คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : [03] ll FIC + FAN-PUEN
เพียงเวลาไม่นานเกินรอ อาหารมื้อเย็นมากหน้าหลายตาจากฝีมือพ่อครัวตัวสูงก็ถูกทยอยนำมาวางบนโต๊ะหน้าทีวีจนครบท่ามกลางเสียงอึกทึกของบุคคลภายในห้อง อี้ชิงจูงมือคิมมินซอกพี่ชายคนใหม่ที่เพิ่งรู้จักหมาดๆมานั่งลงด้วยกัน มนุษย์อีกคนที่ตอนแรกกะจะนั่งลงข้างกายแฟนตัวเล็กจำต้องขยับลุกออกมายังฝั่งตรงข้ามเมื่อถูกน้องมองบังคับทางสายตา
“ไหนตอนแรกบอกทำแค่ข้าวผัดง่ายๆไงฮะ ทำไมตอนนี้กับข้าวมันเยอะแยะแบบนี้ล่ะ”
อี้ชิงร้องเสียงดัง เบิกตาโตไล่มองจานชามอาหารตรงหน้าอย่างหลงไหล.. พ่อครัวตัวสูงยิ้มขำกับท่าทางของกระต่ายน้อยตัวขาวก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างลู่หาน
“ก็พี่ได้ยินเราบอกว่าเพื่อนลู่หานมันมา พี่ก็เลยอยากโชว์ฝีมือ”
“อ่อ! ฮ่าๆ ว่าแล้วเชียว พี่คริสชอบโชว์พาววว” เห็นกระต่ายน้อยตัวขาวทำท่าทำทางล้อเลียนก็อดที่จะหมั้นเขี้ยวไม่ได้ มือหนาวางแหมะลงบนศีรษะทุยก่อนจะออกแรงขยี้มันแรงๆ เรียกเสียงกระแง้วกระงอดจากน้องได้เป็นอย่างดี
“พูดมาก กินไปเลยไป”
“งื้อออ”
ส่ายหัวให้น้องเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหันกลับมาสนใจกับข้าวตรงหน้าต่อ คริสกระแอมหัวเราะในลำคอคนเดียว นึกขำเหลือเกินกับนิสัยของกระต่ายตัวขาวตรงหน้า ไม่เห็นใจกันบ้างเลยนะจางอี้ชิง จะทำใจร้ายกับเขาไปถึงไหน เพียงแค่นี้.. เท่าที่เป็นอยู่เขาก็หลงทางจนหาทางออกจากความรู้สึกตัวเองไม่ได้อยู่แล้ว
“สองคนนี้ดูสนิทกันมากเลยเนอะ เหมือนคริสจะเอ็นดูอี้ชิงมากๆเลย”
เพราะเป็นน้ำเสียงของคนที่ไม่คุ้นเคย และเนื้อหาความหมายของประโยคที่ได้ยินผ่านหู ทำให้รอยยิ้มจางบนใบหน้าหล่อค่อยๆลบหายออกไป นัยน์ตาคมเงยขึ้นมองเจ้าของประโยค.. นี่สินะคือคิมมินซอก จะว่าไปก็ลืมไปเลยว่าตอนนี้ไม่ได้มีแค่พวกเขาสาม แต่มีใครใหม่เพิ่มเข้ามาอีกคน
“ผมรู้จักกับพี่คริสมาได้หลายปีแล้ว พี่คริสเป็นคนใจดี ผมเลยสนิทกับเขาฮะ”
“ถึงว่าล่ะ..”
