THE'FARRY
Chapter 1 - เส้นขั้นบางๆระหว่างสองคน
ในความมืดยามราตรี บางทีอาจมีคนที่กำลัง
สนุกสนานกับแสงสี แต่ในเมื่อโลกนี้มันไม่ยุติธรรมเอาซะเลยเมื่อมีคนสุข ก็ต้องมีคนทุกข์
‘ยูลเร็วหน่อยเถอะ’ น้ำเสียงเย็นชาที่เปล่งออกมา แต่ในใจกลับเป็นห่วงเพื่อนสาวมากกว่า
‘สิกยูลไม่ไหวแล้วนะ ฮึก’ เจสสิกก้ากระชากร่างเพื่อนสาวให้วิ่งตาม ทั้งๆที่ตัวเองก็แทบจะไม่มีแรงแล้ว
‘เราควรแจ้งความ’ ยูริพูดเสียงอ่อย
‘เธอโง่รึไงฮ๊า!’ ร่างบางตวาดแว๊ด จนเพื่อนสาวสะดุ้ง
‘ฮึก ยูลทนสภาพแบบนี้ไม่ไหวแล้วนะ’ ยูริล้มลงก่อนจะปล่อยให้น้ำตาของความเจ็บปวดไหลอาบแก้ม
‘ถ้าไม่ขายตัว ก็ไม่มีเงิน ถ้าไม่มีเงินแล้วจะอยู่ยังไง’ เจสสิกก้ามองเพื่อนสาวสีหน้าเรียบเฉย
‘ยูลจะออกไปจากซ่องนี่!’ ยูริวิ่งปาดน้ำตาออกไป
ถึงในเวลากลางวันพวกเธอทั้งสองอาจจะใช้ชีวิตเหมือนกับเด็กวัยรุ่นธรรมดาทั่วไป แต่ในยามราตรีดึกดื่นเช่นนี้จะมีใครรู้ว่าเด็กสาว ธรรมดาๆที่พวกเขาเคยรู้จัก ต้องมาประจำงานที่ซ่องไฮโซในย่านสถานที่กลางคืน บางวันก็ถูกฉุดกระชากจากไฮโซแก่ พุงห้อย แต่สุดท้ายก็รอดกลับมาจนได้้ ไม่ว่าจะเป็นการออกอุบาย ใช้มารยา ใช้ยาสลบ มอมเหล้า ทั้งสองจึงยังคงรักษาพรมจันทร์ ได้มาโดยตลอด แต่วันนี้มันช่างเหนื่อยล้าเหลือเกินทั้งๆที่ใช้เล่ห์กลหลอกล่อ แต่อาเสี่ยวัยหนุ่มที่ยังคงความฟิตไม่เหมือนกับเสี่ย คนก่อนๆที่พวกเธอเคยปราบมา กลับไม่มีปฏิกริยากับการหลอกล่อของสองสาวแม้แต่น้อย
ยูริพยายามบิดตัวหนี มือหนาที่โอบรัดเอวคอดแน่นในขณะที่เจสสิกก้าเฝ้ามองอยู่ห่างๆ
‘เสี่ยคะ ดิ่มไวน์ก่อนไม่คะ’ ยูริพยายามพูดเสียงหวาน
‘ผมอยากดื่มคุณมากกว่านี่ครับ’ เสี่ยวัยรุ่นอุ้มร่างบางมาไว้บนตักใหญ่
‘แต่ยูลว่าเรามาบิ้วท์อารมณ์ด้วยไวน์ซักสองสามแก้วไหมคะ’ ยูริเลื่อยผ่ามือไปลูบไล้ใบหน้าหล่อทั้งๆที่ในใจรู้สึกขยะแขยง ใบหน้านั้นเพียงไร ถึงเสี่ยคืนนี้จะหล่อแต่เธอคงจะไม่อยากเสียซิงให้กับคนที่เธอไม่ได้รักหรอก
‘ไม่จำเป็นนี่ครับ แค่รูปร่างของคุณก็อวดโอ้ของของผมจะแย่อยู่แล้วนะแม่คุณ’ ร่างใหญ่กระชับกอดแน่น ยูริพลางแกะมือหนาออก ส่งสายตาอ้อนวอนให้กับเพื่อนสาว
