ลำดับตอนที่ #61
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #61 : บันทึกพระกิจวัตร [100%]
ตอนที่ 61 บันทึกพระกิจวัตร
"แต่แรกเริ่มเดิมทีนั้นดายองกงจูเป็นองค์หญิงน้อยที่น่ารักมาก มีความเป็นกุลสตรีและรู้จักเรียนรู้งานอันเป็นหน้าที่ของผู้หญิงตั้งแต่สามขวบโดยมีพระมเหสีดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งองค์หญิงก็ทรงทำหน้าที่ตัวเองได้อย่างดีเยี่ยมมาโดยตลอด"
"องค์หญิงผู้น่ารักสดใส ประพฤติตนเคร่งครัดอยู่ในขนบธรรมเนียม เหตุใดจู่ๆ ถึงมีพฤติกรรมเช่นทุกวันนี้ได้เล่าเจ้าคะ" ซอฮยอนสงสัย
"พฤติกรรมของพระองค์มิใช่โรคภัยหรือความผิดปกติใดๆ หรอก บางคนถึงขั้นคิดไปว่านางโดนคุณไสยเล่นงานด้วยซ้ำ" โบโมซังกุงเอ่ย
"แล้วความจริงเกิดจากอะไรเจ้าคะ" ซอฮยอนถาม
ซังกุงพี่เลี้ยงชะเง้อคอมองไปหน้าประตูเรือนจำก่อนจะก้มลงกระซิบกับซอฮยอน
"องค์หญิงมีความเก็บกดในพระทัย"
"อะไรนะเจ้าคะ"
"นางไม่เคยชอบสิ่งที่พระมเหสีรวมถึงบรรดาซังกุงอบรมยัดให้นาง องค์หญิงรู้สึกว่าตัวเองเป็นหุ่นเชิดมากกว่าจะเป็นคน ดายองกงจูสะกดกลั้นความรู้สึกนี้มาตลอดหลายปีแต่นางก็หาได้มีอาการต่อต้านใดๆ ไม่ ยังคงก้มหน้าก้มตาทำทุกอย่างไปได้อย่างดีเยี่ยม"
"ข้าสงสารนางนัก เกิดมาเป็นองค์หญิงลูกเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ย่อมไม่สามารถทำอะไรได้ตามอำเภอพระทัย ทุกอย่างถูกจัดสรรโดยผู้ใหญ่ในวังหลวงทั้งสิ้น"
ชั่ววาบหนึ่ง ซอฮยอนก็พลันนึกถึงตนเองตอนเด็ก สมัยนั้นนางเป็นลูกไพร่ อยากเรียนหนังสือมากจนต้องไปแอบเรียนอยู่ใต้เรือนศึกษาของพวกผู้ชาย หญิงสาวรู้สึกว่าตนเองยังมีอิสระกว่าองค์หญิงเสียอีกที่อย่างน้อยก็สามารถมีทางเลือกในการทำสิ่งที่ใจรักบ้าง
"ต่อมาข้าได้ยินเสียงองค์หญิงทรงกรรแสง แต่นางจะแอบทำตลอด ไม่ว่าจะเป็นกลางดึกหรือเวลาเสด็จอุทยาน มาวันหนึ่งข้าทนไม่ไหวจึงทูลถามตรงๆ และองค์หญิงก็ระบายทุกสิ่งทุกอย่างให้ข้าฟังจนหมดสิ้นว่านางทุกข์ทรมานเพียงใดบ้าง"
"หลังจากนั้นเมื่อลับหลังพระมเหสี ข้าก็ตามใจองค์หญิงตลอด ให้อิสระนางในการทำสิ่งที่ชอบเสมอ ยิมโฮแทกุนเองก็เสด็จมาหาองค์หญิงบ่อยจนทำให้นางคลายความเครียดลงได้ แต่ทว่าวันหนึ่ง... ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป"
"เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ" ซอฮยอนรีบถามทันที
"องค์หญิงมาขอให้ข้าพาออกไปนอกวัง พาไปเที่ยวเล่นพบปะผู้คน พบเจอโลกภายนอก ตอนแรกข้าปฏิเสธเด็ดขาด องค์หญิงจะออกไปนอกวังโดยลำพังได้อย่างไร อย่าว่าแต่กงจู ขนาดลูกสาวขุนนางบางคนก็แทบจะไม่ได้ออกจากบ้าน หากจะออกก็ต้องมีเหตุจำเป็นจริงๆ อีกทั้งยังต้องมีผ้าคลุมคลุมตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าตลอดเวลา"
"แต่ข้าก็ทนการรบเร้าเซ้าซี้ขององค์หญิงไม่ไหว ในที่สุดก็ต้องพานางไป และนั่นเป็นการตัดสินใจที่ผิดมหันต์"
"ทำไมหรือเจ้าคะ"
"องค์หญิงติดการเที่ยวเล่นนอกวัง วิชาความรู้ในวังที่ปกตินางทำได้ดีก็แย่ลงเรื่อยๆ บางครั้งถึงกับเมินเฉยเลยก็มี เวลานั้นดายองกงจูสนใจแต่ที่จะไปนอกวัง ตอนนั้นข้ามั่นใจว่านางต้องไปรู้จักใครบางคนข้างนอกวังแน่ๆ"
"ใครกันเจ้าคะ"
"ข้าไม่รู้ ถามนางก็ไม่ยอมบอก แต่แววตานางยามที่รู้ว่าจะได้ออกไปนอกวังทีไรนั้นสั่นระริกอย่างมีความสุขเสมอ เหมือน... เหมือนนางมีเพื่อนสนิทอยู่นอกวังฉะนั้น"
"เพื่อนหรือเจ้าคะ" ซอฮยอนครุ่นคิด
"ไม่นานเรื่องก็ถึงพระเนตรพระกรรณพระมเหสี ตอนนั้นชุงจอนมามะบุกมาถึงตำหนักของดายองกงจูและไล่ทุกคนออกไปยกเว้นพระธิดาของตนเอง"
โบโมซังกุงหลับตาลง
"มันเหมือนวันนรกแตก พระมเหสีทรงกริ้วมาก ไม่มีใครเคยเห็นพระนางพิโรธเช่นนี้มาก่อน เสียงตวาด เสียงรื้อค้นข้าวของดังสนั่น และนั่นเป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินองค์หญิงเถียงกับพระมารดาตนเอง"
"เถียงว่าอะไรเจ้าคะ" ซอฮยอนถาม
"ข้าจับใจความไม่ได้เลย และหลังจากนั้นดายองกงจูก็เปลี่ยนไปอย่างที่ทุกคนเห็น ไม่ซึมเศร้าหนักหน่วงก็อาละวาดจนตำหนักแทบแตก เหมือนอาการเก็บกดตลอดมาได้ถูกปลดปล่อย"
"แล้วนายหญิงถูกขังอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อใดเจ้าคะ"
"หลังจากดายองกงจูมีพฤติกรรมแปลกประหลาดได้สองวัน ข้านั้นพยายามหาทางช่วยนางเต็มที่แต่ก็ไม่พบ จนในที่สุดพระมเหสีก็ตำหนิข้าว่าเป็นซังกุงพี่เลี้ยงที่ไม่ได้เรื่องและรับสั่งให้คุมขังข้าไว้ยังเรือนจำฝ่ายใน"
"ข้าเสียใจด้วยเจ้าค่ะ"
