คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : chapter6 "วุ่นวาย"
ดวงตาเรียวเล็กกรอกไปมาเมื่อได้ยินเสียงกร๊อกเเกร๊กจากห้องครัวในตอนเก้าโมงเช้า เรียวอุคนอนอยู่บนพื้นกระเบื้องหินอ่อน เเสงเเดดสาดส่องเข้ามาทางกระจกสีที่สวยงาม กับผ้าห่มผืนใหญ่ที่ห่อตัวเค้าไว้ ในมือยังถือจอยสติ๊กเเละเสียงของเกมที่ยังคงเล่นค้างอยู่ข้างๆมีเพียงหมอนใบนุ่มกับผ้าห่มผืนบางกองอยู่ เค้าพยามชะเง้อหน้าไปมองในห้องครัว
"อ้าวตื่นเเล้วหรอ..." เสียงของคยูที่ใส่เเค่บ็อกเซอร์มีซาหริ่มกับเสื้อคอวีเดินออกมาจากห้องครัว เเล้วมานั้งยองๆกินเเยมข้างๆกับร่างเล็กที่นอนงงอยู่ที่ห้องนั่งเล่น
"ก็ตื่นเเล้วนี่ไง นายกินเเยมเปล่าๆ? เเล้วบ็อกเซอร์นั่นอะไร รสนิยมความส่วนตัวเเบบเเปลกๆอีกอย่างของนายรึไง" เรียวอุคยิ่งทำหน้างงเข้าไปใหญ่เมื่อเห็นคยูกินเเยมเปล่า เเต่ที่งงสุดก็บ็อกเซอร์สีซาหริ่มที่มีสีม่วง สีเขียว สีส้ม สีฟ้า สีเเดง สีขาว สีชมพูสลับกันเป็นลายทางรอบตัว เพราะตอนที่เค้าซักหรือเก็บห้องไม่เคยเห็นมันเลยเเม้เเต่ครั้งเดียว (หรือคยูใส่ตัวเดิมมาตลอด?) เเล้วเมื่อคืนเค้าก็เล่นเกมซะจนไม่ได้สังเกตุ
"บ็อกเซอร์ปล่อยๆมันไปเหอะ ก็ในตู้เย็นมันไม่มีอะไรเหลือเเล้วนี่ มีเเค่เเยมกับ..เอิ่ม...ใบอะไรก็ไม่รู้เเล้วชั้นก็หิวมากก็เลยเอาเเยมมากินเเก้ขัดไปก่อน" ไม่รู้ด้วยความอายหรืออย่างไรคยูรีบเอาผ้าห่มผืนบางมาพันรอบเอว เเล้วกินเเยมต่อไป
"งั้นหรอ ไม่มีอะไรเหลือเลยหรอเนี่ยเมื่อคืนก็ไม่ได้สังเกตุ ขอเวลาเเป๊ปไปดูในห้องเก็บของก่อน นายก็เก็บของตรงนี้ให้เรียบร้อย ขอบใจนะสำหรับผ้าห่ม" เรียวอุคที่ลุกขึ้นมานั่งได้ซักเเป๊ปนึงก็ได้ทิ้งตัวลงบนพื้นอีกครั้งด้วยความเหนื่อยใจจนต้องเอาเเขนก่ายหน้าผาก เเต่หลังจากพูดจบเรียวอุคก็ได้เดินขึ้นไปที่ห้องเก็บของชั้นบน ในห้องที่มีสารพัดสิ่งตั้งเเต่ ทีวีโบราณ หุ่นกระบอก ม้าโยก เปียโน หนังสือที่กองสูงเป็นภูเขา ใยเเมงมุมที่มีอยู่เต็มไปหมด เเสงไฟเล็กๆที่ติดๆดับๆอยู่ตลอดเวลา เเละมีมุมนึงที่ติดป้ายไว้ว่า "อาหารฉุกเฉิน" เรียวอุคค่อยๆปัดฝุ่นบนฝากล่องที่สะสมมานานจนหนาเตอะเเล้วค่อยๆเเก้มันเชือกที่มัดกล่องนั้นเอาไว้ ในนั้นมีเเค่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไม่บ่งบอกยี่ห้อระบุเเค่กินก่อนสินปีเเล้วก็ไม่ระบุปีอีก(เเล้วมันอยู่มานานขนาดไหนเเล้วนี่)
