คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Bad Choose 1 - Accident- *Rewrite
BAD
CHOOSE
-1-
เช้าวันเสาร์มันน่าจะเป็นเวลานอนที่สบายสุดๆไปเลยล่ะในตอนนี้
ฝนตกพร่ำๆ นอนในผ้านวมผืนหนาๆ แต่...มันไม่ใช่วันนี้และตลอดสองอาทิตย์ต่อจากนี้
เพราะร่างโปร่งผิวสีน้ำผึ้งที่นอนคุดคู้อยู่บนเตียงอย่าง ‘ไค คชา’ เพิ่งเข้าเรียนปี 1
และวันนี้ก็เป็นวันปฐมนิเทศคณะ มะรืนนี้เขามีกิจกรรมรับน้องยาวไปสองอาทิตย์
ต่อจากนั้นก็มีไปเดินฐานรอบมหาวิทยาลัย เขาคิดทบทวนเรียงลำดับการก่อนเปิดเทอมจนจะล้มตัวลงนอนอีกรอบ
แต่ก็รีบกระชากตัวเองขึ้นมา พร้อมทั้งสะบัดหน้าใช้สองมือตบหน้าตัวเองเบาๆเพื่อเรียกสติ
ค่อยๆลุกไปอาบน้ำในสภาพที่ตาจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่เพื่อไปทำกิจกรรมที่จะมีในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
-มหาลัยวิทยาลัย A-
ไคขับรถเข้ามาในมหาลัย ในเวลา เขาหยุดดูจากป้ายแผนที่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ข้างทางเพื่อใช้บอกจุดต่างๆในมหาลัย
สอดส่องดูคณะของตัวเอง แล้วใช้สมองจำทิศทางไปยังตึกคณะว่าอีก 100 เมตร หยุดไฟแดงแล้วขับต่อ ไปอีก 200 เมตร จะเจอบึงขนาบข้างทางทั้งสองข้างทางแล้วเลี้ยวขวา ปากสีชมพูเข้มขมุบขมิบท่องทิศทางจนถึงป้ายหลังน้ำพุว่า
‘คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี’ จึงหมุนพวงมาลัยรถเลี้ยวเข้าไปจอดที่ข้างๆตึก
หยิบกระเป๋าสะพายหลังเตรียมลงจากรถ วันนี้เขาแต่งกายดูสุภาพเรียบร้อย
กางเกงสแลคสีดำ ตรงหัวเข็มขัดเป็นตรามหาลัย A
เสื้อเชิ้ตสีขาว ผูกเนคไทสีเทามีลายปักพาดสีทองเส้นเดียว
ซึ่งแต่ละชั้นปีจะมีลายพาดเพิ่มตามชั้นปีที่เรียน เขาภูมิใน เขาเดินลงมาจากรถจัดการล็อครถให้เรียบร้อย
ขณะที่เขาเดินไปตึกคณะ ทั้งหญิงและชายต่างคณะและคณะของเขาเองก็มองกันตาเป็นมัน
เขาก็ไม่ได้ทำตัวหยิ่งแต่อย่างใด แต่กลับยิ้มน้อยๆส่งกลับไปหาคนที่มองเขาอยู่
พอโดนมองมากๆเข้าอย่างเขินอาย ตามแบบนิสัยเจ้าตัว จนมีเสียงซุบซิบและกรี๊ดเบาๆได้ยินมาเป็นระยะๆทางที่เขาเดิน
ดูแล้วไคคงจะติด 1 ใน 3 หนุ่มฮอตรหัส 16
แน่ๆ
ไคเข้าห้องมาเป็นคนที่สองรองจากผู้ชายใส่แว่นคนหนึ่ง
เขาสอดส่องหาที่นั่งเหมาะๆและเลือกไปนั่งที่นั่งอยู่ริมสุด ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมามันบ่งบอกว่าเหลือเวลากว่าครึ่งชั่วโมงที่งานปฐมนิเทศคณะจะเริ่ม
