คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : chapter4 "เพื่อน"
หลังจากที่บอมออกจากห้องไป วอนก็ไม่ลังเลรีบตามออกไปทันที วอนเร่งฝีเท้าจนตามทันก่อนที่จะขว้าแขนของบอมไว้แล้วดึงให้หันกลับมา
“นายร้องไห้
....”ออกแรงดึงจนร่างเล็กๆทั้งร่างเซกลับมาเพราะว่าคิบอมไม่ได้ตั้งตัวจึงทำให้ไม่สามารถเช็ดน้ำตาได้ทัน ทำให้ร่างสูงเห็นน้ำตาที่หลั่งออกมาพอดี
“ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณแค่ตาฝาดไปเอง” รีบปฏิเสธออกมาพร้อมกับปัดมือใหญ่ที่เอื้อมมาจะเช็ดน้ำตาให้ตนเอง เพราะก่อนที่จะกลับมาที่นี่ก็ตั้งใจไว้แล้วว่าไม่อยากจะให้คนๆนี้ได้เห็นน้ำตาของตัวเองอีก
“ชั้นไม่ได้ตาฝาดนะ นายร้องไห้เพราะเรื่องนั้นใช่มั้ย ให้โอกาสชั้นอธิบายหน่อยได้รึเปล่า”ว่าออกมาพร้อมกับเอามือที่ร่างเล็กปัดออกเมื่อกี้มาจับที่ข้อมือเล็ก แล้วค่อยๆก้าวเข้าไปหาช้าๆ
มือใหญ่จับแขนเล็กเอาไว้แน่น ดวงตาคมจ้องลึกเข้าไปในดวงตาเล็กที่เปียกชื้นและแดงก่ำ แล้วก็กวาดสายตาไปมองตั้งแต่หัวจรดเท้าของร่างเล็ก คิบอมยังตัวเล็กเหมือนเดิม แต่ก็ดูมีเนื้อมีหนังมากขึ้น(อ้วน) จากเมื่อก่อนที่ตัวเล็กผอมแห้งติดกระดูก ทำให้ใบหน้าเล็กๆนั้นดูมีน้ำมีนวล แก้มที่ป่องอยู่แล้วก็ขึ้นสีชมพูจางๆ ผมที่เคยดำขลับก็เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ เข้ากับใบหน้าหวานๆของร่างเล็ก ไม่ได้เจอกันเป็นเวลานานคิบอมน่ารักขึ้นมาก แต่เสียดายที่ตั้งแต่เจอกันคิบอมก็ไม่ค่อยมีรอยยิ้ม จากเมื่อก่อนที่เป็นคนยิ้มเก่งขี้อ้อน
“โอเคๆ ชั้นร้องไห้ แล้วชั้นก็คือคิบอมคนนั้น คนที่ถูกนายทิ้งเมื่อ9ปีก่อนไงละ”พ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ก่อนที่จะตัดสินใจบอกความจริงอออกมา เพราะว่าร่างสูงนั้นก็ดูอยากจะพูดเกี่ยวกับเรื่องเมื่อ9ปีก่อนเหมือนกัน เลยอยากจะลองฟังดูเพื่อที่จะใช้ประโยชน์จากเรื่องที่ซีวอนจะพูด เพื่อที่จะได้วางแผนแก้แค้นได้ง่ายขึ้น
“นาย
..เป็นนายจริงๆด้วย ชั้นขอโทษ ชั้นขอโทษ นายยกโทษให้ชั้นนะ เรากลับมาคบกันเหมือนเดิมเถอะ ”ซีวอนนั้นพูดออกมาด้วยความรู้สึกผิดจริงๆ เพราะตั้งแต่ที่คิบอมไป เค้าก็อยู่อย่างไม่เคยมีความสุขอีกเลย แต่เพื่ออนาคตที่ดีของคนที่เค้ารักจึงต้องยอมทำมันลงไป
