คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : chapter8 "เหนื่อย"
สองพ่อแม่ที่สงสัยว่าทำไมลูกชายทั้งสองขึ้นไปนานก็เลยตามไปดู เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปก็เจอกับ ร่างสองร่างที่หลับสนิทนอนกอดกันอยู่ก็เลยไม่อยากกวน รีบปิดประตูแล้วลงไปรอที่ชั้นล่าง
“เยซอง ลูกนอนกอดกันอย่างนี้แสดงว่าคืนดีกันแล้วใช่ปะ”คนเป็นภรรยาหันมาถามสามีที่กำลังนั่งดูทีวีรายการโปรดอย่างตั้งใจ
“คงงั้นมั้ง ก็มาส่งที่บ้านแล้ว นอนกอดกันอีก ก็คงจะดีกันแล้วหละ”ตอบไปอย่างไม่ใส่ใจอะไรมาก
“อืม เป็นยังงั้นได้ก็ดี”ซองมินพูดแล้วยิ้มอยู่คนเดียว แล้วลุกออกจากโซฟาเพื่อเดินไปทำอาหารที่ครัว
ทางด้านซีวอนกับคิบอม
เมื่อคิบอมตื่นขึ้นมาก็รู้สึกเหมือนว่ามีอะไรหนักๆมาทับที่เอวอยู่ จึงเงยหน้าขึ้นไปมอง ก็พบใบหน้าที่หลับสนิทของอดีตคนรักที่กำลังนอนหลับอย่างเหนื่อยล้า ก็เลยปล่อยให้นอนต่อไป จนซีวอนขยับตัวตื่น คิบอมก็เลยแกล้งหลับตาลงไปใหม่
ซีวอนที่ตื่นขึ้นมาก็นึกว่าคิบอมหลับอยู่จึงไม่คิดที่จะปลุก แถมยังดึงตัวเข้ามากอดแน่นกว่าเดิมซะอีก ซีวอนมองคิบอมด้วยสายตาที่แสดงถึงความอบอุ่น มองไปก็ยิ้มไปอย่างมีความสุขอยู่คนเดียว จนคิบอมที่เหมือนจะแกล้งหลับต่อไม่ไหว ก็เลยแกล้งทำเป็นเพิ่งตื่นขึ้นมา
“อือ”ขยับไปมาเล็กน้อยก่อนที่จะค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นมาอย่างแนบเนียน
“นายมาอยู่ตรงนี้ได้ไงเนี่ย”เมื่อตื่นขึ้นมาเห็นซีวอน ก็แกล้งทำเป็นโวยวายตกใจขึ้นมาทันที
“ก็เห็นนายหลับสบายเลยไม่กล้าปลุกก็เลยอุ้มขึ้นมาส่ง”ยิ้มตอบกลับไปพร้อมด้วยวงแขนที่กระชับให้แน่นขึ้น
“แล้วนายมานอนอะไรที่นี่ ทำไมไม่กลับบ้านนายไปหละ”ทำสีหน้ายุ่งใส่พร้อมกับผลักซีวอนออกแล้วก็ดันตัวเองให้ลุกขึ้น
“ก็นั่งมองนายเพลินๆ ก็เลยเผลอหลับไป”
“กลับบ้านไปได้แล้ว เดี๋ยวชั้นลงไปส่ง”ลุกออกจากเตียงแล้วใช้แรงทั้งหมดที่มีลากซีวอนออกจากเตียงให้ลงไปข้างล่างพร้อมกัน
“แต่ชั้นไม่อยากลุกเลยอะ ขอนอนต่ออีกนิดเถอะ”ว่าอย่างเอาแต่ใจแล้วล้มตัวลงไปนอนแล้วคว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุม
“ตามใจนายแล้วกัน ชั้นลงก่อนละ”ถอนหายใจออกมาแรงๆแล้วหันหลังเดินออกจากห้องไปพร้อมเสียงปิดประตูดังปัง!
ซีวอนที่เลิกผ้าห่มออกมาหลังจากที่ได้ยินเสียงประตูปิด เห็นว่าคิบอมลงไปจริงๆก็เลยเดินตามลง โดยที่ไม่ลืมเก็บที่นอนให้เรียบร้อย
“คิบอมรอด้วย”เมื่อออกมาจากห้องก็ยังเห็นหลังคิบอมอยู่ลางๆ ก็เลยเรียกไว้แล้ววิ่งตามมาจนทัน
“อ้าว ไหนบอกจะนอนต่อไง ลุกมาทำไมละ?”
