คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : chapter12 "คิมฮีชอล"
ยามเช้ามากอากาศสดใสนกตัวเล็กๆร้องเสียงใสเกาะอยู่ริมหน้าต่างที่มีไอน้ำ ในเวลาเดียวกันคยูก็ได้ลุกขึ้นนั่งบนเตียงถึงเเม้จะไม่อยากตื่นขึ้นมาเลยก็ตาม ปกติเวลานี้เรียวอุคจะต้องลงไปทำกับข้าวเเล้ว เเต่เพราะเมื่อคืนเค้าดูหนังกับคยูจนดึกเเถมยังโดนกวนอีกเลยทำให้เค้าเพลียเเละเมื่อยมาก คยูได้คิดอยู่ซักพักว่าจะปลุกดีมั้ย คิดไปคิดมาให้นอนต่อไปอย่างนี้เเหละดีเเล้ว
คิดอีกเเง่มุมหนึ่งใครจะกล้าปลุกคนที่กำลังนอนหลับลึกขนาดนั้นล่ะ ก็นะคนเค้าเหนื่อยก็ต้องปล่อยให้เค้านอนต่อไป จริงๆตอนนี้คยูควรจะไปอาบน้ำเตรียมตัวทำงานเเต่เค้าดันนั่งลอยมองเรียวอุคที่กำลังหลับ เรียวอุคที่นอนหันหลังให้คยูในตอนเเรกก็ได้พลิกตัวกลับมา มือของเค้ากอดผ้าห่มผืนนุ่มเอาไว้ข้างหนึ่งส่วนอีกมือหนึ่งก็ได้ไปก่ายที่ตักของคยู เเล้วเอาหน้าซุกระหว่างผ้าห่มกับหมอนเพราะเเสงเเดดเเยงตา ผมนุ่มๆสะบัดไปมาเล็กน้อยพร้อมกับทำเสียงเเจ๊บๆ มือที่อยู่บนตักก็ค่อยๆขยุ้มกางเกงขึ้นมาเล็กน้อยเเต่อยู่ดีๆเรียวอุคก็ดันมือออกไปช้าๆ จังหวะนั้นเองมือของเค้าก็เหมือนจะหล่นจากตักของคยู ตามสัญชาตญาณก็เลยจับกางเกงเอาไว้เเน่น (ตามสัญชาตญาณอ่ะเนอะจะหล่นก็ต้องเกาะ) ทันใดนั้นยางยืดของกางเกงนอนตัวเก่าได้เลื่อนลงมาตามเเรงดึงของมือที่ร่วงหล่นไว้อย่างรวดเร็วจนเห็นขาอ่อน ด้วยความตกใจคยูรีบจับขอบกางเกงนอนที่ย้วยนิดๆของเค้าขึ้นมาให้อยู่ในสภาพปกติ เเล้วจับมือของเรียวอุคเข้าไปในผ้าห่ม ดีนะที่เรียวอุคหลับอยู่ไม่งั้นเค้าได้เห็นไปถึงไส้ติ่งของคยูเเล้ว
“ฟู่เกือบไปๆ นอนๆดีๆซินายน่ะ คิก คิก จริงๆนายน่ารักเป็นบ้าเลยให้ตายซิ ยิ่งตอนหลับยิ่งน่ารัก ผมก็นุ่ม เเถมกลิ่นก็เหมือนผู้หญิงนี่ผู้ชายจริงๆรึเปล่าเนี่ย
.ชั้นพูดอะไรออกไปไม่ใช่ๆ จำไว้ชั้นคยูฮยอนชายเเท้ร้อยเปอร์เซ็นฟันหญิงมาเเล้วนับไม่ถ้วน ไม่มีทางๆ อีกอย่างนี่เพื่อนนะเฮ้ยเพื่อนเเถมผู้ชายอีก
.โอ้ยไปอาบน้ำดีกว่า” คยูที่นั่งเสียววาบมาตั้งเเต่เมื่อกี๊มองที่ใบหน้าซุกหมอนของเรียวอุค ห๊านี่มันเกิดอะไรขึ้นผู้ชายเที่ยวผับควงผู้หญิงไม่เคยจะซ้ำหน้า อยู่ดีๆก็มาชมเพื่อนชายที่นอนอยู่ว่าน่ารัก
.จิตใต้สำนึกของเค้าคิดอะไรอยู่กันเเน่ถึงทำให้พูดออกมาอย่างนั้น ชาย กับ ชาย คนธรรมดาทั่วไปใครจะรับได้ โชคยังเข้าข้างถ้าเรียวอุคตื่นมาเเล้วได้ยินคงต้องหาว่าเค้าเป็นพวกวิปริตเเน่ๆเเล้วเลิกเป็นเพื่อนกับเค้าในที่สุด เค้าจึงพยามหยุดความคิดของเค้าไว้เเค่นั้นเเล้ว เดินไปหยิบเสื้อผ้าเพื่อจะไปอาบน้ำสงบสติอารมณ์
ในตอนที่เค้ากำลังจะก้าวเท้าออกจากประตูไปเค้าก็ได้หันมามองบนเตียงที่ชายร่างเล็กนอนอยู่
กลับที่เค้าจะเดินไปอาบน้ำเเต่ก็ไม่ เค้าเดินกลับเข้ามาเเล้วลูบผมพร้อมยิ้มมุมปากให้กับเพื่อนตัวเล็กของเค้าที่หลับอยู่ เเล้วค่อยไปอาบน้ำ ไม่รู้ที่เป็นอย่างนี้เพราะหนังเมื่อคืนมองหลอนมากหรืออย่างไร เเต่ที่รู้ๆมันทำให้เค้าสับสนในตัวเองมาก
“
ชั้นทำอะไรเนี่ย!!!!”