"อืมๆ ก็เมื่อคืนนายเล่นมากอดชั้นซะเเน่นเเถมเอาขาก่ายอีก คิดว่าหนาวเลยเดินขึ้นไปหยิบผ้าห่มลงมาให้" คยูที่ตามขึ้นมาหลังจากที่เก็บของข้างล่างเรียบร้อยเเล้ว ก็ได้ชวนอุคคุยไปพลางๆถึงเขาจะตะโกนคุยจากหน้าประตูก็เถอะ เพราะห้องเก็บของนั้นทั้งอับทั้งชื้นเเถมบรรยากาศข้างในยังน่ากลัวอีกด้วย คนใจไม่ถึงขอเเนะนำว่าอย่าเข้าไป
*รายงานสถานการณ์เมื่อคืน...หลังจากที่ทั้งสองเล่นเกมจนจะเช้าคยูเเละอุคก็ได้ลงไปนอนเป็นซากบนพื้นหินอ่อนที่เย็นเฉียบ พอเวลาผ่านไปประมาณยี่สิบนาที่หลังจากที่ทั้งคู่หลับ เรียวอุคที่นอนอยู่ก็เอาเเขนมากอดคยูอย่างเเน่นจนตัวคยูเองรู้สึกอัดอัดเเละยังไม่พอเอาขาก่ายพุงของคยูจนเค้ารู้สึกจุก คงจะเป็นไปไม่ได้ถ้าคยูไม่ตื่นขึ้นมา
ด้วยความง่วงเเต่ก็นอนไม่หลับเเล้วเลยเดินขึ้นไปหยิบหมอนกับผ้าห่มลงมาห่มให้อุคเเละตัวเค้าเองก็นั่งคลุมโปงกอดหมอนเล่นเกมต่ออยู่ข้างๆ
"โทษทีที่ต้องทำให้ลำบาก อ่ะนี่ช่วยถือลงไปไว้ข้างล่างหน่อย" ในมือของเรียวอุคยกห่อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมา5-6เเพ็ค จนเเทบจะหล่นลงมาทับตัวเองจึงขอให้คยูช่วยถือลงไปข้างล่าง ก่อนที่จะหันกลับไปล็อกประตู
ในขณะที่เดินลงไปห้องครัวคยูก็ชวนอุคคุยไปเรื่อยๆ(สงสัยยังหลอนสภาพห้องอยู่)
เนื่องจากที่เป็นวันหยุดสาวสก็อยผู้ช่วยเพียงคนเดียวของคยูจึงขอหยุดงานไปทำหน้าที่สก็อยที่ดี เค้าจึงไม่สามารถเปิดร้านได้
"วันนี้ชั้นปิดร้านพอดีไปเที่ยวกันมั้ย" เนื่องจากคยูเห็นว่าอุคไม่ค่อยได้ออกจากบ้านเลยลองชวนดู
"ไม่อ่ะ ไม่ค่อยอยากออกจากบ้าน อีกอย่างวันนี้วันหยุดคนเยอะไม่อยากไปเเย่งพื้นที่คนอื่นเค้าหายใจ" ปกติก็ไม่อยากออกอยู่เเล้วยิ่งในช่วงวันหยุดอย่างนี้เรียวอุคยิ่งไม่อยากออกไปไหนเป็นสองเท่า
"งั้นชั้นไปเดินเล่นชายหาดนายจะเอาอะไรมั้ย" คยูหันไปถามขณะที่อุคเริ่มต้มบะหมี่กึ่งให้เค้ากินอยู่
"....นายเเวะตลาดซื้อของสดเข้ามาได้มั้ย" หลังจากที่คิดอยู่เเป๊ปนึงเค้าก็อยากจะได้พวกผัก เนื้อสัตว์มาทำอาหารไม่ใช่เเค่เเป้งเส้นๆที่ต้องต้มจนอืดเพื่อความคุ้มอย่าที่ทำอยู่ตอนนี้
