ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กลรักวังหลวง [서현]

    ลำดับตอนที่ #20 : การแข่งขัน [100%]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.22K
      135
      27 เม.ย. 62

                         ตอนที่ 20 การแข่งขัน






         ประตูไม้ถูกเลื่อนเปิดออกช้าๆ ฮงซังกุงก้าวเข้ามาในห้องของตน สายตามองไปยังที่นอนซึ่งปูพร้อมหมอนไว้อย่างเรียบร้อยก่อนจะเหลือบเห็นร่างของหญิงสาวนอนตะแคงอยู่

         ซอฮยอนกำลังหลับสนิท หน้าอกสะท้อนขึ้นลงสม่ำเสมอ นางไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่าฮงซังกุงเดินเข้ามาในเรือนพัก แสดงว่ากำลังจมสู่ห้วงลึกของนิทรา ซังกุงอาวุโสค่อยๆ ก้มมองหน้าของหญิงสาวพลางคิดในใจว่านางคงเหนื่อยมากถึงขนาดนอนหลับไปทั้งๆ ที่ยังไม่ได้อาบน้ำหรือแม้แต่ปูที่นอน

         ฮงซังกุงเดินไปหยิบหมอนในตู้ริมผนังออกมาใบหนึ่ง นางย่องเดินกลับมายกศีรษะของซอฮยอนขึ้นช้าๆ และสอดหมอนเข้าไป

         ซอฮยอนลืมตาโพลงขึ้น นางดันตัวลุกพรวดพราดกะทันหันด้วยความตกใจ 

         "นายหญิง!"

         ฮงซังกุงรีบทำสีหน้าเคร่งขรึมเย็นชาตามแบบฉบับและเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ก่อนจะลุกขึ้นไปนั่งที่หน้าโต๊ะของตน

         ซอฮยอนหันมามองหมอนอย่างงุนงง นางจำไม่ได้ว่าถือวิสาสะหยิบหมอนออกมาหนุนตอนไหนจึงรีบก้มศีรษะให้ซังกุงอาวุโสทันที

         "นายหญิงเจ้าคะ ข้าขออภัย ข้ามิได้จะหลับในห้องของท่านเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหลับไปตอนไหน"

         ฮงซังกุงไม่พูดอะไร นางก้มลงทำท่าจะค้นหนังสือใต้โต๊ะออกมาอ่านทว่าก็ชะงัก สายตาเหลือบมองชุดฮวาลยอสีเขียวเข้มของตนที่วางอยู่บนโต๊ะพลางขมวดคิ้ว นางเอื้อมมือมาหยิบชุดขึ้นมาดูช้าๆ

         นิ้วของกาเชลูบไล้ไปตามเนื้อผ้าจนมาถึงบริเวณที่นางจำได้ว่าเคยขาด ฮงซังกุงเพ่งมองจุดนั้นอย่างช้าๆ ก็พบว่ามันถูกเย็บใหม่อย่างดีจนแทบจะไม่มีตำหนิเหลืออยู่เลย

         ซังกุงอาวุโสเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาว

         "นี่เจ้าเป็นคนเย็บหรือ"

         ซอฮยอนก้มหน้าอย่างคนกลัวความผิดที่แตะต้องของของนายหญิงโดยไม่ได้รับอนุญาต

         "ทำไมเวลาถามถึงไม่ตอบ" ฮงซังกุงพูดเสียงห้วน

         "ข้า... ข้าทำเองเจ้าค่ะนายหญิง" หญิวสาวตอบเสียงอ่อน

         "เจ้าเรียนการเย็บปักมาจากที่ใด"

         "อะไรนะเจ้าคะ" ซอฮยอนถามอย่างไม่เชื่อหู นางคิดว่านายหญิงจะดุนางเสียอีก

         "เจ้านี่เป็นอะไร เหตุใดถึงต้องให้ข้าถามซ้ำอยู่เรื่อย ข้าถามว่าเจ้าเรียนการเย็บปักมาจากที่ใด" 

