ตอนที่ 16 : [OS] MinNo - Animals
Baby I'm preying on you tonight
Hunt you down eat you alive
Just like animals
Animals
Like animals
ร่างสูงก้าวลงมาจากรถสีดำสนิทด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง แหงนมองท้องฟ้าในค่ำคืนเดือนมืดที่ไร้แสงจากพระจันทร์ส่องสว่างอาจจะทำให้บรรยากาศดูวังเวง หากแต่สำหรับนักล่านั้น...ความมืดนี่แหละคือสิ่งบ่งบอกถึงเวลาหาอาหาร
เบื้องหน้าเป็นไนท์คลับที่มีชื่อเสียงกลางเมือง ไฟหลากหลายสีสันและเสียงเพลงจังหวะสนุกสนานดังกระหึ่มออกมาต้อนรับลูกค้าหนุ่มสาวที่ต่างหลั่งไหลมาร่วมสนุกตลอดทั้งคืน เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมของ’มนุษย์’รวมไปถึง’อมนุษย์’ทั้งหลายแหล่
เจ้าของเรือนผมดำสวยในชุดสีเข้มทั้งตัวก้าวเท้าไปยังประตูบานใหญ่ที่เด่นหราเบื้องหน้า
“ยังเข้าไม่ได้ครับ ขอบะ...อั่ก!”
ฉับพลันนัยน์ตาสีหม่นแปรเปลี่ยนเป็นสีบุษราคัมวาววับเข้ากันกับม่านตารียาวผิดแผกมนุษย์ เพียงตวัดสายตามองมือใหญ่ที่กำลังเลื่อนมาจับไหล่ตนเพียงเท่านั้นร่างล่ำสันก็ถูกผลักออกด้วยแรงมหาศาลจนเหวี่ยงกระเด็นไปกระแทกกับผนังของคลับด้านหลัง
ส่งสายตาวาวโรธข่มขู่ไม่ให้ใครเยื้องกายเข้ามาใกล้ ริมฝีปากหยักได้รูปเหยียดออกด้วยความรังเกียจ
พวกสุนัขชั้นต่ำ
“ใจเย็นน่า”เสียงนุ่มดังมาจากผู้มาใหม่ ก่อนเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยนจะปรากฏตัวขึ้นจากประตูบานใหญ่นั่น
ลีแฮชาน ผู้เป็นเจ้าของสถานที่แห่งนี้
“อย่าเข้ามาใกล้ฉัน เหม็นสาป”
อีกคนชะงักไปกับถ้อยคำร้ายกาจที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ก่อนหัวเราะร่าไม่ถือสาใดๆ
เขาจะคิดเสียว่าเป็นคำหยอกเย้าจากลูกค้าเจ้าประจำแล้วกัน
“ไม่ถูกกับสัตว์มีขนจริงๆสิน้า ....กับเพื่อนฝูงก็เว้นบ้างไม่ได้หรอ”ว่าด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ อีกคนก็ไม่ได้ตอบรับใดๆมีเพียงหรี่ดวงตาที่กลับมาเป็นสีดำขลับมองด้วยความรำคาญเท่านั้น
“ไปเถอะ คนอื่นมาครบแล้ว”เจ้าของรอยยิ้มกว้างเอ่ยบอกก่อนจะเดินนำเข้าไป
“แจมิน คืนนี้มาเร็วจังวะ”
จองแจฮยอนทักก่อนส่งแก้วให้ เจ้าของชื่อรับมาก่อนทิ้งตัวลงนั่งลงบนโซฟาตัวที่ว่าง กวาดสายตามองไปยังกลุ่มคนถึงแม้จะนั่งอยู่ที่โต๊ะของตนเองก็ยังส่งสายตาเชิญชวนมาเพื่อหาเหยื่อของค่ำคืนนี้
“คืนนี้มนุษย์เยอะจริง”มาร์คลีเปรยด้วยน้ำเสียงหน่าย จากนั้นจึงยกมวนบุหรี่ขึ้นสูบ
“ปกติก็เยอะ”แจฮยอนเถียง
“คืนนี้วันเกิดใครซักคนนึงนั่นแหละ”เจ้าของคลับอธิบาย “ไม่ดีหรอ จะได้มีอาหารให้เลือกเยอะๆ”
ในโลกนี้นั้นนอกเสียจากมีพวกมนุษย์ที่คิดว่าตนเองมีสมองชาญฉลาดและกดข่มเรียกสิ่งมีชีวิตอื่นด้วยคำว่าเดรัจฉาน เบียดเบียนทั้งกันเองและมวลสัตว์เพียงเพราะยกหยิ่งทะนงว่าเป็นผู้มีปัญญาเหนือกว่าสรรพสัตว์ทั้งหลาย
ก็ยังมีพวกเขา...