ขณะที่กำลังเดินลงมาจากบันได ทั้งสองก็เจอเย่มินที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะกินข้าวอยู่ก่อนแล้ว จึงเลิกทะเลาะกันแล้วลงไปหา เย่กับมินทันที
“ตื่นแล้วหรอลูก”ซองมินพูดขึนพร้อมกับส่งยิ้มไปให้กับลูกชายทั้งสอง
“ตื่นแล้วครับ กำลังจะเดินไปส่งซีวอนที่หน้าบ้านอยู่”
“อ้าว?วอนรีบกลับหรอลูก ไม่อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนหรอ”
“ถึงอยากจะอยู่คนบางคนแถวนี้เค้าก็ไม่ให้อยู่หรอกครับ”ตอบออกมาแล้วทำท่าน้อยใจในโชคชะตาชีวิต
“อยู่เถอะ แม่กับพ่ออนุญาตแล้ว ไม่ต้องไปสนใจคนแถวนี้หรอก”เยซองที่เงียบอยู่นานก็พูดขึ้นมาบ้าง
“พ่อ พ่อเป็นพ่อผมหรือพ่อเค้ากันแน่เนี่ย อยากจะทำอะไรก็ทำกันเลย ตามสบาย”ส่งสีหน้าน้อยใจไปให้พ่อ พร้อมกับเดินไปกินข้าวที่โต๊ะกินข้าว อย่างไม่สนใจใคร
“คิบอมเค้าไม่ว่าแล้ว เราไปกินข้าวกันเถอะเจ้าลูกเขย”เยซองลุกจากโซฟาตัวโปรดออกมากอดขอของซีวอนไว้แล้วลากไปที่โต๊ะกินข้าวด้วยกัน
โต๊ะกินข้าวตำแหน่งที่ซีวอนนั่งนั้นตรงข้ามกับที่ ที่ๆคิบอมนั่งพอดี วอนนั่งกินข้าวด้วยสีหน้ามีความสุข มีเย่กับมินคอยตักข้าวเอาใจทุกอย่าง ผิดกับบอมที่กินข้าวด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ เย่กับมินจะตักข้าวให้ก็ทำหน้าบูดใส่
“อิ่มแล้วครับ”พูดแล้วรีบเอาจานไปเก็บ จะได้ไปให้พ้นๆจากหน้าคนบางคนแถวนี้เร็วๆ
“เดี๋ยว คิบอม เอาผลไม้ในตู้เย็นมาให้แม่ด้วยนะลูก”ตะโกนสั่งคนที่กำลังยืนรินน้ำอยู่ในครัว คิบอมก็ได้แต่ทำปากขมุบขมิบ แช่งด่าซีวอนให้ออกไปพ้นๆเร็วๆ
“ครับ จะไปเดี๋ยวนี้”รินน้ำเสร็จก็ยกไปเสริ์ฟให้กับทุกคนพร้อมกับจานผลไม้จานใหญ่
“ผมขอตัวขึ้นไปทำงานก่อนนะครับ”หันหลังเตรียมตัวจะขึ้นบันไดไป แต่ไม่ทันเยซองที่ไวกว่า ขว้าแขนของคิบอมให้กลับมานั่งที่โต๊ะเหมือนเดิม
“ไปไหนไม่ได้ลูก แขกมาบ้านก็ต้องอยู่ส่งเค้าก่อนสิ”เยซองหันมาดุคิบอม แต่คิบอมก็ไม่ได้ฟังแต่อย่างใด แต่พอจะขึ้นไปก็โดนสายตาดุส่งมาให้อีก ก็เลยต้องนั่งถอนหายใจมองทั้งสามคนกินข้าวกันอย่างมีความสุข
“อิ่มแล้วครับ ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้ครับ”ร่างสูงตัวการความเบื่อของคิบอมในวันนี้พูดขึ้น หลังจากที่ยัดบรรดากับข้าวและผลไม้ต่างๆเข้าไปมากมาย
หลังจากที่กินอิ่มซีวอนก็ช่วยเก็บกับข้าวและจานล้างให้สมกับที่เค้าเลี้ยง โดยมีสองสามีภรรยามองอย่างปลาบปลื้มใจในตัวลูกเขย แต่อีกคนที่ทำเป็นใส่ใจนั่งดูทีวีพร้อมกับทำหน้าเบื่อโลกหันมามองด้วยความเบื่อหน่าย
