คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : chapter5 "อดีต"
เมื่อกลับมาถึงบ้าน คิบอมก็กลับมาคิดแผนการในการแก้แค้น พร้อมกับนึกย้อนไปถึงเรื่องราวเมื่อ9ปีก่อน พอนึกย้อนไปทีไรน้ำตา ก็พาลไหลลงมาทุกที
คิบอมกับซีวอนนั้น เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เล็กๆ เพราะว่าบ้านอยู่ตรงข้ามกัน แล้วพ่อกับแม่ของทั้งสองคนก็เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่สมัยมัธยม จึงทำให้ไม่แปลกเลยที่ซีวอนกับคิบอมนั้นสนิทกัน ทั้งสองเกิดปีเดียวกัน และห่างกันเพียงแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้นก็เลยสนิทกันมากๆ เป็นเพื่อนเล่น อาบน้ำด้วยกันของเล่นก็แบ่งกันเล่น มีเรื่องกลุ้มใจก็ปรึกษากันตลอด เพราะคิบอมก็เป็นลูกคนเดียวแต่โชคดีที่มีวอนเป็นเพื่อนแก้เหงา แถมยังมีเรียวอุคน้องชายตัวเล็กๆของซีวอนอีก วอนนั้นเป็นเด็กแข็งแรง ส่วนเรียวอุคนั้นค่อนข้างที่จะอ่อนแอเพราะว่าถูกเลี้ยงมาแบบประคบประหงมมาตั้งแต่เล็ก แต่ซีวอนนั้นเป็นลูกชายคนโตที่ต้องสืบทอดงานปล่อยเงินกู้ของครอบครัวจึงต้องทำทุกอย่างได้ด้วยตนเอง
ทั้งสองคนสนิทมาก เรียนโรงเรียนเดียวกันมาตลอด คิบอมเป็นเด็กผู้ชายที่ตัวเล็กที่สุดในห้องจึงโดนแกล้งบ่อยๆ ก็มีวอนที่คอยช่วยตลอดทำให้ทั้งสองยิ่งผูกพันกันมากขึ้น จนเมื่อขึ้นมัธยมปลายทั้งสองก็รู้สึกถึง ความรู้สึกที่มีให้กันมันลึกซึ้งเกินกว่าเพื่อน จึงตกลงที่จะคบเป็นแฟนกัน ตั้งแต่คบเป็นแฟนกันก็ยิ่งดูแลกันมากขึ้น ไปโรงเรียนพร้อมกันกลับบ้านพร้อมกัน นั่งทำการบ้านด้วยกัน เป็นคู่ที่ทุกคนในโรงเรียนอิจฉามากที่สุด พ่อกับแม่ก็เห็นดีเห็นงามด้วย เพราะตอนแรกกผ้ตั้งใจไว้ว่าถ้าลูกออกมาก็จะให้แต่งงานกันอยู่แล้ว เพราะคนนึงก็น่ารัก ส่วนอีกคนก็หล่อที่สุดในโรงเรียน จนวันนึงที่ทำให้ทั้งสองผิดใจกัน
“อ้าว บอมมารอนานยัง”เมื่อเดินมาถึงประตูหน้าโรงเรียนก็เจอคิบอมที่ยืนอยู่ก่อนแล้ว
“เพิ่งมาเมื่อกี้เอง วันนี้อาจารย์ปล่อยเร็ว”พูดแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าสีฟ้าสดใสออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วเช็ดหน้าให้กับร่างสูงที่เหงื่อออกเต็มหน้า เนื่องจากทุกวันวอนจะต้องรีบวิ่งมารอบอมอยู่ก่อนแล้ว
