คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [01] ll FIC + FAN-PUEN
“งื้อ! พี่ลู่หานผมจะทำงานนะ อย่าเพิ่งกวนกันสิฮะ”
“ชิงทำงานนานเกินไปแล้วนะ เมื่อไหร่จะเสร็จสักทีล่ะคะ”
“ก็ถ้าไม่มีลูกลิงมาเกาะหนึบผมไว้แบบนี้ อีกไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็คงจะเสร็จแล้วล่ะฮะ”
คนที่ถูกเรียกว่าลูกลิงเงยหน้าขึ้นจากหัวไหล่เล็ก หันมองเสี้ยวหน้าคนรักที่กำลังตีสีหน้าดุใส่เขาอยู่ แทนที่จะปล่อยออกแสดงอาการหวาดกลัวกับสีหน้ากระต่ายแกล้งโกรธนั่น แต่ลู่หานกับเลือกที่จะมองเมินมันเสีย สองแขนยาวตวัดโอบรัดเอวบอบบางของแฟนตัวขาวให้แน่นมากขึ้น กดปลายจมูกโด่งลงข้างแก้มใสอย่างแรงจนกระต่ายตัวจ้อยส่งค้อนขวับมาให้
“พี่ลู่หาน! คนอื่นอยู่เยอะแยะนะฮะ!!”
“คนอื่นเยอะแยะที่ไหนกัน ที่นั่งๆนี่พี่ก็เห็นมีแค่ไอคริสคนเดียวเท่านั้นเองนะ” ลอยหน้าลอยตาตอบ จนไปสะกิดต่อมหมั้นไส้ของกระต่ายขาวเข้า อี้ชิงยกศอกกระดุ้งใส่หน้าท้องคนขี้แกล้งจนอีกคนที่ไม่ทันระวังเด้งตัวผละจากเขาออกไปแทบไม่ทัน
“ก็นั่นแหละฮะ! พี่คริสอยู่ด้วยไง ทำอะไรหัดอายสายตาคนอื่นบ้างสิ”
“โถ่ ชิงก็..” ลากเสียงยาวทำท่าจะขยับเข้าไปโอบรอบเอวบางนั้นอีกครั้ง แต่ติดอยู่ตรงกำปั้นน้อยๆที่กระต่ายตัวขาวยกขึ้นมาขู่
ลู่หานแสร้งตีหน้าเศร้าแล้วยอมขยับถอยหลังทิ้งระยะห่างจากเจ้าตัวออกมาประมาณสามก้าว ไม่ได้กลัวว่าอี้ชิงจะต่อยเขาหรอกนะ แรงแค่นั้นยืนนิ่งๆให้ต่อยสักสิบหมัดยังไม่สะท้านหน้าเขาเลย แต่ที่ยอมถอยออกมาง่ายๆเพราะกลัวว่าคนตัวเล็กจะงอนเสียมากกว่า
“ผมไม่เล่นแล้วนะฮะ ถ้างานเสร็จไม่ทันขึ้นมานะผมจะโทษพี่”
“ชิง..”
“ออกไปนั่งกับพี่คริสข้างนอกเลยนะ! แล้วก็ห้ามเข้ามากวนอะไรผมอีกด้วย ถ้าพี่ลู่หานยังไม่ยอมเชื่อฟังกัน ผมจะงอน!”
ก็บอกแล้วว่าลู่หานกลัวแฟนตัวขาวงอนมากกว่ากลัวไอ้หน้าตากระต่ายแกล้งโกรธนั่น สองขายาวพาร่างตัวเองหันหลังเดินออกจากห้องนอนของแฟนตัวขาวทันที แต่ก่อนไปก็ไม่วายจะหันไปแสร้งทำหน้าเศร้าใจใส่ เพื่ออี้ชิงจะเห็นใจแล้วยอมให้เขานั่งให้กำลังแฟนในนี้..
