คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : [05] ll FIC + FAN-PUEN
“ไม่เอากุ้งนะผมไม่ชอบ ใส่ปลาสิฮะ ปลาน่ะปลา”
“แต่พี่ไม่ชอบปลานี่ชิง ใส่กุ้งดีกว่านะครับ”
“ใส่ปลานะฮะ ผมอยากทาน”
“มันจะคาวเอานะครับ พี่ว่าใส่กุ้งดีกว่าเนอะ”
อาหารเช้าสำหรับวันนี้คือข้าวต้มกุ้งที่เขาเคยคิดว่าจะทำมันได้ง่ายๆ แต่พอกระต่ายตัวขาวตื่นขึ้นมาก็ได้เกิดความโกลาหลวุ่นวายขึ้น เมื่อน้องจะกินข้าวต้มปลา แต่พ่อครัวตัวสูงดันไม่ชอบเนื้อปลาเข้าไส้นี่น่ะสิ..
พูดคุยกันอยู่นาน เถียงกันอยู่หลายนาที น้องก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมอ่อนข้อลง คริสเลยจำเป็นต้องใช้ไม่แข็ง.. ไม่ใช่ว่าทำท่าทางโมโหใส่น้องหรือดุน้องแต่อย่างไร เพียงแค่เขาเอื้อมมือข้างหนึ่งไปแย่งชามเนื้อปลาที่น้องถืออยู่มาชูไว้เหนือหัว แล้วมืออีกข้างก็จัดแจงเทเนื้อกุ้งลงไปในหม้อต้มน้ำเดือดเสร็จสรรพ
“พี่คริสอ่ะ!” ถึงแม้จะต้องแลกมาด้วยอาการงอนตุบป่องของน้องก็ตามที
“เห็นใจพี่เถอะนะชิง พี่ทานปลาไม่ได้จริงๆนะครับ”
“มันจะอยากตรงไหนกันเชียว! พี่คริสก็แค่ตักเข้าปาก เคี้ยวๆๆแล้วก็กลืน แค่นี้ก็จบแล้ว”
“โถ่.. ชิง ถ้ามันง่ายแบบนั้นก็ดีสิ” เห็นน้องกอดอกมองด้วยหางตาก็รู้สึกไม่ค่อยดี “เอาอย่างนี้ไหม มื้อเช้านี่ชิงก็ทานข้าวต้มกุ้งไปก่อน เดี๋ยวมื้อเย็นพี่ทำข้าวต้มปลาให้ทาน โอเคไหมครับ”
“พูดออกมาแล้วนะฮะ พี่คริสห้ามลืมนะ”
“ไม่ลืมหรอกนะ มือเย็นวันนี้คือข้าวต้มปลาสุดพิเศษ ใส่ปลาเยอะๆเพื่อจางอี้ชิงคนดื้อ” วางมือแหมะลงบนกลุ่มผมนุ่ม ทอดสายตามองหน้ากระต่ายตัวขาวที่ยกยิ้มชอบใจอย่างอ่อนโยน.. ถ้าเพียงแค่น้องมองสังเกตมันสักนิดก็คงจะเห็นได้อย่างชัดเจน
“ผมไม่ได้ดื้อนะ”
“ไม่ได้ดื้อ แต่ก็เอาแต่ใจที่หนึ่ง”
“ก็พี่คริสนั่นแหละชอบตามใจผม”
“อ้าว นี่สรุปพี่ผิดสินะ”
“ใช่ฮะ พี่คริสแหละเป็นคนผิด” เห็นน้องทำท่าทำทางมั่นอกมั่นใจเสียขนาดนั้น เขาเองก็เลยไม่อยากจะขัด ร่างสูงพยักหน้ายอมแพ้พร้อมยกมือสองข้างขึ้นเหนือหัวไหล่
“โอเคๆ ยอมแล้วครับ ยอมแล้ว พี่เป็นคนผิดเองแหละที่ตามใจเด็กชายจางอี้ชิงมากเกินไป ทำให้น้องกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจ ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะครับ”
“อือๆ ไม่เป็นไรๆๆ แต่ก็.. อย่าทำอีกล่ะกัน”
อะไรคือพยักหน้าเข้าใจ อะไรคือลอยหน้าลอยตาใส่เขา เห็นแล้วมันก็อดหมั้นเขี้ยวไม่ได้ แขนยาวเอื้อมวางแหมะลงบนศีรษะทุยก่อนจะออกแรงขยี้มันจนกลุ่มผมนุ่มที่ยุ่งอยู่แล้วให้ยิ่งยุ่งเข้าไปอีก.. เสียงหัวเราะทุ้มต่ำอย่างชอบใจของพี่ชายตัวสูงดังคลอเคลียกับเสียงโวยวายเล็กๆของน้อง
เพราะคนหนึ่งมัวแต่สนใจแค่จะแกล้งกระต่ายตัวขาว และอีกหนึ่งคนก็มัวแต่จัดทรงผมให้เข้าที่
เลยไม่มีใครทันได้สังเกตเห็นใครอีกคนที่ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าประตูห้องครัวมาครู่หนึ่งแล้ว..