“เรากลับบ้านกันเถอะ”คว้ากระเป๋าของคิบอมไปถือแล้ว จูงข้อมือให้เดินตามออกไปเหมือนอย่างเช่นทุกวัน
“ไม่ต้องจับมือก็ได้น่า”บิดข้อมือออกจากการเกาะกุม วอนก็ยอมปล่อยมือแต่โดยดี แต่เปลี่ยนจากจับมือเป็นเอามือโอบเอวเล็กไว้แทน
“ไม่ยอมให้จับมือ ก็เปลี่ยนเป็นเอวแทนแล้วกัน”หันไปส่งยิ้มพร้อมทำสายตาเจ้าเล่ห์ แล้วก้มลงใช้ปลายจมูกสูดดมกลิ่นหอมๆจากกลุ่มผมนุ่ม ยิ่งทำให้คิบอมเขินหนัก
“ปล่อยเลย แล้วเอากระเป๋ามาด้วย เดี๋ยวถือเอง ไม่ต้องเข้ามาใกล้เลย”ดึงกระเป๋าไปถือเอง พร้อมกับก้าวเท้าเร็วๆเพื่อเดินให้ใกล้ออกจากซีวอนมากที่สุด
‘อย่าเดินไปไกลดิ เดี๋ยวมีคนมาดักฉุด ชั้นไปช่วยไม่ทันนะ 55”ตะโกนล้อออกไปอย่างอารมณ์ดี
“ไม่ต้องมาแกล้งเค้าเลย แบร่ ไม่เชื่อหรอก”หันมาแลบลิ้นใส่แล้วรีบวิ่งหนีไปด้วยความเร็วสูง จนซีวอนต้องวิ่งตาม ทั้งสอนคนหยอกล้อกันเสียงดังไปตลอดทาง จนถึงบ้าน
“วันนี้แม่กับพ่อไม่อยู่หรอเนี่ย’เข้ามาในบ้านแล้วอ่านข้อความที่พ่อกับแม่เขียนแปะไว้ที่ตู้เย็น เหมือนทุกทีที่ออกไปไหนแล้วไม่ได้บอกคิบอมเอาไว้ก่อน ก็จะทำแบบนี้
“วันนี้นายจะเข้ามาทำการบ้านมั้ย”
“ทำสิชั้นก็เข้ามาทำทุกวันนั้นแหละ นายนี่ถามทุกวันเลยนะ”
“ก็ถามไปงั้นแหละ เพื่อวันไหนนายเกิดเบื่อไม่อยากมาทำการบ้านที่บ้านชั้นแล้ว’
“วันนี้ไปกินข้าวบ้านชั้นนะ แม่กับพ่อนายไม่อยู่นี่ ถ้าแม่รู้แม่กับอุคคงดีใจแน่ๆเลย”เปลี่ยนเรื่องคุยทันที เมื่อคิดว่าวันนี้แม่ก็ให้ตนนั้นชวนคิบอมไปกินข้าวที่บ้านอยู่แล้ว
“อืม ก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้ว ยังไงวันนี้ก็ขอฝากท้องไว้บ้านนายก็แล้วกัน”
“อืม ขึ้นไปทำการบ้านกันเถอะ”จูงมือบอมให้ขึ้นไปทำการบ้านที่ห้องของบอมที่อยู่ข้างบน อย่างกับเป็นบ้านของตัวเอง
“นี่มันบ้านใครกันแน่เนี่ย”
หลังจากที่ทั้งสองขึ้นมาทำการบ้าน ก็ช่วยกันทำจนเสร็จด้วยเวลาอันรวดเร็ว แล้วเก็บของเตรียมตัวที่จะไปทานข้าวที่บ้านของซีวอน
“เก็บเร็วๆหน่อยดิ ชั้นหิวแล้วนะ”ร่างเล็กๆของคิบอมหันมาหาวอนที่รอตั้งนานแล้วก็ยังเก็บของไม่เสร็จสักทีจนบอมนั้นต้องไปช่วยเก็บ
“ใจเย็นๆน่า เดี๋ยวก็ได้กินแล้ว อย่าโมโหไปเลย”
“แม่ครับ ผมกลับมาแล้ว พาคิบอมมากินข้าวด้วย”มาถึงบ้านก็ทิ้งกระเป๋าไว้หน้าบ้านแล้ววิ่งเข้าไปกอดแม่ที่ทำอาหารอยู่ในครัว เดือดร้อนให้คิบอมที่เดินเข้ามาทีหลังต้องเก็บกระเป๋าเอาเข้าไปวางไว้ให้
