คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Bad choose 2 - Toilet - Baekdo *Rewrite
BAD CHOOSE
-2-
“ไอ้หาญ
ไอ้เพื่อนชั่ว ทำกูไม่พอยังไปทำลูกเขาล้มอีก มึงก็รู้ว่าไคบอบบาง” เสียงของคนที่เพิ่งไปเข้าห้องน้ำพูดต่อว่าเพื่อนสนิทที่ทำให้คนบอบบางที่เพิ่งจะเข้ากลุ่มไม่ถึงเดือนต้องมีบาดแผล
“เงียบน่า ไคเราขอโทษ”
ไม่ใช่ว่าหาญไม่มีบาดแผลเขาก็มีเหมือนกันแต่ก็ดูจะเจ็บน้อยกว่าไค “โอ้ย! เจ็บจังเลยครับ” และกำลังอ้อนรุ่นพี่คนสวยที่ช่วยทายาแผลอีก
หวังเต๊าะตามเคย
“ยังมาทำท่าอ้อนมืออ้อนตีนอีก ดูไคซิ
ข้อศอกก็ถลอก มือก็ถลอก เข่าทั้งช้ำบวม” แบคชี้นิ้วไปบริเวณที่มีแผลของไค
ปากก็บ่นเพื่อนตัวดีไปด้วย
“ไม่เป็นไร มันเป็นอุบัติเหตุ”
“เห็นมะเจ้าตัวยังไม่พูดมากแบบมึงเลย
แต่ยังไง หาญขอโทษนะไค แต่ขามันไม่รักดีเลย นี่แน่ะๆ” ทำหน้าเศร้าสร้อยยู่ปากตีแข้งตีขาตัวเองจนอีกคนหมั่นไส้
“เอ่อ...ทั้งคู่อย่าว่ากันเลย มันไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นหรอก
ตอนนี้เราก็ไม่ได้เป็นไรมากมาย แค่ถลอกนิดเดียวเอง” เสียงเจ้าของบาดแผลเอ่ยบอกเพราะไม่อยากให้ใครเป็นห่วง
“น้องๆกลุ่มแพ้มายืนเรียงหน้ากระดานในเวลานี้ด้วยนะคะ
พี่มีเพลงสนุกๆจะให้เต้น”
เสียงโทรโข่งดังก้องไปทั่วบริเวณสนามแข่ง เสียงของเฟรชชี่กลุ่มแข่งขันเดียวกับไคที่พักอยู่ในเต็นท์พากันถอนหายใจออกมา
และบ่นอุบอิบกันระงม ทำให้คนที่โดนทำแผลอยู่รู้สึกผิดขึ้นมา
เพราะตนก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ทีมแพ้
“ทุกคนเราขอโทษนะ…” ไคเอื้อนเอ่ยเสียงเบา
“เราเป็นคนทำให้ทีมแพ้เอง” หาญพูดขึ้นมาต่อจากไค
“ไม่เป็นไรหรอกน่า มันก็แค่เกมส์เอง
ไม่มีอยากให้ใครเกิดขึ้นหรอก” เสียงของผู้ชายในกลุ่มพูดขึ้นเขาไม่ได้รู้สึกต้องโกรธหรือไม่ชอบใจอีกฝ่ายที่ทำให้ทีมแพ้แม้แต่น้อยเลย
“ใช่ๆ อย่ากังวลเลย” มีเสียงของผู้หญิงในกลุ่มอีกคนที่ช่วยเพิ่มน้ำหนักคำพูดของคนก่อนหน้าว่าไม่เป็นไร
“เอาล่ะๆ เกมส์นี้พี่อยากให้สามัคคีกัน และพี่ก็รู้ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ
ทีแรกว่าจะไม่ทำละ แต่พี่เตรียมบทลงโทษมาแล้ว อย่าทำให้มันเป็นหมันเลยนะ เพราะฉะนั้นลุกคร้าบบบบบบบ” เสียงของพี่ที่ประกาศโทรโข่งคนเดิมพูดขึ้น
เอาสิเด็กๆก็ต้องเอาใจคนแก่หน่อยโดยการออกไปอยู่ตรงกลางวงล้อมของเพื่อนๆในฐาน
และเตรียมตัวที่จะเต้นกลางวงแน่ๆ
“หาญจะไปด้วยหรอ เราไปด้วย”
เสียงของคนเจ็บพูดขึ้น
“เราเจ็บแค่ข้อศอกเอง
ดูไคสิเจ็บหลายที่เลย” หาญพลิกข้อศอกให้ไคเห็น
และบอกอีกคนด้วยความรู้สึกผิด
“แต่…”
“ทำแผลยังไม่เสร็จเลยอยู่นี้แหละ
ป่ะห่าน” แบคกอดคอเพื่อนสนิทแล้วค่อยๆเดินไปอยู่กลางวง
“ก๊าบๆๆ
ฝากด้วยนะครับพี่เซน” หาญพูดออกมาก่อนที่จะเอามือขยี้หัวเพื่อนอย่างเต็มแรง
พอสองคนนั้นออกไป บริเวณนี้ก็กลับมาเงียบอีกครั้ง
โดยมีพี่นักศึกษาพยาบาลสองคนนั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล
“โอ้ย!”
