ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กลรักวังหลวง [서현]

    ลำดับตอนที่ #34 : การจากลา [100%]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.8K
      123
      6 พ.ค. 62

    ตอนที่ 34 การจากลา





         พิธีอำลาของฮงซังกุงและมินซังกุงจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายและเงียบเชียบ เซโจซังกุงและใต้เท้าต้นเครื่องคนปัจจุบันมาร่วมพิธีด้วยเพื่อให้เกียรติแก่ซังกุงอาวุโสเป็นครั้งสุดท้าย

         นางในหลายคนพากันทยอยมายืนเข้าแถวเพื่อส่งนายหญิงออกจากวัง ซอฮยอนยืนอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย ไม่นานซังกุงทั้งสองคนก็เดินออกมา

         ทั้งคู่ไม่ใส่ชุดทังอีอีกแล้วแต่ใส่ชุดชอโกรีสีขาวแทน ออ-ยอมจกดูรีบนศีรษะก็เอาออกเหลือแต่คาเช มินซังกุงที่ชรามากอีกทั้งเดินเหินไม่ค่อยไหว คนที่บ้านนางจึงแบกเกี้ยวรับนาง หลังจากฮงซังกุงส่งมินซังกุงขึ้นเกี้ยวเรียบร้อยก็หันมามองทิวแถวนางในทั้งหลาย ชั่วเสี้ยวของเวลานางหันมามองค้างที่ซอฮยอนซึ่งตอนนี้ยืนน้ำตาซึมอยู่

         "กฎของวังหลวงที่เคร่งครัดอีกข้อหนึ่งก็คือ นางในห้ามตายในวัง" ฮงซังกุงพูดขึ้นคล้ายจะกล่าวโอวาทเป็นครั้งสุดท้าย "ผู้ใดจะตายในวังไม่ได้เว้นเพียงแต่เชื้อพระวงศ์ ซึ่งถ้านางในคนใดป่วยก็ต้องถูกขับออกไปจากวังทันที แต่ข้าไม่อยากให้ถึงเวลานั้น ในเมื่อสองขาข้ายังเดินได้ ข้าก็จะไม่รอให้ป่วย และออกจากวังไปอย่างภาคภูมิ กฎข้อนี้ดูโหดร้าย สร้างความสะเทือนใจแก่ซังกุงแก่ๆ หลายรุ่นต่อหลายรุ่น บางคนมีความรักใคร่ผูกพันกับนางในลูกศิษย์ไม่ต่างกับลูกแท้ๆ แต่ก็ต้องจากกัน รวมไปถึงซังกุงที่ไขว่คว้าหาอำนาจมาตลอดชีวิตด้วย เพราะไม่ว่าจะมีทรัพย์สินเงินทองเกียรติยศราชศักดิ์เพียงใด สุดท้ายก็ต้องออกจากวังอย่างโดดเดี่ยวเดียวดายอยู่ดี

         "นี่คือสัจธรรมข้อหนึ่งของนางใน ไม่มีใครเอาอะไรไปได้เลย พวกเราคือข้าราชบริพารคนหนึ่งที่มีโอกาสไดรับใช้ฝ่าบาทและทูลลาเมื่อถึงยามบั้นปลายชีวิต ช่วงเวลาที่ยังอยู่ในวังก็จงทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพราะทั้งชีวิตจะมีผู้ชายคนเดียวก็คือฝ่าบาท ชายใดจะรักเราไม่ได้และเราก็รักใครไม่ได้เช่นกัน ถึงแม้..."

         ซอฮยอนสัมผัสได้ว่าเสียงของฮงซังกุงสั่นเครือขึ้นมากะทันหัน

         "ถึงแม้บางครั้งใจเราอาจจะหวั่นไหวไปในบางช่วงเวลาอันอ้างว้างในวังหลวง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องตัดรอนและกลับมาเป็นตัวของตัวเองให้เร็วที่สุด ดูผิวเผินพวกเราคล้ายจะมีวาสนาและบารมีที่ได้เข้าวัง แต่ในอีกแง่พวกเราก็น่าสงสารที่สุดในแผ่นดินเช่นกัน นี่แหละคือนางใน"

