ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Masquerade in the darkness คฤหาสน์ต้องสาป

    ลำดับตอนที่ #4 : 2 :: The Masquerade 30%

    • อัปเดตล่าสุด 5 มิ.ย. 59


    2

    The Masquerade

     

    นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย

                อาคุมะสบถในใจ ดวงตาสีเฮเซลมองไปรอบตัวอย่างตื่นตระหนก

                ไม่มีอีกแล้วคฤหาสน์ร้างที่เต็มไปด้วยความมืดมิดและเงียบเหงา ตอนนี้สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาของเด็กหนุ่มคือสภาพห้องโถงใหญ่อันโอ่อ่า เท้าของเขายืนอยู่บนพรมสีแดงหนานุ่มที่ปูตลอดทางเดิน บรรดา เชิงเทียนทองเหลืองติดเสาถูกขัดจนเงาวับ โคมไฟระย้าสาดแสงไฟสว่างอย่างโดดเด่นบนเพดานที่ถูกวาดเป็นสรวงสวรรค์อย่างวิจิตร

                อย่างเดียวที่ดูไม่เหมาะก็คงจะเป็นเขานี่แหละ!

                ซ่อน... เขาต้องซ่อนตัวก่อน...

                นี่เป็นความคิดแรกที่พุ่งเข้ามาในหัวของเด็กหนุ่ม ซึ่งอาคุมะก็เลือกที่จะทำตามอย่างรวดเร็วเมื่อเสียงจอแจเริ่มดังขึ้น ราวกับต้นเสียงเริ่มใกล้เข้ามาแล้ว

                เด็กหนุ่มเพิ่งพุ่งตัวเข้าไปในประตูบานที่ใกล้ที่สุดเมื่อประตูที่เคยล็อกของคฤหาสน์เปิดออก จากหางตาเขาเห็นเหมือนเงาของคนกลุ่มใหญ่เข้ามาในคฤหาสน์ ก่อนที่ประตูจะปิดลง

                แล้วอาคุมะก็พบว่าตัวเองอยู่กับความมืดอันเงียบงันอีกครั้ง...

                เด็กหนุ่มขมวดคิ้วด้วยฉงน เมื่อหยิบมือถือในเป้ขึ้นมาเพื่อเป็นไฟฉายแล้วพบว่าตัวเองอยู่ในห้องห้องหนึ่งที่เต็มไปด้วยฝุ่นและหยากไย่ สภาพความเก่าของมันทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

                ระหว่างห้องโถงอันสว่างไสวจากเทียนนับพันเล่มเมื่อครู่ กับห้องที่เต็มไปด้วยฝุ่นและความมืดมิดห้องนี้ อย่างไหนคือสภาพจริงๆของคฤหาสน์หลังนี้กันแน่นะ

                ไม่ใช่สิ....

                ตอนนี้เขากำลังเจอเรื่องบ้าอะไรอยู่กันแน่(วะ)?

                นึกถึงสภาพของคฤหาสน์ก่อนหน้านี้ และเสียงนาฬิกาแปลกๆนั่นก็ยิ่งมีแต่เรื่องที่ไม่เข้าใจ แต่จะให้เปิดประตูกลับไปพิสูจน์ความสวยงามของห้องโถงใหญ่อาคุมะก็ไม่อยากทำ ยอมรับแบบแมนๆเลยก็ได้ว่าเขาไม่กล้าพอ...

                ขอทำใจในห้องมืดๆเงียบๆนี่ก่อนก็แล้วกัน

                แต่ถึงอย่างนั้นกลิ่นคาวเลือดฉุนจัดจากมือของตัวเองก็ทำให้เด็กหนุ่มต้องขมวดคิ้ว เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเลือดจากแผลที่มือขวายังไม่หยุดไหล

                ตามปกติแล้วเลือดจะไม่มีกลิ่นคาวมากนัก ยกเว้นว่าถ้าเจอน้ำ ดังนั้นเด็กหนุ่มจึงเดาได้แน่ๆว่าตัวเขาที่เปียกปอนไปทั้งตัวคงเป็นสาเหตุที่ทำให้กลิ่นของเลือดฉุนจัดแต่เพราะความตกใจจากเรื่องอื่นเลยทำให้เพิ่งรู้ตัว และนั่น... ก็ทำให้เด็กหนุ่มเริ่มเวียนหัว

                อาคุมะตัดสินใจพันผ้าเช็ดหน้าให้แน่นขึ้นอีกพลางคิดในใจว่าถ้าเลือดยังไม่หยุดไหล เขาคงจะต้องออกไปข้างนอกในเร็วๆนี้แน่

                แต่ถึงอย่างนั้น เด็กหนุ่มก็ส่องไฟไปรอบๆห้องอีกครั้ง ก่อนจะรู้ตัวว่าตัวเองอยู่ในห้องที่ค่อนข้างแปลกประหลาด...

                ไม่ใช่สิ... ห้องนี้ไม่ได้แปลก แต่สิ่งที่อยู่ในห้องนี้ต่างหากที่แปลกประหลาด

                อาคุมะขยับตัวอย่างเชื่องช้าไปยังกลางห้อง ก่อนกลั้นใจยกไฟฉายขึ้นมาตรงหน้าเพื่อสบตากับตัวเองในกระจก...

                มันเป็นกระจกเงาบานใหญ่ที่เต็มไปด้วยฝุ่นและคราบที่จับจนมัวแทบจะมองอะไรไม่เห็น แต่ถึงอย่างนั้น อาคุมะก็พอมองออกว่ามันกำลังสะท้อนภาพของเด็กหนุ่มคนหนึ่งอยู่

                เด็กหนุ่มคนนั้นหน้าตาเหมือนเขา กำลังยืนค้างด้วยท่าทางเดียวกับเขา มือขวาก็มีผ้าเช็ดหน้าพันอยู่เช่นเดียวกับเขาเหมือนกัน ยกเว้นแค่ว่าเจ้าตัวกำลังใส่ชุดออกงานเต็มยศที่เขาเคยเห็นแต่ในภาพยนตร์เท่านั้นเอง

                อาคุมะกลืนน้ำลายลงคอเบาๆด้วยความหวาดหวั่น แต่ถึงอย่างนั้น เด็กหนุ่มก็เลือกที่จะเอื้อมมือข้างที่ว่างออกไปเพื่อลองเช็ดกระจกตรงหน้าดู เผื่ออะไรอะไรจะชัดเจนขึ้น

                เปรี๊ยะ

                เสียงอะไรบางอย่างร้าวที่ดังขึ้นทันทีที่มือของเขาสัมผัสกับกระจกทำให้อาคุมะชักมือกลับทันที เด็กหนุ่มอ้าปากค้างเมื่อมองดูกระจกตรงหน้าอีกครั้ง

                นอกจากรอยเลือดแล้ว บนกระจกยังมีรอยแตกเล็กๆที่จุดที่เขาสัมผัสอีกด้วย

                แต่นั่นยังไม่น่าตกใจเท่าอีกเรื่องหนึ่ง...

                อาคุมะพยายามตั้งสติตัวเองให้เร็วที่สุด แต่ดูเหมือนว่าจะยากเหลือเกิน เพราะในเมื่อรู้ตัวอีกที... ทำไมตอนนี้เขาถึงใส่ชุดเดียวกับในกระจกได้ล่ะ!

               

    ……………………TBC 70%………………………

     

                

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×