คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Bad Choose 4 - The car - *Rewrite
BAD
CHOOSE
-4-
วันนี้กายโปร่งลุกขึ้นมาในเวลา 04:47 นาที
ตื่นขึ้นทั้งที่ไม่ใช่เวลาตื่นปกติเพราะเมื่อคืนฝันไม่ค่อยดีพาลเอาตื่นอีกรอบแล้วไม่อยากนอนต่อ
ลุกขึ้นมาเดินไปที่ตู้เย็นหยิบขวดน้ำเปล่าขึ้นมาดื่มแก้กระหาย
“เมี้ยว~”
เหลียวมองทางเข้าประตูห้องครัวมีสิ่งมีชีวิตสองขา(สั้น)ตัวสีขาวนวลเดินยืดแข้งยืดขาตรงมาหาเขาที่กำลังขยับเก้าอี้เพื่อที่จะนั่ง
“ไงเรา
ตื่นเช้าจังนะยอโบ” มือสีน้ำผึ้งเอื้อมลงไปลูบหัวเจ้าแมวขี้อ้อนที่กำลังคลอเคลียขาแสดงความเป็นเจ้านายแล้วเขาเป็นทาสอยู่
“เมี้ยว~ ครืด~ ครืด~”
ตาสีเทาอมเขียวแหงนขึ้นมองหน้าเจ้าของที่กำลังลูบหัวมัน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นหลับตาพริ้ม
มันคงรู้สึกผ่อนคลายเมื่อโดนเกาส่วนที่เป็นจุดอ่อนของมันนั่นก็คือคอ
“สบายล่ะสิ เกิดเป็นแมวจะฝันไหมเหมือนคนไหมนะ… เมื่อกี้ฉันฝันไม่ดีเอาซะเลย…” ดวงตาของไคดูหม่นลงไปเมื่อคิดถึงฝันที่ทำให้เขาตื่นมาตอนเช้ามืดขนาดนี้ ถอนหายใจก่อนที่จะพูดความฝันให้แมวที่เขาอุ้มมานั่งบนตักฟัง
“ฉันฝันค่อนข้างน่ากลัวเลยล่ะ ฉันฝันถึงผีน่ะ…
มันดูเหมือนจริงมากเลย… มันจะไม่เป็นจริงใช่ไหมยอโบ” ไคนึกถึงเรื่องความฝันที่เขาคิดมากให้เจ้าแมวน้อยฟังพลางลูบขนมันไปด้วย
แต่เจ้าตัวเล็กก็ชิงนอนไปอีกรอบซะก่อน เขายิ้มน้อยที่มุมปาก
รู้สึกสบายใจขึ้นมาเล็กน้อยที่ได้พูดระบายกับสิ่งมีชีวิตที่มันไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย
เขาค่อยๆโอบอุ้มร่างน้อยๆของมันไปนอนบนที่นอนสีเขียวด้านหนึ่งของโซฟา ก่อนจะนำร่างตัวเองมาข่มตานอนในห้องนอนของตัวเองต่อ
ในหัวยังมึนๆคงดีถ้าจะนอนต่ออีกสักหน่อย และกว่าจะได้เรียนก็ช่วงบ่าย
เลยอยากนอนให้ลืมๆฝันนั้นแล้วมีความฝันใหม่มาแทนที่ มันอาจจะดีขึ้นก็ได้
ระหว่างเดินกลับมานอนในห้องก็เหลือบไปเห็นหูฟังสีแดงของรุ่นพี่ตัวสูงที่วางอยู่บนโต๊ะห้องรับแขก
“ฉันจะเอานายไปส่งเจ้าของยังไงดีล่ะเนี้ย”
นี่ก็วันพฤหัสบดีละที่หูฟังสีแดงอยู่กับเขา
นับจากวันจันท์ก็เกือบ 3-4 วัน มาแล้วที่มันมาอยู่กับเขา ไคขึ้นดาดฟ้าไปทุกวันหวังว่าคงจะเจอรุ่นพี่
แต่ไปก็ไม่เจอเจ้าของร่างแกร่งอีกเลย วันนี้เลยกะว่าจะเอาไปให้ที่คณะซะหน่อย
ไม่รู้ว่าพี่เขาจะมีเรียนหรือเปล่า แต่ก็อยากเอาไปคืนให้นั่นแหละ
เจอไม่เจอค่อยว่ากันอีกที นี่ก็หลายวันมาแล้วมันคงไม่ดีถ้ายังอยู่กับเขาแบบนี้
เหมือนขโมยเลย… ไคเดินมานอนที่ห้องแล้วลงไปนอนฟุบหน้าลงกับหมอนทันที
ก่อนจะหันหน้ามามองที่โต๊ะวางโคมไฟบนหัวเตียง แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเกมส์ กว่าจะได้นอนอีกที่ก็เกือบๆเจ็ดโมงเช้า