         เกี้ยวของมินซังกุงถูกยกแบกลับหายไปจากประตู ฮงซังกุงเดินตามออกไปและหยุดหันมามองนางในทั้งหลายซึ่งยืนก้มศีรษะแสดงความเคารพเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะแลไปยังยอดตำหนักต่างๆ ของวังคยองบกด้วยแววตาเศร้าสร้อยล้ำลึก ในที่สุดซังกุงก็อาวุโสก็ก้าวออกนอกประตูและลับกายไป

         ซอฮยอนน้ำตาไหลออกมาเงียบๆ จางซังกุงที่ยืนอยู่ข้างๆ กุมมือนางเพื่อให้กำลังใจ นางในรอบข้างพากันเดินแยกย้ายออกไปคนละทางจนกระทั่งเหลือแค่จางซังกุงและซอฮยอนที่ยืนอยู่

         "เจ้าอย่าร้องไห้ไปเลยนะซอฮยอน ฮงซังกุงคงไม่อยากให้เจ้ามัวโศกเศร้าเช่นนี้ นางแค่ออกจากวัง ไม่ได้ล้มหายตายจาก เจ้าก็ตั้งสติเสียเถิด อย่าลืมสิว่าพรุ่งนี้มีสอบเซ็งกักชิแล้ว เจ้าจำต้องมีสมาธินะ" จางซังกุงกล่าวเตือน

         "นายหญิง... ตอนข้าเข้าวังมาเจอนางครั้งแรก ข้าไม่ชอบนางเลย ข้าอคติกับนางมาก แต่ทำไม... ทำไมเวลานี้ข้าจึงเศร้านักเมื่อนางจากไปเล่าเจ้าคะ"

         "ความรักอย่างไรเล่า ข้ากับเจ้ารวมถึงฮงซังกุงและมินซังกุงร่วมฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน แม้เวลาเพียงไม่กี่วันแต่มันก็สร้างความผูกพันได้อย่างน่าพิศวง และเมื่อถึงเวลาจากกันก็ต้องใจหายเป็นธรรมดา แต่เจ้าจะมาร้องไห้อยู่ไม่ได้ ฮงซังกุงคาดหวังให้เจ้าสอบเข้าให้ได้ เจ้าอย่าทำลายความหวังนางสิ"

         ซอฮยอนพยักหน้าพลางปาดน้ำตาช้าๆ 
         
         "ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะนายหญิง"

         "ดีแล้ว ฮงซังกุงตอนสอบเซ็งกักชิเขาเล่ากันมาว่าได้ที่หนึ่งเชียวนะ อย่าทำให้เสียชื่อนางเสียล่ะ เสียดายนางไม่ได้เอาดีในห้องเครื่องจนตลอดรอดฝั่ง"

         ซอฮยอนเอียงศีรษะเล็กน้อย

         "ว่าแต่นายหญิงเจ้าคะ ข้าสงสัยมานานแล้ว หลังจากใต้เท้าคัมจาตายเห็นหลายคนพูดว่าฮงซังกุงออกจากห้องเครื่องและไปเป็นซังกุงประจำตำหนักเชื้อพระวงศ์ ข้าอยากรู้เจ้าค่ะว่านางไปดูแลเชื้อพระวงศ์พระองค์ใด"







         ฮงซังกุงยังไม่ได้มุ่งออกจากวังโดยตรง นางย้อนกลับไปที่ตำหนักหลังหนึ่งตัวคนเดียว

         ประตูตำหนักเปิดออก ราชองครักษ์นายหนึ่งเดินออกมาเพ่งมองซังกุงอาวุโส

         "นายหญิง! ท่านนั่นเอง เหตุใดจึงมาเงียบๆ เล่า" เขาร้องขึ้นเมื่อเห็นนาง "เมื่อวานข้าก็กะจะไปหาท่านแล้ว ได้ยินว่าท่านจะออกจากวังจริงหรือ"

         ฮงซังกุงพยักหน้า

         "โธ่ ท่านออกไปกะทันหันเช่นนี้ไม่กลัวแทกุนคิดถึงท่านหรือ ถึงจะผ่านมาหลายปีแต่ไม่ว่าอย่างไรท่านก็คือแม่นมที่ดูแลองค์ชายยิมโฮมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์นะ"