ล้วงมือหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋าสะพายดูไอเทมเกมส์ที่ออกมาใหม่เมื่อเกือบๆตีหนึ่งของเมื่อคืนนี้
นั่งดูเพลินๆไปได้สักพัก ที่นั่งข้างตัวเขาก็ยุบลงปรากฏรูปร่างชายคนหนึ่ง….ไม่สิสองคน
ใช่ผู้ชายจริงหรอ? หรือจะเป็นทอม? บุคคลที่สองและสามนั่งหันหน้าหาเขาโบกมือทักทายยิ้มจนตาทั้งสองคู่แทบปิด
ปากฉีกยิ้มกว้างจนเกือบจะเห็นฟันครบหมดทุกซี่ พร้อมทั้งแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงที่สดใส
“เฮ้นาย! สวัสดี
เราชื่- เห้ย!” ผู้ชายหน้าหวาน แต่เสียงก็สุดแสนจะแมน
ชื่อว่า ‘แบค บัญญพนต์’ ก่อนที่แบคจะพูดจบก็มีมือไม่ปริศนามาปิดปากคนที่จะแนะนำตัวก่อน ไม่ใช่ใครหรอก
คนข้างๆนั่นแหละ
“สวัสดี ฉันชื่อ ‘ลู่หาน’ เรียกหาญก็ได้เป็นเพื่อนกับไอ้หมาแบคมันแหละ” หาญหรือชื่อเรียกเต็มๆว่า ‘เสี่ยว ลู่หาน’
ดูจากชื่อแซ่แล้วก็ไม่ต้องบอกว่าเชื่อสายทางจีนอย่างแน่นอน หาญเป็นผู้ชายโครงหน้าหวาน
ผิวพรรณดี และมีดวงตาสุกใสอย่างกับกวาง
ถ้าไม่เพ็งสายตาดีๆในระยะร้อยเมตรคงคิดว่าเป็นผู้หญิงเป็นแน่
ด้วยความที่มีรูปลักษณ์ภายนอกแบบนี้เขามักจะมีเรื่องกับพวกผู้ชายอยู่บ่อยๆ
ก็ไม่พ้นเรื่องโดนแซวจนทำให้ปรี๊ดแตกนั่นแหละ ไม่ชอบให้ใครชมว่าน่ารัก
หรือหน้าตาสวย หาญเกลียดคำพวกนี้ครับ! หาญเกลียดดดดดดดดดด!
ด.เด็ก 11 ตัว! (แต่ถ้าผู้หญิงเรียกหาญให้อภัย)
“เค็ม! แหวะ! อีกแล้วนะมึง ตลอดเล้ยยยย กวนกูตลอด….
สวัสดีอีกครั้ง เราชื่อแบคนะ” แบคผลักมือหาญออกแล้วทำหน้าเหยเกทันที
จะไม่ให้ทำได้ไงมันเอามือล้วงเข้ามาให้ชิมมือเค็มๆของมันก่อนที่จะปิดปากเขาน่ะสิ แบคดึงคอปกเสื้อนักศึกษามาเช็ดๆถูๆลิ้นจนแห้งสากก่อนที่จะหันมาคุยกับไคต่อ
พร้อมทั้งมีเสียงหัวเราะของหาญดังอยู่ข้างๆหูอย่างชอบใจ
“ระ..เราชื่อไค”
ไคยิ้มกลับไปให้ทั้งคู่ เขาพูดเสียงที่ไม่ดังและไม่เบามาก
ยกมือขึ้นมือขึ้นมาเกาข้างแก้มเพราะเป็นคนเงียบๆ จึงรู้สึกประหม่าเมื่อมีคนมาทัก ตอนอยู่โรงเรียนเก่าก็ไม่ค่อยมีใครอยากจะทักเขาหรอก
ส่วนมากก็คิดว่าเขาหยิ่ง
“ไคมาเรียนที่นี่คนเดียวหรอ?”
พอหัวเราะจนพอใจ หาญหันมามองหน้าไคด้วยใบหน้ายิ้มแย้มยิ่งกว่าอาแป๊ะ
“อ่า…ใช่
เพื่อนสนิทเรียนอีกคณะนึงอะ”
“ไคมาอยู่กลุ่มเดียวกับพวกเราไหม/ใช่ๆๆๆ มาอยู่ด้วยกันอยู่คนเดียวในรั้วมหาลัยมันช่างไม่สุขสันต์เสียเจรงเจรงงงงง” หาญและคนโดนแกล้งข้างๆพูดขึ้น
“งั้น… เราฝากตัวด้วยนะ”
“เยี่ยม!
