ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] Fan-Puen ll Krislay x Lulay

    ลำดับตอนที่ #3 : [02] ll FIC + FAN-PUEN

    • อัปเดตล่าสุด 9 ส.ค. 57



                “โอ๊ย! แม่.งเอ้ย! จะมาเรียกอะไรกันเวลานี้ครับ!! คนต้องทำมาหากิน หาเงิน ไม่ได้มีเวลาว่างมากมายนะครับท่าน!!

                เสียงทุ้มที่ดังออกมาจากริมฝีปากได้รูปของหนุ่มหน้าหวานที่กำลังเดินก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์ไม่สนใจโลกอยู่... ลู่หานขมวดคิ้วมุ่นหลังจากที่ได้อ่านข้อความในโปรแกรมแชทยอดฮิตอย่างไลน์ที่เพื่อนร่วมคลาสเพิ่งส่งตรงมาให้เขาว่าอาจารย์เรียกพบเนื่องจากชิ้นงานบางส่วนมีปัญหา คืออยากจะบ้าตาย!  งานมันส่งไปตั้งเกือบสองอาทิตย์แล้วป่ะ ทำไมถึงเพิ่งเรียกคืนตีกลับให้เอาไปให้แก้กัน

                แล้วก็อีกอย่างนะ.. คือว่าทำไมต้องเป็นวันนี้ วันสำคัญของเขากับอี้ชิง ถ้าสมมติน้องนึกขึ้นได้ขึ้นมา แล้วเป็นตัวเขาเองที่ติดธุระมันจะไม่ยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิมหรอ จากที่เป็นฝ่ายโกรธน้อง(เงียบๆ)จะต้องเป็นฝ่ายโดนน้องโกรธเสียเอง... คิดแล้วก็พาลหงุดหงิดขึ้นมาอีกรอบ ลู่หานฟาดงวงฟาดงา ค้อนสายตาใส่คนที่ไม่รู้อิโนอิเน่ที่เดินสวนไปมา จนคนไม่รู้เรื่องได้แต่งงกันไปทีละคนสองคน ว่าตนไปทำอะไรขัดหูขัดตาหรือสร้างความไม่พอใจให้กับหนุ่มฮอตหน้าหวานคนนี้กัน

                “โอ๊ย เซ็ง!!!!” ตกใจกันเป็นแทบๆสำหรับคนแถวนั้น ที่อยู่ๆคนที่เดินอยู่ดีๆก็หยุดเดินลงแล้วยกมือขยี้ผมตัวเองจนยุ่ง

                ลู่หานพ่นลมหายใจออกมาก่อนจะหลับตาเรียกสติของตัวเอง วันนี้มันเป็นวันอะไรกันทำไมมีแต่เรื่องที่ทำให้เขาไม่สบอารมณ์ สองขาทำท่าจะก้าวเดินต่อแต่ติดที่สายตาดันเหลือบไปเห็นร่างคนคุ้นตาที่นั่งสูบบุหรี่อยู่ตรงแพรธารน้ำของมหาลัย นั่นมันไอคริสนี่... เมื่อก่อนเขาจะออกมามันยังนอนทำตัวขี้เกียจอยู่ที่บ้านเลย แล้วทำไมตอนนี้มันกลับเสนอหน้าตัวเองมานั่งอยู่ที่นี่ได้กัน

                “ไอ้ค.. หื้ม! ชิง?”

                ริมฝีปากที่กำลังจะเอื่อนเอ่ยเรียกชื่อเพื่อนกับถูกแทนที่ด้วยหัวคิ้วสวยที่ขมวดเข้าหากัน เขาจำได้ดีแม้จะเห็นจากที่ไกลๆ ว่าคนที่วิ่งเข้ามาเกาะไหล่ไอคริสแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ หัวเราะคิกคักนั่นเป็นใคร... ทำไมถึงมาอยู่ด้วยกันได้??

                ไม่รอให้ความสงสัยค้างคาลู่หานพาร่างตัวเองเดินตรงออกมาทันที เป้าหมายจากที่จะไปทางซ้ายเพื่อไปห้องอาจารย์ที่ปรึกษาถูกเปลี่ยนเป็นทางขวามือที่เป็นที่ตั้งของแพรธารน้ำของมหาวิทยาลัย ใบหน้าคมปนหวานที่เคยเรียบเฉยคล้ายจะมีรอยยิ้มขึ้นมาแต่ก็เพียงแค่ขยับมุมปากได้รูป สองขาหยุดเดินลงกะทันหันยามเมื่อเผลอสบตาเข้ากับอะไรบางอย่าง

                ความไม่เข้าใจฉายชัดในหัวสมองก่อนที่จะถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกไม่พอใจนิดๆ ที่เจ้าตัวเองก็ไม่ทราบสาเหตุ... นิ่งมองเพื่อนสนิทกับคนรักค่อยๆเดินหายออกไปจากระยะสายตาเขาเรื่อยๆ อย่างช้าๆ

    เมื่อกี้นี่บางทีเขาคงรู้สึกไปเองคนเดียว...

