คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Intro
Intro
“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว..................”
นี่คือประโยคคลาสสิกที่มักจะขึ้นในเทพนิยายเสมอ
มันหมายความว่าไงรู้มั๊ยครับ.........
มันก็หมายความว่าอีกไม่นานนัก คุณก็จะได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าหญิงแสนสวย!(บวกด้วยมีน้ำเสียงอันแสนไพเราะ.....ร้องเพลงทีไร ขนาดนกยังต้องมาร่วมร้องด้วยเลย!) เจ้าชายผู้กล้าหาญ!(และหล่อ เท่!) แม่มดใจร้าย(หรือแม่เลี้ยงใจร้ายก็ตามแต่.....)และสิ่งที่สำคัญที่สุด.... เวทย์มนต์!
แล้วโปรดอย่าลืมมมมม
“และแล้วพวกเขาก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข..........ตลอดไป.”
ให้ตายสิ! ฟังแล้วรู้สึกไร้สาระเป็นบ้า
ไม่ใช่ว่าผมมองโลกในแง่ร้าย มีอคติ หรืออะไรก็ตามแต่นะครับ
ผมแค่ไม่ชอบจริงๆ ไม่ใช่แค่ว่าไม่อยากได้ยิน แต่รวมทั้งไม่อยากเข้าใกล้หรือมีเอี่ยวกับเรื่องพวกนี้เลย เรื่องนี้ใครๆเขาก็รู้ครับ โดยเฉพาะเพื่อนสนิทของผม
เพียงแต่มันไม่เคยสนใจเท่านั้นเอง....
* * *
“นี่.........”เสียงนุ้มทุ้มที่ดังขึ้นเรียกให้ชายหนุ่มละสายตาจากงานในมือหันมามองอย่างสงสัย ทั้งๆที่ตอนนี้ท้องฟ้าภายในมหาลัยเริ่มมืดแล้ว หากแต่สีหน้าเครียดๆของอีกฝ่ายก็ยังคงมองเห็นได้ชัดเจน คิ้วเรียวจึงเริ่มขมวดมุ่นอย่างแปลกใจ
“ว่าไง?”
“เราคบกันมากี่ปีแล้ว?”เสียงทุ้มเกริ่นต่อด้วยประโยคที่ทำเอาคนฟังทั้งที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งฟังชะงักกับความหมายของมัน
“ไม่แน่ใจว่ะ 3 - 4 ปีแล้วมั้ง.........ทำไม?”ประโยคสุดท้ายคนตอบกัดฟันย้อนถามเสียงเข้ม ด้วยว่าตอนนี้เสียงจอกแจของบรรดานักศึกษาผู้นิยมชมชอบมหาวิทยาลัยตอนดึกๆที่ได้มารวมตัวกันที่ลานกว้างซึ่งเต็มไปด้วยโต๊ะหินอ่อนนี้ได้เงียบลง ราวกับตั้งใจฟังพวกเขาคุยกันอย่างไงอย่างงั้น
“เราเป็นเพื่อนสนิทกันใช่มั๊ย?”หากแต่คนถามกลับถามต่อไปอย่างไม่สนใจ
“
”ดวงตาคู่โตหรี่ลงอย่างไม่ไว้ใจกับคำถามของผู้เป็นเพื่อน
“นายรู้ใช่มั๊ย ว่าเอกเราก่อนจบจะต้องทำโปรเจค.......”
“.......” คิ้วของคนฟังขมวดกับสรรพนามที่ดูจะสุภาพเกินเหตุ
“โปรเจคของเราคือว่า เราจะทำหนังสั้น........”
“.......”