แต่นอกจากไอ้หน้าตากระต่ายแกล้งโกรธนั่นกับกำปั้นเล็กๆที่ยกขึ้นมาขู่เขาแล้ว ลู่หานก็สัมผัสกับความหมายอะไรอย่างอื่นไม่ได้อีกเลย จำต้องเดินคอตกออกจากห้องไป เห็นทีงานชิ้นนี้คงสำคัญและเร่งรีบจริงๆ แผนตีหน้าเศร้าเรียกร้องความสนใจที่เคยใช้กับอี้ชิงได้ดีทุกครั้งคราวนี้ถึงไม่ได้ผล
“เป็นอะไรของมึง ทำหน้าอย่างกับพวกเด็กมีปัญหา”
ตวัดสายตาไปให้ไอ้คนที่มันนั่งยืดยาวอยู่หน้าโทรทัศน์ขวับหนึ่ง ก่อนจะถอดหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ แล้วทิ้งตัวลงนั่งขัดสมาธิบนโซฟาที่มีร่างสูงของคริสนั่งอยู่ก่อนแล้ว
“แฟนไม่ยอมให้นั่งเฝ้า เซ็ง!”
“ไร้สาระ” หมอนอิงข้างกายคืออุปกรณ์ทำร้ายร่างกายเพื่อนตัวสูง ลู่หานคว้ามันมาไว้ในมืออย่างรวดเร็วก่อนจะจัดการตระบันใส่หน้าไอ้เพื่อนกวนประสาทที่นั่งตีหน้านิ่งอยู่ข้างๆ
ตีไปตีมาได้สักพักก็หยุดนิ่งหอบตัวโยน ตวัดสายตามองอีกคนที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม ไม่สะทกสะท้าน ไม่โวยวาย ไม่หือไม่อืออะไรกับเขา ลู่หานจิ๊ปากไม่พอใจก่อนจะฟาดครั้งสุดท้ายลงไปสุดแรง และก็ได้ผล.. เมื่อไอคนที่ตอนแรกสายตาจับจ้องอยู่แต่กับภาพเกมส์การแข่งขันบาสเกตบอลภายในจอสี่เหลี่ยมตรงหน้าตวัดสายตากลับมามองเขา
“ปัญญาอ่อน”
“ไอ้คริส! นี่มึงด่ากูสองรอบแล้วนะ!!”
เจ้าของชื่อในประโยคทำเพียงแค่กรอกสายตาขึ้นมองเพดาน.. แน่ใจว่าอายุ 23 ไม่ใช่ 3 ขวบ! นี่ถ้าให้เขาเดาคงจะไปงอแงอะไรใส่อี้ชิงแล้วถูกไล่ตะเพิดออกมาสินะ
“ทำหน้าแบบนี้คงด่ากูในใจอยู่สิ ไอ้ห่.า!!”
“เปล่าด่ามึงหรอก แต่กูกำลังสมเพชต่างหากล่ะ” ส่ายหน้าก่อนจะหันไปมองจอบาสเกตบอลอีกครั้ง ไม่ได้สนใจอะไรมากมายหรอกแค่ต้องการจะหาสื่ออะไรยึดเหนี่ยวความสนใจไว้ ไม่ให้ตัวเองไปใส่ใจกับเรื่องที่ลู่หานกำลังจะเล่ามากนัก
“มึง..”
อยู่ๆก็มาเรียกกันเสียงค่อย.. คริสได้ยินเสียงลู่หานถอดหายใจ สังเกตจากหางตาเห็นเพื่อนสนิทเอนหลังพิงผนักโซฟา ยกมือขึ้นกอดอก สีหน้าไม่ค่อยดีนัก มันก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้
“มีอะไรจะพูดก็รีบพูด กูรู้ว่ามึงไม่ได้เซ็งแค่เรื่องที่โดนน้องไล่ออกมา”
“วันนี้วันครบรอบ 2 ปี ที่กูคบกับอี้ชิง..”
“...”