     

    “ลู่หาน?”

    ...

     

    ความรู้สึกที่เหมือนว่าไอคริสจะหันมาสบตากับเขา..

     

    “ลู่หาน”

    ...

     

    เขาคงคิดไปเองนั่นแหละ เพราะถ้ามันเห็นมันจะรีบหันกลับไปทำไม

    แล้วไหนจะรีบพาอี้ชิงออกไปอีก..

     

    “ไอ้กวางเตี้ย!!!!!!!

    “เชี่ยเอ้ย!

     
     

    .

     

    .


     

                “พี่คริสไม่ทานหรอฮะ เค้กร้านเนี่ยเขาลือกันว่าอร่อยมากๆเลยนะฮะ”

                “พี่ไม่ค่อยชอบของหวานน่ะ ชิงทานเถอะครับ”

                ทวนคำกับตัวเองว่าพี่ชายตัวสูงไม่ชอบทานขนมหวาน ก่อนจะพยักหน้าหงึกหงักกับตัวเองแล้วก้มหน้าลงสนใจขนมเค้กหน้าตาน่ารักตรงหน้าต่อ ในเมื่อพี่คริสบอกว่าไม่ชอบอี้ชิงก็ไม่ได้เซ้าซี้ คนตัวเล็กหันเหความสนใจของตัวเองทั้งหมดให้กับจานขนมเค้กน่ากินตรงหน้า รสชาติมันอร่อยจนอี้ชิงไม่สามารถบรรยายออกมาได้เป็นคำพูด เขาได้ยินชื่อเสียงของร้านนี้มานานแล้วแต่เพราะราคาต่อจานมันค่อนข้างสูงบวกกับอี้ชิงไม่มีเพื่อนมาทานด้วย จะชวนจงอินมารายนั้นก็ไม่ชอบของหวานเหมือนกันเลยทำให้อี้ชิงไม่มีโอกาสได้มาลองสักที

                แต่วันนี้ในที่สุดอี้ชิงก็ได้มาลองทาน! เขาแค่บ่นกับพี่คริสเล่นๆว่าอยากมาทานร้านนี้ พี่ชายตัวสูงก็พูดตกลงเสียอย่างง่ายดาย ไม่มีทักท้วง ถึงแม้ราคามันจะมากเกินไปสำหรับเค้กธรรมดาก็เถอะนะ แล้วทุกคนคิดว่าเด็กดีอย่างจางอี้ชิงจะกล้าปฏิเสธหรือเปล่าล่ะ ในเมื่อพี่คริสอุตส่าห์อาสาพาเขามาลองชิมทั้งที

                “ทานยังไงให้เลอะเทอะน่ะเรา”

                “อ๊ะ! ขอบคุณฮะ แฮร่ๆ” เงยหน้าขึ้นมาเพื่อให้พี่ชายตัวสูงแตะทิชชู่ลงซับคราบเค้กมุมปากให้ ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างให้เห็นฝันเกือบ 32 ซี่แทนคำขอบคุณ

                “ชอบมาเลยหรอของหวานน่ะ ทานมากระวังอ้วนนะ”

    มือเล็กที่กำลังจะตักเค้กชิ้นใหม่เข้าปากชะงักกึก ช้อนสายตาเคืองๆมองหน้าคนพูด “ไม่อ้วนสักหน่อย ผมทานแล้วออกกำลังกายหรอก”

                “ออกกำลังกาย?” ทวนคำให้กระต่ายน้อยฟัง ก่อนจะขำพรืดออกมาเมื่อเห็นอี้ชิงพยักหน้ารับรัว “พี่ว่าเราก็อยู่ด้วยกันเกือบตลอด 24 ชั่วโมงนะ บ้านก็พีกอยู่ด้วยกัน ไปไหนมาไหนส่วนมากพี่ก็พาเราไป ทำไมพี่ถึงยังไม่เคยเห็นเราออกกำลังกายเลย ไปออกตอนไหนมาครับ ตอนนอนหลับไง”

                “พี่คริสอ่ะ! ผมน่ะออกอยู่ทุกวันแหละแต่พี่ไม่เห็นเองมากกว่า” ทำลอยหน้าลอยตาใส่พี่ชายตัวสูง ก่อนจะตักเค้กคำโตเข้าปากแล้วเคี้ยวอวดอีกคน “พี่ไม่เคยได้ยินหรอฮะ แค่ขยับก็เท่ากับออกกำลังกาย วันๆหนึ่งถ้าผมว่างก็จะนั่งวาดรูปเล่น วาดรูปเล่นก็ต้องขยับมือ ขยับมือก็เท่ากับการขยับ การขยับก็เท่ากับออกกำลังกาย ผมก็ออกกำลังกายอยู่ไงฮะ”