“ไม่เป็นไรหรอกชั้นลืมๆมันไปแล้วหละ” ยิ้มตอบกลับไป ลืมงั้นหรอ ไม่มีทาง แต่การที่จะทำให้นายเจ็บปวดชั้นก็ต้องหลอกนายให้เชื่อใจชั้นมากๆซะก่อน เพราะผลลัพธ์ที่ได้ออกมามันจะได้ ได้ผลแบบแรงๆยังไงละ
“แล้วทำไมนายต้องแกล้งทำเป็นจำชั้นไม่ได้ด้วยละ”
“ก็ชั้นแค่กลัวลืมเรื่องตอนนั้นไม่ได้ ไม่อยากให้นายพูดถึงมันอีก ก็เลยแกล้งทำเป็นไม่รู้จักนาย ไม่มีอะไรหรอก”ปั้นหน้ายิ้มให้กับร่างสูง ทั้งๆที่เสียงร้องไห้มันดังก้องอยู่ในใจแต่ก็ไม่สามารถที่จะแสดงออกไปได้
“เรายังกลับไปคบกันเหมือนเดิมได้รึเปล่า”ยิ้มออกมาพร้อมกับถามคำถามที่คิบอมกำลังอยากได้ยินมากที่สุดเมื่อ9ปีก่อน แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว
“เราคบกันเป็นเพื่อนเหมือนเดิมเถอะนะ”
“กลับมาคบกันไม่ได้หรอ”เอ่ยขึ้น พร้อมกับเอาปลายจมูกไปคลอเคลีย อยู่กับแก้มป่องๆ ที่ไม่ได้สัมผัสมานานอย่างโหยหา
“ฝันไปเถอะ อย่างนายชั้นไม่มีวันยกโทษให้หรอก” ว่าขึ้นก่อนจะผลักอกของร่างสูงออกไปด้วยแรงทั้งหมดที่มี ที่ทำไปทั้งหมดน่ะ ก็แค่แกล้งทำ แต่เรื่องกลับมาคบน่ะได้กลับมาคบแน่ แต่ไม่ได้มีความสุขอย่างที่นายต้องการหรอกนะ
“ตกลง จะเอายังไงกันละวะ โกรธหรือไม่ได้โกรธกันแน่เนี่ย”ยืนมองตามหลังร่างเล็กไปอย่างงงๆ แต่ก็ดีแล้วหละทีคิบอมยอมรับแล้ว จากนี้ก็ค่อยง้อไปเรื่อยๆก็แล้วกัน สักวันก็ต้องใจอ่อนเอง แต่พ่อกับแม่ของคิบอมได้เล่าเรื่องนั้นให้คิบอมฟังรึยังนะ
ตอนเช้าอันสดใสเเละเงียบสงบ นกร้องจิ๊บๆอยู่ข้างหน้าต่าง ต๊อก ต๊อก ต๊อก ต๊อก มีเสียงรองเท้าส้นสูงของหญิงสาวที่เดินออกจากบ้านไป
เวลาผ่านไปสามสิบนาทีโดยประมาณ
กึ๊กๆๆๆๆ เสียงวิ่งลงบันไดของบาลิสต้าขี้เซาใส่เเค่บ็อกเซอร์สีน้ำตาลบางๆวิ่งลงมาอย่างเร่งรีบ จนสะดุดบันไดขั้นสุดท้ายกลิ้งคลุ๊กๆๆๆ เหมือนลูกบิลเลียตไปที่ห้องครัว(?)
“อุคนายเห็นผู้หญิงคนนั้นมั้ยอ่ะ เมื่อกี้ยังอยู่เลย” คยูเงยหน้าขึ้นถาม ผมที่พันยุ่งบวกกับเศษผงที่ติดอยู่ที่ปลายผม หน้าที่เปื้อนฝุ่นเป็นรอยดำจากการกลิ้งตกลงมา สภาพของเค้าไม่ต่างอะไรกับผ้าเช็ดเท้า
“ไปเเล้วหละ
.ก่อนนายตื่นประมาณครึ่งชั่วโมงถ้าจำไม่ผิด” เรียวอุคที่ล้างเครื่องครัวหันมาตอบ เเต่มือที่ถือฟองน้ำเป็ดสีเหลืองของเค้าก็ยังคงล้างเครื่องครัวต่อไป