เสียงของคนเจ็บอุทานขึ้นมาเมื่อโดนสำลีชุบแอลกอฮอล์สีฟ้าแตะลงบนแผลสด
“พี่มือหนักไปหรอ” คนที่ทำอาสาทำแผลให้ก็เป็นคนที่เป็นกระเช้าร่วมด้วยกับหาญนั่นแหละ
“ปล่าวหรอกครับ ผมแสบเพราะนั่นต่างหาก” นิ้วเรียวชี้ไปที่ขวดแอลกอฮอล์สีฟ้าใสขวดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ
ฟู่ว~ ฟู่ว~
“ทำแบบนี้หายแสบขึ้นมาหน่อยไหม”
จู่ๆ เซนก็เป่าเบาๆบริเวณที่เอาแอลกอฮอล์แตะ สายตาของคนโดนเป่าแผลเงยหน้าขึ้นมามองหน้าอีกคนแทนการมองแผลที่หัวเข่าเมื่อสักครู่
“ไม่พูด แสดงว่าดีขึ้นใช่ไหมล่ะ” พูดไปด้วยก็ยิ้มน้อยๆที่มุมปากไปด้วย
“อ่า....ครับๆ” ดีที่นายพยาบาลจำเป็นไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามอง
ไม่อย่างนั้นคนที่จ้องอยู่คงโดนถามว่ามองทำไมจนทำให้รู้สึกตกใจและหน้าแดงขึ้นมาแน่ๆ
มันเงียบเกินไปจนไครู้สึกอึดอัด เซนดูเหมือนจะรู้ เลยชวนไคพูดเรื่องสัพเพเหระทั่วไป
เท่าที่ไครู้ก็คือเซนเรียนกายภาพปีสอง เลือกเรียนเพราะคนสมัยนี้ป่วยเป็นโรคอัมพฤก
อัมพาตกันเยอะ เลยเลือกที่จะเรียนเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ฟังดูเป็นคนดีชะมัด
อะไรมันจะดูดีไปหมดผู้ชายคนนี้
“ระหว่างนี้ก็อย่าให้แผลไปโดนน้ำล่ะ วิธีทำแผลไม่ก็ไม่ยากเนาะ” เซนบรรจงแปะพลาสเตอร์แผลสีน้ำตาลลายหมีหลังจากทำแผลก็เป็นอันเสร็จ
“ครับ รุ่นพี่” เสียงตอบรับของอีกคนพูดขึ้นพลางลูบแผลตัวเองปอยๆ
“ต่อไปเรียกว่าพี่เซนเฉยๆก็ได้ ไม่ต้องเรียกรุ่นพี่หรอก”
“ครับๆ พี่เซน ผมขอบคุณมากนะครับที่ช่วยทำแผล”
“พี่เองก็มีส่วนผิดนะเรื่องนี้ ทำเอาเราได้แผลเลย”
“อย่าโทษตัวเองเลยครับมันเป็นอุบัติเหตุ ขอบคุณนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ ดูเพื่อนเราโน้นสิ”
บทลงโทษของกลุ่มแพ้ก็ไม่มีอะไรมาก
แค่ออกไปเต้นให้สะดีดสะดิ้งเปรียบประหนึ่งวิญญาณขุ่นแม่บียอนเซ่เข้าสิง
เต้นเหยาะแยะก็เต้นต่อไปจนรุ่นพี่พอใจ
แบคจัดได้อยู่แล้วไม่ใช่เรื่องยากแต่มันไม่ได้จบอยู่แค่นั้น ก็เขามาสายไง
เลยโดนให้เต้นลิงกังรอบฐานสามรอบ ส่วนไอ้หาญนะหรอ
แหกปากร้องเพลงประกอบการแสดงให้เพื่อนอย่างเขาไงล่ะ
หัวเราะชอบใจเข้าไปครับไอ้เพื่อนคนน่ารัก คิดแล้วก็นึกถึงคนตัวเตี้ย ตาเหลือก
แก้มป่องๆ นั่นแหละที่ทำให้เค้ามาสายจนได้ คนอะไรเป๋อสุดๆ
*ย้อนกลับมาที่หน้าห้องน้ำ*
‘โอ้ยยยย จะไม่ไหวแล้วเว้ยย’
แบคกุมตูดตัวเองสองขาก็วิ่งลิ่วไปตามทางเดิน พอถึงห้องน้ำตาก็สอดส่องหาห้องว่าง
วันนี้คงมีคนมาใช้บริการเยอะ...
