คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : คู่ปรับของยูชอน กะ ความรักของจุนซู
สะดุดรักยัยช็อกโกแลต^_^My Chogolate Love
นี่ก็ผ่านไป 2วันแล้วนะ ถึงยังไงฉันก็ยังรับไม่ได้กับการมาอยู่ที่นี่.. คงเป็นเพราะจริงๆ แล้วตัวฉันเองก็ไม่ได้อยากมาอยู่ที่นี่ซักเท่าไหร่ ทำไงได้.. ก็ฉันตกกระไดพลอยโจรไปแล้วนิ๊.. แล้วนี่อะไรกาน... บ้านหลังนี้ดูใหญ่ซะปล่าวแต่น่าเบื่อชะมัด ใช่! ที่นี่มีเปียโนด้วยนิ๊ไปนั่งเล่นแก้เซ็งดีกว่า..ถึงแม้ว่าความจริงแล้วฉันจะเล่นเปียโนไม่เป็นก็ตาม...
"ติ๊ง..ติ๊ง...ติ๊ง....ติ๊ง.....ติ๊งๆๆๆๆๆๆ............." เสียงเปียโนดังขึ้นอย่างไม่เป็นจังหวะ ส่งเสียงดังออกไปข้างนอกจนใครบางคนมาได้ยินพอดี
"นั่นเธอกำลังทำอะไรอ่ะ!" ยูชอนเอ่ยถามจากทางด้านหลัง เป็นน้ำเสียงที่ดุดันช่างต่างจากเสียงเปียโนโดยสิ้นเชิง....
"ว่าไง!.... ฉันถามว่าเธอกำลังทำอะไร ฮะ!"
ตายแล้วววว...ไอหมอนี่! ดันกลับมาพอดี ทำไงดีหว่า?.......... สาวตาหวานนั่งอึ้งอยู่ซักพัก ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วหันหลังมา เพื่อจะตอบคำถามที่ไร้ความอ่อนโยนนั้น
"ถามได้.. นายไม่เห็นรึไง! ว่าฉันกำลังเห็นเปียโนอยู่อ่ะ"
"ห๊ออออ... เล่นเปียโนหรอ!.. โธ่เอ๊ย!... แล้วเธอเล่นเป็นรึไง ฮะ!" ฟังดูก็รู้ว่ายัยนี่เล่นไม่เป็นชัดๆ ดีดตัวโน๊ตยังไม่เป็นจังหวะ ดูซิ! จะแก้ตัวยังไง
.......เอาไงดี.. ไอหมอนี่ต้องรู้แล้วแน่ๆ เลย ว่าเราเล่นเปียโนไม่เป็นอ่ะ
"ช่ายยย.. ฉันเล่นไม่เป็น..แล้วไง! ฉันก็แค่อยากจะลองเล่นดูเท่านั้นหน่ะ ไม่ได้รึไง?" เธอยังพยายามทำเหมือนใจดีสู้เสือ ทั้งๆ ที่ปล่อยไก่ไปแล้วตัวเบอเลิ่ม
"ไม่ได้! นี่มันเปียโนของฉัน.. มันเปรียบเสมือนเป็นเพื่อนรักของฉัน ห้ามเธอแตะต้องมันอีกเด็ดขาด เข้าใจมั๊ย!" น้ำเสียงดังหนักแน่นของร่างสูง ทำให้ซูริตกใจ
"อะไรหล่ะ!.. ฉันก็แค่ลองเล่นเฉยๆ ทำไมนายต้องตะคอกด้วยอ่ะ ขี้งกชะมัด"
"นี่เธอไม่เข้าใจอีกหรอ! ..ก็บอกแล้วไง! ว่ามันเป็นเพื่อนรักของฉัน ดังนั้นเธอจะแตะต้องมันไม่ได้" ร่างสูงย้ำอีกรอบ
...........ไอหมอนี่..ต้องบ้าแน่ๆ ดันบอกว่าตัวเองเป็นเพื่อนกับเปียโนซะงั้นหน่ะ
"เพื่อนรักงั้นหรอ... 5555+ น่าตลกชะมัด เปียโนเนี้ยะนะเป็นเพื่อนรักนาย ..นายนิ๊ท่าจะบ้า!"