ลู่หานยืนมองภาพของเพื่อนสนิทและกระต่ายตัวขาวของเขาเงียบๆ ความรู้สึกต่างๆมากมายที่ไม่เคยแม้จะคิดถึงกลับหลั่งไหลพรั่งพรูออกมาอย่างไม่เคยคาดคิด เขาไม่ได้อยากจะรู้สึกแบบนี้แต่ก็ไม่สามารถห้ามตัวเองได้ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
เป็นปกติที่เพื่อนสนิทและจางอี้ชิงจะเล่นกันแบบนี้เสมอ แต่ก็ไม่เห็นเขาจะรู้สึกอะไร
แล้วทำไมวันนี้ถึงได้เป็นแบบนี้ บางทีอาจเพราะประโยคของมันที่ได้ยินเมื่อคืนหรือเพราะสายตาของเพื่อนสนิทที่ใช้มองกระต่ายตัวขาวของเขา เพิ่งเคยสังเกตชัดๆ มันไม่ต่างกันเลย.. สายตาของมันกับสายตาของเขาเวลาที่ใช้มองจางอี้ชิง
“ชิง..”
และก่อนที่จะตัวเองจะคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยมากกว่านี้ ร่างโปร่งค่อยๆพยุงพาตัวเองเดินไปหาทั้งสองคนอย่างช้าๆ ออกปากเรียกเพียงแผ่วเบาน้องก็ละมือจากการจัดแต่งทรงผมหันกลับมามองเขา นัยน์ตาใสแป๋วเบิกกว้างขึ้นก่อนที่จะรีบเดินเข้ามาหา
“ตื่นนานแล้วหรอฮะ ทำไมไม่เรียกผมล่ะ แล้วนี่.. ยังปวดหัวอยู่ไหมฮะ” ส่ายหน้ายามน้องแตะหลังมือลงข้างแก้ม ดึงมือน้องออกมากุมไว้หลวมๆ
“ไม่เท่าไหร่แล้วล่ะค่ะ นี่ทำอะไรกันอยู่หรอ”
“ทำมื้อเช้าฮะ”
“ชิงทำ?”
“ใช่เลย” คนหน้าหวานหันมาตอบเสียงใส ก่อนจะกระตุกมือลู่หานเบาๆให้เดินตามไปหยุดยืนอยู่ตรงเตาไฟหน้าเคาท์เตอร์ ที่มีหม้อมื้อเช้าที่น้องว่าตั้งอยู่ “ผมทำสุดฝีมือเลยนะฮะ”
ชะโงกหน้าเข้าไปใกล้หม้อให้มากขึ้น หน้าตาน่าทานเหมือนคนทำไมมีผิด แต่จะให้ลู่หานชมน้องตรงๆมันก็แปลกๆไปสักนิด
“ชิงทำสุดฝีมือ แล้วมันจะกินได้หรอคะ” ขอแกล้งให้หายหมั้นเขี้ยวหน่อยล่ะกัน
“ฮื่อ! ดูถูกกันอ่ะ” น้องสะบัดหน้าไปอีกทาง ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบช้อนกลางที่วางอยู่ไม่ไกลออกมาตักน้ำข้าวต้มกุ้งในหม้อจ่อตรงริมฝีปากลู่หาน “อ่าๆ ลองชิมดู แต่ผมมั่นใจว่ามันอร่อยแน่นอนฮะ เพราะผมมีพ่อครัวคนเก่งคอยช่วยอยู่ข้างๆ”
ลู่หานทำเพียงแค่ปรายสายตามองหน้าพ่อครัวคนเก่งของน้อง..
