ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    <<<คลังเก็บของต่างๆ>>>

    ลำดับตอนที่ #14 : ใบสมัครนางเอกไอศูรย์

    • อัปเดตล่าสุด 21 เม.ย. 52


    ใบสมัครนางเอก

    ใบสมัครนางเอกคุณชายเย็นชา น่ากลัว ไอศูรย์

    คำตอบสีดำ ตัวบาง  นะคะ

     

    ชื่อ/ชื่อเล่น: ระรัญญา  อสัมภินพงศ์ / เคียงดาว

    สะกดชื่อภาษาอังกฤษ : Raranya  A-sampinpong / Kieng - daw

    สัญชาติ/เชื้อชาติ : ไทย / ไทย

    น้ำหนัก/ส่วนสูง : 170 / 49

    อายุ  (ไม่ต่ำกว่า 18ไม่เกิน24): 20

    อาชีพ : นักศึกษาคณะแพทยศาสตร์เอกศัลยแพทย์ เบื้องหลังทำงานในหน่วยสืบสวนสอบสวนพิเศษ

    คาแร็คเตอร์นิสัย(ขอเยอะๆใส่มาเต็มที่เลนค่ะไม่ต่ำกว่า 5บรรทัด) : ใจเย็น...คำๆนี้อาจจะอธิบายเธอได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าความจริงแล้วมันจะไม่ค่อยถูกนักก็ตาม เพราะว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นคนที่ค่อนข้างจะเฉยๆกับทุกสิ่งทุกอย่างมากกว่า ไม่ได้เฉยชาซะจนไร้ความรู้สึก แต่ก็มีมากกว่าคนทั่วไปนั่นแหละ เรียบร้อยได้ในเวลาที่สมควรเรียบร้อย อ่อนหวานก็เช่นกัน เป็นคนอ่อนโยน แต่เห็นแบบนี้ก็เถอะ เป็นคนที่มีคำพูดเฉียบคม ให้กำลังใจคนได้ ปลอบใจคนได้ ให้ข้อคิดได้  และเชือดคนด้วยวาจาได้อย่างเจ็บแสบเช่นกัน อาจเพราะว่าเธอเป็นคนตรงไปตรงมาด้วย ช่างสังเกตและสงสัย เมื่อสงสัยอะไรแล้วจะต้องหาคำตอบให้ได้ เข้มแข็งและอ่อนแอได้ในเวลาเดียวกัน เพียงแต่ว่าเธอจะเลือกแสดงความเข้มแข็งออกมาเท่านั้น  เป็นคนแปรปรวน

    บุคลิก/ลักษณะ(2บรรทัดขึ้น) : หญิงสาวร่างสูงโปร่ง เธอมีเส้นผมสีดำแกมน้ำตาลยาวถึงเอว ใบหน้ารูปไข่จัดได้ว่าสวยจัด แค่เธอเดินไปที่ไหนก็จะมีคนมองตามเสมอ เธอมักจะมีรอยยิ้มบางๆติดอยู่ที่ริมฝีปาก ดูๆเป็นคนอ่อนโยน หวานอมเปรี้ยวหน่อยๆ จุดเด่นคือ ดวงตาสีน้ำตาลหวาน ที่จะแสดงได้ทุกอารมณ์ของเธอ มันจะดูอ่อนโยนเมื่อมองคุณแบบเป็นมิตร แต่แต่จะเยียบเย็นราวกับมองทะลุความคิดของคุณได้เมื่อเธอสงสัย และจะทำให้คุณกลัวจนแทบหยุดหายใจเมื่อเธอโกรธ

    ด้านมืดของนิสัย : เธอจะซ่อนความคิดความรู้สึกด้านลบทุกอย่างไว้ในตัวเธอ เป็นคนอ่านยากพอๆกับความเรียบร้อย  เลือดเย็นได้พอๆกับความอ่อนหวานอ่อนโยนที่มี วางแผนเก่งระดับเซียน แถมด้วยความเจ้าเล่ห์ระดับสุดยอด แต่เพราะว่าทุกคนเห็นว่าเธออ่อนโยนจึงไม่เคยมีใครดูออก เธอมักจะเก็บความโกรธไว้ในใจ กดมันเอาไว้ และมันจะหายไปเองถ้าไม่โดนกระตุ้น และเมื่อโดนกระตุ้น มันก็จะทำให้คนที่กระตุ้นได้รู้จักกับคำว่ากลัว  คิดอยู่เสมอว่าการตายน่ะไม่เจ็บปวดเท่าการตายทั้งเป็น

    ด้านส่วางของนิสัย :ใจเย็น   ค่อนข้างจะเฉยๆกับทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ได้เฉยชาซะจนไร้ความรู้สึก แต่ก็มีมากกว่าคนทั่วไปนั่นแหละ เรียบร้อยได้ในเวลาที่สมควรเรียบร้อย อ่อนหวานก็เช่นกัน เป็นคนอ่อนโยน แต่เห็นแบบนี้ก็เถอะ เป็นคนที่มีคำพูดเฉียบคม ให้กำลังใจคนได้ ปลอบใจคนได้ ให้ข้อคิดได้  เป็นคนตรงไปตรงมา ช่างสังเกตและสงสัย เข้มแข็งและอ่อนแอได้ในเวลาเดียวกัน เพียงแต่ว่าเธอจะเลือกแสดงความเข้มแข็งออกมาเท่านั้น 

    กลัว : เค้ก ความตาย ด้านมืดของตัวเอง เวลาที่เลือกสาดกระเซ็นใส่หน้า หรือมาโดนใบหน้า(เมื่อโดน....สติสัมปชัญญะของเธอจะหยุดนิ่งทันที เป็นเพราะปมหลัง)

    ประวัติ(ใส่ก็ได้ไม่ใส่ก็ได้แต่ทางที่ดีควรใส่ = =") : พ่อกับแม่ของเธอเสียชีวิตแล้วทั้งคู่ เธอจึงต้องมาอาศัยกับลุงที่เป็นหมอชื่อดัง พี่ชายและพี่สาวของเธอเป็นฝาแฝด พี่สาวเกิดก่อนพี่ชาย 5 นาที ความจริงแล้วลุงเป็นหัวหน้าหน่วยที่เธอทำงานอยู่ และทั้งพี่สาวกับพี่ชายก็ทำงานในหน่วยด้วย

    ความสามารถพิเศษ : เกี่ยวกับการรักษาและการต่อสู้ทุกชนิด โดยเฉพาะยาพิษ และอีกอย่างหนึ่ง เธอคือคนที่ถูกฝึกมาให้รับมือกับคนที่อ่านความคิดแม่นๆได้ ดังนั้นจึงสามารถหลอกให้พวกนั้นไม่สามารถอ่านความคิดของเธอได้ แต่มันก็ทำให้เธอเครียดมากเช่นกัน

    สัมผัสที่6ของตัวละคร (เช่น เห็นผี ลางสังหรณ์แม่นยำ อะไรประมาณนี้ มันไม่ใช่แฟนตาซีมีพลังวิเศษนะคะ มันคือสัมผัสที่6 ไม่ใส่ก็ได้) : รับรู้ถึงความรู้สึกของคนอื่น มันทำให้เธอรู้ว่าคนอื่นรู้สึกอย่างไร และเธอก็จะใช้มันเดาความคิดของคนๆนั้น(หลักการทางจิตวิทยา)

     

    ชื่ออิมเมจ : โก อารา

    อิมเมจคุณ (5รูปขึ้น) :


    อิมเมจคุณชายของคุณ (5รูปขึ้นเช่นกัน) :

     

    ..............................

     

    คำถามทั่วไปข้อมูลผู้สมัครเข้าชิงบท

     

    ชื่อของคุณ : ดาว

    อายุ : 14

    ถ้าติดแล้วต้องมารายงานตัวภายใน 5วันไม่งั้นคุณหลุดแน่ : ค่ะ

    ถ้าติดแล้วกรุณามาเม้นท์ทุกครั้งที่อัพ : ได้ค่ะ

    เวลาเม้นท์ขอให้เม้นท์ยาวได้มั้ยไม่เอาแบบว่า 'สนุกดี' 'รีบมาอัพนะ' 'มาต่อเร็วๆนะ'ขอให้เม้นท์ให้กันยาวๆแบบช่วยแนะนำก็ได้ หรือช่วยเรื่องคำผิดก็ได้ : แน่นอนค่ะ

    ถ้าคุณมีธุระแจ้งมารน้อยไว้มารน้อยจะได้รู้ว่าคุณมีธุระ : จ้า

    ถ้าตัวละครของคุณตายแต่ยังมีบทบาทอยู่คุณจะว่าอะไรมั้ยสัญญาได้มั้ยว่าจะไม่ฆ่ามารน้อย : 555 ไม่ว่าแน่นอนค่ะ

    คิดยังไงกับพล๊อตเรื่อง : น่าสนุกสุดๆเลยค่ะ แต่ตอบคำถามย๊ากยาก

    อวยพรตัวเองหน่อย : ขอให้โชคดี..........