เช้านี้เขาไม่ได้เรียนจึงไม่ต้องกังวลเรื่องไปเรียนสาย
แต่ไม่กังวลเลยว่ามีบางเรื่องที่จะทำให้เขาเกือบไปเรียนสายในวันนี้
ไคตื่นมาในเวลาสิโมงนิดๆ
เขารู้สึกไม่สดชื่นแถมยังปวดหัวนิดหน่อยคงเป็นเพราะนอนเยอะเกินไป
ตอนนี้ร่างโปร่งอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนลายหมีสีน้ำตาล
เขาไม่ได้ชอบหรอกแต่ก็ไม่ได้เกลียด แม่ของเขามักจะบอกว่าเจ้าหมีริลัคคุมะว่า ‘น่ารักจังเลย
ดูสิทำหน้าอึนเหมือนหนูไคซะด้วย’ เพราะแม่บอกว่าหมีสีน้ำตาลตัวนั้นหน้าเหมือนหนูไคเลยซื้ออะไรเป็นเจ้าลายหมีสีน้ำตาลเอาไว้เยอะพอควร
ไม่ว่าจะเป็นชุดนอน แก้วน้ำ หรือผ้าห่ม เขาก็ไม่ได้ขัดหรอก แต่มันเยอะเกิน
ตอนเด็กๆเขาจำได้ว่ามีเพื่อนผู้ชายมาแซวเกือบจะทุกวัน เขาก็เขินเป็นนะ
ทั้งยังเป็นผู้ชายซะด้วย บางวันกลับบ้านมาร้องไห้ก็มี
อาหารที่เพิ่งจะปรุงเสร็จใหม่ๆวางบนโต๊ะเตรียมพร้อมทาน
แต่ก่อนทานร่างโปร่งเพิ่งนึกได้ว่าลืมเอาอาหารให้เจ้ายอโบ
ถอดผ้ากันเปื้อนออกไปหยิบถุงอาหารเม็ดเทให้เจ้านายตัวน้อย แล้วกลับมาทานอาหารต่อก่อนที่จะอาบน้ำแต่งตัวไปเรียน
“เป็นอะไรขึ้นมาล่ะเนี้ย”
กายสีน้ำผึ้งขับรถออกมาได้เกือบๆจะถึงเขตมหาลัยรถก็เกิดกระตุกแล้ววูบดับลงไป
จะลงไปดูก็คงไม่รู้สาเหตุเพราะซ่อมไม่เป็น
เลยคลำหาโทรศัพท์ที่ใส่ไว้ในกระเป๋าเพื่อที่จะโทหาช่างซ่อมรถ
พอหยิบได้กดปุ่มไหนหน้าจอก็ไม่ขึ้นแสงเลย พอนึกถึงเหตุผลของอาการนี้ขึ้นได้ก็ถึงกับทำหน้าเหวอคนเดียวในรถ
คงเป็นตอนที่เขาเล่นเกมส์แล้วไม่ได้ชาร์จแบตโทรศัพท์เอาไว้แน่ๆ
แล้วทำไมต้องมาหมดเอาตอนนี้ด้วยนะไม่น่าเล่นเกมส์เลย แต่ถึงจะเล่นก็ควรสังเกตแบตโทรศัพท์มั้งเถอะ
ตอนนี้ไคกำลังหัวเสียกับความสับเพร่าของตนเอง บ่นเสียงงุ้งงิ้งทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ร่อมร่อ
พอลงจากรถมามองดูลาดเลาก็เหลือเกือบๆหนึ่งกิโลที่จะถึงหน้ามอ
จะจอดรถทิ้งไว้ก็กลัวว่าจะหาย เรื่องเรียนเขาก็ไม่อยากสายในวันแรกของวิชานี้ ทำไมต้องมาเสียในเวลาเร่งรีบแบบนี้ด้วยนะ สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะเดินไปที่หน้ามอ
ตรงนั้นมีป้อมยามอยู่ เขาคงต้องขอความช่วยเหลือจากลุงยามโดยการยืมโทรศัพท์เพื่อโทรหาอู่ซ่อมรถให้ยกรถไปซ่อม
และเรื่องไปเรียนคงใช้รถโดยสารภายในมอแทน
เขาไม่เคยขึ้นรถโดยสารภายในมอจึงไม่รู้ว่าจะขึ้นคันไหน สายไหน ไม่รู้ว่าจะทันเวลาที่เขาไปเรียนไหม
อาจจะโชคดีที่สายน้อยหรือโชคร้ายที่สายมากๆแล้วอาจารย์ล็อคห้อง
ครั้งหน้าเขาคงต้องศึกษาเรื่องรถโดยสารบ้างแล้วล่ะ
ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกจะได้ไปเรียนให้ทันท่วงที
แป๊ดๆ!