“พี่คิบอม คิดถึงจังเลย”เสียงของคนพี่ขาดไปไม่เท่าไหร่ เสียงของคนน้องก็ดังตามมา
“เรียวอุค อะไรกันก็เจอกันทุกวัน”ยิ้มขำกับเด็กผู้ชายตัวเล็กๆเสียงแหลมๆที่รีบวิ่งเข้ามากอดตัวเอง
“ก็พี่ไม่ได้มากินข้าวที่บ้านตั้งนานแล้วนี่นา ถ้ารู้ว่าจะมาผมจะได้ทำกับข้าวที่พี่ชอบไว้ไห้”เด็กชายตัวเล็กเอ่ยอย่างอ้อนๆ
“ไม่เป็นไรหรอกน่า ไปกินข้าวกันดีกว่า น้าฮีชอลตั้งโต๊ะเสร็จแล้ว’ว่าจบก็ดึงมือเด็กชายให้เดินไปนั่งที่โต๊ะกินข้าวพร้อมๆกัน
‘พี่ซีวอนลุกไปเลยนะ อุคจะนั่งข้างพี่คิบอม”เมื่อเดินมาถึงโต๊ะก็เห็นพี่ชายนั่งอยู่ก่อนแล้ว ก็เลยออกปากไล่เพราะว่าตัวเองนั้นอยากจะนั่งข้างๆพี่ชายแก้มป่อง
“ไม่เอาบอมแฟนพี่ จะนั่งข้างนายได้ยังไง”เถียงกลับน้องอย่างไม่มีใครยอมใคร
จากนั้นทั้งสองก็ทะเลาะกันไปอีกนานจนคนพี่ต้องยอม เพราะความเอาแต่ใจของเรียวอุค
“ก็ได้ๆ เพราะเวลาอื่นพี่ก็ได้อยู่กับคิบอมอยู่ดี’หันมาทำหน้ากวนประสาทใส่น้อง
“พี่ซีวอน ดื้อ! ไม่ต้องกินข้าวเลย”น้องตัวเล็กพูดแล้ว วิ่งเอาจานข้าววิ่งหนีไปรอบๆบ้าน จนกลายเป็นสงครามพี่น้องขนาดย่อม
“เปลี่ยนพี่เลยมั้ย?หะ คิมเรียวอุค’เริ่มเหนื่อยก็เริ่มทำสงครามประสาทกันแทน
“เปลี่ยนได้ก็ดีดิ พี่แบบพี่อะผมไม่เอาหรอก พี่คิบอมทั้งน่ารักทั้งเรียนเก่ง แต่พี่ไม่มีอะไรดีเลย”น้องคนเล็กเถียงกลับอย่างไม่ยอมเช่นกัน
“หยุดๆๆ หยุดเลยลูกทั้งคู่ แล้วนั่งกินข้าวให้สงบเรียบร้อยซะ แม่นั่งข้างบอมเอง ส่วนเราสองคนไปนั่งกินข้าวโต๊ะนู้นเลยนะ”ฮีชอลที่ทนมองอยู่นานทนไม่ไหวจนต้องระเบิดออกมา โต๊ะกินข้าวที่ไล่ให้ทั้งสองไปนั่งกินนั้น เป็นโต๊ะกินข้าวสมัยเด็กที่ตัวเล็กๆ ต้องอัดกันนั่ง(ยังจะอุตส่าห์เก็บนะเจ๊ ==^) ทั้งสองพี่น้องก็ทะเลาะกันต่ออย่างเงียบๆ ส่วนโต๊ะกินข้าวตัวใหญ่ก็มีพ่อกับแม่ที่นั่งคุยกับคิบอมอย่างมีความสุข
“เพราะพี่นั่นแหละ เราถึงต้องมานั่งแบบนี้”หันไปว่าพี่ก่อนที่จะโดน มือใหญ่เขกหัวมาหนึ่งที
“วอนทำอะไรน้อง แม่เห็นนะ”หันมาดุลูกชายทั้งสองอีกครั้ง
หลังจากนั้นทั้งครอบครัวก็กินกันต่อไปด้วยความสุข กับอีกสองพี่น้องที่ต้องนั่งกินข้าวด้วยความขมขื่น
หลังจากที่กินกันเสร็จวอนก็ออกมาส่งบอมที่หน้าบ้าน
