ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] Fan-Puen ll Krislay x Lulay

    ลำดับตอนที่ #4 : [03] ll FIC + FAN-PUEN

    • อัปเดตล่าสุด 23 ส.ค. 57


             
               เพียงเวลาไม่นานเกินรอ อาหารมื้อเย็นมากหน้าหลายตาจากฝีมือพ่อครัวตัวสูงก็ถูกทยอยนำมาวางบนโต๊ะหน้าทีวีจนครบท่ามกลางเสียงอึกทึกของบุคคลภายในห้อง อี้ชิงจูงมือคิมมินซอกพี่ชายคนใหม่ที่เพิ่งรู้จักหมาดๆมานั่งลงด้วยกัน มนุษย์อีกคนที่ตอนแรกกะจะนั่งลงข้างกายแฟนตัวเล็กจำต้องขยับลุกออกมายังฝั่งตรงข้ามเมื่อถูกน้องมองบังคับทางสายตา

                “ไหนตอนแรกบอกทำแค่ข้าวผัดง่ายๆไงฮะ ทำไมตอนนี้กับข้าวมันเยอะแยะแบบนี้ล่ะ”

    อี้ชิงร้องเสียงดัง เบิกตาโตไล่มองจานชามอาหารตรงหน้าอย่างหลงไหล.. พ่อครัวตัวสูงยิ้มขำกับท่าทางของกระต่ายน้อยตัวขาวก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างลู่หาน

                “ก็พี่ได้ยินเราบอกว่าเพื่อนลู่หานมันมา พี่ก็เลยอยากโชว์ฝีมือ”

                “อ่อ! ฮ่าๆ ว่าแล้วเชียว พี่คริสชอบโชว์พาววว” เห็นกระต่ายน้อยตัวขาวทำท่าทำทางล้อเลียนก็อดที่จะหมั้นเขี้ยวไม่ได้ มือหนาวางแหมะลงบนศีรษะทุยก่อนจะออกแรงขยี้มันแรงๆ เรียกเสียงกระแง้วกระงอดจากน้องได้เป็นอย่างดี

                “พูดมาก กินไปเลยไป”

                “งื้อออ”

                ส่ายหัวให้น้องเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหันกลับมาสนใจกับข้าวตรงหน้าต่อ คริสกระแอมหัวเราะในลำคอคนเดียว นึกขำเหลือเกินกับนิสัยของกระต่ายตัวขาวตรงหน้า ไม่เห็นใจกันบ้างเลยนะจางอี้ชิง จะทำใจร้ายกับเขาไปถึงไหน เพียงแค่นี้.. เท่าที่เป็นอยู่เขาก็หลงทางจนหาทางออกจากความรู้สึกตัวเองไม่ได้อยู่แล้ว

                “สองคนนี้ดูสนิทกันมากเลยเนอะ เหมือนคริสจะเอ็นดูอี้ชิงมากๆเลย”

                เพราะเป็นน้ำเสียงของคนที่ไม่คุ้นเคย และเนื้อหาความหมายของประโยคที่ได้ยินผ่านหู ทำให้รอยยิ้มจางบนใบหน้าหล่อค่อยๆลบหายออกไป นัยน์ตาคมเงยขึ้นมองเจ้าของประโยค.. นี่สินะคือคิมมินซอก จะว่าไปก็ลืมไปเลยว่าตอนนี้ไม่ได้มีแค่พวกเขาสาม แต่มีใครใหม่เพิ่มเข้ามาอีกคน

                “ผมรู้จักกับพี่คริสมาได้หลายปีแล้ว พี่คริสเป็นคนใจดี ผมเลยสนิทกับเขาฮะ”

                “ถึงว่าล่ะ..”

