คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Bad Choose 3 - Headphone - *Rewrite
BAD
CHOOSE
-3-
การเปิดเรียนวันแรกเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นในอีกหนึ่งอย่างในชีวิตของไค
กลิ่นอายของบรรยากาศรอบตัวในเวลาเจ็ดโมงครึ่ง
เสียงร้องของนกที่เกาะตามต้นไม้สีเขียว นักศึกษาที่ใส่เสื้อสีขาวแบบเดียวกับเขา
บางคนก็มีรอยพาดเส้นเดียวแบบเขา บางคนก็มีรอยพาดหลายเส้นพากันทยอยเข้ามาในมหาลัย
เขาสอบติดมหาลัยสามแห่งแต่เขาก็เลือกที่จะเรียนมหาวิทยาลัยยองกวัง เขาตัดสินใจที่จะเรียนที่นี่จากคำแนะนำของแม่ เพราะแม่เขาที่เป็นศิษย์เก่าจากมหาลัยนี้บอกว่าระบบทางการศึกษา
สภาพแวดล้อม อาจารย์ ล้วนแต่มีคุณภาพ แต่มหาลัยไหนก็มีคุณสมบัติที่ดีกันทั้งนั้นแหละ
อีกหนึ่งเหตุผลที่เขามีแรงจูงใจอยากจะเรียนที่นี่มากๆก็คือต้นเมเปิ้ล
เพราะเขาชอบต้นเมเปิ้ลมากและที่นี่ปลูกต้นเมเปิ้ลแทบจะทั่วอาณาเขตมหาลัย
ตอนนี้เขานั่งรอหาญและแบคอยู่หน้าห้องอาคารเรียนรวม
วิชาแรกของวันนี้เป็นวิชาเสรีจะมีนักศึกษาจากหลายๆคณะมาเรียนกันที่ตึกนี้
“ไค!!!
รอนานไหม?” เสียงของหาญตะโกนทักเขาจนคนบริเวณนั้นหันมามอง
ข้างตัวเขาถือถุงเซเว่นติดมาด้วย
“ไม่หรอก
แล้วแบคล่ะ” ไคเอ่ยถาม เพราะทุกทีเขาจะเห็นแบคเดินมาพร้อมกับหาญ
แต่ตอนนี้กลับไม่เห็นเพื่อนหน้าหวานอีกคน
“มันเพิ่งอาบน้ำเสร็จเลยบอกให้เรามาก่อน
ไคกินโอนิกิริกับเราเปล่า?” หาญค้นเอาของในถุงหยิบให้ไค
เป็นข้าวที่ห่อด้วยสาหร่ายเป็นรูปสามเหลี่ยมมีพลาสติกใสหุ้มอยู่
“ไม่ล่ะ เรากินข้าวมาแล้ว หาญกินตามสบายเถอะ”
ไคตอบอีกคนพลางส่ายหน้า
“เหลืออีกสิบนาทีจะแปดโมงเราขอกินข้าวแปปนะ” หาญบรรจงแกะโอนิกิริไส้แซลมอนอย่างระมัดระวัง
เพราะเขาเคยแกะแล้วไม่ชอบที่สาหร่ายมันขาดหลุดลุ่ยไม่ติดกับข้าวและเละคามือ
จนสุดท้ายก็เอาเข้าปากมันทั้งอย่างนั้น ตอนนี้เขาเซียนพอที่จะแกะมันได้แบบมีองค์ประกอบครบ
พอกำลังจะกัดเข้าปาก…
“หิวจังเลยว่ะ แดกหน่อย” มาแล้วบุคคลที่ไคถามถึง แบคที่ค่อยๆย่องเข้ามาใกล้ๆงับเอาโอนิงิริของหาญอย่างตรงเป้า
“ไอ้เชี้********!!!! แม่งแดกของกูไปเกือบครึ่ง มึงเอาไปเลยเกลียดน้ำลายมึง” หาญโวยวายใส่แบคเพื่อนตัวเล็ก(กว่าเขานิดนึง)
บังอาจที่มากินของโปรดเขาที่ตระเวนซื้อจากเซเว่นอันไกลโพ้น
ก็เพราะแถวนี้มันหมดแต่เขาก็เกิดอยากจะกินมากๆนี่ ยังดีที่ซื้อมาหลายอันไม่งั้นเขาไล่ให้แบคไปซื้อมาให้แน่
“ขอบคุณคร้าบบบบบบบบบบ
โอ้ย!”