                “อ่อ..” คริสถึงกับไปไม่เป็นเมื่อได้ฟังว่ากระต่ายตัวขาวของเขาเอาเวลาตอนไหนไปออกกำลังกาย ร่างสูงส่ายหัวให้กับความคิดของอีกคน อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปขยี้กลุ่มผมหยักโศกสีน้ำตาลเข้ม

                “งื้อ!! ผมผมยุ่งหมดแล้ว พี่คริสอ่ะ”

                “นี่ไงๆ พี่กำลังชวนอี้ชิงออกกำลังกาย แค่ขยับเท่ากับออกกำลังกายไง เราเพิ่งทานเค้กไปก็ต้องออกกำลังกายย่อยกันสักหน่อยไงครับ”

                “ไม่ใช่แบบนี้สักหน่อย! งื้ออออ นี่พี่กำลังแกล้งผมอยู่ต่างหากล่ะ พี่คริสสส”

                ฝ่ามือเล็กปัดมือพี่ชายตัวสูงออก.. ทีแรกคริสก็กะว่าจะแกล้งน้องต่ออีกหน่อย แต่เหมือนเพิ่งจะนึกได้ว่าทั้งเขาและน้องไม่ได้อยู่กันตามลำพัง ร่างสูงกระแอมไอในลำคอก่อนตาคมจะกวาดมองบรรยากาศรอบกาย ความไม่พอใจเกิดขึ้นมากะทันหัน คริสพาตัวเองลุกขึ้นยืน ที่ประจำตัวจากที่นั่งตรงข้ามอี้ชิงถูกเปลี่ยนเป็นข้างกายคนตัวเล็ก เห็นน้องเงยหน้าขึ้นมามองอย่างไม่เข้าใจก็ได้แต่ยิ้มบางให้

                “มีอะไรหรือเปล่าฮะ”

                ส่ายหน้าเป็นคำตอบก่อนจะเบนความสนใจไปให้กับไอ้ทรงผมฟูฟองของกระต่ายขาว ไม่รอช้าให้เสียเวลา มือแกร่งจัดแจงจับสองมือเล็กที่เก้ๆกังๆอยู่กับทรงผมของตัวเองให้ทิ้งลงข้างกาย เขาสวมมือเขากับเส้นผมน้องก่อนจะค่อยๆสางให้อย่างเบามือ

                “พี่เป็นคนทำผมเรายุ่ง ก็ให้พี่แก้มันให้เรานะ”

                “อ๋อ! ขอบคุณฮะ”

                อดไม่ได้ที่จะละมือข้างหนึ่งลงไปบีบจมูกรั้นของคนเป็นน้อง ที่เงยหน้าพร้อมฉีกยิ้มกว้างเกือบเห็นฝันครบ 32 ซี่ มาให้เขา.. ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีกหลังจากนั้น อี้ชิงนั่งนิ่งให้คริสจัดทรงผมให้ ส่วนคริสก็จัดทรงผมให้น้องไปเงียบๆ แต่จะมีบ้างบางจังหวะที่นัยน์ตาคมจะกวาดสายตามองไปรอบๆร้าน

                ลูกค้าหลายโต๊ะที่มองกระต่ายน้องของเขาอยู่เริ่มที่จะถอนสายตากลับไปบางแล้ว แต่ก็ยังคงมีอยู่บางโต๊ะที่ยังมองมาเรื่อยๆ แม้จะมีร่างของเขาที่นั่งเฝ้าน้องอยู่ไม่ห่างกาย

                “พี่คริส..

                “ครับ?” ก้มหน้ามองคนตัวเล็กที่อยู่ๆก็เรียกเขาเสียงค่อย ทั้งที่เมื่อครู่ยังดูอารมณ์ดีอยู่แท้ๆ แต่ตอนนี้กลับทำท่าทางคล้ายกระต่ายป่วยเสียนั่น

                “พี่ลู่หานไม่ยอมตอบไลน์ผม เขาอ่านแล้วแต่ไม่ตอบผมอ่ะพี่คริส”

                คริสลดมือที่จัดทรงผมให้น้องลง สองขาพาร่างตัวเองกลับมานั่งลงที่นั่งเดิมฝั่งตรงข้ามอี้ชิงโดยอัตโนมัติ นัยน์ตาคมที่ติดจะดุดันดูน่ากลัวลอบมองเสี้ยวหน้าของกระต่ายขาวที่เริ่มมีริ้วรอยของความกังวลใจ ความสุขของเขาคงกำลังจะหมดลงแล้วสินะ...

                 “ลู่หานมันยุ่งอยู่หรือเปล่าครับ เดี๋ยวมันคงตอบมาแหละ ใจเย็นนะ”

                “แต่พี่ลู่หานอ่านข้อความแล้วนะฮะ เขาอ่านแล้วก็แสดงว่าไม่ได้ยุ่งอะไรมากมาย แต่ทำไมถึงไม่ยอมตอบกันล่ะ” ยิ่งเห็นน้องร้อนใจคริสก็ยิ่งร้อนรน ร้อนรนที่ว่า.. ทำไมคนๆนั้นถึงไม่เป็นเขา

                “ชิง..