    ขอให้โชคดีและตั้งใจตอบคำถามนะคะ : ค่ะ

     

    ..............................

     

     

    คำถามก่อนจะเข้าไปเผชิญหน้ากับความลึกลับของปราสาท ส่วนแรก (ตอบตามคาแร็คเตอร์ตัวละครของคุณเลยขอ2บรรทัดขึ้นนะคะ)

     

    1.คุณรู้เรื่องปราสาทได้ยังไง : จากพี่สาวที่เอาใบปลิวมาให้ดูตามคำสั่งจากลุงของเธอ(หัวหน้าหน่วย) และบอกเรื่องที่มีคนหายตัวไปบ่อยๆ

    2.คุณเห็นปราสาทนี้ครั้งแรกคุณมีความรู้สึกอย่างไร :
    เย็นยะเยือกจับใจ..........มีแต่กลิ่นอายแห่งความลึกลับเต็มไปหมด ทั้งๆที่อยู่ในตอนกลางวัน แต่กลับรู้สึกเหมือนอยู่ในคืนเดือนมืดอันโดดเดี่ยว น่าแปลก.........ที่เธอไม่สามารถจับความหวาดหวั่นจากคนอื่นๆได้เลย ที่เธอจับได้ มีแต่ความเอาชนะ ความโลภ ความไม่ไว้ใจกัน ความไม่ปรารถนาดี............ความแค้น ยกเว้นคามินเพียงคนเดียวเท่านั้น

    3.สาเหตุที่คุณเข้าไปร่วมเกมส์ชิงมรดกลึกลับในครั้งนี้ :
    เป็นคำสั่งจากหน่วยงานของเธอซึ่งตอนแรกเธอก็ปฏิเสธที่จะรับ แต่ว่า ลุงของเธอ(หัวหน้าหน่วย) บอกว่ามีเพียงเธอเท่านั้นที่เหมาะสมกับภารกิจนี้

    4.คุณยอมรับรางวัลของผู้แพ้หรือไม่ :
    รางวัลของผู้แพ้............รางวัลที่ไม่มีใครอยากได้เท่าๆกับที่ทุกคนอยากได้รางวัลของผู้ชนะ แต่เมื่อได้รับมันแล้ว ก็คงจะต้องยอมรับ.................หรือไม่ก็หาทางเลี่ยงมันซะ

    5.คุณคิดกำจัดใครคนแรกและกำจัดเพราะอะไร : ไม่อยากกำจัดใครเลยสักคน เพราะว่าเป้าหมายเธอไม่ใช่สมบัติอยู่แล้ว แต่ว่าถ้าเธอไม่ทำ คนอื่นก็ต้องกำจัดเธอแน่นอน รวมถึงเพราะด้านมืดที่ค่อยๆออกมา ดังนั้นจึงแล้วแต่สถานการณ์ว่าเธอจะต้องกำจัดใคร แต่แล้วเธอก็เลือกนางเอกจงฮยอน

     

    ..............................

     

    คำถามชิงบทนางเอกของคุณชาย เย็นชา ไอศูรย์

     

     นางเอกดงแฮ = พีรยา

    นางเอกจงฮยอน = เพตรา

    นางเอกซึงรี = มีณา

    1.คุณพบไอศูรย์ครั้งแรกตอนที่เขากำลังพยายามจะเผาปราสาทคุณเข้าไปห้ามเขาแต่เขากลับไล่คุณออกมาคุณจะทำอย่างไรและคุณจะพูดอย่างไรให้เขาสงบสติอารมณ์ได้ (บทพูดพร้อมบรรยาย5บรรทัดขึ้นไปเอาตั้งแต่เจอไอศูรย์กำลังจะเผาปราสาท)

    : ระรัญญานิ่วหน้าเล็กๆ ทันทีที่ก้าวเท้าออกมายังด้านหลังปราสาท คิ้วเรียวขมวดมุ่นเข้าหากันอย่างแปลกใจ ขณะที่นาสิกประสาทกำลังทำงานอย่างเต็มที่

                กลิ่นแบบนี้มัน...............

    นัยน์ตาสีน้ำตาลหวานเบิ่งกว้างขึ้น เมื่อเห็นของเหลวสีเกือบใสบริเวณตัวปราสาท

                น้ำมัน?  

    คิ้วเรียวยิ่งมุ่นเข้าไปอีก ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อมีเสียงของใครบางคนกำลังเคลื่อนไหวอยู่ทางอีกด้านของปราสาท   ดูท่าจะไม่ใช่มีแค่น้ำมันแล้วแฮะ

    ทำอะไรของคุณนะหญิงสาวร้องเสียงหลง เมื่อก้าวไปยังอีกด้านของปราสาท นัยน์ตาคู่โตจับจ้องไปยังชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่ง ที่กำลังยืนถือไฟแช็กอยู่

                ไอศูรย์ เฮลเซนเทียร์ฟา อคัรธีรสุทธิ์?

    ชายหนุ่มที่หันมามองเธออย่างเย็นชา ก่อนจะส่งยิ้มเยือกเย็นมาให้หญิงสาว

    ไม่ใช่เรื่องของเธอพูดจบชายหนุ่มก็หันไปสนใจปราสาทต่อ ทิ้งให้ระรัญญายืนมองอย่างอึ้งๆ โดยเฉพาะเมื่อไฟแช็กในมือไอศูรย์ถูกจุดขึ้นอีกครั้ง หากแต่คราวนี้ หญิงสาวกลับวิ่งถลาเข้าไปคว้ามันเอาไว้

    คุณจะเผาปราสาทระรัญญาว่าเสียงกร้าว หากแต่คนถูกต่อว่ากลับแค่มองเธออย่างเหยียดๆ แล้วบอกอย่างเย็นชา

    ปราสาทบ้านี่มันควรที่จะถูกทำลายมาตั้งนานแล้วล่ะ ฉันก็แค่มาสานต่อความคิดของใครหลายๆคนเท่านั้น

    แต่.........

    เสร็จธุระของเธอแล้วใช่มั๊ย เอาไฟแช็กคืนได้รึยังไอศูรย์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆอีกครั้ง เรียกให้ระรัญญามองหน้าเขาอย่างอึ้งๆ  นัยน์ตาสีน้ำตาลหวานตวัดมองไปทางปราสาทที่ถูกราดด้วยน้ำมัน ก่อนหันมามองไฟแช็กในมือตัวเอง แล้วตวัดขึ้นไปมองสีหน้าอันราบเรียบของไอศูรย์ราวกับกำลังชั่งใจ แล้วจึงเอ่ยออกมา

    ฉันคงจะคืนมันให้คุณไม่ได้หรอกนะ.........เพราะไม่ว่าเหตุผลของคุณจะเป็นอย่างไรก็ตาม คุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเผาปราสาทแห่งนี้ คุณอยากให้มีคนตายรึไง น้องชายคุณ ยังมีลูกพี่ลูกน้องคุณอีก พวกเขายังอยู่ในปราสาทนะ แล้วอีกอย่าง ปราสาทแห่งนี้ก็เต็มไปด้วยศิลปะอันล้ำค่า ถึงจะมีคนหายตัวไปบ่อยๆก็เถอะ แต่คุณไม่คิดจะรอให้ไขปริศนาออกก่อนรึไง

    หมายความว่าไง..........ไขปริศนา?ไอศูรย์ทวนเสียงฉงนนิดๆ คำถามที่ทำเอาคนเพิ่งหลุดปากถึงกับซีด...

    ก็......ปริศนาที่ว่า ทำไมถึงมีคนหายตัวไปไง ระรัญญาตอบตะกุกตะกัก

    เฮอะ.......รอจนมีคนหายไปเป็นพันรึไง

    แต่....