         "ข้ารู้ มหาดเล็กโช จึงมาหาพระองค์เพื่อทูลลาอย่างไรเล่า และข้าอยากฝากฝังเด็กคนหนึ่งให้องค์ชายยิมโฮช่วยดูแลด้วย"





    [ต่อจาก 50%]




         โชคังอินหันไปทูลรายงาน

         "องค์ชาย ฮงซังกุงขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ"

         "ให้นางเข้ามา"

         ฮงซังกุงก้าวเข้าไปในตำหนัก องค์ชายยิมโฮซึ่งกำลังก้มดูแผนที่บนโต๊ะเงยหน้ามองซังกุงอาวุโสก่อนจะรีบลุกขึ้นยืน

         "แม่นม!" องค์ชายรับสั่งพลางเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว

         "องค์ชาย อย่ารับสั่งเช่นนั้นสิเพคะ พระมเหสีเคยรับสั่งไว้ว่าให้เรียกหม่อมฉันว่าฮงซังกุง อย่าเรียกแม่นม"

         "ก็แล้วอย่างไรเล่า พระมเหสีเป็นมารดาผู้ให้กำเนิดที่ข้าเทิดทูนไว้เหนือเกล้า ส่วนท่านเป็นคนที่ดูแลข้าตั้งแต่แบเบาะ ทำไมข้าจะเรียกท่านว่าแม่นมไม่ได้" แทกุนยิมโฮตรัส

         ฮงซังกุงถอนหายใจ

         "องค์ชายทรงสำราญดีรึไม่เพคะ"

         "จะไม่สำราญเพราะท่านออกจากวังนี่แหละ ท่านจะรีบออกไปไหนหรือ" องค์ชายย้อนถาม

         "องค์ชายจะให้หม่อมฉันแก่จนเดินไม่ได้ก่อนรึเพคะ ถึงจะอนุญาตให้หม่อมฉันออกจากวัง"

         ลียิมโฮหัวเราะ

         "องค์ชาย"

         "ว่าอย่างไร แม่นม"

         "พระองค์ทรงสุขสบายดีแน่ใช่รึไม่เพคะ"

         "อะไรกันแม่นม ทำไมท่านถึงถามแล้วถามอีกเช่นนี้"

         "ก็... ก็เรื่องพระชายาฮวารยอน"

         หน้าเข้มคมสันเคร่งขรึมลงเมื่อได้ยินชื่อนั้น ฮงซังกุงรีบหยุดพูดทันที

         "นางไปสบายแล้วแม่นม" เขาเอ่ยขึ้นเบาๆ

         "องค์ชาย พระองค์คิดว่าคนที่ฆ่าตัวตายเขาจะไปสบายหรือเพคะ"

         "เรื่องนั้นข้าก็ไม่แน่ใจเท่าไรแม่นม แต่ข้าคิดว่านางอาจจะไม่ได้ฆ่าตัวตาย"

         "องค์ชายทรงหมายถึงอะไรกันเพคะ"

         "นางอาจถูกลอบปลงพระชนม์ ทว่าข้าก็ไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนทำหรือใครอยู่เบื้องหลัง เสด็จแม่ข้าไม่ให้รื้อฟื้นเรื่องนี้ ขนาดจะไปงานศพนางที่บ้านใต้เท้าซินข้ายังถูกห้ามไม่ให้ไป"
         
         "ไปหานางที่สุสานก็ยังดีนะเพคะองค์ชาย จะชั่วดีอย่างไรก็เคยเป็นพระชายา"

         "ข้ารู้แล้วล่ะแม่นม ให้เรื่องเงียบกว่านี้ข้าจะไปบูชาป้ายวิญญาณนาง ว่าแต่แม่นมจะออกจากวังวันนี้เลยหรือ"

         "เพคะองค์ชาย มินซังกุงออกไปแล้ว ข้าก็ต้องตามนางไปด้วย"