ได้เลย/เยี่ยม! ได้เลย” หรือเขาสองคนคงจะเป็นรักยม
ทั้งสามนั่งคุยกันอย่างออกรสออกชาติ
แต่จะสองคนดีเพราะส่วนมากจะเป็นแบคกับหาญที่คุย(ตี)กันมากกว่า เรียกเสียงหัวเราะน้อยๆจากไคได้อยู่เกือบจะตลอดการสนทนา
ไคได้รู้เพิ่มมาก็คือหาญเล่นเกมส์เดียวกับที่เขาเล่น จนกระทั้งถึงเวลาที่จะปฐมนิเทศทุกคนก็เข้ามานั่งกันจนเต็มและเริ่มการปฐมนิเทศจากอาจารย์และพี่ๆในคณะ
เวลาล่วงเลยเกือบถึงเที่ยงวันรุ่นพี่จึงพากันปล่อยนักศึกษาปีหนึ่งให้กลับที่พัก
ทั้งสามคนก็ชวนกันออกไปกินข้าวและแยกย้ายกันกลับที่พักของตัวเอง
ระหว่างทางกลับคอนโดไคเหลือบไปเห็นแมวสีขาวตัวหนึ่งอยู่ในกล่องลังสีน้ำตาลวางไว้อยู่ใกล้ๆทางเข้าคอนโด
เขาเข้าไปจอดรถในคอนโดแล้วเดินออกมาดูเจ้าแมวน้อยตัวนั้น ดูแล้วคงจะถูกเอามาทิ้งไว้อย่างแน่นอน
ขนสีขาวและหน้าตาของมันดูมอมแมม เสียงร้องเมี๊ยวๆของมันดังระงมในระแวกนั้น
ดูท่าทางแล้วคงหิวโซมากๆ
มาคิดๆดูว่าจะเลี้ยงดีไหมกฎของคอนโดนี้ไม่มีข้อไหนบอกว่าห้ามนำสัตว์มาเลี้ยงนี่
มันจ้องหน้าเขาอย่างเวทนา “เหมียว~” เจอแอคแทคเข้าจังๆตัดสินใจได้ก็เอาเจ้าตัวสีขาววางไว้ในกล่องดังเดิม
อุ้มกล่องนั้นเดินขึ้นรถและขับออกไปโรงพยาบาลสัตว์ทันที
เข้าสู่อาทิตย์ที่สามแล้วที่ไคเอาแมวมาเลี้ยงและตั้งชื่อให้มันว่า
‘ยอโบ’ พอมันกินนมอิ่มก็แสดงธาตุแท้ของมันออกมาคือทั้งซนทั้งขี้เล่น
พอคลายเหงายามที่ห่างจากครอบครัวมาบ้าง ลูบหัวเจ้าแมวกินเก่งที่พล่อยหลับบนตักเขาพลางคิดถึงแม่
ปกติแล้วเขาอาศัยอยู่กับแม่สองคน เขาไม่มีพ่อ แม่ไม่เคยเล่าเรื่องพ่อให้เขาฟัง
ถามเมื่อไหร่แม่ก็จะพูดแค่ว่าพ่อของเขาอยู่บนสววรค์ มักทำให้โดนล้อตอนเด็กๆ
เขาไม่ชอบเลย มันทำให้รู้สึกไม่ดีมากๆ และเมื่อต้นปีก็ต้องมาห่างจากแม่อีก เพราะแม่ของเขาจำเป็นต้องไปทำงานอยู่อเมริกาเป็นระยะเวลาถึงห้าปี