เสียงแตรรถบิ๊กไบค์ Honda CBR300R สีแดงเกือบทั้งคันเรียกให้คนที่กำลังเดินหน้ามุ่ยหยุดเดินแล้วหันหลังไปมอง
รถคันนั้นจอดด้านหน้ารถของเขาก่อนที่เจ้าของจะเปิดหน้ากากหมวกกันน็อค(ยี่ห้อ Arai
สีดำราคาแพงหูฉี่ที่สามารถซื้อบิ๊กไบค์ได้อีกคัน ) มองคนที่ทำหน้างอจับสายกระเป๋าสีเขียวอ่อนหนึ่งใบ
“รถเสียหรอครับคุณ”
“อ่า…ครับ” ไคกระพริบตาปริบๆมองคนตรงหน้า
“อ้าว ไคนี่”
“รู้จักผมด้วยหรอครับ
?”
“เราเพิ่งเจอกันเมื่อต้นอาทิตย์นี้เองนะ”
เพ็งสายตามองอีกคนที่กำลังถอดหมวกกันน็อคออกก่อนที่จะอ้าปากร้องอ๋อ
และยกมือขึ้นสวัสดีตามที่พี่ๆในคณะบอกไว้ว่าให้ยกมือไหว้รุ่นพี่ทุกคนในมหาลัย “สวัสดีครับพี่เซน”
“สวัสดีครับรุ่นน้อง… พอจะรู้ไหมว่ารถเสียตรงไหน” เซนถอดกุญแจรถแล้วเดินเข้ามาใกล้ไค
ปากสีชมพูที่มีสีคล้ำหน่อยๆจากการสูบบุหรี่เอ่ยถามคนหน้าหมีที่กำลังทำหน้าหงอยมองรถตัวเอง
“ผมไม่รู้เสียตรงไหนหรอกครับ…ผมดูไม่เป็น” ไคหันไปมองรถตัวเองแล้วถอนหายใจกับอาการของรถตรงหน้า
“อาการมันเป็นยังไงล่ะ”
“ผมขับอยู่ดีๆมันก็กระตุกแล้วดับวูบลงไปครับ”
“อืม…พี่ก็ซ่อมไม่เป็นนะ คงต้องตามช่างแล้วล่ะ แล้วเราโทรหาช่างซ่อมยังล่ะ”
“คือ…โทรศัพท์ผมแบตหมด” ไคยิ้มแหยๆ
“อ่ะ ใช้โทรศัพท์พี่แล้วกัน” คนตัวสูงกว่าล้วงเอาโทรศัพท์เครื่องแพงจัดการปลดล็อคเครื่องแล้วยื่นให้รุ่นน้องที่กำลังทำหน้าดีใจอยู่ตรงหน้า
เห็นแล้วอยากแกล้งชะมัด
“ขอบคุณครับ” ปากสีสวยยิ้มซะจนแก้มแทบปริแล้วยื่นมือรับโทรศัพท์จากคนด้านหน้า
แต่พอจะกดหมายเลขร้านก็เพิ่งมานึกขึ้นได้ว่าเบอร์โทรนั้นอยู่ในเครื่องของตนที่แบตหมดไปแล้วและเขาก็จำไม่ได้ด้วย…
“คือ…ผมขอรบกวนถามว่าในเครื่องพี่พอจะมีเบอร์โทรร้านซ่อมไหมครับ
คือ…เบอร์อยู่ในโทรศัพท์ผมอะครับ… ”
สีหน้าของคนที่ต้องการความช่วยเหลือขมวดคิ้วจนแทบจะชนกัน
“’ถ้าอย่างนั้นไปร้านพี่ชายพี่ไหม
เดี๋ยวพี่โทรคุยให้เลย” มือหนายื่นไปรับเครื่องมือสื่อสารของตนจากคนที่กลับมาทำหน้าดีใจเหมือนกับเมื่อกี้
“อย่างงั้นก็ขอบคุณอีกครั้งครับ”