    เอาเถอะ ถ้ายังไงไว้ฉันจะรอดูว่าเธอจะมีปัญญาไขปริศนาได้รึเปล่า ไว้ไขได้แล้ว วันนั้นเธอคงจะไม่ห้ามฉันใช่มั๊ย คุณระรัญญาพูดจบชายหนุ่มก็หมุนตัวแล้วเดินออกทันที ทิ้งไว้ให้หญิงสาวได้แต่มองตามอย่างไม่เข้าใจระคนงุนงง

     

     

    2.คุณรู้ข่าวเรื่องปราสาทจากหน่วยงานของคุณคุณจึงเขาไปร่วมเกมส์นั้นเพื่อสืบความจริงจากปราสาทเรื่องคดีคนหายแต่เมื่อคุณก้าวเท้าเข้าปราสาทไปคุณกลับมีความรู้สึกประหลาดและคุณสัมผัสได้ถึงความลึกลับของปราสาทคุณเดินอยู่ในปราสาทจนเจอคามิน(มินโฮ)เขาเตือนคุณเรื่องปราสาทบอกให้คุณออกไปแต่คุณไม่ยอมไปคุณจะพูดยังไงให้เขายอมคุณ (บทพูดพร้อมบรรยายเอาตั้งแต่เดินเล่นอยู่ในปราสาทจนพูดให้คามินยอม)

    :           คดีคนหาย...............ก็สมควรแล้วล่ะ ในสถานที่แบบนี้

    ความคิดแรกของระรัญญาหลังจากที่เธอเดินสำรวจบริเวณห้องโถงที่เชื่อมต่อกับสวนของปราสาท  นัยน์ตาสีน้ำตาลหวานมองไปรอบๆอย่างหวาดหวั่นแปลกๆในใจ  ขณะที่อีกใจหนึ่งก็อยากรู้อยากเห็นและสงสัยเหลือเกิน..........

    คุณระรัญญาหญิงสาวหันขวับไปตามเสียงที่ดังขึ้นทันที เหงื่อเม็ดเล็กเริ่มซึมชื้นตามไรผม ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อพบกับชายหนุ่มที่ยืนอยู่.............คนที่เหมือนจะน่าไว้ใจที่สุดในที่แห่งนี้

    คุณคามิน..........ระรัญญาเผลอเรียกชื่อคนตรงหน้าออกมา ขณะที่คามินยิ้มเย็นๆรับ ก่อนถามต่อ

    ทำไมถึงอยากมาเดินเล่นคนเดียวล่ะครับ

    เรียกฉันว่าเคียงดาวเถอะค่ะหญิงสาวว่ายิ้มๆ หากแต่ไม่สนใจที่จะตอบคำถามของคนตรงหน้า คิ้วเรียวขมวดนิดๆ ก่อนเอ่ยถามต่อด้วยน้ำเสียงที่เป็นกันเอง มีอะไรกังวลรึเปล่าคะ

    ทำไมถึงคิดอย่างนั้นน้ำเสียงของคามินยังคงเย็นชาเช่นเดิม หากแต่ลักษณะการพูดก็ให้ความเป็นกันเองตามระรัญญา

    ปกติคุณจะไม่พูดนี่...........

    คุณเก่ง........ชายหนุ่มชมเบาๆ ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยเสียงราบเรียบหากแต่จริงจัง แต่ผมแค่อยากจะมาเตือนคุณ ปราสาทนี้.............คามินนิ่งไปชั่วครู่ นัยน์ตาคู่โตเริ่มฉายแววแปลกประหลาด ไม่ใช่สถานที่ที่ปลอดภัย มันอันตรายมากกว่าที่คุณคาดไว้เยอะ

    หือ?ระรัญญาว่าเสียงฉงน แม้ว่าสีหน้าของหญิงสาวจะบ่งบอกถึงความงุนงง หากนัยน์ตากลับจับจ้องไปยังดวงตาของคู่สนทนา ราวกับพยายามอ่านมันให้ออก คุณรู้ความลับของที่นี่สินะ

    เชื่อผม ออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด รางวัลอะไรก็ไม่คุ้มค่าทั้งนั้นคามินพูดต่อด้วยเสียงจริงจัง

    ค่ะ.......ฉันเชื่อคุณรอยยิ้มบางๆแต้มไว้บนริมฝีปากบางของหญิงสาว ระรัญญาถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนพูดต่อ และฉันเชื่อใจตัวเองด้วยค่ะ คุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอก รางวัลที่ตั้งไว้มันไม่สำคัญต่อฉันเลยแม้แต่นิดเดียว เมื่อกี้คุณเองก็ชมว่าฉันเก่งอยู่

    เก่งแค่ไหนก็ไม่มีทางที่จะชนะหรอกครับรอยยิ้มเครียดๆปรากฏอยู่บนใบหน้าของคนที่เคยเย็นชาอยู่เป็นนิจเมื่อชายหนุ่มเตือน

    ขอบคุณค่ะระรัญญาเอ่ยเสียงแผ่ว คุณเป็นคนแรกในปราสาทแห่งนี้ที่ฉันคิดว่าไว้ใจได้

    คามินนิ่งไปตามคำพูดของคนตรงหน้า ก่อนสบตากับดวงตาที่บ่งบอกถึงความแน่วแน่ ตั้งใจและจริงใจ รอยยิ้มบางๆอย่างผ่อนคลายจึงถูกส่งออกมาเป็นครั้งแรก

    งั้นผมขอให้คุณโชคดี

     

     

    3.คุณอยู่ในปราสาทนั้นมาได้หลายวันแล้วนิสัยด้านมืดของคุณเริ่มจะเปิดเผยออกมาคุณจะทำอย่างไรเพื่อกำจัดคู่แข่งของคุณ (บทพูดพร้อมบรรยาย5บรรทัดขึ้นเอาตอนที่นิสัยด้านมืดเริ่มแสดงออกมาแล้วหาวิธีกำจัดเหล่าพระเอกนางเอกคู่อื่นๆ)

    :           ทุกๆคนต่างก็มีด้านมืดอยู่ในใจทั้งนั้น...........

    คำพูดที่ผู้เป็นพ่อเคยบอกไว้ บัดนี้หญิงสาวเริ่มรู้ซึ้งกับมันแล้ว ลมหายใจถูกพ่นออกมาเพื่อระบายความเครียดที่เริ่มสะสม......... ถ้าสิ่งที่น่าพิสมัยที่สุดในปราสาทแห่งนี้คือรางวัลอันสูงค่า สิ่งที่อันตรายที่สุดก็คง..........การที่มันดึงเอาด้านมืดของจิตใจคนออกมา

    ระรัญญาส่ายหัวกับความคิดของตนเอง ก่อนจะเงยหน้ามองตัวเธอในกระจกเงาบานใหญ่ภายในห้องนอน นัยน์ตาสีน้ำตาลหวานค่อยๆไล่จับรายละเอียดตั้งแต่เรือนผมสีดำแกมน้ำตาลลงมา จนมาหยุดที่..........หน้าอกข้างซ้าย

                ความรู้สึกแปลกๆที่คอยหาโอกาสพุ่งเข้ามาในอกนั้นคืออะไรเธอเองก็รู้ดี............เพียงแต่ไม่อยากที่จะยอมรับมันเท่านั้น

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

    เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นเรียกให้หญิงสาวละความคิดทุกอย่าง ก่อนจะหันกลับไปมองและลุกออกไปเปิดประตู

    คุณคามินระรัญญาพึมพำอย่างแปลกใจเมื่อเห็นผู้มาเยือนยามวิกาล คามินยิ้มบางๆให้เธอก่อนจะดันตัวเองเข้ามา

    คุณมีธุระอะไรคะหญิงสาวถามพลางปิดประตู ก่อนจะเดินมานั่งหันหลังให้กระจกเงา ดวงตาสีน้ำตาลหวานสบกับนัยน์ตาของผู้มาใหม่ที่นั่งลงบนเตียงของเธอ

    คุณเริ่มรู้สึกแล้วสินะคามินว่า

    .....

