ลำดับตอนที่ #51
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #51 : พิสูจน์อาวุธ [100%]
ตอนที่ 51 พิสูจน์อาวุธ
"เปิดโปงแผนร้าย?" ใต้เท้าต้นเครื่องทวนคำเสียงสูงพลางลุกขึ้นยืน "เจ้าพูดเรื่องอะไรกัน"
"นายหญิง" ซอฮยอนที่ยืนอยู่ข้างๆ จางซังกุงเรียกเบาๆ "ให้ข้าพูดเองเถิดเจ้าค่ะ"
จางซังกุงพยักหน้าและหลีกทางให้ซอฮยอนเดินออกไปข้างหน้า
"เจ้าอีกแล้วหรือ" ใต้เท้าวอนโจอุทาน
"ท่านรู้จักนางผู้นี้หรือ" ใต้เท้าต้นเครื่องหันมาถามใต้เท้าวอนโจผู้ดำรงตำแหน่งเจ้ากรมอาญา
"ใช่ นางเป็นผู้ไขคดีปริศนาของฮงซังกุงได้จนทำให้คนผิดที่แท้จริงได้รับการลงโทษส่วนคนบริสุทธิ์ได้รับการล้างมลทิน"
"แล้วคราวนี้เจ้ามาทำอะไร" ใต้เท้าต้นเครื่องหันไปถามซอฮยอน
"คดีสังหารองค์ชาย ข้าคิดว่ามีข้อบกพร่องเจ้าค่ะใต้เท้า" หญิงสาวตอบ
ทุกคนในลานหน้ากรมอาญาขยับตัวทันที โยชิดะหันมามองหน้าซอฮยอนด้วยความแปลกใจ
"เจ้าพูดอะไรออกมา รู้ตัวรึไม่" ใต้เท้าต้นเครื่องเอ่ยเสียงเข้ม
"รู้ดีเจ้าค่ะ ถึงได้มาที่นี่อย่างไรเล่าเจ้าคะ"
"ที่นี่คือกรมอาญา นางในไม่ว่าอยู่สังกัดใดก็ห้ามยุ่งเกี่ยวหรือก้าวก่ายเด็ดขาด เจ้าไม่รู้กฎหรือ"
"ทราบดีเจ้าค่ะ แต่ถ้าหากข้ารู้ว่าคดีที่กำลังตัดสินองค์ชายอยู่นั้นไม่เป็นธรรม ข้าในฐานะข้าราชบริพารคนหนึ่งไม่มีสิทธิ์ที่จะร้องเรียนได้เลยหรือเจ้าคะ"
"หากเจ้ามีข้อคัดค้านก็จงยื่นผ่านขึ้นมาผ่านทางกรมอาญา ไม่ใช่เสียมารยาทเดินเข้ามาในเขตที่เป็นส่วนของขุนนางเช่นนี้ เจ้าลืมรึอย่างไรว่าตัวเองเป็นสตรี" ใต้เท้าต้นเครื่องต่อว่า
"ไม่ลืมเจ้าค่ะใต้เท้า แต่ถ้าข้ามัวส่งเรื่องขึ้นไป กว่าจะถึงมือท่านป่านนี้องค์ชายคงถูกขับออกไปนอกวังแล้วกระมังเจ้าคะ"
"แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่เจ้าทำก็ผิดกฎอยู่ดี ในอดีตเจ้าเคยมีส่วนในคดีของฮงซังกุงซึ่งเป็นคดีที่ข้องแวะกับนางในซึ่งเจ้าจะมีส่วนช่วยก็ไม่แปลกเพราะเป็นเรื่องของวังหลัง แต่คดีขององค์ชายคราวนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับวังหน้าจวบจนถึงความมั่นคงของบ้านเมืองซึ่งเป็นเรื่องของกรมอาญาที่จะไต่สวน นางในอย่างเจ้าไม่มีสิทธิ์ยุ่งเกี่ยว ทหาร นำตัวนางออกไป"
