คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : chapter2 "สงสัย"
“คิบอมกลับมาแล้วหรอลูก”เมื่อทั้ง3คนหันไปมองตามเสียงเรียกก็พบว่าเป็นคิบอมลูกชายของตนนั่นเอง ทั้งสองจึงเข้าไปกอดลูกชายด้วยความดีใจก่อนที่จะผละออกมาลูบหัวเบาๆอย่างแสนจะคิดถึง
“บอม แม่บอกแล้วใช่มั้ย ว่ามาถึงแล้วให้พ่อกับแม่ไปรับ ไม่ใช่มาเองแบบนี้ เกิดหลงขึ้นมาจะทำยังไงลูกไม่อยู่ตั้ง9ปี ทางมันก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว ลูกนี่ยังดื้อเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ”ซองมินดุขึ้นด้วยความเป็นห่วงเพราะก่อนที่ลูกชายจะกลับมาก็บอกวาให้โทรมาบอกก่อนจะได้ไปรอรับที่สนามบิน แต่เจ้าลูกชายจอมดื้อก็ไม่เคยคิดจะฟังบ้างเลย
“ก็ผมอยากกลับมา เซอร์ไพรส์พ่อกับแม่นี่ครับ”ว่าพร้อมกับเข้าไปกอดพร้อมกบเอาหัวซุกเข้ากับหน้าอกของซองมินอย่างอ้อนๆ
“เอาน่ามิน ลูกก็กลับมาอย่างปลอดภัยแล้วไม่ต้องไปบ่นลุกแล้วละน่า”
“จะไม่ให้บ่นได้ยังไงละ ไม่ยอมฟังกันเลย”
“เอาเป็นว่าผมขอโทษแล้วกันนะครับแม่ ต่อไปนี้จะเชื่อฟังทุกเรื่องเลยครับ”
“ก้ได้ๆ เอาเป็นว่าคราวนี้แม่ยกโทษให้แต่อย่าดื้อแล้วก็ไม่ฟังแม่แบบนี้อีกนะ”
“น้าคิมฮีสวัสดีครับ”หลังจากที่ง้อแม่เสร็จก็หันมาสนใจคิมฮีชอลที่ถูกลืมไปเป็นเวลานาน
“เป็นไงบ้างจ๊ะคิบอม ไม่ได้เจอกันนานน่ารักขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย”ว่าออกมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับคว้าตัวคิบอมเข้ามากอดเบาๆ
“ก่อนไปไม่ยอมบอกน้าเลยนะ น้าจะได้ไปส่งที่สนามบิน แถมยังไปนานตั้ง9ปีน้าละน้อยใจจริงๆ”ว่าออกมาก่อนจะทำท่าทางน้อยใจส่งไปให้
“ก็ผมรีบไปนี่ครับ ก็เลยไม่มีเวลาบอกใครเลย”มันเป็นเพียงเหตุผลที่คิบอมยกขึ้นมาอ้างเท่านั้นแต่ที่ไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับครอบครัวของฮีชอลก็เพราะเหตุผลอย่างอื่นต่างหาก
“ไม่เป็นไรจ๊ะ เย็นนี้ไปทานข้าวบ้านน้ามั้ย ทุกคนคงคิดถึงคิบอมแย่แล้ว ถ้าวอนเค้ารู้ว่าบอมกลับมาคงดีใจมากๆแน่เลย”
“ไม่ดีกว่าครับเพราะวันนี้ผมต้องไปรายงานตัวกับคุณหมอใหญ่ที่โรงพยาบาลในเมือง แล้วอีกอย่างผมขออยู่ทานข้าวกับพ่อแม่ก่อนดีกว่าครับ เอาไว้วันหลังก็แล้วกันนะครับ”
“ก็ได้จ๊ะ ว่างเมื่อไหร่ก็บอกน้านะ น้าจะได้ทำกับข้าวที่เราชอบเอาไว้ให้ งั้นน้าขอตัวไปทวงหนี้ก่อนนะจ๊ะ มีอีกหลายคนเลยเดี๋ยวจะไม่ทัน”
“ครับ”คิบอมบอกลาด้วยรอยยิ้มพร้อมกับจูงมือพาพ่อกับแม่เข้าไปในบ้านที่ไม่ได้กลับมาตั้งนานสักที