" เธอจะคิดยังไงก็ช่าง.. แต่ที่นี่มันบ้านของฉัน คำสั่งของฉันคือกฎของบ้านนี้ เข้าใจ!....." ร่างสูงถือสิทธิที่เป็นเจ้าของบ้านออกคำสั่ง
.....คำสั่งของฉันคือกฎของบ้านนี้งั้นหรอ?............ชิ! ไอคนบ้าอำนาจ
"โธ่เอ๊ย! แล้วคิดว่าฉันเนี้ยะ..อยากจะยุ่งกับของๆ นายรึไง ฉันก็แค่เซ็งๆ ไม่มีอะไรทำเท่านั้นแหล่ะ" ...ขึ้นไปนอนดีกว่าไม่อยากจะเถียงให้เสียสุขภาพจิต
.......................ตาหวานเชิดหน้าทำเป็นไม่สนใจกับคำพูดของคุณชายปาร์คแล้วเดินผ่านไปต่อหน้าต่อตาเค้า..........................
"แล้วนั่นเธอจะไปไหน..." ร่างสูงมองตามแล้วถามขึ้นทันที
ตาหวานหยุดเดินแล้วหันหลังกลับมาขมวดคิ้วพลางกัดริมฝีปากเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับไปว่า.................
"ก็ขึ้นไปนอนอ่ะดิ๊! ถามได้... ทำไม?..หรือนายจะบอกว่าหมอนกับเตียงที่อยู่ในห้องฉันหน่ะ มันเป็นเพื่อนรักของนายอีก" ถ้าหมอนี่ตอบว่าใช่ เห็นทีต้องส่งไปอยู่โรงพยาบาลซะแล้ว
"เธอจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น.. เพราะฉันยังไม่ได้กินอะไรมาเลย รีบไปทำอาหารมาให้ฉันกินสิ!"
จะบ้ากันไปใหญ่แล้ว นี่ฉันหูฝาดใช่มั๊ยเนี้ยะ............................
"ห๊ออออ!... ว่าไงนะ?.. นี่นายเข้าใจอะไรผิดรึปล่าว ฉันไม่ใช่คนใช้ของนายนะ!"
"แต่เธอเป็นผู้อาศัย! ก็ควรทำอะไรเป็นการตอบแทนบ้าง... มันก็แค่งานบ้านเล็กๆ น้อยๆ"
"ไม่มีทาง.. อย่าหวังไปเลย! อยากกินก็ไปทำกินเองดิ๊!"
"ถ้าเธอไม่ทำ.. ฉันก็จะบอกกับทุกๆ คนที่มหาลัยว่า เธอมีคู่หมั้นแล้ว แถมยังอยู่ด้วยกันด้วย"
.................คำพูดของยูชอนทำซูริถึงกับหยุดชะงัด เธออึ้งไปซักพักก่อนจะหันหลังกลับมา......................
ร่างสูงทำหน้าเจ้าเล่ห์ก่อนจะหลุดคำอีกประโยคออกมา...........
"ลองคิดดูน๊า.... ผู้หญิงที่หอบผ้าหอบผ่อนมาจากเมืองไทย..เพื่อจะมาอยู่ที่นี่กับคู่หมั้น..ทั้งๆ ที่ยังไม่แต่งงานกัน..คนอื่นเค้าจะคิดยังไง.. ฉันเป็นผู้ชายยังไงก็ไม่เสียหายอยู่แล้ววว"
"นี่นาย...นายมัน.. ห๊ออออออ.... ฉันอยากจะฆ่านายนัก!"
