ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กลรักวังหลวง [서현]

    ลำดับตอนที่ #51 : พิสูจน์อาวุธ [100%]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.97K
      143
      8 มิ.ย. 62

    ตอนที่ 51 พิสูจน์อาวุธ






         "เปิดโปงแผนร้าย?" ใต้เท้าต้นเครื่องทวนคำเสียงสูงพลางลุกขึ้นยืน "เจ้าพูดเรื่องอะไรกัน"

         "นายหญิง" ซอฮยอนที่ยืนอยู่ข้างๆ จางซังกุงเรียกเบาๆ "ให้ข้าพูดเองเถิดเจ้าค่ะ"

         จางซังกุงพยักหน้าและหลีกทางให้ซอฮยอนเดินออกไปข้างหน้า

         "เจ้าอีกแล้วหรือ" ใต้เท้าวอนโจอุทาน

         "ท่านรู้จักนางผู้นี้หรือ" ใต้เท้าต้นเครื่องหันมาถามใต้เท้าวอนโจผู้ดำรงตำแหน่งเจ้ากรมอาญา

         "ใช่ นางเป็นผู้ไขคดีปริศนาของฮงซังกุงได้จนทำให้คนผิดที่แท้จริงได้รับการลงโทษส่วนคนบริสุทธิ์ได้รับการล้างมลทิน"

         "แล้วคราวนี้เจ้ามาทำอะไร" ใต้เท้าต้นเครื่องหันไปถามซอฮยอน

         "คดีสังหารองค์ชาย ข้าคิดว่ามีข้อบกพร่องเจ้าค่ะใต้เท้า" หญิงสาวตอบ

         ทุกคนในลานหน้ากรมอาญาขยับตัวทันที โยชิดะหันมามองหน้าซอฮยอนด้วยความแปลกใจ

         "เจ้าพูดอะไรออกมา รู้ตัวรึไม่" ใต้เท้าต้นเครื่องเอ่ยเสียงเข้ม

         "รู้ดีเจ้าค่ะ ถึงได้มาที่นี่อย่างไรเล่าเจ้าคะ"

         "ที่นี่คือกรมอาญา นางในไม่ว่าอยู่สังกัดใดก็ห้ามยุ่งเกี่ยวหรือก้าวก่ายเด็ดขาด เจ้าไม่รู้กฎหรือ"

         "ทราบดีเจ้าค่ะ แต่ถ้าหากข้ารู้ว่าคดีที่กำลังตัดสินองค์ชายอยู่นั้นไม่เป็นธรรม ข้าในฐานะข้าราชบริพารคนหนึ่งไม่มีสิทธิ์ที่จะร้องเรียนได้เลยหรือเจ้าคะ"

         "หากเจ้ามีข้อคัดค้านก็จงยื่นผ่านขึ้นมาผ่านทางกรมอาญา ไม่ใช่เสียมารยาทเดินเข้ามาในเขตที่เป็นส่วนของขุนนางเช่นนี้ เจ้าลืมรึอย่างไรว่าตัวเองเป็นสตรี" ใต้เท้าต้นเครื่องต่อว่า

         "ไม่ลืมเจ้าค่ะใต้เท้า แต่ถ้าข้ามัวส่งเรื่องขึ้นไป กว่าจะถึงมือท่านป่านนี้องค์ชายคงถูกขับออกไปนอกวังแล้วกระมังเจ้าคะ"

         "แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่เจ้าทำก็ผิดกฎอยู่ดี ในอดีตเจ้าเคยมีส่วนในคดีของฮงซังกุงซึ่งเป็นคดีที่ข้องแวะกับนางในซึ่งเจ้าจะมีส่วนช่วยก็ไม่แปลกเพราะเป็นเรื่องของวังหลัง แต่คดีขององค์ชายคราวนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับวังหน้าจวบจนถึงความมั่นคงของบ้านเมืองซึ่งเป็นเรื่องของกรมอาญาที่จะไต่สวน นางในอย่างเจ้าไม่มีสิทธิ์ยุ่งเกี่ยว ทหาร นำตัวนางออกไป"