“เริ่มเช้าวันใหม่อย่างสดใส เรื่องเมื่อคืนมันเเค่ฝันร้าย เราเเค่ยังไม่ชินที่เองต่างหาก เนาะๆ คิดในเเง่ดี ถึงร้านเเล้วกำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่เชียว เปิดร้านๆ ลูกค้าจงเต็มร้านเพี้ยง~” ในขณะที่คยูพูดทุกคนคงนึกว่าเค้าคงเดินมาชิวๆเหมือนคนเดินริมชายหาดตอนเช้าๆเเต่ไม่ใช่อย่างนั้นเลย คยูวิ่งโกยตีนหมาออกมาจากบ้านอย่างบ้าคลั่ง หลังจากเรื่องหลอนประสาทเมื่อคืน สภาพร่างกายเเย่เเล้วเเต่เมื่อเจอสภาพจิตของเค้าเเย่กว่าอย่างบอกไม่ถูก
หลังจากที่เค้ามาถึงก็เริ่มจัดโต๊ะจัดร้านทุกอย่างเข้าที่เพื่อที่จะเปิดร้านตอน 8 โมง
“เจ้าของร้านสวัสดีครับ/ค่ะ~” พนักงานร้านทุกคนพร้อมใจกันมา7.59น.อย่างพร้อมเพรียงเหมือนนัดกันมาเเต่ก็ถือว่าไม่สายเพราะคยูนัดเข้าที่ร้านเเปดโมงตรง
“เจ้าของร้านโทรมมากวันนี้หยุดปิดร้านก่อนดีมั้ยครับ” ลูกจ้างคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเมาๆ เหมือนเพิ่งจะกินเหล้าเมื่อคืน
“ไม่เป็นไรๆ ยังไหว หน้าตายังโอเคอยู่เห็นมั้ย” คยูฉีกยิ้มสยองส่งให้พนักงานทุกคนเห็น
“พี่ได้ส่องกระจกก่อนออกมั้ยเนี่ย อย่างน้อยก็น่าจะดูเเลหนังหน้าหน่อยนะ นิติพลยังมี ถ้าคิดว่าไม่ดี ก็มียันฮีอันนี้เค้ามีครบ เจอบาลิสต้าอย่างนี้ลูกค้าหนีหมด” สาวสก็อยตะโกนออกมาจากที่ล้างจากหลังร้าน
“งั้นหรอๆ ช่างมันเถอะนะมันเเค่รูปลักษณ์ภายนอก ยังไงก็ตามวันนี้ก็ตั้งใจทำงานนะ วันนี้เป็นวันเปิดร้านวันเเรกหลังจากที่ทุกคนช่วยกันเเจกใบปลิว ติดโปสเตอร์อย่างหนัก บลาๆๆๆ~~” วันเปิดร้านวันเเรกทำให้คยูดี๊ด้าสุดๆ จนลืมเรื่องเมื่อคืนไปเลย เเต่ต้องหมดความมั่นใจเมื่อมีพนักงานจิกกัดเค้าเบาๆ (ใครเป็นคนรับพนักงานเเบบนี้เข้ามาเนี่ย) จนถึงขึ้นต้องส่องที่กระจกข้างเเล้วจับๆหน้าดูว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆรึเปล่า เเต่ที่บอกว่าช่วยกันติดใบปลิว ติดโปสเตอร์นั่นคยูก็ทำเองหมดนั่นเเหละ เพราะไม่มีตังค์ที่จะไปจ้างใครเค้า พนักงานที่นั่งอยู่ในร้านก็มีความพยามที่นั่นฟังจนจบถึงจะมีเเอบหลังข้างเสา ฟุบตรงเก้าอี้บ้างก็ตาม
เวลาผ่านไปไวเหมือนกระพริบตา คยูก็นั่งเหม่ออยู่ตรงที่ทำกาเเฟหาวเเล้วหาวอีกจนหมดความพยาม เลยตัดสินใจปิดร้านอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้เปลืองค่าไฟโดยใช่เหตุ 3โมงเย็นปิดร้านทุกคนเเยกย้ายกันกับบ้านโดยที่ไม่ได้เงินเเม้เเต่บาทเดียว เพราะไม่มีลูกค้าหลงเข้ามาเเม้เเต่รายเดียว ในระหว่างทางกลับบ้านเค้าก็เดินไปเพลินๆโดยไม่ได้คิดอะไรมองสาวตามชายหาดโนบรา หน้าอกคัฟซีที่เพิ่งเสริมมาของสาวเสิร์ฟริมชายหาด กับขาคู่ยาวเรียวสวยกับผิวสีเเทนสม่ำเสมออย่างไม่ละสายตาไปเรื่อยๆจนถึงบ้าน