"จากใจของคนเป็นเพื่อนกันชั้นจะบอกนายตามความจริง ชั้นหมดตัวเเล้วไม่เหลืออะไรอีกเเล้ว ที่ร้านลูกค้าก็ไม่เข้าอีกไม่กี่วันต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน" สุดคำจะสารภาพขอเพื่อนร่วมชะตากรรม เงินที่เคยมีได้สูญไปหมดเเล้วกับคืนก่อนกับสาวอึ๋มปลอมเเละสาวในผับอีกมากมายเเต่เหตุผลนี้ใครจะกล้าบอกไปล่ะ คยูจึงเอาเรื่องค่าเช่าบ้านมาอ้างเเทนเเถถลอกไปก่อน ไม่งั้นเพื่อนตัวเล็กของเค้าได้บ่นไม่หยุดเเน่ๆ
"งั้นนายก็เตรียมตัวอดตายกับชั้นเนี่ยเเหละ" ไม่รู้จะเชื่อหรือไม่เชื่อในสิ่งที่คยูพูดดีเเต่ที่เเน่ๆถ้าเค้าสองคนต้องอยู่อย่างนี้ต่อไปซักวันก็คงต้องอดตาย
"เรายังมีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ตั้งเยอะไม่ต้องเป็นห่วง " คยูที่นั่งรอบะหมี่กึ่งพูดจบเเล้วยิ้มเเบบฝืนๆ
"นายคิดว่าจะกินติดต่อกันโดยไม่ใส่อะไรเพิ่มได้ซักกี่วันเชียว ชั้นยังไม่อยากกลายเป็นคนขาดสารอาหารนะ" เรียวอุคที่ใส่เครื่องปรุงอยู่ได้หันมาพูด ส่วนมือก็เทเครื่องปรุงไป
"มันไม่มีอะไรจะกินก็ต้องกินซิไม่เรื่องมากหรอก" ชายกางเกงซาหริ่มนั่งท้าวคางตอบ เเล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง
"อย่างน้อยนายน่าจะมีเงินซื้อไข่ซักเเผงนะ" เมื่อร่างเล็กหันไปเห็นมองบะหมี่กึ่งก็นึกขึ้นได้อย่างน้อยก็ต้องมีไข่กันตาย อาหารง่ายๆราคาไม่เเพงมาก
"ขอดูเงินในกระเป๋าก่อนนะ...อืมมมม มีอยู่ๆเเต่ไข่เบอร์สามนะ" ถึงจะพูดอย่างั้นก็เถอะนะเงินในกระเป๋ามันก็เเฟบเหลือเกิน เค้าจึงรีบล้วงกระเป๋าของกางเกงยีนที่พาดอยู่ข้างๆเก้าอี้ ยังดีที่ในนั้นยังมีเงินสำรองอยู่ตรงซอกกระเป๋าเเต่มันพอเเค่จะซื้อไข่เบอร์สามได้ไม่กี่เเพ็ค
"...เอาๆมาเหอะ กินก่อนเเล้วค่อยไป"
เรียวอุคที่ทำบะหมี่กึ่งเสร็จก็ยื่นไปให้คยูไม่รอช้าคยูรีบกระซวกด้วยความหิวโหย บนโต๊ะอาหารเหมือนเป็นเวลาที่คนในบ้านจะได้อยู่ถามความเป็นอยู่ของเเต่ละคนเเต่สำหรับสองคนนี้...เป็นคำพูดที่ดูเหมือนจะเป็นห่วงเเต่ก็เเอบจิกกัดกันเล็กน้อย
"เเน่นอนอยู่เเล้วมีหรือที่จะไปโดยท้องว่าง ซู๊ดดด ว่าเเต่นายเถอะไม่ออกจากบ้านบ้างเดี๋ยวก็กลายเป็นคนเผือกพอดี"
"เอาไว้วันที่ไม่ค่อยมีคนเเล้วจะออกนะ กินๆเอาจะได้รีบไปซื้อ ถ้าเงินเหลือซื้อผักมาด้วย" ยังไม่วายจะให้ซื้อผักมาด้วย เรียวอุคคยูมันจะไม่มีเงินทำอะไรเเล้ว!!