“แต่ดูเหมือนว่าน้องจะจำมันไม่ได้อีกตามเคย”
นัยน์ตาคมวาดมองหน้าเพื่อนสนิท ไม่บ่อยนักหรอกที่คนนิสัยเหมือนเด็ก 3 ขวบ อย่างลู่หานจะมีท่าทางแบบนี้ มือแกร่งเอื้อมตบบ่าเพื่อนเบาๆ คำว่าอีกตามเคยที่มันพูดออกมา น้ำเสียงคล้ายจะเคยชินกับมัน แต่คริสก็รู้ว่าจริงๆ เพื่อนของเขาไม่ได้รู้สึกเหมือนน้ำเสียงสักนิด
“บางทีตอนนี้น้องอาจจะยังเครียดเรื่องงาน รอให้น้องทำงานเสร็จก่อนดีกว่านะ”
“อี้ชิงไม่เคยจำวันสำคัญอะไรได้ มึงจำตอนงานวันเกิดกูเมื่อเดือนที่แล้วได้ไหม ขนาดกูถือเค้กไปจ่อต่อหน้าน้องแล้วนะ น้องยังนึกไม่ออกเลย”
“เอาน่ามึง มึงก็รู้นี่ว่าอี้ชิงขี้ลืมจะตาย”
“แต่ถ้าเรื่องมันสำคัญบางทีมันก็ไม่สมควรลืมป่ะวะ”
เมื่อลู่หานพูดออกมาแบบนั้น คริสเองก็หมดคำพูดไปโดยปริยาย ร่างสูงคล้ายจะกลายร่างเป็นเครื่องรับฟังความขุ่นหมองข้องใจของเพื่อนสนิท นั่งฟังลู่หานบ่นเรื่องนู้นเรื่องนี้เกี่ยวกับอี้ชิงให้ฟังเงียบๆ เขาไม่ได้นึกรำคาญอะไรเพื่อนสนิท กลับกันเขากับชอบใจ.. ชอบที่จะนั่งฟังเรื่องของจางอี้ชิง
เด็กผู้ชายตัวขาว น่ารัก สดใส คนนั้นที่ทำให้เขาตกหลุมรักได้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน ความน่ารัก สดใส และกิริยาของอีกคน ทำให้คริสเผลอเปิดหัวใจที่ตายด้านของตัวเองรับกระต่ายน้อยตัวขาวเข้ามาเต็มหัวใจ คล้ายต้นไม้แห้งเฉาได้รับการบำรุงจากน้ำและอาหาร แต่แล้ว.. พอเริ่มเติบโตได้เต็มที่ก็ถูกต้นไม้ต้นข้างๆแยกความสนใจไปหมด
น้ำและอาหารถูกหันไปให้กับต้นไม้ต้นข้างๆ ปล่อยป่ะละเลยเขาไว้ให้กลับมาเหี่ยวเฉาอีกครั้ง นานหลายคราถึงจะหันกลับมาสนใจแต่เขาก็ยังเลือกที่จะอยู่ที่เดิม เพื่อจะได้รับน้ำและอาหารต่อชีวิตตัวเองให้เติบโตอีกครั้ง ถึงแม้สิ่งที่ได้รับจะเป็นเพียงเศษละอองของน้ำและอาหารก็ตามที
“กูว่าครั้งนี้กูจะไม่บอกอี้ชิงแล้วล่ะว่าวันนี้เป็นวันสำคัญอะไร ถ้าน้องจำได้ก็ดีไป แต่ถ้าน้องจำไม่ได้ก็ปล่อยให้มันผ่านไปเฉยๆเลย”
“บางทีน้องอาจจะยุ่งเรื่องอื่นอยู่ก็ได้นะ ให้เวลาน้องก่อนสิ”
“กูให้เวลาอี้ชิงได้ทั้งชีวิตไอคริส กูรอเขาได้จนลมหายใจสุดท้ายของกู แต่บางทีแม่.งกูก็เหนื่อยใจป่ะวะ กูผิดหรอไอ้เหี้.ยที่กูน้อยใจอ่ะ กี่ครั้งๆกันแล้ววะที่อี้ชิงลืมวันสำคัญของเราน่ะ”
“...”