“รีบหาเหยื่อเหอะ น่ารำคาญ”เอ่ยบอกเสียงเรียบก่อนยกน้ำสีอำพันเข้มขึ้นดื่มหมดแก้วในคราเดียว
Hybrid เผ่าพันธุ์ผสมระหว่างมนุษย์และสัตว์ อมนุษย์เหล่านี้ล้วนปนเปอยู่ในมวลหมู่ประชากรทั่วไป ภายนอกสามารถแฝงตัวเป็นคนปกติได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ หากแต่ละสายพันธุ์จะมีความพิเศษต่างกันออกไป เช่น ความว่องไว สติปัญญา พลังอำนาจ รวมไปถึงพละกำลัง
ในปัจจุบันเพราะสายเลือดเจือจางลงไปมากทำให้ไฮบริดทุกตนล้วนแล้วแต่สามารถแปลงเป็นร่างสัตว์ได้ก็ต่อเมื่อในตอนพลังของตนพร้อมสมบูรณ์เท่านั้น แต่ไม่ว่าเมื่อใดทุกตนจะสามารถรับรู้ได้จากสัญชาติญาณว่าใครเป็นมนุษย์หรือไฮบริดด้วยกัน ทั้งยังสามารถรู้ได้ว่าเป็นสัตว์ชนิดใด
มีข้อยกเว้นเล็กน้อยสำหรับไฮบริดชั้นสูงที่มักมีความสามารถ’พิเศษ’มาตั้งแต่เกิด ยิ่งสายเลือดบริสุทธิ์เท่าใดก็ยิ่งมีพลังเร้นลับแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น รวมไปถึงพลังการแฝงตนเป็นมนุษย์ในสายตาไฮบริดด้วยกันเองอีกด้วย
“ไม่รำคาญอะไรบ้าง”เพื่อนสนิทเผ่าพันธุ์เดียวกันเลิกคิ้วถาม “คืนนี้จะล่าแค่คนเดียวแล้วกัน กลัวลูกค้าไอ้แฮชานลด”
“หร้อ คงไม่ได้อยากจัดจนเอาไปทั่วเหมือนเมื่อคืนนะ”ชายหนุ่มเจ้าของคลับเอ่ยเย้าก่อนจะเอียงตัวหลบแก้วทรงสูงที่พุ่งมายังตนด้วยฝีมือของแจฮยอนที่ภายนอกทำแค่เพียงนั่งนิ่งๆ
“เป็นเสือที่หอนเก่งจริงๆ”จิ๊ปากกับความช่างกวนของเพื่อนสนิท มือหนาแบออก แก้วที่ตกแตกเมื่อครู่ก็คืนสภาพกลับมาเป็นทรงสวยดังเดิม
“ก็พวกงูเห่าเขาว่าไว้ใจไม่ได้”แฮชานยิ้มพราย
“ไว้ใจไม่ได้ที่สุดคงจะเป็นงูจงอางล่ะมั้ง ขนาดพวกเดียวกันก็ยังกินกันเองได้เลยไม่ใช่หรอ”คำแขวะนั่นมาจากริมฝีปากเล็กของเด็กชายผู้เป็นมนุษย์คนเดียวในกลุ่ม