         ทหารของกรมอาญาสองนายเดินพุ่งเข้ามาคว้าแขนซอฮยอนทันที

         "ใต้เท้า" จางซังกุงรีบพูด "ได้โปรดให้นางได้ช่วยพิสูจน์เถิดเจ้าค่ะ หากผลออกมาว่าองค์ชายยังเป็นคนผิด ข้าจะขอรับโทษที่มายุ่งยากในกรมอาญาเองเจ้าค่ะ"

         "นายหญิง!" ซอฮยอนร้อง

         "ไม่ได้!" ใต้เท้าต้นเครื่องกล่าวเสียงดัง "ท่านก็อีกคน เป็นถึงซังกุงกลับไม่ห้ามปรามเด็ก ปล่อยให้เดินเข้ามาราวกับวังหลวงเป็นสนามเด็กเล่นฉะนั้น"

         "ใต้เท้าต้นเครื่อง" ใต้เท้าวอนโจขัดขึ้น "จะเป็นอันใดรึไม่หากข้าขอฟังสิ่งที่นางจะพูดก่อน"

         "แต่ว่า--"

         "ข้ารู้ว่าท่านได้รับพระบัญชาจากฝ่าบาทโดยตรงให้ดูแลคดีนี้ แต่ที่แห่งนี้คือกรมอาญาซึ่งอยู่ในความควบคุมดูแลของข้า เช่นนั้นท่านจงให้อนุโลมให้นางสักครั้งเถิด"

         ใต้เท้าต้นเครื่องทำท่าฟึดฟัดเล็กน้อยก่อนจะสะบัดแขนนั่งลงอย่างอารมณ์เสีย เจ้ากรมอาญาเห็นดังนั้นจึงหันไปหาซอฮยอนและเอ่ยถาม

         "เอาล่ะ เจ้ามีอะไรจะพูดหรือ"

         ซอฮยอนก้มศีรษะให้ใต้เท้าวอนโจและพานายช่างจีแฮนัมเดินอออกมาข้างหน้า

         "คนนี้คือนายช่างอาวุธผู้ชำนาญที่ข้านำมาจากนอกวังเจ้าค่ะ"

         ทุกคนส่งสายตามองจีแฮนัมช้าๆ บางคนทำหน้ารังเกียจเมื่อเห็นเสื้อผ้าอันขะมุกขะมอมและหน้าตาที่ดูแวบเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นชนชั้นไพร่

         "เจ้าพามาจากไหน" ใต้เท้าวอนโจถามต่อ

         "โรงตีดาบที่ใหญ่ที่สุดในฮันยางเจ้าค่ะ"

         "เจ้าพาเขาเข้าวังมาเพื่ออะไร"

         "เขามีความชำนาญการเทียบอาวุธและบาดแผลที่เกิดจากอาวุธ ข้าจึงพาเขามาเพื่อตรวจดาบองค์ชายเจ้าค่ะ" ซอฮยอนตอบ

         "เจ้าเสียสติรึ" โยชิดะพูดแทรกขึ้นมาทันควัน "การตรวจพิสูจน์ดาบกับรอยแผลได้ผ่านไปเรียบร้อยโดยหมอทหารชางลีฮยอนซึ่งคดีก็ตัดสินไปแล้ว"

         "ข้อนั้นข้ารู้" ซอฮยอนหันไปตอบโยชิดะ "แต่หมอทหารชางลีฮยอนเป็นเพียงมือหนึ่งในวัง ไม่ใช่มือหนึ่งในโชซอนนี่เจ้าคะ"

         โยชิดะหัวเราะดังลั่นก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

         "นี่เจ้าจะบอกว่าหนุ่มปริศนาที่พามาคือมือหนึ่งอย่างนั้นหรือ"

         "มิใช่เจ้าค่ะ ข้าแค่จะบอกว่าเขาอาจตรวจได้ดีกว่าชางลีฮยอนก็เท่านั้น"

         "ไพร่สกปรกนี่น่ะรึเก่งกว่าหมอทหารในวัง ช่วยแหกตาดูสารรูปมันด้วย" โยชิดะเหยียดหยาม

         "รูปลักษณ์ภายนอกเกี่ยวอะไรกับสติปัญญาความสามารถหรือเจ้าคะ"

         "หุบปาก!"