‘ขอโทษนะคะที่ต้องขัดจังหวะ’ เจสสิกก้าที่ทนมองเห็นเพื่อนสาวโดนรุกล้ำไปมากกว่านี้ไม่ได้ ถึงคืนนี้เธอจะไม่ได้รับแขก แต่เธอเองก็ส่งยูริมาแทนเพราะฉะนั้นเธอต้องจัดการกับเสี่ยคนนี้
‘ครับ’ ร่างใหญ่หันไปมองสาวงามที่เพิ่งเดินมาด้วยสายตาเปล่งประกาย
เพล้งง ง เสียงขวดแก้วกระทบที่ศรีษะโหนกของชายหนุ่ม ก่อนที่สองสาวจะใช้โอกาสวิ่งหนีออกมาอย่าหืดหอบ
สองร่างที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในบ้านพักหลังเล็กๆย่านชานเมือง ก่อนที่ขาเรียวจะก้าวเข้าบ้าน
‘ขอบคุณ ขอบคุณนะสิก’ เจสสิกก้ามองเพื่อนสาวด้วยสายตาว่างเปล่า
‘อืม ไปพักเถอะ’ พูดจบก็เดินเข้าไปในบ้านพักทันที ยูริมองเพื่อนสาวด้วยความสงสารทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเจสสิกก้ากำลังหลงรัก ใครบางคนที่เธอนั้นก็รักด้วยเหมือนกัน
และที่สิกก้าเย็นชากับเธอก็เพราะโกรธ ที่ยูริเองก็ชอบผู้ชายคนเดียวกัน
‘ไม่ว่าจะเกิดอะไรเธอก็เป็นเพื่อนฉันเสมอนะสิกก้า’ ยูริพึมพัมก่อนจะเดินขึ้นห้องนอนไป
ร่างบางสาวเท้าเข้าห้องนอนรูปของชายในใจตั้งตระหง่าอยู่บนหัวเตียง
‘ถ้าสุดท้ายฉันกับสิกจะต้องทะเลาะกันเพราะนาย ฉันก็จะเป็นคนถอยเองแต่ถ้านายเลือกฉันสิกก็ต้องเป็นคนถอย’ ร่างบางหยิบรูปนั้นขึ้นมาก่อนจะพูดกับคนในรูป เหมือนกับเค้าจะได้ยินมันทั้งหมด แต่ก็เป็นแค่จินตนาการ
ยูริจัดการอาบน้ำล้างตัว เพื่อให้ความสกปรกที่เธอได้รับละลายหายไปกับน้ำ เธอไม่เคยต้องการมัน งานนี้ที่เธอทำก็เพราะ เจสสิกก้า เพื่อนสนิทของเธอที่ตัดสินใจรับงาน ความเป็นห่วงเพื่อน เธอจึงยอมสละเพื่อไปทำงานที่เดียวกับเพื่อนสนิท
ใครบอกล่ะ? ว่าเธอไม่รักเพื่อนตัวเอง มันไม่จริงเลย
เจสสิกก้าก็เหมือนพี่สาวคนนึงของเธอที่โตมาในสถานเด็กกำพร้าด้วยกัน แล้วทำไมเธอถึงจะไม่รักเจสสิกก้า
ในอีกมุมหนึ่งของบ้าน เจสสิกก้ากำลังจัดเตรียมกระเป๋าเพื่อไปโรงเรียนในตอนเช้า สภาพเหมือนคนไม่มีเรี่ยวแรง การที่เธอต้องไปทำงานในซ่อง เพียงเพราะต้องการคนมาดูแล ชีวิตที่เคยขาดหาย แค่ต้องการส่วนที่มาเติมเต็ม แต่กลับกลายเป็นว่าทุกสิ่งพลิกผัน ชีวิตที่คิดว่าควรจะดีกลับต้องมาเสี่ยง อยู่บนเส้นด้ายบางๆ หากวันใดผิดพลั้งพลาดตกลงไป เธอคงจะไม่ให้อภัยตัวเอง