“เสร็จแล้ว ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”ล้างจานเสร็จก็หันมาพูดพร้อมกับเช็ดมือไปด้วย แล้วเดินไปหยิบกุญแจรถ โค้งลาผู้ใหญ่ เพื่อเตรียมตัวที่จะกลับบ้าน แต่ก็ไม่ลืมที่จะแอบส่งจูบไปให้คนที่นั่งดูทีวีอยู่ด้วย
“วอนเค้าจะกลับแล้ว ไปส่งเค้าหน่อยซิลูก”
“ผมอีกแล้วหรอ”คิบอมหันหน้าออกมาจากทีวี พร้อมกับชี้หน้าของตัวเอง
“ใช่แล้วลูก ไปส่งซะจะได้ขึ้นไปทำงานไง”ซองมินพูดแล้วยิ้มให้เป็นเชิงบังคับ
“ก็ได้ครับ”วางหมอนอิงลงกับโซฟาแล้วเดินนำออกไปที่หน้าบ้าน โดยมีซีวอนที่เดินตามออกมา
“คราวหลังถ้ามา รีบๆกลับไปเลยนะ”เมื่อมาถึงหน้าบ้าน และพ่อกับแม่ไม่ตามออกมาแล้ว ก็เลยหันไปต่อว่าซีวอนได้อย่างตรงๆ
“ไม่มีทาง ชั้นจะขอกินข้าวบ้านนายทุกวันเลย”
“คนอะไร หน้าด้านจริงๆ เจ้าของบ้านเค้าไม่ให้แล้วยังจะมากินอีก”
“ถ้านายไม่อยากให้ชั้นกินที่บ้านนาย นายไปกินที่บ้านชั้นก็ได้ เหมือนเมื่อก่อนไง”
“กลับบ้านไปเลยไป กวนเวลาชั้นทำงานจริงๆ นายเนี่ย”ขี้เกียจจะต่อล้อต่อเถียง เลยเปิดประตูแล้วพยายามยัดซีวอนเข้าไปในรถ แล้วตัวเองก็วิ่งหนีเข้าไปในบ้านและล็อกประตูเรียบร้อย
“เฮ้อ เหนื่อยจริงๆ พรุ่งนี้จะมารูปแบบไหนอีกละเนี่ย”เอาหลังพิงกับประตูไว้แล้วคิดถึงว่าพรุ่งนี้จะรับมือกับซีวอนยังไงดี
ณ บ้านหลังใหญ่ ชายร่างสูงที่สะพานกระเป๋าใบใหญ่กลับมาถึงบ้านด้วยความเหน็ดเหนื่อยเเละต้องการจะเข้าบ้านเเล้วนั่งพักยิ่งกว่าสิ่งใด เเต่เมื่อเค้าล้วงกระเป๋ากางเกงก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองลืมหยิบกุญเเจบ้านมา ก๊อก ก๊อก
.กริ๊งๆๆๆ เสียงเคาะประตูบ้านอย่างเเรง ตามด้วยเสียงกดกริ๊งที่รัวจนปุ่มจะบุบเข้าไปข้างใน เค้าจึงได้วางของลงเเล้วเดินไปรอบๆบ้านเพื่อจะเรียกอุคให้มาเปิดประตูให้
“เรียวอุคคค เปิดประตูให้หน่อยยย เฮ้!...” เมื่อมองผ่านกระจกใสขนาดใหญ่เข้าไปในห้องนั่งเล่น คยูได้พยามเรียกอุคที่นอนหลับ(ลึก)อยู่บนโซฟา เเต่เเม้เค้าจะตะโกนเสียงดังขนาดไหนอุคก็ไม่ได้ยิน เมื่อหนทางในการเข้าบ้านเเบบที่หนึ่งใช้ไม่ได้ผล เค้าจึงไปรอบๆอีกครั้ง จนเห็นหน้าต่างขนาดพอดีกับตัวของเค้าเปิดอยู่ คยูได้ยืนพิจารณาขนาดหน้าต่างบานเล็กกับขนาดตัวของเค้า ดูจากขนาดเเล้วก็น่าจะเข้าได้อยู่ล่ะมั้ง เค้าจึงค่อยๆลอดตัวเข้าไปทางกระจกบานเล็กนั้น ร่างกายท่อนบนของเค้าสามารถเข้าไปได้อย่างสบายๆ เเต่ดันติดที่ว่าก้นของเค้านั้นมีขนาดพอดีกับหน้าต่าง
“ได้เเล้ว อีก อีกนิดเดียวเท่านั้น
.ติดเเค่ เเค่เเค่ก้นเท่านั้น!!! นี่มันบ้าอะไรวะเนี่ย”