“ซื้อคืนกูด้วย”
ไคที่นั่งเงียบอยู่ยิ้มออกมากับนิสัยที่เหมือนเด็กของเพื่อนใหม่ของเขา
มันทำให้เขาคิดถึงเพื่อนสนิทสองคนที่อยู่อีกคณะหนึ่ง มีแต่สองคนนี้เท่านั้นแหละที่เป็นเพื่อนกับเขาตั้งแต่ประถมจนถึงตอนนี้
เพราะดูสดใส คุยเก่ง ไคอยากจะเป็นคนที่สดใสแบบนี้บ้าง ไม่เหมือนกับเขาที่เป็นคนเงียบๆ
ขี้อาย ดูน่าเบื่อเลยไม่ค่อยมีเพื่อน และตอนนี้ไคก็มีเพื่อนใหม่เพิ่มมาอีกสองคน ไม่รู้ว่าหาญกับแบคจะทนอยู่กับเขาได้หรือเปล่า
“ไคเข้าไปเรียนกันเถอะ”
แรงสะกิดจากหาญเรียกให้เขาตื่นจากภวังค์
“ป่ะ เข้าเรียนกันเถอะ”
ไคยิ้มออกมาแล้วเดินตามเพื่อนสองคนเข้าห้องเรียน
หลังจากเลิกเรียนวิชาแรกเสร็จทั้งสามก็กำลังเตรียมตัวจะไปกินข้าว
ไคและแบคที่นั่งรอหาญเก็บของก็ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่นรอ
“หาญ แบค
เราเห็นประกาศในกลุ่มว่ามีนัดประชุมคณะกันตอนห้าโมงเย็นนี้อะ” ไคลดโทรศัพท์ลงแล้วบอกนัดที่จะมีในเย็นนี้
“อ้าวจะประชุมทำอะไรล่ะเนี้ย”
หาญที่กำลังเก็บของเข้ากระเป๋าเงยหน้าขึ้นมาถาม
“ไม่บอกว่ะ
ค่อยไปรู้ตอนประชุมเอาละกัน” แบคหันมาตอบแทนไค ส่วนหาญที่เก็บของเสร็จแล้วขยับปากแบบไม่มีเสียงเป็นคำว่า
‘กูถามไค’
ตอนนี้เป็นเวลาห้าโมงเย็นแล้ว
รุ่นน้องปีหนึ่งในคณะวิทย์ฯเทคโนมารวมตัวกันอยู่ลานใต้อาคาร
จับกลุ่มคุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้ ข้างหลังไคก็มีลิงสองตัวที่กำลังเล่นเกมส์เป่ายิงฉุบตีแขน
จนแขนของทั้งสองคนเป็นรอยแดงทั้งสองข้าง
ส่วนเขาก็เล่นด้วยเหมือนกันถึงจะแพ้บ่อยแต่แขนของเขาก็มีรอยแดงน้อยกว่าสองคนนั้นที่ฟาดฟันกันจนนิ้วจะหัก
“เงียบกันได้แล้วครับน้องๆ…”
รุ่นพี่ผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งที่ยืนประจันหน้ากับนักศึกษาปีหนึ่งที่นั่งเรียงแถวอยู่ตรงหน้า
พูดห้ามรุ่นน้องให้อยู่ในความสงบ
“สวัสดีครับ พี่ชื่อว่านอยู่ปีสาม”
“สวัสดีครับ/ค่ะ”
“วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของน้องๆ
มีปัญหาเรื่องอะไรปรึกษารุ่นพี่ได้นะ และที่นัดกันมาวันนี้เรื่องที่พี่จะประชุมกันคือ…”
รุ่นพี่หยุดพูดแล้วหันไปมองนักศึกษาปีหนึ่งท้ายแถวที่ยังเล่นกันอยู่
จ้องจนรุ่นน้องคนนั้นจนหยุดเล่นถึงจะพูดต่อ
“ในเดือนหน้าจะมีการประกวดดาว-เดือนคณะของมหาลัย พี่เลยมาบอกเนิ่นๆ
รุ่นพี่อยากจะให้รุ่นน้องคัดเลือกคนในสาขามาสาขาละหนึ่งคู่ชายหญิง
แล้วรุ่นพี่จะคัดอีกทีว่าใครสมควรที่จะไปประกวดดาวเดือนของคณะ ปรึกษากันคัดเลือกมาเลยครับ”
พอรุ่นพี่ชางมินพูดจบเสียงเซ็งแซ่ของเพื่อนในคณะก็ดังขึ้น
“เธอว่าใครหาญหรือไค”
“แต่ฉันว่าแทมนะ”
“แบคดีไหม”
“ฉันโหวตไคนะ”
“ผมเห็นด้วยครับ ไคเถอะ”
“แล้วฝ่ายหญิงล่ะเลือกใคร”
“ข้าวปั้น~”
“เพชร วาววาส่งเข้าประกวด”
“วาววาค่ะ”
“บีด้วย”
“งั้นมาโหวตกัน”
.
