ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO] Bad Choose เป็นผมได้ไหมคับพี่ชาย SeKai

    ลำดับตอนที่ #5 : Bad Choose 4 - The car - *Rewrite

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ค. 60


    BAD CHOOSE

    -4-

     

                วันนี้กายโปร่งลุกขึ้นมาในเวลา 04:47 นาที ตื่นขึ้นทั้งที่ไม่ใช่เวลาตื่นปกติเพราะเมื่อคืนฝันไม่ค่อยดีพาลเอาตื่นอีกรอบแล้วไม่อยากนอนต่อ ลุกขึ้นมาเดินไปที่ตู้เย็นหยิบขวดน้ำเปล่าขึ้นมาดื่มแก้กระหาย

     

                “เมี้ยว~

     

                เหลียวมองทางเข้าประตูห้องครัวมีสิ่งมีชีวิตสองขา(สั้น)ตัวสีขาวนวลเดินยืดแข้งยืดขาตรงมาหาเขาที่กำลังขยับเก้าอี้เพื่อที่จะนั่ง

     

                “ไงเรา ตื่นเช้าจังนะยอโบ” มือสีน้ำผึ้งเอื้อมลงไปลูบหัวเจ้าแมวขี้อ้อนที่กำลังคลอเคลียขาแสดงความเป็นเจ้านายแล้วเขาเป็นทาสอยู่

     

                “เมี้ยว~ ครืด~ ครืด~” ตาสีเทาอมเขียวแหงนขึ้นมองหน้าเจ้าของที่กำลังลูบหัวมัน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นหลับตาพริ้ม มันคงรู้สึกผ่อนคลายเมื่อโดนเกาส่วนที่เป็นจุดอ่อนของมันนั่นก็คือคอ

     

                “สบายล่ะสิ เกิดเป็นแมวจะฝันไหมเหมือนคนไหมนะเมื่อกี้ฉันฝันไม่ดีเอาซะเลย” ดวงตาของไคดูหม่นลงไปเมื่อคิดถึงฝันที่ทำให้เขาตื่นมาตอนเช้ามืดขนาดนี้ ถอนหายใจก่อนที่จะพูดความฝันให้แมวที่เขาอุ้มมานั่งบนตักฟัง “ฉันฝันค่อนข้างน่ากลัวเลยล่ะ ฉันฝันถึงผีน่ะ มันดูเหมือนจริงมากเลยมันจะไม่เป็นจริงใช่ไหมยอโบ” ไคนึกถึงเรื่องความฝันที่เขาคิดมากให้เจ้าแมวน้อยฟังพลางลูบขนมันไปด้วย แต่เจ้าตัวเล็กก็ชิงนอนไปอีกรอบซะก่อน เขายิ้มน้อยที่มุมปาก รู้สึกสบายใจขึ้นมาเล็กน้อยที่ได้พูดระบายกับสิ่งมีชีวิตที่มันไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย เขาค่อยๆโอบอุ้มร่างน้อยๆของมันไปนอนบนที่นอนสีเขียวด้านหนึ่งของโซฟา ก่อนจะนำร่างตัวเองมาข่มตานอนในห้องนอนของตัวเองต่อ ในหัวยังมึนๆคงดีถ้าจะนอนต่ออีกสักหน่อย และกว่าจะได้เรียนก็ช่วงบ่าย เลยอยากนอนให้ลืมๆฝันนั้นแล้วมีความฝันใหม่มาแทนที่ มันอาจจะดีขึ้นก็ได้ ระหว่างเดินกลับมานอนในห้องก็เหลือบไปเห็นหูฟังสีแดงของรุ่นพี่ตัวสูงที่วางอยู่บนโต๊ะห้องรับแขก

     

                “ฉันจะเอานายไปส่งเจ้าของยังไงดีล่ะเนี้ย”

     