“ไม่มีใครสอนมารยาทบนโต๊ะอาหารให้นายหรือไง ว่าเวลาทานข้าวกันอยู่ห้ามคุยกันน่ะ” และแล้วคนที่นั่งเงียบและให้ความสนใจอยู่แต่อาหารตรงหน้าก็หมดความอดทน ลู่หานเงยหน้าขึ้นมองคนมาใหม่พร้อมเอาปลายตะเกียบชี้หน้า
“ทำไมถึงทำนิสัยไร้มารยาทแบบนี้นะ ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ”
“ทำไมนายต้องว่าอี้ชิงด้วยล่ะ” ตอบกลับไปพร้อมใบหน้าใสซื่อ แล้วก้มหน้าก้มตาตักข้าวเข้าปากแบบนิ่งเฉย ลู่หานร้องเหอะในลำคอพร้อมมือก็วางตะเกียบลงฉับ
“ฉันด่านายเถอะ”
“อ๋อหรอ.. งั้นก็ขอบใจ”
“นี่นายกำลังกวนตีนฉันอยู่สินะ”
“ฉันไปกวนตีนนายตรงไหนไม่ทราบ”
“ก็ไอ้การที่นายลอยหน้าลอยตากวนประสาทฉันอยู่แบบนี้เนี่ยแหละ บ้านฉันเรียกว่ากวนตีนอยู่”
“แต่บ้านฉันไม่เรียกว่าแบบนั้นนะ”
“นี่! คิมมินซอก”
“อาฮะ นั่นชื่อฉัน”
สงครามเย็นเกิดขึ้นย่อมๆโดยมีเสียงหัวเราะคิกคักในลำคอจากจางอี้ชิง กระต่ายตัวขาวนั่งมองแฟนหนุ่มของตัวเองกับพี่ชายคนใหม่ที่เพิ่งรู้จักเถียงกันไปเถียงกันมาอย่างชอบใจ อี้ชิงเป็นคนแปลกที่ชอบนั่งมองพี่ลู่หานวีนเหวี่ยง ทุกความสนใจเลยถูกเทไปให้สองคนนั้นทั้งหมด เลยไม่ทันได้สังเกตเลย.. ว่ามีใครอีกคนนั่งมองรอยยิ้มสดใสนั่นมาตั้งแต่แรกแล้ว
“อ่า! จริงสิ วันนี้วันเกิดฉัน!!” เพราะอยู่ดีๆคนที่นั่งเถียงอยู่ด้วยก็เปลี่ยนเรื่องคุย มีหรือที่ลู่หานคนที่คอยจะหาเรื่องขัดคิมมินซอกทุกเรื่องจะยอมปล่อยผ่านไป
“ใครถามไม่ทราบ”
“พูดลอยๆ หมาเสือ.กสงสัย”
“นาย!!”
“วันนี้วันเกิดพี่มินซอกหรอฮะ”
ถ้าไม่ติดว่าอี้ชิงพูดสวนขึ้นมาก่อน เห็นทีว่าคงจะได้เปิดศึกวางมวยกันอีกรอบ.. ลู่หานฮึดฮัดหันเหสายตากับมาสนใจอาหารตรงหน้าต่อ แต่หูก็ยังคอยฟังบทสนทนาที่ดังแว่วเข้ามาเรื่อยๆ มีบ้างที่จะเสนอหน้าพูดล้อเลียนคิมมินซอกออกไป แต่สิ่งที่ได้กลับมาแทนที่จะเป็นอารมณ์หงุดหงิดของมินซอกแต่กลับกลายเป็นสายตาค้อนขวับของกระต่ายตัวขาว
แล้วคิดว่าคนอย่างลู่หานจะทำอะไรได้.. ร่างโปร่งลดสายตาลง เก็บปากเก็บคำนั่งฟังบทสนทนาของทั้งคู่เงียบๆ แม้นในใจลึกๆอยากเหลือเกินที่จะเอ่ยขัดคำพูดคิมมินซอก
“พรุ่งนี้วันศุกร์ อี้ชิงมีเรียนไหม”
“อื้ม.. พรุ่งนี้หรอฮะ” เพราะนึกเองไม่ออกเลยต้องหันสายตาไปทางพี่ชายตัวสูง เห็นพี่คริสส่ายหน้าก็รีบหันกลับมาตอบคิมมินซอก “ไม่มีฮะ”
“งั้นไปฉลองวันเกิดพี่ด้วยกันไหม”
“ไปฮะ” เพราะกลัวว่าพี่ชายคนใหม่จะเปลี่ยนใจ เลยเลือกที่พยักหน้าตอบรับเร็วๆให้ไปด้วย
“ถามพี่หรือยังคะ มันดึกแล้วนะชิง” แต่ก็เหมือนถูกตัดความหวังด้วยเสียงเรียบนิ่งของลู่หาน อี้ชิงยู่ปากนั่งห่อไหล่ลง... ริมฝีปากอิ่มบ่นแฟนหนุ่มตัวเองตอบไปเบาๆ
“ก็พรุ่งนี้ผมไม่มีเรียน”
“แต่มันดึกแล้วพี่เป็นห่วงนะ อีกอย่างไปกับใครที่ไหนก็ไม่รู้ ไว้ใจได้หรือเปล่าก็ไม่รู้” อดไม่ได้ที่จะเอ่ยพาดพิงใครอีกคน.. ยิ่งเห็นคิมมินซอกลอยหน้าลอยตายิ้มหวานใส่ยิ่งอยากจะซัดสักเปรี้ยง
“เหตุผลพี่ลู่หานฟังไม่ขึ้น!”