หลังจากที่คยูอาบน้ำเเต่งตัวเสร็จก็ได้ลงมาข้างล่าง เพราะได้ยินเสียงมีคนกดกริ๊ง
เค้าได้เดินออกไปหน้าบ้านเพื่อดูว่าใครเป็นคนมากดกริ๊งนั้น เเต่ถึงกับผงะเล็กน้อยเพราะคนที่กดกริ๊งนั้นคือภรรยาของเค้าของบ้านเช่าหลังนี้
คุณนายฮีนั่นเองวันนี้เธอเเต่งตัวสวยอย่างกับจะออกงานที่ไหนเเต่สีหน้าของเธอดูเบื่อโลกมาก
“สวัสดีครับ มีอะไรรึเปล่าครับ
” เสียงสูงพูดนุ่มๆด้วยความเกรงใจเพราะหลังจากเช่าบ้านหลังนี้มาเเล้วเค้าก็ไม่เคยได้ไปคุยหรือไปเยี่ยมคุณเจ้าของบ้านเลย เเล้วตอนนั้นก็พูดจาจิกกัดกับคุณนายฮีไว้ด้วย
“ค่าเช่า อีกสามวัน ค่าน้ำ ค่าไฟ อีกสี่วัน เตรียมเงินให้พร้อมถ้ายังไม่อยากถูกไล่ออกจากบ้านได้เลย!!” คุณนายฮียืนเกาะรั้วตะโกนเข้ามาในบ้าน สายตาขอเธอจ้องมองคยูด้วยความเเค่นเเค้นไม่เล็กน้อย เกี่ยวกับค่าเช่าที่เธอควรจะได้(?) ในใจคิดทำไมมันไม่เชิญชั้นเข้าไปนั่งคุยสบายๆ เพื่อจะได้อารมณ์ดีกว่านี้ เเล้วตะโกนคุยกันอย่างนี้เพื่อเปลืองพลังงานเมื่อยก็เมื่อย
“คือว่าขอค่าเช่าบ้านเลื่อนไปอีกซักสองวันได้มั้ยครับ สงสารผมเถอะนะครับค่าเช่าร้านก็ต้องจ่าย เงินที่จะซื้ออาหารก็จะไม่มีเหลืออยู่เเล้ว จะว่ายังไงดีคือถ้าผมจ่ายไปผมคงจะ
.คงจะต้องกินเเกลบเเทนข้าวเเล้วล่ะครับ
”
เมื่อคยูได้ยินอย่างนั้นก็พยามที่จะขอให้คุณนายเลื่อนวันจ่ายเงินออกไปอีก เเล้วทำหน้าตาหน้าสงสารเพื่อให้คิมฮีใจอ่อน เเต่คิดหรอว่าคนอย่างคณนายฮีจะยอม เธอนั้นเคี่ยวยิ่งกว่าใครๆเงินซักวอนถ้าไม่ใช่เรื่องเที่ยวของเธอหรือเรื่องที่สำคัญจริงๆเธอจะไม่ให้กระเด็นออกจากกระเป๋าเเม้เเต่หนึ่งวอน
“งั้นก็เตรียมตัวย้ายได้เลย
คุยกับคนจนนี่น่าเบื่อจริงๆ ห้าว~เสียเวลายังไงก็อย่าลืมล่ะอีกสามวัน อ้อ!กินเเกลบน่ะยังดีกว่าไม่มีอะไรกินเลยนะพ่อหนุ่ม ยังไงก็ใช้ชีวิตที่เหลืออย่าง
เเล้วกันฮาฮาฮา!!!! วันนี้จะไปเที่ยวไหนดีนะ” ไร้ซึ่งความปราณีเธอไม่ได้สนใจความเป็นอยู่ของคยูเเม้เเต่น้อย เเถมยังมาดูถูกชีวิตคนจนของคยูอีก ขนาดตอนเดินไปเเล้วยังกลับมาพูดเเล้วหัวเราะใส่หน้าอีก เสียงหัวเราะนั้นทำให้คยูเเทบจะประสาทกิน
“ใช่ซิก็เจ๊รวยนี่
เบื่อ!!!...เบื่อคนรวยโว๊ยยยย ได้ยินมั้ย เบื่อคนรวยยย จะรวยกันไปไหนเเบ่งๆกันใช้บ้างเห๊อะเงินน่ะ!!!! ถ้าปลวกขึ้นเเล้วอย่าหาว่าไม่เตือนนะ เฮ้อ