    คุณกำลังเปลี่ยนไป.............ผมเคยเตือนคุณแล้วชายหนุ่มเอ่ยต่อ เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่ตอบอะไร ดวงตาคู่โตมองคนตรงหน้าอย่างสำรวจ คุณไม่มีทางที่จะเลี่ยงมันได้

    คุณจะบอกว่าความลับของปราสาทแห่งนี้ คือมันจะดึงเอาด้านมืดของจิตใจคนออกมาระรัญญาถามเสียงเรียบๆ ความพลุ่งพล่านแปลกๆเริ่มเข้ามาในหัวใจอีกครั้ง

    ไม่ถูกแต่ก็ไม่ผิดนักหรอกนะคามินสบตากับหญิงสาว ก่อนจะพูดออกมาอยางไม่สบายใจนัก

    ผมไม่อยากให้คุณเป็นเหมือนกับลูกพี่ลูกน้องคนอื่นๆ

    ขอบคุณระรัญญาว่าพลางโคลงหัวเบาๆ รอยยิ้มบางฉายชัดขึ้นที่ริมฝีปาก ขณะที่นัยน์ตาเริ่มวาวขึ้นอย่างน่ากลัว แต่ว่าฉันจะพยายาม..........

    ผมจะเอาใจช่วยคุณ......คามินว่าพลางลุกขึ้น ความรู้สึกของเขาที่บอกว่า คนๆนี้กำลังเปลี่ยนไป คอยสะกิดภายในใจของเขาตลอดเวลา

     ราตรีสวัสดิ์ครับ

    ทำไมคุณถึงได้ใจดีนักนะเสียงหวานที่พูดขึ้นมาตามหลังทำเอาชายหนุ่มสะดุ้งสุดตัว เพราะยังงี้คุณถึงจะกลายเป็นเหยื่อที่ง่ายที่สุด...

    หมายความว่าไงชายหนุ่มหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากลับหญิงสาวอย่างเย็นชา

    เปล่าคะราวกับว่าระรัญญากลับมาเป็นคนเดิม หญิงสาวโคลงหัวเบาๆ ก่อนยิ้มแห้งๆให้เขา ฉันแค่อยากเตือนคุณบ้าง

    ขอบคุณคามินว่าเสียงกระด้าง ก่อนคิ้วเรียวจะขมวดเข้าหากันเมื่อได้ฟังคำเตือนจากคนตรงหน้าอีก

    ระวังคีตาเอาไว้นะคะรอยยิ้มเยือกเย็นปรากฏขึ้นอีกครั้งบนใบหน้าของหญิงสาว เธอคนนั้นก็ไม่ได้ต่างอะไรจากฉันหรอก

    ถึงแม้ว่าจะมีสีหน้าไม่ไว้ใจ แต่คามินก็พยักหน้าเป็นการขอบคุณ ก่อนเดินออกไปจากห้องของหญิงสาว

    .

    .

    .

    น้ำชาหลังอาหารค่ะเสียงของบริกรหญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้า เรียกให้คามินหลุดออกจากภวังค์ ก่อนพยักหน้าให้เบาๆ เมื่อหญิงสาวรินน้ำชาให้ รอยยิ้มเครียดๆฉายชัดบนใบหน้าของชายหนุ่มอีกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อหันไปสบตากับคีตา

                ระวังคีตาเอาไว้นะคะ....................เธอคนนั้นก็ไม่ได้ต่างอะไรจากฉันหรอก

    เป็นอะไรรึเปล่าไอศูรย์ที่นั่งข้างๆถามผู้เป็นน้องชายเบาๆ หากคำตอบที่ได้รับคือการส่ายหน้า พร้อมกับคิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างใช้ความคิดอีกครั้ง

    เพล้งงงงงง

    เสียงถ้วยน้ำชาดังกระแทกพื้น เมื่อมือเรียวปัดมันตกแตก พร้อมๆกับที่ผู้เป็นเจ้าของลงไปนอนกับพื้น เรียกให้ทุกสายตาหันกลับไปมอง

    อึก......อึก.........พีรยาร้องอย่างทรมาน ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวอย่างน่ากลัว ขณะที่ตามลำตัวเริ่มเขียว   มือเล็กคว้าแขนของผู้เป็นน้องสาวได้ และจิกมือลงไปคล้ายว่าจะผ่อนความทรมาน ท่ามกลางความตกใจของทุกคน ก่อนที่ระรัญญาจะพุ่งเข้าไปหา

    เธอกำลังชักระรัญญาร้องอย่างตกใจ ถอย ถอย ถอยออกไป หญิงสาวตวาดใส่บริกรหญิงก่อนจะรีบปฐมพยาบาลตามที่ได้เรียนมา

    .

    .

    .

    เฮ้อ...........คามินถอนหายใจออกมา หลังจากที่นั่งมองร่างที่หลับใหลของหญิงสาวบนเตียงอย่างเป็นห่วง  ไม่น่าเชื่อว่าในปราสาทแห่งนี้จะเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือในการรักษาพยาบาลไว้อย่างครบครัน   หากแต่เรื่องที่ทำให้ชายหนุ่มกังวลกลับไม่ใช่เรื่องนั้น  แต่เป็นเพราะหญิงสาวที่กำลังนอนอยู่บนเตียงต่างหาก .............หญิงสาวที่ไม่ใช่พีรยา

                หากแต่เป็นเพตรา

    หญิงสาวที่หมดสติไปหลังจากที่ระรัญญาจัดการรักษาผู้เป็นพี่สาวเสร็จ  เพตราก็เป็นอีกคนที่เกิดอาการผิดปกติ แต่เป็นความผิดปกติที่รุนแรงกว่าผู้เป็นพี่สาวหลายเท่า ตามที่ระรัญญาบอกไว้ ถึงแม้ว่าหญิงสาวจะแค่หมดสติไปก็ตาม แต่ก็ไม่มีใครแม้แต่ระรัญญาจะบอกได้ว่าเธอจะตื่นเมื่อไร ส่วนอาการของพีรยานั้น เมื่อฟื้นก็แค่จะมีอาการเพลียและไร้พละกำลังเท่านั้น

                โชคดีแค่ไหนที่ไม่ตาย

    ความคิดที่คามินอดไม่ได้ที่แอบแย้งกับตัวเองในใจ

                หรือเป็นเพราะว่า ใครคนนั้นไม่ได้ตั้งใจที่จะฆ่าก็ได้

    .

    .

    .

     ใบหน้าหวานของระรัญญาสงบนิ่ง เมื่อหญิงสาวมองไปยังเพตราที่ยังคงไม่ได้สติ    คิ้วเรียวขมวดมุ่นเข้าหากัน ก่อนจะถอนหายใจอย่างเครียดๆ เมื่อนึกถึงสิ่งที่เธอได้กระทำลงไป

                ทั้งๆที่ภาวนาให้แสงสว่างชนะความมืดแท้ๆ

    รอยยิ้มอย่างสมเพชตัวเองปรากฏขึ้นบนใบหน้าของระรัญญา ก่อนที่มันจะเปลี่ยนเป็นยิ้มเย็นๆเมื่อหันไปมองร่างบนเตียงอีกครั้ง

                ใครจะเชื่อ............ว่าคนที่วางยาเพตราเป็นฝีมือของเธอ

    ก็แค่เริ่มจากใส่เมทิลแอลกอฮอล์ลงไปในไวน์ของพีรยาและกะเวลาให้มันออกฤทธิ์ในเวลาจิบน้ำชาหลังอาหาร นอกจากนั้นก็ทายาพิษที่เรียกได้ว่าร้ายแรงมากลงไปยังที่จับถ้วยชาของพีรยา และเมื่อเมทิลแอลกอฮอล์ออกฤทธิ์ หญิงสาวรู้ดีว่าผู้ที่กินมันเข้าไปจะเกิดอาการปวดท้อง ปวดหัว และชัก ไม่ว่าใครก็ตามที่เกิดอาการทรมานขนาดนั้นจะต้องไขว่คว้าหาคนที่ไว้ใจเสมอ

                ..............คนเดียวที่พีรยาไว้ใจก็คือน้องสาวของเธอนั่นเอง

    ยาพิษที่เธอทาไว้ยังที่จับถ้วยชาเป็นยาพิษที่แค่โทษข่วนหรือมีแผลเล็กน้อยก็สามารถออกฤทธิ์ได้  ซึ่งแน่นอนว่ามันติดอยู่ในเล็บของพีรยา  เมื่อหญิงสาวจิกมือไปยังแขนของเพตรายาพิษจึงออกฤทธิ์ในที่สุด

                แต่ไม่ตาย..........เพราะเธอยังไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น

     เฮ้ออออออระรัญญาถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ดวงตาสีน้ำตาลหวานฉายแววเศร้าสร้อย  

    คนอย่างเธอ............ไม่สมควร...........