"ไม่เป็นไรหรอก พระมเหสีอย่างน้อยก็ทรงมีเมตตาที่ไม่ส่งข้าไปคุกหลวง แต่นึกแล้วก็เสียดาย ข้าพยายามสืบความเกี่ยวกับองค์หญิงจนเกือบจะได้เรื่องอยู่แล้วเชียว กลับกลายเป็นว่ามาถูกขังเสียก่อน ขันทีที่คุมเรือนจำพวกนี้ก็โหดร้ายนัก เข้าห้องน้ำยังต้องตามไปคุม" โบโมซังกุงบ่น
"เดี๋ยวนะเจ้าคะ ท่านว่าอะไรนะ" ซอฮยอนชะงัก
"ขันทีพวกนี้มันโหดนัก ขนาดเวลาไปห้องน้ำ--"
"ไม่ใช่เจ้าค่ะ ก่อนหน้านี้ที่ท่านพูด ท่านว่าอะไรนะเจ้าคะ"
โบโมซังกุงขมวดคิ้วอยู่ชั่วครู่
"ข้าพูดว่าสืบความเรื่ององค์หญิงจนเกือบจะได้เรื่อง"
"นั่นแหละเจ้าค่ะ หมายความว่าอย่างไรเจ้าคะ"
"ข้าเริ่มสืบทุกอย่างและจดมันลงสมุดน่ะ"
"ท่านจดลงในสมุดด้วยหรือเจ้าคะ"
"ใช่ เพราะข้าจำมันไม่ได้จึงต้องจดลงสมุดเสมอ"
"ท่านจำสิ่งที่ท่านจดได้ไหมเจ้าคะ"
โบโมซังกุงส่ายหน้า "ไม่ได้หรอก"
"เช่นนั้นสมุดนั่นอยู่ที่ไหนเจ้าคะ"
"เจ้าจะดูมันหรือ"
"ใช่เจ้าค่ะ"
"เป็นไปไม่ได้หรอก" โบโมซังกุงพูดเบาๆ
"ทำไมเล่าเจ้าคะ" ซอฮยอนสงสัย
"เพราะสมุดนั่นคือบันทึกพระกิจวัตรประจำพระองค์ของดายองกงจู และมันอยู่ในตำหนักของนางตลอดเวลา"
[ต่อจาก 50%]
ซอฮยอนตกตะลึงไปชั่วครู่
"เห็นรึไม่ ข้าบอกเจ้าแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเอาหนังสือเล่มนั้นออกมา" โบโมซังกุงพูด
"ถ้าเราขอองค์หญิงตรงๆ เล่าเจ้าคะ"
"ไม่มีทาง องค์หญิงหวงข้าวของตนเองเสียยิ่งกว่าอะไรดี"
"แล้วถ้าจะให้ซังกุงในตำหนักนางเอาออกมาได้ไหมเจ้าคะ"
"ถ้าแอบเอามาอาจจะได้ แต่ไม่มีใครรู้ว่าบันทึกนั่นถูกย้ายที่รึเปล่านี่สิ"
"นี่แสดงว่าต้องถามจากองค์หญิงเท่านั้นหรือเจ้าคะ"
"ใช่"
"ขนาดตำหนักยังเข้าไปไม่ได้เลย ใครจะกล้าถามกันเจ้าคะ"
"ข้าถึงบอกอย่างไรเล่าว่าเป็นไปไม่ได้"
"นี่ หมดเวลาเยี่ยมแล้ว" ขันทีหน้าถมึงทึงเดินเข้ามาพูดเสียงห้วน
"อะไรกัน" ซอฮยอนร้อง "ข้าเพิ่งมาได้ไม่นานเองนะเจ้าคะ"
"เงียบนะ หมดเวลาก็คือหมดเวลา ออกไปเสีย" ขันทีปรี่เข้ามากระชากแขนซอฮยอนอย่างแรงจนนางเกือบเสียหลักล้ม
"ไม่จำเป็นต้องรุนแรงขนาดนั้นก็ได้" โบโมซังกุงรีบพูด
"หุบปากนะ!" ขันทีตวาด
"ปล่อยนางเดี๋ยวนี้" เสียงเข้มทรงพลังดังออกมาจากหน้าห้อง ทุกคนหันไปมองก็พบร่างสูงสง่าของบุรุษเชื้อพระวงศ์เดินเข้ามา
"องค์ชายยิมโฮ!"