เสียงโวยวายของชายที่พยามลอดเข้าหน้าต่างมาอย่างยากลำบาก ดังไปถึงห้องนั่งเล่นจนทำให้ชายร่างเล็กที่หลับอยู่ตื่นขึ้นมาเเบบงงๆเเล้วเดินตามเสียงโวยวายนั้นมาจนถึงห้องครัว
“งืมๆ อะไรอ่ะ จะเอ๊ะอะเสียงดังทำไมนักหนา คนจะนอนรู้มั้ยคยู ห้าว~” เรียวอุคที่เพิ่งตื่นไม่ได้เอะใจกับอะไรทั้งสิ้นได้ก้มหน้าลงไปพูดกับคยูทั้งๆที่ตาก็ยังหลับอยู่
*หน้าต่างมันสูงประมาณเอวเเล้วเเบบเเคบๆอ่ะนะ
“ชั้นไปซื้อของอย่างยากลำบาก เเต่นายดันหลับเนี่ยนะ” เสียงของคยูที่ตอบกลับมาด้วยความไม่พอใจตัวเค้าเหนื่อยเเทบตายเเต่เพื่อนของเค้ากลับได้นอนอยู่บนโซฟานุ่มๆ ชีวิตมันไม่เเฟร์
“ก็นายมาช้านี่หน่า
เเล้วเล่นอ่ะไรพิเลนๆ กดออดหน้าบ้านก็ได้ถ้าไม่มีกุญเเจน่ะ” ร่างเล็กที่ใส่ชุดนอนผมยุ่งพูดไม่ค่อยจะรู้เรื่องได้ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ เเล้วดีดมะกอกเข้าที่่หน้าผากของคยูอย่างเเรงเเล้วยิ้ม (เธอไม่ได้มีความรู้สึกผิดเลยใช่มั้ยเนี่ย)
“เจ็บนะ!! กดจนกรี๊งจะพังเเล้ว
จะยืนมึนอีกนานมั้ยช่วยดึงชั้นเข้าไปหน่อย” คยูอารมณ์เสียนิดๆเเต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรไปเเละเก็บอาการโกรธไว้เพราะกลัวว่า ถ้าว่าไปเเล้วชายร่างเล็กจะเดินกลับไปนอนต่อเเล้วเเล้วปล่อยให้เค้าติดอยู่ตรงหน้าต่างนี้ทั้งคืน
“อืมๆ
.คยูชั้นว่านายควรลดก้นด่วน พะเพราะว่ามัน ติด อ่า~” ถึงจะยังไม่ได้สติมากนักเเต่เรียวอุคก็ได้จับสองเเขนของคยูเเล้วเอาเท้ายังไว้กับกำเเพงเเล้วดึงอย่างเต็มเเรง ในตอนเเรกนั้นไม่มีท่าทีว่าจะขยับ เพราะติดบันท้ายขนาด
ของชายร่างสูง เเต่เมื่อเค้าจับชายร่างสูงเอียงไปมาเเล้วดึงสุดเเรง ความพยามไม่เสียเปล่าคยูฮยอนได้เข้าบ้านสมใจอยากเเล้วถึงเเม้ว่ามันต้องเเลกกับการติดอยู่ที่หน้าต่างเกือบครึ่งชัวโมง ตัวของเรียวอุคกระเด็นไปติดกับข้างฝาอีกด้านหนึ่งอย่างเเรงเเต่ยังดีที่เค้าไม่เป็นไร ส่วนคยู
เเผละเอาหน้าลงพื้นไม่ขยับท่าไหนท่านั้นอยู่กลางห้อง
“ขอบใจๆ หลุดมาได้ซักที” เสียงโล่งใจของชายร่างสูงที่เอียงหน้ามาพร้อมกับคำขอบคุณ ก่อนที่จะลุกขึ้นเเล้วปัดๆฝุ่นผงตามร่างกาย
“สูญเสียพลังงานหมดเลย เเล้วไข่ล่ะอย่าบอกนะว่าไม่ได้ซื้อมา
” ร่างบางที่นั่งพิงกำเเพงอยู่เงยหน้าขึ้นมาถาม เเต่ร่างสูงกลับเดินผ่านหน้าของเรียวอุคโดยที่ไม่ได้ตอบอะไรเเล้วเดินไปหยิบของที่ว่างไว้หน้าประตู เเล้วเอามาวางไว้บนโต๊ะ
“ได้เเล้วครับคุณชาย ของที่สั่งมีของเเถมมาด้วยดีใจใช่มั้ยล่ะ” ร่างสูงวางของที่ได้มามากมายไว้บนโต๊ะ ก่อนที่จะเอาหัวพิงกำเเพงเพราะความล้า เเต่เรียวอุคก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่าคยูเอาเงินมากจากไหนถึงได้ของมาเยอะขนาดนี้
