ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    RECOGNIZE.. [KYURYEO WONBUM]

    ลำดับตอนที่ #2 : chapter1 "เช่าบ้าน"

    • อัปเดตล่าสุด 26 ธ.ค. 54


    .







    “คือขอโทษที่รบกวนนะครับ ผมจะมาเช่าบ้านหลังข้างๆนี่ เดือนละเท่าไหร่หรอครับ” เสียงชายที่สะพายเป้พูดจากหน้าบ้านชะเง้อไปมา

     

    “เเม่นั่นไงมีคนมาเช่าบ้านเเล้ว เดี๋ยวผมไปเรียกพ่อก่อนนะครับ”

     

    “เก้าเเสนเเสนสองหมื่นวอนต่อเดือนไม่รวมน้ำไฟ ในบ้านมีครบทุกอย่างไม่น่าจะต้องอะไรซื้อเพิ่ม เเต่ต้องจ่ายให้ตรงเวลา ถ้าของพังก็ซ่อมเองนะ เงื่อนไขเเค่นี้”

     

    ด้วยความตื่นเต้นวอนจึงรีบวิ่งไปไปหลังบ้านเพื่อไปเรียกคุณเกิงเรื่องราคาค่าเช่า เเต่ในคณะเดียวกันคิมฮีก็ได้เสนอราคาค่าบ้านอันเเสนโหดไปเเล้ว

     

    “ผมอยู่คนเดียวนะ ไม่เเพงไปหน่อยหรอเจ๊!! ยังไงก็ไม่มีคนมาเช่าหรอก ลดให้เหลือซักสี่เเสนวอนก็ยังดี ผมสัญญาว่าผมจะไม่ทำบ้านพัง”

     

    “ใครเจ๊เเกห๊ะ!! บ้านหลังใหญ่มีครบทุกอย่าง เดินไปห้าถึงสิบนาทีก็ถึงทะเล เดินต่อไปอีกนิดก็ถึงตลาด ราคานี้จริงๆเเล้วมันยังถูกไปด้วยซ้ำ”

     

    “ลดหน่อยซิ!!!!  อีกสามวันผมจะต้องเข้ามาทำงานเปิดร้านเเล้วนะ จริงๆถ้าที่อื่นไม่เต็มเเน่นไปหมด ผมก็ไม่มาเช่าที่นี่หรอก”

     

    “เอ๊ะอะกันเเต่เช้าเลย คิมฮีทำไม่เชิญเค้าเค้าบ้านล่ะ มาๆนั่งก่อน นี่สัญญาค่าเช่าบ้านอ่านให้ละเอียดเเล้วเซ็นต์ซะ!! กรอกให้ครบนะ ชื่อ ที่ที่เคยอยู่ บ้านเกิด โทรศัพท์ทุกเบอร์เขียนให้หมด” เมื่อคุณเกิงเดินออกมาจากบ้านก็ได้เรียกชายหนุ่มผู้โชคร้ายมานั่งที่เก้าอี้หน้าบ้าน

     

    “ถึงจะต้องเขียนนู่นนี่เยอะไปหน่อยก็เถอะ เเต่ราคาผมรับได้ไม่ใช่อะไรต้องเกือบล้านวอน ทำงานทั้งเดือนคงไม่ต้องเก็บเงินหรอกจ่ายเเต่ค่าบ้านอย่างเดียวให้ตายซิ”

     

    “อะไรนะเกือบล้าน คิมฮีบ้านนั้นเกือบ10ปีเเล้วใหราคาถูกๆหน่อยก็ได้”

     

    “ไม่พูดด้วยเเล้ว อย่าลืมไปกวาดบ้านด้วยล่ะ”

     

    “อ้าวเเล้วนี่จะไปไหนล่ะ”

     

    “ไปตลาดเเล้วจะไปทวงหนี้แล้วก็เเวะบ้านเพื่อนต่อคงกลับตอนเย็นๆเลยอ่ะ”

     

    “ทำไมไม่รีบกลับบ้านมาเลยล่ะ”

     

    “เอ่อ…ผม”ชายหนุ่มผู้โชคร้ายพยายามที่จะบอกว่าเขียนสัญญาเสร็จแล้ว เพื่อหลีกหนีให้พ้นจากสองสามีภรรยาคู่อันตรายนี่ซักที

     

    “ก็เรื่องของชั้นซิ คุณอยู่บ้านทวงหนี้ไปละกัน เดี๋ยวตอนกลับมาจะซืื้อข้่าวมาให้”

     

    “เอ่อ….”