ก็เลยต้องอยู่ที่คอนโดคนเดียว มันสร้างความเหงาและคะนึงหาแม่มากๆ
ไม่มีใครให้กอดให้อ้อน ยังดีที่มีเจ้ายอโบเข้ามา ร่างผิวแทนก็ขลุกเล่นอยู่กับมันตลอดที่อยู่ในห้อง
ช่วยคลายเหงาเป็นอย่างมาก มองนาฬิกาแล้วก็ต้องอุ้มยอโบไปวางไว้ที่นอนของมันแล้วคว้ากระเป๋าสะพายลงลิฟต์ไปด้านล่างเพื่อที่จะขับรถไปในมหาลัย เพราะวันนี้เขาต้องไปเดินฐานรอบมหาลัยตามกำหนดการที่วางไว้
เขาเลือกสวมเสื้อสีดำ กางเกงวอร์ม
ตามที่รุ่นพี่ในคณะบอกคือให้แต่งกายด้วยชุดพร้อมลุย และไม่ลืมที่จะนำชุดสำรองไปเปลี่ยนด้วยหนึ่งชุด
บรรยากาศวันนี้ค่อนข้างที่จะสดใส สถานที่นัดหมายในการทำกิจกรรมครั้งนี้คือสนามฟุตบอลขนาดใหญ่ในมหาลัย
ไคมาถึงที่หมายก่อนเกือบครึ่งชั่วโมง และมีเด็กเฟรชชี่ทั้งในและต่างคณะอยู่จนเกือบจะเต็มสนามฟุตบอลแล้ว
เขารอแบคและหาญอยู่ตรงที่นั่งข้างสนามตามที่ไลน์ไปบอกทั้งคู่ รอไม่ถึงสิบนาทีทั้งสองก็เดินเข้ามาพร้อมกับถุงใส่กล่องข้าว
“เฮ้! ไคทานอะไรหรือยัง? เราทำกับข้าวมาเผื่อน่ะ” หาญผู้ที่ใส่เสื้อสีดำลายแมวยื่นกล่องข้าวสีชมพูมาให้ตรงหน้าของเขา
“อ่า...เราเพิ่งกินขนมปังกับนมไปอะ....”
ไคตอบพร้อมทั้งยิ้มแห้งๆ
“กินแค่นั้นจะไปพออะไร มานี่ๆ
วันนี้เชฟลู่ห่านทำข้าวหน้าเนื้อมา มาๆๆ กินๆๆ” หาญก็ยังคะยั้นคะยอ
เพราะไคก็ตัวแค่เนี้ย กินของแค่นั้นไปจะไปพอยาไส้อะไร
“อ่า… ขอบใจนะหาญ
แต่เราเกรงใจอะ” ไคที่เพิ่งจะกินอาหารรองท้องไป
เมื่อเห็นข้าวหน้าเนื้อที่อีกคนทำให้ก็เกิดหิวมาอีก แต่ก็รู้สึกเกรงใจหาญจริงๆ
“เห้ย!
มึงอย่าไปยัดเยียดไคดิ ไคอย่าไปกินเลย
ระวังอาหารเป็นพิษเหมือนที่เรากินหมูผัดขิงฝีมือมันนะ ฮ่า ฮ่าาาาาาาาาาา” แบคลากเสียงหัวเราะอย่างสะใจ
“มึงไปกินหมูกะทะมาก่อนหน้าเถอะ
อย่ามาโทษกู ไคไม่ต้องเกรงใจ เราทำมาเผื่อแล้ว อ่ะ!