“ไม่ต้องออกมาส่งก็ได้ ใกล้กันแค่นี้เอง”เอ่ยออกไปอย่างเกรงใจ
“ก็เป็นห่วงอะ ออกมาส่งไม่ได้หรอ”
“บ้า ไปกลับบ้านไปได้แล้ว ชั้นจะเข้าบ้านแล้ว”ไขประตูบ้านเสร็จแล้วก็หันมาไล่
‘ไปก็ได้ครับ ฝันดีนะ”บอกลาแล้วเข้าไปหอมแก้มแล้ววิ่งออกมาด้วยความรวดเร็ว
“ซีวอน!!!!”เดินกุมแก้มตัวเองที่ขึ้นสีแดงแปร๊ดแล้วรีบหันหลังให้ร่างสูงแล้วเข้าบ้านไป
“ซีวอน” แต่ก่อนที่ซีวอนจะหันหลังกลับเข้าบ้านไป เย่มิน พ่อกับแม่ของคิบอมเรียกเอาไว้
“กลับมาแล้วหรอครับ”หันมาทักทายทั้งสองผู้ใหญ่
“กลับมาแล้วจ๊ะ ขอบคุณที่ช่วยดูแลคิบอมให้นะ”อยู่ดีๆก็มาพูดเรื่องนี้แถมยังพูดด้วยสีหน้าที่เศร้ามากอีกตังหาก
“ครับ ด้วยความเต็มใจครับ”แต่วอนกลับมองไม่เห็นสีหน้านั้น แล้วยิ้มตอบกลับอย่างมีความสุข
“แต่ต่อไปนี้ไม่ต้องแล้วละ”
“ทำไมละครับ”ย้อนถามกลับไปด้วยความไม่เข้าใจ มันมีอะไรกันแน่
“ก็เราติดต่อกับทางมหาวิทยาลัยที่โซลว่าจะให้บอม ไปเรียนต่อ แต่ถ้าบอกเค้า เค้าคงไม่ยอมแน่ๆเพราะอยากอยู่กับเธอน่ะซีวอน”
“แล้วทำไมครับ”เริ่มรู้สึกถึงลางไม่ดี
“เธอช่วยเลิกกับคิบอมได้มั้ย เค้าจะได้ไปเรียนต่อ ถ้าเธอรักคิบอมจริงทำเพื่อเค้าสักครั้งได้มั้ย เลิกกับเค้าซะ ถือว่าเราขอร้อง”
ครืดดดดดด!!!!! เสียงสิ่งของบางอย่างที่หนักมากโดนลากอย่างรวดเร็วในบ้านหลังใหญ่
“หิวข้าว
.หิวข้าว
.หิวข้าว
.” เสียงพูดชวนสยองที่ดังมาจากหน้าห้องนอนพร้อมกับประตูที่กำลังถูกเปิดในตอนใกล้เช้าอย่างช้า เเสงไฟจากหน้าห้องเเสดงให้เห็นเงาดำขนาดใหญ่ดูน่าสะพรึงกลัว เเละมาพร้อมกับกลิ่นที่ไม่น่าสบอารมณ์นัก
“
..” ชายร่างเล็กที่นอนอยู่ในห้องเพียงคนเดียวกลับไม่ได้รู้สึกหรือได้ยินเสียงใดๆทั้งสิ้น เเต่เสียงนั้นยังคงพูดย้ำไปเรื่อยๆด้วยเสียงโทนเดียวกันไปประมาณสี่นาที
“หิวข้าว
หิวข้าว
.ใครรู้ว่าเป็นเพื่อนกันลุกไปทำให้หน่อย~~” เสียงนั้นคือเสียงของเพื่อนร่วมชะตากรรมของเรียวอุคที่ยืนเรียกมาเป็นเวลานานจนเเทบจะเป็นลมคาหน้าห้องไปเเล้ว ก่อนหน้าที่เค้าจะขึ้นมาถึงหน้าห้องของเรียวอุคเค้าถึงกับต้องคลานขึ้นบันไดมาเพราะไม่มีเเรงที่จะยืนอยู่เเล้ว
“
.นายมีอะไรเเต่เช้า
นี่เพิ่งตีสี่เองนะ” เรียวอุคที่นอนคุดคู้อยู่บนเตียงเล็กๆของห้องค่อยๆตื่นขึ้นมาตอบเพื่อนด้วยน้ำเสียงงัวเงีย เเละรำคาญเล็กน้อยเเต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร
“ก็หิวข้าวเพิ่งกลับมาจากร้าน
” พอได้ยินเสียงตอบรับจากเพื่อนที่นอนอยู่ตอบกลับมาเค้าก็เริ่มมีเรี่ยวเเรงขึ้นมานิดหน่อย (จริงๆก็ถึงขั้นดี๊าด๊าเเต่ไม่มีเเรงที่จะเเสดงออกมา)
“ลำบากชั้นจริงๆห้าววว~ ชั้นจะไม่ถามนายหรอกนายหรอกนะว่าทำไมถึงกลับมาจวนจะเช้าขนาดนี้ เเค่ไข่เจียวนะไม่มีเเรงเเล้ว
” เมื่อตื่นขึ้นมาเรียวอุคก็บ่นเล็กน้อย เพราะความที่รู้ว่าเพื่อนของตัวเองหิวจัดจนซัดสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่เข้าไปได้ทั้งตัวจึงพยามรีบย้ายสารร่างที่เพิ่งจะได้นอนไปไม่กี่ชั่วโมงลงไปทำอาหาร
“อืม อะไรก็ได้ ไส้จะขาดกระเพาะจะย่อยตัวเองเเล้ว~” คยูที่ยืนมองอุคกำลังเดินลงไปไม่เรื่องมากมีอะไรให้กินก็ดีมากเกินพอเเล้ว
เวลาผ่านไปซักพักคยูที่หิวโซนั่งมองไปรอบๆในขณะที่อุคยืนทำกับไข่เขียวอย่างปราณีตจนเสร็จเข้าก็ได้หยิบซอสมะเขือเทศขึ้นมา
“นายเขียนอะไรน่ะ” คยูที่นั่งอยู่ได้ถามขึ้นด้วยความสงสัยเเละตาลายมากในเวลาเดียวกัน
“ก็คำว่าอร่อยไง ห้าวววว~ เป็นการทำให้ไข่เจียวธรรมดากลายเป็นไข่เจียวไม่ธรรมดา กินซะชั้นจะขึ้นไปนอนต่อละยังมีเวลาอีกนิดนึง จานน่ะวางไว้ก็ได้เดี๋ยวล้างให้ ห้าวว~” เรียวอุคคงจะนึกว่าตัวเองทำอาหารให้หลานชายอยู่เลยตอบกลับไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มเเย้ม เเต่พอได้สติก็กลับเข้าโหมดปกติ เเล้วเดินขึ้นไปนอน
“
นั่งเป็นเพื่อนหน่อยดิ
คือ คือ คือ ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษเเค่เเบบไม่ค่อยอยากอยู่คนเดียวน่ะ” คยูที่นั่งมองคำว่าอร่อยอยู่นั้นก็ได้หันไปเรียกเรียวอุคที่กำลังจะเดินขึ้นไปนอนต่อให้มานั่งเป็นเพื่อนอย่างไร้สาเหตุ(หรือเเค่เหงาเเล้วอยากให้มีคนนั่งด้วย?)
“คยูชั้นง่วง~~~” เสียงเพื่อนตัวเล็กตอบหลับมาอย่างเบาเค้าเเทบจะหลับต่อคาบันไดเเล้ว
“นั่งๆๆ เเปปเดียวๆ เดี๋ยวก็กินเสร็จเเล้วฟุบหลับไปก่อนก็ได้” คยูที่ไม่อยากนั่งอยู่ในบ้านหลังใหญ่คนเดียวก็ได้เดินจูงอุคให้มานั่งในฝั่งตรงข้ามเเล้วตัวเองก็กินข้าวต่อไป
“ตามนั้น
.” หมดเรี่ยวเเรงที่จะปฏิเสธทุกสิ่งทุกอย่างเรียวอุคได้ฟุบลงนอนตรงหน้าคยูที่กินข้าวอยู่จนถึงหกโมงเช้า
“
.อุค เรียวอุค เรียวอุค