         "เอ่อ... ข้าไม่เคยเรียนเจ้าค่ะ แม่ข้าสอนไว้น่ะเจ้าค่ะ" ซอฮยอนตอบ

         ฮงซังกุงทำสีหน้าประหลาดใจ

         "แม่เจ้าเป็นคนสอนรึนี่ สอนให้เจ้าเย็บได้เรียบร้อยขนาดนี้เชียวหรือ" นางกล่าวพลางก้มมองเนื้อผ้าอีกรอบ "เย็บได้แทบไม่เห็นรอยขาดเดิม ข้าน่ะไม่มีฝีมือด้านนี้สักนิด ตอนเจ้าเย็บคงเห็นแล้วสินะว่ารอยเย็บเดิมนั้นแย่แค่ไหน"

         "นายหญิง"

         "อะไรรึ"

         "ข้าอยากขอโทษท่านเรื่องหอมเจียวในอาหารของมินซังกุงเจ้าค่ะ"

         ฮงซังกุงมองหน้าหญิงสาวแน่นิ่ง 

         "เจ้าขอโทษเพราะกลัวถูกหักแต้ม หรือเพราะเจ้าสำนึกจริงๆ"

         ซอฮยอนก้มหน้าลง

         "ข้ากลัวถูกหักแต้มเจ้าค่ะ" นางตอบตามตรง สักพักซอฮยอนก็ลุกขึ้นเดินช้าๆ ไปที่ประตู

         "แล้วนั่นจะไปไหนรึ" ฮงซังกุงถาม

         "ไปนอนที่อื่นเจ้าค่ะ นายหญิงคงยังโกรธข้าอยู่มากนัก"

         "นอนที่นี่แหละ"

         "อะไรนะเจ้าคะ

         "ไม่ต้องลำบากไปนอนที่อื่นแล้ว นอนที่นี่แหละ"

         ซอฮยอนรีบทรุดลงหน้าโต๊ะนาง

         "ท่านพูดจริงหรือเจ้าคะ"

         "ทำไมต้องให้พูดซ้ำอยู่เรื่อยนะ"

         ซอฮยอนยิ้มแก้มปริก่อนจะคำนับให้ซังกุงอาวุโสซ้ำไปมาด้วยความดีใจ

         "ขอบคุณมากเจ้าค่ะ ขอบคุณมากจริงๆ ท่าน... ท่านหายโกรธข้าแล้วหรือเจ้าคะ" นางละล่ำละลักถาม

         ฮงซังกุงมองค้อนหญิงสาวทีหนึ่งก่อนจะเปลี่ยนเรื่องพูด

         "พรุ่งนี้เช้าข้าจะสอนธรรมเนียมปฏิบัติในวังกับเจ้า แล้วพอตกเย็นเจ้าก็ไปรวมที่ลานด้านหน้าเรือนพักกับผู้สมัครคนอื่นๆ"

         "รวมที่ลานตอนเย็นหรือเจ้าคะ" ซอฮยอนสงสัย

         "ถูกต้อง เมื่อครู่เหล่าซังกุงซึ่งทำหน้าที่อบรมผู้สมัครทุกคนได้ประชุมตกลงกันให้พรุ่งนี้มีการแข่งขัน ใครชนะจะได้แต้มยี่สิบแต้มทันที และผู้ควบคุมการแข่งขันคือข้าเอง"

         "การแข่งขันหรือเจ้าคะ การแข่งขันอะไร ประเภทไหนหรือเจ้าคะ" หญิงสาวรีบถาม แต้มนางนั้นถูกหักไปเยอะมากและยังไม่เพิ่มขึ้นมาเลย ซึ่งถ้ายังไม่รีบทำแต้มภายในสี่วันตามคำสั่งของยุนซังกุงซึ่งก็ผ่านมาแล้วหนึ่งวัน นางจะหมดโอกาสเข้าวังอีกตลอดชีวิตในฐานะนางใน

         "อย่าถามมาก เมื่อถึงเวลาเจ้าก็จะรู้เอง และอย่าคิดว่าข้าเป็นซังกุงอบรมประจำตัวเจ้าแล้วจะเข้าข้างเจ้าในการแข่งขัน แต่จะยิ่งเคี่ยวหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำ" ฮงซังพูด ซอฮยอนยิ้มอย่างยินดี

         "เจ้ายิ้มอะไร"

         "ข้าดีใจที่ได้นอนห้องนี้กับท่าน"

         ฮงซังกุงมองค้อนอีกรอบ "รีบนอนเถิด ถ้าพูดมากข้าจะให้ไปนอนบนต้นอึนแฮงนามุหน้าห้องข้า เร็ว ดับเทียนเสีย"