ช้อนกับส้อม”
“ขอบคุณนะ” ไครับมาด้วยความเกรงใจ
แต่ก็หิวอะ
“เพราะความดื้อด้านของมึงหรอก ไคเลยรับกล่องข้าวมึง นี่ไคไม่ต้องไปสงสารมันไม่ต้องกินก็ได้
ในข้าวอาจมียาพิษอยู่”
“กูทำมาเผื่อมึงด้วย
ไม่กินเทให้หมากินดีกว่า”
“กินจ้า”
“บลัฟกูแล้วมาก็จะมาแดกของกู”
ไคหัวเราะน้อยๆกับสองคนนี้ที่ดูสนิทกันมาก
น่ารักจริงๆเลยคู่นี้
“น้องๆครับ
เข้าแถวตามเลขที่อยู่หลังชื่อตอนลงทะเบียนนะครับ พี่ให้เวลาสิบนาทีในการไปเข้าแถว
จับเวลา!” รุ่นพี่หน้าหล่อแต่เสียงโหดพูดใส่โทรโข่งประกาศเสียงดังจนน้องๆรีบวิ่งหาแถวกันให้วุ่น
มันเป็นพรหมลิขิตหรืออะไร
ที่ทำให้ทั้งสามอยู่หมู่เดียวกันคือหมู่สิบ ซึ่งในแต่ละหมู่จะรวมหลายๆคณะอยู่ด้วยกัน
มันก็ดูน่าสนุกที่จะได้รู้จักเพื่อนต่างคณะ ถ้าถูกเขม่นขึ้นมาก็ซวยไป
“เอาล่ะครับ
ครบสิบนาทีแล้ว หน้าแถวของทุกคนจะมีพี่ๆนำเดินฐาน
ขอให้สนุกกับกิจกรรมครั้งนี้นะครับ เริ่มได้!”
และตอนนี้เวลาก็จวนจะถึงสี่โมงเย็นเสียงเฮลั่นดังขึ้นในแต่ละฐานก็มีเสียงกลองดังขึ้นเป็นระยะๆ
อีกสองฐานก็จะครบเจ็ดฐาน ตอนนี้หน้าทุกคนเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบสีผสมอาหารและคราบแป้งที่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้ามีสถานะป็นของเหลว
ตอนนี้กลายเป็นสถานะของแข็งที่แห้งเกรอะเต็มหน้าตามสภาพความพึงพอใจของรุ่นพี่
ผมยังต้องมัดเป็นกระจุกๆ กระเซอะกระเซิ้งบางคนก็มีเศษใบไม้ กิ่งไม้ติดตามหัว
เพราะไปมุดและต้องคลานอยู่ในซุ่มที่มีคราบดินโคลน พอลอดออกมาถึงสุดซุ่มเอาสายยางฉีดอีก
โดนเอาใบไม้มาตกแต่งผมจนเหมือนผีบ้า
ไคมองสภาพของตนเองก็ไม่ได้ต่างอะไรจากเพื่อนแต่ละคนที่ก็มีบางคนบนขำๆว่ารับน้องแบบนี้ทั้งประเทศไหม
หรือที่นี้มอมแมมสุด เพราะถ้าไม่มีป้ายชื่อก็แทบจำกันไม่ได้เลย
ระหว่างเดินทางไปอีกฐานเสียงของแบคก็ดังขึ้น
“พวกมึง! ซี๊ดดดดด ข้าวมึงทำพิษว่ะ ไอ้หาญ ไค กูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะเว้ย”
“เอออออ โทษกูอีก
มื้อหน้ามึงไม่ต้องมาขอกูอีกกก รีบมาแล้วกัน กูไม่อยากโดนลงโทษ” หาญทำเสียงกระแนะแหน
“เคๆๆๆๆๆๆๆ ไปล่ะๆ” รัวเคเสร็จก็รีบวิ่งแจ้นไปที่ห้องน้ำทันที
พอมาถึงฐานพี่ๆก็ให้พักก่อนห้านาที ไคก็คุยอยู่กับหาญบ้าง
เพื่อนใหม่ที่หาญไปตีสนิทด้วยบ้าง ท้าวแขนไปข้างหลังพลางฟังบทสนทนาจากเฟรชชี่สาวที่นั่งอยู่อีกกลุ่ม
“แก
เห็นรุ่นพี่คนนั้นป่ะ ที่ใส่เสื้อสีขาวอะ” เธอชี้ไปที่รุ่นพี่หุ่นดีเหมือนนายแบบคนนึงที่นั่งอยู่กับพวกรุ่นพี่ประจำฐาน
“เห็นสิ
หล่อสุดๆเลยอะแก ฉันจะเข้าไปถามชื่อพี่เค้าดีไหม”
หญิงสาวร่างท้วมบิดซ้ายบิดขวา ยิ้มจนแก้มหยุ่นจะปริ
“จะถามทำไม
ฉันรู้จักหรอกย่ะ นั่นอะ รุ่นพี่ ‘เซน’ เดือน Health science (วิทย์สุขภาพ) ล่ะ”
“ไปรู้ตอนไหน
มาเคลียร์เลยแก”
“ก็
%#$)7!#&*)_)+(&= เห็นว่าเป็นแฟนพี่มินพยาบาลปีสามแหละ
น่ากลัวสุดๆ แกอย่าไปยุ่งเชียวถ้าไม่อยากเป็นหมูบด”
“ยัยเกรซ!!”