“นะ นายไปโขมยใครเค้ามา!!!” เมื่อเรียวอุคเห็นของมากมายอยู่บนโต๊ะก็ได้ยืนขึ้นด้วยความตกใจเเล้วชี้ไปที่ของเหล่านั้น
“ไม่ใช่อย่างนั้น!! ที่ตลาดมีงานลดเเจกเเหลกน่ะเลยได้ของมาเยอะ เเล้วนี่บัตรกินน้ำเเข็งใสฟรี55ใบ เป็นไงชั้นเก่งใช่มั้ยล่ะ~”
คยูยิ้มร้ายๆก่อนที่จะหยิบบัตรกินน้ำเเข็งใสฟรีออกมาจากกระเป๋า ถึงจะโดนเข้าใจผิดว่าไปขโมยของใครเค้ามาเเต่เค้าก็ยังภูมิใจที่ได้มันมา ชายในชุดนอนถึงกับตื่นอย่างจริงๆจังๆเมื่อได้เห็นบัตรน้ำเเข็งใสที่อยู่ในมือของร่างสูง ตาของเค้าวาวเชื่อมเเละนิ่งไปซักพัก
“น้ำเเข็งใส
ฟรี...หรอ
”
“เอ๊ะ ทำไมเป็นอะไรรึเปล่า
”
คยูได้เขย่าเเขนของเพื่อนที่นิ่งไปด้วยความตกใจ (เเค่พูดว่าของฟรีกับน้ำเเข็งใสถึงกับช็อคตายเลยหรอเนี่ย) ในตอนนั้นอุคก็ได้ยิ้มเเล้วพูดขึ้นว่า“อยาก อยากกินน้ำเเข็งใส
” ในเวลาเดียวกันมือของร่างสูงได้วางอยู่ที่ผมของร่างเล็กซักพัก เเล้วอยู่ดีๆก็เกิดหมั่นเขี้ยวขี้ผมของร่างเล็กเบาๆด้วยความเอ็นดูพร้อมหัวเราะ
“นึกว่าเป็นอะไรซะอีก55 ไปตอนนี้เลยมั้ยล่ะ”
“เดี๋ยวค่อยไปได้ก็ได้
กินข้าวกันก่อน”
ถึงจะอยากกินน้ำเเข็งใสมากขนาดไหนเเต่ก็ไม่ลืมที่จะกินข้าวเย็นที่เป็นอาหารหลักก่อน จากนั้นเรียวอุคก็ได้เปิดกระเป๋าสะพายเเล้วค่อยๆช่วยกันหยิบของที่มีอยู่อย่างมากมายออกมากับคยู จากที่เมื่อวานเค้าสองคนได้กินมาม่าไปอาหารสดในวันนี้จึงเหมือนของที่พระเจ้าประทานมาให้
“เเล้วเย็นนี้นายจะทำอะไรกินล่ะ” (พูดเหมือนจะเป็นคนทำนะนายน่ะ)
“เดี๋ยวดูของก่อนนะ
.ยังไงก็ต้องประหยัดเข้าไว้ซินะ
งั้นเเค่ข้าวปลาย่างกับเห็ดย่างก็น่าจะพอเเล้วล่ะ” ใช่เเล้วถึงเเม้จะมีของมากมายให้กินเเต่เพื่อการใช้ชีวิตระยะยาวเเล้ว เค้าจึงต้องลดวัตถุดิบในการทำอาหารให้น้อยลง
“อ่ะ ปลากับเห็ด จะเอาอะไรอีกมั้ยชั้นจะได้จัดของใส่ตู้เย็นถูก”
“ไม่เเล้วล่ะนายไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อนก็ได้ จะได้หายเหนื่อยดูซิเหงื่อซกเลย”
จากนั้นทั้งสองก็ได้เเยกย้ายทำหน้าที่ของตัวเองไป คยูก็ไปอาบน้ำอยู่บนชั้นสอง ส่วนเรียวอุคก็ยืนย่างปลากับผักอย่างสบายอารมณ์เพราะคืนนี้เค้าจะได้ไปกินน้ำเเข็งใส
“หอมจังเลย~ ปลาย่าง ผักย่าง กินเลยนะครับ~” คยูที่อาบน้ำเสร็จลงมาในชุดเสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นเตรียมพร้อมที่จะไปเดินชายหาดอีกรอบเเละกินน้ำเเข็งใสเป็นเพื่อนเรียวอุคได้เดินตามกลิ่นปลาย่างที่หอมเกินจะทนไหวจนต้องกลืนน้ำลาย