“เฮ้อ งั้นหรอ นายคิดว่าไงเธออึ๋มมากเลยใช่มั้ยล่ะ อ่า~~~” คยูยืนปัดฝุ่นที่ติดตามร่างกายไปมาเเล้วพูดขึ้นในอารมณ์เพ้อเบลอฝัน ในหัวคิดเเต่เรื่องลามก18+ ในช่วงเวลาหนึ่งเเววตาหื่นกระหายคยูก็ได้ปรากฎขึ้น
“ก็ผู้หญิงศัลยกรรมทำนมทั่วไป ไม่เห็นจะมีอะไรพิเศษ หรือว่านายชอบของที่ทำมามากกว่าล่ะ” ชายที่สวมผ้ากันเปื้อนสีเเหว๋วกับที่คาดผมพูดขึ้นโดยที่ไม่ได้หันมา เพราะเรื่องที่คุยนั้นไม่ได้มีอะไรที่น่าสนใจสำหรับเค้า
“นั่นน่ะของเเท้เเม่ให้มานะเฮ้ย!!! ขนาดจับ ขยำเเล้วยังไม่เป็นไรเลย ถ้าเป็นอึ๋มที่ทำมาน่ะนะ เธอก็ต้องไม่รู้สึกอะไรเวลาที่ชั้นจับซิ เเต่ทั้งเสียง ลีลา เเละร่างกายของเธอเมื่อคืนมันสุดยอด~ ชั้นเเทบจะละลายคาหน้าอกเธอเเน่ะ” คยูได้ยินอย่างนั้นก็พยามเถียงสุดใจ ไม่มีทางที่หน้าอกที่นุ่มเด้งดึ๋งเหมือนพุดดิ้งของเธอนั้นจะเป็นของปลอม ไม่มีทางเป็นอย่างนั้นเเน่
“มาเป็นลูกขนาดนั้นตอนเเรกชั้นละนึกว่าเมล่อน เดี๋ยวนี้นะการเเพทย์มันก้าวไปไกลกว่าที่นายรู้ เเค่จ่ายเเพงขึ้น(ไม่หน่อย) นายก็จะได้หน้าอกที่นุ่มนิ่มเหมือนพุดดิ้ง เเล้วเรื่องความรู้สึดซี๊ดซ๊าดนั่นน่ะนะ มีให้คิดอยู่สองประเด็น หนึ่งหมอที่ทำน่ะฝีมือระดับเซียน สองเธอทำไปเพื่อไม่ให้นายจับได้ ตอนเธอออกไปชั้นได้ยินเธอบ่นๆอยู่ว่า “เบี้ยวเลยอ่า~ เเต่ไม่เป็นไรไปได้โอกาสไปเสริมเพิ่มเเล้ว~” อีกอย่างเมื่อคืนนายก็เมาเละเทะเลย เบลอไปบ้างก็ไม่เเปลก” เมื่อเช็ดเครื่องครัวเสร็จเรียวอุคได้หันมาเเล้วค่อยๆอธิบายให้เพื่อนร่วมชะตากรรมฟัง พร้อมเเสดงท่าทางเเละเสียงประกอบให้เหมือนกับผู้หญิงคนนั้นมากที่สุด ถึงเเม้เพื่อนร่วมชะตากรรมนั้นจะไม่ค่อยรับรู้อะไรก็เถอะ (*ยังไม่ค่อยสร่างเมา)
“นี่กูฟันของปลอมหรอเนี่ยไม่น่าเลย เดี๋ยวจะเปลี่ยนชุดเเล้วนายออกไปก่อน”
“ถ้านายยังมีสติเเละสมอง นี่มันห้องครัว จริงๆอาบน้ำซักหน่อยก็ดีนะ ลูกค้าที่ไม่มีก็ยิ่งไม่มีเข้าไปใหญ่”
ถึงจะยังไม่สร่างเมานักเเต่เค้าก็ยังพอจับใจความได้ว่า ของปลอม!!! ด้วยความไม่สบอารมณ์คยูจึงอยากจะรีบเปลี่ยนชุดเเล้วออกไปสงบสติอารมณ์ที่ร้าน เเล้วไล่อุคออกไปจากห้องเหมือนเคย เเต่เค้าคงจะลืมไปว่าตัวเองอยู่ในห้องครัว
“อาบก็อาบ ทำกับข้าวให้กินด้วย” คยูพูดด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายก่อนที่จะออกจากห้องครัวเเล้วเดินขึ้นบันไดไป