ซูริโมโหจนไม่รู้จะบรรยายออกมาว่าอะไร ในใจก็คิดแต่ว่า ยูชอนใช้แผนสกปรกๆ เพื่อจะมาเล่นงานเธอให้จนมุม เพราะเค้าต้องการจะเอาชนะเธอ เพื่อให้เธอมาเป็นคนรับใช้ของเค้า
"ก็ได้..... ฉันจะเป็นคนทำงานบ้านเอง แต่ขอบอกให้รู้! อย่าให้ถึงทีฉันบ้างก็แล้วกาน" ตาหวานพูดด้วยสีหน้าที่โกรธแค้น
"งั้นจะยืนเฉยอยู่ทำไมหล่ะ.. รีบๆ ไปหุงข้าวสิ......... ฉันหิวแล้ว" คุณชายปาร์คทำหน้าเจ้าเล่ห์ยิ้มเยาะแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาอย่างสบายอกสบายใจที่แกล้งเธอสำเร็จ
ไอคนบ้าอำนาจ.. ไอคนโรคจิต.. ฉันยอมทำไม่ได้แปลว่าฉันยอมแพ้นะ คอยดูก็แล้วกัน จะเอาคืนซะให้เข็ด อยากกินมากใช่มั๊ย ด้ายยยยยย.. ฉันจะทำสุดฝีมือให้ลืมไม่ลงเลย....
"อ้อ! ลืมบอกไป.. ฉันหวังว่า...... เธอคงจะไม่ใส่อะไรแปลกปลอมลงไปในอาหารจนฉันกินไม่ได้หรอกนะ เพราะถ้าเธอทำอย่างนั้น..เธอเจอดีแน่! ฉันเตือนเธอแล้วนะ.." ร่างสูงเหมือนจะรู้ทัน
นี่เป็นครั้งแรกที่ซูริทำอาหารทั้งๆ ที่เธอไม่เต็มใจจะทำเลย เธออยากจะแกล้งกลับแต่ก็ทำไม่ได้เพราะเค้าดันรู้ทัน สิ่งเดียวที่เธอทำได้ตอนนี้ก็คือ รีบๆ ทำอาหารให้เค้ากิน แล้วก็ขึ้นไปนอนซะ จะได้ไม่ต้องทนเห็นหน้าของคนที่คิดว่าตัวเองเป็นผู้ชนะที่แกล้งเธอได้สำเร็จ >_< พออาหารเสร็จ เธอยกมาวางที่โต๊ะ ยูชอนมองที่อาหารด้วยความแปลกใจก่อนจะพูดออกไปว่า...
"อะไรกัน.. มีแค่ข้าวกะไข่ทอดเนี้ยะนะ! ไม่มีซุปเต้าหู้รึไง?" เค้าก้มมองอาหารตรงหน้า แล้วเงยหน้ามองเธอ
"ก็มันมีแต่ไข่อ่ะ ..แล้วนี่มันก็ดึกมากแล้ว จะให้ฉันไปหาเต้าหู้ที่ไหนมาให้นาย! กินๆ เข้าไปเถอะน๊า... อย่าเรื่องมากได้ป่ะ!"