ตะโกนไปก็เท่านั้นมาคิดดีกว่าว่าจะเอายังไงกับชีวิตในอีกสามวันต่อจากนี้ เเล้วเราจะไปเอาเงินจากซอกไหนมาจ่ายค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าร้าน ค่าอาหาร เเล้วก็สัพเพเหระอีก โอ๊ยไม่น่ารอด เงินที่มีอยู่ถ้าจ่ายไปก็ไม่เหลือไว้ซื้อข้าวเลย
เครียดๆๆๆวันนี้ทำไมมีเเต่เรื่องเครียดๆวะเนี่ย เฮ้อ!!!” ความเครียดถาโถมเข้ามาเหมือนซึนามิเข้าซัดชายฝั่ง ในสมองโล่งคิดอะไรไม่ออกซักอย่าง ถ้าจ่ายค่าเช่าก็จะไม่มีเงินกินข้าว ถ้ามีค่าข้าวก็ไม่มีบ้านอยู่ ทุกอย่างมันต้องมีการเเลกเปลี่ยน นี่คือสัจจะธรรมของชีวิตมนุษย์ เเล้วสรุปจะเอายังไงดี!! ถึงจะบอกว่าเครียดหรืออะไรเมื่อเข้าไปในบ้านคยูก็กลับมาเป็นชายหนุ่มใช้ชีวิตเรื่อยๆ ชิลๆต่อไป นั่งจิบกาเเฟอ่านหนังสือการ์ตูนเบาสมองขำอยู่คนเดียวอยู่ที่ห้องครัว
กึ๊กๆๆๆ เสียงวิ่งลงส้นเข้าอย่างหนักของชายร่างเล็กวิ่งลงมาอย่างเร็ว
“คยูนายตื่นก่อนเเล้วทำไมไม่เรียกชั้นล่ะจะได้ลงมาทำข้าวเช้าให้กินก่อน เห็นมั้ยเนี่ยชั้นไม่มีเวลาทำเลย นี่กี่โมงเเล้ว
ไม่ทันยังไงก็ไม่ทัน นายเอาไปกินที่ร้านก็เเล้วกัน รอซักพักนะ” เรียวอุคที่รีบวิ่งลงมาก็มีอาการหอบเล็กน้อยเเล้วก็ยืนโวยวายว่าทำไมคยูถึงไม่ปลุก ที่โวยวายก็ไม่ใช่อะไร เพราะเป็นห่วงว่าเพื่อนจะไม่ได้กินข้าวเช้า สำหรับอุคเเล้วอาหารเช้าถือเป็นอาหารมื้อสำคัญมาก เรื่องนี้เลยถือเป็นเรื่องใหญ่ หลังจากที่บ่นจบเค้าก็เดินไปทำอาหารที่โต๊ะทำครัว เสียงมีดหั่นผักด้วยความรวดเร็ว คยูที่จิบกาเเฟร้อนๆพร้อมกับอ่านการ์ตูนอยู่หันมาก็ถึงกับ
“เรียวอุค!!!” ภาพที่เห็นคือชายร่างเล็กกับเสื้อสีครีมขนาดเสื้อตัวใหญ่โคร่งยาวถึงเข่ามีรอยหนูเเทะเป็นวงใหญ่หลายจุดตรงข้างตัวบ้าง หลังบ้าง เเขนเสื้อบ้างอะไรประมาณนั้น ส่วนคอก็กว้างจนกลายเป็นเสื้อโชว์ไหล่กับกางเกงบ๊อกเซอร์บางๆพริ้วๆสีดำทำให้เห็นเรียวขาขาวของเรียวอุคอย่างชัดเจน กับรองเท้าเเตะที่มีหัวเป็นกระรอกสีม่วงคาบวอลนัทลูกยักษ์ ส่วนผมก็คาดไว้อย่างเรียบร้อยด้วยที่คาดผมเล็กๆสีเงิน คยูถึงกับตกใจนี่มันอะไรกันใส่เสื้อบางไม่พอยังมีรูอีกต่างหากโหให้ตายเเสงเเดดส่องผ่านอีกป๊าดดดทรวงทรงนายมันช่าง อ๊าาา อย่างนี้นี่มันยั่วกันชัดๆตะบะจะเเตกเอา ถ้าตอนนี้อยู่ในผับที่ไหนซักเเห่งเเล้วเปลี่ยนจากเพื่อนชายของเค้ากลายเป็นหญิงสาวเค้าคงจะฉุดเธอคนนั้นเข้าห้องเเล้วทำอะไรอย่างว่าไปเเล้ว เเต่เพราะนี่คือเพื่อน เพื่อนเพียงคนเดียวที่เค้ามีเค้าจึงต้องระงับอารมณ์หื่นกระหายของเค้าเอาไว้ก่อน