.
.
“ผลโหวตออกมาแล้วน้า~
ผลโหวตฝ่ายหญิงข้าวปั้น ผลโหวตฝ่ายชายไค” เพื่อนผมสั้นคนยิ้มสวยชื่อว่าซันนี่บอกผลโหวตคนที่จะให้รุ่นพี่คัดเลือก
เสียงจากเพื่อนในคณะทำเอาไคที่นั่งเงียบทำตัวไม่ถูกขึ้นมา
ทำไมไม่เป็นแบคหรือหาญกันนะ เขาพูดไม่เก่ง ไม่ค่อยกล้าแสดงออก
ถ้าเป็นสองคนนั้นคงดีกว่านี้แน่
“ไคเพื่อนๆเลือกนายอะ
นายจะโอเคไหม”
“เอ่อ…เปลี่ยนเป็นคนอื่นได้ไหม…”
“ทำไมล่ะ เพื่อนๆเขาโหวตให้ไคนะ
ไม่ต้องเขินหรอก ทำเพื่อเพื่อนๆนะนะนะ” ซันนี่พูดโน้มน้าวเขาเพราะเห็นว่าไคดูมีเสน่ห์ถึงจะเงียบๆไปหน่อย
แต่ก็ยังน่ามอง
“คนที่เพื่อนเลือก เดินมาข้างหน้าเลยครับ”
รุ่นพี่ว่านพูดเรียกให้รุ่นน้องที่จะคัดเลือกมาข้างหน้า
“ป่ะๆ ไคไปก่อนๆ”
ซันนี่ดึงแขนให้ไคลุกขึ้นตามแต่ไคที่ยังไม่มั่นใจในตัวเองยังนั่งอยู่
“ไคไม่อยากไปเธอจะยังบังคับให้ไปอีกหรอ”
หาญถามขึ้นไม่ใช่น้ำเสียงที่โมโหแต่พูดในโทนเสียงปกติ เขาที่เห็นว่าไคไม่ได้เต็มใจที่จะอยากไปคัดดาวเดือนอะไรนั่นเลย
ซึ่งแบคที่นั่งอยู่ข้างๆยังพยักหน้าเห็นด้วยกับหาญ
“ขาดน้องสาขาวิทย์ฯเทคโน
ออกมาหน่อยค่ะ” รุ่นพี่ผู้หญิงสาวผมยาวพูดขึ้นเร่งให้น้องในสาขานี้รีบเร่งออกมา
“โอเค
เราจะไปยังไงพวกรุ่นพี่เขาก็ต้องคัดอีกที” ไคที่กำลังเรียกกำลังใจเห็นสีหน้าของซันนี่ที่ยิ้มเจื่อนส่งไปให้หาญกับแบค
ไคก็ไม่อยากให้เพื่อผิดใจกัน ถึงแม้ว่าจะรู้สึกไม่ค่อยดีแต่ก็ลุกขึ้นมาบอกจะไปคัดเลือกแล้วเดินไปข้างหน้า
“เอาล่ะ รุ่นพี่ได้คนครบแล้ว
และต่อไปรุ่นพี่จะแจ้งว่ามีอีกหนึ่งการประกวดนั่นคือ…มิสแซทเทอไลท์
ซึ่งคนที่จะแข่งได้ก็เป็นรุ่นน้องผู้ชาย มีใครจะอาสาไหมครับ…
ถ้าไม่มีใครอาสาเดี๋ยวรุ่นพี่จะเป็นคนคัดเลือกเอง” รุ่นพี่ว่านส่งรุ่นพี่ผู้หญิงเพื่อสอดส่งนิสิตปีหนึ่งในคณะ
นิสิตที่เป็นผู้ชายพากันหลบสายตา ก้มหน้าคางชิดอกไม่พูดไม่จาโดยเฉพาะหาญกับแบคที่รู้ว่าตัวเองหน้าหวานแต่แมน
และสองเขาก็ไม่รอด…
“และพี่ก็ได้คัดแล้วนะคะ
ห้าคนนี้ พี่จะนับเป็นผลโหวตเหมือนกัน เอาล่ะค่ะน้องคนแรกน้องแอล
ใครจะโหวตให้ยกมือขึ้นเลยค่ะ%*_=#!@&#+?P$”>O}>I#*@#%^* เอาล่ะค่ะ ตอนนี้มีสองคนที่คะแนนเท่ากันนั่นก็คือน้องหาญกับน้องแบคนะคะ
ตัดสินกันที่เป่ายิงฉุบแล้วกัน” หาญและแบคมองหน้ากันอย่างยิ้มๆ
ศึกครั้งนี้เขาต้องชนะ
เป่า!