“เต็มที่ๆ กินละครับ
.คยู
”เรียวอุคที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามที่กำลังจะกินข้าวอยู่ดีๆก็ได้จ้องมาที่เเขนของคยู
“อะ อะไร ทำไมจ้องอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อกันขนาดนั้น ชั้นไม่ได้เเช่อ่างนะจริงๆ” ร่างสูงที่เข้าใจผิดคิดว่าเรียวอุคนึกว่าตนเเช่น้ำในอ่าง(กลัวค่าน้ำขึ้นสมอง)
“เเขนนาย
ทำไมเเผลเยอะขนาดนั้นล่ะ เมื่อเช้ายังไม่มีเลย” เรียวอุคจับเเขนทั้งสองข้างของคยูบิดไปมาเพื่อดูว่าเเผลนั้นมีมากขนาดไหนก่อนที่จะลุกขึ้นไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลที่ห้องนั่งเล่น
“อ๋อตอนที่เเทรกเข้าไปในฝูงชนที่ตลาดส่วนใหญ่ก็มีเเต่ผู้หญิงใช่มั้ยล่ะ ก็เลยโดนเล็บข่วนมาน่ะ ไม่ต้อง
”
“นายเนี่ยนะอย่าทำให้คนอื่นเป็นห่วงซิ ตายๆๆเเผลนายมันยังเปิดอยู่เลยมั่นใจนะโดนเเค่เล็บน่ะ” จากรอยที่เห็นนั้นเหมือนโดนรั้วลวดหนามเกี่ยวไปลึกเป็นรอยยาวพอสมควร เรียวอุคจึงเอาน้ำเกลือมาล้างๆให้สะอากก่อนที่จะใช้เเอลกอร์ฮอร์ เบตาดีน เเละเย็บเเผลตามลำดับ (เย็บเองเลยรึเนี่ย) ร่างสูงที่ดิ้นไปดิ้นมาเหมือนโดนน้ำร้อนลวกได้พูดขึ้น (เเต่เเขนนั้นโดนล็อกไว้กับโต๊ะอย่างเเน่น:เรียวอุคกำลังเย็บเเผลอยู่พลาดไปนี่ไม่น่ารอด)
“
สะสะสะเเสบอ้าาาา พอเถอะถ้าทาทั้งเเขนมีหวังชั้นไม่น่าจะทนไหว ยังไงนายไม่ใช่เเม่ชั้นไม่ต้องดูเเลใส่ใจชั้นดีมากขนาดนี้ก็ได้ ปล่อยชั้นไปเถ๊อะ!!!จะขาดใจเเล้ว”
“ถึงชั้นจะไม่ใช่เเม่นายเเต่ชั้นก็เป็นเพื่อนของนาย เเล้วชั้นก็อยากตอบเเทนอะไรนายนอกจากทำกับข้าวเเล้วก็ทำงานบ้านบ้าง เพราะฉะนั้นอยู่นิ่งๆเเล้วให้ชั้นทำเเผลนายก่อน” เรียวอุคพูดขึ้นด้วยสีหน้าไม่เป็นห่วงเเละจริงจังเป็นอย่างมากจนทำให้คยูเงียบไปได้เเละปล่อยให้เรียวอุคค่อยๆนั่งทำเเผลไป
ในห้องครัวที่มีเพียงเเค่เพื่อนสองคนนั่งอยู่เงียบๆ ความเงียบทำให้คนเราคิดอะไรได้หลายๆอย่าง หลายๆอย่างที่เคยลืมไปเเล้วให้กลับคืนมาในความทรงจำ
“จริงๆเเล้วนายนี่ให้อารมณ์เหมือนเเม่ชั้นเลยนะ ทั้งทำกับข้าว ทำงานบ้าน เเถมยังคอยดูเเลเเล้วก็เป็นห่วงชั้นกับพี่อยู่เสมอ” เสียงนุ่มๆของร่างสูงพูดขึ้นในตอนที่ร่างเล็กกำลังก็เก็บกล่องปฐมพยาบาล เอาอีกเเล้วอยู่ดีๆก็พูดถึงเรื่องในอดีตพี่หรอถ้ามีพี่จริงๆก็น่าจะอยู่ด้วยกันไม่ใช่หรอ หรือว่าที่มาที่นี่เพราะทะเลาะกัน เเต่ที่เเน่ๆคยูคงคิดถึงเเม่ของเค้ามากๆ เเต่เรียวอุคก็ไม่ได้ถามอะไรต่อรอให้เจ้าตัวเค้าพูดเองอย่างนี้คงจะดีกว่า
“เอิ่ม