สองแขนแกร่งจะโอบล้อมรอบเอวน้องแล้วดึงเข้ามาใกล้ๆ ซุกใบหน้าลงกับหัวไหล่บาง
“พี่รักชิงนะ”
“พี่ลู่หาน.. เป็นอะไรหรือเปล่าฮะ” ส่ายหน้าไปมากับหัวไหล่บาง น้องคงแปลกใจที่อยู่ๆเขาก็บอกความรู้สึกออกไปอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
“เปล่าหรอกค่ะ พี่แค่อยากบอกให้ชิงรู้ว่าพี่รักชิง รักชิงมากๆ รักที่สุด รัก.. เท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะรักใครอีกคนได้”
“พี่ลู่หาน”
“ชิงรักพี่ไหมคะ” ดันตัวน้องออกมา จดจ้องไปยังดวงหน้าหวานที่ไม่ว่าจะมองมุมไหนเขาก็คิดว่าตัวเองหลงใหลกับใบหน้านี้เหลือเกิน
“พี่ลู่หานทำไมถามแบบนั้นล่ะฮะ”
“ตอบพี่มาทีสิคะว่าชิงรักพี่ไหม รักพี่เหมือนที่พี่รักชิงหรือเปล่า”
“...”
“ตอบให้พี่มั่นใจหน่อยได้ไหมคะ คนดีของพี่..”
“ผมคิดว่าแค่การกระทำของผมพี่ลู่หานก็น่าจะดูออกแล้วนะฮะ”
“พี่โง่นะชิง” เห็นน้องก้มหน้าหลบสายตา ลู่หานก็แทบจะหลุดยิ้มกว้าง “นอกจากความน่ารักของชิงแล้ว อย่างอื่นพี่ก็มองอะไรไม่เห็นหรอก”
“...”
“รักหรือรักมาก เลือกมาสักอย่างสิคะ”
“...”
“ชิงคะ..”
“...”
“ชิง..”
“งื้อออ!! ก็รู้อยู่แล้วจะมาถามกันอีกทำไมเล่า! ไอ้กวางบ้า” คว้ามือของน้องที่กำลังจะฟาดลงกลางอกเขาเอาไว้ได้ทัน นัยน์ตากวางจดจ้องเสี้ยวหน้าหวานของกระต่ายตัวขาวที่ตอนนี้แดงเถือกไปถึงใบหู
“ก็พี่อยากได้ยิน นะคะนะ.. บอกหน่อยนะ”
“ไม่เอา!”
“นะคะชิง.. นานะ”
“อื้อออ ก็..”
“...”
“ก็..”
“...”
“ก็..”
“...”
“...รัก” ถึงแม้จะแผ่วเบาลงไปสักนิดแต่เขาก็ยังได้ยินมันชัดเจน ลู่หานยิ้มกว้างออกมาก่อนจะดึงตัวน้องเข้ามาอ้อมกอดอีกครั้ง อดไม่ได้ที่จะกดปลายจมูกไล่ไปตามแนวกกหูขาวที่แดงเถือก
“พูดอีกทีได้ไหมคะ”
“ไม่เอาแล้ว! ปล่อยผมเลยนะ จะไปอาบน้ำแล้วว” กระต่ายตัวขาวดิ้นสุดแรงหมายจะหนีจากอ้อมกอดลู่หาน แต่มีหรือที่คนเจ้าเล่ห์อย่างเขาจะยอม
“พูดอีกครั้งก่อน แล้วพี่จะปล่อย”
“เจ้าเล่ห์! นิสัยไม่ดี! ไม่เอาแล้ว ไม่พูด!”