         ซอฮยอนรับคำเสียงใสและโบกมือพัดไฟเทียนให้ดับ ก่อนจะลุกออกมาจากห้องเพื่อไปอาบน้ำ

         เมื่อเดินห่างจากเรือนพักมาได้ไม่ไกล จางซังกุงก็รีบปรี่ออกมานางทันที

         "นายหญิง! มาไม่ให้ซุ่มเสียง ข้าตกใจนะเจ้าคะ"

         "ซอฮยอน เจ้ารู้ข่าวรึยัง" นางรีบถาม หญิงสาวขมวดคิ้ว

         "ข่าวอะไรเจ้าคะ"

         "กฎใหม่เรื่องซังกุงอบรมผู้สมัครที่เข้ามาเป็นนางกำนัลอย่างไรเล่า มันอาจ... อาจจะถูกยกเลิก"







         
              [ต่อจาก 50%]





         "ยกเลิกรึเจ้าคะ ท่านหมายถึงอะไรกัน"

         "มีข่าวลือหนาหูว่าขุนนางหลายคนไม่พอใจที่ลูกหลานของตนต้องมาเข้ารับการอบรมเช่นนี้ จึงพากันกราบทูลพระมเหสีขอให้ยกเลิกกฎ" จางซังกุงบอกเล่า

         "แล้วพระมเหสีทรงตัดสินใจอย่างไรเจ้าคะ" ซอฮยอนถามอย่างรวดเร็ว

         "พระนางยังมิได้ทรงมีรับทรงสั่งใดๆ ลงมาเลย แต่เขาว่ากันว่าอาจถูกยกเลิก"

         "แล้วถ้าถูกยกเลิกจริงจะเกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ" ซอฮยอนซักต่อ

         "ข้าก็ไม่แน่ใจ แต่น่าจะรู้เรื่องราวทั้งหมดตอนพรุ่งนี้เย็น เจ้าก็คิดหาทางหนีทีไล่ให้ดีเถิดว่าจะหาทางเข้าวังอย่างไร" จางซังกุงพูดจบก็ขอตัวไปเข้าเวรที่ห้องเครื่องปรุงต่อ

         ซอฮยอนถอนหายใจช้าๆ นึกวิตกกังวลว่าตนเองจะต้องพบเจออุปสรรคอันใดอีกในวันพรุ่งนี้หนอ

         

         อุปสรรคมาเยือนเสียตั้งแต่ยังไม่สว่าง หญิงสาวถูกฮงซังกุงปลุกให้ตื่นแต่เช้ามืดเพื่อให้ออกมาเดินรับอากาศในช่วงย่ำรุ่ง นางเกือบจะสั่งให้ซอฮยอนวิ่งขึ้นไปบนเขาด้วยซ้ำ เมื่อเสร็จสิ้นก็เป็นเวลาเตรียมอาหารและซักผ้ารวมถึงทำความสะอาดเรือนพัก คราวนี้ซอฮยอนทำอย่างดีเยี่ยมไม่พลาดเหมือนคราวมินซังกุง 

         "เจ้าใส่น้ำส้มสายชูลงไปดับกลิ่นคาวหรือ" ฮงซังกุงถามพลางก้มลงสูดดมอาหารของตน

         "เจ้าค่ะ ข้ารู้มาว่าท่านไม่ชอบกลิ่นคาวของเนื้อวัวในน้ำแกง"

         ฮงซังกุงยิ้มก่อนจะก้มลงรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย

        หลังจากนั้นก็เป็นเวลาอบรมเรื่องธรรมเนียมในวัง ฮงซังกุงหยิบไม้เรียวออกมาและเริ่มทำการสอนทันที ขั้นแรกคือบุคลิกของนางวัง ฮงซังกุงสั่งให้ซอฮยอนยืนขึ้นจัดท่าตรงก้มหน้าเล็กน้อย มือกุมเรียบร้อยค้างไว้นานสองนาน สลับกับการเดินเหินอย่างสงบสำรวมโดยมีหนังสือสามเล่มเทินไว้บนศีรษะ

         "นางในคือผู้หญิงของพระราชา เป็นสตรีในราชสำนักที่มียศมีตำแหน่ง ผู้ใดจะล่วงเกินมิได้ กิริยามารยาทต้องเรียบร้อยห้ามรุ่มร่ามเด็ดขาด มือเท้าต้องสัมพันธ์กัน แม้เพียงสายตาก็ห้ามทอดมองชายใดเพราะเจ้าเป็นสมบัติของฝ่าบาทเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น"
         