     

    งั้นก็ตามใจ นี่ก็เอ่อยู่ได้มีไรก็พูดมา”

     

    “สะ เสร็จเเล้วครับ” ชายหนุ่มโชคร้ายยื่นใบสัญญาให้คุณเกิง

     

    “โจ คยูฮยอน ขอเรียกเเค่คยูละกัน อืมมมม ประวัตินายก็ดีนะ เรียนมาก็สูงใช้ได้เเต่ทำไมถึงมาเปิดร้านกาเเฟเเถวนี้ล่ะ เปิดที่โซลน่าจะขายได้ดีกว่านี่ เเถมยังเลือกสถานที่ได้ห่วยสุดๆอีกต่างหาก ทางสามเเพร่งคิดได้ไงเห็นใครทำก็เจ๊งหมด”

     

    “ก็ที่นั่นมันถูกที่สุดเเล้วนี่หน่า เเล้วไม่ต้องห่วงนะครับผมไปเสดาะเคราะห์ทำบุญอธิษฐานไว้หมดเเล้ว”

     

    “คืนนี้นายจะเข้าไปนอนเลยก็ได้นะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ของที่สั่งคงมาถึง”

     

    “นี่ค่ามัดจำ30000เยนครับ งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะครับ”

     

    “อย่าทำบ้านชั้นไฟไหม้นะ ยิ่งไม่มีประกันอยู่”

     

    “ครับ~~~”

     

    ================================================================

     

    ในตอนเช้าที่คิมฮีกำลังจะออกไปทวงหนี้เหมือนกับทุกวัน ก็เจอครอบครัวของเย่มินที่กำลังช่วยกันรดน้ำต้นไม้อย่างหวานแหววอยู่หน้าบ้านตะโกนเรียก

     

    คิมฮี กำลังจะออกไปไหนหรอว่าออกมาเมื่อเห็นเพื่อนบ้านที่เดินออกจากบ้านด้วยใบหน้าอันเคร่งเครียด

     

    กำลังจะไปทวงหนี้เหมือนกับทุกวันนั้นแหละ มีอะไรรึเปล่า

     

    หนูอุคเค้าไปไหนละ พวกเราไม่เห็นหน้าเค้ามาหลายวันแล้วนะ ปกติก็จะออกมารดน้ำต้นไม้เวลาเดียวกับเราตลอด

     

    อุคเค้าอยู่โรงพยาบาล ตอนนี้ยังไม่ฟื้นเลย

     

    เป็นอะไรมากรึเปล่า อยู่โรงพยาบาลไหนละเดี๋ยวพวกเราจะออกไปเยี่ยม

     

    ก็โรงพยาบาลในเมืองนั้นแหละ

     

    แล้วเค้าเป็นอะไร เมื่อ2-3วันก่อนยังเห็นดีๆอยู่เลยสองสามีภรรยาถามออกมาอย่างเป็นห่วงเพราะว่าทั้งสองก็รักอุคเหมือนกับลูกชายแท้ๆ ตั้งแต่ตอนที่ลูกชายคนเดียวของทั้งสองไปเรียนต่อ ก็มีเรียวอุคที่คอยดูแลจึงลดความคิดถึงที่มีต่อลูกชายไปได้บ้าง

     

    อุคเค้าประสบอุบัติเหตุนิดหน่อยนะ ไว้วันหลังจะเล่าให้ฟังนะเล่าด้วยน้ำเสียงเศร้าพร้อมด้วยดวงตาที่มีน้ำตาคลอ ใกล้จะไหลออกมาเต็มที่ เพราะคิดถึงลูกชายคนเล็กที่นอนนิ่งอยู่ที่โรงพยาบาล

     

    ถามถึงแต่ลูกชั้น แล้วคิบอมละไปเรียนตั้งหลายปีแล้วนี่น่า เมื่อไหร่จะกลับมาละปรับน้ำเสียงให้ป็นปกติ แล้วถามถึงลูกชายคนเดียวของครอบครัวของเย่มินที่ไปเรียนหมอที่โซลนานหลายปีแล้ว

     

    ก็อีกสัก2-3วันนั่นแหละก็จะกลับมาที่นี่พูดออกมาด้วยสีหน้าดีใจเพราะว่าคิดถึงลูกชายที่ทั้งสองไม่ได้เห็นหน้ามานานหลายปี

     

    จากนั้นคิมฮีและสามีภรรยาทั้งสองก็คุยกันไปนานร่วมชั่วโมง ตึก..ตึก..ตึก…” จนมีเสียงฝีเท้าเสียงหนึ่งดังขึ้นมาใกล้ขึ้นเรื่อยๆทำให้ทั้ง3คนต้องหันไปมอง

     

    พ่อ แม่ น้าคิมฮี สวัสดีครับ เสียงๆนึงดังปรากฏให้เห็นร่างล็กๆที่มือข้างซ้ายถือเสื้อกาวน์ พร้อมกับแบกกระเป๋าเดินทางใบใหญ่เดินเข้ามาหาคนที่ตนเรียกพร้อมกับรอยยิ้ม