“งั้นก็ยืนกอดกันอยู่แบบนี้ทั้งวันนั่นแหละ ชิงไม่พูดอีกพี่ก็ไม่ปล่อย”
“ฮื่ออ!!!” มือน้องฟาดหมับเข้ากลางหลังเขา ไอเจ็บมันก็เจ็บอยู่แหละ แต่ไม่ว่ายังไงแขนแกร่งก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะคลายลง
“พูดก่อน”
“ก็พูดไปแล้วอ่ะ!”
“พูดอีกทีสิ เร็วๆ”
“ไม่!”
“งั้นก็ไม่ปล่อย”
“...”
“วันนี้ชิงก็ไม่ต้องทำอะไรหรอก ยืนเฉยๆให้พี่กอดแบบนี้ก็พอเนอะ”
“...”
“ทริปเที่ยวทะเลสามวันที่พี่นอนคิดไว้เมื่อคืนก็ยกเลิกไปล่ะกัน ไม่ต้องไปกัน..”
“ยกเลิกไม่ได้นะ! ผมจะไป ห้ามยกเลิกนะ!” ไม่เห็นหน้าลู่หานก็พอรู้ว่าน้องทำหน้าตาอย่างไร ร่างโปร่งยิ้มกว้างก่อนจะกดปลายจมูกลงข้างขมับขาว
“ไม่ยกเลิกก็ได้แต่พูดคำนั้นออกมาก่อนสิ พูดออกมาอีกครั้งหนึ่ง”
“ถ้าพูดแล้วจะพาไปใช่ไหม”
“พี่เคยผิดคำพูดหรอคะ” เมื่อเห็นว่าน้องคล้ายจะยอมอ่อนลง ลู่หานก็เลยยอมปล่อยตัวน้องออก แต่ก็ยังล็อคตัวน้องไว้ด้วยแขนทั้งสองข้าง ยิ้มอ่อนโยนให้ไปยามเมื่อกระต่ายขาวเงยขึ้นมาสบตา
“...ผม”
“พี่ฟังอยู่”
“ผมรัก..”
“รัก?”
“รักพี่ลู่หาน!”
แล้วน้องก็แถมของแถมเป็นจุ้ปเล็กๆเบาๆที่ข้างแก้มสาก ก่อนจะดันตัวเขาออกแล้ววิ่งปึงปังออกจากห้องครัวไป เสียงปิดประตูห้องนอนที่ดังรุนแรงคงบอกความเร่งรีบของกระต่ายตัวขาวได้ดี.. ลู่หานยิ้มกว้างก่อนจะผิวปากอย่างอารมณ์ดีเดินเข้าไปหาเพื่อนสนิทตัวสูง หยิบช้อนขึ้นมาตักข้าวต้มกุ้งในหม้อเข้าปากอย่างถือวิสาสะ
“นึกยังไงวันนี้ถึงอยากได้ยินคำว่ารักจากน้อง” ลู่หานยักไหล่ก่อนจะวางช้อนกลางลง ร่างโปร่งหันหลังพิงสะโพกเข้ากลับเคาท์เตอร์ นัยน์ตากวางหันมองหน้าเพื่อนสนิทพร้อมรอยยิ้มที่เหมือนจะหวานแต่ดวงตานั้นไม่...
“ถือว่าเป็นของขวัญครบรอบสองปี”
“มึงพูดเหมือนกับว่าน้องจำมันได้แล้ว” ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกไม่พอใจ.. ร่างโปร่งส่งเสียงร้องเหอะลงในลำคอ
“จำได้หรือไม่ได้แล้วมันเกี่ยวอะไรกับมึง เรื่องของกูกับแฟนกูบางทีมึงก็ไม่สมควรจะรู้ไปทุกเรื่อง”
“...”
“สำหรับกูกับมึงแน่นอนว่ามันคือเพื่อน แต่สำหรับกูกับอี้ชิง.. มึงน่ะก็เป็นได้แค่คนอื่น”
“...”