“ถ้าไม่โง่ก็ไม่ถูกกินหรอกเหรินจวิ้น”เขาบอกแล้วกระตุกยิ้ม คนโดนตอกกลับได้แต่เบ้ปากฮึดฮัด
สัตว์ทุกตัวย่อมมีการหาอาหารและล่าเหยื่อ ไม่ล่าก็ต้องถูกล่า สิ่งมีชีวิตใดๆล้วนต้องการอาหารเพื่อความอยู่รอด เป็นกฎเกณฑ์ธรรมชาติที่ไม่อาจฝืนได้
แต่ไฮบริดนั้นกลืนกินผ่านทางการสู่สม
ดูดกลืนพลังชีวิตของเหยื่อด้วยเซ็กส์แทนการดื่มกิน อาหารที่ดีที่สุดของไฮบริดคือพลังชีวิตจากไฮบริดในสายพันธุ์ที่เป็นเหยื่อของตนตามห่วงโซ่อาหาร รองลงมาคือมนุษย์
ยิ่งถูกกินมากเท่าไหร่เหยื่อจะอ่อนแรงไปมากขึ้นเท่านั้น ในการล่าเหยื่อแต่ละครั้งจึงมีกฎว่าห้ามถึงแก่ชีวิต
“แต่ถึงจะเป็นมนุษย์ก็อยากลองโง่ถูกแจมินกินดูจัง ฉันจะตายไหมนะ”
“หึ”นาแจมินเสหน้าตัดบทสนทนาทื่อๆเพราะความรำคาญ
กระทั่งสายตาคมกริบไปปะทะเข้ากับร่างเล็กที่นั่งเยื้องห่างไปอีกสองสามโต๊ะ
เจ้าของใบหน้าหวานหมดจดหลุบมองแก้วในมืออย่างเหม่อลอย แก้มใสนั่นแดงระเรื่อด้วยฤทธิ์แอลกอฮอลล์ ริมฝีปากเล็กสีเชอร์รี่เบะออกเล็กน้อยคล้ายกับเจ้าตัวกำลังเบื่อหน่ายแต่กลับดูยั่วเย้าเสียจนน่าขบกัด
เมื่อรู้ตัวว่าถูกจ้องมอง ดวงตาเรียวฉ่ำหวานนั่นก็ช้อนขึ้นสบ
นาแจมินนึกถึงกระต่ายขนนุ่มฟูแสนไร้เดียงสา ไม่แม้แต่ระวังภัยว่าจะถูกล่าเมื่อใด ทุกส่วนบนร่างบอบบางนั่นดูน่าทะนุถนอมจนอยากจะฝังคมเขี้ยวฉกกัดให้ปากเล็กๆร้องเสียงหวานน่าภิรมย์ตลอดทั้งคืน ตีตราครอบครองผิวขาวเนียน กอดรัดจนร่างกายเย้ายวนแนบสนิท กลืนกินเนื้อหวานซ้ำๆจนหมดความกระหายอยาก
กระทั่งมือเล็กวางแก้วที่ว่างเปล่าลง
อสรพิษหนุ่มกระตุกยิ้ม
ได้เวลาหาอาหารแล้ว
ร่างสูงโปร่งขยับก้าวเท้าเข้าไปหาพร้อมทิ้งตัวลงนั่งข้างกายเล็ก อีกคนเพียงคลี่ยิ้มรับ ความเย้ายวนแต่ไร้กลิ่นเคล้าเลือดจากผิวเนื้อเหมือนเหยื่อตัวอื่นทำให้แจมินเลิกคิ้ว
มนุษย์?