         "แล้วท่านจะกลับบ้านเดิมของท่านหรือไปถือศีลในวัด นางในต่อให้ออกจากวังก็ไม่สามารถแต่งงานสร้างครอบครัวได้อยู่ดีเพราะต้องครองความบริสุทธิ์ตลอดชีวิต หลายคนข้าเห็นไปถือศีลในวัดจนตัวตาย"

         "กลับบ้านเดิมเพคะองค์ชาย ถึงเวลาแล้วที่ข้าจะปล่อยวางทุกอย่างเสียที แต่แรกมีเพียงองค์ชายที่ข้ายังห่วงจึงรีบมาทูลลา ทว่าบัดนี้ข้ากลับห่วงอีกคนขึ้นมาด้วย"

         ยิมโฮแทกุนขมวดคิ้วพลางตรัสทีเล่นทีจริง

         "ใครหรือ ใครที่มันบังอาจแย่งความรักท่านไปจากข้า"

         "องค์ชาย อย่ารับสั่งส่งเดชสิเพคะ พระองค์ทรงพระเจริญแล้ว อย่าทำองค์เหมือนครั้นยังทรงพระเยาว์สิเพคะ"

         "เราทุกคนมีเด็กสามขวบแฝงอยู่ในตัวนะแม่นม"

         ฮงซังกุงค้อน

         "พระองค์ก็ตรัสเล่นอยู่เรื่อย หม่อมฉันหมายถึงเด็กสาวคนหนึ่ง นางกำลังจะเข้าสอบเซ็งกักชิ นางผู้นี้ทำให้หม่อมฉันรู้สึกทึ่งในความสามารถนักและต่อไปจะช่วยราชสำนักได้มากหม่อมฉันจึงอยากให้พระองค์ช่วยดูแลนางให้ด้วย"

         "อะไรนะแม่นม จะให้ข้าคอยดูแลคนที่จะเข้าวังมาเป็นนางในน่ะหรือ นางในเป็นผู้หญิงของฝ่าบาทและอยู่ในแนเมียงบูของเสด็จแม่ ข้าเป็นเพียงแทกุนจะไปยุ่มย่ามได้อย่างไร"

         "หม่อมฉันรู้เพคะ แต่พระองค์ก็ให้มหาดเล็กโชช่วยทำแทนก็ได้นี่เพคะ ข้าห่วงนางนัก กลัวนางจะลำบาก"

         "ดูท่านจะรักนางผู้นี้มาก แล้วนางชื่ออะไรล่ะแม่นม"

         "ซอฮยอนเพคะ นางชื่อปาร์คซอฮยอน ลูกบุญธรรมใต้เท้าปาร์คฮาซอง"

         "ลูกบุญธรรมหรือ" ยิมโฮแทกุนทวนคำ

         "เพคะ ฝากองค์ชายด้วยนะเพคะ" ฮงซังกุงก้มศีรษะ

         ยิมโฮแทกุนจับมือของซังกุงมาวางไว้บนศีรษะของตน

         "แม่นมเปรียบเสมือนมารดาคนที่สองของข้า เรื่องแค่นี้ข้าทำให้ท่านได้แน่นอน อย่างน้อยก็เพื่อทดแทนคุณก่อนที่ท่านจะออกไปจากวัง"

         ซังกุงอาวุโสปาดน้ำตา นางหมดห่วงแล้ว พร้อมที่จะออกไปจากวังหลวงอย่างคนที่ไม่มีบ่วงใดๆ ให้ผูกพันอีก








         จางซังกุงแบกหนังสือกองใหญ่มาวางไว้ตรงหน้าซอฮยอน

         "นายหญิง!" หญิงสาวร้องขึ้น "นี่มันอะไรกันเจ้าคะ"

         "ตำราในห้องของฮงซังกุงอย่างไรเล่า อ่านเสียให้หมด"

         "นายหญิง สามวันข้าก็อ่านไม่หมดนะเจ้าคะ แค่สอบเซ็งกักชิคงไม่ต้องอ่านถึงขนาดนี้กระมัง"

         "ถึงไม่ออกสอบก็ต้องอ่านประดับความรู้เอาไว้ เจ้าใฝ่ฝันจะเข้าห้องจดบันทึกเขียนหนังสือมิใช่หรือ ฉะนั้นการบ่มเพาะนิสัยรักการอ่านนี่สำคัญนัก" จางซังกุงพูดพลางคัดแยกหมวดหมู่หนังสือ