“น้องไม่เคยกระตือรือร้นอะไรเลย ทุกอย่าง ทุกวัน ทุกเทศกาลสำคัญ มันเหมือนกูตื้นเต้นอยู่คนเดียว โดยที่น้องไม่มารับรู้อะไรเลย”
“มึงนี่ทำตัวเหมือนพวกผู้หญิงที่ชอบน้อยใจแฟนที่ลืมวันสำคัญเลยนะ”
คริสรู้ว่าไม่ใช่เวลาเล่นและลู่หานไม่ได้อยู่ในโหมดที่จะเล่นด้วยได้กับคำพูดกวนประสาทๆ แบบนี้ได้ แต่เขาก็ไม่รู้จะทำยังไง เขาไม่รู้ว่าตัวเองควรจะปลอบเพื่อนสนิทยังไง หรือบางที.. คริสก็ไม่คิดที่จะปลอบตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
“สัส! กูจริงจัง”
“มึงมาโหมดดาร์กๆแบบนี้ บอกตามตรงกูไม่ค่อยชินเลยว่ะ”
“มึงก็ลองมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้บ้างสิ จะได้รู้ว่ามันโคตรจะเสียความรู้สึกเลย”
ฝ่ามือข้างหนึ่งที่ถือรีโมททีวีอยู่เผลอกำแน่นอย่างลืมตัว นัยน์ตาคมกริบดูดุดันหันมองเสี้ยวหน้าของเพื่อนสนิท ก่อนริมฝีปากหนาจะเอือนเอ่ยประโยคบางอย่างออกไปอย่างที่ตัวเองก็ไม่ทันได้ตั้งตัว
“งั้น.. ก็เลิกกันซะสิ”
“...”
“ถ้าการกระทำของน้องดูเหมือนไม่ให้ความสนใจมึงแบบนั้น ทำไมไม่เลิกกันไปซะล่ะ”
“มึงพูดอะไร”
“...” นั่นสิ เขากำลังพูดอะไร
“มึงก็รู้ไม่ใช่หรอว่ากูรักอี้ชิงมากขนาดไหน ให้ตายยังไงกูก็ไม่มีวันเลิกกับน้อง ต่อให้น้องต้องการจะเลิกกับกู กูขอบอกไว้เลยกูก็ไม่มีทางยอม”
“...”
“ใครที่มันกล้าคิดที่จะแย่งอี้ชิงไปจากกู กูไม่ปล่อยให้มันใช้ชีวิตอย่างสงบสุขแน่!”
นั่นสินะ.. เขานี่ก็พูดออกไปได้นะว่าให้สองคนนี้เลิกกัน ลืมไปเสียสนิทเลยว่าลู่หานรักจางอี้ชิงมากขนาดไหน
.
.
