะ เพิ่งเดินทางมาถึงโชซอนแท้ๆ แต่ต้องรีบกลับ" องค์ชายตั้งข้อสังเกต

         "เป็นเช่นนี้เสมอแหละองค์ชาย" หวางจื่อห้าวกล่าว "ฉะนั้นข้าต้องขออภัยเรื่องนี้ด้วย ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ คงไม่ลดเหลือสองวัน"

         "แต่ข้ามักยึดสัญญาในคราวแรกเสมอ แต่ถ้าท่านจำเป็นต้องกลับไปจริงๆ ก็เชิญกลับไปก่อนเถิด แล้วเจ็ดวันข้าค่อยส่งแร่หินดำร้อยหีบไปให้ท่าน"

          หวางจื่อห้าวยิ้มเย็น

         "แล้วถ้าขบวนส่งแร่เกิดถูกปล้น สูญหาย หรือมาไม่ครบร้อยหีบเล่า ท่านจะรับผิดชอบหรือไม่"

         "นั่นคือปัญหาของท่าน ไม่ใช่ข้า เพราะท่านเป็นคนผิดสัญญาในการลดวันลง"

         ท่านทูตชะงักไป เห็นทีเขาต้องใช้ไม้ตายแล้วกระมัง...

         "แต่ข้าได้ยินมาว่าพระชายาองค์หนึ่งในวังมีเหมืองแร่หินดำอยู่มิใช่หรือ ข้าว่าเวลาสองวันน่าจะเพียงพอนะ"

         ยิมโฮแทกุนตกตะลึง ท่านทูตรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร นี่มันเรื่องที่น้อยคนนักจะรู้ แต่ทว่าหวางจื่อห้าวก็พูดออกมาราวตาเห็นฉะนั้น

         ทูตต้าหมิงยิ้มมุมปาก จู่ๆ ก่อนมื้อเช้าวันนี้ ทหารของเขาได้รับจดหมายฉบับแปลกๆ มาจากขันทีคนหนึ่งในวัง มันไม่บอกคนส่งและคนรับแต่แน่นอนว่าต้องการให้ท่านทูตเห็น เพราะเนื้อความข้างในนั้นมีบอกไว้หมดเลยว่าองค์ชายกำลังรอแร่หินดำจากใคร อีกทั้งยังมีคำแนะนำให้เร่งรัดเวลาองค์ชายอีกด้วย คราวแรกหวางจื่อห้าวแอบไม่ไว้ใจจดหมายฉบับนี้เผื่อมันลวงหลอกหรือเป็นอุบาย แต่เมื่ออ่านทบทวนหลายรอบก็ไม่พบผลเสียที่จะเกิดแก่ฝ่ายตน จึงแกล้งปั้นเรื่องขึ้นมาว่าฮ่องเต้ทรงเรียกตัวกะทันหันเพื่อบีบองค์ชาย

         "ท่านรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร" ยิมโฮแทกุนร้องถาม

         "นั่นสำคัญด้วยหรือ"

         "มันเป็นการภายในของเรา การที่ท่านรู้ถึงขนาดนี้ข้าย่อมต้องถามเพื่อความปลอดภัยของฝ่ายเรา"

         "ท่านไม่ต้องกังวลหรอก ข้ามิใช่ตัวอันตรายอะไรที่ท่านต้องเพ่งเล็งขนาดนั้น  แต่เรื่องแร่หินดำ ในเมื่อท่านรู้แล้วว่าข้ารู้เห็นทุกอย่าง ก็จงรีบจัดการเสียเถิด อย่าถ่วงเวลาอีกเลย เพราะถ้าข้าหมดความอดทนและยกเลิกเรื่องข้อเสนอพรมแดนขึ้นมา องค์ชายคงถูกตราหน้าว่าเป็นผู้เจรจากับทูตที่แย่ที่สุดในโชซอน"









         องค์ชายทุบโต๊ะอย่างแรงจนใต้เท้ารอบข้างสะดุ้งโหยง เขาโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงแต่พยายามควบคุมอารมณ์ไว้จนกระทั่งกลับมาถึงห้องทรงงาน ขุนนางต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่กเพราะไม่เคยเห็นองค์ชายทรงกริ้วถึงขนาดนี้มาก่อน

         "เกิดอะไรขึ้นหรือพ่ะย่ะค่ะองค์ชาย"

         ยิมโฮแทกุนเล่าเรื่องทั้งหมดให้เหล่าใต้เท้าฟัง เมื่อทุกคนฟังจบก็ถึงกับอ้าปากค้าง

         "หวางจื่อห้าวรู้ความเคลื่อนไหวของเราหมด และข้าไม่คิดว่าจะเป็นเพราะเขามีสายสืบ แต่เป็นเพราะมีคนของเราไปบอก" องค์ชายตรัส

         "พระองค์ทรงหมายถึงเรามีไส้ศึกหรือพ่ะย่ะค่ะ" ใต้เท้าคนหนึ่งทูลถาม

         "อาจจะเป็นไปได้ทั้งนั้น"