         "นายหญิง ข้าได้ยินเซโจซังกุงบอกว่านางในที่จะเข้าห้องเขียนหนังสือได้ต้องสอบเซ็งกักชิเป็นอันดับหนึ่งถึงเจ็ดเท่านั้นหรือเจ้าคะ"

         "ถูกต้อง เจ้าถึงต้องรีบกวดขันอย่างไรเล่า"

         "ข้ากลัวไม่ติด" 

         "นี่ ยังไม่ทันสอบเลยท้อเสียแล้ว หยุดคิดมากแล้วอ่านเสีย"

         "นายหญิง ท่านเคยรู้จักตำราสายน้ำรึไม่เจ้าคะ"

         จางซังกุงชะงัก ค่อยๆ เหลือบมองหน้าซอฮยอน

         "เจ้าเอาชื่อตำราเล่มนี้มาจากไหน"

         "เคยได้ยินน่ะเจ้าค่ะ"

         "จากที่ใด"

         "จากผู้สมัครสอบนี่แหละเจ้าค่ะ ข้าได้ยินพวกนางคุยกัน"

         จางซังกุงถอนหายใจพลางก้มลงจัดหนังสือต่อ

         "หลังจากนี้ไม่ต้องสนใจตำราสายน้ำนั่นอีก"

         "ทำไมรึเจ้าคะ"

         "มันเป็นตำราที่บันทึกข้อสอบและเฉลยไว้ พูดง่ายๆ มันคือตำราสำหรับการทุจริตสอบ พวกลูกหลานขุนนางที่ใช้เส้นสายมักจะมีตำราเล่มนี้อยู่ในมือ เจ้าอย่าไปสนใจเลย"

         "แล้วเขาจะภูมิใจรึเจ้าคะ เข้าวังโดยวิธีสกปรกเช่นนี้" ซอฮยอนถาม

         "อำนาจบังตาอย่างไรเล่า คนเหล่านี้ไม่สนสิ่งใดทั้งนั้น ถ้ามันให้ตนเองมีอิทธิพลในวังก็ทำได้ทุกอย่างนั่นแหละ นี่ ว่าแต่เจ้าน่ะ เก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือ"

         "เจ้าค่ะนายหญิง ของส่วนตัวข้ามีไม่มาก"

         "เอาล่ะ ข้าไม่รบกวนเจ้าอ่านหนังสือแล้ว จะไปดูงานที่ห้องเครื่องปรุงเสียหน่อย" จางซังกุงพูดจบก็เดินออกจากห้องไป

         เมื่ออยู่ตามลำพัง ซอฮยอนก็ล้วงเข้าไปในอกเสื้อชอโกรีของตนและดึงบางสิ่งออกมาวางบนพื้น

         มันคือจดหมายสามฉบับที่พี่สาวต่างมารดาได้ให้ไว้กับนางนั่นเอง

         "เจ้าจะต้องอ่านจดหมายสามฉบับนี้  เนื้อหาภายในคือสิ่งที่พี่ปรารถนาอยากให้เจ้าทำ จงเปิดอ่านทีละฉบับ ฉบับแรกคือจดหมายที่แต้มด้วยหมึกสีแดง จงเปิดอ่านฉบับนี้ก่อนเมื่อเจ้าได้ขึ้นเป็นนางในเต็มตัว จงจำไว้ให้มั่นว่าต้องเป็นนางในเต็มตัวก่อนเท่านั้นจึงจะเปิดจดหมายฉบับแรกออกอ่านได้ ส่วนอีกสองฉบับห้ามเปิดอ่านเด็ดขาด เพราะจดหมายฉบับแรกจะบอกเจ้าเองว่าควรเปิดฉบับที่สองเมื่อใด เวลาใด" คำสั่งเสียของฮวารยอนดังก้องไปมาในดวงจิต

         "ข้าจะทำตามที่ท่านสั่งไว้อย่างเคร่งครัดเจ้าค่ะ ท่านพี่"
         







    โปรดติดตามตอนต่อไป
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×