.ถ้านายไม่ตื่นชั้นจะไปเเล้วนะ” เสียงของคยูที่กินข้าวอาบน้ำเสร็จตั้งเเต่เมื่อไหร่ไม่รู้เดินมาเรียกเพื่อที่จะรีบไปร้านเเต่เช้า
“ตื่นเเล้ว
รอเเปปนะเดี๋ยวไปเเปรงฟันก่อน
” เมื่อเรียวอุคได้ยินเช่นนั้นก็รีบเดินขึ้นไปเเปรงฟันล้างหน้าเปลี่ยนชุดเเล้วรีบเดินออกมาจากบ้านส่วนคยูก็มัวเเต่ตรวจมิตเตอร์ว่าจะทำยังไงถึงจะโกงมิตเตอร์ได้
“เร็วๆหน่อยก็ดีนะ” เสียงเรียวอุคสะกิดคยูที่กำลังเพ่งเล็งมิตเตอร์น้ำอย่างไม่มีทีถ้าว่าจะหยุด
ในขณะที่ทั้งสองกำลังเดินไปที่ร้าน
“ทำไมนายเดินเลี้ยวไปเลี้ยวมาอะไรขนาดนั้น ข้างหน้าไม่ได้มีหลุมหรือคนซักหน่อย
สงสัยนอนไม่พอนะนายน่ะ” คยูหันไปถามอุคด้วยความสงสัยเพราะชายร่างเล็กเดินขวาทีซ้ายทีนั้นมันทำให้เค้าเวียนหัว
“เอิ่ม
ไม่มีอะไรๆ คือก็เเค่อยากเดินเเบบนี้เฉยๆ นายก็เข้าใจคนไม่ค่อยได้ออกจากบ้านหน่อยซิ” อุคตอบมาเเค่นั้นเเต่เหตุผลจริงๆมันคืออะไรนั้นไม่มีใครทราบนอกจากตัวอุคเอง
“ถึงเเล้วด้วยความรวดเร็ว ร้านกาเเฟที่มีบาริสต้าที่หน้าตาดีที่สุดในย่านนี้!!” คยูภูมิใจนำเสนอร้านกาเเฟที่อยู่ในมุมโคตรอับโชคเเละสุดจะไม่รับทรัพย์ของเค้าอย่างหน้าชื่นตาบานพร้อมกับพรีเซนตัวเอง
“เเละโง่ที่สุดที่เช่าที่นี่
.” คำสั้นๆของเรียวอุคนั้นเสียบเเทงเข้าที่ม้ามของคยูอย่างเเรง
“นายก็เข้าใจคนงบน้อยบ้างสิ!!!” คยูตอบกลับมาพร้อมกับค่อยๆหากุญเเจร้าน
“ครับๆ จะพยามทำความเข้าใจเปิดร้านซิ ยืนรออะไร” พยามเข้าใจ
มันคงจะยากไปซักนิดถ้าจะให้เข้าใจกับความจนเพราะสำหรับอุคนั้นเค้าได้ทุกอย่างจนตัวเค้าไม่อยากได้อะไรอีกเเล้วเเต่เค้าก็ยังจะมีความพยามที่จะมาเข้าใจ
ในเวลาเดียวกันเค้าก็เป็นคนที่ไม่ชอบรออะไรไม่ว่าสิ่งนั้นจะไม่ถึงห้านาทีก็ตาม
“ไม่รู้สิ เเค่รู้สึกเหมือนคนที่เดินผ่านไปมาจ้องชั้นเเปลกๆ นายไม่รู้สึกเลยหรอ” คยูหันไปมองผู้คนเเถวนั้นที่มองเเละจ้องเค้าด้วยความงงงวยเเละยิ้มๆเล็กน้อยก่อนที่จะหันกลับไปเพื่อไม่ให้คยูรู้ตัวเเต่คยูที่เป็นคนมั่นใจในตัวเองจนล้นก็มีความกังวลที่ใหญ่หลวงเกี่ยวกับหน้าตาเเละรูปร่างของตนเอง
“มะ ไม่นี่นายน่ะคิดมากจากการนอนไม่พอนะ ดูสิๆขอบตาดำคล้ำเชียวไว้ว่างๆจะไปซื้อครีมให้ละกัน เข้าไปในร้านกันเถอะ” คำพูดเเทงม้ามครั้งที่สองสงสัยอุคคงจะลืมว่าเพื่อนของเค้าเซนซิทีฟขนาดไหนเรื่องใบหน้าตอนนั้นคยูเเทบจะเอามีดปักอกเเล้วรีบๆตายๆไปเลยด้วยความกังวล ทั้งคู่เงียบไปครู่หนึ่งจนอุคได้เดินดูรอบๆร้านจนทั่ว