"คงจะยาก ซู๊ดดด เเต่คงจะกลับมาเย็นๆเลยนะถ้าออกไปน่ะ"
"เต็มที่ เเต่พรุ่งนี้เปิดร้านก็อย่าดึกมากละกัน" เรียวอุคที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามมองคยูเเล้วพูดด้วยความเป็นห่วง เพราะสภาพของคยูก็ดูโทรมขึ้นทุกวันๆ
"สั่งเป็นเเม่เชียว เเต่ขนาดบะหมี่กึ่งนายยังทำอร่อยขนาดนี้ชั้นล่ะซึ้งใจจริงๆที่มีเพื่อนอย่างนาย" ตอนนี้คยูก็ไม่ได้สนใจในคำพูดขอยชายร่างเล็กมากนัก เพราะเค้ากำลังดื่มด่ำกับบะหมี่กึ่งที่เพื่อนของเค้าทำให้ด้วยความ...เซง
"ไม่ต้องมายอ เดี๋ยวลอย ไม่ใช่ 555"
"ชั้นอยู่บ้านมาก็หลายวันเเล้วนะ ทำไมไม่เห็นนายกินอะไรเลย"
"กินก็กินอยู่นายอ่ะไม่เห็นเอง ชั้นไม่ได้กินข้าวป่านนี้ชั้นก็เป็นลมไปเเล้วซิ"
"เออก็จริงๆชั้นนี่ก็คิดอะไรเเปลกๆเนอะ ซู๊ดดด หมดจานไปละนะครับ เจอกันเย็นๆ"
เป็นเรื่องจริงที่เราไม่เคยได้เห็นฉากที่เรียวอุคนั่งกินข้าวหรือกินอะไร ปกติเเล้วเราจะเห็นเค้านั่งมองบ้าง ล้างจานบ้าง ทำสวน ทำนู่นนี่สารพัด เเต่เค้าก็คงจะหาเวลาว่างๆของวันนั่งกินโดยที่เราไม่ได้สังเกตุ เเต่ก่อนที่คยูจะถามหรือสังเกตุอะไรใคร คิดว่าเค้าควรจะมีสติอยู่กับเนื้อกับตัวมากกว่านี้
"นายลืมใส่กางเกง..." เรียวอุคหันไปบอกเพื่อนอย่างไม่ดังนักเพราะคยูได้เปิดประตูบ้านเตรียมก้าวขาออกไปเเล้ว(กลัวเพื่อนอายว่างั้น)
"อุ๋ย! เกือบเเล้วมั้ยล่ะ ขอบใจๆ ฝากบ้านด้วยยยย" คยูรีบกลับเข้ามาใส่กางเกงเเล้ววิ่งออกไปด้วยความอาย
ปั้งงงง เสียงประตูที่ปิดอย่างดังทิ้งไว้เพียงเพื่อนที่รอเเผงไข่ไก่เบอร์สามเเละผักสดอยู่ที่บ้าน รอ รอ รอ เเละรอ ในเวลาที่มีอยู่เค้าคงจะทำบะหมี่กึ่งให้ตัวเองกินเเล้วนอนพักผ่อนซะก่อนที่ี่ร่างกายของเค้าจะไม่ไหวเสียก่อน
"แล้วถ้าผมบอกว่าจะไม่เลิกละครับ"ถามออกไปด้วยความไม่เข้าใจ "ทำไมละครับทั้งๆที่ตอนแรกเราตกลงกันไว้ว่าจะให้บอมเรียนต่อที่นี่ แต่ตอนนี้ทำไม...."