ไคหันไปดูรุ่นพี่ที่สองคนพูดถึง หน้าหล่อ
หุ่นสูง การแต่งตัวดูสะอาดสะอ้าน ถึงจะใส่ชุดลำลองมาแต่ก็ไม่ได้ทำให้รังสีคุณชายด้อยลงเลย
ผู้ชายอะไรดูดีกว่าเขาชะมัด
“เนาะไค อ้าว
มองใครอะ” หาญที่หันมาคุยกับไค แต่ไคกลับมองดูใครไม่รู้อยู่
“เปล่าๆ” ไคหันหน้ากลับมาตอบเพื่อนและไม่ได้สนใจรุ่นพี่คนนั้นอีก พร้อมกับมองหาแบคที่ยังไม่กลับมา
“ฐานนี้เป็นฐานที่เกี่ยวกับความแข็งแรงและสามัคคี
ชื่อเกมส์ว่า ‘ส่งเจ้าสาวเข้าเรือนหอ’
พี่จะให้น้องๆจับกลุ่ม กลุ่มละ 15 คน และใน 15 คน แยกมาจับกัน 3 คน คนไม่พอเอารุ่นพี่ไปแทรก
จับกลุ่มกันได้เลยค่ะ”
พอเสียงรุ่นพี่ผู้หญิงผมยาวพูดจบ นิสิตใหม่ต่างพากันเข้าจับกลุ่ม
“หนึ่ง สอง
สาม...สิบสาม สิบสี่....ขาดไปหนึ่งคนอะ
ใครยังไม่มีกลุ่มบ้างงงงง!!”
ผู้หญิงผมสั้นสีเทาตรงป้ายชื่อเขียนว่า
‘เทีย’ ดูแก่นๆห้าวๆตะโกนเรียกคนที่ยังไม่มีกลุ่ม
แต่เหมือนจะมีกลุ่มกันหมดแล้วยกเว้นกลุ่มพวกเขา แบคก็ยังไม่กลับมาไม่งั้นกลุ่มเขาคงครบไปแล้วล่ะ
เธอเดินไปหารุ่นพี่ คงจะขอความช่วยเหลือแหละ เพราะเห็นรุ่นพี่หน้าขาวเดินมาที่กลุ่มของเขา
ที่ก่อนหน้านี้เป็นประเด็นพูดของสาวเฟรชชี่ในหมู่สิบ
“กลุ่มนี้คนขาดใช่ไหม
พี่เซนนะ ขออยู่กลุ่มด้วย” เซนพูดแถมยังยิ้มน้อยๆ ทำเอาบรรดาสาวๆหนุ่มๆ(?)กรี๊ดออกมาเบาๆ เสียดายที่กลุ่มตัวเองไม่มีคนขาด
กลุ่มขาดก็ใช่ย่อยจิกแขนเพื่อนเป็นแถว
“เอาล่ะๆ
ครบกันแล้วใช่ไหมพี่จะอธิบายเกมส์ต่อนะคะ
ให้คนแรกยื่นแขนซ้ายของตัวเองออกมาเอามือขวาจับข้อศอกซ้าย
คนที่สองก็ให้ทำแบบเดียวกันแล้วมาต่อกันก็จะได้กระเช้าให้เจ้าสาวนั่ง
ให้วิ่งไปกลับห้ารอบ โดยผลัดกันให้ครบทั้งห้าเจ้าสาว ใครครบก่อนก็ชนะ ผู้แพ้พี่มีเกมส์ให้เล่นนะคะ
จับกลุ่มเสร็จประจำที่เลยค่ะ”
ไคจับกับหาญและ….รุ่นพี่เซน
“ใครจะเป็นเจ้าสาว” รุ่นพี่เซนหันมาทางไคและหาญที่มองหน้ากันอยู่
ถ้าเค้าเป็นกระเช้าที่นั่งเจ้าสาวเบ้แน่ๆ มองดูพี่เซนสูงที่สุดและดูท่าทางคงจะสูงกว่าเขาสัก