“สวัสดีครับ”เจ้าของใบหน้าคมคายเอ่ยทักทายเรียบๆ มือหนายื่นแก้วคอกเทลสีชมพูสวยที่สั่งไว้เมื่อครู่ให้อีกคน
สีหวาน รสนุ่มละมุน หากแต่ฤทธิ์มัวเมาเข้มข้นเป็นสิ่งที่นาแจมินเลือก
คิ้วสวยของคนตัวขาวขมวดมุ่นเล็กน้อย ร่างเล็กมองเขานิ่งอยู่ชั่วครู่คล้ายกำลังชั่งใจ
“ดีครับ”มือเล็กรับไปแต่โดยดี กลีบปากแดงเรื่อเผยรอยยิ้มมีเลศนัยก่อนจะยกขึ้นจิบเชื่องช้า ทุกการกระทำดูสงบนิ่งแต่ก็เคลือบแฝงไปด้วยความเย้ายวนเสียจนต้องข่มสัญชาตญาณนักล่าของตนไม่ให้ผลีผลามรุกล้ำจนเหยื่อตัวน้อยตื่นตระหนก
“มาคนเดียวหรอครับ”ตัดสินใจเอ่ยคำถามพื้นๆจนริมฝีปากได้รูปจุดยิ้ม
“ถ้าไม่ได้มาคนเดียวจะไม่คุยด้วยหรอ”คนตัวขาวถามย้อนหยอกเย้า เอียงใบหน้าหวานปรือนัยน์ตาฉ่ำน้ำเจือความเมามองอย่างออดอ้อน
“คุยสิ ผมนาแจมิน แล้วคุณ...?”
“เจโน่ครับ...”
“หืม”เสียงหวานเอ่ยแผ่วเสียจนร่างสูงถือวิสาสะขยับตัวเข้าไปแนบชิด อีกคนหัวเราะเสียงใสก่อนโน้มตัวเข้ามาจนกลิ่นน้ำหอมละมุนชัดเจนในความรู้สึก
“เจโน่ครับ ลีเจโน่”
เพียงเนื้อนุ่มหยุ่นแตะผะแผ่วลงบนติ่งหู ความอดทนของนาแจมินก็เหมือนจะหมดลง
“อื้อ!”มือสากจับคางเล็กให้เงยใบหน้าขึ้นรับจูบร้อน ริมฝีปากร้ายกาจบดขยี้กลีบปากแดงส่งผ่านความต้องการที่ดุดันผ่านรสจูบ เรียวลิ้นรุกล้ำเข้าโพรงปากหวานกวาดเลียกลืนกินเก็บเกี่ยวความหวานโดยไร้ซึ่งความอ่อนโยนหากแต่ร่างในอ้อมกอดก็ตอบรับอย่างดีเยี่ยม
“ฮึ่ก อะ..อืออ” ถอนจูบออกเพียงชั่วครู่ ใบหน้าหวานรับกับแก้มแดงเปล่ง ดวงตาฉ่ำวาว ริมฝีปากอิ่มเรื่ออยู่ใกล้เพียงนิดทำให้แจมินแทบคลั่ง กระชากร่างเย้ายวนขึ้นมาบนตักกว้าง ตะโบมจูบกันอย่างเผ็ดร้อนไม่มีใครยอมใคร ยิ่งรสขมปร่าของเลือดในโพรงปากทั้งสองมากเพียงไรก็ยิ่งทวีคูนความต้องการมากเท่านั้น ลำแขนแกร่งกอดรัดร่างเล็กแน่นเสียจนแทบหลอมเป็นร่างเดียวกัน
มือนิ่มทึ้งจิกกลุ่มผมน้ำตาลหม่นเป็นสัญญาณว่าเริ่มทนไม่ไหว นาแจมินจึงละริมฝีปากออก ไล้ปลายลิ้นเลียน้ำใสที่เยิ้มทั่วทั้งกลีบปากกลืนลงคอแล้วจึงลากความชื้นแฉะไปตามลำคอขาว