"ตอนนี้อะไรๆ มันก็เปลี่ยนไปแล้ว การได้ศึกษาในมหาวิทยาลัยชื่อดัง มันย่อมดีกว่านะลูก"
"ก็ไม่เป็นไรนี่ครับ ไม่ต้องให้เค้าไปเรียนที่ไหนหรอก พอเรียนจบผมมีงานทำ ผมสัญญาว่าจะดูแลเค้าเองครับ"
"แต่ถ้าเกิดวันนึงวอนเกิดไม่รักบอมแล้ว แล้วบอมจะทำยังไงละ น้าขอร้องเถอะนะ "
"คงไม่มีวันนั้นแน่นอนครับ ผมรักบอมคนเดียวมาตั้งแต่เด็กๆ ผมคิดว่าคงไม่มีใครที่รักเท่าเค้าอีกแล้วละครับ"
"แต่ว่า...."
"พอเถอะคุณ"เยซองหันไปบีบมือซองมิน "ซีวอนน้าขอพูดอะไรอย่างนึงถ้ารักบอมจริงขอให้ปล่อยเค้าไปได้มั้ย ถ้าเกิดมาเพื่อกันจริงๆแล้ว ต่อให้เลิกรากันไปยังไงสุดท้ายแล้วก็กลับมาคบกันได้อีกอยู่ดี น้าขอแค่ตอนนี้เราปล่อยคิบอมไปให้เค้าได้ไปเจอสิ่งที่ดีๆกว่านี้ จะได้เป็นการพิสูจน์ไปด้วยไงว่าถ้าเราสองคน ถ้าแยกจากกันแล้วจะเป็นยังไง จะยังรักกันอยู่หรือเปล่า ยังไงชีวิตมันก็ต้องมีเรื่องที่ไม่สมหวังกันบ้าง น้าจะไม่พูดอะไรมากไปกว่านี้แล้ว ขอให้เราเอาเก็บไปคิดก็แล้วกัน"
จากนั้นทั้งเย่และมินก็หันหลังกลับเข้าบ้านไป ทิ้งไว้เพียงชายหนุ่มที่ทิ้งตัวลงไปนั่งร้องไห้อย่างไม่อายใคร ท่ามกลางถนนที่ถูกปกคลุมไปด้วยความมืด ก่อนที่เรียวอุคจะผิดสังเกตที่พี่ชายหายไปนาน เลยออกมาตามแล้วเจอกับพี่ชายที่นั่งร้องไห้นิ่งอยู่หน้าบ้าน จึงลากให้เข้าบ้านไป ถึงจะเห็นสีหน้าที่ไม่สบายใจของพี่ชาย แต่ก็ไม่คิดที่จะเอ่ยถามอะไรออกไป เพราะรู้ว่าถ้าพี่พร้อมที่จะเล่าก็จะเล่าเอง ไม่ไปถามมากจะดีกว่า
คืนนั้นทั้งคืนวอนก็เอาแต่นอนครุ่นคิดว่าจะเอายังไงดี จนสุดท้ายก็ตัดสินใจได้ว่า ควรจะปล่อยบอมไป หลังจากเรียนจบก็ค่อยกลับมาคบกันใหม่ก็ได้นี่ คิดได้ดังนั้นก็ดีใจ แต่ความคิดแบบเด็กๆ ทำให้ไม่ได้คิดให้รอบคอบก่อนว่าจะมีผลกระทบอะไรตามมา
ติ๊ดๆๆๆๆ เสียงโทรศัพท์ของร่างเล็กที่กำลังนอนหลับสบายในเช้าวันเสาร์ดังขึ้น
"ฮัลโหลครับ"รับโทรศัพท์ด้วยเสียงอันงัวเงีย บ่งบอกเต็มที่ว่าคนโทรมากำลังรบกวนการนอนเป็นอย่างยิ่ง
"บอม วันนี้ไปเที่ยวกัน แต่งตัวเร็วให้เวลาหนึ่งชั่วโมง"ว่าจบแล้วก็รีบวางไปทันที เพราะทนปั้นเสียงสดใสทั้งๆที่กำลังจะเลิกกันไม่ได้ แต่ก็ขอยื้อเวลาที่จะได้อยู่ด้วยกันเป็นวันสุดท้าย เพราะวันจันทร์บอมก็ต้องไปเรียนต่อแล้ว ทั้งๆที่เจ้าตัวเองก็ยังไม่รู้ตัว