“เรียกอะไรตกใจนะเฮ้ย เดี๋ยวหั่นผักพลาดโดนนิ้วพอดี” ชายที่ยืนทำอาหารได้หันมาด้วยความตกใจ
เพื่อนบ้าเรียกอะไรดังขนาดนั้นทำอย่างกับบ้านไฟไหม้อยู่ก็ใกล้กกันเเค่นี้พูดเบาๆก็ได้ คนหั่นผักหัวใจจะวายเฮ้อ..ไม่ไหวๆ
“นายเเต่งตัวอะไรของนายเนี่ย!!! รีบไปเปลี่ยนเลยมันบางไปเเล้วเเถมเป็นรูอีก เเล้วกางเกงก็สั้นไปด้วย” คยูที่พยามชี้เเจงข้อบกพร่อง(?)ในการเเต่งตัวของชายร่างเล็ก อยู่ดีๆก็อยากจะพูดเรื่องจารีตประเพณีขึ้นมางั้นหรอคยู
ไม่ใช่เเล้วมั้งเเค่ไม่อยากให้ตัวเองคิดฟุ้งซ่านมากกว่าเลยบอกให้เรียวอุคไปเปลี่ยนชุด การสับสนในตัวเองนี่ช่างน่าสงสารจริงๆ เเต่ไม่ต้องลุกลี้ลุกลนอะไรขนาดนั้นก็ได้
“อากาศร้อนตับเเหก จะให้ชั้นใส่เสื้อหนาๆทำงานบ้านรึไง กางเกงก็ไม่ได้สั้นบ็อกเซอร์ธรรมดา สายตา ปกติก็ใส่อย่างนี้อยู่บ้านนะไม่ได้จะไปข้างนอกจะได้ต้องเเต่งตัวดีๆ” ชายที่ยืนหั่นผักหันมาพูดเเล้วทำหน้างงๆในมือข้างขวาถือมีดเเกว่งไปมาตามจังหวะการพูดคยูที่นั่งฟังอย่างตั้งใจก็เสียวลงไปถึงฝ่าเท้า เอื๊อกมีดมันจะหลุดมือมาโดนมั้ยเนี่ยถ้ามันหลุดมาเนี่ยเข้าหน้าเต็มๆ
“ก็เเค่เลือดกำเดาไหลไม่ใช่ คือ ว่าเเค่ไม่ชินน่ะ วันหลังก็เเต่งตัวให้เรียบร้อยหน่อยละกันนะ ชั้นก็ไม่ได้มีอะไรหรอก” ประโยคอะไรจับใจความไม่ได้เลยทีเดียวคำพูดของชายร่างสูงพูดออกมาเเล้วยิ่งทำให้เรียวอุคงงกว่าเดิม
“งง สงสัยหนังผีเมื่อคืนทำนายสมองชา ไม่เป็นไรชั้นให้อภัยคนเราก็มึนกันได้ อ่ะเสร็จเเล้วผัดผักกับเนื้อย่าง รีบไปเปิดร้านได้เเล้วเดียวสาย” อาหารเช้าที่เสร็จด้วยความเร็วสูงถูกหย่อนลงบนโต๊ะอย่างช้าๆเเละในจังหวะที่เรียวอุคก้มลงมานั้นเสื้อของเค้าก็ได้เลื่อนลงมาตามเเรงโน้มถ่วงของโลกคอเสื้อที่กว้างขนาดนั้นก็นะรู้ๆกันอยู่
“ยะอย่าก้ม ครับๆ ฝากดูบ้านด้วยละกัน” คยูผู้ซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะมองผ่านคอเสื้อลงไปจนสุดร่างกายเนียนนุ่มน่าสัมผัสอยู่เเค่นี้เเท้ๆเเต่ทำไม ทำไม ด้วยความหื่นขึ้นสมองส่งผมให้เส้นเลือดฝอยในโพรงจมูกถึงกับเเต่งดังโพล๊ะ ภาพที่เห็ตราตรึงอยู่ในสมองของเค้า สมองเบลอลอยล่องมือข้างหนึ่งหยิบทิชชู่ยัดจมูกส่วยอีกข้างก็ถือกล่องข้าวไป
“เลือดกำเดาไหลเป็นไรมั้ยเนี่ย” เรียวอุคที่มองอยูก็ตกใจวันนี้คยูมันเป็นอะไรนักหนาเดี๋ยวก็พูดไม่รู้เรื่องเดี๋ยวก็เลือดกำเดาไหล จะปล่อยให้ออกไปข้างนอกคนเดียวจะไหวมั้ยเนี่ย