คนน่ารักโค้งให้เซนทีนึงก่อนที่เขาจะโทรหาช่างให้
“ฮัลโหลเฮีย”
เสียงที่พูดกับไคเป็นอีกเสียงนึง และเสียงที่พูดกับคนที่เป็นพี่ชายก็ต้องเป็นอีกเสียงนึงตามประสาคนที่สนิทกันมากๆ
‘ว่าไงน้องรัก’ ปลายสายทำเสียงน้อยเสียงหวานให้คนต้นสายคันเท้าเบาๆ
“โทรบอกไอ้เติ้ลมายกรถเข้าอู่ซ่อมหน่อย”
ถอนหายใจก่อนจะบอกจุดประสงค์ที่โทรมาให้พี่ชายรับรู้
‘รถแกเสียอีกแล้ว? เพิ่งจะเอา ‘ฉลาม’
ออกมาโฉบก็เสียอีกแล้วหรอ รถเพิ่งออกจากอู่เลยนะเว้--’ จากเสียงอ่อนหวานกลายเป็นเสียงบ่นไปในบัดดล
“ไม่ใช่ฉลาม” เซนแทรกเสียงพี่ชายก่อนที่จะบ่นต่อ
‘รถกิ๊กสาวนมโต?’
เปลี่ยนเป็นเสียงอยากรู้อยากเห็นมาทันที
“เปล่า”
พูดปฏิเสธกิ๊กสาวนมโตแต่เบนตาไปมองร่างโปร่งนมแบน แล้วยิ้มออกมา “เฮียบอกไอ้เติ้ลออกมายกไปเถอะ”
‘เออๆ แถวไหน’ ไม่อยากให้รู้กูตามสืบได้จ้า
“ห่างจากประตูมอประมาณโลนึง
แค่นี้นะครับ” พอคุยธุระเสร็จก็กดตัดสายพี่ชายผู้น่าสงสาร(?)ในทันที
“รอประมาณสิบนาทีคงมาถึงนะ”
“…ขอบคุณครับพี่เซน”
“ไม่เป็นไรหรอก
แล้วนี่เราจะไปไหนต่อล่ะ”
“…!” ร่างโปร่งไม่ได้ตอบคำถามของรุ่นพี่
แต่กลับทำตาโตรีบยกนาฬิกาข้อมือสายหนังสีน้ำตาลมาดูเวลาแทน
ตาสีน้ำตาลเข้มเพ่งมองดูเข็มยาวของนาฬิกาที่กำลังจะชี้ตรงเลขเจ็ด นี่มันเที่ยงสามสิบห้านาทีแล้วหรอ
เขามีเรียนตอนบ่ายโมงตรง พี่เซนบอกให้รอสิบนาทีเขากะไปซักสิบห้านาที ก็เป็นเวลาเที่ยงห้าสิบ
กว่าจะหารถเข้าในอาคารเรียนก็คงเสียเวลามากกว่าสิบนาทีที่เหลือแน่
วันนี้เขาสายแล้วแน่ๆ
“เรามีเรียนต่อตอนบ่ายโมงนี่หรอ?” เหมือนคนอยุมากกว่าจะรู้ว่าอีกคนต้องมีเรียนต่อแน่ๆ
สังเกตหน้าอีกคนที่บูดบึ้งเบะปากอยู่สิ
“ครับ” หน้าผากมนของไคเริ่มมีเหงื่อเพิ่มมากขึ้น
อาจเป็นเพราะอากาศร้อนไม่ก็กังวลเรื่องไปเรียนสายเป็นแน่ถึงเป็นแบบนี้
แต่เซนคิดว่าเป็นทั้งคู่แหละ
“ไม่ต้องกังวลหรอก
ไม่นานแน่ๆ”
“ครับ” ไคพยักหน้าพลางขมวดคิ้วไปด้วย
เขาไม่อยากสายเลยจริงๆ นี่เพิ่งจะอาทิตย์แรก และวิชานี้เขาก็เข้าเรียนเป็นคาบแรกซะด้วย