สองขาที่กำลังก้าวหมายจะเดินออกไปจากห้องครัวหยุดชะงักลง ลู่หานหยุดเดินก่อนจะหันกลับไปมองแผ่นหลังกว้างของเพื่อนตัวสูงอีกครั้ง นัยน์ตากวางมองจ้องมันอย่างนั้นอยู่เนินนานจนคนถูกมองเริ่มรู้สึกตัว มุมปากได้รูปยกยิ้มขึ้นพยายามอย่างมากให้เป็นเหมือนในคราปกติเมื่อได้สบตากับเพื่อนตัวสูง
“เย็นนี้กูจะพาอี้ชิงไปเที่ยวทะเล ถ้ามึงจะไปด้วยก็เตรียมเก็บเสื้อผ้าไว้เลยล่ะกัน”
“...”
“ทริปแค่สามวันนะ ไม่ต้องเสือ.กเตรียมเสื้อผ้าไปซะเยอะแยะล่ะ”
70 PER.
“มาเป็นส่วนเกินคนอื่นเขาแล้วยังจะมาช้าอีกตั้งเกือบครึ่งชั่วโมง น่าชื่นชมในความไร้มารยาทของคนแถวนี้จริงๆเลย”
ทันทีทันใดที่ร่างของคิมมินซอกเดินเข้ามาหยุดลงตรงหน้าพวกเขาสามคน ก็เป็นลู่หานอีกตามเคยที่เอ่ยทักทายคนตัวเล็กด้วยถ้อยคำกระแหนะกระแหน.. มินซอกจงใจทำเมินกับคำพูดของอีกคน คนตัวเล็กหันหน้าไปยิ้มหวานให้กับจางอี้ชิง เด็กน้อยตัวขาวที่เป็นคนโทรไปชวนเขามาร่วมทริป
“พี่ไม่ได้มาช้าไปใช่ไหมอี้ชิง”
“ไม่เลยฮะ นี่พวกเราก็เพิ่งจะเตรียมตัวเสร็จเหมือนกัน พี่มินซอกอย่าไปสนใจฟังคำพูดเพ้อเจ้อของพี่ลู่หานเลยนะฮะ รายนั้นน่ะเป็นผู้ใหญ่หัวล้าน ขี้ใจน้อยและก็ชอบเรียกร้องความสนใจ”
“อี้ชิง! ว่าพี่หรอ!”
กระต่ายตัวขาวทำลอยหน้าลอยตาใส่กับคำโวยวายเล็กๆ ของคนข้างตัว จางอี้ชิงมองเมินเลือกเดินเข้าไปหาคิมมินซอก สองมือเล็กเอื้อมหยิบกระเป๋าสัมภาระของอีกคนมาถือไว้ในมือ ก่อนจะส่งต่อให้พี่ชายตัวสูงที่เดินมารับไปไว้หลังรถอย่างรู้งาน
“ผมเอ่ยชื่อพี่ลู่หานงั้นหรอฮะ ร้อนตัวนะ”
“อี้ชิง!”
“เข้าไปในรถกันเถอะฮะพี่มินซอกพี่คริส ปล่อยกวางติ๊งต๊องให้ยืนเสียงดังคนเดียวไว้ตรงนี้แหละ”
น้องพูดขึ้นลอยๆ ก่อนจะหันไปจูงมือพี่ชายต่างไซส์ให้เดินตาม ข้างขวาจับมือคิมมินซอก ข้างซ้ายก็จับมือพี่ชายตัวสูง.. ปล่อยให้คนที่ถูกเรียกว่ากวางติ๊งต๊องยืนมองภาพเหตุการณ์ตรงหน้าตาปริบๆ ลู่หานกำลังเกิดความสงสัยอย่างหนัก เขาคิดไปเองหรือเปล่านะว่าเวลาอยู่ต่อหน้าคิมมินซอกกระต่ายตัวขาวของเขาจะปากคอเลาะร้ายเป็นพิเศษ
ปริ๊นนนน~~~~~~~~ นนนนนน
“จะยืนเสกให้ทะเลมากองอยู่ตรงหน้ามึงเลยไหม จะไปไหมครับพี่”
“เอออ ไปครับไป!! แหมะ!!”