“กินไรล่ะ” อุคที่ไม่รู้ว่าคยูจะกินอะไร อีกอย่างตัวเองก็ไม่รู้เเล้วว่าจะทำอะไรดี เลยวิ่งตามอยู่ที่บันไดเเล้วตะโกนขึ้นไป ในตอนนั้นคยูได้กำลังจะเปิดประตูห้องน้ำพอดี
“อะไรก็ได้ง่ายๆเร็วๆ” คยูได้ตอบหลับมาด้วยปัญหาโลกเเตก (สิ้นคิดซะไม่มีอ่ะ)
“ช่วยได้มาก
เดี๋ยวทำให้”
หลังจากที่ได้ยินคำตอบที่ช่วยอะไรไม่ค่อยจะได้ เรียวอุคก็เริ่มต้นทำอาหารอย่างจริงจังในห้องครัว เวลาผ่านไปซักพักใหญ่คยูก็ยังไม่ลงมา
“นี่~ อาหารยังไม่เสร็จอีกหรอ” เสียงของคยูดังลงมาจากข้างบนตะโกนลงมาถามถึงอาหารเช้าของเค้าเอง
“เสร็จนานละ นายอาบน้ำเป็นชาติ ไข่ดาว ไส้กรอก เเฮม ขนมปัง กาเเฟ ง่ายๆเร็วตามสั่ง” เรียวอุคที่นั่งหลับอยู่ที่โต๊ะสะดุ้งตื่นเเล้วะโกนตอบกลับไป
“งั้นก็โทษที กินเลยนะครับ”
“คยูนายทำอะไร” ชายที่คาดผมนั่งมองเพื่อนร่วมชะตากรรมอยู่นานด้วยสายตา “มันทำอะไรของมันวะ” เเต่เนื่องจากยังไม่ค่อยสนิทก็เลยต้องใช้ภาษาปกติออกไป(?)
“เห็นๆอยู่ว่าเปิดฝาเเยม
..เปิดซิโว้ยยยยยย เเมร่งกะจะไม่ให้กินเลยใช่มั้ยห๊ะ”
“เอามานี่มา
.เเกร๊กๆ อ่ะได้ละๆไม่ต้องออกเเรงบ้าพลังเหมือนอย่างนายด้วย”
ชายร่างสูงที่พยามนั่งบิดฝาเเยมยี่ห้อนิรนามที่เพิ่งซื้อมาใหม่อย่างยากลำบาก ด้วยความเวทนาอุคจึงคว้าขวดเเยมเเล้วใช้ด้ามช้อนกาเเฟค่อยๆงัดเบาๆตรงช่องที่เปิดพอให้อากาศเข้าไปภายใน เสร็จเเล้วก็ยื่นให้คยูที่นั้งมองด้วยความมึนงง ในบ้านหลังใหญ่ที่มีเเค่สองชายหนุ่มนั่งอยู่ในห้องครัวด้วยความเงียบ
“อืมมม งั้นเย็นนี้จะกินอะไรจะทำไว้รอ” เรียวอุคได้เปิดประเด็นถามถึงเรื่องอาหารเย็น
“ข้าวเย็น กินอะไรดีนะ
.นี่นายยังจะอยู่บ้านนี้อีกหรอเนี่ย!!!” ในตอนเเรกคยูก็ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไรเเต่อยู่ๆคยูก็ได้มองออกไปเเล้วเห็นบุรษไปรษณีหย่อนใบค่าไฟลงที่บ้านตรงข้าม ก็เลยนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองต้องจ่ายค่านู่นนี่มากมาย เเล้วถ้าอยู่กับคนอื่นอีกตัวเองก็ต้องจ่ายค่าไปเป็นสองเท่าทั้งที่ตัวเองก็ไม่ค่อยจะมีรายได้
จากห้องครัวที่เงียบสงัดกลายเป็นสนามรบทางอารมณ์ไปชั่วขณะ ด้วยความไม่เข้าใจเเละอารมณ์ที่พุ่งจนถึงขีดสุดเมื่อทั้งสองได้เริ่มมีปากเสียงกันอย่างหนักโดยที่ไม่มีใครเข้ามาห้าม รอเพียงเเค่เวลาที่ใครคนใดคนหนึ่งจะเดินออกไปเวลานั้นเรื่องทั้งหมดคงจะจบลงได้
.