"ทำไมวันนี้ถึงได้ชวนไปเที่ยวนะ"อมยิ้มอย่างอารมณ์ดี แล้วเดินไปเลือกชุดเพื่อที่จะออกไปเที่ยวให้เร็วที่สุด
ซีวอนเดินมาคอยบอมที่บ้านตั้งแต่ที่วางโทรศัพท์ไป เดินเข้ามาในบ้านด้วยสีหน้าที่เศร้า สองคู่รักที่อยู่ในบ้านที่กำลังหวานอยู่นั้นถึงกับหม่นลงไปทันที เพราะความรู้สึกผิดที่ทำให้ลูกๆต้องเป็นแบบนี้
"ผมตัดสินใจได้แล้วนะครับ ผมจะเลิกกับคิบอมเอง แต่ขอให้วันนี้เป็นวันสุดท้ายให้เราได้เก็บเป็นความทรงจำ ก่อนที่จะจากกันด้วยเถอะครับ"หันมาพูดพร้อมกับส่งรอยยิ้มที่บอกว่าไม่เป็นไร ไปให้สองสามีภรรยาที่สีหน้าเปลี่ยนไป เมื่อเห็นเค้าเดินทำหน้าเศร้าเข้ามาในบ้าน
"เสร็จแล้ว"คิบอมรีบวิ่งลงมาทันทีที่ได้ยินเสียงคนคุยกัน ทั้งสามคนจึงต้องปรับสีหน้าให้กลับมาสดชื่นที่สุดเท่าที่จะทำได้
"จะไปเที่ยวกับวอนหรอลูก ขอให้เที่ยวให้สนุกนะ วอนพาบอมทานข้าวข้างนอกมาเลยนะ เพราะน้าสองคนจะไม่อยู่บ้าน"เยซองพูดออกมาเพื่อที่จะยืดเวลาให้ทั้งสองคนได้อยู่ด้วยกันอีกนิดก็ยังดี เผื่อความผิดที่ตนได้ทำไว้จะทุเลาลงไปบ้าง
"รีบๆไปได้แล้วลูก เดี๋ยวก็ไม่ทันได้ไปเที่ยวไหนกันพอดี"เดินออกมาส่งลูกที่หน้าบ้าน ก่อนที่ตัวรถจะค่อยๆเคลื่อนออกจากบ้านไป เหลือไว้เพียงพ่อกับแม่ที่มองลูกชายด้วยความรู้สึกผิด
"เราจะเห็นแก่ตัวมากเกินไปรึเปล่าที่ทำกับลูกแบบนี้"สองพ่อแม่ก็ได้แต่ยืนคิด เพราะคงกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว
"บอม อยากไปไหนละวันนี้"ส่งเสียงเรียกร่างเล็กที่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างครุ่นคิดว่า ทำไมวันนี้ทั้งพ่อแม่ และวอนนั้นดูแปลกๆ
"อืม ไปนัมซานทาวเวอร์กันมั้ย?ที่ๆเค้าบอกกันว่าถ้าเขียนชื่อเราติดไว้ที่กุญแจแล้วคล้องเอาไว้ จะทำให้เรารักกันตลอดไป ตั้งแต่คบกันมาเรายังไม่เคยไปเลยนะ"คำว่านัมซานทาวเวอร์สะกิดใจของซีวอนเข้าเต็มๆ ถ้านายรู้ว่าเรากำลังจะเลิกกันนายยังจะชวนชั้นไปที่นั่นอยู่รึเปล่า
"นายอยากไปไหน ชั้นก็จะพาไปทุกทีนั้นแหละ"หันไปยิ้มให้ด้วยรอยยิ้มที่เฝื่อนที่สุดเท่าที่เคยยิ้มมา