“แล้วหนังสั้นของเราจะต้องไม่เหมือนใคร ด้วยการนำเทพนิยายมาประยุกต์ใหม่”
ตาขวาของคนฟังเริ่มกระตุก
“ เพราะฉะนั้นได้โปรดกรุณามารับบทนำในเรื่องด้วยเถอะครับ *_* ”พูดจบคนพูดก็ลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้นทันที
“ไม่!!!!!”คนถูกขอร้องตวาดลั่น พลางกระโดดยืนขึ้น แล้วพยายามสะบัดขาที่บัดนี้ถูกกอดเอาไว้พัลวัน
“นะ....น้าาาาาาาา คิม แจจุง สุดหล่อได้โปรดช่วยเพื่อนปาร์คนี้ให้รอดตายด้วยเถอะครับ”
“ไม่.... ไม่มีวัน ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ไอ้ยูชอน ปล่อยโว๊ยยยยยยย” คนถูกกอดขาโวยวายอย่างขัดใจ ก่อนจะเริ่มรู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้าเนื่องด้วยสายตาของคนอื่นที่เริ่มมองมา...
“เราจะไม่มีวันปล่อยนาย ถ้านายไม่รับปากเราก่อน ><”หากแต่คนถูกสะบัดยังคงตอบแบบไม่แคร์สื่อ ชนิดที่ทำเอาคนถูกกอดเริ่มกัดฟันกรอด และเริ่มชักอยากทำการฆาตกรรมคนขึ้นมาร่ำไร
“ไม่ มี - วัน” ย้ำช้าๆชัดๆราวกับจะให้คำพูดทะลุเข้าไปในหัวของผู้ฟัง ก่อนจะโวยวายต่อ “แกก็รู้ไม่ใช่รึไงยูชอน ว่าฉันเกลียดไอ้เทพนิยายบ้าบอนี่ขนาดไหน แล้วยังจะมาขอร้องอีกรึไง ฉันไม่อยากมีเอี่ยวในเรื่องไร้สาระนี่นะโว๊ยยยยยยย”
“อย่าเรียกโปรเจคของฉันว่าไร้สาระ.........”ผู้เป็นเพื่อนเถียงเสียงเข้ม ก่อนรีบเอ่ยเมื่อเห็นว่าแจจุงชักจะเริ่มทำการฆาตกรรมเขาแน่ๆแล้วถ้ายังตื้อมันต่อไป “โอเคๆ ฉันเข้าใจว่าแกรำบากใจ แต่ฉันรับรองเลยนะว่ามันไม่ใช่เรื่องไร้สาระแน่นอน”
“........”
“แกรู้มั๊ยว่าฉันอุตส่าห์ไปขอร้องคิม จุนซู มือหนึ่งของเอกการเขียนบทมาเขียนบทให้เลยนะ แถมยังได้ไอ้ยุนโฮสุดยอดผู้กำกับมากำกับอีกด้วย”
“........”
“นอกจากนี้แล้วยังมี ชางมิน รุ่นน้องเอกการละครของฉันมาช่วยด้วยนะ”
“ฟังแล้วไม่เห็นเลยนี่ว่าแกจะได้ทำอะไร”แจจุงเอ่ยเสียงเย็น ขณะที่มือเรียวเอื้อมไปหยิบของข้างตัว
“ทำเซ่! หน้าที่หนึ่งเดียวของฉันคือมาลากแกไปแสดงไง ><v อ๊ากกกก อย่านะโว๊ยยยย “ประโยคสุดท้ายร้องเสียงหลงเมื่อเห็นแจจุงเงื้อเตรียมทุ่มของในมือ ยูชอนกระโดดขวับออกหากจากผู้เป็นเพื่อนด้วยความเร็วสูง
“ทำไม?”แจจุงเอ่ยเสียงเยียบเย็น “ทำไมต้องเป็นฉัน”
คำถามที่ทำเอาคนต้องตอบตอบเสียงอุบอิบ
“ก็...ยุนโฮ.....”
“ตอบดังๆเซ่ ไม่ได้ยิน”แจจุงตวาด
“ก็ยุนโฮบอกว่า ถ้าไม่ได้นายมาเป็นคนแสดงจะไม่ยอมกำกับให้น่ะ”
* * *
TBC.
ความคิดเห็น