“กลับมาเเล้วครับ~”อารมณ์ยังค้างหลังจากที่เลี้ยวเข้ามาในซอยบ้าน น่าเสียดายนักเเต่ยังไงคยูก็ได้มองเธอคนนั้นจนวินาทีสุดท้าย เมื่อกลับถึงบ้านเค้าก็ได้เดินขึ้นไปชั้นบนเพื่อจะเอาผ้ามาซัก
“ซักผ้า ซักผ้า ถ้าได้ผู้หญิงเเบบนั้นมาเป็นสาวใช้เหมือนในการ์ตูนฮาเร็มคงจะดีไม่ใช่น้อย อ้าวเฮ้ยเสื้อ กางเกง ผ้าเช็ดตัว หายไปไหนหมดวะ” เมื่อหยิบตระกร้าขึ้นมาเเล้วไม่เห็นคยูตกใจเป็นอย่างมากจึงรีบวิ่งลงไปที่ราวตากผ้า
เมื่อคยูวิ่งลงมาก็เห็นผ้าตากอยู่อย่างเรียบร้อย เลยเอามือไปจะจับๆดูก็รู้ว่าผ้าเพิ่งซักเสร็จ เเต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไรจนถึงตอนที่กำลังจะเดินกลับเข้าบ้านไปทำอาหาร อยู่ดีๆก็มีคำถามเกิดขึ้นในหัวของเค้าว่า “ใครซักผ้า” ทั้งๆที่เค้าก็อยู่ในบ้านหลังนี้เพียงคนเดียว เมื่อเค้าคิดได้ดังนั้นด้วยความหลอนเหมือนในหนังโรคจิตหลายๆเรื่องเค้าได้รีบวิ่งไปเปิดประตูบ้านเเล้วตะโกนเสียงดังลั้น
“ดีจริงๆเลยมีคนซักผ้าให้ด้วย
...ใคร
ซักล่ะวะเนี่ย...บอกมานะว่าใครซักผ้า!!!!”
หลังจากที่คิมฮีออกจากบ้านไปสองพ่อลูกก็มาอาบน้ำแต่งตัวเตรียมที่จะไปทำงานของตนเอง ของคุณฮันนั่นก็คือทำความสะอาดกับปล่อยเงินกู้ส่วนของวอนก็คือไปตามทวงหนี้พวกที่ยืมเงินไปนั่นเอง
“พ่อครับ ผมออกไปทำงานก่อนนะ”วิ่งลงมาจากชั้น2ก่อนที่จะเดินออกมาหยิบเสื้อคลุมและกุญแจรถที่พ่อเตรียมเอาไว้ให้ และไม่ลืมที่จะบอกลาคุณพ่อด้วย
“ขับรถดีๆละลูก วันนี้อย่าลืมแวะเข้าไปดูน้องที่โรงพยาบาลด้วยนะ”วิ่งออกมาเตือนลูกชายที่กำลังขับรถออกจากตัวบ้านไป
“เฮ้อ วันนี้ต้องไปทวงกี่คนละเนี่ย 6คนก็กำลังดี เสร็จแล้วจะได้รีบไปดูอุค พ่อกับแม่ก็ไม่มีใครว่าง แถมยังไม่มีเงินจ้างพยาบาลพิเศษเหมือนที่เคยทำทุกตรั้งอีกต่างหาก”ว่าจบก็รีบขับรถออกไปด้วยความรวดเร็ว เพื่อที่จะได้รีบทำงานให้เสร็จสักที
งานของครอบครัวคิมก็คือการปล่อยเงินกู้นอกระบบที่ไม่ได้มีดอกเบี้ยสูงมาก เอาแค่พอที่ครอบครัวจะอยู่และจ้างลูกน้องได้เท่านั้น วิธีการทำงานก็คือ คุณฮันจะปล่อยเงินกู้ ส่วนคิมฮีและวอนก็จะออกไปทวงหนี้สำหรับลูกหนี้ที่จ่าย เงินไม่ตรงเวลา ในตอนนี้ครอบครัวคิมต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อหาเงินมารักษาลูกชายคนเล็กที่นอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล โดยเฉพาะคุณฮันที่ปกติแล้วอุคจะคอยช่วยทำงานบ้านหรือปล่อยเงินกู้อยู่ที่บ้าน แต่พออุคเข้าโรงพยาบาลไปคุณฮันจึงต้องทำงานเพียงลำพัง ซีวอนที่เป็นห่วงทุกคนในบ้านจึงเพิ่มงานให้ตัวเองโดยปกติวันนึงวอนจะมีหน้าที่แค่ทวงหนี้เท่านั้น แต่ตอนนี้ช่วงเช้าวอนไปช่วยคุณฮันปล่อยเงินกู้ที่มีคนมายืมไม่ขาดสายในแต่ละวัน จนถึงตอนเที่ยงวอนก็ออกไปทวงหนี้ลูกหนี้วันละหลายราย จนถึงตอนเย็นก็ยังไปอยู่เฝ้าอุคที่โรงพยาบาลจนกว่าจะหมดเวลาเยี่ยม