         "พอได้แล้วทั้งคู่" ใต้เท้าวอนโจตัดบท

         "ใต้เท้า" โยชิดะรีบพูด "อย่าไปฟังนางนะขอรับ เอาไพร่ชั้นต่ำมาพิสูจน์ดาบ ท่านว่าเหมาะควรแล้วหรือ ไม่แน่ว่าชายผู้นี้อาจมิใช่ช่างอาวุธเสียด้วยซ้ำแต่เป็นพรรคพวกที่จะมาหลอกตบตาพวกเราเพื่อช่วงองค์ชาย"

         เจ้ากรมอาญานั่งนิ่ง ในหัวคิดไตร่ตรองตามคำพูดของโยชิดะ และเมื่อเวลาผ่านไปสักพักเขาก็หันไปพูดกับจีแฮนัม

         "เจ้าเป็นช่างอาวุธแน่หรือ"

         "จริงขอรับใต้เท้า" แฮนัมกล่าวอย่างนอบน้อม

         "ถ้าหากว่าเจ้าพูดปด ข้าจะสั่งตัดหัวเจ้าทันที เจ้าจะว่าอย่างไร" ใต้เท้าวอนโจพูดพลางสังเกตอากัปกิริยาของจีแฮนัม

         "ข้ามิได้ปดท่าน ถึงข้าจะเป็นไพร่แต่ก็มีฝีมือทางด้านอาวุธ หากท่านประสงค์จะเอาชีวิตข้า ท่านย่อมเอาไปได้ทุกเมื่อขอรับใต้เท้า"

         เจ้ากรมอาญาเลิกคิ้วขึ้นสูง

         "เช่นนั้นก็จงเข้ามาตรวจรอยแผลของศพเถิด"

         "ใต้เท้า!" โยชิดะโวยวายทันที "ทำอย่างนี้ไม่ได้นะขอรับ เราเชื่อใจคนคนนี้ไม่ได้"

         "ข้ารู้ดีว่าข้าทำสิ่งใดอยู่" ใต้เท้าวอนโจตอบ "มหาดเล็กโช เจ้าช่วยนำดาบขององค์ชายมาที" โชคังอินคำนับก่อนจะวิ่งไปหยิบดาบของยิมโฮแทกุนเข้ามากลางลาน

         ซอฮยอนพยักหน้าให้กำลังใจกับจีแฮนัม นายช่างอาวุธสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเดินเข้ากลางลานและก้มลงตรวจศพของมาซาฮิโระซึ่งถูกห่อหุ้มอยู่ด้วยผ้าสีขาว

         "แล้วนี่ชางลีฮยอนมันไปไหน เหตุใดถึงไม่มาที่นี่ ถ้ามันอยู่อาจจะช่วยโต้เถียงกับเจ้าไพร่คนนี้ได้นะขอรับ" ฮอนโดแอบก้มลงกระซิบกับโยชิดะเพียงสองคน

         "ข้าก็โมโหอยู่ที่มันหายตัวไป ไม่รู้ว่าหลบไปอยู่ไหน แล้วดันมาหายตัวในช่วงเวลาสำคัญเสียด้วย" โยชิดะกระซิบตอบพลางกำหมัดแน่น

         นายช่างจากโรงตีดาบใหญ่ก้มลงเพ่งมองรอยแผลของศพอย่างช้าๆ สักพักใหญ่ๆ เขาก็เงยหน้าเรียกหมอหลวงสามสี่คนให้มาดูรอยแผลพลางพูดคุยซุบซิบอะไรกันบางอย่าง

         "พวกเจ้าแอบคุยอันใด" โยชิดะร้องถาม

         "ข้ากำลังใช้สมาธิ ท่านอย่าเพิ่งรบกวน" จีแฮนัมพูดโดยไม่เงยหน้า

         "เจ้าไพร่สามหาว! กล้าโอหังกับข้าหรือ!"