ทหารของกรมอาญาสองนายเดินพุ่งเข้ามาคว้าแขนซอฮยอนทันที
"ใต้เท้า" จางซังกุงรีบพูด "ได้โปรดให้นางได้ช่วยพิสูจน์เถิดเจ้าค่ะ หากผลออกมาว่าองค์ชายยังเป็นคนผิด ข้าจะขอรับโทษที่มายุ่งยากในกรมอาญาเองเจ้าค่ะ"
"นายหญิง!" ซอฮยอนร้อง
"ไม่ได้!" ใต้เท้าต้นเครื่องกล่าวเสียงดัง "ท่านก็อีกคน เป็นถึงซังกุงกลับไม่ห้ามปรามเด็ก ปล่อยให้เดินเข้ามาราวกับวังหลวงเป็นสนามเด็กเล่นฉะนั้น"
"ใต้เท้าต้นเครื่อง" ใต้เท้าวอนโจขัดขึ้น "จะเป็นอันใดรึไม่หากข้าขอฟังสิ่งที่นางจะพูดก่อน"
"แต่ว่า--"
"ข้ารู้ว่าท่านได้รับพระบัญชาจากฝ่าบาทโดยตรงให้ดูแลคดีนี้ แต่ที่แห่งนี้คือกรมอาญาซึ่งอยู่ในความควบคุมดูแลของข้า เช่นนั้นท่านจงให้อนุโลมให้นางสักครั้งเถิด"
ใต้เท้าต้นเครื่องทำท่าฟึดฟัดเล็กน้อยก่อนจะสะบัดแขนนั่งลงอย่างอารมณ์เสีย เจ้ากรมอาญาเห็นดังนั้นจึงหันไปหาซอฮยอนและเอ่ยถาม
"เอาล่ะ เจ้ามีอะไรจะพูดหรือ"
ซอฮยอนก้มศีรษะให้ใต้เท้าวอนโจและพานายช่างจีแฮนัมเดินอออกมาข้างหน้า
"คนนี้คือนายช่างอาวุธผู้ชำนาญที่ข้านำมาจากนอกวังเจ้าค่ะ"
ทุกคนส่งสายตามองจีแฮนัมช้าๆ บางคนทำหน้ารังเกียจเมื่อเห็นเสื้อผ้าอันขะมุกขะมอมและหน้าตาที่ดูแวบเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นชนชั้นไพร่
"เจ้าพามาจากไหน" ใต้เท้าวอนโจถามต่อ
"โรงตีดาบที่ใหญ่ที่สุดในฮันยางเจ้าค่ะ"
"เจ้าพาเขาเข้าวังมาเพื่ออะไร"
"เขามีความชำนาญการเทียบอาวุธและบาดแผลที่เกิดจากอาวุธ ข้าจึงพาเขามาเพื่อตรวจดาบองค์ชายเจ้าค่ะ" ซอฮยอนตอบ
"เจ้าเสียสติรึ" โยชิดะพูดแทรกขึ้นมาทันควัน "การตรวจพิสูจน์ดาบกับรอยแผลได้ผ่านไปเรียบร้อยโดยหมอทหารชางลีฮยอนซึ่งคดีก็ตัดสินไปแล้ว"
"ข้อนั้นข้ารู้" ซอฮยอนหันไปตอบโยชิดะ "แต่หมอทหารชางลีฮยอนเป็นเพียงมือหนึ่งในวัง ไม่ใช่มือหนึ่งในโชซอนนี่เจ้าคะ"
โยชิดะหัวเราะดังลั่นก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
"นี่เจ้าจะบอกว่าหนุ่มปริศนาที่พามาคือมือหนึ่งอย่างนั้นหรือ"
"มิใช่เจ้าค่ะ ข้าแค่จะบอกว่าเขาอาจตรวจได้ดีกว่าชางลีฮยอนก็เท่านั้น"
"ไพร่สกปรกนี่น่ะรึเก่งกว่าหมอทหารในวัง ช่วยแหกตาดูสารรูปมันด้วย" โยชิดะเหยียดหยาม
"รูปลักษณ์ภายนอกเกี่ยวอะไรกับสติปัญญาความสามารถหรือเจ้าคะ"
"หุบปาก!"