                “พี่ลู่หานต้องงอนอะไรผมแน่ๆเลย งื้ออ.. ต้องเป็นเรื่องเมื่อกลางวันแน่เลยที่ผมไล่พี่เขาออกมา พี่คริสฮะ ผมจะทำยังไงดีอ่า พี่ลู่หานงอนผมอ่ะ”

                “...

                “แล้วนี้ไลน์ไปก็ไม่ยอมตอบ โทรไปหาก็ไม่ยอมรับ แล้วผมจะง้อเขายังไง พี่คริสเรากลับกันเลยได้ไหมฮะ ผมอยากเจอพี่ลู่หาน เขา เขา..

                “...

                “งื้อออ ไอ้พี่ลู่หานบ้า ไอ้กวางติ๊งต๊อง ไอ้กวางขี้งอน”

                กระต่ายตัวขาวฟุบหน้าลงไปกับพื้นโต๊ะแล้วแต่คริสก็ยังละสายตาจากน้องไปไหนไม่ได้ อยากจะแกล้งลืมไป อยากจะแกล้งมองไม่เห็น แต่ทุกการกระทำของอี้ชิงก็แน่นชัดให้เขาตระหนักถึงหนักความเป็นจริง..

                “อี้ชิง”

                “ฮะ?” ยิ้มให้กับน้องที่ตะแคงหน้าหันมาสบตาเขา ลูกตากลมๆโผล่พ้นแขนเล็กทั้งสองข้างออกมา

                “วันนี้วันที่เท่าไหร่ชิงจำได้ไหมครับ”

                น้องทำหน้านึกก่อนจะพยักหน้าตอบออกมาเสียงแผ่ว “25  พฤษภาฮะ”

                “ครับ มันเป็นวันที่ 25 พฤษภา แล้วชิงจำได้ไหมว่ามันเป็นวันอะไร”

                คราวนี้น้องส่ายหน้าไปมา คริสยิ้มให้กับคนตัวเล็กก่อนสองขาจะหยันตัวขึ้นยืนเต็มความสูง กระต่ายน้อยที่มองการกระทำพี่ชายตัวสูงอยู่ตลอดเห็นแบบนั้นก็เลยลุกขึ้นยืนบ้าง นัยน์ตาเต็มไปด้วยความสงสัยว่าทำไมอยู่ๆคริสถึงลุกยืนพรวดพราดแบบนี้

                “พี่จะไม่บอกชิงเพราะมันเป็นสิ่งที่ชิงต้องจำเอง ระยะเวลาจากร้านถึงบ้านพี่หวังว่าชิงจะนึกมันออกนะครับ”

                “ฮะ?”

                “เชื่อพี่นะถ้าชิงนึกมันออก ไอ้คนที่ชิงงอแงว่ามันงอนชิงอยู่ตอนเนี้ย รับรองเถอะว่ามันจะรีบซิ่งรถจากมหาลัยมาหาชิงภายในเวลาไม่ถึง 5 นาที”

                “...

                “ไปขึ้นรถได้แล้ว เร็ว!

                วางเงินจำนวนหนึ่งไว้บนโต๊ะก่อนจะถือวิสาสะจูงมือน้องให้เดินออกไปที่ร้านจอดรถหน้าร้านด้วยกัน ความถูกต้องยังไงก็ต้องเป็นความถูกต้อง ถึงแม้เขาจะต้องรู้สึกเจ็บปวดแต่ถ้ามันต้องแลกกับรอยยิ้มของคนที่เขารักเขาก็ยอม

                ขอแค่อี้ชิงยังอยู่ตรงนี้..

                ขอแค่อี้ชิงยังอยู่ให้เขาดูแล..

                ขอเพียงแค่นี้ แค่นี้จริงๆที่เขาต้องการ...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    70%

     



     

                “นายก็เอาชิ้นงานไปแก้ให้เรียบร้อยละกัน ส่วนรูปเล่มเดี๋ยวฉันจัดการเอง”

                “เออๆ ถ้าเล่มมีปัญหาอะไรก็โทรหากูได้ตลอดนะ 24 ชั่วโมงเลย”

                ลู่หานพยักหน้ารับพร้อมรับชิ้นงานคะแนนสำคัญที่กลุ่มเขาส่งไปหลายอาทิตย์แล้วแต่เพิ่งถูกตีกลับมาแก้จากมือคิมมินซอกมา พลางเหลือบสายตามองสมานโฟนเครื่องหรูที่สั่นแล้วสั่นอีกข้างกาย เห็นชัดเจนว่าปลายสายคือใครแต่ก็ยังเลือกที่จะเมินเฉย ลู่หานกดปิดระบบสั่นเมื่ออีกฝ่ายยอมยอมวาง ถอนหายใจคล้ายเหนื่อยล้าก่อนจะเก็บลงกระเป๋ากางเกง