“เฮ้อทวงหนี้เสร็จสักที”ว่าออกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานในแต่ละวัน ก่อนที่จะรีบขับรถไปดูอาการน้องชายเหมือนกับทุกๆวัน
ติ๊ดๆๆ เสียงนาฬิกาปลุกดังมาจากห้องนอนห้องหนึ่งในบ้านหลังใหญ่
“ตีห้าเเล้ว!! ทันมั้ยเนี่ย กึกๆๆๆๆ” ด้วยความรีบร้อนเพราะว่าตื่นสายเสียงวิ่งลงบันไดอย่างเเรงเกือบทำพื้นไม้ปาเก้ร์เเสนเเพงหลุดเป็นเเผ่น
“ล้างๆๆ กวาดๆ ถูๆๆๆๆ ขัดๆ ถูๆๆ มันต้องสะอาด!!!” เสียงล้างจาน กวาดบ้าน ถูบ้าน ขัดห้องน้ำ ของอุคดังมาจากชั้นล่างเเล้วเค้าก็ทำหลายๆอย่างนี้ได้ในเวลาไม่ถึงช.ม. โรคบ้าความสะอาดของเค้ามักจะเลเวลอัพขึ้นในตอนเช้า หลายอย่างที่ทำมานี้มันเเค่เริ่มต้นยังมีอีกหลายอย่างทีเค้าจะต้องทำ
“ทำไมเสื้อผ้ารกขนาดนี้ ทนไว้ๆ เพื่อบ้านที่สะอาดเเละความหน้าอยู่ของบ้านเรา ติ๊ด~ ใส่มันลงไปเน่าขนาดนี้ต้องสามช้อน 5555 อีกสองชั่วโมงเจอกันเครื่องซักผ้า 555” หลังจากที่ได้เข้าไปในห้องนอนเเล้วก็เห็นเสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัวเกลื่อนไปหมด ขนาดกางเกงยังถูกโยนจนเกือบจะออกนอกหน้าต่าง เค้าค่อยๆไล่ตามเก็บทีละตัวเเล้วเอาลงไปซักในเครื่องซักผ้าขนาดยักษ์ข้างล่างก่อนที่จะลงไปทำอย่างต่อไป
อย่างต่อไปที่เรียวอุคเริ่มทำคือเล็มไม้ดัดในสวนหลังบ้านที่เเต่ก่อนเคยเป็นรูปร่างที่สวยงามเเต่ตอนนี้กลายเป็นอะไรก็ไม่รู้ เเค่หากรรไกรตัดหญ้าก็หมดไปครึ่งวันเเล้ว เเต่เค้าก็ไม่ย่อท้อหาต่อไปจนเจอเเละเริ่มต้นเล็มต้นไม้อย่างปราณีต เมื่อได้รูปตามต้องการก็เป็นอันเสร็จ
“วิชาคนสวนบ้านไร้ จ๊ากกกก ตัดๆๆเล็มๆๆได้ออกมาเป็นรูปสาวงามในอุดมคติโดยไม่ตั้งใจ ขอเบอร์ได้มั้ยครับ” สงสัยจะเมาเเดดอุคได้ขอเบอร์ต้นไม้ที่ตัวเองเล็ม!!!
ตี ดี๊ ดี ดิ๊ด ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ เสียงเครื่องซักผ้าร้องในตอนบ่ายสาม
“โอ้ซาร่า เห็นมั้ยว่าเครื่องซักผ้ายี่ห้อนี้ดีขนาดไหนเเม้เเต่คราบรอยลิปสติกที่ติดอยู่ที่คอเสื้อยังหายไปหมดเลย” เพราะอยู่ในบ้านหลังใหญ่คนเดียว เรียวอุคสามารถทำทุกอย่างได้ดั่งใจโดยที่ไม่ต้องเเคร์สายตาใคร
ในตอนเย็นหลังจากทำงานบ้านเสร็จทุกอย่างอุคเริ่มต้นทำกับข้าวอย่างจริงจัง
“เริ่มล่ะนะ ย่าห์!!!!! ผักอะไรซักอย่าง สับๆๆ! ขิงดอง หั่นๆๆ ! สารพัดของเหลือๆในตู้เย็น โคร่ม ! ใส่ อะไรหลายๆอย่างเเล้วก็อร่อยโดยไม่ตั้งใจ ผัดต่อไปครับทุกท่านขณะรอจนกว่าข้าวจะหุงเสร็จครับ ไหม้ก็ช่างมันเราไม่ได้กินเอง 555!!!”