         "โยชิดะ ท่านใจเย็นๆ ลงก่อนได้รึไม่" ใต้เท้าวอนโจพูดอย่างรำคาญ ชายชาวญี่ปุ่นก้มหน้าลงทันที

         ขณะนั้นมหาดเล็กโชคังอินก็เลียบๆ เคียงๆ ตรงเข้ามาหาซอฮยอนก่อนจะไต่ถาม

         "นี่เจ้าพาใครมากันหรือ"

         "ก็บอกแล้วนี่เจ้าคะว่าเขาคือนายช่างของโรงตีดาบในฮันยาง"

         "แน่ใจใช่ไหมว่าจะช่วยองค์ชายได้"

         "อาจจะได้ หรืออาจจะไม่ได้เจ้าค่ะ"

         "อะไรกัน เจ้านี่พูดจากำกวมนัก"

         ฉับพลัน นายช่างจีแฮนัมก็ลุกขึ้นยืนก่อนจะกล่าวด้วยเสียงอันดัง

         "ได้โปรดจัดหาหมูที่ตายแล้วหนึ่งตัวกับซูบัก(แตงโม)มาสองลูกด้วยขอรับ"





    [ต่อจาก 50%]




         "หมูตายกับซูบักหรือ" ใต้เท้าวอนโจเลิกคิ้ว

         "ขอรับ ขอหมูทั้งตัวเลยนะขอรับ แล้วก็ซูบักสองลูกขอรับ" จีแฮนัมตอบ

         "จะเอามาทำอันใด" ใต้เท้าต้นเครื่องถามขึ้นบ้าง

         "ข้าจะพิสูจน์ให้ดูขอรับว่าดาบขององค์ชายใช่อาวุธที่สังหารทูตญี่ปุ่นรึไม่"

         "หมูทั้งตัวกับแตงโมเนี่ยน่ะหรือ ข้าไม่เห็นเข้าใจ"

         "เดี๋ยวท่านก็จะเห็นเองขอรับ" นายช่างพูดกับใต้เท้าต้นเครื่องจบก็หันไปหาใต้เท้าวอนโจอีกครั้ง "ใต้เท้าช่วยจัดหามาให้ข้าทีขอรับ"

         เจ้ากรมอาญาพยักหน้าและสั่งให้ทหารคนหนึ่งไปห้องเครื่องแจ้งซังกุงสูงสุดขอหมูตายหนึ่งตัว ส่วนทหารอีกคนไปห้องผลไม้ขอแตงโมมาสองผล

         ไม่นานแตงโมสีเขียวสองลูกก็ถูกนำมาที่ลานหน้าห้องไต่สวน ตอนนี้ก็เหลือเพียงแต่ตัวหมูเท่านั้น

         "เจ้ากำลังถ่วงเวลารึ" โยชิดะพูดค่อนขอดจีแฮนัม "จริงๆ แล้วเจ้าไม่ใช่ช่างอาวุธ พอไม่สามารถดูรอยแผลออกได้ก็หาทางเอาตัวรอดโดยการแกล้งหาของไร้สาระมาประวิงเวลาอย่างนั้นหรือ"

         "ก็เพราะท่านไม่เชื่อว่าข้าเป็นช่างอาวุธ ข้าจึงต้องพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นกับตาสิขอรับว่าข้าเป็นจริงๆ"

         "หมูกับแตงโมไม่ใช่สิ่งการันตีความสามารถของช่างอาวุธ"

         "แต่ก็สามารถเปรียบเทียบรอยฟันจากดาบได้ดีเยี่ยมทีเดียว"

         "เจ้ามั่วต่างหาก"

         จีแฮนัมหัวเราะ

         "ท่านโยชิดะ" นายช่างเอ่ยเบาๆ "ที่ท่านพยายามพูดจาตีรวนบ้าง ขัดคอบ้าง ไม่ใช่เพราะว่าท่านไม่เชื่อหรอก แต่ใจลึกๆ แล้วท่านเชื่อว่าข้าสามารถเปิดโปงเรื่องนี้ได้จึงพูดจาให้ข้าเสียความมั่นใจก็เท่านั้นเอง"