“ไม่เป็นไรไม่ต้องเป็นห่วง ของเค้าดีจริงๆ อ่าาร์~” ร่างสูงหันกลับมาตอบด้วยสายตาเหม่อลอย~ออกจากประตูไป อ่าาาเเผ่นอกของนายช่าง
เอวของนายนี่เเบบว่า
. จะละลายอยู่เเล้ว ไม่ใช่เเล้วอะไรกันอยู่ๆชายเเท้อย่างคยูจะมารักผู้ชายด้วยกันไม่ได้นะมันผิดศีลธรรม(ใครจะสนใจเรื่องพรรณนั้นล่ะ) หรือจริงๆเเล้วความใฝ่ฝันของคยูคืออยากเป็นยอดชาย-///- (ตามหลักที่ว่าชายได้ชายคือยอดชาย อะไรมันจะขนาดนั้น)
“ไปดีมาดีล่ะนายน่ะ ผมมีเพื่อนหื่นกาม ชอบเที่ยวกลางคืน การเงินติดลบ ล่าสุดมันยังจะสมองกลับอีก ชีวิตผมมันจะต้องเจออะไรอีก!!!” ชีวิตชายที่ทำงานอยู่บ้านวันๆไม่ได้ออกไปไหน เเล้วยังจะมีเพื่อนอารมณ์นี้อีก
ของให้พระเจ้าคุ้มครองสมองชายสองคนนี้ด้วยเถอะ คนนึงก็สับสนในสิ่งที่ตัวเองเป็น/ต้องการ อีกคนก็สับสนในตัวของอีกคน ดูจากสภาพควรพบจิตเเพทย์ด่วนทั้งคู่
คิบอมตื่นขึ้นมาในตอนเกือบจะเช้าเพราะรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ แต่ก็ลุกได้ยากเมื่อพบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของอีกคน ร่างเล็กค่อยๆงัดตัวเองออกอย่างระมัดระวัง เพราะกลัวว่าร่างสูงจะตื่นบวกกับกลัวว่ากระโปรงจะเปิดอีกด้วย แต่สุดท้ายก็ลุกออกไปได้สำเร็จ แต่พอทำธุระเสร็จแล้วจะกลับมานอนมันก็ไม่รู้สึกง่วงแล้ว ก็เลยคิดว่าอยากจะตอบแทนอะไรให้ซีวอนบ้าง
“เรื่องแก้แค้นนั่นเอาไว้ทีหลังก็ได้ ตอนนี้ขอเที่ยวให้สนุกก่อนดีกว่า”เมื่อคิดได้ดังนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับเดินไปเตรียมชุดเพื่อให้ซีวอนใส่ในวันนี้
“เมืองไทยอากาศร้อนนี่เนอะ เลือกตัวที่บางหน่อยดีกว่า”ร่างเล็กนั่งค้นกระเป๋าเสื้อผ้าของคนที่หลับไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียงด้วยความสนุกสนาน หยิบชุดนั้นชุดนี้ออกมาเลือกอย่างมีความสุข จนในที่สุดก็ตัดสินใจเลือกเสื้อผ้าแบบเรียบๆออกมาวางไว้ที่เตียง
“ไปอาบน้ำดีกว่า”เมื่อเตรียมเสื้อผ้าให้ร่างสูงเสร็จก็เดินไปปิดผ้าม่านเพราะว่าตอนนี้แสงแดดอ่อนๆก็เริ่มที่จะส่องเข้ามาแล้ว ด้วยความที่กลัวว่าร่างสูงจะตื่นก็เลยเดินไปปิดเอาไว้ให้ ก่อนที่จะหอบข้าวของ ของตัวเองไปอาบน้ำอย่างสบายใจ