ยิง!
ฉุบ!
กระดาษ
และกรรไกร ตัดสินได้ในรอบเดียว
“ฉันชนะแก ไอ้แบคคคคคคคคคคคคคคคคคค ฮ่าๆๆๆๆๆ” หาญมองมือที่ออกกรรไกร
ตาทั้งสองข้างลุกวาวตะโกนออกมาอย่างสะใจพร้อมทั้งหัวเราะเสียงน่าเกลียดนั่นอีก
“เป็นไปไม่ได้” แบคพูดออกมาก้มมองฝ่ามือที่กางออกทั้งห้านิ้ว
ไม่ผิดเลย เขาออกกระดาษจริงๆ ทำไมมันซวยอย่างนี้กัน
ลำพังไปประกวดเฉยๆมันก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร
แต่เพราะมีเพื่อนข้างๆตัวที่เกาะติดกันมาตั้งแต่เด็กมันต้องแซวเขาไปจนมีลูกมีหลานแน่
มันยังกวนตีนเอามือที่ออกกกรรไกรมาตัดมือที่ออกกระดาษอีก
“น้องที่พี่จะคัดเลือกดาวเดือนกับมิสแซทเทอไลท์อยู่ตรงนี้ก่อนนะครับ
น้องคนอื่นกลับได้ ขอให้มีความสุขกับการเรียนในวันต่อๆไป วันนี้ขอบคุณครับ”
พอจบการประชุมคนในคณะก็เริ่มทยอยกลับ
จนเหลือคนที่เกี่ยวข้องกับการประกวดในสัปดาห์หน้า
“เดี๋ยวพี่จะขอคัดน้องดาวเดือนก่อนนะคะ เริ่มที่ผู้หญิงก่อน
เรียงแถวหน้ากระดานเลยค่ะ….”
รุ่นพี่ได้ดูทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายแล้วพากันปรึกษาอยู่ที่หน้าแถว
“รุ่นพี่คุยกันแล้วว่าจะให้น้องข้าวปั้น สาขาเคมี กับน้องไค สาขาชีววิทยา
เป็นตัวแทนในการประกวดครั้งนี้นะคะ ส่วนน้องๆที่พี่ไม่ได้คัดเลือก จะมีการแข่งในอีกสองเดือนข้างหน้าเดี๋ยวพี่จะนัดอีกทีวันนี้กลับได้ขอบคุณค่ะ
ส่วนน้องไค น้องข้าวปั้น น้องแบค พี่ชื่อนินานะคะ ในการประกวดจะมีแสดงความสามารถพิเศษ
น้องๆมีความสามารถพิเศษอะไร เช่น การเล่นดนตรี แสดงละคร ประมาณนี้” รุ่นพี่นินาที่ดูท่าทางกระฉับกระเฉงพูดรวดเดียวโดยไม่ผิดไปสักคำ
“ข้าวปั้นเล่นไวโอลินเป็นค่ะ” ข้าวปั้นผู้หญิงผมยาวหน้าสวยจัด
ยกมือขึ้นบอกพี่ฮานิ
“ผมว่าจะร้องเพลงครับ” แบคทำหน้าหงอยตอบพี่ฮานิ
เหลียวหน้ามองไคที่ยืนเงียบอยู่ข้างไอ้คนทำหน้าระรื่น กลับคอนโดก่อนเถอะมึงเจอกูแน่
“…” ไคมีความสามารถพิเศษคือการเต้น
แต่เขาไม่มีความมั่นใจเอาเสียเลย
แต่ครั้งนี้เขาจะลองตั้งใจทำมันออกมาเพื่อแสดงว่าตัวเองมีความสามารถพิเศษที่จะกล้าแสดงออกออกมา
“ผมจะเต้นครับ”
หมดเวลาสำหรับวันที่สองในรั้วมหาวิทยาลัย
ในเวลาตอนเลิกเรียนเขายังไม่กลับไปที่คอนโด เขาขึ้นมาบนดาดฟ้าเพียงคนเดียว ไคยังไม่มีความมั่นใจที่จะเต้นโชว์ในอาทิตย์หน้า