‘คุณป๋าขา สิกขอโทษ ถ้าวันใดสิกพายูลหนีไป ให้อภัยสิกด้วยนะคะ’ เจสสิกก้าหยิบรูปชายในกระเป๋าสตางค์ออกมา ร้องไห้อ้อนวอนกับภาพตรงหน้า ไม่ต่างกับเพื่อนสาว ใช่แล้วผู้ชายในรูปชื่อว่า ฮันคยอง หรือ ฮันเกิง ชายลูกครึ่งจีน เกาหลี ที่เปิดซ่องในย่านไฮโซ ยูริ และ เจสสิกก้าต่างหลงไหลในชายผู้นี้เป็นอย่างมาก แต่ยูริไม่เคยรู้เลยว่าเบื้องหลังของชายตรงหน้านี้ คือเจ้าของซ่องที่เธอทำงาน กลับกันเจสสิกก้ารับรู้ทุกอย่าง แต่เธอก็ยอมตามเขาเข้ามาทำงานในซ่องเพื่อที่จะได้เจอหน้าเขาทุกวัน ถึงแม้ว่าฮันคยองจะมีท่าทีสนใจยูริมากกว่าเธอก็ตาม
ค่ำคืนที่ตลบอบอวนไปด้วยความแตกร้าวเล็กๆของสองเพื่อนสาว ใช้เวลายาวนานกว่าที่จะผ่านพ้นมันไป แสงแดดรำไรสาดเข้ามา ในบ้านหลังเล็ก ร่างบางที่กำลังเตรียมอาหารเช้าสับหรับวันใหม่อย่างพิถีพิถันเดินไปเดินมาอยู่ในครัว
‘วันนี้มีอะไรกินหรอสิก’ ยูริที่เพิ่งเดินลงมาจากห้องนอนถามเพื่อนสาว
‘กินได้รึป่าว’ เจสสิก้าหยิบกระปุกแยมสตรอวเบอร์รี่มาวางบนโต๊ะก่อนที่อาหารเช้าอื่นๆจะตามมา
‘กินได้สิ่ ไม่ได้ฝีมือสิกมานานเลยนะนี่’ ยูริยิ้มให้เพื่อนสาว นานแล้วที่เจสสิกก้าไม่ลงมาทำครัวเลย แต่วันนี้กลับแปลกไป เธอมีความสุขนะที่เจสยอมคุยกับเธอบ้าง ดูแลเธอเหมือนเมื่อก่อน ไม่ใช่เรียบเฉย เย็นชา
‘อืมๆ รีบกินนะเดี๋ยวไปโรงเรียนสาย’ ยูริพยักหน้างึมงัม เจสสิก้านั่งลงกินอาหารอย่างเงียบๆ
‘เราไม่ได้กินข้าวเช้าด้วยกันแบบนี้นานแล้วเนอะ’ อยู่ๆยูริก็พูดขึ้น เจสสิก้าเลิกคิ้ว
‘ไม่มีอะไรหรอก ยูลแค่ชอบให้เราเป็นแบบนี้’ ยูริยิ้มอยู่คนเดียว โดยที่เจสสิกก้ายังคงสีหน้าเรียบเฉย
‘อืม ฉันจะพยายามให้เรากลับมาสนิทกันเหมือนเดิมนะ’ เจสสิกก้าพูดขณะก้มหน้าก้มตาทานอาหารต่อไปเรื่อยๆ
บรรยากาศภายในโรงเรียนดูต่างไปจากทุกวันเจสสิกก้าเดินขึ้นตึกที่ไร้ซึ่งผู้คน ขณะที่ยูริขอตัวไปซื้อของในร้านค้า
‘มาเดินคนเดียวไม่กลัวรึไง’ เสียงอันคุ้นเคยทำให้ร่างบางสะดุ้ง