“อะไร พี่เป็นห่วงนี่ฟังไม่ขึ้นหรอ”
“ก็ไปกับพี่มินซอก”
“ก็นั่นแหละสาเหตุหลักๆที่พี่เป็นห่วงเลย”
“งื้ออ แต่ผมจะไป!”
“แต่พี่ไม่ให้ไป”
“ผมจะไป”
“พี่ไม่ให้ไป”
“งื้อออ!! ก็จะไปอ่ะ”
“แต่พี่ไม่ให้ไป”
พอเห็นน้องทำหน้าทำตาเหมือนจะร้องไห้ลู่หานก็คล้ายกำลังจะใจอ่อน แต่พอสายตาเหลือบไปเห็นหน้าคิมมินซอก.. ไม่ยอม! ยังไงเขาก็ไม่มีทางยอม ทำไมจะมองไม่ออกว่าสายตาหมอนั่นมันกำลังล้อเลียนเขาขนาดไหนน่ะ
“พี่ลู่หาน..”
“ไม่ต้องมาทำเสียงอ่อนเลย สนิทกันมากขนาดนั้นแล้วหรือไงถึงได้จะไปงานวันเกิดเขาน่ะ” ให้ตายสิ นี่ครั้งแรกเลยนะที่เขากล้าขัดใจน้องน่ะ
“ใจร้าย! นิสัยไม่ดี ไอคนไม่มีเหตุผล!!”
สุดท้ายก็โดนกระต่ายน้อยค้อนขวับเข้าให้... อยากเหลือเกินที่จะเดินไปบอกว่าพี่ใจอ่อนตั้งแต่เห็นน้องเรียกเสียงอ่อนแล้ว แต่ติดที่เห็นคิมมินซอกมันนั่งลอยหน้าลอยตาขว้างสายตา(?)อยู่ ลู่หานกำลังจะเอ่ยบางประโยคออกไปให้น้องเข้าใจตัวเอง แต่ดูเหมือนกระต่ายตัวขาวจะได้เจอเป้าหมายใหม่เข้าให้แล้ว
“พี่คริส..” จางอี้ชิงเงยหน้ามองพี่ชายตัวสูงตาปริบๆ จงใจทำเมินไม่สนใจแฟนหนุ่มอย่างเปิดเผยไม่คิดปิดบัง “ผมอยากไปฉลองวันเกิดกับพี่มินซอก พี่คริสพูดกับพี่ลู่หานให้ผมหน่อยนะฮะ”
“เออ..”
“นะฮะ”
“เจ้าเล่ห์นะชิง เห็นว่าขอพี่ไม่ได้เลยไปขอเพื่อนพี่หรอคะ”
“พี่คริสฮะ ผมอยากไป..” น้องไม่แม้แต่จะหันกลับมามองสักนิด ลู่หานตบมือลงกับหน้าผากฉาดใหญ่ คลับคล้ายคลับคาว่างานยักษ์กำลังจะเข้าหาเขา
“พี่ว่ามันก็ดึกไปแล้วจริงๆนะชิง”
“งื้อออ”
“แต่ก็นะ.. มึงน่ะถ้าเป็นห่วงนักก็ทำไมไม่ไปกับน้องด้วยล่ะ แทนที่จะมานั่งพะวงหน้าพะวงหลังกันอยู่ แม่.ง ก็ไปด้วยกันให้หมดนี่แหละ”
“เหี้.ยอะไรของมึงเนี่ย! ตกลงจะเอาไงครับ จะอยู่ข้างน้องหรืออยู่ข้างกู” เพราะเหมือนประโยคแรกมันจะเอนมาทางเข้า แต่ไหงสรุปตอนท้ายกับมาลงเอยแบบนี้วะ
“มึงก็อย่ามาเวอร์ดิวะ เป็นห่วงอ่ะกูเข้าใจแต่นานๆทีน้องจะได้ออกไปเปิดหูเปิดตา อีกอย่างนะ..” คริสลดกายลงมา ขยับเข้าไปกระซิบข้างหูเพื่อน “มึงก็ถือโอกาสนี่ฉลองวันครบรอบของมึงไปด้วยไง”
“...”