~ 10 นาทีผ่านไป~
“นั้นไง”
ไคเหลียวมองรถคันหนึ่งซึ่งคงจะเป็นรถที่มาลากรถเขาเข้าอู่
เขารู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมากที่ไม่ได้ทิ้งมันไว้ข้างถนน เมื่อมาถึงช่างซ่อมก็ทักทายพี่เซนนิดหน่อยแต่ดูแล้วก็เหมือนจะสนิทกัน
ช่างซ่อมมีชื่อเติ้ล ไครู้ก็ตอนที่เขายื่นนามบัตรของร้าน ต.เติ้ล ให้แล้วช่างซ่อมก็แนะนำตัวยิ้มร่า
“สวัสดี
พี่ชื่อเติ้ลนะ เด็กใหม่เซนมันหรอ?” พี่ที่มายกรถของเขาชื่อว่าเติ้ลและกำลังยิงคำถามใส่ไคจนเจ้าตัวมึนๆงงๆ
“...สวัสดีครับ”
ไคหน้าเหวอเมื่อโดนคำถามอะไรแบบนี้ เด็กใหม่อะไรกัน เขาเลือกไม่ตอบแล้วกัน
“หึ เอาเบอร์ร้านให้น้องเขาซะ
แล้วกลับไปได้แล้ว”
พอจัดการให้รถลากจูงไปก็จัดการเรื่องติดต่อกับทางร้านและระยะเวลาที่ทำการซ่อมเสร็จสรรพ
ร่างโปร่งก็พลิกข้อมือดูนาฬิกาจนทำให้ตาคู่สวยแทบถลนออกจากเบ้านี่มันใกล้จะถึงเวลาเรียนแล้ว
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวนะครับ ขอบคุณนะครับ พี่เซน พี่เติ้ล” รีบยกมือขอบคุณคนตรงหน้าแล้วกระชัดกระเป๋าเป้เตรียมวิ่งไปที่รถโดยสารในมอ
“แล้วนั่นเราจะเดินไปเรียนหรือไง”
เซนถามอีกคนที่ตั้งท่าจะวิ่งไปข้างหน้าต่อ และกำลังจะทิ้งเขาไว้ตรงนี้
“เดินไปป้อมยามครับ ตรงนั้นมีรถโดยสารเข้ามอครับ
อ่อ ผมไปแล้วนะครับ สวัสดีครับ!” ไคกำลังจะตั้งท่าวิ่งออกไปอีกรอบ
“ก็ไปกับไอ้เซนมันสิน้องไค”
เสียงของช่างซ่อมดังขึ้นมาจนหยุดให้ขาเรียวนั้นหยุดชะงัก
“ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่นี้ก็เสียเวลาพี่เซนเขามากแล้ว ขอบคุณนะครับ”
“ไปกับพี่นี่แหละ ป่ะ
เราเรียนตึกไหน”
“เอ่อ..ตึกคณะวิทย์ครับ”
“ป่ะ ถ้าไม่อยากสายอย่าดื้อ”
เขาไม่ได้ดื้อนะ
จริงๆก็แค่เกรงใจแหละแต่ก็กลัวมากเหมือนกัน จะให้เขาไปนั่งมอเตอร์ไซค์เขาทำใจลำบากจริงๆ
เพราะตอนเด็กเขาเห็นพี่ขุนนั่งซ้อนท้ายพี่โมเดล ซึ่งทั้งสองก็เป็นลูกของเพื่อนแม่ที่สนิทกันมากๆ