"พอได้แล้วทั้งคู่" ใต้เท้าวอนโจตัดบท
"ใต้เท้า" โยชิดะรีบพูด "อย่าไปฟังนางนะขอรับ เอาไพร่ชั้นต่ำมาพิสูจน์ดาบ ท่านว่าเหมาะควรแล้วหรือ ไม่แน่ว่าชายผู้นี้อาจมิใช่ช่างอาวุธเสียด้วยซ้ำแต่เป็นพรรคพวกที่จะมาหลอกตบตาพวกเราเพื่อช่วงองค์ชาย"
เจ้ากรมอาญานั่งนิ่ง ในหัวคิดไตร่ตรองตามคำพูดของโยชิดะ และเมื่อเวลาผ่านไปสักพักเขาก็หันไปพูดกับจีแฮนัม
"เจ้าเป็นช่างอาวุธแน่หรือ"
"จริงขอรับใต้เท้า" แฮนัมกล่าวอย่างนอบน้อม
"ถ้าหากว่าเจ้าพูดปด ข้าจะสั่งตัดหัวเจ้าทันที เจ้าจะว่าอย่างไร" ใต้เท้าวอนโจพูดพลางสังเกตอากัปกิริยาของจีแฮนัม
"ข้ามิได้ปดท่าน ถึงข้าจะเป็นไพร่แต่ก็มีฝีมือทางด้านอาวุธ หากท่านประสงค์จะเอาชีวิตข้า ท่านย่อมเอาไปได้ทุกเมื่อขอรับใต้เท้า"
เจ้ากรมอาญาเลิกคิ้วขึ้นสูง
"เช่นนั้นก็จงเข้ามาตรวจรอยแผลของศพเถิด"
"ใต้เท้า!" โยชิดะโวยวายทันที "ทำอย่างนี้ไม่ได้นะขอรับ เราเชื่อใจคนคนนี้ไม่ได้"
"ข้ารู้ดีว่าข้าทำสิ่งใดอยู่" ใต้เท้าวอนโจตอบ "มหาดเล็กโช เจ้าช่วยนำดาบขององค์ชายมาที" โชคังอินคำนับก่อนจะวิ่งไปหยิบดาบของยิมโฮแทกุนเข้ามากลางลาน
ซอฮยอนพยักหน้าให้กำลังใจกับจีแฮนัม นายช่างอาวุธสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเดินเข้ากลางลานและก้มลงตรวจศพของมาซาฮิโระซึ่งถูกห่อหุ้มอยู่ด้วยผ้าสีขาว
"แล้วนี่ชางลีฮยอนมันไปไหน เหตุใดถึงไม่มาที่นี่ ถ้ามันอยู่อาจจะช่วยโต้เถียงกับเจ้าไพร่คนนี้ได้นะขอรับ" ฮอนโดแอบก้มลงกระซิบกับโยชิดะเพียงสองคน
"ข้าก็โมโหอยู่ที่มันหายตัวไป ไม่รู้ว่าหลบไปอยู่ไหน แล้วดันมาหายตัวในช่วงเวลาสำคัญเสียด้วย" โยชิดะกระซิบตอบพลางกำหมัดแน่น
นายช่างจากโรงตีดาบใหญ่ก้มลงเพ่งมองรอยแผลของศพอย่างช้าๆ สักพักใหญ่ๆ เขาก็เงยหน้าเรียกหมอหลวงสามสี่คนให้มาดูรอยแผลพลางพูดคุยซุบซิบอะไรกันบางอย่าง
"พวกเจ้าแอบคุยอันใด" โยชิดะร้องถาม
"ข้ากำลังใช้สมาธิ ท่านอย่าเพิ่งรบกวน" จีแฮนัมพูดโดยไม่เงยหน้า
"เจ้าไพร่สามหาว! กล้าโอหังกับข้าหรือ!"