                “โทรได้ตลอด 24 ชั่วโมง แล้วแน่ใจไหมว่าจะรับได้ทุกสายที่ฉันโทรไป ขนาดคนสำคัญที่เห็นรักนักหนายังทำเป็นไม่สนใจได้เลย แล้วนับประสาอะไรกับคนที่บังเอิญรู้จักอย่างฉัน”

                นัยน์ตาคมกวางตวัดมองคนที่บังเอิญรู้จักตัวเล็กที่ยืนมองหน้าเขาอยู่นิ่งๆ ไม่ได้มีแววกวนประสาท ไม่ได้มีแววกวนตีน ไม่ได้มีแววที่ว่าคิมมินซอกกำลังตั้งใจปั่นป่วนอารมณ์เขา แต่แปลกที่ลู่หานนึกอยากจะอัดหน้าคนตัวเล็กนี่สักเปรี้ยง

                “กวนตีนไง”

                “เปล่า ก็แค่สงสัยเลยถามออกไป ฉันผิดด้วยหรือไงที่ถามในสิ่งที่ตัวเองสงสัยน่ะ”

                ครับ! ไม่ผิดเลยครับ! คุณคิมมินซอกไม่ผิดเลยสักนิดเดียว! เป็นผมเองต่างหากที่ผิดที่ไปกล่าวหาว่าคุณกวนตีนทั้งๆที่คุณก็แค่สงสัย สัส!.. ลู่หานดุนปลายลิ้นเข้ากับกระพุงแก้มก่อนจะหอบชิ้นงานขึ้นด้วยมือข้างเดียว แสร้งเมินไม่สนใจกับคำพูดของอีกคน ไม่ต่อความอะไรให้มากความ ทำท่าจะเดินออกไปแต่ติดที่ฝ่ามือเล็กของคนบังเอิญรู้จักที่ยืดข้อศอกของเขาไว้

                “มีอะไรอีก! บอกตามตรงวันนี้ไม่ได้อยู่ในโหมดที่จะมานิ่งเป็นคู่สนทนาให้มึงมากวนตีนเล่นด้วยได้นะ”

                “นายสำคัญกับฉันขนาดนั้นเลยหรือไง ที่รั้งไว้ก็แค่จะถามว่านายกลับบ้านยังไงหรอก”

    ลู่หานถอดหายใจเนือยๆ ประโยคเมื่อครู่มันคงจะดีมากเลยนะ ถ้าตัดคำพูดตรงต้นประโยคออกน่ะนะ.. “รถเมล์”

    “นายไม่มีรถขับหรอ ถึงได้นั่งรถเมล์มา”

    แล้วมึงจะมาเสือ.กอะไรกับกูล่ะครับ! ลู่หานสะบัดมืออีกฝ่ายทิ้งก่อนจะหันหลังหมายจะเดินออกมาจริงๆ แต่สุดท้ายก็ทำได้เพียงแค่คิดเมื่อเห็นร่างของคิมมินซอกวิ่งพรืดมาหยุดตรงหน้าเขา

    ตบหน้าผากตัวเองฉาดใหญ่ สูดลมหายใจคล้ายจะระงับอารมณ์..

    ตวัดสายตาขึ้นมองอีกคนที่เขาตั้งฉายาให้เรียบร้อยแล้วว่า ไอ้เตี้ยกวนตีนตาใส -*-

    “อะไรอีกวะ!

    “ฉันจะบอกว่าวันนี้ฉันเอารถมา จอดอยู่ที่โรงจอดรถของมหาลัย”

    “แล้ว?..” มาบอกกูทำไม

    “นายมีปัญหาเรื่องการใช้หัวสมองในการคิดวิเคราะห์ประโยคสินะ ตอนเด็กที่เรียนนี้ได้เกรดภาษาเกาหลีเท่าไหร่กัน”

    คล้ายตะหงิดๆว่าจะโดนด่าว่าโง่ทางอ้อม.. ลู่หานกระพริบตาปริบคล้ายจะเรียกสติของคนตัวเองให้กลับมา เนินนานอยู่เพียงไม่กี่นาทีก่อนคนตากวางจะตวัดสายตามองอีกคนอย่างไม่พอใจ

    “บางทีมึงอาจจะลืมไปนะคิมมินซอกว่าเราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นป่ะ ถ้าไม่อยากปากแตกมึงก็ควรเอาหน้าของมึงออกไปให้ไกลตีนกูเดี๋ยวนี้เลย” เพราะความอดทนของลู่หานมีจำกัด และตอนนี้เขาเองก็อยู่ในเกรดที่ต่ำพอสมควร

    “นายนี่เป็นคนประเภทที่ชอบใช้กำลังตัดสินปัญหาสินะ ถึงว่าล่ะพอมีเรื่องให้ใช้สมองคิดทีไรนายก็คิดไม่ออกสักที”

    “นี่!!