         "ร่างกายต้องสะอาดบริสุทธิ์ เล็บมือเล็บเท้าต้องตัดให้เกลี้ยงเกลา ผมเผ้าต้องจัดทรงไว้เสมอห้ามปล่อยร่วงลงมาแม้แต่ปอยเดียว กลิ่นปากกลิ่นตัวต้องขจัดออกเสียให้สิ้น"

         เมื่อซอฮยอนเดินบ่อยๆ หรือยืนนานๆ ก็รู้สึกเมื่อยขบจนเผลอขยับตัว และทันทีที่นางขยับฮงซังกุงก็จะให้นางถกกระโปรงขึ้น ร่นถุงเท้ายาวสีขาวลงและใช้ไม้เรียวฟาดน่องสามครั้งเสมอ

         "นายหญิง ก็ข้าเมื่อยนี่เจ้าคะ" ซอฮยอนร่ำร้องพลางลูบรอยถูกฟาดที่ขาซึ่งไม่รู้โดนไปกี่รอบแล้ว

         "หัดอดทนเสียบ้าง แค่นี้ยังทำมิได้ เจ้าจะอยู่ในวังอย่างไร" ฮงซังกุงดุพลางฟาดไม้เรียวลงกับพื้นดังขวับๆ

         "แต่นายหญิง ข้าปวดขาเจ้าค่ะ ขอพักก่อนได้รึไม่" ซอฮยอนอ้อนวอน

         "ปวดขารึ นี่เจ้ารู้รึไม่ นางกำนัลที่ประจำอยู่ตำหนักใหญ่ต้องยืนท่าเดิมโดยไม่ขยับเป็นเวลากี่ชั่วยาม บางคนยืนทั้งวันก็มี"

         "ยะ... ยืนโดยไม่ขยับตัวทั้งวันหรือเจ้าคะ" ซอฮยอนถามด้วยความตกตะลึง

         "ถูกต้อง เช่นนั้นจงตั้งใจให้ดี เร็ว ลุกขึ้น" 

         หลังจากนั้นก็เป็นการสอนมารยาทในราชสำนักไม่ว่าจะเป็น การเข้าออกห้องของนางในที่มีตำแหน่งสูงกว่าตน การเรียกชื่อนายหญิงระดับต่างๆ ตำแหน่งหน้าที่ของนางใน ระดับชั้นยศและสีชุด การวางตัวต่อหน้าผู้ใหญ่ การรับประทานอาหารและน้ำชาต่อหน้าผู้ใหญ่ การเข้า-ออกพระราชฐานชั้นใน สถานที่ในวังที่ไม่ควรไปหรือห้ามเข้าไป การนั่งประจำตำแหน่ง การคำนับแบบทั่วไปและแบบเต็ม คำเรียกเชื้อพระวงศ์และหลักปฏิบัติการเข้าเฝ้าในแต่ละตำหนัก ตลอดจนถึงการวางตัวต่อหน้าขุนนางและทหารทั้งปวง

         ซอฮยอนจดทุกสิ่งลงสมุดบันทึกของตน ด้วยความที่นางเป็นคนชอบเขียนจึงมักพกสมุดติดตัวเสมอเพื่อจะได้ใส่เรื่องที่เพิ่งเรียนรู้ลงไป หญิงสาวรู้สึกว่าสิ่งที่ฮงซังกุงสอนตนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ได้อยู่ในตำรา ไม่สามารถค้นหาได้จากหนังสือเล่มใดๆ แต่ทว่ามาจากประสบการณ์จริงที่นางพบเจอมาตลอดชีวิตและถ่ายทอดออกมาได้อย่างทรงคุณค่าที่สุด ซอฮยอนจึงตั้งใจจดทุกคำทุกตัวอักษร

         "และเมื่อวันหนึ่งเจ้าได้ไต่เต้าเป็นนางในเต็มตัวหรือขึ้นถึงระดับซัง เจ้าก็จักมียศแล้วนางกำนัลรุ่นใหม่จะกลายเป็นผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาซึ่งต้องก้มหัวคำนับเจ้า เมื่อถึงตอนนั้นเจ้าก็ต้องรู้จักการวางตัวที่ดีต่อหน้าลูกน้องเช่นกัน ใช่ว่ายศสูงจะทำอะไรก็ได้ต่อคนยศต่ำกว่า ต้องรู้จักใช้ทั้งพระเดชและพระคุณ เข้าใจรึไม่"