“อ.อื้ออ...เจ็บ”ใบหน้าของลีเจโน่เหยเกเมื่อคนตัวสูงซุกลงกับซอกคอหอมแล้วทึ้งกัดลงเขี้ยวคมๆอย่างตะกละตะกลาม มือหนาลากไล้ไปตามผิวนิ่มผ่านเนื้อผ้าแล้วขย้ำสร้างรอยช้ำโดยไม่ยั้งแรงซักนิดแต่ร่างเล็กเองก็ไม่ได้ขัดขืนห้ามปรามใดๆ
วูบหนึ่งสัญชาตญาณส่วนลึกร้องเตือนบางอย่าง แต่นาแจมินเลือกที่จะไม่ใส่ใจ
วกจูบกลีบปากแดงย้ำๆอย่างคนกระหาย ยิ่งร่างเล็กหอบถี่เสียจนดูน่ารังแกมากเท่าไหร่ ความรู้สึกอยากขย้ำก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นเท่านั้น
“อึก.. แจมิน”
“ครับ”
“ไปห้องเรานะ”
ห้องกว้างสีขาวล้วนสาดด้วยแสงไฟแดงสลัวดูสวยแปลกตากับเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นดูไม่ค่อยเข้ากันกับคนตัวขาวเท่าไหร่ทำให้นาแจมินแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็เมินความสนใจไปเสียสิ้นเมื่อมือเล็กแกล้งแตะลงมาที่เป้ากางเกง
“อ๊ะ!”เสียงหวานครางเครือเมื่อคนใจร้อนจู่โจมบดเบียดร่างกายแข็งแรงเข้ามาพร้อมกับริมฝีปากร้อนจัด
ฟัดจูบนัวเนียกันตั้งแต่หน้าประตู ร่างสูงเกี่ยวขาเล็กขึ้นตวัดรอบเอวสอบแล้วพามายังเตียงนอนหลังใหญ่โดยที่ริมฝีปากไม่หลุดออกจากกันเพียงเสี้ยววินาที มือหนาทึ้งถอดเสื้อผ้าบนตัวร่างเล็กออกด้วยความช่ำชอง
“อือ แจมิน”อสรพิษหนุ่มโน้มลงขบกัดผิวเนียนที่ซอกคอหอมละมุน ลากลิ้นชื้นไล้เลียผิวขาวไม่ละเว้นทุกหนแห่ง ร่างกายเล็กถูกกอดรัดบดจูบไปเสียทุกส่วน มือสวยลูบไล้แผ่นหลังกว้างเลื่อนขึ้นขยุ้มเสื้อที่ลาดไหล่หนาก่อนถอดเสื้อตัวนอกร่วงหล่นสู่พื้น แอ่นป้อนความหวานให้ริมฝีปากร้อนที่หิวกระหาย ปล่อยให้เรียวลิ้นสากรัวละเลงเขี่ยเร้าดูดดุนยอดอกแดงก่ำเสียจนเสียงเฉอะแฉะดังไปทั่วห้องกว้าง
ทันทีที่ร่างสูงปลดอาภรณ์ของตัวเองเสร็จสิ้นก็กอดรัดเอวเล็กรั้งสะโพกสวยเข้าแนบชิด คนตัวขาวเอียงมองร่างกายแข็งแรงและลอนกล้ามเนื้อเด่นชัดของอีกคนแล้วกัดปากแน่น เรียวขาขาวแยกออกกว้างอย่างรู้งาน
“อ..อ๊าา อึก แจมิน.. แจมิน.."เพียงเริ่มต้นร่างแข็งแรงก็โหมกระแทกความร้อนรุ่มใส่โดยไม่คิดที่จะยั้งแรงสักเสี้ยว กดขาเล็กอ้ากว้างกับพื้นเตียงกระทั้นย้ำให้ความอุ่นร้อนกลืนกินจนมิด