"ไม่รู้หล่ะ.. ต่อไปนี้เธอต้องทำซุปเต้าหู้ทุกมื้อ เข้าใจ..............." ร่างสูงได้ใจออกคำสั่งอีกรอบ
สั่งๆๆๆ.............มีแต่สั่ง..กับสั่ง นี่ฉันต้องทนอยู่บ้านหลังเดียวกับไอหมอนี่อีกนานเท่าไหร่นะ....... อดทนไว้ซูริ! อดทนไว้..... สู้เพื่อแม่ๆ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
รุ่งเช้าที่มหาวิทยาลัย Myungji (วันเรียนวันแรกของซูริ)
ซูริมาถึงมหาวิทยาลัยแต่เช้า ระหว่างที่รอเพื่อพบอาจารย์ที่ปรึกษา...... เธอยืนดูปลาที่อยู่ในตู้ขนาดใหญ่หน้าตึกธุรการด้วยความเอ็นดูและหลงเสน่ห์ปลาสวยงามที่กำลังเวียนว่ายอย่างอิสระ เธอใช้นิ้วชี้แตะกับกระจก..ชี้ตัวปลาสีสวยผ่านกระจกใส แล้วลากไปตามจังหวะการว่ายของปลาด้วยแววตาที่อ่อนโยนพร้อมกับรอยยิ้มชวนฝัน โดยที่ไม่ทันเห็นว่า อีกฝั่งนึงของกระจกมีผู้ชายคนนึงที่ใจตรงกับเธอ "คิมจุนซู" เค้าคือผู้ชายคนนั้น เค้าก็กำลังดูปลาที่อยู่ในตู้ แล้วบังเอิญสายตาทั้งคู่ของเค้าก็ดันไปหยุดอยู่ที่เธอเข้า.... เค้าแอบมองเธอผ่านทางกระจกของตู้ปลาอีกฝั่งนึง...
........เอ๊ะ! นั่น.....ผู้หญิงคนนั้นนิ๊ ^_^ใช่แล้ว...ใช่เธอจริงๆ แววตาที่แสนจะอ่อนโยนของเธอ..ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอันไร้เดียงสาของเธอ ทำให้ผมถึงกับเคลิ้มไป ความรู้สึกของผมในตอนนี้มันกำลังบอกว่า เธอดูงดงามยิ่งกว่าปลาในตู้ซะอีก................... แย่แล้วววววว.... เธอเห็นผมเข้าแล้ว.. เธอเห็นว่าผมกำลังแอบมองเธอ ทำไงดีหล่ะ!.. ผมเขินจนทำอะไรไม่ถูกแล้ววววว........
..................................
.............
ซูริทำหน้างงซักพักพลางมองชายแปลกหน้าที่อยู่อีกฝั่งนึงของกระจก ..เธอโค้งเล็กน้อยทักทายผู้ชายที่ไม่รู้จักคนนั้น แล้วเค้าก็โค้งทักทายกลับด้วยท่าทางที่ดูเขินๆ ก่อนที่สาวตาหวานจะพูดออกไปว่า..............
"เออ............ปลาสวยดีนะค่ะ^_^"
ชายร่างเล็กทั้งอายทั้งเขิน หน้าแดงกล้ำอย่างกับลูกตำลึง ก่อนจะตอบเจ้าของเสียงหวานนั้น...ด้วยคำพูดที่ติดๆ ขัดๆ
"อ..อ..อ..อ๋อ............คับ สวยมากๆ คับ ....สวยมากๆ เลย แฮ่ะๆ^_^" จิงๆ แล้ว ความหมายของคำตอบนั้น เค้าไม่ได้ชมปลาที่อยู่ในตู้ซักนิด
.....................................
...............
เฮ้ยยยยยยยยย...ลืมไปเลย สายแล้วนิ๊!........ ซูริดูนาฬิกาแล้วนึกขึ้นได้ว่า เธอยังไม่ได้ไปพบกับอาจารย์ที่ปรึกษาเลย เธอโค้งลาเค้า แล้วรีบร้อนวิ่งจากไป
จุนซูเสียดายมากที่ยังไม่ทันได้ถามชื่อเธอ....ยังไม่ได้ทำความรู้จักกับเธอ....เค้ายังไม่ได้แนะนำตัวเองเลยด้วยซ้ำ เธอก็ดันจากไปซะแล้ว ในใจก็คิดแต่ว่า ไม่รู้จะได้เจอเธออีกเมื่อไหร่?...เค้าจะได้พบเธออีกเมื่อไหร่?............ อีกเมื่อไหร่น๊า?............ คงต้องปล่อยให้เป็นคำตอบของพระเจ้าแล้วหล่ะ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตึก..ตึก..ตึก..โครมมมมมมมมมม......โอ้ยยยยยยยยยยย....... ซูริรีบร้อนมากจนวิ่งไปชนผู้ชายคนนึงเข้า และเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นก็พบว่า ชายคนนั้นก็คือ ..เจ้าของบ้านตัวแสบคู่ปรับของเธอนั้นเอง.. เค้าเดินมากับเพื่อนอีกสองคน ........แจจุงกะยุนโฮ........