หลังจากสองสามประโยคนั้นทั้งสองก็ไม่ได้พูดกันอีกเลย จนถึงนัมซานทาวเวอน์ วอนก็พาบอมไปทำทุกอย่างที่คู่รักทุกคู่เค้าทำกันเมื่อมาที่นี่ วันนี้เป็นวันที่สุขใจที่สุดของคิบอม แต่ตรงกันข้ามกับเป็นวันที่ทุกข์ใจที่สุดของซีวอน
หลังจากที่ทั้งสองคล้องกุญแจเสร็จแล้ววอนก็เข้ามากอดบอมไว้แน่นเพื่อจะซึมซับไออุ่นของร่างเล็กๆนี้ไว้ให้นานที่สุด ถึงในตอนนี้บนนี้จะมีคนเยอะมาก แต่ซีวอนกลับไม่มีความอายอย่างทุกๆทีจนคิบอมนั้นอดสงสัยไม่ได้
"วอน...ปล่อยเถอะ คนเยอะนะ"พยายามแกะมือออก แต่เมื่อหมดแรงก็หันหน้ากลับไปหาซีวอน แต่เมื่อหันกลับไปก็โดนริมฝีปากอุ่นลงมาประกบลงไปทันที ริมฝีปากร้อนดูดคลึง ริมฝีปากเล็กโดยไม่มีการรุกล้ำใดๆ คิบอมรับรู้ถึงปฎิกริยาที่เปลี่ยนไปจึงไม่คิดที่จะห้ามหรือต่อต้านแต่คิดแค่เพียงว่าวันนี้ซีวอนเป็นอะไรกันแน่
"ขออยู่แบบนี้ซักพักนะ"นานสักพักจึงถอนริมฝีปากออกก่อนจะ เอาใบหน้าซุกกับไหล่ของร่างเล็ก อยู่อย่างนั้นอยู่เนิ่นนาน จึงยอมผละออก
"นายเป็นอะไรกันแน่ ซีวอน"ร่างเล็กหันหน้ากลับมาถามด้วยความไม่เข้าใจ แต่ก็ได้รับเพียงแค่รอยยิ้มจางๆกลับไปเท่านั้น
"ชั้นไม่ได้เป็นอะไรหรอก ไปหาอะไรกินกันดีกว่า"พูดจบก็ดึงมือของคิบอมให้ตามตัวเองออกไปทันที
สถานที่ๆซีวอนเลือกในครั้งนี้ไม่ใช่ร้านอาหารหรูๆอย่างทุกที แต่เป็นตลาดนัดเล็กๆที่เต็มไปด้วยผู้คน ทั้งสองเดินเข้าไปข้างในพร้อมๆกัน พร้อมกับมือของซีวอนที่ค่อยๆสอดประสานกับมือเล็กด้วยความแนบแน่น ทั้งสองแวะเข้าร้านนู้นออกร้านนี้อย่างมีความสุข ซื้อของกินมานั่งกินด้วยกัน ในสวนสาธารณะเล็กๆ ก่อนที่นาฬิกาจะบอกเวลาหกโมง ทั้งสองจึงขึ้นรถไปสิ้นสุดกับการทัวร์วันนี้ที่แม่น้ำฮัน
ทั้งสองลงจากรถมานั่งที่ม้านั่งตัวเล็กๆริมแม่น้ำ เสียงน้ำและสายลมที่ผ่านพัดหน้า เพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี
"คิบอม นายรักชั้นมั้ย?"ถามพร้อมกับดึงตัวอีกคนเข้ามากอด แล้วกดใบหน้าเล็กให้แนบกับอกของตัวเองไว้ เพื่อไม่ให้คิบอมนั้นได้เห็นน้ำตาของตัวเองที่มันกำลังไหลลงมา
"ทำไมถามอย่างนั้นละ ก็รักนะซิ"ตอบพร้อมกับเอื้อมมือไปโอบกอดตอบร่างสูงไว้เช่นกัน
"จำเอาไว้นะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นชั้นก็ยังรักนาย"คิบอมพยายามจะเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความไม่เข้าใจ แต่กลับโดนมือหน้ากดหน้าเข้าไปเหมือนเดิม