"โยชิดะ ท่านใจเย็นๆ ลงก่อนได้รึไม่" ใต้เท้าวอนโจพูดอย่างรำคาญ ชายชาวญี่ปุ่นก้มหน้าลงทันที
ขณะนั้นมหาดเล็กโชคังอินก็เลียบๆ เคียงๆ ตรงเข้ามาหาซอฮยอนก่อนจะไต่ถาม
"นี่เจ้าพาใครมากันหรือ"
"ก็บอกแล้วนี่เจ้าคะว่าเขาคือนายช่างของโรงตีดาบในฮันยาง"
"แน่ใจใช่ไหมว่าจะช่วยองค์ชายได้"
"อาจจะได้ หรืออาจจะไม่ได้เจ้าค่ะ"
"อะไรกัน เจ้านี่พูดจากำกวมนัก"
ฉับพลัน นายช่างจีแฮนัมก็ลุกขึ้นยืนก่อนจะกล่าวด้วยเสียงอันดัง
"ได้โปรดจัดหาหมูที่ตายแล้วหนึ่งตัวกับซูบัก(แตงโม)มาสองลูกด้วยขอรับ"
[ต่อจาก 50%]
"หมูตายกับซูบักหรือ" ใต้เท้าวอนโจเลิกคิ้ว
"ขอรับ ขอหมูทั้งตัวเลยนะขอรับ แล้วก็ซูบักสองลูกขอรับ" จีแฮนัมตอบ
"จะเอามาทำอันใด" ใต้เท้าต้นเครื่องถามขึ้นบ้าง
"ข้าจะพิสูจน์ให้ดูขอรับว่าดาบขององค์ชายใช่อาวุธที่สังหารทูตญี่ปุ่นรึไม่"
"หมูทั้งตัวกับแตงโมเนี่ยน่ะหรือ ข้าไม่เห็นเข้าใจ"
"เดี๋ยวท่านก็จะเห็นเองขอรับ" นายช่างพูดกับใต้เท้าต้นเครื่องจบก็หันไปหาใต้เท้าวอนโจอีกครั้ง "ใต้เท้าช่วยจัดหามาให้ข้าทีขอรับ"
เจ้ากรมอาญาพยักหน้าและสั่งให้ทหารคนหนึ่งไปห้องเครื่องแจ้งซังกุงสูงสุดขอหมูตายหนึ่งตัว ส่วนทหารอีกคนไปห้องผลไม้ขอแตงโมมาสองผล
ไม่นานแตงโมสีเขียวสองลูกก็ถูกนำมาที่ลานหน้าห้องไต่สวน ตอนนี้ก็เหลือเพียงแต่ตัวหมูเท่านั้น
"เจ้ากำลังถ่วงเวลารึ" โยชิดะพูดค่อนขอดจีแฮนัม "จริงๆ แล้วเจ้าไม่ใช่ช่างอาวุธ พอไม่สามารถดูรอยแผลออกได้ก็หาทางเอาตัวรอดโดยการแกล้งหาของไร้สาระมาประวิงเวลาอย่างนั้นหรือ"
"ก็เพราะท่านไม่เชื่อว่าข้าเป็นช่างอาวุธ ข้าจึงต้องพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นกับตาสิขอรับว่าข้าเป็นจริงๆ"
"หมูกับแตงโมไม่ใช่สิ่งการันตีความสามารถของช่างอาวุธ"
"แต่ก็สามารถเปรียบเทียบรอยฟันจากดาบได้ดีเยี่ยมทีเดียว"
"เจ้ามั่วต่างหาก"
จีแฮนัมหัวเราะ
"ท่านโยชิดะ" นายช่างเอ่ยเบาๆ "ที่ท่านพยายามพูดจาตีรวนบ้าง ขัดคอบ้าง ไม่ใช่เพราะว่าท่านไม่เชื่อหรอก แต่ใจลึกๆ แล้วท่านเชื่อว่าข้าสามารถเปิดโปงเรื่องนี้ได้จึงพูดจาให้ข้าเสียความมั่นใจก็เท่านั้นเอง"