“ถ้าง่วงก็หลับไปก่อนก็ได้ชิง ถ้าถึงแล้วเดี๋ยวพี่ปลุก”
“ไม่เอาอ่ะ ผมอยากมองวิวข้างทาง”
“แต่ท่าทางชิงเหมือนจะไม่ไหวแล้วนะคะ นอนเถอะค่ะ”
ปลายจมูกโด่งกดลงบนเนินหน้าผากเนียนของกระต่ายตัวขาวทันทีที่น้องยอมละสายตาจากวิวธรรมชาติสวยงามบริเวณข้างทาง... คนตัวเล็กที่ใช้ไหล่ของเขาในการพักพิงอาศัยชั่วคราว เงยหน้าช้อนสายตาขึ้นมองคล้ายกำลังออดอ้อน
“ผมอยากดู”
“ถ้าดื้อพี่จะให้ไอ้คริสวนรถกลับ ไม่ต้องไปแล้วทะเลอะไรนั่น ตกลงไหมคะ?” น้องร้องอื้ออึงในลำคอ ขยับตัวซุกใบหน้าลงกับซอกคอลู่หาน..
“ไอ้กวางใจร้าย ผมโกรธพี่แล้ว!”
“ก็เราน่ะถูกตามใจจนเคยตัวไปหมดแล้ว ดื้อมากไม่น่ารักนะรู้เปล่า”
“ผมไม่น่ารัก งั้นก็ไม่ต้องมารัก!..” น้องเด้งตัวออกห่าง ขยับถอยไปจนชิดประตูรถ กอดอกขึ้นมอง “ผมไม่ง้อให้พี่ลู่หานรักก็ได้ ผมให้พี่คริสรักผมคนเดียวก็พอ”
“...”
“ถึงผมจะไม่น่ารักยังไง ทำตัวไม่ดีแค่ไหน แต่สุดท้ายพี่คริสก็ยังรักผม”
“...”
คล้ายว่ากระต่ายตัวขาวจะยังไม่รู้สึกตัวว่าตัวเองทำให้บรรยากาศบนรถที่เคยคละคลุ้งไปด้วยความสุขบางเบานั้นมลายหายลงไปภายในพริบตา.. จางอี้ชิงขยับตัวออกห่างจากประตูรถ เขยิบเข้าไปให้ใกล้เบาะรถคนขับมากขึ้น สองแขนเล็กตวัดโอบรอบเบาะรวมไปถึงรอบคอของพี่ชายตัวสูง พร้อมศีรษะที่วางคางเกยไว้กับพนัก
หันมองเสี้ยวหน้าของพี่คริส ก่อนจะกดยิ้มหวานตาหยีส่งให้ไป..
“ใช่ไหมฮะพี่คริส ไม่ว่ายังไงพี่คริสก็ยังรักผมใช่ม่ะ”
“...”
“ใช่ไหมพี่คริส ตอบพี่ลู่หานไปเลยนะ ว่าถึงพี่ลู่หานจะไม่รักผมแต่พี่คริสก็ยังรักผมใช่ไหมฮะ”
“เออ.. พี่..”
“ใช่ไหมฮะพี่คริส”
“พี่.. เออ..”
เมื่อเห็นว่าพี่ชายตัวสูงให้คำตอบที่ตัวเองต้องการไม่ได้ในทันที กระต่ายตัวขาวเลยจัดการขยับตัว ขยับหน้าให้เข้าไปใกล้อีกคนมากกว่าที่เป็นอยู่ ก่อนฝ่ามือบางข้างหนึ่งจะเอื้อมวางลงตรงแก้มสาก พร้อมออกแรงดันให้หันกลับมาสบตา
กำลังจะเอ่ยคำถามออกไปอีกครั้ง แต่ก็ติดที่แรงกระชากรุนแรงที่ข้อพับแขน
ริมฝีปากอิ่มเบะลงพร้อมกับแก้วตาใสที่ตวัดมองอย่างโกรธเคือง..
“พี่ลู่หาน! ผมเจ็บนะ”
“แล้วเมื่อกี้จะทำอะไร! ขยับเข้าไปใกล้ขนาดนั้นจะจูบไอ้คริสมันหรือไงฮะจางอี้ชิง!”