“กูคิดหาทางให้แบบนี้ ถ้าจะปล่อยมันไปก็เรื่องของมึงนะ”
“...”
“ทำเป็นลืมๆเหมือนน้องมันไป แล้วก็มานั่งนอยด์ให้กูฟังทีหลังว่าสุดท้าย น้องก็จำวันครบรอบสองปีที่คบกับมึงไม่ได้..”
“เงียบเถอะสัส! โอเคๆ พี่ให้ไปก็ได้แต่ห้ามเกินห้าทุ่ม” ประโยคแรกน่ะพูดกับเพื่อนสนิท ส่วนประโยคหลังน่ะพูดกับกระต่ายตัวขาวที่นั่งจ้องเขาตาปริบๆ
“เย้!!” เสียงร้องเฮลั่นของกระต่ายตัวขาวดังลั่นไปทั่วห้องเข้ากับเสียงปรบมือชอบใจของน้อง ดีใจมากมายเหลือเกิน.. ราวกับเด็กน้อยได้ของเล่นใหม่
คริสส่ายหัวให้กับการกระทำของอี้ชิง สั่งตัวเองให้เลิกสนใจน้องเสียทีก่อนที่ตนจะแสดงอาการอะไรออกไปมากว่านี้ นัยน์ตาคมกำลังจะละสายตาออกมาแต่ก็ดันเหลือบไปมองใครอีกคนที่เขายังไม่มีโอกาสได้สนทนาด้วย
ไม่มีการหลีกหลบ..
ไม่มีการหันสายตาหนี..
ไม่มีการเปิดบทสนทนาใดๆ..
ไม่มีใครยอมเอ่ยคำทักทายออกมาก่อน..
มีเพียงสายตาสองคู่ที่มองกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร หนึ่งคนหนึ่งความหมายและอีกหนึ่งคนหนึ่งความรู้สึก...
“คาราโอเกะ~~~ คาราโอเกะ~~~~”
นั่นคือเสียงร้องของคนที่พูดว่าไม่อยากจะมาในตอนแรก.. ร่างสูงมองตามร่างของเพื่อนสนิทที่จูงมือกระต่ายตัวขาวเข้าไปในห้องอย่างกระตือรือร้น แล้วตอนแรกก็ทำมาเป็นอ้างเหตุผลนู้นนี่นั่นสารพัด มันจะรู้ไหมนะว่าตอนนี้มันแสดงอาการอะไรออกมาบ้าง
“สองคนนั้นคบกันมานานแล้วหรอ”
สองขาที่กำลังจะก้าวตามเข้าไปข้างในชะงักลง หันสายตามองคิมมินซอกที่ยืนมองสองคนนั้นเหมือนกับเขาอยู่ข้างกาย นี่เป็นครั้งแรกเลยที่มีโอกาสได้คุยกัน.. คริสเลือกที่จะหยักหน้าให้เป็นคำตอบ
“นายดูเหมือนเป็นคนที่เข้าถึงยากกว่าที่ฉันคิดนะ”
“ฉันแค่เลือกจะคุยด้วยกับคนที่สนิทเท่านั้น”
“เย็นชาเหมือนเดิมเลยสินะ” คล้ายจะพึมพำกับตัวเองเสียมากกว่า.. มินซอกยิ้มกว้างให้อีกคนแทนคำตอบเมื่อเห็นสายตาของคนตัวสูงมองมาอย่างไม่เข้าใจ
“เมื่อกี้นายพูดอะไรนะ”
“ไหนบอกว่าเลือกคุยด้วยกับคนที่สนิทเท่านั้นไง ทำไมถึงมาถามคำถามฉันล่ะ”
“ฉันไม่ใช่ไอ้ลู่หานที่จะมายืนฟังนายกวนประสาทได้”
“ฉันล้อเล่นหรอกน่า นายนี่นะถ้าไม่ใช่จางอี้ชิงก็ไม่ยอมพูดเล่นด้วยเลยหรือไง”
“พูดอะไรของนาย” ยักไหล่ให้แทนคำตอบก่อนจะเดินสวนร่างสูงใหญ่ตรงหน้าที่ยืนข้างประตูอยู่เข้าไปข้างใน แต่คล้ายเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง.. คิมมินซอกถือวิสาสะเอื้อมมือวางบนไหล่คนตัวสูง
“นายนี่ดูออกง่ายไปเหลือเกินนะ ฮึ!”