‘คุณป๋า’ เจสสิกก้าเบิกตาโพลง
‘ไม่ต้องตกใจขนาดนั้นหรอกหน่าเจส อีกอย่างอย่ามาเรียกผมว่าคุณป๋าที่นี่’
‘อ่ะ เอ่อค่ะพี่ฮัน’ เสียงดุดันจนทำให้เจสสิกก้าตัวสั่นไปทั้งตัว
‘แล้วยูริล่ะ’ ไม่ทันไรก็ถามถึงเพื่อนสาว
‘ไปซื้อของค่ะ’ เจสสิกก้าก้มหน้ามองลงพื้น
‘มองทำไมครับพื้นน่ะ’ ฮันคยองเชยคางหญิงสาวขึ้น มันควรจะเป็นยูริไม่ใช่หรอที่จะได้รับการกระทำแบบนี้
‘เอ่อ
คือสิก คือว่า..’ หญิงสาวไม่สามารถพูดคำใดใดออกมาได้
‘อยู่ใกล้ๆ ได้มองใกล้ๆแบบนี้คุณก็สวยไม่แพ้ยูลเลยนะครับ’ มือหนาเริ่มเลื่อมาโอบเอวบางที่เจ้าตัวยืนสั่นระริก
ด้วยความ ตื่นเต้น
‘คะ..?’
‘หึ เจสคุณก็มีใจให้ผมอยู่ไม่ใช่หรอครับ’ เธอไม่สามรถจะปฏิเสธได้ เจสสิกก้าได้แต่ยืนนิ่งเป็นผู้รับฟังเพียงอย่างเดียว ฮันคยองดัน ร่างบางเข้าไปในห้องไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต ก่อนจะกดจูบร้อนแรงลงบนริมฝีปาก เธอเองก็ไม่ได้ขยะแขยงมันอยู่แล้ว ร่างบางเผย ริมฝีปากออกก่อนที่ลิ้นสากของชายตรงหน้าจะละลานดูดหาความหวานในโพรงปากของหญิงสาว มือหนาเลื่อนสัมผัสหน้าอก เต่งตึงที่ถูกซ่อนไว้ใต้ร่มผ้า
‘ทำอะไรกันน่ะ’ น้ำเสียงเรียบนิ่งของแขกผู้ไม่ได้รับเชิญดังมา ทั้งสองร่างผละออกจากกันโดยอัตโนมัติ
‘ชิ..’ เสียงจิ๊จ๊ะในลำคอของชายหนุ่มดังออกมา จะไม่ให้อารมณ์เสียได้ยังไงในเมื่อมีคนมาขัดจังหวะในเวลาที่กำลังจะเข้าด้าย เข้าเข็มกับสาวสวยตรงหน้า
‘สิกขอตัวนะคะ’ เจสสิกก้าลนลานเดินออกมาจากห้องนั้นก่อนจะเชคสภาพตัวเอง หลังจากที่ผมเผ้าบางส่วนดูยุ่งเหยิง
‘ดูไม่ต่างกับผู้หญิงกลางคืนเลยนะครับ’ ชายคนนั้นเดินออกมาก่อนจะมองเจสสิกก้าตั้งแต่หัวจรดเท้า
‘ฉันจะเป็นผู้หญิงกลางคืน เป็นผู้หญิงขายตัวที่ไหนแล้วเกี่ยวอะไรกับนาย’ เสียงเรียบเฉยของเจสสิกก้าพูดออกมาอย่างไม่พอใจนัก
‘ผมแค่ล้อเล่น ร้อนตัวจังเลยนะครับ หึ’ พูดจบก็เดินเข้ามาใกล้ร่างบางก่อนจะเอื้อมมือมาติดกระดุมบนหน้าอก
‘เร้าร้อนจนกระดุมหลุดยังไม่รู้ตัวอีกนะแม่คุณ’ เจสสิกก้าปัดมือของชายผู้นั้นออกก่อนจะเดินสะบัดไปอีกทาง
คนบ้าอะไร ยุ่งเรื่องชาวบ้านไม่เข้าท่า
ความคิดเห็น