         "องค์ชาย หม่อมฉันโชคังอินพ่ะย่ะค่ะ" มหาดเล็กคนสนิททูลจากนอกห้อง 

         "เข้ามาได้"

         มหาดเล็กประจำพระองค์ก้าวเข้ามาในห้องทรงงานก่อนจะคำนับองค์ชาย

         "ทูลองค์ชาย ฝ่าบาททรงมีรับสั่งให้เจ้ากรมพิธีการจัดงานฉลองเนื่องในโอกาสเปิดพรมแดนเป็นอิสระพ่ะย่ะค่ะ"

         "อะไรนะ!" องค์ชายผุดลุกขึ้นยืน "เลี้ยงฉลองอะไรกัน การเจรจายังไม่จบสิ้น ทำไมถึง--"

         "เหมือนกับว่าฝ่าบาทจะมั่นพระทัยมากว่าองค์ชายจะทำการสำเร็จ จึงสั่งให้เตรียมการเพื่อชมเชยพระโอรสพระองค์ก็คือองค์ชายนั่นเองพ่ะย่ะค่ะ"

         "แต่ถ้า... ถ้ามันไม่สำเร็จเล่า"

         "ฝ่าบาทก็คงกริ้วพ่ะย่ะค่ะ"

         ยิมโฮแทกุนทรุดลงกับเก้าอี้พลางกุมขมับ ปัญหาคราวนี้มันหนักหนาเหลือเกิน ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็เจอแต่ทางตัน ประตูเดียวสู่การแก้ปัญหาทั้งปวงบัดนี้เหลือเพียงหนึ่ง เห็นทีเขาต้องจำใจเลือกทางนั้นเสียแล้ว


         







         "ว่าอย่างไร คราวนี้มาตำหนักข้าอีกครั้งหวังว่าจะได้คำตอบนะ" เซจาพินตรัสอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นลียิมโฮมาขอเข้าเฝ้าอีกครั้ง

         "พ่ะย่ะค่ะ เรื่องแร่หินดำร้อยหีบ พระชายาทรงจัดเตรียมเอาไว้ได้เลย" ยิมโฮแทกุนพูดเสียงเรียบ

         แผนจดหมายสนเท่ห์ของคิมซังกุงช่างได้ผลจริงๆ ฮยอนจองเซจาพินคิดในใจก่อนจะกล่าวว่า

         "เช่นนั้นแสดงว่าเจ้าตกลงปลงใจเรื่องแต่งงานกับคิมเซจีแล้วใช่รึไม่"

         องค์ชายหลับตาลงอย่างกล้ำกลืนฝืนใจ 

         "พ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันตก--"

         "นี่ นังบ้า! ออกไปนะ! ออกไปเดี๋ยวนี้!" เสียงนางในหน้าตำหนักตะโกนลั่นจนทั้งคู่หันไปมองที่ประตูตำหนักด้วยความตกใจ

         "ข้าจะมาเข้าเฝ้าองค์ชาย ได้โปรดให้ข้าเข้าไปเถิดเจ้าค่ะ" เสียงสตรีคนหนึ่งร้องขึ้น ยิมโฮแทกุนเบิกตากว้าง นั่นมันเสียงซอฮยอน!

         "หุบปากแล้วไสหัวไปให้พ้น เป็นแค่นางในชั้นจง 9 พุม ริอาจมาเข้าเฝ้าองค์ชายรึ"

         "มีอะไรกัน" เซจาพินร้องถามออกไป

         "มีนางในชั้นต่ำคนหนึ่งบังอาจจะมาเข้าเฝ้าองค์ชายยิมโฮเพคะ"

         "นางเป็นใคร"

         "ไม่ทราบเหมือนกันเพคะ"

         เซจาพินนิ่งไปสักพัก

         "ให้นางเข้ามา"

         "แต่ว่า--"

         "ข้าบอกว่าให้นางเข้ามา"

         สักพักซอฮยอนก็เดินเข้ามาอย่างหวาดๆ เมื่อนางเห็นทั้งสองพระองค์ประทับอยู่ก็รีบทรุดกายลงกับพื้นทันที

         "องค์ชายเพคะ อย่ารับปากพระชายานะเพคะ"

         ยิมโฮชะงัก ส่วนเซจาพินเบิกตากว้างอย่างฉุนโกรธ

         "นังตัวดี! เจ้านายเขาคุยกัน กล้าดีอย่างไรถึงมาสอดเสนอหน้า"

         "องค์ชาย" ซอฮยอนพูดกับองค์ชายราวกับเห็นฮยอนจองเซจาพินเป็นแค่แมลงสาบตัวหนึ่ง "อย่าทรงตกลงนะเพคะ เพราะหม่อมฉันมีแผนการลี้ลับซึ่งสามารถตกลงกับท่านทูตหวางจื่อห้าวโดยที่เราไม่ต้องเสียแร่หินดำให้กับเขาแม้แต่ปลายเล็บ"






    โปรดติดตามตอนต่อไป
      
         
       
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×