    ไม่สมควรที่จะเข้ามาในปราสาทแห่งนี้เลยจริงๆ

     

     

    4.ตอนนั้นคุณใกล้จะตายเต็มทีศิลา(ดงเฮ)เดินผ่านมาเจอคุณที่นอนจมกองเลือดอยู่ลมหายใจสุดท้ายของคุณจะดับลงแต่เขากลับยิ้มเยาะให้คุณแล้วเดินจากไปแต่คุณยังไม่อยากตายคุณจะพูดยังไงให้เขาช่วยคุณ (บทพูดพร้อมบรรยาย5บรรทัดขึ้นเอาตั้งแต่คุณทำอะไรหรือโดนอะไรถึงได้ใกล้จะตายจนดงเฮยอมช่วยคุณ)

    : ขึ้นชื่อว่าเป็นปราสาทก็ย่อมจะมีกับดัก โดยเฉพาะปราสาทที่เหมือนจะต้องคำสาปแห่งนี้.......

    ความคิดแรกของระรัญญาหลังจากที่ก้าวเท้าเข้ามายังบริเวณโถงทางเดินทางด้านปีกขวาของปราสาทชั้น 2 หญิงสาวชะงักงันเมื่อรู้สึกได้ว่าเหยียบเข้าใส่บางสิ่ง ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งที่ควบคุมเครื่องยนต์กลไกลอะไรสักอย่าง นัยน์ตาสีน้ำตาลหวานมองลอกแลกไปมา ก่อนจะสาวเท้าไปใกล้บันได

                ฟิ้วววววววว

    เสียงโลหะพุ่งผ่านอากาศก่อนที่ระรัญญาจะหมุนตัวหันแขนซ้ายขึ้นมารับกันบริเวณใบหน้าเอาไว้

                ฉึก

    หยาดโลหิตสีเข้มกระเซ็นไปทั่วบริเวณ รวมถึงใบหน้าของหญิงสาวด้วย นัยน์ตาสีน้ำตาลหวานเบิกโพลงขณะที่ก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว สติสัมปชัญญะทุกอย่างเริ่มดับวูบตามบาดแผลภายในจิตใจ ก่อนที่ร่างของเธอจะลอยละลิ่วลงมาจากชั้น 2 เมื่อหญิงสาวก้าวพลาดลงมาจากบันได  ระรัญญารู้สึกราวโลกทั้งใบหมุนคว้าง ก่อนค่อยๆหมุนช้าลง  เมื่อร่างของหญิงสาวกระทบกับพื้นโถงชั้นล่าง ทุกสิ่งทุกอย่างพร่ามัวก่อนจะกลายเป็นสีขาวและดับวูบลง

    .

    .

    .

    แพขนตาหนากระตุกขึ้นเบาๆ ก่อนที่มันจะเปิดขึ้น ภาพทั้งหลายยังคงพร่ามัว  ความเจ็บปวดแล่นร้าวไปทั่วทั้งร่างเมื่อขยับกาย นัยน์ตาสีน้ำตาลหวานเปิดขึ้น ก่อนปิดลงไป และพยายามที่จะเปิดขึ้นมาใหม่ คราวนี้ทุกสิ่งทุกอย่างค่อยๆชัดเจนขึ้น

                เธอยังไม่ตาย..............

    ระรัญญาค่อยๆชันกายขึ้นมาช้าๆ แต่ก็ต้องทรุดลงไปอีก เมื่อความเจ็บปวดแล่นเข้ามาอีกครั้ง ใบหน้าของหญิงสาวซีดเผือดเมื่อรับรู้ได้ว่าของเหลวสีเข้มที่อยู่บริเวณรอบๆคืออะไร ความง่วงงุนพุ่งเข้ามาภายในหัวอีกครั้งหนึ่ง เธอกำลังเสียงเลือดมาก

                ไม่ได้   เธอจะมาตายแบบนี้ไม่ได้

    เป็นครั้งแรกที่ระรัญญาสัมผัสได้ถึงความกลัวภายในใจของตนเอง  ความคิดสุดท้ายก่อนที่ดวงตาจะเริ่มปิดลงอีกครั้ง

    กึก กึก

    เสียงฝีเท้าของใครบางคนที่ใกล้เข้ามา เรียกให้สติที่กำลังจะดับวูบฟื้นคืนมาอีกครั้ง เสียงของหัวใจที่เต้นอย่างแผ่วเบา ก็ดูเหมือนจะเต้นแรงขึ้น เมื่อผู้มาใหม่เดินเข้ามาใกล้

                ศิลา

    ชายหนุ่มตระกูลธาราพิสุทธิ์เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เมื่อมองมายังร่างของระรัญญาที่นอนจมกองเลือดอยู่ ศิลาเหลือบมองหญิงสาวเล็กน้อย สบกับแววตาวิงวอนนั่น ก่อนจะส่งยิ้มเยาะๆให้..............

    ระรัญญามองตามหลังชายหนุ่มที่กำลังจะเดินจากไปอย่างตะลึงเพริด เขากำลังเดินจากไปโดยไม่สนใจเธอสักนิด

                บ้าจริง............เธอยังจะตายไม่ได้

    ความคิดที่ทำเรียกให้เธอต้องหลังตาลงอีกครั้ง ภายในหัวเต็มไปด้วยความคิดอันวุ่นวาย ก่อนที่ดวงตาจะเปิดขึ้นอีกครั้ง และเต็มไปด้วยความแน่วแน่อย่างประหลาด ระรัญญาบังคับให้ตัวเองยิ้มออกมาอย่างเหยียดๆ และพูดขึ้นไล่หลังชายหนุ่มไป

    กลัวเหรอ?

    ร่างของศิลาชะงักกึกเมื่อได้ยิน ชายหนุ่มหันมาเผชิญหน้ากับระรัญญาอีกครั้ง ก่อนถามอย่างไม่แน่ใจ

    ว่าไงนะ

    ฉันถามว่าคุณกำลังกลัวรึเปล่าหญิงสาวย้ำอีกครั้ง ก่อนค่อยๆฝืนชันกายมากึ่งนั่งกึ่งนอน ดวงตาสีน้ำตาลสบกับรอยเหยียดหยามภายในดวงตาของชายหนุ่ม ก่อนที่ศิลาจะเอ่ยขึ้นบ้าง

    กลัวเหรอ.............คนที่ต้องกลัวน่ะ มันคงที่ใกล้ตายอย่างเธอมากกว่าคำย้อนที่มีผลเพียงแค่ให้ผู้ฟังยิ้มรับ ก่อนถามต่อ

    แล้วคุณไม่กลัวหรอ.........ที่สักวันจะต้องมาอยู่ในสถาพแบบนี้บ้าง

    ฉันไม่มีวันต้องมาอยู่ในสภาพนี้ศิลาเอ่ยเหยียดๆ ใบหน้าที่เคยเย็นชาอยู่เสมอฉายแววฉงนเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเย็นๆจากระรัญญา

    นั่นสินะ.........ฉันลืมไปว่าคุณมันเป็น ปีศาจ

    รู้ก็ดี

    ศิลายิ้มเหยียดๆที่มุมปากให้กับคนพูด แล้วจะก้าวหมุนตัวเตรียมเดินออกไปอีกครั้ง ก่อนจะหยุดชะงักงัน ใบหน้าคมกร้าวขึ้นกับคำพูดที่ตามมาภายหลัง

    แต่ก็ใช่ว่า ปีศาจ จะไร้ซึ่งความกลัวนี่

    เธอชายหนุ่มตวาดออกมาอย่างเหลืออด ระรัญญายิ้มรับเบาๆ ทั้งๆที่ความรู้สึกชากินตามทุกส่วนของร่างกายเธอเกิน 50 % แล้ว.............