โยชิดะตัวเย็นเฉียบตั้งแต่หัวจรดเท้า เจ้าไพร่ชั้นต่ำคนนี้ มันรู้ทันความคิดเขา
พ่อครัวจากห้องเครื่องสี่คนช่วยกันแบกกระบะไม้ยักษ์ซึ่งภายในบรรจุหมูตัวมหึมาที่ถูกเชือดเรียบร้อยแล้วเข้ามาในลานของกรมอาญาอย่างทุลักทุเล จีแฮนัมรีบเข้าไปช่วยยกทันทีและค่อยๆ คว่ำกระบะไม้เทตัวหมูให้ร่วงลงพื้นก่อนจะจัดท่าให้เป็นนอนตะแคงข้าง ทุกคนรีบเข้ามามุงดูใกล้ๆ
นายช่างคว้าแตงโมมาลูกหนึ่งและวางแนวนอนบนร่างของหมูบริเวณกึ่งกลางลำตัว
"เขาจะทำอันใดกัน" จางซังกุงพูดเบาๆ ด้วยความแปลกใจ
"ข้าก็ไม่รู้เจ้าค่ะ" ซอฮยอนตอบพลางสังเกตการณ์ต่อไป
เมื่อวางแตงโมบนตัวหมูได้โดยที่มันไม่กลิ้งไปมาได้สำเร็จ จีแฮนัมก็ประกาศว่า
"ได้โปรดขอทหารคนหนึ่งด้วยขอรับ ขอเป็นทหารที่ไม่ใช่คนขององค์ชาย ท่านโยชิดะจะได้ไม่ครหาเรื่องการลำเอียง"
ใต้เท้าวอนโจสะกิดนายทหารคนหนึ่งให้ไปเป็นผู้อาสาสมัคร ทหารนายนั้นก้มศีรษะให้และเดินไปหาจีแฮนัม นายช่างหยิบดายขององค์ชายส่งให้และกล่าวว่า
"จงฟันลงไปยังเนื้อหมูที่อยู่ใต้แตงโมผลนี้ด้วยขอรับ"
"อะไรนะ!" นายทหารงุนงง
"ท่านจงจินตนาการว่าเนื้อหมูใต้ผลแตงโมคือลำคอของศัตรูที่ต้องฟันให้กระจุย"
"ต้องเป็นเนื้อบริเวณใต้แตงโมเท่านั้นหรือ"
"ขอรับ ต้องตรงนั้นเท่านั้น"
นายทหารหลับตา เขากำด้ามดาบแน่นเพื่อตรวจสอบความมั่นคง เมื่อยืนตั้งหลักได้ที่ก็ค่อยๆ ยื่นปลายดาบไปแตะบนตัวหมูก่อนจะตั้งสมาธิเล็ง
ฉับพลัน นายทหารกรมอาญาก็เงื้อดาบประจำพระองค์ของยิมโฮแทกุนขึ้นสูงก่อนจะตวัดฟันลงบนตัวหมูอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ตามมาด้วยเสียงโลหะกระทบเฉือนกับเนื้อ แตงโมลูกกลมถูกผ่าครึ่งซีกและร่วงลงพื้น เนื้อและน้ำสีแดงไหลหลั่งบนเนื้อสีขาวของสุกรจนท่วมเต็มไปหมด
จีแฮนัมรีบเดินเข้ามาดูรอยแผลบนตัวหมูทันที เขาใช้มือเปิดปากแผลและก้มลงดูอย่างพินิจพิเคราะห์ ไม่นานเขาก็กวักมือเรียกให้หมอหลวงเข้ามาดูด้วย
หมอหลวงสองคนเดินเข้ามาก้มลงดูรอยฟันบนตัวหมู สักพักหมอหนึ่งในสองคนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
"รอยแผลต่างกัน" เขาเอ่ยขึ้นเบาๆ