                “ไม่มีใครสอนมารยาทบนโต๊ะอาหารให้นายหรือไง ว่าเวลาทานข้าวกันอยู่ห้ามคุยกันน่ะ” และแล้วคนที่นั่งเงียบและให้ความสนใจอยู่แต่อาหารตรงหน้าก็หมดความอดทน ลู่หานเงยหน้าขึ้นมองคนมาใหม่พร้อมเอาปลายตะเกียบชี้หน้า

                “ทำไมถึงทำนิสัยไร้มารยาทแบบนี้นะ ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ”

                “ทำไมนายต้องว่าอี้ชิงด้วยล่ะ” ตอบกลับไปพร้อมใบหน้าใสซื่อ แล้วก้มหน้าก้มตาตักข้าวเข้าปากแบบนิ่งเฉย ลู่หานร้องเหอะในลำคอพร้อมมือก็วางตะเกียบลงฉับ

                “ฉันด่านายเถอะ”

                “อ๋อหรอ.. งั้นก็ขอบใจ”

                “นี่นายกำลังกวนตีนฉันอยู่สินะ”

                “ฉันไปกวนตีนนายตรงไหนไม่ทราบ”

                “ก็ไอ้การที่นายลอยหน้าลอยตากวนประสาทฉันอยู่แบบนี้เนี่ยแหละ บ้านฉันเรียกว่ากวนตีนอยู่”

                “แต่บ้านฉันไม่เรียกว่าแบบนั้นนะ”

                “นี่! คิมมินซอก”

                “อาฮะ นั่นชื่อฉัน”

                สงครามเย็นเกิดขึ้นย่อมๆโดยมีเสียงหัวเราะคิกคักในลำคอจากจางอี้ชิง กระต่ายตัวขาวนั่งมองแฟนหนุ่มของตัวเองกับพี่ชายคนใหม่ที่เพิ่งรู้จักเถียงกันไปเถียงกันมาอย่างชอบใจ อี้ชิงเป็นคนแปลกที่ชอบนั่งมองพี่ลู่หานวีนเหวี่ยง ทุกความสนใจเลยถูกเทไปให้สองคนนั้นทั้งหมด เลยไม่ทันได้สังเกตเลย.. ว่ามีใครอีกคนนั่งมองรอยยิ้มสดใสนั่นมาตั้งแต่แรกแล้ว

                “อ่า! จริงสิ วันนี้วันเกิดฉัน!!” เพราะอยู่ดีๆคนที่นั่งเถียงอยู่ด้วยก็เปลี่ยนเรื่องคุย มีหรือที่ลู่หานคนที่คอยจะหาเรื่องขัดคิมมินซอกทุกเรื่องจะยอมปล่อยผ่านไป

    “ใครถามไม่ทราบ”

    “พูดลอยๆ หมาเสือ.กสงสัย”

    “นาย!!

    “วันนี้วันเกิดพี่มินซอกหรอฮะ”

    ถ้าไม่ติดว่าอี้ชิงพูดสวนขึ้นมาก่อน เห็นทีว่าคงจะได้เปิดศึกวางมวยกันอีกรอบ.. ลู่หานฮึดฮัดหันเหสายตากับมาสนใจอาหารตรงหน้าต่อ แต่หูก็ยังคอยฟังบทสนทนาที่ดังแว่วเข้ามาเรื่อยๆ มีบ้างที่จะเสนอหน้าพูดล้อเลียนคิมมินซอกออกไป แต่สิ่งที่ได้กลับมาแทนที่จะเป็นอารมณ์หงุดหงิดของมินซอกแต่กลับกลายเป็นสายตาค้อนขวับของกระต่ายตัวขาว

    แล้วคิดว่าคนอย่างลู่หานจะทำอะไรได้.. ร่างโปร่งลดสายตาลง เก็บปากเก็บคำนั่งฟังบทสนทนาของทั้งคู่เงียบๆ แม้นในใจลึกๆอยากเหลือเกินที่จะเอ่ยขัดคำพูดคิมมินซอก

    “พรุ่งนี้วันศุกร์ อี้ชิงมีเรียนไหม”

    “อื้ม.. พรุ่งนี้หรอฮะ” เพราะนึกเองไม่ออกเลยต้องหันสายตาไปทางพี่ชายตัวสูง เห็นพี่คริสส่ายหน้าก็รีบหันกลับมาตอบคิมมินซอก “ไม่มีฮะ”

    “งั้นไปฉลองวันเกิดพี่ด้วยกันไหม”

    “ไปฮะ” เพราะกลัวว่าพี่ชายคนใหม่จะเปลี่ยนใจ เลยเลือกที่พยักหน้าตอบรับเร็วๆให้ไปด้วย