“เฮ้ย! กูอยากดื่มว่ะ สักหน่อยกันไหม”
ทันทีที่จบเพลงลู่หานก็วางไมค์ลงฉับแล้วหันหน้ามามองเพื่อนรักที่นั่งนิ่งเงียบมาตั้งแต่เริ่ม ลู่หานถามเจาะจง เขาพูดด้วยแค่กับไอ้คริส เพราะแน่นอน.. เขาไม่มีทางยอมให้อี้ชิงดื่ม ส่วนคิมมินซอกเขาขอผ่าน ไม่พูดถึงหมอนั่นให้อารมณ์เสียละกัน
“ไม่ล่ะ เดี๋ยวต้องขับรถกลับ”
“โห่มึง! นิดหน่อยเองนะเว้ย จิบๆ”
“มึงอยากดื่มมึงก็ดื่มไป แต่กูไม่ดื่ม”
พอได้ยินเพื่อนปฎิเสธหนักแน่น ลู่หานก็ขี้เกียจจะเซ้าซี้ให้มากความ.. ร่างโปร่งเอื้อมหยิบขวดเหล้าราคาแพง ดีกรีสูงที่เขาแอบสั่งกับพนักงานหน้าร้านไว้ขึ้นมาเทใส่แก้วใส แล้วกระดกลงคอไปแบบวันซ็อต
“ไม่ดื่มเยอะนะฮะ เดี๋ยวเมา”
“ค่ะ พี่รู้แล้ว” ยิ้มหวานให้น้องเมื่อเห็นน้องวางมือลงบนท่อนแขน “แต่ชิงห้ามแตะมันเลยเด็ดขาดนะคะ มันเป็นของไม่ดีนะ”
“ก็รู้ว่าเป็นของไม่ดี แต่ก็ยังจะชอบดื่ม” อดไม่ได้ที่จะฝังปลายจมูกลงบนข้างแก้มใสของน้องเมื่อได้ยินเสียงหวานๆเอ่ยออกมาอย่างตำหนิ
“นานๆทีนะ พี่ไม่ได้ดื่มทุกวันสักหน่อย”
“ก็เห็นพูดแบบนี้ทุกที เกิดอะไรขึ้นมานะผมจะไม่มองเลย คอยดู!”
ก็รู้อยู่แล้วว่าน้องแค่พูดขู่เล่นเฉยๆ เพราะครั้งล่าสุดตอนฉลองเรียนจบ ที่เขาออกมาดื่มกับเพื่อนในคณะและเมาหัวราน้ำ คนที่คอยดูแลเขาตลอดทั้งคืนก็คือกระต่ายขาวตัวนี้ ลู่หานยิ้มหวานให้แฟนตัวเล็กก่อนจะเอื้อมมือรั้งเอวเล็กเข้ามาใกล้ๆ
“ชิงไม่มอง แต่ชิงก็ดูแลพี่ตลอดทั้งคืนเลย”
“มันจำเป็นตั้งหากล่ะ” มือน้องฟาดแหมะลงบนหน้าอกพร้อมออกแรงดันน้อยๆ “อย่ามากอดนะ งื้ออ ปล่อยผมเลย คนเยอะแยะนะพี่ลู่หาน”
“ไม่เห็นต้องอายเลย คนรักกันจะแสดงความรักให้กันมันผิดตรงไหน”
“ผิดตรงที่ทำอะไรประเจิดประเจ้อนี่แหละ ปล่อยผมนะ! เหม็นกลิ่นเหล้า!”