ก็ที่บ้านเเม่ทำตัวไม่ค่อยเหมือนเเม่ซักเท่าไหร่น่ะเฮ้อๆ ละไว้ในฐานที่เข้าใจละกัน ชั้นก็เลยต้องต้องทำทุกอย่างเอง เเต่ชั้นเป็นผู้ชายนะเฟร้ยยยมันจะหยามกันมากไปเเล้ว” ชายในชุดนอนตอบไปตามความจริง ก็ดูคุณเเม่ฮีของอุคซิวันๆออกไปเเต่ข้างนอกเเล้วก็มีเเค่เค้า วอน เเละป๋าเกิงที่ต้องอยู่บ้านทำทุกอย่างเเทน (โดนใช้เเรงงานเเต่เด็ก) เเต่ในขณะเดียวกันเค้าก็จบประโยคด้วยการเเกล้งอารมณ์เสียใส่คยูนิดๆพร้อมยกส้อมขึ้นมาจะควักลูกตาของคยู
“ไม่ได้ตั้งใจครับ!!! กลัวเเล้วๆ ไหนๆก็ทายาเสร็จเเล้วก็กินข้าวกันต่อ เเล้วไปร้านน้ำเเข็งใสกันถ้าดึกมากเดี๋ยวมันปิดซะก่อนนะ” คยูได้ยกมือขึ้นมาป้องตาของเค้าไว้เเล้วส่ายหัวไปมา ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องเป็นไปกินน้ำเเข็งใสกันเรียวอุคเลยยิ้มเเล้วนั่งกินข้าวต่อ
นี่ก็เป็นครั้งเเรกที่คยูได้เห็นเรียวอุคทานข้าวดูเเล้วก็ไม่ได้มีอะไรผิดปกติเเต่เค้าก็คอยมองเรียวอุคอยู่เป็นระยะเพราะรู้สึกถึงความผิดปกติอะไรบางอย่าง
หลังจากที่ทั้งสองกินข้าวเเละเรียวอุคเปลี่ยนชุดเสร็จทั้งคู่ก็ได้เดินออกมาตามชายหาดเพื่อหาร้านน้ำเเข็งใส เเต่ก็หายากเหลือเกินเพราะวันน้ร้านส่วนใหญ่ปิดเเละเเต่ละร้านที่เปิดอยู่ก็ไม่ค่อยจะเปิดไฟกันซะด้วย(ร้านน้ำเเข็งใสอยู่ไกลจากจุดที่เเข่งวอลเลย์13นาทีโดยประมาณ)
“ไม่ได้เดินชายหาดตอนกลางคืนมานานเเล้วนะเนี่ย~ คิดถึงจังเลย” เรียวอุคได้ยืดร่างกายหลังจากที่เมื่อยมานาน ลมทะเลในตอนทุ่มกว่าๆมันทำให้เค้ารู้สึกดีถึงเเม้ว่าอากาศจะหนาวไม่หน่อยก็เถอะ
“อากาศดีนะเเต่ไม่มีสาวๆเลย วันนี้หาดเงียบมากกก” คยูที่เดินเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงมาตลอดทางพูดขึ้น มันคงจะมีคนมาอยู่เเถวหาดหรอกนะตอนทุ่มนึงเนี่ยคิดได้ไง
“งั้นเรามาเล่นไล่จับกันมั้ยล่ะ หาดนี้จะได้ไม่เงียบไง เเปะนายเป็นกอลั่ม 555” เรียวอุคที่เห็นว่าเพื่อนของเค้ากำลังเบื่อสุดๆก็ได้คิดว่าถ้าเล่นวิ่งไล่จับไปจนถึงร้านเร็วขึ้นเเล้วเพื่อนของเค้าก็คงจะหายเบื่อด้วยในเวลาเดียวกัน
“อะไรนะกอลั่มเลยหรอ คนหล่อๆอย่างนี้เนี่ยนะ” เมื่อเรียวอุคเเปะที่ตัวของคยูจนเซไปมาเล็กน้อยคยูก็ได้รู้สุกตัวว่าเรียวอุคเรียกเค้าว่ากอลั่ม ในความหมายของคยูนี่เลวร้ายมากๆ มากซะจนคยูพยามวิ่งตามเรียวอุคอย่างสุดฝีเท้า พอใกล้จะเเปะได้เรียวอุคก็หมุนตัวหลบบ้าง ก้มลงบ้างหรือบางครั้งเค้าก็หยุดเเล้วเบี่ยงตัวกระทันหันให้คยูล้มหน้าทิ่มเเล้วตัวเองก็วิ่งต่อไป จนเรียวอุควิ่งเลยร้านน้ำเเข็งใสไปคยูพยามเรียกอุคจนสุดเสียงเลยซื้อน้ำเเข็งใสเเล้วค่อยๆเดินตามเลาะชายหาดไป จนห็นอุคนั่งอยู่ใกล้ๆกับโขดหิน