    ฉันจะบอกอะไรคุณให้นะ เมื่อตอนที่ทุกคนเริ่มเข้ามาในปราสาทนี้ใหม่ๆน่ะ ไม่มีใครหรอกที่จะรู้สึกกลัว มันเต็มไปด้วยความละโมบ ความอยากเอาชนะมากกว่า.............ระรัญญาหยุดไปสักพัก ก่อนจะพูดต่อ แต่เมื่อทุกคนอยู่ในที่นี่ไปเรื่อยๆ ความหวาดกลัวก็เริ่มเข้าควบคุมจิตใจส่วนลึก มากขึ้น และมากขึ้นทุกวัน ทั้งจากความลึกลับของปราสาทเอง และยิ่งไปกว่านั้น..........ด้านมืดของผู้ร่วมภารกิจทุกคนก็น่ากลัวไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันนัยน์ตาสีน้ำตาลหวานสบกับคนตรงหน้า ก่อนบอกออกมา

    และแน่นอนว่า........คุณเองก็รู้สึกได้เช่นกัน............ถึงความกลัวในจิตใจลึกๆของตัวเองพูดได้เพียงเท่านี้ ร่างโชกเลือดของหญิงสาวก็ถูกกระชากขึ้นมาจากพื้นอย่างรวดเร็ว ดวงตาของศิลากร้าวขึงอย่างโกรธจัด ขณะที่ระรัญญาเพียงแค่ยิ้มบางๆเช่นเคย เมื่อรู้ดีว่าเธอคงจะตีตรงจุดเข้าให้แล้ว หญิงสาวรู้ดีว่า การใช้คำพูดแบบนี้ ทำให้เธอมีทางเลือก 2 แบบ ไม่ศิลาช่วยเธอ ก็คงจะฆ่าเธอทิ้งเพราะความโกรธแทน

    ต้องการอะไร..........ถึงต้องพล่ามซะะยาวชายหนุ่มถามเสียงกร้าว

    ช่วยฉัน............

    น่าสมเพชคำพูดสั้นๆจากปากของศิลาเมื่อฟังคำตอบแล้ว ดวงตาคู่โตวาววับอย่างน่ากลัว ก่อนยิ้มเหยียดหึ เห็นแก่ความปากดีของเธอ ฉันจะไปตามคนมาช่วยก็ได้พูดจบ ศิลาก็พลักร่างโชกเลือดลงไปกองที่พื้นทันที พร้อมๆกับที่สติของระรัญญาดับวูบ ชายหนุ่มสาวเท้าออกไป แล้วกลับมาพร้อมคนอื่นๆในปราสาท

     

     

     

    5.ไหนลองบอกปมหลังตอนเด็กที่แสนเจ็บปวดของคุณมาสักเรื่องซิ (บทพูดพร้อมบรรยาย5รรทัดขึ้น)

    : “3 ทุ่มแล้วนะคะเสียงเจี้ยวแจ้วของเด็กหญิงวัย 5 ขวบคนหนึ่งดังขึ้น ก่อนจะเงยหน้ามองผู้เป็นพี่สาว ทำไมวันนี้พ่อกับแม่ยังไม่มาอีก

    อะไรจะขนาดนั้น เคียงดาว ปกติพ่อกับแม่กลับดึกกว่านี้อีกนะรินรญา(ริน-ระ-ยา)บอกน้องสาวเสียงรำคาญหน่อยๆ ทั้งๆที่ตัวเองก็ชะเง้อคอยลงไปจากระเบียงไม่ต่างกันมากนัก

    แต่วันนี้วันเกิดนะเด็กหญิงค้านอีก ก่อนที่ผู้เป็นพี่สาวจะมองค้อน

    วันเกิดพี่หรือวันเกิดเธอ

    วันเกิดพี่พิมพ์เดือนนั่นแหละ แต่ 4 ปีจะได้จัดนะระรัญญาว่า ก่อนชะงักเมื่อเสียงของรถยนต์คันหนึ่งแล่นเข้ามา ดวงตาสีน้ำตาลมองอย่างตื่นเต้น ก็ฝ่อลงเมื่อเห็นว่าไม่ใช่คนที่รอคอย อัปปะกิริยาที่ทำเอาเด็กชายเพียงคนเดียวถอนหายใจเฮือกใหญ่

    อะไรตะวัน ถอนหายใจทำไมรินรญาว่าใส่น้องชายที่เกิดหลังเธอเพียง 15 นาที ขณะที่คนตอบเพียงแค่ยักไหล่ให้เบาๆ ก่อนจะถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่เมื่อรถยนต์ของผู้ที่รอคอยแล่นเข้ามา

    แล้วทั้งน้องสาวและพี่สาวของเขาก็วิ่งลงไปหาผู้มาใหม่ ความรู้สึกแปลกๆพุ่งวูบในจิตใจของเด็กชายอีกครั้ง แต่เขาก็ยังคงไม่ใส่ใจ

    .

    .

    .

    ระรัญญาเงยหน้ามองชายหนุ่มเจ้าของตำแหน่งบอดิการ์ดของเธอและพวกพี่ๆ หลังจากที่ปลีกตัวออกมา ให้ผู้เป็นพี่สาวและพี่ชายเปิดของขวัญอยู่กับพ่อและแม่  รอยยิ้มบางๆฉายชัดบนใบหน้าก่อนเอ่ยเป็นเชิงขอร้อง

    นะ พี่วิทย์ พาไปดูเค้กหน่อยนะคะเด็กหญิงหมายถึงเค้กวันเกิดของพวกพี่ๆ ที่พ่อกับแม่ยังไม่ยอมให้ได้เห็น บอกแค่เพียงว่า รอเวลาเที่ยงคืนเท่านั้น

    คุณหนูครับ.....ชายหนุ่มทำหน้าลำบากใจเล็กๆ ทำไมไม่รอดูพร้อมๆกับพวกพี่ๆล่ะครับ

    ก็ไม่ใช่เจ้าของวันเกิดนี่.......นะ พี่วิทย์ นะเสียงเล็กๆอ้อนอีกครั้ง เรียกให้วรวิทย์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ความจริงเขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะขัดใจคุณหนูคนเล็กนี้หรอก แต่ว่าตอนนี้เนื่องจากว่าเพราะมีข่าวว่าจะมีการลอบสังหารคนในตระกูลอสัมภินพงศ์ มันจึงอาจเป็นเรื่องที่อันตรายมากถ้าคุณหนูคนสุดท้ายจะแอบไปในโรงจอดรถกับบอดิการ์ดแค่ 2 คน แล้วอีกอย่าง ตอนนี้ทั้งบ้านก็เหลือแค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่เป็นบอดิการ์ด เพราะว่าคุณท่านไม่ชอบให้มีคนติดตาม

                ยุ่งพอกันทั้งพ่อทั้งลูก

    วรวิทย์คิด ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อสบตากับดวงตาใสแจ๋วของเด็กหญิงตรงหน้า

                แต่ว่า....แค่นี้เอง คงจะไม่เป็นไรหรอก.......

    คิดแล้วก็พยักหน้าลงเบาๆ

    ตกลงครับคุณหนู แต่ถ้าโดนดุผมไม่ช่วยนะครับ

    .

    .

    .

    เค้กครีมสีขาวแกมน้ำตาลถูกประดับตกแต่งอย่างน่ารักและมองดูอลังการ ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ด้วยชอกโกแล็ตขาวและดำ ตามที่เจ้าของวันเกิดทั้ง 2 ชอบ เขียนหน้าเค้กด้วยรูปพระจันทร์เคียงกับพระอาทิตย์ ความสวยของมันทำให้เด็กหญิงต้องปรบมืออย่างชอบใจ  รอยยิ้มบางๆทาบบนริมฝีปาก ก่อนจะยกมันขึ้นมาดู เล่นเอาชายหนุ่มข้างๆถึงกับใจหายวูบ เมื่อเจ้าตัวเซเล็กๆ

    คุณหนูครับ ดูอย่างเดียว อย่ายกสิครับ เดี๋ยวก็คว่ำหรอกระรัญญาหัวเราะออกมาเล็กๆกับคำพูดของวรวิทย์ ก่อนมองที่เค้กบนมืออีกครั้งอย่างชอบใจ เด็กหญิงขยับตัวเล็กๆเตรียมจะวางมันลงที่เดิม

                ปัง!

    นัยน์ตาสีน้ำตาลหวานเบิกกว้าง เมื่อของเหลวสีแดงสาดกระเซ็นมาเต็มเค้ก พร้อมๆกับที่ร่างเล็กถูกคว้าถลาไปมอบกับพื้นใต้ท้องรถยนต์ ระรัญญาเงยหน้ามองคนที่กอดตัวเธอเองอย่างตื่นตระหนก

    พี่.......วิทย์ พี่วิทย์เป็นอะไร

    เข้าไปในบ้านครับคุณหนู เข้าไปวรวิทย์กัดฟันตอบคุณหนูคนเล็กของเขา พลางพยายามหยุดเลือดที่พุ่งออกมาจากบาดแผลที่หน้าอกด้านซ้าย เฉียดๆกับหัวใจ ไม่รู้ว่าคนร้ายจะเข้ามาเมื่อไหร่ ต้องรีบพาคุณหนูเข้าไปในบ้านให้เร็ว

                เขากำลังจะไม่ไหว...................