“ผมเปล่าสักหน่อย! อย่ามาใส่ความผมนะ ไอ้กวางบ้า!”
น้องสะบัดแขนออกก่อนจะหันหน้าหนีออกไปอีกทาง.. ไม่ส่งเสียง ไม่โวยวาย ไม่งอแง อะไรออกมาทั้งนั้น คนตัวเล็กเอาแต่จนจ้องไปยังถนนข้างทางราวกับว่ามันมีอะไรน่าสนใจนักหนา ลู่หานเสยผมขึ้นอย่างหัวเสียก่อนจะค่อยๆปิดเปลือกตาลง
พยายามระงับอารมณ์มากมายที่เดือดพล่านอยู่ภายในอก
พยายามบอกกับตัวเองว่าน้องไม่ได้คิดอะไร น้องทำไปเพราะความไม่คิด..
เนินนานอยู่หลายนาที บอกกับตัวเองนับร้อยรอบในใจ แต่สุดท้ายแล้วก็คล้ายกับว่ามันไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นมาเลย.. รู้ดีว่ามันงี่เง่า แต่ถ้าใครมาเป็นเขาแล้วเห็นภาพแบบที่จางอี้ชิงทำไปเมื่อสักครู่ จะมีสักกี่คนที่ทนได้กัน
นัยน์ตากวางยอมเปิดขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับฝ่ามือหนาที่เอื้อมแตะบางเบาลงกับข้อแขนเล็ก..
“อี้ชิง พี่..”
“พี่คริสฮะเปิดหน้าต่างรถให้ผมหน่อยได้ไหม ผมอยากรับลมเล่น”
น้องขยับแขนออกพร้อมกับทำเมินเขาอย่างจงใจ จางอี้ชิงตั้งใจที่จะไม่สนใจเขา.. น้องวางท่อนแขนซ้อนทับกันบนรถกระจกรถที่วานให้พี่ชายตัวสูงลดระดับลงให้ก่อนที่จะพักพิงศีรษะลงไป วางคางเกยไว้กับสองแขน
“อี้ชิง..”
“พี่คริสฮะอีกนานไหมกว่าจะถึง ผมอยากนอนหลับแล้ว”
“ชิง..”
“พี่คริสฮะพี่มีหูฟังให้ผมยืมหน่อยไหม ผมอยากฟังเพลง”
“ชิงคะ..”
“พี่คริสฮะ..”
“พี่ขอโทษ” ซุกใบหน้าลงกับแผ่นหลังเล็กบางพร้อมกับท่อนแขนแกร่งสองข้างที่เกี่ยวตวัดเอวน้องเข้าหา น้องไม่ได้ผลักไส น้องไม่ได้ขัดขืน แต่น้องเงียบนิ่ง เงียบนิ่งเสียจนลู่หานนึกหวาดกลัว..
“พี่ลู่หานจะมาขอโทษผมทำไม”
“ชิงอย่าพูดแบบนี้ พี่ทำเราเจ็บ ตีพี่สิคะ อย่าเงียบแบบนี้”
“ก็สมควรแล้วไม่ใช่หรอฮะ พี่ลู่หานบอกเมื่อกี้ผมจะจูบพี่คริส พี่ลู่หานไม่พอใจก็เลยกระชากแขนผมออกมา ตะโกนใส่หน้าผมดังๆแบบนั้น ก็.. ก็ถูก แล้วไงฮะ ฮึก!”
“ชิงพี่ขอโทษ..” รับรู้สึกได้ถึงแผ่นหลังบางที่เริ่มสะอื้นฮักลู่หานก็ยิ่งใจไม่ดี สองแขนแกร่งโอบรัดเอวบางไว้มากขึ้น ความขุ่นหมอง ความขุ่นเคืองเมื่อสักครู่มลายหายออกไปในชั่วพริบตา
“ฮึก!”
“พี่ขอโทษนะคะที่ตะโกนใส่ชิงแบบนั้น รู้ทั้งรู้ว่าชิงไม่ได้จะทำแบบที่พี่คิดแต่พี่ก็ยังไม่เชื่อชิง โกรธพี่ใช่ไหม ไม่พอใจพี่ใช่หรือเปล่า ตีพี่สิคะ หันมาว่าพี่อะไรก็ได้ แต่อย่าร้องไห้แบบนี้ พี่ทนไม่ได้นะชิง..”