“วิ่งมาไกลไปมั้ย อ่ะนี่น้ำเเข็งใสรีบๆกินก่อนที่จะละลายไปมากกว่านี้ ถามจริงนายไม่ได้ยินเสียงชั้นเลยหรอ
” คยูนั่งลงข้างๆเเล้วหันไปถามด้วยความเป็นห่วง
“อย่าว่าเเต่เสียงนายเลย เสียงลมที่ได้ยินตลอดทางอยู่ดีๆก็ยังไม่ได้ยิน พอชั้นหันไปอีกทีนายก็ไม่ได้ตามหลังชั้นมาเเล้ว เเต่ชั้นก็หยุดวิ่งไม่ได้จนเริ่มเข้าใกล้โขดหินนั่น ชั้นก็เริ่มหายใจไม่ค่อยออก พอค่อยๆถ่อยห่างออกมาก็ดีขึ้น เเล้วขามันก็เกิดหนักจนล้มเเล้วไปไหนไม่ได้นี่หละ” เมื่อเรียวอุคเริ่มเล่าสิ่งที่เข้าได้เจอมาหน้าของเค้าที่ร่าเริงตอนเเรกกลับซีดเผือกเหมือนกำลังกลัวอะไรซักอย่าง เเต่ก็ยังกินน้ำเเข็งใสต่อไป
“งั้นทีหลังก็อย่าวิ่งหนีชั้นอีกละกัน นายว่าเเต่ชั้นน่าเป็นห่วงจริงๆเเล้วนายก็ด้วยนั่นเเหละ” สิ้นเสียงของคยูพลุจากเกาะที่ห่างไปได้ดังขึ้นปั้ง ปั้ง ปั้ง พลุ
“เรานี่โชคดีจริงๆนะที่ได้กินน้ำเเข็งใสฟรีๆเเถมยังได้ดูพลุอีก” คยูตะโกนเเล้วยิ้ม(เสียงพลุดังมากกก) เเสงพลุหลากสีส่องสว่างกระทบพื้นน้ำเเละใบหน้าของทั้งสอง เมื่อเรียวอุคกำลังเเหงนหน้ามองพลุอยู่ดีๆเรียวอุคก็เกิดหน้ามืดทิ้งตัวลงไปบทพื้นทรายเอาดื้อๆจนคยูที่อยู่ข้างคว้าตัวเเทบไม่ทันเเละทำอะไรไม่ถูกตอนนั้นเรียวอุคร่างกายเย็นเฉียบปากซีดขาวเเละเเทบจะไม่รับรู้อะไรเเล้ว คยูเลยตัดสินใจเเบกอุคกลับบ้าน
“งั้นกลับบ้านกัน พรุ่งนี้ชั้นต้องไปที่ร้านอีก ฮึบ!! ตัวหนักไม่ใช่เล่นนะ” คยูเเบกอุคขึ้นหลังก่อนที่จะเเหย่เรียวอุคเล่น ถึงเเม้เรียวอุคจะไม่มีอารมณ์เล่นด้วยก็ตาม
“พูดมากรีบๆเดินกลับบ้านได้เเล้วน่า
” เรียวอุคที่ไม่ค่อยจะมีเเรงได้ตอบกลับมาด้วยเสียงที่เบาจนเเทบจะไม่ได้ยินก่อนที่จะหลับไป เมื่อถึงบ้านคยูก็ได้เฝ้าเรียวอุคอยู่หน้าห้องน้ำจนอุคอาบน้ำเเละเเต่งตัวเสร็จ เเล้วก็เดินไปส่งที่ห้องนอนในตอนเเรกคยูถามว่าจะให้มานอนเป็นเพื่อนมั้ยเเต่เรียวอุคบอกว่าดีขึ้นเเล้วไม่ต้องเป็นห่วงคยูเลยกลับเข้าไปนอนในห้องของตัวเองจนผ่านไปซักพัก เเต่ด้วยความเป็นห่วงของคยูนั่นจึง
..(ต่อตอนหน้า)
ขออภัยในความเกรียนนะคะ เวิ่นดีเเท้ตอนนี้ก็ไม่มีสาระเช่นเดิม ไรด์เตอร์
.ตั้งใจค่ะ 55555
ขอโทษด้วยที่ตอนนี้มันไม่มีอะไรเลย ไรเตอร์ตื้อมากๆง่วงด้วย เรียนจันทร์ถึงเสาร์วันเด็กก็ไม่ได้หยุดวันครูก็ไม่ได้หยุด เรียนพิเศษเลิกดึกอีกตะหาก ตอนนี้ก็ม.5แล้วอยากจะแต่งให้เต็มที่ เพราะคิดว่าม.6ก็คงจะไม่มีเวลา ยังไงก็จะพยายามแต่งให้สนุกกว่านี้นะคะ เจอกันตอนหน้าวันพฤหัสจ้า^^ ไรเตอร์ขอแค่ช่วยเม้น ให้ได้มั้ยคะ?
.
ความคิดเห็น