"ข้าบอกให้ปล่อยนางเสีย"
ขันทีรีบปล่อยมือ หลังจากเป็นอิสระซอฮยอนก็ถอยกรูดมายืนชิดผนังห้องทันที
"นางไม่ได้ทำอะไรผิด เหตุใดต้องรุนแรงกับนาง" องค์ชายรับสั่งถาม
"คือว่านางไม่ปฏิบัติตามกฎพ่ะย่ะค่ะ"
"ไม่ปฏิบัติตามกฎ? ข้าไม่เห็นนางทำอะไรเลย นอกจากบอกว่าตัวเองเพิ่งมา เจ้าก็ทำราวกับนางมีความผิดมหันต์ฉะนั้น อย่าลืมว่านางเป็นนางกำนัล ถึงเจ้าเป็นขันทีแต่ก็ใช่ว่าจะล่วงเกินนางได้" ยิมโฮแทกุนต่อว่า
"หม่อมฉันขออภัยพ่ะย่ะค่ะ"
"แล้วเจ้ามาทำอะไรที่นี่" องค์ชายหันมาถามซอฮยอน
หญิงสาวไม่ตอบ นางโค้งคำนับองค์ชายก่อนจะรีบวิ่งพรวดพราดออกนอกนอกประตูไป แต่ยังมิทันได้ออกไปจากเรือนจำฝ่ายใน องค์ชายก็ก้าวขาออกมายืนขวางทางไม่ให้หญิงสาวเดินต่อไปได้จนนางแทบจะชนเข้ากับอกใหญ่แข็งแรง
"เพคะ?"
"เจ้าจะหนีข้าทำไม"
"เพคะ?"
"ข้าถามว่าจะหนีจ้าทำไม ข้าถามก็ไม่ตอบ"
"เพคะ?"
"เจ้ายียวนข้าหรือ"
"เปล่านะเพคะ"
องค์ชายหรี่ตา "เช่นนั้นเจ้ามาทำอะไรที่นี่ ซอฮยอน"
หญิงสาวสะดุ้งเฮือก
องค์ชายเลิกคิ้วขึ้น
"นี่เจ้ากำลังจะแกล้งทำเป็นไม่รู้จักข้าหรือ"
"องค์ชาย ยังไม่เข้าไปหาโบโมซังกุงหรือ เสด็จมาทำอะไรตรงนี้พ่ะย่ะ-- อ่าว ซอฮยอน เจ้ามาทำอะไรที่นี่" มหาดเล็กคนสนิทเดินเข้ามาก่อนจะร้องทัก
"โชคังอิน เจ้าอย่าทำเป็นรู้จักนางสิ ตอนนี้แม่นางผู้นี้กำลังแกล้งไม่รู้จักเราอยู่นะ" องค์ชายตรัสด้วยน้ำเสียงคล้ายจะเล่นสนุก โชคังอินงุนงง
"อะไรกัน หม่อมฉันไม่เข้าใจ"
"ใต้เท้า ข้ามาพบโบโมซังกุงเจ้าค่ะ" ซอฮยอนพูดออกมา
"โอ้ สวรรค์!" องค์ชายแสร้งทำท่าตกอกตกใจ "นางพูดได้ เจ้าดูสิโชคังอิน นางพูดได้ด้วย"
ซอฮยอนเผลอค้อนองค์ชายทีหนึ่ง
"องค์ชาย ทรงเล่นอะไรอยู่พ่ะย่ะค่ะ" มหาดเล็กกระซิบถาม องค์ชายไม่ตอบ
"แล้วใต้เท้ามาทำอะไรที่นี่เจ้าคะ" ซอฮยอนถามบ้างโดยจงใจเลี่ยงที่จะคุยกับยิมโฮแทกุน
"องค์ชายจะเสด็จมาคุยกับโบโมซังกุงเรื่ององค์หญิงดายอง แล้วเจ้ามาหานางด้วยเรื่ององค์หญิงเหมือนกันหรือ" มหาดเล็กตอบ
"เจ้าค่ะใต้เท้า"
"นางกำนัลห้องเขียนหนังสือเหตุใดจึงอยากอาสาสืบเรื่องน้องสาวข้าเล่า อยากได้รางวัลจากข้าหรือ" องค์ชายยิมโฮถาม