“..ฮ”
“ชิงคะ..”
“ฮึก! ฮือออ ไอ้กวางบ้า! ไอ้กวางนิสัยเสีย!! มาตะโกนใส่หน้าเราแล้วจะมาขอโทษง่ายๆแบบนี้หรอ ฮืออ เห็นเราใจง่ายหรอ ฮึก! ฮือออ”
ลู่หานไม่รู้หรอกว่าหลายคนจะมองเขาแปลกไหม แต่ทั้งๆที่ถูกน้องว่ากล่าวไม่พอใจอยู่แบบนี้ แต่เขากลับยิ้มกว้างออกมาได้.. สองแขนแกร่งคล้ายออกจากเอวบางของกระต่ายตัวขาว จัดแจงพลิกร่างน้องกลับมา นิ้วเรียวยาวเกลี่ยคราบน้ำตาออกจากดวงหน้าหวานอย่างเบามือ กดจูบลงบนเปลือกตาบางทั้งสองข้างอย่างเท่าเทียม
“พี่ขอโทษนะ ยอมยกโทษให้ให้ไอ้กวางบ้าคนนี้นะคะ”
“ฮึก! ไม่..”
“แล้วชิงจะให้พี่ทำยังไง บอกมาเลยพี่ทำให้เราได้หมดเลยนะ” น้องค้อนขวับเข้าให้ พร้อมฝ่ามือบางที่ตะปบหมับลงบนใบหน้าของเขาด้วยแรงที่ไม่น้อยนัก..
“ที่ตอนทำน่ะไม่คิด มาขอโทษทำไมล่ะตอนที่เรื่องมันเกิดไปแล้วน่ะ”
“โถ่ ชิงคะ..” ถึงน้องจะขัดขืน แต่ลู่หานก็จัดแจงพักพิงหน้าผากลงกับหน้าหน้าน้องได้จนสำเร็จ “ก็พี่หวงของพี่นี่คะ ชิงเป็นแฟนพี่พี่ก็ต้องหวงเป็นธรรมดา ถ้าสมมติเป็นพี่ที่ทำท่าจะไปจูบคนอื่นแบบนั้น ชิงก็ต้องทำแบบพี่แหละ”
“แต่นั่นพี่คริส..”
“ความหวงมันห้ามกันไม่ได้หรอกนะชิง แล้วก็อีกอย่างนะ..” ผละหน้าออกมาจากดวงหน้าหวานเล็กน้อย ก่อนจะวางปลายนิ้วไล่วนทุกสรรพสิ่งที่ปรากฏให้เห็นตรงหน้า..
“...”
“ไม่ว่าจะคิ้ว..”
“...”
“จะตา”
“...”
“จะจมูก”
“...”
“หรือจะริมฝีปาก..” ริมฝีปากได้รูปแตะสัมผัสลงกับกลีบปากอิ่มแผ่วเบา “มันก็เป็นของพี่”
“...”
“สุขสันต์วันครบรอบสองปีที่เราคบกันนะคะ พี่รักชิงนะ..”
.
น้องหลับไปแล้ว พร้อมกับความเงียบที่ทิ้งตัวคละคลุ้งไว้ทั่วทั้งคันรถ..
ไม่มีใครพูดอะไรออกมา มีเพียงเสียงของเครื่องปรับอากาศที่ยังคงทำงานสม่ำเสมอ
คล้ายคริสกำลังถูกจับตามอง นัยน์ตาคมเงยขึ้นมองไปยังกระจกรถ..
รอยยิ้มหม่นหมองพร้อมกับสายตาที่รีบหันกลับมาทางเดิม
ไม่กล้าสบตากับใครอีกคนนาน..
กลัว.. กลัวว่าลู่หานจะมองเห็นความผิดปกติในสายตาของเขา..
TO BE CONTINUED
เขาจูบกันแล้วอ่ะแก! แอร๊ยย~~~~~~
-Kimpla-
ความคิดเห็น