    “ฉันไม่ได้มีเวลาว่างมากพอที่จะมาอยู่ทำตัวไร้สาระกับนายได้นะ ที่พูดเมื่อกี้แค่อยากจะชวนกลับบ้านด้วยกัน เพราะฉันรู้มาว่าบ้านนายมันเป็นทางผ่านของบ้านฉันพอดี”

    “ฮะ?”

    “ถ้าจะกลับด้วยกันก็ตามมา แต่ถ้าไม่อยากกลับกับฉันและอยากที่จะกลับรถเมล์เหมือนตอนมาก็ยืนเอ๋อแย่งอากาศคนทั้งโลกหลายใจอยู่ไปนั่นแหละ ฉันไปล่ะ”

    ไม่ปล่อยเวลาให้ลู่หานได้คิดคำนวณอารมณ์ของคิมมินซอกสักวินาทีเดียว พูดจบประโยคคนบังเอิญรู้จักอย่างคิมมินซอกก็หันหลังเปิดประตูห้องออกไปเสียแล้ว.. ลู่หานขมวดคิ้วมองบานประตูนิ่งๆ ยังไม่เข้าใจอารมณ์ของมินซอกทั้งหมดหรอกแต่ก็พอจับใจความได้ว่าอีกฝ่ายชวนเขากลับบ้านด้วยกัน

    และถึงแม้ในใจจะค้านหัวชนฝาว่ายังไงก็ไม่ยอบกลับกับหมอนั่นให้มันกวนประสาทเล่นๆแต่สองขากับรีบก้าวยาวๆตามร่างคิมมินซอกออกไปในทันที

     

     

     

     

    “ขอบใจที่มาส่งและก็หวังว่าครั้งหน้าจะไม่มีอีกแล้วนะ บาย! อย่าได้พบเจอกันอีกเลยนะคิมมินซอก!

    “นายนี่นอกจากจะโง่แล้วยังไม่มีจิตที่จะสำนึกบุญคุณคนอื่นอีกสินะ”

    มือข้างที่กำลังจะผลักประตูรถออกไปชะงักลง ลู่หานส่งเสียงจิ๊จ๊ะก่อนจะหันกลับไปเผชิญหน้ากับผู้บังเอิญรู้จักของเขา เห็นแล้วก็นึกอยากจะซัดหน้าสักเปรี้ยงให้หายหมั้นไส้เสียจริง นอกจากคิมมินซอกจะไม่เกรงกลัวอะไรเขาแล้ว หนำซ้ำเวลาคุยกันหน้าเขาหมอนี่ยังไม่ยอมมองสักนิด

    “จะให้กระผมทำอะไรตอบแทนดีล่ะขอรับ ที่จะไม่เป็นการดูเหมือนไม่สำนึกบุญคุณคิมมินซอกที่อุตส่าห์มีน้ำใจขับรถมาส่งกระผมถึงที่บ้าน ทั้งๆที่มันเป็นทางผ่าน” พูดจบก็กรอกตาเพลีย.. แทนที่จะโมโหที่ถูกประชดประชันติอีกคนกลับหันมาตีหน้า(แสร้ง)ยิ้มให้ลู่หาน

    “ฉันรู้สึกหิวน้ำมากเลย ขอน้ำกินสักแก้วสองแก้วคงไม่เดือดร้อนนายมากมายหรอกนะ”

    “โอโม! พูดจาน่าเกลียดนะขอรับ ขอให้ผู้ชายพาเข้าบ้านงั้นหรอ ไม่ดีไม่งามเลยนะขอรับ”

    “กวนประสาท”

    พูดเงียบๆก่อนจะเป็นฝ่ายผลักประตูรถเดินลงไปก่อน ลู่หานนั่งล้อเลียนท่าทางของอีกคนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะลงลำคอ.. สองขาก้าวลงจากรถเดินตามอีกคนไป อยากจะขำให้มากกว่านี้นัก พูดอะไรผิดไปหรือเปล่าครับใครกันแน่ที่กวนประสาทน่ะ!

    แล้วก็นะ! ใครกันแน่วะที่เป็นเจ้าของบ้าน เพียงแค่ลู่หานเสียบลูกกุญแจเข้าไปไอคนที่บังเอิญรู้จักที่ตอนแรกยืนนิ่งอยู่ข้างกายก็ชิงไขมันเข้าไปแล้วเปิดออกแล้วพาตัวเองเดินเข้าไปในบ้านซะเสียแล้ว

    อยากจะด่าอะไรก็ต้องอดไว้ในใจ ไม่ใช่ว่ากลัวหรือไม่กล้าอะไร เพียงแต่.. อี้ชิงไม่ชอบให้เขาพูดคำหยาบแค่ปัจจุบันคำว่ากูกับมึงต้องก็จะโกรธเขาตายห่าแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าเมื่อไหร่ที่ได้ยินลู่หานเปิดสวนสัตว์ในปากแสดงว่าน้องไม่ได้อยู่แถวนั้น

    “พี่ลู่หาน กลับมา.. อ..อ่าว..”