         โยชิดะตัวเย็นเฉียบตั้งแต่หัวจรดเท้า เจ้าไพร่ชั้นต่ำคนนี้ มันรู้ทันความคิดเขา

         พ่อครัวจากห้องเครื่องสี่คนช่วยกันแบกกระบะไม้ยักษ์ซึ่งภายในบรรจุหมูตัวมหึมาที่ถูกเชือดเรียบร้อยแล้วเข้ามาในลานของกรมอาญาอย่างทุลักทุเล จีแฮนัมรีบเข้าไปช่วยยกทันทีและค่อยๆ คว่ำกระบะไม้เทตัวหมูให้ร่วงลงพื้นก่อนจะจัดท่าให้เป็นนอนตะแคงข้าง ทุกคนรีบเข้ามามุงดูใกล้ๆ 

         นายช่างคว้าแตงโมมาลูกหนึ่งและวางแนวนอนบนร่างของหมูบริเวณกึ่งกลางลำตัว

         "เขาจะทำอันใดกัน" จางซังกุงพูดเบาๆ ด้วยความแปลกใจ

         "ข้าก็ไม่รู้เจ้าค่ะ" ซอฮยอนตอบพลางสังเกตการณ์ต่อไป

         เมื่อวางแตงโมบนตัวหมูได้โดยที่มันไม่กลิ้งไปมาได้สำเร็จ จีแฮนัมก็ประกาศว่า

         "ได้โปรดขอทหารคนหนึ่งด้วยขอรับ ขอเป็นทหารที่ไม่ใช่คนขององค์ชาย ท่านโยชิดะจะได้ไม่ครหาเรื่องการลำเอียง"

         ใต้เท้าวอนโจสะกิดนายทหารคนหนึ่งให้ไปเป็นผู้อาสาสมัคร ทหารนายนั้นก้มศีรษะให้และเดินไปหาจีแฮนัม นายช่างหยิบดายขององค์ชายส่งให้และกล่าวว่า

         "จงฟันลงไปยังเนื้อหมูที่อยู่ใต้แตงโมผลนี้ด้วยขอรับ"

         "อะไรนะ!" นายทหารงุนงง

         "ท่านจงจินตนาการว่าเนื้อหมูใต้ผลแตงโมคือลำคอของศัตรูที่ต้องฟันให้กระจุย"

         "ต้องเป็นเนื้อบริเวณใต้แตงโมเท่านั้นหรือ"

         "ขอรับ ต้องตรงนั้นเท่านั้น"

         นายทหารหลับตา เขากำด้ามดาบแน่นเพื่อตรวจสอบความมั่นคง เมื่อยืนตั้งหลักได้ที่ก็ค่อยๆ ยื่นปลายดาบไปแตะบนตัวหมูก่อนจะตั้งสมาธิเล็ง

         ฉับพลัน นายทหารกรมอาญาก็เงื้อดาบประจำพระองค์ของยิมโฮแทกุนขึ้นสูงก่อนจะตวัดฟันลงบนตัวหมูอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ตามมาด้วยเสียงโลหะกระทบเฉือนกับเนื้อ แตงโมลูกกลมถูกผ่าครึ่งซีกและร่วงลงพื้น เนื้อและน้ำสีแดงไหลหลั่งบนเนื้อสีขาวของสุกรจนท่วมเต็มไปหมด

         จีแฮนัมรีบเดินเข้ามาดูรอยแผลบนตัวหมูทันที เขาใช้มือเปิดปากแผลและก้มลงดูอย่างพินิจพิเคราะห์ ไม่นานเขาก็กวักมือเรียกให้หมอหลวงเข้ามาดูด้วย

         หมอหลวงสองคนเดินเข้ามาก้มลงดูรอยฟันบนตัวหมู สักพักหมอหนึ่งในสองคนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