     

     

    ==============================================================

     

    “ห้องน้ำใหญ่กว่าห้องนอนโซลอีกสุดยอดจริงๆ!!! เเต่พูดเเล้วก็คุ้มดีจริงๆมีครบทุกอย่าง เเถมยังจัดบ้านไว้พร้อมรับเเขกตลอดเวลา ชั้นสอง…ห้องนอนเลี้ยวซ้ายซินะ เเกร๊ก เตียง!!! นุ่มชะมัดเลย~ ติ๊ดๆๆ นี่มัน11โมงเเล้วหรอเนี่ยที่ร้านคงรอเเย่เเล้ว ”

     

    เมื่อคยูเดินเข้ามาในบ้านสถานที่ที่เเรกที่เขาวิ่งเข้าไปเเล้วรีบเปิดประตูไปดูนั่นก็คือห้องน้ำที่ใหญ่เเละกว้างมากๆ เเถมยังมีอ่างอาบน้ำอีกต่างหาก หลังจากที่ได้ดูห้องน้ำเเบบทุกซอกทุกมุมอย่างสมใจอยากเเล้ว ก็ค่อยๆเดินดูรอบๆบ้านอย่างพิถีพิถัน จากนั้นก็ได้เดินขึ้นไปเก็บของที่ชั้นสองของบ้าน เพราะที่โซลคยูอยู่เเต่ในอพาร์ทเมนท์เเคบๆ เตียงเล็กๆฟีบๆพอมาเจอเตียงที่กว้างเเละนุ่มขนาดนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะกระโดดลงบนเตียงเเสนนุ่มนั่น ในเวลานั้นเสียงนาฬิกาข้อมือก็ดังขึ้นทำให้คยูสริงค์ตัวขึ้นจากเตียงด้วยความรวดเร็วเเล้ววิ่งออกจากบ้านไปที่ร้านกาเเฟ เพราะระยะทางจากที่บ้านถึงร้านกาแฟก็ไม่ได้ห่างกันมาก

     

    หลังจากที่ไปอยู่ที่ร้านมาครึ่งค่อนวัน เเละไม่ได้กินข้าวคยูหิวอย่างหนักจึงเดินไปที่ตู้เย็นอย่างไม่รอช้า เมื่อเปิดประตูตู้เย็นมาเค้าก็ได้พบกับ…..อาหารที่ห่อไว้อย่างดีจากที่ดูเเล้วก็เป็นอาหารที่ครบห้าหมู่ซะด้วย

    “กลับมาเเล้วครับ หิวๆๆ  ใครทำกับข้าวไว้ให้เนี่ยเยอะเชียว สงสัยจะเป็นเจ๊เจ้าของบ้านทำให้เเน่เลย เห็นอย่างนั้นจริงๆเเล้วคงจะเป็นคนดีมากซินะ งั้นก็ไม่เกรงใจกินเลยนะครับ”

    ท้องอิ่มหนังตาหย่อนหลังจากที่กินอาหารเสร็จเรียบร้อยด้วยความเหนื่อยหรือซกม๊กก็ไม่ทราบคยูเดินขึ้นไปบนห้องนอนเเล้วทิ้งตัวลงนอนทั้งๆที่ยังไม่ได้อาบน้ำหรือทำอะไรใดๆทั้งสิ้น

     

    ติ๊ดๆๆๆๆ เสียงนาฬิกาปลุกดังในตอนเช้าวันใหม่ในบ้านหลังใหม่กับผู้ชายคนใหม่ที่เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ที่ตื่นมาพร้อมกับเสียงงัวเงียเเละดูจะรำคาญเสียงนาฬิกาปลุกอย่างสุดๆ

     

    “ตื่นเเล้วๆ วันนี้ต้องไปเลือกเม็ดกาเเฟกว่าจะกลับก็ดึกๆเเค่คิดก็เมื่อยเเล้ว ขอให้วันนี้ผ่านได้ด้วยดีด้วยเถอะ ก่อนอื่นคงต้องอาบน้ำก่อน หืมไปตกถังขยะมาหรอเนี่ยเรา” อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยคยูได้เดินออกมาใส่ชุดที่ได้เตรียมไว้(?) กับรองเท้าหนังที่ขัดจนเงา เเล้วเดินออกจากบ้านไปทิ้งไว้เเค่เสื้อผ้าชุดเก่าที่กองเลี่ยราดอยู่บนพ้ืนไม้บนห้องนอน

     