    นี่ก็วันพฤหัสบดีละที่หูฟังสีแดงอยู่กับเขา นับจากวันจันท์ก็เกือบ 3-4 วัน มาแล้วที่มันมาอยู่กับเขา ไคขึ้นดาดฟ้าไปทุกวันหวังว่าคงจะเจอรุ่นพี่ แต่ไปก็ไม่เจอเจ้าของร่างแกร่งอีกเลย วันนี้เลยกะว่าจะเอาไปให้ที่คณะซะหน่อย ไม่รู้ว่าพี่เขาจะมีเรียนหรือเปล่า แต่ก็อยากเอาไปคืนให้นั่นแหละ เจอไม่เจอค่อยว่ากันอีกที นี่ก็หลายวันมาแล้วมันคงไม่ดีถ้ายังอยู่กับเขาแบบนี้ เหมือนขโมยเลย ไคเดินมานอนที่ห้องแล้วลงไปนอนฟุบหน้าลงกับหมอนทันที ก่อนจะหันหน้ามามองที่โต๊ะวางโคมไฟบนหัวเตียง แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเกมส์ กว่าจะได้นอนอีกที่ก็เกือบๆเจ็ดโมงเช้า เช้านี้เขาไม่ได้เรียนจึงไม่ต้องกังวลเรื่องไปเรียนสาย แต่ไม่กังวลเลยว่ามีบางเรื่องที่จะทำให้เขาเกือบไปเรียนสายในวันนี้

     

    ไคตื่นมาในเวลาสิโมงนิดๆ เขารู้สึกไม่สดชื่นแถมยังปวดหัวนิดหน่อยคงเป็นเพราะนอนเยอะเกินไป ตอนนี้ร่างโปร่งอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนลายหมีสีน้ำตาล เขาไม่ได้ชอบหรอกแต่ก็ไม่ได้เกลียด แม่ของเขามักจะบอกว่าเจ้าหมีริลัคคุมะว่า น่ารักจังเลย ดูสิทำหน้าอึนเหมือนหนูไคซะด้วย เพราะแม่บอกว่าหมีสีน้ำตาลตัวนั้นหน้าเหมือนหนูไคเลยซื้ออะไรเป็นเจ้าลายหมีสีน้ำตาลเอาไว้เยอะพอควร ไม่ว่าจะเป็นชุดนอน แก้วน้ำ หรือผ้าห่ม เขาก็ไม่ได้ขัดหรอก แต่มันเยอะเกิน ตอนเด็กๆเขาจำได้ว่ามีเพื่อนผู้ชายมาแซวเกือบจะทุกวัน เขาก็เขินเป็นนะ ทั้งยังเป็นผู้ชายซะด้วย บางวันกลับบ้านมาร้องไห้ก็มี

    อาหารที่เพิ่งจะปรุงเสร็จใหม่ๆวางบนโต๊ะเตรียมพร้อมทาน แต่ก่อนทานร่างโปร่งเพิ่งนึกได้ว่าลืมเอาอาหารให้เจ้ายอโบ ถอดผ้ากันเปื้อนออกไปหยิบถุงอาหารเม็ดเทให้เจ้านายตัวน้อย แล้วกลับมาทานอาหารต่อก่อนที่จะอาบน้ำแต่งตัวไปเรียน

     

     

     

     

     

                “เป็นอะไรขึ้นมาล่ะเนี้ย”