“เฮ้อ.. ในที่สุดก็เสร็จสักที”
เสียงหวานใสพึมพำกับตัวเองเบาๆ ขณะที่ตวัดปลายดินสอลงบนผ้าใบสีขาวจุดสุดท้ายสำเร็จ แก้วตาใสสำรวจผลงานตัวเองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเผยรอยยิ้มสดใสที่บวกพร้อมมาด้วยรอยบุ๋มลงข้างแก้มใส ไม่เสียแรงที่เสียเวลากับผลงานชิ้นนี้อยู่ตั้งหลายชั่วโมง หวังว่าเกรดการเรียนวิชาศิลปะเทอมนี้ของเขาจะออกมาเป็นที่น่าพอใจและไม่น่าเกลียดมากเหมือนเทอมที่แล้วนะ
พูดไปแล้วอย่าไปบอกใครเชียว ว่าจางอี้ชิงปีหนึ่งคณะสถาปัตยกรรมติด F วิชา Drawing น่าขายหน้าตายเลย
กระต่ายตัวขาวยืนสำรวจง่ายตัวเองต่ออีกสักพักก่อนจะหันหลังเดินกลับมาเข้ามาในห้องนอน โดยปล่อยให้งานวาดตั้งตระหง่านอยู่ตรงริมระเบียงอย่างนั้น มือเล็กล้วงหยิบสมานโฟนเครื่องหรูที่นอนแอ้งแม้งอยู่ในกระเป๋าหนังสือขึ้นมาต่อสายตรงไปหาเพื่อนในคณะที่สัญญากันเอาไว้ว่าเย็นนี้จะออกไปส่งงานอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยด้วยกัน
ถือสายรออยู่พักหนึ่งแต่ก็ยังไร้วี่แววว่าจะมีคนรับสาย คนตัวเล็กยู่หน้าลงก่อนจะลดสมานโฟนมาหยุดตรงหน้า บ่นอุบอิบไม่ได้ศัพท์ก่อนจะทำท่าจะกดวางสายลง แต่ก็ต้องชะงักมือไว้เมื่อปลายสายที่คิดว่าไม่รับสายกันกลับกดรับ
“ฮัลโหลจงอิน”
“(อื้ออ อี้ชิงหรอ..)” ฟังจากน้ำเสียงเดาได้เลยว่าอีกคนกำลังนอนอยู่ อี้ชิงเท้าเอวฉับ ทำสีหน้าดุคล้ายว่าปลายสายมายืนอยู่ตรงหน้าตัวเอง
“จงอินนี่นายหลับหรอ! แล้วงานที่จะไปส่งกับเราวันนี้ล่ะ เสร็จหรือยัง!!”
“(เสร็จแล้วๆ เราเพิ่งทำเสร็จเลยคิดว่าจะมานอนพักเอาแรงซะหน่อย แต่นอนไปได้ไม่กี่นาทีนายก็โทรเข้ามาเนี่ย)”
“งั้นดีเลย เดี๋ยวเราเอางานไปส่งอาจารย์กันเลยเนอะ เพื่อจะแก้ตรงไหนบ้างจะได้แก้เลย” เอ่ยชวนอย่างกระตือรือร้น หนีบสมานโฟนไว้ระหว่างหัวไหล่และใบหูพลางหันหลังเดินออกมาม้วนๆ เอาไว้เตรียมตัวออกเดินทาง
“(นอนก่อนอีกนิดไม่ได้หรอ นี่เพิ่งจะบ่ายตรงเองนะ)”
“ไม่ได้! ตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะจงอิน เราให้เวลา 10 นาที ก่อนจะมาเจอกันที่ร้านกาแฟหน้าหมู่บ้าน ห้ามสาย ห้ามเรท ถ้าใช้เวลาเกินเราจะแช่งให้จงอินติด F”
“(โห้ย! จางอี้ชิงเล่นแรงไปนะ ติด F เลยหรอ)”
เหมือนอี้ชิงจะได้ยินเสียงซาวน์เอฟเฟ็กต์คนกระเด้งตัวขึ้นจากเตียง แต่ใครจะสนล่ะ.. กระต่ายตัวขาวกำชับกับเพื่อนอีกครั้งก่อนจะกดวางสายไป วางกระดาษ Drawing ไว้บนเตียงอย่างเบามือก่อนจะวิ่งปรือเข้าห้องน้ำไป 10 นาทีในการอาบน้ำแต่งตัวและเดินออกไปหน้าปากซอยบ้านนี่มันไม่ใช่เล่นๆเลยนะ!
อี้ชิงใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำในการอาบน้ำแต่งตัวอยู่ประมาณ 5 นาทีนิดๆ กระต่ายตัวขาวเดินตัวหอมฟลุ้งออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดเสื้อสเวกเตอร์สีขาวเรียบตัวเก่งกับกางเกงยีนส์เข้ารูปสีดำ รวบผลงานที่ต้องนำไปส่งอาจารย์ขึ้นด้วยมือเดียว ก่อนจะพาร่างตัวเองเดินไปเปิดประตูห้อง
“อ่ะ! พี่คริส ผมตกใจหมดเลย” แต่สิ่งแรกที่เห็นเมื่อเปิดประตูออกมากลับกลายเป็นร่างทะมึนของพี่ชายตัวสูง
“จะออกไปข้างนอกหรอครับ ไปไหนน่ะ?”