    ลู่หานยิ้มบางให้คนในความคิดที่วิ่งพรวดพราดออกมาจากห้องนั่งเล่นแล้วตรงมากับเขา ทำท่าทางเหมือนจะวิ่งเข้ามากอดต้อนรับเขากลับบ้านเหมือนในทุกวัน แต่ต้องหยุดชะงักฝีเท้าไว้ตรงหน้าคิมมินซอก อี้ชิงยิ้มแห้งก่อนจะโค้งทักทายให้แขกไม่คุ้นหน้า

    “ขอโทษนะฮะ คือผมไม่รู้ว่าพี่ลู่หานจะพาเพื่อนมาด้วย”

    “ไม่เป็นไร แล้วก็ฉันไม่ใช่เพื่อนหมอนี่”

    แหม! เหมือนกูอยากเป็นเพื่อนกับมึงตายเลยล่ะ.. ลู่หานร้องเฮอะในลำคอก่อนจะเดินเข้าไปโอบรอบเอวบางของคนตัวเล็ก พลางกดปลายจมูกโด่งลงข้างแก้มน้องอย่างอ้อยอิ่ง ไม่สนสักนิดว่าตรงนั้นจะมีใครอีกคนยืนมองอยู่

    “พี่รักชิง”

    “รู้แล้วล่ะฮะ ย้ำจังเลย”

    “ย้ำให้ชิงรู้ ย้ำให้ชิงจำ! ชิงจะได้ไม่กล้าหักอกพี่ ชิง.. อย่าทำแบบนั้นเด็ดขาดเลยนะครับ ถ้าชิงทำพี่ต้องช้ำใจตายแน่ๆเลย”

    “เสี่ยวที่สุด! แต่ผมก็ชอบนะฮะ”

    “แค่ชอบหรอ? ไม่รักหรอครับ”

    “ไม่พูดด้วยแล้ว จะไปไหนก็ไปเลยไป”

    “คิดถึงจังเลย..”

    “งื้ออ! อายคนอื่นเขานะ! แล้วก็ไม่ต้องมากอดเลย งอนผมอยู่ไม่ใช่หรอฮะ”

    พอน้องพูดจบก็เหมือนเจ้าตัวจะนึกได้ ลืมไปเลยว่างอนน้องอยู่ เพียงแค่เห็นหน้าอี้ชิงเขาก็ลืมมันไปหมดแล้ว.. ลู่หานยิ้มแห้งๆก่อนจะซุกใบหน้าลงกับซอกคอขาว

    “เปล่างอนนะคะ ใครงอนชิงกัน”

    “ก็ผมโทรไปก็ไม่ยอมรับ ไลน์ไปก็เห็นขึ้นพี่อ่านแล้วแต่ไม่ยอมตอบ”

    “โถ่ ชิงก็พี่..”

    “ขอโทษนะคือฉันไม่ใช่คนที่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นหรอกนะ จะคุย จะง้อ จะโกรธอะไรกันก็ช่วยไปคุยกันในที่ที่ฉันไม่เห็น ไม่ได้ยินทีจะได้ไหม พอดี.. ไม่ได้อยากรู้เลยสักนิดน่ะ”

    ประโยคแก้ตัวของลู่หานถูกขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบของใครอีกคนที่ยืนเป็นเพียงอากาศตรงหน้าประตูมาตั้งแต่แรก.. ลู่หานจำเป็นต้องปล่อยกระต่ายตัวขาวในอ้อมกอดให้เป็นอิสระ อดไม่ได้ที่จะหันไปมองมินซอกที่ยังยืนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่ที่เดิม

    “ไม่ได้อยากรู้ก็เชิญคุณคิมมินซอกกลับบ้านไปสิครับ เชิญ! หันหลังเปิดประตูออกไปได้เลย ผมก็ไม่ได้อยากต้อนรับคุณสักเท่าไหร่หรอก”

    “ฉันยังไม่อยากกลับ เพราะฉะนั้นฉันก็จะยังไม่กลับ”

    อะไรคือการที่คิมมินซอกถอดรองเท้าผ้าใบตัวเองออก แล้วหยิบสลิปเปอร์ที่ชั้นมาใส่ อะไรคือการที่คิมมินซอกฉีกยิ้มหวานตาหยีให้ แล้วเดินชนไหล่เขาเข้าไปในบ้าน หนำซ้ำยังถือวิสาสะเดินเข้าไปหยิบขนมของอี้ชิงขึ้นมาแกะกิน ทิ้งตัวลงนั่งหน้าโซฟาหน้าตาเฉย คือ.. ที่กูอยู่ตอนนี้นี่บ้านกูหรือบ้านมึงน่ะวะครับ!