"นี่เธออีกแล้วหรอ!...... นี่เธอจะรีบร้อนไปไหนเนี้ยะ วิ่งไม่ดูทางเลยรึไง ซุ้มซ้ามจิงๆ" ยูชอนตะคอกใส่คู่หมั้นต่อหน้าเพื่อน
ให้ตายสิ!.... มหาลัยนี้ออกจะกว้างใหญ่ไพศาล ทำไมฉันต้องมาเจอไอหมอนี่เข้าอีกจนได้ แค่เจอหน้ากันที่บ้านก็แทบจะฆ่ากันตายอยู่แล้วววววววววว....กำจิงๆ เลย.......
"ชิ!..... แล้วทีนายหล่ะ เดินดูทางบ้างรึปล่าว เห็นคนวิ่งมาทำไมไม่หลบ อยากมาขว้างทางเองทำไม!" ซูริเถียงกลับ
"นี่ผิดแล้วยังไม่ยอมรับอีกหรอ ห๊า! ยัยช็อกโกแลต"
"ห๊าาาาาาาา......อะไรนะ..... นี่ใครใช้ให้นายเรียกฉันแบบนี้ ฮะ!..."
"ทำหม่ะ! ทำไมฉันจะเรียกไม่ได้..ก็ฉันจะเรียกแบบเนี้ยะ.. มีไรป่ะ" ยูชอนท้าทายและทำหน้ากวนประสาทใส่เธอ
"ก็ด้ายยยย... งั้นฉันจะเรียกนายว่า เจ้าตูบ เหมือนกาน" เธอย้อนกลับ
........พอซูริพูดจบ แจจุงกับยุนโฮก็หัวเราะลั่น ยูชอนอายเพื่อนมากๆ ที่คู่หมั้นตัวแสบเรียกเค้าแบบนั้น............
"นี่เธอ!...เธอกล้าดียังไงมาเรียกฉันแบบนี้ ฮะ!.." ยูชอนทั้งโมโหทั้งอายเพื่อน
"แล้วทำไมจะเรียกไม่ได้....ไอคนที่ชอบพูดว่า ที่นี่บ้านของฉันนะ!..เปียโนของฉัน!..แถมยังชอบหาเรื่องรังควานฉันอยู่ตลอดเวลาอย่างนาย... ถ้าไม่ให้เรียกว่าเจ้าตูบจะให้เรียกว่าอะไรฮะ!"
..........เมื่อตาหวานพูดจบ เธอผลัดอกร่างสูงที่ขว้างตรงหน้าให้หลีกทางไปซะ แล้วเธอก็เดินจากไปโดยไม่สนใจว่า คุณชายปาร์คหน้าแดงจนควันออกหู............