"อะไรนะ!" ใต้เท้าต้นเครื่องร้องขึ้น "ช่วยบอกข้าด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นไม่ใช่คุยกันอยู่สองสามคน ลืมไปแล้วหรือว่าข้าเป็นผู้ไต่สวน มิใช่หัวหลักหัวตอ"
"ขออภัยใต้เท้า" หมอหลวงรีบพูด "ตอนแรกพวกข้าก็ไม่แน่ใจแต่ตอนนี้มั่นใจแล้วขอรับ"
"มั่นใจว่าอะไรหรือ"
"ดาบขององค์ชายยิมโฮ" หมอหลวงหยุดพูดไปสักพัก ทุกคนกลั้นใจรอฟัง "มิใช่อาวุธสังหารมาซาฮิโระแน่นอนขอรับ"
ทุกคนมองหน้ากันเลิ่กลั่กทันทีหลังจบการประกาศจากหมอหลวง จางซังกุงกับซอฮยอนยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ส่วนมหาดเล็กโชคังอินถึงกับกระโดดตัวลอยเมื่อได้ยิน
"เป็นไปไม่ได้!" โยชิดะตะเบ็งเสียงดังลั่น "จะเป็นไปได้อย่างไร หมอทหารชางลีฮยอนก็บอกไว้แล้วว่าอาวุธสังหารก็คือดาบเล่มนี้"
"ท่านหมอ ท่านจะแก้ต่างอย่างไร" ใต้เท้าต้นเครื่องหันมาถาม
"ข้ามิใช่ช่างอาวุธ จึงขอพูดแต่เรื่องของรอยแผลนะขอรับ" หมอหลวงกล่าวขึ้น "จากการสังเกตศพของมาซาฮิโระ รอยแผลฉีกขาดนั้นเรียบสนิท บาดลึก อีกทั้งการลงน้ำหนักไม่เปลี่ยนไปจากการปะทะระหว่างคมอาวุธและปากแผล ดาบในโชซอนส่วนมากจะใช้มือเดียวและทั้งสองมือในการฟัน แน่นอนว่าน้ำหนักย่อมไม่คงที่ แผลนี้จึงไม่ได้เกิดจากดาบที่ใช้กันในโชซอนแน่นอน"
"ทว่าเป็นดาบสั้นซึ่งมีความคมกริบอย่างน่าเหลือเชื่อ" จีแฮนัมพูดขึ้นบ้าง "ที่สำคัญไม่ใช่ดาบสั้นของโชซอน แต่เป็นดาบสั้นวากิซาชิจากซามูไรของนิจิฮง"
"อะไรนะ วากิซาชิหรือ!" ใต้เท้าวอนโจร้อง
"ขอรับใต้เท้า ดาบชนิดนี้มีความโค้งและคมกริบไม่ต่างจากคาตานะ เวลาฟันจึงเกิดรอยแผลที่บาดลึกกว่าดาบขององค์ชายยิมโฮ ซึ่งเมื่อมาใช้กับตัวหมูรอยแผลจึงไม่เรียบสนิท บางส่วนตื้น บางส่วนลึก ความคมน้อยกว่ามาก"
"แล้วเอาแตงโมมาทำอะไรหรือ" ใต้เท้าต้นเครื่องถาม
"ข้าวัดความลึกจากแผลด้วยน้ำจากแตงโมที่ไหลลงไปในรอยฟันบนตัวหมูขอรับ" จีแฮนัมตอบ
"อะไรนะ!"
"เพื่อวัดความลึกของแผลจึงต้องใช้วิธีนี้ ข้าไม่รู้ว่าเหตุใดหมอทหารชางลีฮยอนถึงกล่าวว่าดาบนี้ใช่ทั้งๆ ทีมันไม่ใช่"
"เหลวไหลทั้งเพ" โยชิดะร้องออกมา "ใครจะพูดอะไรก็พูดได้"
"เช่นนั้นข้าขอพิสูจน์ด้วยดาบท่านได้รึไม่" จีแฮนัมพูดขึ้น
"อะไรนะ!"