    “ถามพี่หรือยังคะ มันดึกแล้วนะชิง” แต่ก็เหมือนถูกตัดความหวังด้วยเสียงเรียบนิ่งของลู่หาน อี้ชิงยู่ปากนั่งห่อไหล่ลง... ริมฝีปากอิ่มบ่นแฟนหนุ่มตัวเองตอบไปเบาๆ

    “ก็พรุ่งนี้ผมไม่มีเรียน”

    “แต่มันดึกแล้วพี่เป็นห่วงนะ อีกอย่างไปกับใครที่ไหนก็ไม่รู้ ไว้ใจได้หรือเปล่าก็ไม่รู้” อดไม่ได้ที่จะเอ่ยพาดพิงใครอีกคน.. ยิ่งเห็นคิมมินซอกลอยหน้าลอยตายิ้มหวานใส่ยิ่งอยากจะซัดสักเปรี้ยง

    “เหตุผลพี่ลู่หานฟังไม่ขึ้น!

    “อะไร พี่เป็นห่วงนี่ฟังไม่ขึ้นหรอ”

    “ก็ไปกับพี่มินซอก”

    “ก็นั่นแหละสาเหตุหลักๆที่พี่เป็นห่วงเลย”

    “งื้ออ แต่ผมจะไป!

    “แต่พี่ไม่ให้ไป”

    “ผมจะไป”

    “พี่ไม่ให้ไป”

    “งื้อออ!! ก็จะไปอ่ะ”

    “แต่พี่ไม่ให้ไป”

    พอเห็นน้องทำหน้าทำตาเหมือนจะร้องไห้ลู่หานก็คล้ายกำลังจะใจอ่อน แต่พอสายตาเหลือบไปเห็นหน้าคิมมินซอก.. ไม่ยอม! ยังไงเขาก็ไม่มีทางยอม ทำไมจะมองไม่ออกว่าสายตาหมอนั่นมันกำลังล้อเลียนเขาขนาดไหนน่ะ

    “พี่ลู่หาน..”

    “ไม่ต้องมาทำเสียงอ่อนเลย สนิทกันมากขนาดนั้นแล้วหรือไงถึงได้จะไปงานวันเกิดเขาน่ะ” ให้ตายสิ นี่ครั้งแรกเลยนะที่เขากล้าขัดใจน้องน่ะ

    “ใจร้าย! นิสัยไม่ดี ไอคนไม่มีเหตุผล!!

    สุดท้ายก็โดนกระต่ายน้อยค้อนขวับเข้าให้... อยากเหลือเกินที่จะเดินไปบอกว่าพี่ใจอ่อนตั้งแต่เห็นน้องเรียกเสียงอ่อนแล้ว แต่ติดที่เห็นคิมมินซอกมันนั่งลอยหน้าลอยตาขว้างสายตา(?)อยู่ ลู่หานกำลังจะเอ่ยบางประโยคออกไปให้น้องเข้าใจตัวเอง แต่ดูเหมือนกระต่ายตัวขาวจะได้เจอเป้าหมายใหม่เข้าให้แล้ว

    “พี่คริส..” จางอี้ชิงเงยหน้ามองพี่ชายตัวสูงตาปริบๆ จงใจทำเมินไม่สนใจแฟนหนุ่มอย่างเปิดเผยไม่คิดปิดบัง “ผมอยากไปฉลองวันเกิดกับพี่มินซอก พี่คริสพูดกับพี่ลู่หานให้ผมหน่อยนะฮะ”

    “เออ..”

    “นะฮะ”

    “เจ้าเล่ห์นะชิง เห็นว่าขอพี่ไม่ได้เลยไปขอเพื่อนพี่หรอคะ”

    “พี่คริสฮะ ผมอยากไป..” น้องไม่แม้แต่จะหันกลับมามองสักนิด ลู่หานตบมือลงกับหน้าผากฉาดใหญ่ คลับคล้ายคลับคาว่างานยักษ์กำลังจะเข้าหาเขา

    “พี่ว่ามันก็ดึกไปแล้วจริงๆนะชิง”

    “งื้อออ”

    “แต่ก็นะ.. มึงน่ะถ้าเป็นห่วงนักก็ทำไมไม่ไปกับน้องด้วยล่ะ แทนที่จะมานั่งพะวงหน้าพะวงหลังกันอยู่ แม่.ง ก็ไปด้วยกันให้หมดนี่แหละ”