เมื่ออาบน้ำเสร็จซีวอนก็ยังไม่ตื่น ร่างเล็กเดินไปนั่งลงที่ ที่ว่างข้างเตียงพร้อมกับเอามือเล็กลูบผมร่างสูงอย่างอ่อนโยน ร่างเล็กมองใบหน้าของซีวอนที่แสดงออกถึงความเหนื่อยล้าจากทั้งปัญหาทางบ้านและปัญหาเรื่องตัวของคิบอมเอง
ซีวอนเองพอรู้สึกว่ามีอะไรมาสัมผัสที่หัวก็ลืมตาขึ้นมองพอเห็นว่าเป็นคิบอมก็เลยถือโอกาสเขยิบตัวเข้าไปใกล้ๆแล้ว เอาหัววางลงบนตักแล้วก็กอดเอวเล็กไว้เมื่อเห็นว่าร่างเล็กนั้นไม่ได้ว่าอะไร
“ถ้าตื่นแล้วก็ไปอาบน้ำซะ”เมื่อเห็นว่าซีวอนตื่นแล้วก็อดที่จะปลุกไม่ได้เพราะตัวเองนั้นอยากออกไปเที่ยวแล้ว ก็อาบน้ำรอซะขนาดนี้
“ขอแปปนึงได้มั้ย”
“อืม”
“ลูบหัวต่อด้วย”ซีวอนจับมือของคิบอมให้เอาไปลูบหัวตัวเองเหมือนเดิมก่อนที่อีกสักพักจะลุกขึ้นมานั่งงงๆอยู่บนเตียง
“ไปอาบน้ำได้แล้ว ชั้นเตรียมของเอาไว้ให้ในห้องน้ำหมดแล้ว”ร่างเล็กพูดพร้อมกับพยายามที่จะดันตัวซีวอนให้ลุกออกจากเตียง
“เป็นไข้รึเปล่าเนี่ย นายทำเหมือนกับเรามาฮันนีมูนกันเลยนะ”ร่างสูงที่นั่งอึ้งอยู่สักพักก็เอาหน้าผากของตัวเองมาแตะที่หน้าผากของร่างเล็กเผื่อวัดไข้
“บ้ารึเปล่าชั้นก็แค่อยากจะตอบแทนนายบ้าง เห็นเหนื่อยมามากแล้ว”
“ชั้นมีความสุขมากเลยนะ ที่นายกลับมาเป็นแบบนี้”ซีวอนยิ้มออกไปด้วยรอยยิ้มที่ใครๆก็ต่างไม่เคยเห็นรอยยิ้มแบบนี้มาตลอด9ปี
“พูดมากน่า ไปอาบน้ำไปเหม็นไปหมดแล้วเนี่ย”ร่างเล็กที่ได้ยินดังนั้นก็รีบลุกขึ้นแล้วลากตัวซีวอนให้รีบเข้าไปอาบน้ำโดยไว้ พร้อมกับก้มหน้าเพื่อซ่อนใบหน้าแดงๆของตัวเองไว้ เมื่อซีวอนยิ้มอย่างนี้ทีไรคิบอมก็มีอาการแบบนี้ทุกๆที
“ชั้นไม่เคยชินกับรอยยิ้มแบบนี้ของนายสักที”ร่างเล็กทิ้งตัวลงกับเตียงพร้อมกับเอามือทาบที่หน้าอกตัวเองเมื่อรู้สึกถึงเสียงหัวใจที่เต้นแรง
หลังจากนั้นไม่นานซีวอนก็อาบน้ำเสร็จ ทั้งสองลงไปทานข้าวที่ด้านล่างของโรงแรมแล้วก็ออกไปเรียกแท็กซี่เพื่อที่จะออกไปเที่ยวตามแผนการที่ได้ตกลงกันไว้ ในตอนแรกคิบอมก็บอกว่าถ้าจะไปเที่ยวไปกับไกด์ดีมั้ยถ้าเกิดหลงขึ้นมาแล้วจะทำยังไง แต่ซีวอนกลับบอกว่าไปกันเองสนุกกว่าแถมยังเป็นส่วนตัวมากกว่าอีกด้วย แต่ถ้าเกิดหลงก็คิดไว้ซะว่าเป็นประสบการณ์
แต่ความจริงแล้วซีวอนไม่ได้คิดถึงแต่เรื่องเที่ยวหรอก ในหัวน่ะมีแต่เรื่อง
.ทั้งนั้น ก็จริงมั้ยละว่า ถ้าซีวอนเกิดง้อคิบอมได้แล้วบอมเกิดใจอ่อนแล้วอารมณ์มันพาไปอาจจะได้
ก็ได้ แต่ถ้ามีทั้งไกด์และก็ลูกทัวร์คนอื่นๆอยู่ด้วยก็คงหาจังหวะนั้นไม่ได้กันพอดี จริงมั้ยครับ?