"55555+ เนี้ยะหน่ะหรอ... คู่หมั้นนาย..แสบชะมัด" พี่คนโตถามพลางยกแขนโอบไหล่กว้างๆ ของยูชอน
"เออใช่.... แสบจิงๆ อ่ะ แต่ก็น่ารักดีนะ ไม่เห็นจะดำอย่างที่นายบอกเลย" หัวหน้ากลุ่มออกความเห็น
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คณะ Communication Arts ห้อง B
"จุนซู..จุนซู...จุนซู....พี่จุนซูคร๊าบบบบบบบ" น้ำเสียงของชางมินดังขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่เค้าพยายามจะเรียกพี่สี่หลายครั้ง แต่โลมาน้อยกลับไม่ได้ยิน
"อะไรห๊าชางมิน! นายเรียกฉันซะเสียงดังเชียว..." จุนซูตกใจแล้วหันมาถามน้องเล็ก
"ก็ฉันเรียกนายแล้วตั้งหลายครั้ง นายไม่ได้ยินเอง.. มัวแต่นั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างอยู่นั่นแหล่ะ.. คิดอะไรอยู่หรอ?" น้องมินถามพลางทำหน้าสงสัย
"หะหะห๊าาาาาาา......... ปล่าวนิ๊ ..ฉันก็แค่เห็นว่าวิวข้างนอกมันสวยดี..ก็เท่านั้นหน่ะ" จุนซูตอบไม่ตรงคำถาม
"จริงอ่ะ.. แล้วทำไมนายต้องหน้าแดงด้วยอ่ะ มีพิรุธนะเนี้ยะ...." น้องเล็กพยายามจะจับผิด
"ก็บอกไม่มีอะไรไง... นายเลิกถามเซ้าซี้ได้แล้ววว ..แล้วนี่อะไรเนี้ยะ จะเข้าเรียนอยู่แล้วนายยังไม่หยุดกินขนมอีก หยุดกินได้แล้ว!" จุนซูรีบเปลี่ยนเรื่องพลางหยิบถุงขนมออกจากมือชางมิน
"เฮ้ยยยยยยยย... เอามานี้นะ! ฉันยังกินไม่หมดเลย เอาคืนมาเดี๋ยวนี้..." ชางมินพยายามจะแย่งถุงขนมคืนมาจากพี่สี่
..............จุนซูแกล้งน้องเล็กอยู่ซักพัก ก่อนที่เค้าจะเหลือบไปเห็นอาจารย์เดินเข้ามาในห้องพอดี...................
"นั่นไง... อาจารย์มาแล้ว นายอดกินแล้วชางมิน5555555+"
...................บรรยากาศในห้องเงียบลงทันที ช่างต่างจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง.........................
"อันยองฮาเซโย................." ทุกคนในห้องกล่าวสวัสดีอาจารย์ตามธรรมเนียมที่เคยทำปกติ
หลังจากที่อาจารย์กล่าวทักทายบ้างแล้ว คุณเธอก็บอกกับนักศึกษาทุกคนในห้องว่า วันนี้ห้องเรามีเพื่อนใหม่เพิ่มมาอีกคน แถมเป็นคนไทยอีกต่างหาก ทุกคนต่างพากันจดจ่อรอดูหน้าเพื่อนใหม่คนนั้น... ทันใดนั้นเองโลกของจุนซูก็เหมือนกับหยุดหมุนทันที..ทุกอย่างดูหยุดนิ่ง..หลังจากที่เค้าเห็นผู้หญิงคนนึงกำลังเดินเข้ามาในห้อง "ซูริ " เธอคือผู้หญิงคนนั้น........ โลมาน้อยรู้สึกเหมือนพระเจ้าเข้าข้างเค้า..เหมือนว่าพระองค์ทรงประทานพรแก่เค้า ...เค้านั่งนิ่งแล้วมองเธอไม่ละสายตา จนกระทั่งอาจารย์บอกให้ซูริไปนั่งโต๊ะตัวที่ว่างอยู่ ข้างหน้าชางมิน...โลมาน้อยยังคงมองสาวตาหวานอยู่อย่างนั้น โดยไม่ละสายตาไปไหน แม้ว่าภาพที่เค้าเห็นอยู่ตอนนี้เป็นเพียงแค่ด้านหลังของเธอเท่านั้น.....................
Finish >>> Chapter 3
To Be Continued >>>>>>>>>>
PS. ทุกๆ คอมเม้นท์จะกลายเป็นกำลังใจให้เราในการเขียนตอนต่อไป.. ถึงแม้ว่าเราจะเป็นแค่มือใหม่ ฝีมืออาจจะยังไม่ดีนัก แต่ก็จะพยายามพัฒนาฝีมือขึ้นเรื่อยๆ รบกวนช่วยคอมเม้นท์ด้วยนะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ^_^
ความคิดเห็น