เขาขึ้นมาซ้อมเงียบๆที่ดาดฟ้าบนตึกนี้ เปิดประตูบานสีขาวที่ไม่ได้ล็อคออกไปมองซ้ายมองขวา
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครเขาก็ก้าวเดินไปจุดศูนย์กลางของดาดฟ้าแล้วกางแขนออกรับลมในเวลาห้าโมงเย็น
บรรยากาศยังหนาว เขาเสียบหูฟังเขากับโทรศัพท์เปิดเพลงที่ตัวเองเลือกแล้วออกท่าทางในการเต้น
จังหวะที่จะกางแขนออกมือดันไปคล้องสายหูฟังจุดหลุดออกจากหูแล้วเขาก็เหยียบซ้ำ
เขาตกใจจนหยุดเต้นแล้วก้มลงไปมองซากยังหูฟัง ถอนหายใจและเอาตบฝ่ามือเข้ากับหน้าผาก
กุมอยู่อย่างนั้นอาลัยให้กับความสับเพล่าของตัวเอง
“เปลี่ยนมาใช้หูฟังแบบครอบหูดีกว่าไหม”
เสียงอีกหนึ่งบุคคลดังขึ้นให้ทำเอาไคสะดุ้งรีบหันไปมองต้นเสียง เจ้าของเสียงค่อยย่างก้าวเดินมาตรงหน้าเขา
ที่คอมีหูครอบแบบไร้สายสีแดงคล้องอยู่ “ทำให้ตกใจสินะ”
“รุ่นพี่เซน อะ เอ่อ..
สวัสดีครับ” ไคพูดเก้ๆกังๆค้อมหัวลงเล็กน้อย นึกว่าบนนี้จะไม่มีใครมาซะแล้ว
แล้วนี่เขาดันมาเจอไอดอลของเขาบนนี้อีก
“พี่ขึ้นมาก่อนหน้าเราไม่นานหรอก”
คนตัวสูงย้ายตัวเองยกมากอดอกเอาบั้นท้ายพิงขอบกั้นดาดฟ้า “พี่ชอบขึ้นมาบนนี้บ่อยๆ แล้ววันนี้ก็เจอเราพอดี แผลหายดีแล้วใช่ไหม”
“ก็ยังเจ็บๆอยู่ครับ” ไคยิ้มกลับแล้วก้มลงเก็บเศษหูฟังที่เห็นทีจะใช้ไม่ได้แล้ว
คงต้องนำไปทิ้งอย่างเดียว
“เอาหูฟังพี่ไปก่อนสิ พี่ไม่ได้ใช้มันบ่อย”
เซนถอนหูฟังที่คล้องออกจากคอเพื่อจะยื่นให้ไคที่ตอนนี้กำลังทำหน้ามุ่ยเพราะทำหูฟังตัวเองพัง
“ไม่เป็นไรครับ
เดี๋ยวผมไปซื้อใหม่”
“ให้ยืมตอนนี้แหละ
เดี๋ยวค่อยคืน พี่อยากเห็นเราเต้นอีกรอบเพราะเพลงนี้พี่ก็เคยเต้นเหมือนกัน”
“จริงหรอครับ! ผมชอบเพลงนี้มากๆเลย” ไคเผลอทำท่าดีใจหันมามองเซนและยิ้มกว้างออกมา
เซนที่เห็นไคในมุมขี้อายมาตลอดยังรู้สึกแปลกใจจนแกล้งตีหน้านิ่งออกมา
“ผมขอโทษครับ”
“ขอโทษอะไรกัน
พี่แกล้งเราเล่นน่ะ ฮ่าๆ” เซนที่แกล้งอีกคนสำเร็จหัวเราะออกมา
ลอบมองเห็นอีกคนถอนใจออกมาด้วย “อะ ใช้เป็นรึเปล่า” เซนยื่นหูฟังให้กับคนร่างโปร่ง
“เป็นครับ เอ่อ..ช่วยติชมผมได้ไหมครับ ผมอยากรู้ว่าผมผิดตรงไหนบ้าง” ไคเดินไปหยิบเอาหูฟังจากเซน