“ออกไปส่งงานอาจารย์ฮะ”
ฉีกยิ้มหวานให้ทีหนึ่งทำท่าจะเดินเลี่ยงไปอีกทาง เวลาเหลือในการเดินไปหน้าปากซอยอีกประมาณ 3 นาทีได้ ไม่น่าเลยจางอี้ชิง ไม่น่าไปเล่นอะไรกับจงอินแบบนั้นเลย.. กระต่ายตัวขาวลุกลี้ลุกลนอยู่คนเดียวจนคนที่ยืนมองอยู่แต่แรกนึกขำในใจ
“เหมือนจะรีบมากเลยนะ”
“หื้ม?.. อ่อฮะ! รีบมากๆเลยล่ะฮะ เหลือเวลาอีกไม่ถึง 3 นาทีแล้วว” และถ้ามัวแต่นั่งลงผูกเชือกรองเท้าคงต้องไม่ทันเวลาเป็นแน่ อี้ชิงตัดสินใจคว้ารองเท้าแตะที่ไม่ค่อยได้ใส่บ่อยนักออกมาจากตู้ ดึงถุงเท้าที่ใส่อยู่ก่อนหน้าออกเขวี้ยงทิ้งไปอย่างไม่ใยดี สวมรองเท้าแตะให้เรียบร้อยก่อนจะตั้งท่าเตรียมตัวจะออกวิ่ง แต่ทว่าแรงรั้งจากฝ่ามือใหญ่ของใครอีกคนที่ยืนมองอยู่แต่แรกก็ดึงข้อศอกเล็กเอาไว้เสียก่อน
“พี่ไปส่งนะ”
“ไม่เป็นไรฮะ ผมไปแค่หน้าปากซอยเอง ลำบากพี่เปล่าๆนะ”
“พี่เต็มใจครับ ไปเถอะ รีบไม่ใช่หรอ” ไม่รอคำตอบจากปากกระต่ายตัวขาว ถือวิสาสะเอื้อมคว้าเอาสมบัติมากมายในสองมือคนตัวเล็กขึ้นมาถือไว้เองเสียหมด เปิดประตูบ้านเดินนำออกไปยัง BM คันหรูที่จอดนิ่งอยู่ที่ลานจอดรถหน้าบ้าน
“พี่คริสฮะเดี๋ยวผมไปเองก็ได้นะ ผมเกรงใจ”
“พี่บอกแล้วไงว่าพี่เต็มใจ เร็ว! ขึ้นรถ เดี๋ยวพี่พาไปมหาลัยเลย พอดีตอนนี้ว่างๆ อยู่ด้วยพี่ไม่มีอะไรต้องทำ เที่ยวพาเราไปขับรถเล่นสักหน่อยดีกว่า”
เปิดประตูต้อนรับกระต่ายตัวขาวที่ยังยืนทำหน้าลังเลใจอยู่ตรงหน้า คริสไม่ได้เร่งรัดการตัดสินใจของอี้ชิง เขารออี้ชิงได้เสมอแหละไม่ว่าจะนานขนาดไหน เขาปล่อยให้น้องก้มลงมองนาฬิกาข้อมือเรือนเล็กที่แขนผอมสลับกับมองหน้าเขาอยู่สักครู่ ก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อเห็นน้องมุดกายเข้าไปในรถ
“ซิ่งเลยฮะพี่คริส ซิ่งเลย! อีกไม่เกิน 2 นาทีต้องถึงหน้าปากซอยหมู่บ้านนะฮะ!”
.
.
“พี่คริส!”