    “เหี้.ยอะไรของมึงเนี่ย! ตกลงจะเอาไงครับ จะอยู่ข้างน้องหรืออยู่ข้างกู” เพราะเหมือนประโยคแรกมันจะเอนมาทางเข้า แต่ไหงสรุปตอนท้ายกับมาลงเอยแบบนี้วะ

    “มึงก็อย่ามาเวอร์ดิวะ เป็นห่วงอ่ะกูเข้าใจแต่นานๆทีน้องจะได้ออกไปเปิดหูเปิดตา อีกอย่างนะ..” คริสลดกายลงมา ขยับเข้าไปกระซิบข้างหูเพื่อน “มึงก็ถือโอกาสนี่ฉลองวันครบรอบของมึงไปด้วยไง”

    “...”

    “กูคิดหาทางให้แบบนี้ ถ้าจะปล่อยมันไปก็เรื่องของมึงนะ”

    “...”

    “ทำเป็นลืมๆเหมือนน้องมันไป แล้วก็มานั่งนอยด์ให้กูฟังทีหลังว่าสุดท้าย น้องก็จำวันครบรอบสองปีที่คบกับมึงไม่ได้..”

    “เงียบเถอะสัส! โอเคๆ พี่ให้ไปก็ได้แต่ห้ามเกินห้าทุ่ม” ประโยคแรกน่ะพูดกับเพื่อนสนิท ส่วนประโยคหลังน่ะพูดกับกระต่ายตัวขาวที่นั่งจ้องเขาตาปริบๆ

    “เย้!!” เสียงร้องเฮลั่นของกระต่ายตัวขาวดังลั่นไปทั่วห้องเข้ากับเสียงปรบมือชอบใจของน้อง ดีใจมากมายเหลือเกิน.. ราวกับเด็กน้อยได้ของเล่นใหม่

    คริสส่ายหัวให้กับการกระทำของอี้ชิง สั่งตัวเองให้เลิกสนใจน้องเสียทีก่อนที่ตนจะแสดงอาการอะไรออกไปมากว่านี้ นัยน์ตาคมกำลังจะละสายตาออกมาแต่ก็ดันเหลือบไปมองใครอีกคนที่เขายังไม่มีโอกาสได้สนทนาด้วย

    ไม่มีการหลีกหลบ..

    ไม่มีการหันสายตาหนี..

    ไม่มีการเปิดบทสนทนาใดๆ..

    ไม่มีใครยอมเอ่ยคำทักทายออกมาก่อน..

    มีเพียงสายตาสองคู่ที่มองกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร หนึ่งคนหนึ่งความหมายและอีกหนึ่งคนหนึ่งความรู้สึก...



     



     

    “คาราโอเกะ~~~ คาราโอเกะ~~~~

    นั่นคือเสียงร้องของคนที่พูดว่าไม่อยากจะมาในตอนแรก.. ร่างสูงมองตามร่างของเพื่อนสนิทที่จูงมือกระต่ายตัวขาวเข้าไปในห้องอย่างกระตือรือร้น แล้วตอนแรกก็ทำมาเป็นอ้างเหตุผลนู้นนี่นั่นสารพัด มันจะรู้ไหมนะว่าตอนนี้มันแสดงอาการอะไรออกมาบ้าง

    “สองคนนั้นคบกันมานานแล้วหรอ”

    สองขาที่กำลังจะก้าวตามเข้าไปข้างในชะงักลง หันสายตามองคิมมินซอกที่ยืนมองสองคนนั้นเหมือนกับเขาอยู่ข้างกาย นี่เป็นครั้งแรกเลยที่มีโอกาสได้คุยกัน.. คริสเลือกที่จะหยักหน้าให้เป็นคำตอบ

    “นายดูเหมือนเป็นคนที่เข้าถึงยากกว่าที่ฉันคิดนะ”

    “ฉันแค่เลือกจะคุยด้วยกับคนที่สนิทเท่านั้น”

    “เย็นชาเหมือนเดิมเลยสินะ” คล้ายจะพึมพำกับตัวเองเสียมากกว่า.. มินซอกยิ้มกว้างให้อีกคนแทนคำตอบเมื่อเห็นสายตาของคนตัวสูงมองมาอย่างไม่เข้าใจ

     “เมื่อกี้นายพูดอะไรนะ”