"ในเมื่อท่านไม่เชื่อในคำพูดก็ต้องพิสูจน์ด้วยหลักฐาน อีกอย่างข้าเพิ่งบอกไปว่ารอยแผลมันคล้ายถูกฟันด้วยดาบสั้นวากิซาชิจากพวกนิจิฮง ซึ่งในลานนี้มีแค่ท่านกับฮอนโดที่เป็นนิจิฮง"
"นี่เจ้าใส่ร้ายข้าหรือ!"
"ถ้าท่านบริสุทธิ์จริงก็จงรีบเอามาพิสูจน์เถิด"
"หุบปาก! มาซาฮิโระเป็นเพื่อนข้า ข้าจะสังหารเขาได้อย่างไร"
"เพราะเจ้าลอบฆ่าสหายตนเองอย่างไรเล่า!" เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังลั่นมาจากประตูทางเข้าลานหิน ทุกคนหันไปมอง
"หมอทหารชางลีฮยอน!"
ชางลีฮยอนพร้อมทหารสามสี่นายเดินเข้ามาในลานไต่สวนก่อนจะชี้หน้าโยชิดะด้วยความโกรธแค้น
"ข้าจะไม่ตกอยู่ใต้อำนาจเจ้าอีกต่อไป"
"อำนาจ? อำนาจอะไรกัน" ใต้เท้าวอนโจร้องถาม
"โยชิดะได้ลักพาตัวลูกเมียของข้าไปเพื่อให้ข้าใส่ร้ายยิมโฮแทกุนว่าดาบของพระองค์คืออาวุธที่ใช้สังหารมาซาฮิโระซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ แต่ทว่าตอนนี้ทหารได้ไปช่วยลูกเมียจากคนของเจ้าเรียบร้อยแล้ว ข้าจึงไม่จำเป็นต้องตกอยู่ใต้อาณัติของเจ้าอีกต่อไป!"
"นี่... นี่เจ้า" โยชิดะตัวสั่น
"ดาบที่สังหารมาซาฮิโระก็คือดาบวากิซาชิในมือของมันนั่นเอง และที่สำคัญมันไม่ใช่ทูตญี่ปุ่นที่ส่งมาโดยจักรพรรดิ มันอ้างจักรพรรดิเพื่อให้เรากลัว แต่ความจริงพวกมันคือสายลับที่ไดเมียวตระกูลโอโตะโมะส่งมาจากเกาะคิวซูเพื่อปั่นป่วนเราต่างหาก" ชางลีฮยอนตะโกน
มือของโยชิดะกำแน่น เห็นทีเขาต้องเปิดเผยตัวเสียแล้ว
โยชิดะขยับตัวอย่างรวดเร็วจนทุกคนไม่ทันเห็น สายลับนิจิฮงกระโดดถีบหน้าอกทหารกรมอาญาล้มระเนระนาดไปสองนาย ก่อนจะหยิบอาวุธร้ายซัดใส่ศัตรูรอบด้าน
มันคือมีดบิน!
ทหารหลายคนที่เจนจัดด้านการรบไหวตัวทันใช้ดาบปัดและกระโดดหลบมีดบินเหล่านั้นได้โดยง่าย มีดบินจึงแค่พุ่งผ่านไปชนกำแพงข้างหลังและร่วงลงพื้น
แต่ช่วงที่ทุกคนชุลมุนนั้น หารู้ไม่ว่ามีดบินเล่มหนึ่งกำลังพุ่งเข้ามาใส่ซอฮยอนซึ่งไม่ว่าอย่างไรนางก็หลบไม่พ้นแน่นอน
โปรดติดตามตอนต่อไป
(เรียนนักอ่านทุกท่าน ด้วยเพราะเมื่อวานผมไม่ได้อัปนิยายและวันนี้ผมอัปด้วยเนื้อหาค่อนข้างน้อย จึงขอชดเชยด้วยการอัป 2 ตอนในวันพรุ่งนี้นะครับ ขอบคุณมากครับ)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น