‘เสีย ชักโครกกดไม่ลง’
‘เสีย
น้ำไม่ไหล’
‘เสีย
ฝารองนั่งชักโครกหัก’
มีสี่ห้องดีอยู่ห้องเดียว ยังดีที่มันยังว่างอยู่
กำลังจะวิ่งถึงอยู่แล้ว ดันมีหมากระเป๋าวิ่งนำจะไปเข้าห้องที่เค้าจ้องด้วยสายตา! ไม่ได้! แบคไม่ยอมให้โดนตัดหน้าแน่
ว่าแล้วก็กระชากคอเสื้อสีแดงของคนนั้นก่อนมือผลักประตูทันที
“อ๊ะ!” หมากระเป๋าตกใจ
“นี่นาย ฉันมาก่อนนะ ฉันต้องได้เข้าก่อน นายจะมาแซงคิวไม่ได้นะ”
ถ้าเป็นปกติแบคคนนี้คงจะไม่เรื่องมาก
เขาสุภาพบุรุษจะตายแต่วันนี้ไม่ไหวจริงๆ
“ให้เราเข้าเถอะ เราจะไม่ไหวแล้ว” เสียงงุ้งงิ้งของคนหน้าไก่อ่อนตรงหน้าประกอบกับสีหน้าเว้าวอนทำเอาน่าเอ็นดูสำหรับคนอื่น
แต่ไม่ใช่แบคในเวลานี้
“ฉันก็จะไม่ไหวเหมือนกัน อยากเข้านายก็ต้องรอ” กำลังจะปิดประตูก็โดนมือของอีกคนจับต้นแขนไว้ จะขมิบตูดไม่ไหวแล้วนะจ้ะเธอ
“เดี๋ยวก่อน” ปากบางๆเล็กๆร้องท้วงอีกคน
“อะไรอีก” แบคเริ่มจะหัวเสียกับหมากระเป๋าคนนี้ละ
“นายจะเข้าห้องน้ำโดยไม่มีทิชชูไม่ได้นะ” แบคมองหน้าใสแล้วก้มมองมือน้อยๆที่ยื่นทิชชูให้กับเขา
“…ขอบใจ”
ปังๆๆๆๆ! “นาย รีบๆหน่อยได้ไหม เราจะไม่ไหวแล้ว”
“อ่าๆ เสร็จแล้วๆ”
“เสร็จแล้วก็รีบๆออกมาสิ เรารอนานแล้วนะ” เพิ่งจะห้านาทีเถอะ
พอออกจากห้องน้ำโล่ง
เลยครับโล่ง นี่ก็เลยเวลามาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงคงจะไม่โดนทำโทษหรอกนะ
“เข้าไปสิ” ขากำลังจะก้าวออกจากห้องน้ำได้สามก้าวก็มีเสียงร้องท้วงของคนตัวเล็กอยู่ข้างหลัง
“นาย....อยู่รอเราหน่อยได้หรือปล่าว…”
เสียงเล็กๆเอ่ยขึ้นท่ามกลางห้องน้ำที่เสียงเงียบสนิท
“จะให้รอทำไม โตแล้วเถอะ กลัวผีรึไง”
“เปล่าหรอก ในห้องน้ำมีจิ้งจกอะ”
“แล้ว?” แบคไม่เห็นหน้าตอนเจ้าตัวตอนพูดหรอก คิดว่าคงทำปากเบะอยู่แหละ
“ถ้ามันเกาะเรา เราก็จะร้องให้นายช่วยไง”
“คิดว่าช่วยได้รึไง” แล้วคิดว่าเค้าไม่กลัวรึไง…
“นายจะไม่นึกสงสารคนที่เอาทิชชูให้นายหรอกหรอ” นั่นทวงบุญคุณ
“นายคิดดูสิเข้าห้องน้ำไม่มีทิชชู แถมที่ฉีดตูดยังพัง
ถ้าไม่มีทิชชู… ”
“พอ!”