    “ไหนบอกว่าเลือกคุยด้วยกับคนที่สนิทเท่านั้นไง ทำไมถึงมาถามคำถามฉันล่ะ”

    “ฉันไม่ใช่ไอ้ลู่หานที่จะมายืนฟังนายกวนประสาทได้”

    “ฉันล้อเล่นหรอกน่า นายนี่นะถ้าไม่ใช่จางอี้ชิงก็ไม่ยอมพูดเล่นด้วยเลยหรือไง”

    “พูดอะไรของนาย” ยักไหล่ให้แทนคำตอบก่อนจะเดินสวนร่างสูงใหญ่ตรงหน้าที่ยืนข้างประตูอยู่เข้าไปข้างใน แต่คล้ายเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง.. คิมมินซอกถือวิสาสะเอื้อมมือวางบนไหล่คนตัวสูง

    “นายนี่ดูออกง่ายไปเหลือเกินนะ ฮึ!


     

    “เฮ้ย! กูอยากดื่มว่ะ สักหน่อยกันไหม”

    ทันทีที่จบเพลงลู่หานก็วางไมค์ลงฉับแล้วหันหน้ามามองเพื่อนรักที่นั่งนิ่งเงียบมาตั้งแต่เริ่ม ลู่หานถามเจาะจง เขาพูดด้วยแค่กับไอ้คริส เพราะแน่นอน.. เขาไม่มีทางยอมให้อี้ชิงดื่ม ส่วนคิมมินซอกเขาขอผ่าน ไม่พูดถึงหมอนั่นให้อารมณ์เสียละกัน

    “ไม่ล่ะ เดี๋ยวต้องขับรถกลับ”

    “โห่มึง! นิดหน่อยเองนะเว้ย จิบๆ”

    “มึงอยากดื่มมึงก็ดื่มไป แต่กูไม่ดื่ม”

    พอได้ยินเพื่อนปฎิเสธหนักแน่น ลู่หานก็ขี้เกียจจะเซ้าซี้ให้มากความ.. ร่างโปร่งเอื้อมหยิบขวดเหล้าราคาแพง ดีกรีสูงที่เขาแอบสั่งกับพนักงานหน้าร้านไว้ขึ้นมาเทใส่แก้วใส แล้วกระดกลงคอไปแบบวันซ็อต

    “ไม่ดื่มเยอะนะฮะ เดี๋ยวเมา”

    “ค่ะ พี่รู้แล้ว” ยิ้มหวานให้น้องเมื่อเห็นน้องวางมือลงบนท่อนแขน “แต่ชิงห้ามแตะมันเลยเด็ดขาดนะคะ มันเป็นของไม่ดีนะ”

    “ก็รู้ว่าเป็นของไม่ดี แต่ก็ยังจะชอบดื่ม” อดไม่ได้ที่จะฝังปลายจมูกลงบนข้างแก้มใสของน้องเมื่อได้ยินเสียงหวานๆเอ่ยออกมาอย่างตำหนิ

    “นานๆทีนะ พี่ไม่ได้ดื่มทุกวันสักหน่อย”

    “ก็เห็นพูดแบบนี้ทุกที เกิดอะไรขึ้นมานะผมจะไม่มองเลย คอยดู!

    ก็รู้อยู่แล้วว่าน้องแค่พูดขู่เล่นเฉยๆ เพราะครั้งล่าสุดตอนฉลองเรียนจบ ที่เขาออกมาดื่มกับเพื่อนในคณะและเมาหัวราน้ำ คนที่คอยดูแลเขาตลอดทั้งคืนก็คือกระต่ายขาวตัวนี้ ลู่หานยิ้มหวานให้แฟนตัวเล็กก่อนจะเอื้อมมือรั้งเอวเล็กเข้ามาใกล้ๆ

                “ชิงไม่มอง แต่ชิงก็ดูแลพี่ตลอดทั้งคืนเลย”

                “มันจำเป็นตั้งหากล่ะ” มือน้องฟาดแหมะลงบนหน้าอกพร้อมออกแรงดันน้อยๆ “อย่ามากอดนะ งื้ออ ปล่อยผมเลย คนเยอะแยะนะพี่ลู่หาน”

                “ไม่เห็นต้องอายเลย คนรักกันจะแสดงความรักให้กันมันผิดตรงไหน”

                “ผิดตรงที่ทำอะไรประเจิดประเจ้อนี่แหละ ปล่อยผมนะ! เหม็นกลิ่นเหล้า!