“ให้ชั้นอยู่อีกซักคนมันจะเป็นไรไปล่ะ ชั้นทำงานเเลกที่อยู่นะไม่ได้มาอยู่ฟรีๆ ทำอาหาร ซักผ้า รีดผ้า ล้างจาน ตัดต้นไม้ จริงๆนายควรจะดีใจนะ ที่มีเพื่อนที่ทำให้ได้ทุกอย่างโดยที่ไม่ขออะไรมากก็เเค่ที่ซุกหัวนอนเเล้วใช้ชีวิตที่มีอยู่ผ่านไปวันๆ เเล้วไม่คิดบ้างหรอว่าถ้าชั้นไปอยู่ที่อื่นชั้นจะเป็นยังไง” เเค่คำขอเล็กน้อยจากคนๆถึงคนอีกคนนึงที่ไม่เคยนึกถึงคนอื่น เรียวอุคพยามที่จะขอให้ตัวเองได้อยู่ในบ้านหลังนี้ต่อไปถึงมันจะมีเปอร์เซ็นอันน้อยนิดที่จะทำให้เขาได้อยู่ต่อ
“ใครจะไปใส่ใจคนอย่างนายกันล่ะ อีกอย่างชั้นกับนายเป็นเพื่อนกันตั้งเเต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ เเล้วเพื่อนน่ะชั้นไม่ได้ต้องการมันเลยด้วยซ้ำ!! อยู่ดีๆก็โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ นายมันก็เหมือนคนอื่นที่เข้ามาในชีวิตชั้นเเล้วก็เดินผ่านไปน่ะ ” คำตอบที่ไร้ซึ่งเยื่อใยของคยูพูดออกมาโดยไม่ได้ผ่านการกลั่นกรองมาจากที่ได้ทั้งสิ้น
“นายมันจะโหดร้ายใจดำเกินไปเเล้ว!!! ถามจริงๆคนอย่างนายน่ะ เคยมีเพื่อนจริงๆกับเค้าบ้างรึเปล่าห๊ะ เเล้วก็นะคนที่ผ่านมาเเล้วก็ผ่านไปน่ะมันคือนายต่างหาก นายต่างหากที่อยู่ดีๆก็มาเมืองนี้ เช่าบ้านหลังนี้ วันนึงนายก็ต้องกลับไปกลับไปยังที่ๆนายมา ส่วนชั้นเกิดที่นี่ ใช้ชีวิตตลอดยี่สิบกว่าปีอยู่ที่นี่ เเล้วก็จะอยู่ไปจนวันสุดท้ายของชีวิต นายยังจะมาพูดว่าชั้นผ่านมาเเล้วก็ผ่านไปในชีวิตนายได้อีกหรอ”
“เพื่อน
ครั้งสุดท้ายที่ชั้นมีเพื่อนมันผ่านมาเท่าไหร่เเล้วเนี่ย ไม่ใช่เเค่เพื่อนซิครอบครัวก็ด้วย
” เค้าเริ่มนึกย้อนอดีตที่ไม่นานนัก เเต่มันดูเหมือนจะทำให้เค้าเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
“
.” เรียวอุคไม่ได้ตอบอะไรเเล้วยืนฟังต่อไปว่าคยูจะพูดอะไร
“อยู่ตัวคนเดียว เที่ยวคนเดียว ไปไหนมาไหนคนเดียว ชั้นอยู่กับมันจนกลายเป็นความชินไปเเล้วหละ หนีจากที่ๆเคยอยู่ หนีจากความผิดพลาดในอดีตที่ยากจะลืม นอกจากที่นี่ชั้นก็ไม่มีที่ไปเเล้ว
”
อดีต เพื่อน ครอบครัว ความผิดพลาด การอยู่ตัวคนเดียว มันคืออะไร อยู่ดีๆก็พูดเรื่องที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสนทนา หรือจริงๆเเล้วเค้าเเค่อยากจะระบายความเครียดที่ตัวเองเคยผ่านมาให้ใครซักคนฟังเท่านั้น การที่เค้าไม่อยากอยู่ร่วมกับใคร คงเป็นเพราะในอดีตเค้าได้สูญเสียคนสำคัญไปโดยสาเหตุบางอย่าง เเล้วเค้าคือคนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังต้องจมอยู่กับความทุกข์ ความโดดเดียว เเละความผิดพลาด ถ้าการรู้จักกับใครซักคนเเล้วมันทำให้เจ็บปวดขนาดนั้น เค้าก็ของเลือกที่จะอยู่ตัวคนเดียวซะเลยจะดีกว่า