    เข้าบ้านครับ เร็วชายหนุ่มเร่งเด็กหญิงอีกครั้ง ใบหน้าของระรัญญาซีดเผือด ก่อนจะหันไปมองทางเข้าบ้านสลับกับบอดิการ์ดของตนอย่างลังเล

                 ปัง! ปัง! ปัง!

    เสียงปืนที่ดังอย่างต่อเนื่องออกมาจากภายในบ้านทำเอาดวงตาคู่โตเบิ่งกว้างอีกครั้ง

                พ่อ แม่

    เด็กหญิงคิดอย่างตระหนก ร่างกายราวกับกำลังจะแข็งเป็นหิน โดยเฉพาะเมื่อเสียงกรีดร้องของใครสักคนในบ้านที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระรัญญาเหลือบมองชายหนุ่มที่ใกล้จะหมดสติอย่างไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนจะตัดสินใจวิ่งเข้าไปในบ้าน หากแต่อ้อมแขนของวรวิทย์กลับตัวของเธอไว้ และกอดเพื่อไปให้ไปไหนได้

    อย่าไปครับ.........ชายหนุ่มพูดเสียงแผ่วเบาจนระรัญญาแทบไม่ได้ยิน

    ทำไมล่ะ พี่วิทย์ ตอนแรกจะให้เข้าไปในบ้านไม่ใช่เหรอคะเด็กหญิงถาม วรวิทย์ยิ้มบางๆให้คนภายในอ้อมแขน ก่อนจะบอกเบาๆ

    หลับตาครับ... คุณหนู หลับตานะครับ แล้วทุกอย่างจะดีเอง

    แต่ยังไม่ง่วงนี่ พี่วิทย์ เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเสียงดังแบบนั้น แล้วเค้กล่ะ ระรัญญะหันไปมองเค้กที่บัดนี้เปรอะเปื้อน ไปด้วยของเหลวสีแดงสด เค้ก.....กินไม่ได้แล้วนี่ แล้วพ่อกับแม่ล่ะคะ พี่เดือนกับพี่ตะวันด้วย

    หาแต่ผู้เป็นบอดิการ์ดกลับไปยอมตอบคำถาม ชายหนุ่มพูดซ้ำอีกรอบเบาๆ ราวกับว่าต้องพยายามอย่างหนักในการพูด

    หลับตาครับ... คุณหนู หลับตานะครับ แล้วทุกอย่างจะดีเอง

                ปัง!

    ( ชี้แจง :: หลังจากที่วรวิทย์พูดจบสักพัก คนร้ายก็ยิงปืนมาที่เขา แต่ไม่เห็นระรัญญาเพราะว่า วรวิทย์เอาตัวบังอยู่ แต่ว่าเธอเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง เลือดของเขาก็กระเด็นมาโดนหน้าของเธอเต็มๆ ทำให้เธอช็อกมาก เธออยู่ในสภาพนานถึง 12 ชั่วโมง คนของลุงก็มาช่วยเธอ แต่ว่าคนที่รอดมีแค่เธอ กับพี่ๆแค่ 3 คนเท่านั้น และถ้าเลือดกระเด็นมาโดนหน้าเธอเมื่อไรเธอก็จะหมดสติทันที และกลัวเค้ก เพราะทำให้นึกถึงเหตุการณ์นั้น  

     

     

     

     

     

    6.ตอบจบของคุณ (บทพูดพร้อมบรรยาย5รรทัดขึ้น สมหวัง ตาย หักมุมมัเงื่อนงำ อะไรก็ได้ที่คุณคิดตอบมาให้เต็มที่)

    : ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือครับเสียงของตำรวจวัยกลางคนดังขึ้น ก่อนที่เจ้าตัวจะทำวันทยาหัตเป็นการขอบคุณ เรียกให้วามินพยักหน้ารับ ก่อนเอ่ย

    ผมขอตัวนะครับ

    พี่.........ทันทีที่เดินออกมาจากห้องสอบสวน เสียงทุ้มๆของวายุก็ดังขึ้นทันที เป็นไงบ้าง

    หึวามินยักไหล่เบาๆแทนคำตอบ ก่อนถาม แล้วนายล่ะ

    ก็งั้นๆแหละพี่.......แต่หดหู่ใจแปลกๆแฮะ

    ขอให้เพตราช่วยซะสิวามินว่า

    ผมไม่อยากยุ่งอะไรที่มันทำให้ผมคิดถึงไอ้ปราสาทบ้าๆนั่นอีก........ให้ตายสิ ก็บอกแล้วว่าให้ทุบทำผับก็ไม่เชื่อ

    .........

    แล้วยัยนั่นอ่ะวายุถามขึ้น รอยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์บนใบหน้าบ่งบอกให้ผู้เป็นพี่ชายรู้ดีว่าเขาหมายถึงใคร

    ยังไม่ฟื้นตอบเสร็จวามินก็ถอนหายใจอย่างเครียดๆ ก่อนสะดุ้งเฮือกเมื่อวายุตบไหล่เขาเบาๆ

    แค่รอดก็ดีแล้วล่ะพี่คำปลอบใจที่ทำให้เขาต้องพยักหน้าเบาๆ

    ใช่.........แค่รอดก็ดีแค่ไหนแล้ว

    ให้ตายสิคำสบถจากวายุทำเอาชายหนุ่มสะดุ้ง เข้าไปกันตั้ง 12 คน ดันรอดกลับมากันแค่ 5 คน ให้ถึงครึ่งหน่อยก็ไม่ได้

    1 ชีวิตก็มีค่าผู้เป็นพี่ชายแย้งเสียงขรึม ก่อนจะว่าเบาๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกนั้นจะไม่รอดนะ

    หึ........วายุแค่นเสียง งั้นผมสรุปใหม่ก็ได้ เข้าไป 12 รอดออกมา 5 แต่ว่า 2  ใน 5 คนนี้ก็ยังมีอาการโคม่า ส่วนที่เหลือตายไป 3 ยังไม่รู้ชะตากรรมอีก 4 “ พูดแล้วหยุดพลางถอนหายใจอีกครา

    ทั้งๆที่ตำรวจนำกำลังเข้าไปตรวจสอบในปราสาทนั่นแล้วแท้ๆ แต่ก็ยังไม่มีรายงานกลับมาเลย..........ไม่ใช่ว่าหายตัวไปอย่างลึกลับกันหมดแล้วนะ

    ไม่หรอก......เห็นว่าคงจะมาวันนี่แหละวามินว่า แต่ตอนนี้พวกเราไปเยี่ยมศิลา กับ มีณาก่อนเถอะ

    .

    .

    .

    นายฟื้นแล้ว?คำถามแรกหลังจากที่ก้าวเข้าไปในห้องพักคนป่วย

    วายุ? วามิน?

    ความจำยังไม่เสื่อมแฮะวายุพูดลอยๆ เรียกให้ศิลาหันมามองตาขวาง ก่อนจะส่งคำถามออกมาอีก

    แล้วคนอื่น?

    มีณานอนอยู่ห้องข้างๆนายนี่แหละ   เพตราก็ปลอดภัยดี พอออกมาปุ๊ป อาการก็ดีขึ้นเลย แต่ก็ต้องมาช็อกเรื่องพี่สาวต่อ ส่วน 2 พี่น้องอคัรธีรสุทธิ์ คีตา เคียงดาวยังคงไม่รู้ชะตากรรมพูดแล้วก็หยุดไปสักพักเมื่อนึกถึงบุคคลเหล่านั้น

    ถ้างั้นที่เหลือ...................ศิลาเอ่ยเสียงแผ่ว

    ก็อย่างที่นายและพวกฉันเห็นนั่นแหละ................ไม่มีใครรอดวามินตอบ คำตอบที่ทำเอาทั้งห้องเหลือเพียงความเงียบงัน ดวงตาของศิลาเหลือต่ำลงอย่างระงับอารมณ์บางอย่างในใจ

                พีรยา............ตายแล้ว?