                “อะไรอ่า กินไปแก้วเดียวเองนะ”

                “ไม่รู้แหละ เหม็น! ปล่อยเลยปล่อย”

    สงครามย่อมๆเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อหนึ่งคนพยายามจะขืนตัวออกแต่อีกหนึ่งคนดันไม่ยอมที่จะปล่อยมือ.. คล้ายทั้งคู่กำลังจะสร้างโลกส่วนตัวขึ้นมาแล้วกันคนอื่นที่เป็นส่วนเกินให้ออกมายืนอยู่ข้างนอก คริสเบือนหน้าออกมาจากภาพตรงหน้า ร่างสูงล่วงหยิบสมานโฟนในกระเป๋าออกมาหาเพื่อหาอะไรเป็นจุดโฟกัสสายตาใหม่

    ก็คอยบอกตัวเองเสมอว่าจงอย่าเผลอลืม.. ว่าจางอี้ชิงกับลู่หานนั้นเป็นแฟนกัน

    “ฉันว่าบางทีสองคนนั้นอาจลืมไปแล้วนะว่าที่พากันมาคาราโอเกะนี่เพราะวันเกิดฉัน ไม่ใช้ให้ออกมาเดทแสดงความรักกัน”

    “นายก็บอกสองคนนั้นไปสิ อย่ามายุ่งกับฉัน”

    “พูดอะไรไม่เคยรักษาน้ำใจคนอื่น นิสัยนายคงเป็นแบบนี้สินะ”

    “แล้วแต่นายจะคิดเถอะ แล้วก็.. ขอฉันอยู่เงียบๆได้ไหม”

    “ถ้าอยากอยู่เงียบๆ ทำไมไม่นอนอยู่ห้องนายไปล่ะ ตามพวกเราออกมาทำไม..” ไม่รู้ว่าตั้งแต่เหมือนไหร่ที่คิมมินซอกย้ายกายมานั่งข้างเขา “หรือว่า.. เป็นเพราะเด็กคนนั้นกัน”

    “พูดบ้าอะไรของนาย!” ยังไม่ทันที่ปลายนิ้วของคนตัวเล็กจะได้จรดลงไปถึงตัวเด็กคนนั้นที่ว่า คนที่ตอนแรกดูเหมือนจะให้ความสนใจแต่สมานโฟนในมือก็ปัดมืออีกคนลงพรึบ พร้อมกับตวัดสายตามองมาอย่างไม่ชอบใจ

     “ใจเย็นสิคริส.. เสียงดังไปเกิดสองคนนั้นได้ยินขึ้นมา ฉันไม่รู้ด้วยนะว่าความลับของนายมันจะยังเป็นความลับอยู่ไหม”

    คริสมั่นใจว่าเขาเป็นคนใจเย็นมากพอ.. แต่กลับผู้ชายคนนี้มันเป็นอะไรที่ต่างออกไป! ร่างสูงลุกขึ้นยืนพรึบคว้าต้นแขนของใครอีกคนที่นั่งยิ้มหวานอยู่ให้ลุกตามขึ้นมา เปิดประตูห้องคาราโอเกะออกมาและปิดลงเสียงดังอย่างไม่สนใจสายตาสงสัยของใครอีกสองคนในห้อง

    จางอี้ชิงเลิกคิ้วมองบานประตูที่ปิดลง.. “พี่คริสกับพี่มินซอกเขาไปไหนกันหรอฮะ”

    “พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน สงสัยจะถูกใจกันล่ะมั้ง” ตอบออกไปอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะก้มลงมองรายชื่อเพลงจากสมุดเพลงที่อยู่ตรงหน้าต่อ ผิดกับคนน้องที่เหมือนจะติดใจกับคำพูดของร่างโปร่ง จางอี้ชิงละสายตาจากบานประตูหันกลับมามองหน้าคนข้างกาย

    “ถูกใจ? พี่ลู่หานหมายถึง..”