“ร้านนายก็โอเคนะเเต่
.รกไปไม่หน่อยอ่ะเฮ้อๆ~”
“พอดีพนักงานทำความสะอาดเค้าเพิ่งออกไปน่ะบอกว่าอยู่ที่นี่เเล้วเจอเเต่อะไรเเปลกๆเเล้วคนอื่นก็ค่อยๆออกตามไปตอนนี้ก็เลยเหลือเเค่ชั้นกันสาวสก็อยล้างจานเดี๋ยวไว้เค้ามาเเล้วเดี๋ยวจะเเนะนำให้รู้จัก” คยูพูดเเล้วก็รู้สึกขนลุกไปด้วยเเต่อุคนี่ชิวซะยิ่งกว่าอะไร
“ไม่ดีกว่านะ ไม่เป็นไร เกรงใจอย่างเเรง เเค่ช่วยนายเก็บกวาดร้านก็จะกลับเเล้ว”
“งั้นหรอๆขอบใจมาก”
หลังจากจบการสนทนาเรียวอุคก็เริ่มต้นทำความสะอาดอย่างจริงจังเเละมีความสุข เน้นจริงจัง
“วิชาปัดฝุ่นนฝุ่นสลายย๊ากกก!!.....ไม้ถูพื้นเริงระบำ
ของทุกอย่างเข้าที่ในพริบตา...เสร็จเเล้วครับ~” (<<<ท่าจะบ้า)
“อย่าบอกนะอยู่บ้านนายก็อารมณ์นี้น่ะ
.ชั้นเริ่มกลัวเเล้ว”
“ก็ประมาณนี้เเหละงั้นชั้นกลับบ้านก่อนนะ~”
สงสัยงานนี้จัดเเบบฟูลออพชั่น ฟูลพาวเว่อร์ ท่าทางเเละลีลาของเค้าเด็ดจริงๆขนาดคยูที่เช็ดเเก้วอยู่ถึงกับค้างอารมณ์ประมาณว่าชั้นอยู่กับเพื่อนอย่างนี้ไปได้ยังไง!!! เเล้วอุคก็กลับบ้านไป
“ตามสบายเลย~ มันจะตลกเกินไปเเล้ว 55 ท่าปัดฝุ่นฝฝุ่นสลายย๊ากกก” คยูที่ทำท่าล้อเลียนอุคอยู่คนเดียวในร้านพนักงานสก็อยสาวก็ได้เดินเข้ามาเเล้วพูดด้วยเสียงเรียบๆที่ทำให้คยูหมดความมั่นใจที่มีอยู่ไม่ถึงสิบตอนนี้ถึงกับติดลบ
“พี่คะ พี่ท่าจะเครียดจัดหนูไม่กวนพี่หรอกนะจะไม่บอกใครด้วย เต็มที่เลยไหนๆก็ไม่ค่อยจะมีลูกค้าอยู่เเล้ว”
“เปล่าๆไม่ได้อะไร น่าเสียดายๆ ถ้าเธอมาเร็วกว่านี้อีกนิดนึงนะ”
“มีอะไรเกิดขึ้นอ่ะ” เธอหันมาถามด้วยสายตาเย็นชาสายตาที่คยูไม่ชอบซะเหลือเกินเค้าเลยตอบเเล้วยิ้มเฝื่อนๆกลับไป
“ไม่ได้สำคัญมากหรอกเเค่จะเเนะนำเพื่อนชั้นให้รู้จักน่ะ เมื่อกี้ก็น่าจะเดินสวนกันนะ ผู้ชายตัวเล็กๆประมาณนี้
” คยูพยามอธิบายลักษณะของเพื่อนตัวเล็กอย่างละเอียดจะสาวสก็อยจะหลับคาอ่างล้างจาน
“ไม่เห็นอ่ะ บนถนนมีเเค่หนูคนเดียวเนี่ย” ไม่รู้ว่าเพราะความสูงหรือความไม่ใส่ใจ หรือปัจจัยอื่นๆที่ทำให้เธอไม่เห็นอุคที่เพิ่งจะเดินสวนออกไปไม่ถึงนาที