“อึ่ก อื้ออ ช้า..อ๊าาา”ตอกอัดความเกรี้ยวกราดเข้าออกรุนแรงเสียจนร่างบอบบางครูดไปกับเตียงกว้าง ใบหน้าคมสลักซุกลงดูดเลียสร้างรอยสีเข้มบนผิวขาวกระจ่าง แขนเล็กโอบกอดลำคอแกร่งขยุ้มผมนุ่มระบายความกระสัน จิกทึ้งเต็มแรงเมื่อร่างหนาย้ำกระทั้นจุดภิรมย์ภายในร่างกาย
“อื้อ อ.อื้มม”แจมินเงยขึ้นป้อนจูบหวานโดยไม่ได้ลดจังหวะเอวสอบลงสักนิด ปลายลิ้นทั้งสองคลึงเกี่ยวกันกระหวัดเกี่ยวเย้าหยอกแล้วจึงรุกล้ำเข้าโพรงปากเล็กชอนไชลิ้นสากจนทั่วไม่เว้นแต่แนวฟันขาว
สะโพกแกร่งซอยกระแทกถี่ยิบจนร่างเล็กครวญครางไม่เป็นภาษา แขนแกร่งช้อนเอวเล็กลอยขึ้นเสียจนไม่ติดพื้นเตียง ย้ำอัดแรงอารมณ์ใส่ร่างกายบอบบางโดยไร้ซึ่งความอ่อนโยนใดๆ
หากแต่สัญชาตญาณร้องเตือนเสียจนนาแจมินใจกระตุก
มันแปลก
เสพสมตักตวงอาหารอันโอชะข้างใต้เท่าไหร่ก็ไม่รู้จักพอ ยิ่งลิ้มลองร่างกายอีกคนยิ่งหิวโหยราวกับถูกกลืนกินเสียเอง
“อืมม”จังหวะสุดท้ายที่ร่างสูงกระแทกย้ำแล้วปลดปล่อยความอุ่นร้อนของห้วงอารมณ์ในร่างกายเย้ายวน นาแจมินก็รู้สึกเหมือนถูกกระชากวิญญาณไปชั่วครู่ หัวใจบีบเกร็งจัดเสียจนเจ็บ ร่างทั้งร่างสั่นเทิ้มราวกับจับไข้
ใบหน้าคมคายถูกจับขึ้นให้รับจูบอีกครั้ง นาแจมินก็ตอบรับโดยดีหากแต่ยิ่งดื่มด่ำรสจูบหวานฉ่ำแต่กลับยิ่งกระหาย ลำคอแห้งผากราวกับกำลังถูกดูดกลืนน้ำไปจากร่างกาย
สัมผัสนี้มัน...
เหยี่ยว!
ทันทีที่เห็นว่าเหยื่อรู้ตัว ร่างกายบอบบางจึงพลิกตัวขึ้นคร่อมทับอสรพิษหนุ่ม เพียงใบหน้าหวานหมดจดกระตุกยิ้มร้ายกาจ โซ่เส้นหนาจากหัวเตียงก็เคลื่อนมาตวัดรัดข้อมือหนาและข้อเท้าแข็งแรงทั้งสองข้างอย่างฉับไว ไม่ว่านาแจมินพยายามใช้พละกำลังสะบัดออกเท่าใดก็ไม่มีวี่แววว่าจะขาดหรือหลุดออกแม้แต่น้อยซ้ำยังรัดแน่นกว่าเก่าราวกับมีชีวิต
“ปล่อย!! ...อึก”มือเล็กวางทาบลงบนหน้าท้องแกร่งก่อนสะโพกสวยจะขยับกลืนกินส่วนแข็งขืนจนสุด ความคับแน่นรัดตัวตนร้อนจัดเสียจนร่างสูงกระสันอยากตามสัญชาตญาณดิบอย่างควบคุมไม่ได้