         "รอยแผลต่างกัน" เขาเอ่ยขึ้นเบาๆ

         "อะไรนะ!" ใต้เท้าต้นเครื่องร้องขึ้น "ช่วยบอกข้าด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นไม่ใช่คุยกันอยู่สองสามคน ลืมไปแล้วหรือว่าข้าเป็นผู้ไต่สวน มิใช่หัวหลักหัวตอ"

         "ขออภัยใต้เท้า" หมอหลวงรีบพูด "ตอนแรกพวกข้าก็ไม่แน่ใจแต่ตอนนี้มั่นใจแล้วขอรับ"

         "มั่นใจว่าอะไรหรือ"

         "ดาบขององค์ชายยิมโฮ" หมอหลวงหยุดพูดไปสักพัก ทุกคนกลั้นใจรอฟัง "มิใช่อาวุธสังหารมาซาฮิโระแน่นอนขอรับ"

         ทุกคนมองหน้ากันเลิ่กลั่กทันทีหลังจบการประกาศจากหมอหลวง จางซังกุงกับซอฮยอนยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ส่วนมหาดเล็กโชคังอินถึงกับกระโดดตัวลอยเมื่อได้ยิน

         "เป็นไปไม่ได้!" โยชิดะตะเบ็งเสียงดังลั่น "จะเป็นไปได้อย่างไร หมอทหารชางลีฮยอนก็บอกไว้แล้วว่าอาวุธสังหารก็คือดาบเล่มนี้"

         "ท่านหมอ ท่านจะแก้ต่างอย่างไร" ใต้เท้าต้นเครื่องหันมาถาม

         "ข้ามิใช่ช่างอาวุธ จึงขอพูดแต่เรื่องของรอยแผลนะขอรับ" หมอหลวงกล่าวขึ้น "จากการสังเกตศพของมาซาฮิโระ รอยแผลฉีกขาดนั้นเรียบสนิท บาดลึก อีกทั้งการลงน้ำหนักไม่เปลี่ยนไปจากการปะทะระหว่างคมอาวุธและปากแผล ดาบในโชซอนส่วนมากจะใช้มือเดียวและทั้งสองมือในการฟัน แน่นอนว่าน้ำหนักย่อมไม่คงที่ แผลนี้จึงไม่ได้เกิดจากดาบที่ใช้กันในโชซอนแน่นอน"

         "ทว่าเป็นดาบสั้นซึ่งมีความคมกริบอย่างน่าเหลือเชื่อ" จีแฮนัมพูดขึ้นบ้าง "ที่สำคัญไม่ใช่ดาบสั้นของโชซอน แต่เป็นดาบสั้นวากิซาชิจากซามูไรของนิจิฮง"

         "อะไรนะ วากิซาชิหรือ!" ใต้เท้าวอนโจร้อง

         "ขอรับใต้เท้า ดาบชนิดนี้มีความโค้งและคมกริบไม่ต่างจากคาตานะ เวลาฟันจึงเกิดรอยแผลที่บาดลึกกว่าดาบขององค์ชายยิมโฮ ซึ่งเมื่อมาใช้กับตัวหมูรอยแผลจึงไม่เรียบสนิท บางส่วนตื้น บางส่วนลึก ความคมน้อยกว่ามาก"

         "แล้วเอาแตงโมมาทำอะไรหรือ" ใต้เท้าต้นเครื่องถาม

         "ข้าวัดความลึกจากแผลด้วยน้ำจากแตงโมที่ไหลลงไปในรอยฟันบนตัวหมูขอรับ" จีแฮนัมตอบ

         "อะไรนะ!"

         "เพื่อวัดความลึกของแผลจึงต้องใช้วิธีนี้ ข้าไม่รู้ว่าเหตุใดหมอทหารชางลีฮยอนถึงกล่าวว่าดาบนี้ใช่ทั้งๆ ทีมันไม่ใช่"

         "เหลวไหลทั้งเพ" โยชิดะร้องออกมา "ใครจะพูดอะไรก็พูดได้"

         "เช่นนั้นข้าขอพิสูจน์ด้วยดาบท่านได้รึไม่" จีแฮนัมพูดขึ้น

         "อะไรนะ!"