ร่างสูงที่กำลังนั่งมองนกมองไม้ไปเรื่อยเปื่อยสะดุ้งเฮือกยามที่ถูกสองมือเล็กตะปบเข้าที่หัวไหล่ทั้งสองข้างพร้อมกับน้ำเสียงสดใสที่ตะโกนอยู่ข้างใบหู ไม่ผิดแน่.. คนที่กล้าเล่นกับผู้ชายเงียบๆแบบเขาอย่างนี้มีคนเดียวเป็นแน่
“รอนานไหมฮะ พอดีผมคุยกับอาจารย์ท่านเพลินไปหน่อย”
หันหน้ากับมาเผชิญหน้ากับกระต่ายตัวขาวที่ยืนฉีกยิ้มหวานอยู่ตรงหน้า เขาจะตอบคำถามน้องว่ายังไงดี.. 3 ชั่วโมงที่เขานั่งรอน้องอยู่คนเดียวแบบนี้ทันเรียกว่านานไหมนะ
“นั่งอยู่ตรงนี้มันเงียบดี พี่เลยไม่คิดว่ามันนานเท่าไหร่”
“โห่! ตอบอย่างพระเอก ฮ่าฮ่าฮ่า”
แล้วกระต่ายน้อยก็หัวเราะตาหยี ถ้าเป็นเวลาปกติคริสคงหัวเราตามน้องไปแล้ว แต่ตอนนี้ร่างสูงมีเพียงแค่รอยยิ้มบางเบาตอบกลับไป ไม่ได้อยู่กับอี้ชิงแค่สองคน.. เขาจะทำอะไรให้มันดูแปลกนิสัยของเขาไม่ได้ คริสเป็นคนดังคนหนึ่งในมหาลัย ทุกคนต่างรู้จักนิสัยเขาดี
ไม่ค่อยยิ้ม นิ่งเงียบ เย็นชา เข้าถึงยาก มีโลกส่วนตัวสูง.. แล้วอยู่ๆจะมานั่งหัวเราะกับคำพูดของเด็กจางอี้ชิงปีหนึ่งที่ก็ไม่ได้ตลกอะไรมากมายบอกเลยว่าถ้ามีคนมาเป็นต้องมองว่าแปลก
“หิวไหม? ยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้านี่”
“พี่พูดขึ้นมาผมก็รู้สึกหิวเลย ฮ่าฮ่า ไปสิฮะ ไปๆ ไปหาอะไรกินกัน จงอินไปกินด้วยกันนะ” กระต่ายตัวขาวหันไปถามเด็กตาปรือข้างกาย คริสก็มองตามสายตาน้อง
“ไม่อ่ะ ไม่หิว อยากนอน กลับก่อนนะ ลาก่อนครับรุ่นพี่ ไปนะอี้ชิง”
แล้วเด็กตาปรือที่เขาเดาว่าคงจะชื่อจงอินก็หันหลังเดินออกไป อี้ชิงเหลียวหลังมองตามยู่หน้าลงเล็กน้อยก่อนจะหันกลับมามองพี่ชายตัวสูง
“ไปกินกันสองคนก็ได้ฮะ อุตส่าห์ชวนไปด้วยกันดันปฏิเสธซะนี่ นิสัยไม่ดีเลยคิมจงอิน!”
คริสยิ้มขำกับนิสัยของอีกคน คว้ากระเป๋าหนังสือน้องมาถือด้วยตัวเองก่อนจะรีบเร่งเท้าของตัวเองตรงไปยังลานจอดรถให้เร็วที่สุด ไม่ได้สนใจว่าน้องจะก้าวตามทันหรือไม่ เวลานี้ถ้าช้าไปอีกนิดเดียวอี้ชิงอาจจะได้เจอกับใครอีกคนแน่.. ใครอีกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนของกระต่ายตัวขาว
TO BE CONTINUED
.
.
มาดูกันนะคะว่าพี่คริสจะอดทนเก็บความรู้สึกที่มีต่อกระต่ายตัวขาวได้นานแค่ไหนกัน ^^
ไม่เม้นต์วานติดแท็ก #ficfanpuen ไม่แท็กวานกดโหวต
-Kimpla-
ความคิดเห็น