4-5 เซนติเมตร ได้ แต่มองดูส่วนสูงของไคแล้วมัน…
“ให้ไคเป็นคนนั่งแล้วกัน
ส่วนหาญกับพี่เป็นกระเช้า โอเคไหม?” เสียงของรุ่นพี่ข้างตัวออกเสนอความคิดเห็นต่อ
ซึ่งก็เป็นอันตกลงทั้งหาญและไค และแล้วไคก็ต้องได้เป็นเจ้าสาวเพราะความเตี้ย…
“ขุนเว้ยยยยยย เกาะคอนิคดีดีดิเว้ย
โงนเงนแล้วเถอะ”
“ทัยทิม! รีบวิ่งสิปลาไม่ได้อ้วนขนาดนั้น”
“เห้ยๆๆ เฟรม! ระวังดิ่ ฟันเฉาะพื้นแผ่นดินแยกเลยนะเว้ย รีบวิ่งมาเร็ววววว”
เสียงเชียร์ดังก้องบริเวณสนามกลางแจ้ง
อีกคิวเดียวจะถึงตาเขาแล้ว เซนและหาญเตรียมไขว้แขนเพื่อที่จะรับไคมานั่ง
“เกาะคอพี่ได้เลยนะ”
“ครับ”
“ระวังล้มไปล่ะเกาะแน่นๆหน่อยนะไค”
“โอเค”
รอบที่ห้าได้เริ่มขึ้น เจ้าสาวไคจะหงายแหล่มิหงายแหล่
เห็นเขานั่งกันเหมือนจะง่าย แต่ทำไมพอนั่งเองมันลำบากขนาดนี้ แถมยังโงนเงนไปมา พอจะถึงที่หมายแค่นั้นแหละ
“โอ๊ะ!”
ตุ้บ!
......................
.................
............
“โอ้ย!”
“เฮ้ย!”
ทุกคนในเต๊นท์พยาบาลต่างกรูเข้ามาดูสถานการณ์ตรงหน้าว่ามีใครได้เจ็บมากน้อยแค่ไหน
“ไคเป็นไงบ้าง! ” หาญที่นอนอยู่มองไปทางไคที่ล้มหน้าคะมำไปกับพื้น จะทำลูกเขาฟันหน้าหายไหมเนี้ยหาญคิดในใจ
“ไคเป็นไรไหม” แล้วอิพี่เซนมันลุกไปตอนไหนว่ะ ดูนู้นไปพยุงไคละ
“ไม่เป็นไรครับ ซี๊ด!”
ไคซี๊ดปากเมื่อมีแผลตรงฝ่ามือเป็นรอยถลอกมีเลือดซึมออกมา
“ป่ะ พี่พาไปทำแผล”
เซนจูงข้อมืออีกคนที่เดินขากระเผลกไปทำแผลบริเวณที่ปฐมพยาบาล
ส่วนหาญก็เดินตามเพื่อนมาติดๆ
พลางนึกถึงหมาแพคที่ตอนนี้ก็เกือบจะชั่วโมงแล้วที่หายไปดมขี้ในห้องน้ำ นั่นไง มาละ
“มึงไปไหนมาครับบักหมาแบค”
“พอดีมีเรื่องนิดหน่อยว่ะ
อยากเสือกแต่ขอไม่บอก”
-แท็ก #BCsekai
มารีไรท์ค่ะ
มาเปลี่ยนตรงโลเคชั่นเป็นเมืองไทย เขียนออกง่ายดี
ชื่อก็เป็นคนไทยแต่ก็มีลูกครึ่งเด้อ และเปลี่ยนเนื้อหานิดหน่อย
เราอ่านแล้วมันตลกๆดี หมายถึงแต่งเนื้อเรื่องอะไรของเราเนี้ย แต่ก็ยังอยากแต่ง
ฮ่าาาาาาาา
ความคิดเห็น