“จะอยู่รอแล้วใช่ไหม ขอบใจนะ”
เสียงของคนในห้องน้ำพูดเปลี่ยนจากเสียง(เกือบ)สงสารเป็นน่าหมั่นไส้
ณ บัดดล
“พูดมาก รีบแล้วกัน
ฉันมีเวลารอนายไม่มาก” ยกนาฬิกาข้อมือมาดู อื้อหือ
นี่มันจะถึงครึ่งชั่วโมงแล้ว ไปเข้าฐานไม่ทันคือโดนอีกแน่วๆ
และแล้วเวลาก็ผ่านไป
อยากตะโกนว่าดีใจจัง เลยครึ่งชั่วโมงมาจะสิบนาทีละ จะออกไปก็โดนเสียงของคนตัวจ้อยกว่าชวนคุยเรื่องโน้นนี่นั่น
เออ กูก็อยู่เนาะ
“ขอบใจนะ เห็นไหมว่ารอแปปเดียว”
“เห้อ”
ถอนลมหายใจเสียงดังจนคนตัวเล็กหน้าหงอย แบคเดินออกจากห้องน้ำทันทีที่คนตัวจ้อยเปิดประตูออกมา
ฟุ่บ!
“โอ้ย!”
แบคหันหลังกลับไปก็เจอคนตัวจ้อยล้มตรงหน้าห้องน้ำ อะไรอีกล่ะเนี้ยยยยย!!!!!
“เป็นอะไรไปอีกล่ะ” แบคหันมามองคนตัวเล็กที่ล้มลงนั่งท่าพับเพียบอยู่หน้าทางเดินเข้าห้องน้ำ
“อะ โอ้ย ก็ล้มอะดิ นายก็เห็น” คนตัวเล็กนั่งปากเบะอยู่บนพื้น
ดูพูดเข้ากวนตีนเนาะ
แบคหันหน้ากลับมาผ่อนลมหายใจออกอย่างแรงแล้วเตรียมออกแรงเท้าเดินไปทิ้งคนขี้กวนอยู่ข้างหลัง
“เดี๋ยวๆ โอ้ย!” คนตัวเล็กที่พยายามจะยืนขึ้นก็ต้องร้องขึ้นมา
เนื่องจากลุกไม่ไหวเพราะเจ็บบริเวณข้อเท้าเป็นอย่างมาก
“ขอดูหน่อย ตรงนี้ใช่มะ สงสัยคงข้อเท้าพลิก” แบคเดินมาย่อตัวลงด้านหน้าของอีกคนที่ตอนนี้กำลังทำหน้าเหยเกอยู่กับพื้น
ตอนที่เค้าแตะไปบริเวณข้อเท้าก็ร้องโอดโอยขึ้นคงเจ็บหน้าดู “ฐานนายอยู่ไกลจากที่นี่ไหม
ฉันจะช่วยพยุงนายไปส่งที่ฐาน ที่นั่นคงมีที่ปฐมพยาบาล ถ้าไกลกว่าก็ไปฐานฉัน”
“ไม่ไกลหรอก ตรงนั้นอะที่มีธงสีเขียวปักอยู่”
นิ้วเล็กๆชี้ไปทางเดินทางซ้ายมือที่ไม่ใกล้ไม่ไกล
“โอเค ป่ะไปกัน” มือของแบคโอบเอวอีกคนประคองไว้ไม่ให้ล้มลงไปกับพื้น
คนตัวเล็กก็เอามือจับไหล่แบคเอาไว้
“เราชื่อดีโด้นะ
เราอยากเป็นเพื่อนกับนาย” คนตัวเล็กหรือดีโด้พูดออกมาอย่างตรงกับใจ
เขาอยากเป็นเพื่อนกับคนตรงหน้าจริงๆ
“ฉันแบค”
“อื้อๆ วันหลังเราเลี้ยงไอติมแบคนะ” ดีโด้พยักหน้าจนผมหน้าม้ายุ่ง ปากรูปหัวใจยกยิ้มขึ้นอย่างน่ารัก
*ย้อนกลับมาที่ลิงกังเต้น*
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ปวดขาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
- คอนโด K -
ไคกลับมาในห้องในสภาพที่ปวดตามเนื้อตามตัวเหมือนจะที่สะโพกด้วยตอนล้มเมื่อบ่าย
กว่าจะเลิกฐานก็ถึงมื้อเย็น ก่อนกลับคอนโดเขาเลยไปกินข้าวกับเพื่อนสนิททั้งสองเลย
“เมี๊ยว~”
พอเปิดประตูห้องเสียงแหลมเล็กของเจ้ายอโบก็ดังขึ้นมาแทบจะทันที