“อื้อ..อ่าาา ร่างกายคุณโคตรดีเลยรู้ตัวไหม”ลูบไล้ไปตามลอนกล้ามเนื้อสวยอย่างถือดี ความแข็งแกร่งถูกตอกอัดเข้ามาพร้อมพลังชีวิตแสนเยี่ยมทำให้ลีเจโน่เปี่ยมสุขอย่างที่สุด
ฟ่อ
นาแจมินขู่ร้องตามสัญชาตญาณ นัยน์ตาบุษราคัมฉายชัดถึงความแข็งกร้าว พยายามจะทึ้งโซ่พันธนาการให้ขาดเสียจนสร้างรอยแผลช้ำเลือดที่ข้อมือหนาหากแต่ก็ไร้ผล
สัญชาตญาณเขาไม่เคยผิด
อีกคนพรางตัวเก่งเกินไป ไม่…พรางตัวได้ขนาดนี้อาจเป็นไฮบริดชั้นสูงเลยด้วยซ้ำ
“อ่าา อึก”คนตัวขาวเร่งขย่มสะโพกขึ้นลงให้ความร้อนผ่าวกระแทกเข้าร่างกายตนถี่รัว ด้วยบ่วงแห่งราคะทำให้ร่างสูงเผลอขยับเอวสอบรั้งตัวตนเข้าหาร่างกายหอมหวานด้านบนอย่างเผลอตัว ลีเจโน่เชิดใบหน้าขึ้น กัดกลีบปากสีเรื่อแน่นพลางโหมขยับลึกเสียจนถึงใจ
“อ๊ะ...อาา”
“อึ่ก!”
จนการกลืนกินสิ้นสุดอีกครั้ง ใบหน้าหวานก้มลงกดจูบลงที่สันกรามคมผะแผ่วอย่างอิ่มเอม สบสายตาอาฆาตของดวงตาเรียวที่พยายามปรือมองด้วยความเหนื่อยอ่อนแล้วกระตุกยิ้ม เดาได้ไม่ยากว่าหากไม่มีโซ่พันธนาการไว้ งูจงอางผู้แสนยิ่งสโยข้างใต้คงฆ่าเขาตายไปแล้ว
ลุกขึ้นมาแต่งตัวโดยไม่รีบร้อนแล้วหยิบไฟแช็คในกระเป๋ากางเกงของร่างสูงขึ้นมาจุดบุหรี่มวนเล็กของตน
นัยน์ตาดำสนิทแปรเปลี่ยนเป็นเป็นสีน้ำตาลอ่อน ทิ้งวงกลมตรงกลางเป็นสัญลักษณ์ถึงความเด็ดเดี่ยวของเหยี่ยว ที่ใครต่างเรียกกันว่าเป็นเจ้าของเวหา
คาบแท่งนิโคตินสูดความหอมเย็นเข้าเต็มปอดแล้วจึงปรายตามองเหยื่อที่แท้จริงของค่ำคืนนี้อย่างเรียบเฉย
อสรพิษหรือจะสู้ปักษาผู้เป็นผู้ล่า
มือเล็กปล่อยมวนบุหรี่ร่วงลงสู่พื้น
ก่อนจะทิ้งไว้เพียงร่างสูงอ่อนแรงบนเตียงอันเป็นอดีตสมรภูมิรักของเรา
FIN
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แซ่บเวอร์
น้องเจนเผ็ชมากกก แงงยัยน้องงง
ภาษาสวยมากค่ะ ชอบภาษาที่แต่งมากทั้งเห็นภาพทั้งสวยงาม วูบวาบทั้งเรื่องเลยยยยยยย
กรี๊ดดดด มันดีย์มากๆเลยค่ะ น้องเจนคือเผ็ชมาก แซ่บสุดยิ่งกว่าพริกทั้งสวน ควีนสุดๆเลยยยย
นาแจมคือโดนเค้ากินเฉย ก็นะ น้องเจนเป็นเหยี่ยวที่แซ่บขนาดนี้ใครจะห้ามใจไหวล่ะเนอะๆๆๆ
ชอบมากๆเลยค่ะ อ่านไปก็วูบวาบ ลุ้นไปว่าใครกันแน่จะโดนกิน อยากอ่านอีก จะรอนะคะ