     

     

    “พี่คริสสสส ทำข้าวผัดเพิ่มขึ้นอีกจานหนึ่งนะฮะ”

    “วันนี้พี่ทำของชิงเยอะเป็นพิเศษจานเดียวก็พอแล้ว อีกอย่างเมื่อเย็นชิงก็เพิ่งจะไปทานไอศกรีมมานี่ ทานเยอะระวังอ้วนนะครับ”

    “เปล่าฮะ ไม่ใช่ของผมหรอกของเพื่อนพี่ลู่หานต่างหากฮะ”

    พ่อครัวตัวสูงที่กำลังยุ่งวุ่นวายอยู่กับการเตรียมอาหารมื้อเย็นให้เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวกับกระต่ายน้อยตัวขาวเป็นประจำทุกวันหยุดชะงักมือลง คริสเบาไฟแกงจืดที่ใกล้จะเดือดได้ที่ลง หันหน้ากับมามองกระต่ายตัวขาวที่ยืนเกาะประตูห้องครัวโผล่มาแค่หัวกับลูกตาใสๆ

                “เพื่อไอลู่หาน?”

                เพราะมั่นใจว่าน้องจากเขาแล้วลู่หานก็ไม่มีเพื่อนสนิทขนาดที่จะพามาบ้านที่ไหนอีก เลยคิดว่าน้องน่าจะพูดอะไรผิดหรือเปล่าเลยลองทวนคำ แต่สิ่งที่ได้กลับมาก็คือการที่กระต่ายตัวขาวพยักหน้ารับถี่รัวๆ

                “ฮะ เพื่อนพี่ลู่หาน ชื่อพี่มินซอก พี่คริสไม่รู้จักหรอฮะ?”

                “พี่ว่าไม่นะ..” ร่างสูงละความสนใจจากน้อง หันกลับมาสนใจหม้อแกงจืดตรงหน้าต่อ “พี่ไม่มีคนรู้จักชื่อนี้นะ สงสัยเป็นเพื่อนใหม่ที่คณะของลู่หานมั้งเนอะ”

                “เอ๋? แต่พี่มินซอกบอกว่ารู้จักพี่คริสนี่น่า..”

                “หื้ม? ชิงว่าอะไรนะครับ” เพราะมัวแต่สนใจกับหม้อแกงจืด เลยไม่ทันได้ฟังคำพูดพึมพำของกระต่ายตัวขาว พอถามออกไปอี้ชิงก็ส่ายหน้าปฏิเสธเสียอย่างนั้น

                “ไม่มีอะไรหรอกฮะ ผมไปนั่งรอข้างนอกนะพี่คริส เร็วๆด้วยน่า ผมหิวแล้ววว”

                “ครับๆ รู้แล้วครับผม”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    TO BE CONTINUED

    .

    ก่อนอื่นอยากจะถามทุกคนก่อน! มีใครกดบัตรทันบ้างไหม!!!!!!!!!!!

    ไรท์กดไม่ทันอ่า ;__; จะไปซื้อต่อคนที่กดทันก็แบบสู้ราคาไม่ไหว อัพกันโหดเกิ๊น

    ใครที่กดทันแล้วบังเอิญติดธุระหรือไปไม่ได้ เอามาขายต่อให้ไรท์ก็ได้นะคะ

    แต่แบบว่าขอร้องได้ไ หมอย่าอัพราคากันแบบที่เขาขายกันตอนนี้ #จิครายยยยยย T T

    พอเถอะนะเข้าเรื่องฟิคๆ 555555555 ตอนนี้ยังไม่ค่อยมีอะไรมาก ไรท์แค่อยากจะเปิดตัวตัวละครที่สำคัญมากๆอีกตัวหนึ่ง อยากให้ลองอ่านเนื้อความ บทพูดของทุกคนในตอนนี้ให้ดีๆนะคะ บางทีบางคนอาจจะมองเห็นฉากในอนาคต(?) 55555555555555555

    และอีกอย่างคือชิงจำได้ยังว่าวันนี้เป็นวันสำคัญอะไร พี่ลู่นางจะบอกน้องเองหรือไม่ แล้วมินซอกเป็นใครยังไง นางมาจากไหน #ต้องติดตามค่ะ มาต่อช้านิดหน่อย ขอโทษด้วยนะคะ >/\<

    หวังว่าจะชอบกันเนอะ เจอกันตอนหน้าค่ะ

    บาอิ้งงงงง J

     

    ไม่เม้นต์วานติดแท็ก #ficfanpuen ไม่แท็กวานกดโหวต

    มันคือกำลังใจเล็กๆน้อยๆ ขอบคุณค่ะ

    -Kimpla-

     

     

     

     

     

     

     

     


     

    TO BE CONTINUED

    .

    พี่คริสไม่ได้เลวร้ายขนาดนั่นสักหน่อย L

    ไม่เม้นต์วานติดแท็ก #ficfanpuen ไม่แท็กวานกดโหวต

    มันคือกำลังใจเล็กๆน้อยๆ ขอบคุณค่ะ

    -Kimpla-

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×