“ตกลงเอายังงั้นก็ได้ เพื่อชั้นอยากได้อะไรจะได้เลือกซื้อได้นานๆด้วย”หลังจากที่ซีวอนหว่านล้อมอยู่นานก็เป็นผลสำเร็จเมื่อคิบอมคิดตามแล้วพยักหน้าเพื่อเป็นการตกลง
“โอเค งั้นเราไปกันเถอะ”หยิบเป้ของตัวเองขึ้นสะพายแล้วก็หยิบกระเป๋าเดินทางใบเล็กอีกใบของคิบอมขึ้นถือแล้วพากับไปขึ้นแท็กซี่หน้าโรงแรม
“ไป
. ครับ”เมื่อขึ้นรถแท็กซี่ซีวอนก็พูดกับลุงคนขับรถด้วยภาษาไทยสำเนียงแปลกๆ แต่ก็ถือว่าชัดมากเลยทีเดียว
เมื่อคุณลุงคนขับแท็กซี่ผู้ชำนาญเส้นทางขับรถไม่นาน ก็มาถึงจุดหมายตามที่ซีวอนนั้นตั้งใจไว้ ทั้งสองจ่ายเงินและลงจากรถแต่ก้ไม่ลืมโบกมือลาคุณลุงคนขับแท็กซี่ผู้ใจดี ที่พยายามจะชวนเค้าทั้งสองคนคุยตลอดทาง ทั้งๆที่ทั้งสองคนก็ไม่เข้าใจอะไรเลย
ที่ๆซีวอนพาคิบอมมาคือรีสอร์ทที่ตั้งอยู่บนเขาที่ถูกปลกคลุมไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่ม ที่รีสอร์ทนี้มีให้เลือกพักทั้งเป็นห้องและเป็นบ้านไม้หลังเล็กๆ เมื่อเดินเข้ามาพนักงานออกมาตอนรับเป้นอย่างดีเพราะฮีชอลได้โทรมาจองบ้านพักไว้ให้ลูกชายเรียบร้อยแล้ว ฮีชอลถือว่าเป็นลูกค้าระดับวีไอพีของที่นี่ เพราะว่าฮีชอลนั้นชอบบรรยากาศของที่นี่มากๆจึงพาคุณฮันมาเที่ยวที่นี่อยู่บ่อยๆ และพนักงานทั้งรีสอร์ทก็สนิทกับฮีชอลดีเพราะว่าครั้งนึงที่มีพนักงานคนนึงได้ยินเสียงแปลกๆที่ดังมาจากบ้านพักของฮีชอลจึงเดินเข้าไปฟังใกล้ๆจนได้ยินเสียง
“อา อ๊า คุณฮัน..แรง..อีก อ๊า”พนักงานคนนั้นก็มาแอบฟังบวกกับอัดเสียงไปด้วยในเวลาเดียวกัน เพราะคู่รักแต่ละคู่ที่มาที่นี่ก็ไม่ได้ถึงขนาดนี้แต่คู่นี้ร้อนแรงจนทำให้พนักงานคนนี้ต้องโทรตามพนักงานคนอื่นๆเพื่อมาฟังด้วยกัน แต่เสียดายที่ได้ยินเพียงแค่เสียงแต่ไม่เห็นภาพ ยิ่งดึกเสียงก็ยิ่งดัง จำนวนพนักงานที่มาฟังก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเหมือนคนที่อยู่ข้างในจะรู้สึกตัวพอหมดยกนั้นก็ออกมาข้างนอก
“มาทำอะไรกันมากมายเนี่ย”เสียงที่บ่งบอกถึงความหงุดหงิดนั้นทำให้พนักงานรู้สึกกลัว
“แล้วนั้นอะไร”เมื่อหันไปเห็นว่าในมือของทุกคนถือโทรศัพท์มือถือไว้ก็เลยแย่งเอามาดู จนรู้ว่าทุกคนนั้นอัดเสียงของตนกับสามีไว้