    กายสีน้ำผึ้งขับรถออกมาได้เกือบๆจะถึงเขตมหาลัยรถก็เกิดกระตุกแล้ววูบดับลงไป จะลงไปดูก็คงไม่รู้สาเหตุเพราะซ่อมไม่เป็น เลยคลำหาโทรศัพท์ที่ใส่ไว้ในกระเป๋าเพื่อที่จะโทหาช่างซ่อมรถ พอหยิบได้กดปุ่มไหนหน้าจอก็ไม่ขึ้นแสงเลย พอนึกถึงเหตุผลของอาการนี้ขึ้นได้ก็ถึงกับทำหน้าเหวอคนเดียวในรถ คงเป็นตอนที่เขาเล่นเกมส์แล้วไม่ได้ชาร์จแบตโทรศัพท์เอาไว้แน่ๆ แล้วทำไมต้องมาหมดเอาตอนนี้ด้วยนะไม่น่าเล่นเกมส์เลย แต่ถึงจะเล่นก็ควรสังเกตแบตโทรศัพท์มั้งเถอะ ตอนนี้ไคกำลังหัวเสียกับความสับเพร่าของตนเอง บ่นเสียงงุ้งงิ้งทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ร่อมร่อ พอลงจากรถมามองดูลาดเลาก็เหลือเกือบๆหนึ่งกิโลที่จะถึงหน้ามอ จะจอดรถทิ้งไว้ก็กลัวว่าจะหาย เรื่องเรียนเขาก็ไม่อยากสายในวันแรกของวิชานี้  ทำไมต้องมาเสียในเวลาเร่งรีบแบบนี้ด้วยนะ สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะเดินไปที่หน้ามอ ตรงนั้นมีป้อมยามอยู่ เขาคงต้องขอความช่วยเหลือจากลุงยามโดยการยืมโทรศัพท์เพื่อโทรหาอู่ซ่อมรถให้ยกรถไปซ่อม และเรื่องไปเรียนคงใช้รถโดยสารภายในมอแทน เขาไม่เคยขึ้นรถโดยสารภายในมอจึงไม่รู้ว่าจะขึ้นคันไหน สายไหน ไม่รู้ว่าจะทันเวลาที่เขาไปเรียนไหม อาจจะโชคดีที่สายน้อยหรือโชคร้ายที่สายมากๆแล้วอาจารย์ล็อคห้อง ครั้งหน้าเขาคงต้องศึกษาเรื่องรถโดยสารบ้างแล้วล่ะ ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกจะได้ไปเรียนให้ทันท่วงที

     

    แป๊ดๆ!

     

    เสียงแตรรถบิ๊กไบค์ Honda CBR300R สีแดงเกือบทั้งคันเรียกให้คนที่กำลังเดินหน้ามุ่ยหยุดเดินแล้วหันหลังไปมอง รถคันนั้นจอดด้านหน้ารถของเขาก่อนที่เจ้าของจะเปิดหน้ากากหมวกกันน็อค(ยี่ห้อ Arai สีดำราคาแพงหูฉี่ที่สามารถซื้อบิ๊กไบค์ได้อีกคัน ) มองคนที่ทำหน้างอจับสายกระเป๋าสีเขียวอ่อนหนึ่งใบ

     

    “รถเสียหรอครับคุณ”

    “อ่าครับ” ไคกระพริบตาปริบๆมองคนตรงหน้า

     อ้าว ไคนี่

    รู้จักผมด้วยหรอครับ ?”

    เราเพิ่งเจอกันเมื่อต้นอาทิตย์นี้เองนะ

    เพ็งสายตามองอีกคนที่กำลังถอดหมวกกันน็อคออกก่อนที่จะอ้าปากร้องอ๋อ และยกมือขึ้นสวัสดีตามที่พี่ๆในคณะบอกไว้ว่าให้ยกมือไหว้รุ่นพี่ทุกคนในมหาลัย สวัสดีครับพี่เซน

     “สวัสดีครับรุ่นน้อง พอจะรู้ไหมว่ารถเสียตรงไหน” เซนถอดกุญแจรถแล้วเดินเข้ามาใกล้ไค ปากสีชมพูที่มีสีคล้ำหน่อยๆจากการสูบบุหรี่เอ่ยถามคนหน้าหมีที่กำลังทำหน้าหงอยมองรถตัวเอง

    “ผมไม่รู้เสียตรงไหนหรอกครับผมดูไม่เป็น” ไคหันไปมองรถตัวเองแล้วถอนหายใจกับอาการของรถตรงหน้า

                “อาการมันเป็นยังไงล่ะ”

                “ผมขับอยู่ดีๆมันก็กระตุกแล้วดับวูบลงไปครับ”

                “อืมพี่ก็ซ่อมไม่เป็นนะ คงต้องตามช่างแล้วล่ะ แล้วเราโทรหาช่างซ่อมยังล่ะ”

                “คือโทรศัพท์ผมแบตหมด” ไคยิ้มแหยๆ

                อ่ะ ใช้โทรศัพท์พี่แล้วกันคนตัวสูงกว่าล้วงเอาโทรศัพท์เครื่องแพงจัดการปลดล็อคเครื่องแล้วยื่นให้รุ่นน้องที่กำลังทำหน้าดีใจอยู่ตรงหน้า เห็นแล้วอยากแกล้งชะมัด