ไม่รู้ว่าทั้งคู่ไปทำอิท่าไหนทำให้ร่างขาวๆของพี่ขุนหงายหลังตกลงมาจากรถ มีแผลถลอกเต็มตัวแถมยังร้องไห้จ้า
จนพี่โมเดลร้องไห้ออกมาด้วยอีกคน ไคเห็นภาพนั้นกับตาจึงจำฝังใจ
สัญญากับตัวเองว่าจะไม่นั่งยานพาหนะสองล้ออีก แต่วันนี้เขาจำเป็นต้องพึ่งมันอะแหละ
รุ่นพี่เซนยื่นหมวกกันน็อคอีกใบที่วางบนตัวถังรถให้ไค
ไครับหมวกกันน็อคของอีกคนมาใส่ ท่าเก้ๆกังๆของอีกคนทำให้เซนแอบยิ้มออกมา
ดูเด็กจริงๆเลยไค ไม่เคยซ้อนรถมอร์ไซค์เลยหรือไงนะ
“ผมจะไม่ตกรถใช่ไหม”
พอปีนขึ้นมานั่งบนรถได้ ไคก็เกิดกังวลขึ้นมาอีก ตอนนี้ไคกำลังทำปากเบะเหมือนคนจะร้องไห้รอมร่ออยู่แน่ๆ
“พี่ไม่ทำเราตกหรอกน่า ถ้าเราเกาะดีๆ”
ไคผู้ไม่เคยนั่งรถมอเตอร์ไซค์
ไม่รู้จะเอามือไปเกาะตรงไหน หัวซ้ายหันขวา เขากลัวจริงๆแหละ
“จับเสื้อพี่ก็ได้”
ไคยื่นมือสีแทนไปจับเสื้อหนังสีดำรุ่นพี่ตัวขาวไว้อย่างไม่อิดออด “ไปล่ะไอ้เติ้ล” ก่อนที่เซนจะสวมหมวกกันน็อคก็หันไปบอกลาเพื่อนสมัยมอต้นที่ผันตัวไปเป็นช่างซ่อม
มีอู่ถัดไปจากบ้านเขาสองสามซอย กิจการมันก็ดีนะ มีสาวติดเยอะด้วย
“บายไอ้เซน
ดูแลแฟนเด็กดีๆล่ะ”
เซนหันมายิ้มให้เติ้ลพร้อมกับยักคิ้วอย่างรู้กัน
พอรถออกตัวมือที่กำเสื้อหนังสีดำของคนขับบีบแน่นขึ้น
เสียงท่อรถดังสนั่นทำให้คนซ้อนข้างหลังหูแทบอื้อ
ทำไมถึงชอบขับรถที่มันเสียงดังๆไปทำไมนะ
ไคมาถึงห้องในเวลาที่เฉียดฉิวไปก่อนหน้าอาจารย์แค่ไม่กี่นาที
ต้องขอบคุณพี่เซนมากๆนะครับ อ่ะ...ลืมคืนหูฟังอีกแล้ว...
“นักศึกษาโอเซน คุณมาสายไปห้านาที”
“ขอโทษครับ
ครั้งหน้าผมจะสายให้ต่ำกว่าห้านาที”
26.8.59
ไหนว่าจะมาเร็วๆ 555555555555555555555555
ขอโทดค่าาาาาา ยังยืนยันว่าจะแต่งเรื่องนี้จนจบ จะพยายามนะคะ
ได้บัตรคอนกันไหมเอ่ย ไรต์ดีใจมากที่ไม่นก ฮือออออออออ ขอบคุณที่เม้น+เฟบนะคะ กำลังใจดีเลยค่ะ ><
-ฝากเม้นเป็นกำลังใจให้ไรต์พุงน้อยหน่อยนะคะ เลิ๊ฟฟฟฟ-
25.9.59 100% สั้นมากค่ะตอนนี้ 55555
ไรท์ติดวิจัยอย่างหนักหน่วงค่ะ T^T ตอนนึงล่อไปเป็นเดือน ฮือออออออออออออออออออออ ขอโทดค่า
07/05/60
รีไรท์
ความคิดเห็น