    “สองคนนั้นไง ไอ้คริสกับคิมมินซอกน่ะ” เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้น้องก่อนจะเป็นฝ่ายหันสายตาไปมองทางบานประตูบ้าง “สงสัยไอ้คริสมันจะเจอเนื้อคู่ของมันแล้วมั้ง น่าดีใจกับมันนะ อุตส่าห์เก็บเงียบครองความโสดมาตั้งหลายปีในที่สุดก็ได้เจอคนที่ถูกใจ”

    “...”

    “ชิงว่าสองคนนี้มันจะไปกันรอดไหม ถ้ามันตกลงคบกันจริงๆ”

    “ผมไม่รู้..”

    “แต่พี่เชียร์สองคนนี้ให้มันเป็นแฟนกันจริงๆนะ ถึงพี่จะไม่ชอบหน้าคิมมินซอกเท่าไหร่ แต่นิสัยหมอนั่นก็ถือว่าโอเคเลย ถ้าตัดความกวนตีนออกไป”

    “...”

    “อ่า.. ชิง! มีเพลงนี้ด้วย เพลงที่พี่เคยร้องตอนจีบชิงใหม่ๆ อยากฟังไหม เดี๋ยวพี่ร้องให้ฟังอีกนะ”

    “ฮะ” พยักหน้ารับพร้อมกับยิ้มบางๆตอบกลับไปให้ความกระตือรือร้นของแฟนหนุ่ม รอจนเห็นลู่หานละสายตาออกจากใบหน้าตนหันกลับไปมองเนื้อเพลงที่ค่อยขึ้นบนหน้าจอคาราโอเกะ.. แก้วตาใสหันกลับไปมองบานประตูห้องอีกครั้ง และอีกครั้ง..

    พี่คริสกับพี่มินซอกหรอ ก็ดีแล้วนี่ที่สองคนนี้จะเป็นแฟนกัน

    อี้ชิงก็ออกจะชอบพี่มินซอกจะตายไป แต่ทำไมถึงรู้สึกไม่สบายใจแบบนี้กันนะ?..



     

     

     


     

    “นายต้องการอะไร!

    “ไม่เคยคิดว่านายจะใจร้อนได้มากขนาดนี้นะ เห็นทุกครั้งทุกเรื่องก็ชอบทำท่าทางนิ่งๆเฉยๆ”

    “อย่ามากวนประสาทฉัน”

    “ฉันก็พูดออกไปตามที่ฉันเห็น ฉันไปกวนประสาทนายยังไง”

    “คิมมินซอก!!

    “จำฉันได้แล้วหรือยังไง ถึงมาเรียกชื่อกันแบบนี้น่ะ”

    เป็นคิมมินซอกเสียเองที่ทนไม่ไหว.. คนตัวเล็กดันไหล่อีกคนออกให้พ้นทางก่อนจะเดินไปหยุดยืนอยู่บริเวณอ่างล้างมือ สองมือเล็กเปิดน้ำก๊อกล้างมืออย่างอ่อยอิ่ง ขณะที่นัยน์ตาเรียวรีก็จ้องมองใครอีกคนที่เหมือนจะยืนนิ่งไปตั้งแต่ประโยคเมื่อสักครู่ของเขา

    “นายพูดเหมือนว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อน แต่ฉันมั่นใจว่าเราเพิ่งจะเคยเจอกันครั้งแรกก็วันนี้”

    เจ้าตัวทำเพียงแค่เค้นหัวเราะ เขาคงคาดหวังกับผู้ชายคนนี้มากเกินไปสินะ “ทำไมนายดูมั่นใจเหลือเกินล่ะ ว่าเราไม่เคยเจอกันมาก่อน”

    “แล้วทำไมนายถึงดูมั่นใจว่าฉันจะรู้จักนาย”

    “เพราะฉันไม่เคยลืมมันเหมือนนายไง”

    เหลือบสายตาขึ้นมองใครอีกคนผ่านเงาของกระจกอีกครั้ง เปลี่ยนไป.. เปลี่ยนไปมากจริงๆ เพราะอะไรกันนะ?.. คนตัวเล็กปิดก๊อกลงแล้วหันหลังเดินไปหยิบกระดาษทิชชู่ที่ถูกบรรจุลงกล่องวางไว้ไม่ไกลมือขึ้นมาเช็ด

    “นายมันคนผิดสัญญา”

    “...”