         "ในเมื่อท่านไม่เชื่อในคำพูดก็ต้องพิสูจน์ด้วยหลักฐาน อีกอย่างข้าเพิ่งบอกไปว่ารอยแผลมันคล้ายถูกฟันด้วยดาบสั้นวากิซาชิจากพวกนิจิฮง ซึ่งในลานนี้มีแค่ท่านกับฮอนโดที่เป็นนิจิฮง"

         "นี่เจ้าใส่ร้ายข้าหรือ!"

         "ถ้าท่านบริสุทธิ์จริงก็จงรีบเอามาพิสูจน์เถิด"

         "หุบปาก! มาซาฮิโระเป็นเพื่อนข้า ข้าจะสังหารเขาได้อย่างไร"

         "เพราะเจ้าลอบฆ่าสหายตนเองอย่างไรเล่า!" เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังลั่นมาจากประตูทางเข้าลานหิน ทุกคนหันไปมอง

         "หมอทหารชางลีฮยอน!"

         ชางลีฮยอนพร้อมทหารสามสี่นายเดินเข้ามาในลานไต่สวนก่อนจะชี้หน้าโยชิดะด้วยความโกรธแค้น

         "ข้าจะไม่ตกอยู่ใต้อำนาจเจ้าอีกต่อไป"

         "อำนาจ? อำนาจอะไรกัน" ใต้เท้าวอนโจร้องถาม

         "โยชิดะได้ลักพาตัวลูกเมียของข้าไปเพื่อให้ข้าใส่ร้ายยิมโฮแทกุนว่าดาบของพระองค์คืออาวุธที่ใช้สังหารมาซาฮิโระซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ แต่ทว่าตอนนี้ทหารได้ไปช่วยลูกเมียจากคนของเจ้าเรียบร้อยแล้ว ข้าจึงไม่จำเป็นต้องตกอยู่ใต้อาณัติของเจ้าอีกต่อไป!"

         "นี่... นี่เจ้า" โยชิดะตัวสั่น

         "ดาบที่สังหารมาซาฮิโระก็คือดาบวากิซาชิในมือของมันนั่นเอง และที่สำคัญมันไม่ใช่ทูตญี่ปุ่นที่ส่งมาโดยจักรพรรดิ มันอ้างจักรพรรดิเพื่อให้เรากลัว แต่ความจริงพวกมันคือสายลับที่ไดเมียวตระกูลโอโตะโมะส่งมาจากเกาะคิวซูเพื่อปั่นป่วนเราต่างหาก" ชางลีฮยอนตะโกน

         มือของโยชิดะกำแน่น เห็นทีเขาต้องเปิดเผยตัวเสียแล้ว

         โยชิดะขยับตัวอย่างรวดเร็วจนทุกคนไม่ทันเห็น สายลับนิจิฮงกระโดดถีบหน้าอกทหารกรมอาญาล้มระเนระนาดไปสองนาย ก่อนจะหยิบอาวุธร้ายซัดใส่ศัตรูรอบด้าน

         มันคือมีดบิน!

         ทหารหลายคนที่เจนจัดด้านการรบไหวตัวทันใช้ดาบปัดและกระโดดหลบมีดบินเหล่านั้นได้โดยง่าย มีดบินจึงแค่พุ่งผ่านไปชนกำแพงข้างหลังและร่วงลงพื้น

         แต่ช่วงที่ทุกคนชุลมุนนั้น หารู้ไม่ว่ามีดบินเล่มหนึ่งกำลังพุ่งเข้ามาใส่ซอฮยอนซึ่งไม่ว่าอย่างไรนางก็หลบไม่พ้นแน่นอน






    โปรดติดตามตอนต่อไป



    (เรียนนักอ่านทุกท่าน ด้วยเพราะเมื่อวานผมไม่ได้อัปนิยายและวันนี้ผมอัปด้วยเนื้อหาค่อนข้างน้อย จึงขอชดเชยด้วยการอัป 2 ตอนในวันพรุ่งนี้นะครับ ขอบคุณมากครับ)
       

     

         
         







        
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×