“ถ้าอยากไดบอกดีๆก็ได้จะได้ร้องให้ดังๆ”ฮีชอลยิ้มให้พนักงานทุกคนก่อนที่จะหันหลังกลับเข้าไปในบ้านพักก่อนที่จะมีเสียงทำเรื่องอย่างว่าดังมามากกว่าเดิม
พอเช้าขึ้นมาพนักงานทุกคนก็ไม่กล้าที่จะมองหน้าฮีชอล แต่ฮีชอลกลับยิ้มและคุยเล่นกับพนักงานทุกคนโดยปกติ ทำให้เป็นที่รู้จักกันตั้งแต่นั้นมา
“ทำไมพนักงานทุกคนดูต้อนรับนายดีจังเลย”ร่างเล็กถามขึ้นอย่างสงสัยเพราะตั้งแต่เข้ามาที่นี่ซีวอนก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี แถมมาถึงยังมีที่พัก ทั้งๆที่ ที่นี่บ้านพักเต็มเกือบทุกหลัง บางคนที่มาตอนบ้านพักเต็มแล้วก็ต้องคอตกกลับไป
“พวกเค้าสนิทกับแม่ชั้นน่ะ”
“อ้าว แม่นายก็รู้จักกับคนไทยด้วยหรอ”
“555 ถ้าแม่ไม่ก่อวีรกรรมไว้ก็คงจะไม่เป็นที่รู้จักหรอก”ร่างสูงหัวเราะขึ้นมาทันทีเมื่อนึกถึงตอนที่แม่เล่าเรื่องที่เคยก่อไว้ให้ฟัง
“เรื่องอะไรหรอ”ร่างเล็กที่ตอนแรกก็ถามไปจัดของไป ลุกออกจากงานที่ทำอยู่เดินเข้ามาใกล้ซีวอนแล้วนั่งลงข้างๆ
“มันเป็นเรื่องตั้งแต่สมัยชั้นยังไม่เกิดนั่นแหละ”ร่างสูงเท้าความไปเช่นนั้นแล้วก็เล่าเรื่องนั่นของแม่ตัวเองให้ฟัง
“ชั้นเล่าเรื่องของแม่ไปแล้ว เรามาทำให้ดังยิ่งกว่าแม่เอามั้ย”ซีวอนยื่นหน้าเข้ามาถามด้วยแววตาหื่นกระหาย
“จะบ้ารึไง ไปนั่งเฉยๆเลยไป”รีบดันตัวร่างสูงออกไป พร้อมกับย้ายตัวเองไปจัดกระเป๋าอยู่ตรงมุมห้อง
“อ้อ ลืมบอกไปอย่างพนักงานที่นี่พูดเกาหลีได้ทุกคน นายคุยกับเค้าได้หมดนั่นแหละ นายจัดของให้เรียบร้อยนะ เดี๋ยวชั้นออกไปเดินดูข้างนอกหน่อยเห็นว่าวันนี้ที่นี่จะมีปาร์ตี้พอดี อย่าไปไหนนะระวังหลง เพราะป่าที่นี่มันลึกลับซับซ้อนมาก และก็ระวังโดนฉุดด้วยนะจ๊ะสาวน้อย”เดินออกไปแล้วก็ยังเปิดประตูเข้ามาย้ำอีกทีเพราะว่าป่าที่นี่มันอันตรายมากจริงๆ
talk
เม้นหน่อยนะคะไรท์เตอร์จะเฉาเเล้วค่ะ
เดี๋ยวเค้าก็ตัดเซอร์วิสตอนหน้าทิ้งซะหรอก 555
คงจะยุ่งๆกันอยู่อ่ะเนาะ^^ ยังไงก็สู้ๆนะคะทุกคน~
ทุกคนก็อย่าลืมรักษาสุขภาพด้วยนะคะ ใกล้จองบัตรคอนแล้ว ปล.ใครอ่านฟิคเราขอให้จองบัตรทัน^^
.
ความคิดเห็น