    “แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกเพราะนั่นมันก็คืออดีตที่ผ่านมานานแล้ว” มินซอกเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าร่างสูง มือเล็กเอื้อมโอบประคองใบหน้าหล่อไว้ด้วยสองมือ “แต่ต่อจากนี้ไป.. ฉันกลับมาแล้วคริส”

    “...”

    “กลับมาทวงในสิ่งที่สมควรเป็นของฉันกลับคืนมา”

    “นาย..”

     

    แกร๊ก!

     

    “อ..เอ่อ.. ขอโทษฮะ ผมไม่รู้ว่าพวกพี่กำลัง..”

    เป็นคริสเองที่เผลอตัวปัดมือของอีกฝ่ายออกจากใบหน้าของตัวเองเต็มแรง ร่างสูงสะบัดความสงสัยเกี่ยวกับตัวของคิมมินซอกออกไปจนหมด หุนหันหันหลังกลับมาเดินจ้ำเข้ามาหากระต่ายตัวขาวที่ยืนก้มหน้าอยู่ตรงหน้าประตูห้องน้ำ

    “มันไม่ใช่อย่างที่ชิงเห็นนะ พี่กับมินซอกเราไม่ได้ทำอะไรกันแบบนั้นนะครับ”

    “ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อยนี่ฮะ” 

    “แต่พี่ไม่อยากให้ชิงเข้าใจผิด” น้องยอมเงยหน้าขึ้นมามองเขาในที่สุด.. กระต่ายน้อยยิ้มกว้างโชว์ฟันเกือบครบ 32 ซี่ให้เขา

    “ผมไม่ได้เข้าใจผิดอะไรสักหน่อย แล้วก็อีกอย่างถ้าพี่กับพี่มินซอกจะเป็นแฟนกันจริงๆผมก็จะเชียร์พี่สองคนมากๆเลย”

    “จางอี้ชิงอย่าพูดแบบนี้” ...อย่าทำเหมือนจะผลักไสพี่ออกไปให้คนอื่น

                “ทำไมล่ะฮะ ผมอยากให้พี่คริสสมหวังนะ”

                “...”

                “พี่คริสโกรธผมหรอ” ส่ายหน้าเป็นคำตอบก่อนจะยิ้มบางๆให้น้อง เมื่อทันเห็นสีหน้าลำบากใจของกระต่ายตัวขาว

                “เปล่าหรอก ว่าแต่ชิงมีอะไรหรือเปล่า? มาเข้าห้องน้ำหรอครับ”

                “อ๋อ! เปล่าเหมือนกันฮะ แต่ผมแค่จะมาเรียกพี่คริสไปลากพี่ลู่หานกลับบ้านหน่อย อะไรก็ไม่รู้บอกแล้วว่าอย่าดื่มเหล้าดีกรีแรงๆ คอตัวเองก็ยิ่งอ่อนๆ อยู่ก็ยังจะดื่มเข้าไป เดือดร้อนคนอื่นเขาอีกแล้วเนี่ย”

                “...”

                “มีอย่างที่ไหน! มาฉลองยังไม่ทันถึงครึ่งชั่วโมงเลยก็พาตัวเองเมาซะแล้ว ไม่ได้เรื่องเลย!

                “ชิง..”

                “ฮะ?” ริมฝีปากที่กำลังคลี่บ่นถึงแฟนหนุ่มหยุดชะงักลง กระต่ายตัวขาวเอียงคอเล็กน้อยมองหน้าพี่ชายตัวสูงที่กำลังส่งสายตามาทางเขาอย่างเหนื่อยล้า

     “ที่มาหาพี่.. เพราะเรื่องไอ้ลู่หานอย่างเดียวใช่ไหมครับ”























     






     





    TO BE CONTINUED

    ไรท์ไม่ได้มาช้าไปใช่ไหม (ไม่ช้าไปแต่ช้ามากกกกกกกก) ก็ไม่มีอะไรจะแก้ตัว คือ.. นั่นแหละนะ ไปล่ะค่ะ 
    5555555555555555555555

    เจอกันตอนหน้า รักนะคะ จุ้ปๆๆๆ ปย๊งงงงงง




    ไม่เม้นต์ วานติดแท็ก
    #ficfanpuen ไม่แท็กวานกดโหวต
    -Kimpla-

     

    SQWEEZ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×