         "เจ้าค่ะนายหญิง" ซอฮยอนรับคำ






         เมื่อตกเย็นซอฮยอนก็เดินออกมารวมที่ลานหินกว้างหน้าเรือนพักของบรรดาซังกุง ไม่นานผู้สมัครคนอื่นค่อยๆ พากันก้าวออกมายืนกันเต็มลานพลางพูดคุยถึงซังกุงอบรมของตนกันอย่างออกรส

         "โอ๊ย ซังกุงข้านะดีกับข้ามาก ข้าสบายจนแทบไม่ต้องทำอะไรเลย" ผู้หญิงคนหนึ่งกล่าวขึ้น

         "จริงรึ ข้าได้ยินว่าเจ้าแอบให้เครื่องประดับหยกนางแลกกับสามสิบแต้มมิใช่หรือ" เพื่อนนางพูดขัดคอขึ้น

         "ตายจริง เงียบเลยนะนางตัวดี" ผู้หญิงคนแรกยกมือปิดปากเพื่อนที่กำลังหัวเราะ "ว่าแต่การแข่งขันคราวนี้จะเป็นอะไรนะ ขอให้เป็นการแข่งเย็บปัก สนลูกสน หรือทำอาหารก็ได้นะข้าถนัด"

         "รู้ได้อย่างไร ข้าว่าน่าจะสอบข้อเขียนมากกว่า หรือไม่ก็ประชันความงาม" ผู้หญิงคนนั้นพูดพลางทำท่าชายตาไปมา

         "หน้าเจ้าสวยก็ต่อเมื่อมีเครื่องประทินเท่านั้นแหละ เอ๊ะเจ้า คือคนที่อบรมกับซังกุงประหลาดใช่รึไม่" นางเหลือบมามองซอฮยอนก่อนจะเอ่ยถาม

         "ใช่ ข้าคือคนที่อบรมกับฮงซังกุง" ซอฮยอนตอบ

         "ตายจริง ยังอยู่อีกรึนี่ เจ้าทนอยู่ได้อย่างไร เป็นข้านะจะวิ่งไปฟ้องพระมเหสีเลยถ้านางมาเป็นคนอบรมข้า"

         "น้ำหน้าอย่างเจ้าน่ะหรือจะไปฟ้องพระมเหสี แค่เดินเข้าไปในเขตของฝ่ายในจะมีปัญญารึไม่" เพื่อนนางขัดขึ้นอีก

         "นี่ เจ้าก็ขัดคอข้าทุกทีเลยนะ ว่าแต่ว่าเจ้าน่ะ ฮงซังกุงเป็นอย่างไร นางบ้าสมคำร่ำลือรึไม่"

         ซอฮยอนส่ายหน้า

         "ไม่ใช่ดอก"

         "ไม่ใช่? หมายความว่านางปกติดีรึ"

         "ทุกคนเงียบ!" เสียงของซังกุงในชุดสีเขียวอ่อนดังขึ้น

         "เข้าแถวให้เป็นระเบียบ ฮงซังกุงมาถึงแล้ว ทุกคนคำนับให้นางด้วย"

         ผู้สมัครทุกคนรีบวิ่งมาเข้าแถวด้วยความรวดเร็วและหยุดพูดคุยกันอย่างฉับพลัน

         ฮงซังกุงเดินออกมาหน้าแถว ยืนกวาดสายตามองทุกคน

         "ข้าคือฮงซังกุง ผู้ควบคุมการแข่งขันคราวนี้ ซึ่งอย่างที่พวกเจ้ารู้ ใครชนะจะได้ยี่สิบแต้มทันที ฉะนั้นจงตั้งใจให้ดี"

         ผู้สมัครเงียบกริบรอฟังหัวข้อการแข่งขันของนาง

         "ทุกคนหันหลังไปมองด้านหลัง" ซังกุงอาวุโสสั่ง ทุกคนทำตามก็หันไปเจอสนามหญ้ารกร้างหลังลานหิน

         "การแข่งขันครั้งนี้คือ..." ฮงซังกุงกล่าวเสียงดัง

         "ถอนหญ้า"







    โปรดติดตามตอนต่อไป
         
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×