หลังจากที่บอมเข้าบ้านไปพักได้ไม่นานก็ต้องออกจากบ้านไปที่โรงพยาบาล เพื่อไปรายงานตัวกับคุณหมอใหญ่ที่โรงพยาบาล
“ผมมาแล้วครับ”มาถึงโรงพยาบาลก็รีบบตรงไปยังห้องของคุณหมอทันที เพื่อไม่ไห้เสียเวลาเพราะคุณหมอนั้นเป็นคนที่เข้มงวดในกฏระเบียบและเรื่องเวลาเป็นอย่างมาก
“คุณคือ คิมคิบอม หมอที่มหาวิทยาลัยการแพทย์ที่โซลบอกมาว่าจะเข้ามาทำงานที่นี่ใช่มั้ย”
“ครับ”ตอบออกไปอย่างประหม่าเพราะบุคคลิกนิ่งๆและน้ำเสียงที่น่าเกรงขามนั้น
“ดูจากประวัติแล้ว คุณเป็นคุณหมอที่เก่งมากในเรื่องระบบประสาท งั้นผมก็มีคนไข้รายนึงที่จะให้คุณรักษา”
“คนไหนครับ”ถามออกมาด้วยสีหน้างงๆ เพิ่งมาก็จะให้เริ่มรักษาแล้วหรอ แถมท่าทางจะเป็นงานใหญ่ซะด้วย
“คุณเดินตามผมมาก็แล้วกัน”
“เรียวอุค
.” เมื่อเดินมาถึงห้องก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อพบร่างของน้องชายคนสนิทที่เคยเล่นกันมาตั้งแต่ตอนเด็กๆนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงที่มีเพียงเครื่องหายใจช่วยยิ้อชีวิตอยู่เท่านั้น
“คนไข้รายนี้ประสบอุบัติเหตุที่กระทบกระเทือนกับสมองอย่างรุนแรง ความสามารถของหมอที่นี่ยังไม่มีใครรักษาได้ ตอนแรกผมก็ว่าจะส่งไปที่โซลแต่พอคุณเข้ามาผมก็เลยอยากให้คุณรักษาดู เดี๋ยวผมจะให้คุณหมอเจ้าของไข้ เอาแฟ้มเอกสารของผู้ป่วยมาให้ พยายามเข้าละ”
“ครับผมจะทำอย่างเต็มที่ครับ”ตอบรับคำด้วยสีหน้ามุ่งมั่น
หลังจากที่คุณหมอใหญ่ออกไปได้ไม่นาน คิบอมก็ได้แฟ้มประวัติอุคจากคุณหมอเจ้าของไข้ หลังจากที่ตรวจสอบดูแล้วเรียวอุค ก็แค่มีรอยฟกช้ำตามร่างกายแต่กับส่วนสมองนี่ซิที่ควรจะเป็นกังวลหนัก ถึงได้ไม่มีใครที่นี่รักษาได้แต่ถ้าเป็นหมอที่โซลอาจจะรักษาได้อย่างสบายๆเลยด้วยซ้ำ
“แต่ยังไงพี่ก็จะรักษาเราให้ได้ เชื่อใจพี่นะอุค”พูดกับคนไข้ที่นอนหน้าซีดอยู่บนเตียงพร้อมกับเอื้อมมือไปลูบผมนุ่มของน้องชายของเพื่อนเบาๆ
“แอ๊ด
.เรียวอุคเป็นไงบ...”วอนที่เปิดประตูเข้ามากำลังจะพูดประโยดที่ใช้ไว้พูดกับน้องทุกวันแต่ก็ต้องชะงักไปเมื่อเห็นว่ามีคนอยู่ในห้องก่อนแล้ว
“อ้าว คุณหมอเข้ามาดูอาการอุคหรอครับ”วอนกล่าวทักทายคุณหมออย่างคุณเคย เพราะนึกว่าเป็นคุณหมอเจ้าของไข้ที่เข้ามาตรวจอุคเหมือนอย่างทุกวัน
“คิบอม
..”แต่ก็ต้องตะลึงไปเพราะคนที่หันมานั้นไม่ใช่คุณหมอคนเดิม แต่เป็นเพื่อนในสมัยเด็กที่จากกันไปนานถึง9ปีไปโดยที่ไม่มีคำบอกลากันเลยสักคำ
วอนบอมมาเเล้ว ส่วนเรื่องของอุคก็ยังเป็นปริศนาต่อไป
.
ความคิดเห็น