มันเข้ามาคลอเคลียขาของเขา คงเป็นเพราะอ้อนจะกินอาหารแน่ๆ
ก็แหงล่ะนี่มันจะสองทุ่มแล้วมันยังไม่ได้กินอะไรเลย พอให้อาหารเสร็จไคก็เดินไปหยิบถุงที่บรรจุอุปกรณ์ทำแผลที่ซื้อมาจากร้านยาก่อนที่จะเข้าคอนโด
เขาเดินมานั่งบนโซฟาที่ตั้งอยู่ตรงหน้าทีวีจอใหญ่โดยมีโต๊ะกระจกคั่นอยู่ ค่อยๆแกะพลาสเตอร์ที่ใช้ปิดแผลบนมือข้างซ้ายของเขาออก
สภาพแผลไม่ได้ใหญ่มากแต่ก็ทำให้ปวดจากแรงกระแทกที่เขาใช้ค้ำไว้ตอนล้ม
จัดการเปิดขวดแอลกอฮอล์เอาสำลีชุบทำตามวิธีที่รุ่นพี่ตัวสูงบอก นึกคิดในหัวว่ารุ่นพี่คนนี้
ดูมีเสน่ห์ ดูใจดี พูดจาก็ดี จากที่ได้ตำแหน่งเดือนคณะก็คงจะเรียนเก่งด้วยล่ะมั้ง
คิดแล้วก็อยากได้พี่ชายแบบนี้ ถ้าขืนเขาไปพูดแบบนี้กับ ‘พี่ขุน’ เข้าล่ะก็คงมีนอยด์แน่
- คอนโด S -
อาหารหลายอย่างกลางโต๊ะอาหารพล่องลงไปเยอะ
เพราะคนตัวสูงที่วันนี้ดูจะเจริญอาหารเป็นพิเศษ
ตักกินไปด้วยยิ้มไปด้วยทั้งๆที่ไม่ได้สนทนาคุยกับคนตรงหน้า
ไม่ได้เล่นโทรศัพท์เหมือนทุกครั้ง ได้ยินเพียงเสียงช้อนส้อมกระทบกับจาน
“ทำไมกินน้อยล่ะ” เซนเงยหน้าขึ้นมาจากจานข้าวของตัวเอง เอ่ยถามอีกคนเพราะมองไปยังจานข้าวของอีกฝั่งแทบที่จะไม่ลดลงไปเลย
“เราไม่ค่อยหิว” คนปากอิ่มเอ่ยขึ้นทั้งๆที่มองหน้าของเซนด้วยแววตาที่นิ่งเฉย
เซนยกจานของตัวเองไปล้างโดยไม่พูดอะไรกับหมินต่อ
ร่างสูงนอนเอามือไพล่ประสานกันรองศรีษะไว้
และเหยียดแข้งขายาวบนเก้าอี้ยาวใกล้บานกระจกใส
มองจากมุมนี้จะเห็นวิวแม่น้ำยามค่ำคืนได้สวยที่สุดในห้อง อยู่ๆใบหน้าของรุ่นน้องก็ฉายออกมาในความคิดของเขา
“ไปเจอใครถูกใจมาหรอ ที่รัก”
หมินในชุดเสื้อเชิ้ตตัวเดียวที่ยาวถึงแค่หน้าขาเดินเข้ามาใกล้เซน
“ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะนางแมว”
เซนลุกขึ้นในท่านั่งและ หันตอบกลับอีก
“ก็เห็นตอนกินข้าวนายเอาแต่ยิ้มทั้งๆที่ไม่ได้คุยกับฉันสักคำ” นั่งเก้าอี้ตัวเดียวกับแฟนหนุ่มพร้อมกับใช้หางตาหรี่มองอีกคน
และเซนเอามือโอบร่างของอีกคนมานั่งบนตัก
“ระแวงผมเหมือนที่คุณ…”
ปากเล็กๆของคนร่างบางประกบจูบกับแฟนหนุ่มในทันที แล้วก็ไปจบลงที่บนเตียงซะงั้น
Talk
11/5/59
ตอนนี้สั้นหน่อยนะคะ ที่หายไปคือไปซ่อมเรือ+ติดสอบ เรือเราไม่ล่ม 55555555555555555555 ทีแรกว่าจะลง CUT แต่ยังไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่
ขอบคุณที่เฟบอยู่นะฮ้าบบบบ T^T เรามักจะหายไปนานมากมากกกกกกขออภัยด้วย
ทวงฟิคและหาฉากโอ้มายก๊อดทวิตเตอร์แอคนี้นะคะ @kimthanya94
ขอบคุณค่า
06/05/60
รีไรท์
ความคิดเห็น