“อะไรอ่า กินไปแก้วเดียวเองนะ”
“ไม่รู้แหละ เหม็น! ปล่อยเลยปล่อย”
สงครามย่อมๆเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อหนึ่งคนพยายามจะขืนตัวออกแต่อีกหนึ่งคนดันไม่ยอมที่จะปล่อยมือ.. คล้ายทั้งคู่กำลังจะสร้างโลกส่วนตัวขึ้นมาแล้วกันคนอื่นที่เป็นส่วนเกินให้ออกมายืนอยู่ข้างนอก คริสเบือนหน้าออกมาจากภาพตรงหน้า ร่างสูงล่วงหยิบสมานโฟนในกระเป๋าออกมาหาเพื่อหาอะไรเป็นจุดโฟกัสสายตาใหม่
ก็คอยบอกตัวเองเสมอว่าจงอย่าเผลอลืม.. ว่าจางอี้ชิงกับลู่หานนั้นเป็นแฟนกัน
“ฉันว่าบางทีสองคนนั้นอาจลืมไปแล้วนะว่าที่พากันมาคาราโอเกะนี่เพราะวันเกิดฉัน ไม่ใช้ให้ออกมาเดทแสดงความรักกัน”
“นายก็บอกสองคนนั้นไปสิ อย่ามายุ่งกับฉัน”
“พูดอะไรไม่เคยรักษาน้ำใจคนอื่น นิสัยนายคงเป็นแบบนี้สินะ”
“แล้วแต่นายจะคิดเถอะ แล้วก็.. ขอฉันอยู่เงียบๆได้ไหม”
“ถ้าอยากอยู่เงียบๆ ทำไมไม่นอนอยู่ห้องนายไปล่ะ ตามพวกเราออกมาทำไม..” ไม่รู้ว่าตั้งแต่เหมือนไหร่ที่คิมมินซอกย้ายกายมานั่งข้างเขา “หรือว่า.. เป็นเพราะเด็กคนนั้นกัน”
“พูดบ้าอะไรของนาย!” ยังไม่ทันที่ปลายนิ้วของคนตัวเล็กจะได้จรดลงไปถึงตัวเด็กคนนั้นที่ว่า คนที่ตอนแรกดูเหมือนจะให้ความสนใจแต่สมานโฟนในมือก็ปัดมืออีกคนลงพรึบ พร้อมกับตวัดสายตามองมาอย่างไม่ชอบใจ
“ใจเย็นสิคริส.. เสียงดังไปเกิดสองคนนั้นได้ยินขึ้นมา ฉันไม่รู้ด้วยนะว่าความลับของนายมันจะยังเป็นความลับอยู่ไหม”
คริสมั่นใจว่าเขาเป็นคนใจเย็นมากพอ.. แต่กลับผู้ชายคนนี้มันเป็นอะไรที่ต่างออกไป! ร่างสูงลุกขึ้นยืนพรึบคว้าต้นแขนของใครอีกคนที่นั่งยิ้มหวานอยู่ให้ลุกตามขึ้นมา เปิดประตูห้องคาราโอเกะออกมาและปิดลงเสียงดังอย่างไม่สนใจสายตาสงสัยของใครอีกสองคนในห้อง
จางอี้ชิงเลิกคิ้วมองบานประตูที่ปิดลง.. “พี่คริสกับพี่มินซอกเขาไปไหนกันหรอฮะ”
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน สงสัยจะถูกใจกันล่ะมั้ง” ตอบออกไปอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะก้มลงมองรายชื่อเพลงจากสมุดเพลงที่อยู่ตรงหน้าต่อ ผิดกับคนน้องที่เหมือนจะติดใจกับคำพูดของร่างโปร่ง จางอี้ชิงละสายตาจากบานประตูหันกลับมามองหน้าคนข้างกาย
“ถูกใจ? พี่ลู่หานหมายถึง..”