รู้สึกเกรงใจที่รุ่นพี่ให้ยืมหูฟังและรู้เขินอายที่ให้รุ่นพี่ช่วยดูลายเต้นของตัวเอง
“งั้นเริ่มเพลงเลย”
เซนพิงอยู่ที่เดิม ตั้งแต่ท่อนแรกที่เริ่มขึ้นดูไคเต้นเขาดูชอบในการเต้นมากๆ
แสดงท่าทางออกมากับทำนองเพลง แต่สีหน้ายังดูเกร็งๆ และมีบางท่าที่ไม่ยังไม่สมบูรณ์
โดยรวมแล้วก็ยังดูไม่สมูท เซนดูอีกคนที่พยายามเต้นออกมาจนจบเพลง
“เต้นดีนะ แต่…” รุ่นพี่หันมา
“…” ไคลดหูฟังที่ครอบหูไว้ลงคล้องคอไว้
แล้วตั้งใจฟังรุ่นพี่ติ
“ถ้าจะเต้นขึ้นโชว์ยังไม่พร้อมนะ”
เซนพูดมาตามตรงตามที่เห็น
“ครับ” ไคทำหน้าห่อเหี่ยวออกมาแบบปิดไม่มิด
“ตึกจะปิดแล้วไปกันเถอะ”
เซนเดินนำอีกคนไปประตูดาดฟ้า
“ครับๆ” ไคเดินเบะปากไปเอากระเป๋าที่ถอดไว้ตรงใกล้แท็งน้ำ
เดินไปที่ประตูบานเดิมที่ขึ้นมาและประตูบานเดิมที่รุ่นพี่เพิ่งปิดไป
“บายนะ ไค” เซนลดกระจกลาอีกคน
“ครับ พี่เซน” ไคโค้งตัวให้กับรุ่นพี่จนรถออดี้
ทีทีเอส สีแดง ขับออกไปจากตรงลานจอดรถแล้ว เหลือแต่คิมไคที่กำลังก้าวขึ้นรถปิดประตูคาดเข็มขัด
พอปิดประตูรถแล้วมีคนโทมาหาเขาจึงเปิดกระเป๋าแล้วรับสาย มองที่หน้าจอขึ้นชื่อเป็น ‘คุณแม่ของไค?’
ของเขานั่นเอง จังหวะที่ยกโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูถึงรู้ว่ามีหูฟังของรุ่นพี่เซนยังคล้องอยู่บนคอตัวเองอยู่…
เขาถอดออกแล้วคุยกับหม่าม้าจนวางสาย คิดไม่ตกถึงหูฟังสีแดงอันนี้แล้วเขาจะเอาไปคืนยังไงล่ะเนี้ย
เบอร์ก็ไม่มี จะขับตามอีกคนก็ไม่ทันแล้ว วันนี้เขาเหนื่อยอยากจะกลับไปฟัดเจ้ายอโบแล้ว
เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยหาวิธีเอาไปคืนแล้วกัน คิดได้ดังนั้นจึงขับรถออกไปจากลานจอดรถหน้าตึก
ถ้าตอนถอดหูฟังไคสังเกตสักนิดจะเห็นอักษรที่สลักบนหูฟังเป็นไอดีไลน์ของเจ้าของมันอยู่…
ฝากเม้นและฝากสกรีมแท็ก
#BCsekai ด้วยนะคะ ><
ไรท์เตอร์พิมพ์ผิดทักท่วงได้ค่า
@kimthanya94
21.05.59
30%
ก่อนมั่นใจแค่นี้อยู่ อิพี่มาตอนครึ่งหลังนะคะ 5555555555555555555 ฟิคเราเอื่อย เรายังมือใหม่ไม่เคยแต่งฟิคจบ เม้นติชมได้นะคะ
ไม่ค่อยมีคนเม้นมันรู้สึกหงอยๆ ㅠㅠ
22.05.59
100% แล้วค่า เราเขียนไคแต๋วไปไหม
อยากให้คงคอนเซปผู้ชายเงียบๆขี้อาย 55555555555 ตอนนี้อิพี่มันอ่อยค่ะ
5555
06/05/60
รีไรท์
ความคิดเห็น