                “ขอบคุณครับปากสีสวยยิ้มซะจนแก้มแทบปริแล้วยื่นมือรับโทรศัพท์จากคนด้านหน้า แต่พอจะกดหมายเลขร้านก็เพิ่งมานึกขึ้นได้ว่าเบอร์โทรนั้นอยู่ในเครื่องของตนที่แบตหมดไปแล้วและเขาก็จำไม่ได้ด้วย

                คือผมขอรบกวนถามว่าในเครื่องพี่พอจะมีเบอร์โทรร้านซ่อมไหมครับ คือเบอร์อยู่ในโทรศัพท์ผมอะครับ สีหน้าของคนที่ต้องการความช่วยเหลือขมวดคิ้วจนแทบจะชนกัน

                “’ถ้าอย่างนั้นไปร้านพี่ชายพี่ไหม เดี๋ยวพี่โทรคุยให้เลยมือหนายื่นไปรับเครื่องมือสื่อสารของตนจากคนที่กลับมาทำหน้าดีใจเหมือนกับเมื่อกี้

                “อย่างงั้นก็ขอบคุณอีกครั้งครับคนน่ารักโค้งให้เซนทีนึงก่อนที่เขาจะโทรหาช่างให้

     

    “ฮัลโหลเฮีย” เสียงที่พูดกับไคเป็นอีกเสียงนึง และเสียงที่พูดกับคนที่เป็นพี่ชายก็ต้องเป็นอีกเสียงนึงตามประสาคนที่สนิทกันมากๆ

                ว่าไงน้องรักปลายสายทำเสียงน้อยเสียงหวานให้คนต้นสายคันเท้าเบาๆ

                “โทรบอกไอ้เติ้ลมายกรถเข้าอู่ซ่อมหน่อย” ถอนหายใจก่อนจะบอกจุดประสงค์ที่โทรมาให้พี่ชายรับรู้

                ‘รถแกเสียอีกแล้ว? เพิ่งจะเอา ฉลาม ออกมาโฉบก็เสียอีกแล้วหรอ รถเพิ่งออกจากอู่เลยนะเว้--’ จากเสียงอ่อนหวานกลายเป็นเสียงบ่นไปในบัดดล

                “ไม่ใช่ฉลาม” เซนแทรกเสียงพี่ชายก่อนที่จะบ่นต่อ

                ‘รถกิ๊กสาวนมโต?’ เปลี่ยนเป็นเสียงอยากรู้อยากเห็นมาทันที

                “เปล่า” พูดปฏิเสธกิ๊กสาวนมโตแต่เบนตาไปมองร่างโปร่งนมแบน แล้วยิ้มออกมา “เฮียบอกไอ้เติ้ลออกมายกไปเถอะ”

                เออๆ แถวไหนไม่อยากให้รู้กูตามสืบได้จ้า

                “ห่างจากประตูมอประมาณโลนึง แค่นี้นะครับ” พอคุยธุระเสร็จก็กดตัดสายพี่ชายผู้น่าสงสาร(?)ในทันที

     

                “รอประมาณสิบนาทีคงมาถึงนะ”

                “ขอบคุณครับพี่เซน”

                “ไม่เป็นไรหรอก แล้วนี่เราจะไปไหนต่อล่ะ”

                “…!” ร่างโปร่งไม่ได้ตอบคำถามของรุ่นพี่ แต่กลับทำตาโตรีบยกนาฬิกาข้อมือสายหนังสีน้ำตาลมาดูเวลาแทน ตาสีน้ำตาลเข้มเพ่งมองดูเข็มยาวของนาฬิกาที่กำลังจะชี้ตรงเลขเจ็ด นี่มันเที่ยงสามสิบห้านาทีแล้วหรอ เขามีเรียนตอนบ่ายโมงตรง พี่เซนบอกให้รอสิบนาทีเขากะไปซักสิบห้านาที ก็เป็นเวลาเที่ยงห้าสิบ กว่าจะหารถเข้าในอาคารเรียนก็คงเสียเวลามากกว่าสิบนาทีที่เหลือแน่ วันนี้เขาสายแล้วแน่ๆ

                “เรามีเรียนต่อตอนบ่ายโมงนี่หรอ?” เหมือนคนอยุมากกว่าจะรู้ว่าอีกคนต้องมีเรียนต่อแน่ๆ สังเกตหน้าอีกคนที่บูดบึ้งเบะปากอยู่สิ