“สองคนนั้นไง ไอ้คริสกับคิมมินซอกน่ะ” เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้น้องก่อนจะเป็นฝ่ายหันสายตาไปมองทางบานประตูบ้าง “สงสัยไอ้คริสมันจะเจอเนื้อคู่ของมันแล้วมั้ง น่าดีใจกับมันนะ อุตส่าห์เก็บเงียบครองความโสดมาตั้งหลายปีในที่สุดก็ได้เจอคนที่ถูกใจ”
“...”
“ชิงว่าสองคนนี้มันจะไปกันรอดไหม ถ้ามันตกลงคบกันจริงๆ”
“ผมไม่รู้..”
“แต่พี่เชียร์สองคนนี้ให้มันเป็นแฟนกันจริงๆนะ ถึงพี่จะไม่ชอบหน้าคิมมินซอกเท่าไหร่ แต่นิสัยหมอนั่นก็ถือว่าโอเคเลย ถ้าตัดความกวนตีนออกไป”
“...”
“อ่า.. ชิง! มีเพลงนี้ด้วย เพลงที่พี่เคยร้องตอนจีบชิงใหม่ๆ อยากฟังไหม เดี๋ยวพี่ร้องให้ฟังอีกนะ”
“ฮะ” พยักหน้ารับพร้อมกับยิ้มบางๆตอบกลับไปให้ความกระตือรือร้นของแฟนหนุ่ม รอจนเห็นลู่หานละสายตาออกจากใบหน้าตนหันกลับไปมองเนื้อเพลงที่ค่อยขึ้นบนหน้าจอคาราโอเกะ.. แก้วตาใสหันกลับไปมองบานประตูห้องอีกครั้ง และอีกครั้ง..
พี่คริสกับพี่มินซอกหรอ ก็ดีแล้วนี่ที่สองคนนี้จะเป็นแฟนกัน
อี้ชิงก็ออกจะชอบพี่มินซอกจะตายไป แต่ทำไมถึงรู้สึกไม่สบายใจแบบนี้กันนะ?..
“นายต้องการอะไร!”
“ไม่เคยคิดว่านายจะใจร้อนได้มากขนาดนี้นะ เห็นทุกครั้งทุกเรื่องก็ชอบทำท่าทางนิ่งๆเฉยๆ”
“อย่ามากวนประสาทฉัน”
“ฉันก็พูดออกไปตามที่ฉันเห็น ฉันไปกวนประสาทนายยังไง”
“คิมมินซอก!!”
“จำฉันได้แล้วหรือยังไง ถึงมาเรียกชื่อกันแบบนี้น่ะ”
เป็นคิมมินซอกเสียเองที่ทนไม่ไหว.. คนตัวเล็กดันไหล่อีกคนออกให้พ้นทางก่อนจะเดินไปหยุดยืนอยู่บริเวณอ่างล้างมือ สองมือเล็กเปิดน้ำก๊อกล้างมืออย่างอ่อยอิ่ง ขณะที่นัยน์ตาเรียวรีก็จ้องมองใครอีกคนที่เหมือนจะยืนนิ่งไปตั้งแต่ประโยคเมื่อสักครู่ของเขา
“นายพูดเหมือนว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อน แต่ฉันมั่นใจว่าเราเพิ่งจะเคยเจอกันครั้งแรกก็วันนี้”
เจ้าตัวทำเพียงแค่เค้นหัวเราะ เขาคงคาดหวังกับผู้ชายคนนี้มากเกินไปสินะ “ทำไมนายดูมั่นใจเหลือเกินล่ะ ว่าเราไม่เคยเจอกันมาก่อน”
“แล้วทำไมนายถึงดูมั่นใจว่าฉันจะรู้จักนาย”
“เพราะฉันไม่เคยลืมมันเหมือนนายไง”
เหลือบสายตาขึ้นมองใครอีกคนผ่านเงาของกระจกอีกครั้ง เปลี่ยนไป.. เปลี่ยนไปมากจริงๆ เพราะอะไรกันนะ?.. คนตัวเล็กปิดก๊อกลงแล้วหันหลังเดินไปหยิบกระดาษทิชชู่ที่ถูกบรรจุลงกล่องวางไว้ไม่ไกลมือขึ้นมาเช็ด
“นายมันคนผิดสัญญา”
“...”
“แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกเพราะนั่นมันก็คืออดีตที่ผ่านมานานแล้ว” มินซอกเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าร่างสูง มือเล็กเอื้อมโอบประคองใบหน้าหล่อไว้ด้วยสองมือ “แต่ต่อจากนี้ไป.. ฉันกลับมาแล้วคริส”
“...”
“กลับมาทวงในสิ่งที่สมควรเป็นของฉันกลับคืนมา”
“นาย..”
แกร๊ก!
“อ..เอ่อ.. ขอโทษฮะ ผมไม่รู้ว่าพวกพี่กำลัง..”
เป็นคริสเองที่เผลอตัวปัดมือของอีกฝ่ายออกจากใบหน้าของตัวเองเต็มแรง ร่างสูงสะบัดความสงสัยเกี่ยวกับตัวของคิมมินซอกออกไปจนหมด หุนหันหันหลังกลับมาเดินจ้ำเข้ามาหากระต่ายตัวขาวที่ยืนก้มหน้าอยู่ตรงหน้าประตูห้องน้ำ
“มันไม่ใช่อย่างที่ชิงเห็นนะ พี่กับมินซอกเราไม่ได้ทำอะไรกันแบบนั้นนะครับ”
“ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อยนี่ฮะ”
“แต่พี่ไม่อยากให้ชิงเข้าใจผิด” น้องยอมเงยหน้าขึ้นมามองเขาในที่สุด.. กระต่ายน้อยยิ้มกว้างโชว์ฟันเกือบครบ 32 ซี่ให้เขา
“ผมไม่ได้เข้าใจผิดอะไรสักหน่อย แล้วก็อีกอย่างถ้าพี่กับพี่มินซอกจะเป็นแฟนกันจริงๆผมก็จะเชียร์พี่สองคนมากๆเลย”
“จางอี้ชิงอย่าพูดแบบนี้” ...อย่าทำเหมือนจะผลักไสพี่ออกไปให้คนอื่น
“ทำไมล่ะฮะ ผมอยากให้พี่คริสสมหวังนะ”
“...”
“พี่คริสโกรธผมหรอ” ส่ายหน้าเป็นคำตอบก่อนจะยิ้มบางๆให้น้อง เมื่อทันเห็นสีหน้าลำบากใจของกระต่ายตัวขาว
“เปล่าหรอก ว่าแต่ชิงมีอะไรหรือเปล่า? มาเข้าห้องน้ำหรอครับ”
“อ๋อ! เปล่าเหมือนกันฮะ แต่ผมแค่จะมาเรียกพี่คริสไปลากพี่ลู่หานกลับบ้านหน่อย อะไรก็ไม่รู้บอกแล้วว่าอย่าดื่มเหล้าดีกรีแรงๆ คอตัวเองก็ยิ่งอ่อนๆ อยู่ก็ยังจะดื่มเข้าไป เดือดร้อนคนอื่นเขาอีกแล้วเนี่ย”
“...”
“มีอย่างที่ไหน! มาฉลองยังไม่ทันถึงครึ่งชั่วโมงเลยก็พาตัวเองเมาซะแล้ว ไม่ได้เรื่องเลย!”
“ชิง..”
“ฮะ?” ริมฝีปากที่กำลังคลี่บ่นถึงแฟนหนุ่มหยุดชะงักลง กระต่ายตัวขาวเอียงคอเล็กน้อยมองหน้าพี่ชายตัวสูงที่กำลังส่งสายตามาทางเขาอย่างเหนื่อยล้า
“ที่มาหาพี่.. เพราะเรื่องไอ้ลู่หานอย่างเดียวใช่ไหมครับ”
TO BE CONTINUED
ไรท์ไม่ได้มาช้าไปใช่ไหม (ไม่ช้าไปแต่ช้ามากกกกกกกก) ก็ไม่มีอะไรจะแก้ตัว คือ.. นั่นแหละนะ ไปล่ะค่ะ
5555555555555555555555
เจอกันตอนหน้า รักนะคะ จุ้ปๆๆๆ ปย๊งงงงงง
ไม่เม้นต์ วานติดแท็ก #ficfanpuen ไม่แท็กวานกดโหวต
-Kimpla-
◊ SQWEEZ
ความคิดเห็น