"ไม่เลยเพคะ" ซอฮยอนพลั้งปากตอบก่อนที่จะยั้งตัวเองได้ทัน
"นี่เจ้า" โชคังอินดุ "พูดกับองค์ชายแบบนั้นได้อย่างไร"
"ขออภัยเจ้าค่ะ" นางก้มศีรษะ
"ไปเถอะโชคังอิน เหมือนแม่นางผู้นี้ไม่อยากจะเสวนากับข้าเท่าไร" องค์ชายตรัสจบก็หันองค์เดินเข้าไปในเรือนจำ ฉับพลันความคิดบางอย่างก็แล่นวาบเข้ามาในหัวของซอฮยอนทันที
"เอ่อ องค์ชายเพคะ" นางร้องเรียก
ยิมโฮแทกุนชะงักก่อนจะหันมามอง "เจ้าจำข้าได้แล้วหรือ"
หญิงสาวรีบก้มหน้าลง องค์ชายหัวเราะ "จะพูดอะไรหรือ ว่ามาสิ"
"องค์ชาย พระองค์ช่วยอะไรหม่อมฉันอย่างหนึ่งได้รึไม่เพคะ" ซอฮยอนรีบพูด
"อะไรนะ"
"หม่อมฉันอยากได้บันทึกพระกิจวัตรประจำพระองค์ของดายองกงจูเพคะ"
องค์ชายชะงักไปชั่วขณะ
"บังอาจนัก เจ้าพูดอะไรออกมาน่ะรู้ตัวไหม" โชคังอินร้อง
"ข้ามิได้บังอาจนะเจ้าคะ แต่ว่า--"
"บันทึกนั่นเป็นของส่วนพระองค์ กล้าดีอย่างไรถึงมาละลาบละล้วงทรัพย์สินขององค์หญิง แล้วนี่ยังกล้าให้องค์ชายไปเอาออกมาอีก"
"ไม่ใช่อย่างนั้นนะเจ้าคะ หนังสือเล่มนั้นมีการลงบันทึกเกี่ยวกับสิ่งที่องค์หญิงทรงเป็นอยู่ ข้าว่าเราต้องเริ่มดูจากตรงนั้น"
"เจ้าพูดอะไร มีการลงบันทึกหรือ" องค์ชายสงสัย
"เพคะ พระองค์ถามโบโมซังกุงที่อยู่ข้างในก็ได้ นางเป็นคนลงบันทึกเหล่านั้นไว้เอง"
"แล้วบันทึกนั่นเจ้าคิดว่าจะหาสาเหตุได้พบหรือ"
"หม่อมฉันไม่รับรองเพคะ แต่บันทึกจากซังกุงพี่เลี้ยงย่อมมีประโยชน์กว่าการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุนะเพคะ และที่หม่อมฉันบังอาจขอให้องค์ชายนำบันทึกนั้นออกมาก็เพราะไม่มีทางเลือก ตอนนี้ไม่มีนางในคนไหนเข้าใกล้ตำหนักองค์หญิงได้เลยเพคะ เวลาก็เดินไปเรื่อยๆ"
องค์ชายนิ่งไปสักพัก
"ที่นางพูดก็มีเหตุผลอยู่นะพ่ะย่ะค่ะ" โชคังอินเอ่ยเบาๆ
"เอาไว้ข้าจะคิดดู" องค์ชายตรัส
"ขอบพระทัยองค์ชายเพคะ" ซอฮยอนตอบ
"ขอบใจข้าด้วยเหตุไร ข้ายังไม่รับปากเจ้าเลยนะ"
"องค์ชายยอมรับฟังหม่อมฉัน ก็เท่ากับยอมตกลงนั่นแหละเพคะ" หญิงสาวทูลตอบก่อนจะหันหลังเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ยิมโฮแทกุนมองตามไปด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด
"นาง... นางช่าง..."
"อะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ" มหาดเล็กหันมาถาม
องค์ชายไม่ตอบ ได้แต่ยืนมองอยู่เช่นนั้นจนซอฮยอนเดินลับกายหายไป
คิมซังกุงเดินนำหน้าคิมเซจีมายังตำหนักขององค์หญิงอย่างรีบเร่ง ในอ้อมแขนของเซจีอุ้มแมวสีน้ำตาลที่นำมาจากโรงเลี้ยงสัตว์อยู่ด้วย เจ้าแมวเพศเมียมีทีท่าว่าจะตื่นกลัวเนื่องจากรู้สึกแปลกที่แปลกถิ่น เซจีจึงพยายามลูบขนไปมาเพื่อให้เจ้าแมวคลายกังวล
นางในโซยุนที่ยืนอยู่หน้าตำหนักองค์หญิงดายองเหลือบไปเห็นคิมซังกุงเดินมาก็รีบเดินลงไปคำนับ
"นายหญิง ท่านมาทำอะไรที่นี่เจ้าคะ พักนี้องค์หญิงมีรับสั่งไม่ให้ผู้ใดเข้าเฝ้านะเจ้าคะ"
"ไม่จำเป็นแล้วแหละ เพราะต่อจากนี้องค์หญิงจะกลับมาเป็นดังเดิม" คิมซังกุงพูด
"นายหญิง ท่านหมายความว่าอะไร"
"ข้าพบแมวทรงเลี้ยงขององค์หญิงแล้ว"
"อะไรนะเจ้าคะ! ท่านพบแล้วจริงหรือ"
คิมซังกุงผายมือไปยังคิมเซจีที่ยืนอุ้มแมวตัวสีน้ำตาลอยู่ นางในโซยุนมองตาม
"ไหนเล่าเจ้าคะ"
"เจ้าตาบอดรึ ก็แมวในอ้อมแขนหลานสาวข้าอย่างไรเล่า"
"นายหญิง ท่านพูดอะไรเจ้าคะ"
"ทำไมหรือ"
"แมวตัวนี้ไม่ใช่แมวขององค์หญิงดายองนะเจ้าคะ"
คิมซังกุงชะงักเล็กน้อย แต่ชั่วพริบตาก็รีบพยายามรักษาสีหน้าให้เป็นปกติ
"อะไรของเจ้า ไม่ใช่เจ้าของแมวจะมาชี้ชัดได้อย่างไรว่าตัวนี้ไม่ใช่ ทำมารู้ดีเกินนาย" คิมซังกุงต่อว่า
"นายหญิง ดูผิวเผินแมวตัวนี้คล้ายกับแมวทรงเลี้ยงมาก แต่คนละตัวแน่นอนเจ้าค่ะ"
"สอดรู้ เป็นแค่นางในไฉนทำรู้ดี หลีกไปนะ!"
"ไม่ต้องเป็นนางในก็ดูออกเจ้าค่ะถ้าใครรับใช้อยู่ตำหนักองค์หญิง"
"เจ้าจะพูดอะไร"
"นายหญิง แมวทรงเลี้ยงขององค์หญิงดายองมีตาสองสีเจ้าค่ะ"
"อะไรนะ!"
โปรดติดตามตอนต่อไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น