                “ครับ” หน้าผากมนของไคเริ่มมีเหงื่อเพิ่มมากขึ้น อาจเป็นเพราะอากาศร้อนไม่ก็กังวลเรื่องไปเรียนสายเป็นแน่ถึงเป็นแบบนี้ แต่เซนคิดว่าเป็นทั้งคู่แหละ

    “ไม่ต้องกังวลหรอก ไม่นานแน่ๆ”

                “ครับ” ไคพยักหน้าพลางขมวดคิ้วไปด้วย เขาไม่อยากสายเลยจริงๆ นี่เพิ่งจะอาทิตย์แรก และวิชานี้เขาก็เข้าเรียนเป็นคาบแรกซะด้วย

     

                ~ 10 นาทีผ่านไป~

     

                “นั้นไง”

                ไคเหลียวมองรถคันหนึ่งซึ่งคงจะเป็นรถที่มาลากรถเขาเข้าอู่ เขารู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมากที่ไม่ได้ทิ้งมันไว้ข้างถนน เมื่อมาถึงช่างซ่อมก็ทักทายพี่เซนนิดหน่อยแต่ดูแล้วก็เหมือนจะสนิทกัน ช่างซ่อมมีชื่อเติ้ล ไครู้ก็ตอนที่เขายื่นนามบัตรของร้าน ต.เติ้ล ให้แล้วช่างซ่อมก็แนะนำตัวยิ้มร่า

    “สวัสดี พี่ชื่อเติ้ลนะ เด็กใหม่เซนมันหรอ?” พี่ที่มายกรถของเขาชื่อว่าเติ้ลและกำลังยิงคำถามใส่ไคจนเจ้าตัวมึนๆงงๆ

    “...สวัสดีครับ” ไคหน้าเหวอเมื่อโดนคำถามอะไรแบบนี้ เด็กใหม่อะไรกัน เขาเลือกไม่ตอบแล้วกัน

                “หึ เอาเบอร์ร้านให้น้องเขาซะ แล้วกลับไปได้แล้ว”

                พอจัดการให้รถลากจูงไปก็จัดการเรื่องติดต่อกับทางร้านและระยะเวลาที่ทำการซ่อมเสร็จสรรพ ร่างโปร่งก็พลิกข้อมือดูนาฬิกาจนทำให้ตาคู่สวยแทบถลนออกจากเบ้านี่มันใกล้จะถึงเวลาเรียนแล้ว

    ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวนะครับ ขอบคุณนะครับ พี่เซน พี่เติ้ลรีบยกมือขอบคุณคนตรงหน้าแล้วกระชัดกระเป๋าเป้เตรียมวิ่งไปที่รถโดยสารในมอ

    “แล้วนั่นเราจะเดินไปเรียนหรือไง” เซนถามอีกคนที่ตั้งท่าจะวิ่งไปข้างหน้าต่อ และกำลังจะทิ้งเขาไว้ตรงนี้

                “เดินไปป้อมยามครับ ตรงนั้นมีรถโดยสารเข้ามอครับ อ่อ ผมไปแล้วนะครับ สวัสดีครับ!” ไคกำลังจะตั้งท่าวิ่งออกไปอีกรอบ

                “ก็ไปกับไอ้เซนมันสิน้องไค” เสียงของช่างซ่อมดังขึ้นมาจนหยุดให้ขาเรียวนั้นหยุดชะงัก

                ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่นี้ก็เสียเวลาพี่เซนเขามากแล้ว ขอบคุณนะครับ

                “ไปกับพี่นี่แหละ ป่ะ เราเรียนตึกไหน

                “เอ่อ..ตึกคณะวิทย์ครับ”

                “ป่ะ ถ้าไม่อยากสายอย่าดื้อ”