    “การเดินทางที่เเสนเหน็ดเหนื่อยจบลงอย่างคุ้มค่า…” เพราะความเหนื่อยล้าจากการนั่งรถไปซื้อเมล็ดกาเเฟ เมื่อกลับมาถึงบ้านคยูเล็งเห็นโซฟายาวอยู่ตรงหน้าเเล้วค่อยๆเอตัวลงนอนอย่างช้าๆ ขอเเค่งีบหน่อยก็ยังดี เวลาผ่านไปใกล้เที่ยงคืน ได้มีเสียงน้ำที่ไหลอย่างเเรงถูกเปิดจากห้องครัว เสียงจานที่ถูกเช็ดอย่างสะอาดได้ถูกว่างบนตู้เก็บจาน เสียงพื้นไม้ที่ดังเอี๊ยดอ๊าดจากห้องข้างบน กรอบรูปที่ถูกปรับจนตรงเป๊ะ เสียงสุนัขนับสิบตัวเห่าหอนกันอย่างไม่มีสาเหตุ คยูสะดุ้งขึ้นมาด้วยความตกใจเเละหวาดผวานั่งอยู่บนโซฟาเเละกอดกระเป๋าไว้เเน่นจนถึงเช้า ตาเเละถุงใต้ตาของเค้าทั้งดำเเละบวม เนื่องจากการนอนไม่พอเเละความเครียดอย่างหนัก เมื่อเค้ากลับขึ้นไปบนห้องตอนเช้าเสื้อผ้าที่กองไว้กลับถูกซักเเละรีดเรียบร้อยเเล้วถูกเเขวนอยู่ในตู้อย่างเป็นระเบียบ เตียงก็ถูกดึงเอาไว้าอย่างตึงเหมือนในโรงเเรม เค้าพยามไม่สนใจเเละรีบออกจากบ้านไปถึงเเม้ว่าเวลาเปิดร้านมันจะอีกตั้งสองชั่วโมงก็ตาม เเต่ถ้าเทียบกับการที่ต้องอยู่ในบ้านเเล้วหลอนขนาดนั้นเค้าขอพยามออกมาให้เร็วที่สุดจะดีซะกว่า คยูหวังว่าวันนี้จะได้เจอกับคุณเจ้าของบ้านเเล้ะถามเกี่ยวกับบ้านหลังนั้นว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันเเน่

     

    ในช่วงตอนเย็นของวันนั้น

     

    ซ่าาาาา เสียงรดน้ำต้นไม้จากหน้าบ้านเช่าของคยู ชายร่างเล็กกำลังยืนร้องเพลงเเละรดน้ำต้นไม้อยู่อย่างสบายใจ ในขณะเดียวกันวอนก็ได้ขับรถกลับมาจากการตามทวงหน้ีตามสัญญาที่ให้ไว้กับเเม่พอดี

     

    เมื่อวอนขับรถมาใกล้ๆก็ได้กดกระจกรถลงเเล้วคุยกับชายร่างเล็กอย่างสนิทสนม

    “อารมณ์ดีจังเลยนะ มารดน้ำต้นไม้น่าอิจาซะจริง ขอทำงานสบายอย่างนี้บ้างได้มั้ยเนี่ย เเล้วเป็นไงบ้านสบายดีมั้ย”

     

    “จะว่าสบายก็สบาย จะว่าไม่สบายก็ไม่สบาย สงสัยเมื่อคืนทำงานดึกไปหน่อยเลยปวดไหล่เเตก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก”

     

    “ปวด เมื่อย เมื่อคืน???? เเต่เอาเถอะดูเเลตัวเองหน่อยล่ะอุค เเล้วก็อย่าทำงานหนักมากเเกินไปนะ พี่เข้าบ้านก่อนนะ”

     

    “ครับ พี่ก็เช่นกันนะ สู้ๆ” เสียงใสขานรับกลับมาพร้อมยิ้มหวาน เเสงเเดดสีส้มทองส่องลงมาอย่างสวยงามเเต่บรรยากาศตอนนั้นช่างเดียวดาย ทิ้งไว้เพียงอุคน้องชายที่ยืนมองรถของพี่ชายสุดที่รักขับเข้าบ้านไป โดยที่ไม่มีใครเห็นเค้าเหมือนอย่างเช่นทุกวัน

     

     

    อาจจะเขียนได้ไม่ยาวเฟื้อยเป็นหางว่าวเท่าเรื่องที่เเล้วนะคะ ไรท์เตอร์พิมพ์ไม่ไหวเเล้วค่ะ เรื่องที่เเล้วเป็นฟิคด้นสดบ้าพลังเลยได้มาอย่างน้ัน  ขออภัยอย่างสูงในอะไรหลายๆอย่าง โปรดติดตามตอนต่อไป อย่าทิ้งเค้านะ!!!!

     

    อ่านแล้วงงมั้ย? ถ้างงนั้นเเหละวัตถุประสงค์ของเรา ไรเตอร์จะลงฟิคอาทิตย์ละ2ตอนนะคะ น่าจะประมาณวันจันทร์กับวันพฤหัส หลัง3ทุ่มนะคะ






    .

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×