“สงสัยเค้าคงเเวะที่อื่นก่อน” คยูคิดในเเง่ดีตอบกลับไปจนถึงเวลาเย็นเค้าก็ได้กลับบ้าน คงเพราะร้านที่สะอาดเเละอะไรอีกหลายอย่างทำให้วันนี้มีลูกค้าเริ่มเข้ามาในร้าสี่ถึงห้าคนน่าดีใจกับคยูที่มีลูกค้าเข้ามาในร้านอย่างน่าอัศจรรย์
“กลับบ้านมาเเล้วครับบบ”
“คยูกลับมาเเล้วหรอ วันนี้กลับเร็วดีนะ มาซิมาเล่นด้วยกันชั้นเพิ่งค้นเจอตอนเก็บห้อง” เรียวอุคที่ในมือถือจอยสติ๊ก ตาที่จ้องไปที่จอ เค้าไม่ได้หันกลับมาพูดกับคยูด้วยซ้ำจนคยูต้องเดินไปหน้าทีวีที่เพื่อนของเค้ากำลังเล่นเกมอยู่อย่างเมามัน
“นาย
เล่นเกมมาต้้ังเเต่เมื่อไหร่
” คยูค่อยๆถามเเต่ในหัวของเค้าเริ่มคำนวนค่าไฟเเล้ว
“อืม
ก็ประมาณเที่ยงมั้ง” เรียวอุคพยามเอียงตัวเพื่อจะให้เห็นหน้าจอให้ได้มากที่สุดเเต่คยูก็พยามกระเถิบตาม
“นี่มันบ่ายสามเเล้วนะ เลิกเล่นก่อนเดี๋ยวสายตาเสีย” คยูพยามชักจูงเพื่อนด้วยน้ำเสียงนุ่มๆเเต่ในใจ “ค่าไฟ!!!”
“
มาเล่นด้วยกันก่อนอีกไม่กี่ด่านก็จะจบเเล้วเนี่ย”
“นายจะกดเซฟดีๆหรือจะให้ชั้นดึงปลั๊กออก ชั้นให้นายเลือกนะ”
“
ยะ อย่าเพิ่งดึงนะเดี๋ยวขอเซฟก่อน
เซฟเเล้วๆ นายไปอารมณ์เสียอะไรมาเนี่ย”
เพราะไม่รู้จะทำอย่างไรคยูเลยตัดสิ้นใจยื่นข้อเสนอที่ดูโหดร้ายสำหรับอุคที่ดูเหมือนเป็นเด็กน้อยกำลังถูกคุณเเม่คยูดุ เค้าเลยไม่มีทางเลือกคือเซฟเกมไว้อย่างรวดเร็วเเละนั่งเรียบร้อย
“เปล่าหรอกก็เเค่ขู่นายไปงั้นเเหละ
จริงๆเเล้วชั้นไม่อยากให้นายใช้ไฟเยอะ
ค่าไฟมันเเพงหรือถ้าจะเล่นก็รอชั้นก่อนเล่นสองคนพร้อมกับประหยัดกว่า”
“ห๊ะ
ก็อยู่บ้านไม่มีอะไรทำเเล้วอ่ะ ค่าไฟไม่เท่าไหร่หรอกน่า อ่ะนี่ไหนๆนายก็อยู่เเล้วเล่นด้วยกันเลยซิ”
เมื่อรู้อย่างนี้อุคก็รู้สึกดีใจเล็กน้อยเเละก็หวังว่าจะมีเพื่อนมาเล่นด้วยเลยส่งสายตาพิฆาตไปหาคยูอย่างเยือกเย็น(?)
“ขออาบน้ำกินข้าวก่อนได้มั้ย ไปๆนายไปทำหน้าที่พ่อบ้านที่ดีทำกับข้าว”
“สัญญามาก่อนว่าถ้าทำให้เเล้วจะเล่นเกมด้วยกัน
สัญญาซิ”
“ยังจะต่อรอง
เกี่ยวก้องสัญญาเนี่ยนะเเมนซะไม่มี
สัญญาก็สัญญา”
หลังจากที่ทั้งสองสัญญากันไว้จนทำทุกอย่างเสร็จจนมานั่งอยู่หน้าทีวีในมือถือจอยสติ๊กสีม่วงเขียวคยูกะว่าจะเล่นเเค่ไม่นานก็จะไปนอน เเต่คืนนั้นทั้งสองนั่งตะลุยด่านอย่างไม่มีใครห้ามได้จนถึงตีสาม
ตอนนี้เขียนอะไรก็ไม่รู้งงมากๆ(งงตัวเอง)ขออภัยในความช้านะคะ เม้นได้นะคะไรท์เตอร์ไม่กัด 555
>
ความคิดเห็น