    เขาไม่ได้ดื้อนะ จริงๆก็แค่เกรงใจแหละแต่ก็กลัวมากเหมือนกัน จะให้เขาไปนั่งมอเตอร์ไซค์เขาทำใจลำบากจริงๆ เพราะตอนเด็กเขาเห็นพี่ขุนนั่งซ้อนท้ายพี่โมเดล ซึ่งทั้งสองก็เป็นลูกของเพื่อนแม่ที่สนิทกันมากๆ ไม่รู้ว่าทั้งคู่ไปทำอิท่าไหนทำให้ร่างขาวๆของพี่ขุนหงายหลังตกลงมาจากรถ มีแผลถลอกเต็มตัวแถมยังร้องไห้จ้า จนพี่โมเดลร้องไห้ออกมาด้วยอีกคน ไคเห็นภาพนั้นกับตาจึงจำฝังใจ สัญญากับตัวเองว่าจะไม่นั่งยานพาหนะสองล้ออีก แต่วันนี้เขาจำเป็นต้องพึ่งมันอะแหละ

    รุ่นพี่เซนยื่นหมวกกันน็อคอีกใบที่วางบนตัวถังรถให้ไค ไครับหมวกกันน็อคของอีกคนมาใส่ ท่าเก้ๆกังๆของอีกคนทำให้เซนแอบยิ้มออกมา ดูเด็กจริงๆเลยไค ไม่เคยซ้อนรถมอร์ไซค์เลยหรือไงนะ

    “ผมจะไม่ตกรถใช่ไหม” พอปีนขึ้นมานั่งบนรถได้ ไคก็เกิดกังวลขึ้นมาอีก ตอนนี้ไคกำลังทำปากเบะเหมือนคนจะร้องไห้รอมร่ออยู่แน่ๆ

                “พี่ไม่ทำเราตกหรอกน่า ถ้าเราเกาะดีๆ”

    ไคผู้ไม่เคยนั่งรถมอเตอร์ไซค์ ไม่รู้จะเอามือไปเกาะตรงไหน หัวซ้ายหันขวา เขากลัวจริงๆแหละ

    “จับเสื้อพี่ก็ได้” ไคยื่นมือสีแทนไปจับเสื้อหนังสีดำรุ่นพี่ตัวขาวไว้อย่างไม่อิดออด “ไปล่ะไอ้เติ้ล” ก่อนที่เซนจะสวมหมวกกันน็อคก็หันไปบอกลาเพื่อนสมัยมอต้นที่ผันตัวไปเป็นช่างซ่อม มีอู่ถัดไปจากบ้านเขาสองสามซอย กิจการมันก็ดีนะ มีสาวติดเยอะด้วย

    “บายไอ้เซน ดูแลแฟนเด็กดีๆล่ะ”

    เซนหันมายิ้มให้เติ้ลพร้อมกับยักคิ้วอย่างรู้กัน พอรถออกตัวมือที่กำเสื้อหนังสีดำของคนขับบีบแน่นขึ้น เสียงท่อรถดังสนั่นทำให้คนซ้อนข้างหลังหูแทบอื้อ ทำไมถึงชอบขับรถที่มันเสียงดังๆไปทำไมนะ

     

     

     

     

    ไคมาถึงห้องในเวลาที่เฉียดฉิวไปก่อนหน้าอาจารย์แค่ไม่กี่นาที ต้องขอบคุณพี่เซนมากๆนะครับ อ่ะ...ลืมคืนหูฟังอีกแล้ว...

     

     

     

     

                “นักศึกษาโอเซน คุณมาสายไปห้านาที”

                “ขอโทษครับ ครั้งหน้าผมจะสายให้ต่ำกว่าห้านาที”

     

               

     

     

     

    26.8.59

                ไหนว่าจะมาเร็วๆ 555555555555555555555555 ขอโทดค่าาาาาา ยังยืนยันว่าจะแต่งเรื่องนี้จนจบ จะพยายามนะคะ ได้บัตรคอนกันไหมเอ่ย ไรต์ดีใจมากที่ไม่นก ฮือออออออออ ขอบคุณที่เม้น+เฟบนะคะ กำลังใจดีเลยค่ะ ><

     

    -ฝากเม้นเป็นกำลังใจให้ไรต์พุงน้อยหน่อยนะคะ เลิ๊ฟฟฟฟ-

     

    25.9.59    100% สั้นมากค่ะตอนนี้ 55555

                ไรท์ติดวิจัยอย่างหนักหน่วงค่ะ T^T ตอนนึงล่อไปเป็นเดือน ฮือออออออออออออออออออออ ขอโทดค่า

     

    07/05/60

    รีไรท์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×