    นั่นน่ะสินะ เขาเองก็เห็นกับตานี่นา เพราะว่าดึงดันจะพาน้องสาวที่เป็นเจ้าหญิงนิทรามาด้วย ตัวเองก็เลยต้องมาเกมส์โอเวอร์แบบนั้น

                บ้าที่สุด...............

    ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะถามอีก

    แล้วเรื่องมรดกล่ะ

    อย่าบอกนะว่านายยังจะอาลัยอาวรณ์มันคำย้อนจากวายุที่ทำเอาศิลาชะงัก ก่อนนิ่งไปอย่างใช้ความคิด แล้วจึงตอบเบาๆ

    ฉันไม่เหมือนพวกนายหรอกนะ

    บอกตรงๆนะ ฉันไม่คิดว่าพวกเราจะรอดมาได้คำพูดจากวายุที่ดังขึ้นมาเรียกให้ทุกคนหันไปมอง ขณะที่วามินลอบเห็นด้วยกับผู้เป็นน้องชายในใจ

                .ใช่.............พวกเขาไม่น่าจะรอด............

    ถ้าไม่ใช่เพราะ.......

    .

    .

    .

    รางวัลของผู้แพ้คือการที่ไม่ได้เห็นแสงตะวันตลอดกาล

    ความตายงั้นเหรอ?

    แล้วรางวัลของผู้ชนะ...............ความตาย?

    ชนะก็ตาย............แพ้ก็ไม่รอด

    แล้วจะทำอย่างไร

    ความคิดที่สะท้อนไปมาภายในหัวของผู้เข้าร่วมภารกิจทุกคน หลังจากที่เค้นจนคามินสารภาพทุกสิ่งทุกอย่างออกมา

    แล้วพวกเราจะเอาไงต่อ?คำถามจากวายุเรียกให้ทุกคนหันมามองหน้ากัน ก่อนจะหลบสายตา

    ก่อนอื่น.......เชื่อใจกันก่อนซะไอศูรย์พูดเสียงเรียบๆ แล้วเผาไอ้ปราสาทบ้าๆนี่ทิ้งก็ได้

    เฮอะ......เชื่อใจ แล้วถ้ามีคนคิดไม่ซื่อล่ะคีตาเอ่ยเสียงเยาะๆ

    ก็ตายกันหมดไอศูรย์ว่าพลางยักไหล่อย่างเย็นชา

    ชนะก็ตาย........พีรยาเอ่ยขัดขึ้นมา

    แพ้ก็ไม่รอด?ลมเพว่า

    ......

    ความเงียบงันที่เกิดขึ้นเริ่มที่กัดกินใจของผู้เข้าแข่งขันทุกคน ทั้งความรู้สึกหวาดระแวง ความหวาดกลัวต่อความลับของปราสาท ความรู้สึกต้องการมรดกจนไม่เหลือความหวาดกลัวยามนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผลเสียแล้ว

    กริ๊ก

    เสียงของถ้วยกาแฟที่วางบนโต๊ะเรียกให้ถูกสายตาหันกลับไปมอง ระรัญญายิ้มบางๆให้กับผู้ร่วมภารกิจทุกคน ก่อนจะเอ่ยเสียงหวาน

    งั้นก็เสมอซะสิ

    .

    .

    .

    ใช่.........แล้วหลังจากนั้นพวกเขาก็ต้องหนีกันออกมา แต่มีเพียงคามินเท่านั้นที่ไม่ยอมหนี คีตาก็เช่นกัน ดังนั้นไอศูรย์จึงตัดสินใจจะอยู่กับน้องชาย ส่วนระรัญญา.................

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

    เสียงเคาะประตูที่ทำให้ทั้ง 3 หลุดออกจากภวังค์ ก่อนที่คนป่วยจะเอ่ยอนุญาต

    เชิญครับ

    ขออนุญาตครับ.......นายตำรวจผู้เป็นเจ้าของคดีปราสาทปริศนาเดินเข้ามาภายในห้อง ก่อนทำวันทยาหัต ตอนนี้กำลังตำรวจกลับมาจากปราสาทนั่นแล้วครับ

    คำอธิบายที่ทำเอาบรรดาชายหนุ่มหันมามองหน้ากันอย่างอึ้งๆ ก่อนถามพร้อมกัน

    แล้วเจอใครบ้างไหมครับ

    เอ่อ........ตำรวจวัยกลางคนเอ่ยอึกอัก จากรายงานพบว่า มีเพียงคนเดียวที่เราพบว่าอยู่ในปราสาท ซึ่งก็คือ คุณระรัญญาครับ

    ไม่มีวี่แววของคนอื่นเลยเหรอวามินขัดขึ้นมา เรียกให้นายตำรวจพยักหน้าลงเบาๆ

    แล้วเธอปลอดภัยดีรึเปล่าครับวายุถาม ขณะที่คนตอบกลับตอบกำกวม

    ผมอยากให้พวกคุณไปพบเธอหน่อยน่ะครับ ถ้ายังไง เชิญที่ห้องสอบสวนนะครับ

    .

    .

    .

                หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีดำแกมน้ำตาลยาวสวย เจ้าของรอยยิ้มบางๆที่ยังคงยิ้มให้เขาเหมือนเดิม แต่มีอะไรบางอย่างที่ทำเอาวามินจะต้องบอกกับตัวเองว่า เธอเปลี่ยนไป อย่างน้อยก็ดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้น มันดูเลื่อนลอยและว่างเปล่า………..

    คุณวามิน คุณวายุ คุณศิลาหญิงสาวเอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงเรียบๆ

    เคียงดาว.......วายุพึมพำเบาๆ เป็นไงบ้าง

    ก็........เรื่อยๆค่ะระรัญญาตอบเสียงแผ่ว ก่อนจะหันไปมองศิลาด้วนสายตาแปลกๆ เสียใจเรื่องพีรยาด้วยนะคะ

    คุณดู.......แปลกๆศิลาว่า เรียกให้หญิงสาวหันมายิ้มบางๆ

    ค่ะ ฉันก็ว่างั้น

    ......

    ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบงัน ก่อนที่วายุจะขยับตัวอย่างอึดอัด แล้วโพล่งถามออกไป

    คนอื่นๆล่ะครับ คีตา คามิน ไอศูรย์

    .....ระรัญญาชะงักงัน นัยน์ตาสีน้ำตาลหวานเหลือบมองคนที่ถามอย่างไม่คิด ก่อนตอบเสียงเลื่อนลอย

    คีตา.......กับ คามิน.........ไปแล้ว    ไปรับรางวัลของผู้แพ้คำตอบที่ได้เรียกให้เหล่าชายหนุ่มขยับตัวอย่างอึดอัด ก่อนที่วามินจะส่งสายตาคาดโทษไปให้คนปากพร่อยที่ยืนยิ้มแห้งๆอยู่

    จากรายงานของตำรวจที่พวกเขาได้รับนั้น พอจะบอกให้รู้ได้ว่า คีตา คามินและไอศูรย์ยังคงหายสาบสูญไป ส่วนระรัญญา...........หญิงสาวไม่ปริปากบอกอะไรเกี่ยวกับ 3 คนนั้นแม้แต่นิดเดียว

                แต่ก็พอเดาๆได้ว่าเกิดอะไรขึ้น............รางวัลของผู้แพ้

    และถ้ามีใครเอ่ยถึง 3 คนนั้นโดยเฉพาะไอศูรย์ล่ะก็ หญิงสาวจะเปลี่ยนไปทันที

    เคียงดาว..............วายุเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาคล้ายเป็นการขอโทษ หากแต่ระรัญญาคล้ายกับว่าไม่ได้ยิน หญิงสาวยังคงพูดต่อไปด้วยน้ำเสียงอันเลื่อนลอย

    ส่วนไอศูรย์................เอ่ยได้แค่นี้ระรัญญาก็หยุดพูด พร้อมๆกับที่น้ำใสๆไหลทะลักลงมาจากดวงตาคู่โตราวทำนบพัง หากแต่เสียงของหญิงสาวที่พูดต่อก็ยังคงราบเรียบ

    หัวใจของเขาอยู่กับฉัน

    ...............................

    แบบนี้เป็นไงคะ ถ้ายังไงช่วยคอมเม้นท์หน่อยก็ดี............เหมือนจะมีคนออแจเยอะเลย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×