“มีคนเคยพูดไว้ว่า
ไม่มีใครหรอกที่จะเข้าใจความรู้สึกของคนอีกคนได้ดีเท่าคนๆนั้น เเต่ด้วยสถานการณ์ก็ไม่มีใครจะเข้าใจเรามากกว่าคนที่เป็นเเบบเดียวกับเรา
เอาไว้นายคิดได้เเล้วชั้นจะกลับมา” เรียวอุคได้ทิ้งท้ายไว้ด้วยประโยคสั้นๆก่อนจะเดินออกไป
เมื่ออุคเดินออกจากบ้านไปเเละปล่อยให้คยูนั่งอยู่ในบ้านหลังใหญ่เพียงลำพัง เเสงเเดดอุ่นๆในตอนเก้าโมงสะท้อนอ่างล้างจานเงาวับมาที่หน้าของคยู หนึ่งชั่วโมงต่อมาเมื่อคิดได้ว่าจริงๆเค้าไม่ต้องการอะไรก็เเค่เพื่อนซักคนที่คุยกันได้เหมือนคนในครอบครัว บ้านซักหลังที่ให้กลับมาพักเวลาที่เหนื่อยสายตัวเเทบขาด เขาจึงรีบวิ่งไปทั้งๆที่ไม่ได้ใส่รองเท้า
“เรียวอุค!!! ชั้นคิดได้เเล้ววววว”
เค้าเปิดประตูหน้าบ้าน เเล้วเปิดประตูออกไปเเล้วตะโกนสุดเสียง เรียวอุคที่ยืนอยู่หน้าประตูได้รับกลิ่นปากอัน
เข้าเต็มๆด้วยความรวดเร็วเค้ารีบเอามือบีบจมูกเเล้วพูดกับคยู เเล้วเดินเข้าบ้านไปนั่งที่โซฟา
“ปล่อยให้รอซะนานเมื่อยนะโว้ย เเปรงฟันหน่อยก็ดี นายจะทำชั้นเป็นลม”
“ไหงอยู่เนี่ยอ่ะ” คยูหันกลับเข้ามาในบ้านเเล้วเริ่มถามเรียวอุค
“ออกไม่ได้ประตูล็อก อีกอย่างคิดว่านายคงคิดได้” ชายผ้ากันเปื้อนเเถอย่างไม่เกรงใจใครดูก็รู้ว่าไม่มีที่ไปจนต้องมารอหน้าบ้าน ลองคิดดูซิถ้าคยูไม่ออกมา อุคจะทำยังไง นอนอยู่หน้าบ้าน รดน้ำต้นไม้ กลับไปที่บ้าน หรือกลับไปร.พ.(?)
“งั้นหรอๆ งั้นตามนี้ นายทำงานบ้าน ช้ันทำงานที่ร้านจบ
อย่าใช่ไฟเปลืองนักล่ะ”
“จะพยาม!!! นี่
.พรุ่งนี้เช้าขอไปที่ร้านด้วยได้มั้ย เเค่ตอนเช้า”
หลังจากที่ทั้งสองทำความเข้าใจในการอยู่ใต้ชายคาเดียวกันเเล้วก็ได้ออกไปทำงาน ก่อนที่คยูจะออกจากบ้าน อุคก็ได้ขอไปที่ร้านด้วยในวันพรุ่งนี้ เเล้วจะมีหรอที่เพื่อนจะกล้าปฏิเสธเพื่อนได้ลงคอ
“ก็เอาซิ” พูดจบคยูได้ยิ้มเเล้วเดินออกจากบ้านไป
เพื่อนร่วมชะตากรรมเรียกอย่างนี้ก็คงจะไม่ผิด คู่ตรงข้ามที่ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังใหญ่ อีกคนอยากจะหนีออกมาเเล้วเริ่มต้นใหม่ อีกคนอยากจะกลับไปเเล้วใช้ชีวิตเหมือนเดิม การปรับตัวเข้าหากันของคนสองคนที่ยากซะเกินกว่าคนนอกจะเข้าใจ
..
งงอ่ะดิ 55555 ตอนเเต่งน่ะหมดเวลาไปกับการหาวิธิเปิดขวดเเยมจริงๆนะ <อู้จะกินขนมปังทาเเยมเเล้วเปิดไม่ออก (<<แกมันโง่) พอหาวิธีเปิดได้ก็เห็นว่ามันมีประโยชน์เลยยัดลงฟิคด้วยเลย 55 วิธีที่คยูใช้น่ะไรท์เตอร์ทำมาเเล้วได้ผลจริงๆ> ขออภัยในความล่าช้าตอนห้ากำลังจะไป 555
เจอกันตอนหน้าวันพฤหัสจ้า happy new year (ช้าไปรึเปล่า) รีดเดอร์ทุกคน มีความสุขมากๆนะคะ
.
ความคิดเห็น