"ชั้นว่าเราเลิกกันเถอะนะ"เช็ดน้ำตาของตัวเองออก ก่อนจะปล่อยคิบอมให้เป็นอิสระเหมือนเดิม
"ทำไม........"คิบอมถามกลับมา พร้อมกับดวงตาที่มีน้ำตาเอ่อคลอ
"ชั้นบอกนายไม่ได้ แต่ต่อไปนี้เราจะกลับมาคบกันอย่างเดิมไม่ได้แล้ว"ชั้นไม่เคยคิดที่จะบอกเลิกนาย แต่เพื่ออนาคตที่ดีของนายชั้นก็พร้อมที่จะทำ
"แล้ววันนี้นายพาชั้นออกมาเที่ยวทำไม เพื่อที่จะบอกเลิกงั้นหรอ"
"ใช่ วันนี้ชั้นตั้งใจว่าจะมาบอกเลิกนาย แต่ที่การที่เรามาเที่ยวในวันนี้ชั้นขอให้นายเก็บมันเอาไว้ในความทรงจำของนายได้มั้ย"
"นายมันเห็นแก่ตัว ทำให้ชั้นเจ็บปวดแล้วยังจะให้ชั้นเก็บความทรงจำเกี่ยวกันนายไว้อีกหรอ"
".................." ชั้นบอกมันออกไปไม่ได้ ชั้นรักนายมากนะคิบอม รักมากจนไม่อยากจากกันไปไหน ไม่ใช่ว่าชั้นไม่เจ็บนะที่ทำแบบนี้ ชั้นก็เจ็บเหมือนกัน
"จำไว้เลยนะว่าชาตินี้ชั้นจะไม่มาให้นายได้เห็นหน้าอีกไอ้คนสารเลว"จบประโยคแล้วรีบวิ่งออกไปทันที
นั่งร้องไห้บนรถแท็กซี่จนมาถึงบ้าน คิบอมก็เอาแต่ร้องไห้ไม่หยุด ในหัวมีแต่เรื่องของซีวอน แล้วก็นึกย้อนไปถึงวันก่อนที่จะคบกัน "ชั้นรักนายนะ ชั้นจะคอยดูแลปกป้องนายเอง" แต่ประโยคในตอนนี้กลับเป็น "เราเลิกกันเถอะ" แล้วประโยคที่ว่า "จำเอาไว้นะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นชั้นก็ยังรักนาย" นายหมายความว่ายังไง นายบอกเลิกชั้น แต่บอกชั้นว่านายยังรักชั้นเนี่ยนะ จะเอายังไงกันแน่ซีวอน
พ่อกับแม่เคยพูดเรื่องที่จะให้ไปเรียนต่อนี่ ทางเดียวที่จะทำให้ชั้นไม่ต้องเห็นหน้านาย มีแต่ทางนี้ทางเดียวเท่านั้น
ร่างเล็กๆที่จนป่านนี้แล้วก็ยังร้องไห้ไม่หยุด นั่งคอยพ่อกับแม่ด้วยเรื่องสำคัญ ที่ถ้าพ่อกับแม่รู้นั้นคงดีใจมากๆแน่ จนเมื่อได้ยินเสียงคนไขประตูบ้านดังก๊อกแก๊กๆ จึงรีบปาดน้ำตาก่อนที่คนข้างนอกบ้านจะเข้ามาเห็น
"พ่อครับ แม่ครับ ผมตัดสินใจแล้วว่าผมจะไปเรียนต่อ"
รู้สึกทั้งคู่จะยังไม่ได้อาบน้ำนะ 55 ตอนหน้าคยูกับวันหยุดเเบบเต็มๆที่ตลาด 555
ฟิคบ้าอะไรเนี่ยคยูเรียวก็โก๊ะๆส่วนวอนบอมก็ดราม่าซะ วอนบอมไม่ดราม่าอย่างที่หวังไว้เลยอะ ขอโทษสำหรับตอนนี้มากจริงๆคะ
.
ความคิดเห็น