ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Show me your love แก๊งค์ยัยตัวร้ายกับแก็งค์นายขี้เก็ก

    ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 5

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.ย. 51


           เลิกเรียนแล้วไปกินไอศครีมกัน  ร้านที่เปิดใหม่ที่ห้างล็อตเต้อ่ะ U_U

                                                                   จากยูริน

    ชั้นไปไม่ได้หรอก  ต้องรีบกลับไปช่วยแม่กับพ่อ   โบอัน

     

    ชั้นไม่ไป อยากกลับบ้าน ชั้นอยากแปรงฟัน Y_Y 

                                               เซียวา

     

    เอรินคนงาม  :  ว้า วันนี้ชั้นมีนัดแล้วหน่ะสิ  แต่เดี๋ยวตอนกลับฉันผ่านแถวห้างด้วยนะ ไปรถชั้นก็ได้   ^^

     

     

    ก็ดีเหมือนกัน แต่ไปเดินเมียงดงต่อเป็นเพื่อนชั้นด้วยนะ เมื่อวานยังไม่ได้เดินเลยอ่ะ

    ฮาระงามกว่าคนข้างบน

     

     

    ไม่ไป  ไม่อยากไป  ไม่มีกำลังใจ  เห้ออออ  นาริมมี่จัง

     

    เหมือนกับคนข้างบน แต่คนละเหตุผล   จียอนออลจัง

     

     

              ข้อความที่ถูกเขียนลงบนกระดาษแผ่นเล็กตามสไตล์ของแต่ละคน    ถูกใจเป็น MSN แบบเฉพาะกิจในหอประชุม   เริ่มที่ยูรินที่ออกไอเดียอยากไปกินไอติมเลยจะชวนเพื่อนๆไปด้วย เธอเริ่มเขียนก็แล้วก็โยนส่งต่อไปเรื่อยๆ  จนครบทุกคนก่อนจะส่งคืนเจ้าของคนแรกที่เขียนมัน

     

            อ๋า  ไม่มีใครไปเลยหรอเนี่ย  ยังดีนะที่ฮาระไปด้วย  ไม่งั้นไม่มีเพื่อนแน่เรย  ยูรินบ่นอย่างเสียดายเมื่ออ่านข้อความบนกระดาษแผ่นนั้น

     

              ไม่นานการประชุมในหอประชุม ที่ยาวนานเกือบสองชั่วโมงก็สิ้นสุด  เด็กนักเรียนบางคนก็บิดขี้เกียด ยืดเส้นยืดสายเพราะนั่งนานไปหน่อย  บางคนที่พึ่งตื่นจากจากเฝ้าพระเจ้าเซจง จนน้ำลายไหล ก็เช็ดน้ำลายอย่างลวก

    พวกยัยตัวร้ายก็พากันเดินไปห้องน้ำทันที

     

            จะให้ชั้นไปกันสองคนจริงๆหน่ะหรอ ยูรินยังไม่ลดละความตั้งใจ

            อื้ม!!” หลายเสียงยังคงยืนยันคำเดิม  เว้นก็แต่ฮาระที่ยืนทาลิปกลอสจนริมฝีปากชุ่ม  กับเซียวาที่เปิดน้ำจากอ่างล้างมือ เอามือถูปากแล้ว ถูอีกก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาพูด  ไปเหอะ  เดี๋ยวชั้นกลับกับนาริมก็ได้

     

           อ๊ะวันนี้ชั้นต้องไปทำธุระให้แม่หน่ะสิ  เธอคงต้องกลับคนเดียวแล้วแหล่ะ  นาริมแสดงเหตุผลว่าทำไมตัวเองถึงยังกลับด้วยไม่ได้

     

              แล้วจียอนกับโบอันหล่ะ ไปไหนแล้ว  ฮาระถามทั้งที่ยังไม่ละสายตาจากกระจก พร้อมทั้งจัดเผ้าจัดผมให้ดูเรียบร้อย

     

             สองคนนั้นเค้ากลับไปตั้งแต่ออกจากหอประชุมแล้ว เห็นโบอันบอกว่าบ้านไกล กลับ  ส่วนจียอนก็กลับทางเดียวกับโบอัน เค้าเลยไปด้วยกันอ่ะยูรินอธิบาย

     

            งั้นเสร็จแล้วก็ไปกันเถอะ  รถชั้นจอดอยู่ตรงโน้นหน่ะเอรินเสนอ

            งั้นเราแยกกันตรงนี้เลยนะทุกคน

             เอ้า นาริม  ทางเดียวกันไปด้วยกันก็ได้นี่หน่าเอรินแย้ง

             อ่อ  อ๋ออ ชั้นกะว่าจะไปซื้อน้ำหน่ะ  พวกเธอไม่ต้องรอหรอก  กลับกันได้เรย  บ๊ายๆน้า ทันทีทีพูดเสร็จนาริมก็วิ่งออกไปจากตรงนั้น

     

    เพื่อนๆที่เหลือก็เลยพาเดินกันไปขึ้นรถของเอรินที่จอด

     

     

     

    บริเวณใกล้ลานจอดรถ  ชายหนุ่มสี่คนเดินมาพร้อมกัน

    เดี๋ยวชั้นกะว่าจะไปเล่นบาสกับไอฮันกยองซะหน่อยน้ำเสียงหล่อเหลาของซีวอนบอกเพื่อนๆก่อนจะวิ่งไปโรงยิม

     

    เหลือก็แต่ คิบอม  คยูฮยอน  คังอิน ที่กำลังเดินไปที่รถของตัวเองเช่นกัน

    เมื่อเดินไปเกือบจะถึงรถคิบอมก้ต้องหยุดชะงัก  เมื่อมองไปเห็นจิลยืนอยู่หน้าทางเข้า   แคลร์ต้องสั่งให้เธอมาดักรอเป็นแน่

    เห้ย  ไอคัง  แกช่วยไปเบนความสนใจจากยัยจิลให้ข้าหน่อยดิ่คิบอมเสนอแผน

    เออ  ได้ เดี๋ยวชั้นจัดการเอง

     

    คังอินเดินไปคุยกับจิลทันที  แล้วคิบอมที่หลบอยู่ก็อาศัยจังหว่ะที่ตังของเพื่อนเค้าบังจิลมิดวิ่งเข้าไปในลานจอดรถ  ส่วนคยูฮยอนก็เดินไปที่รถตัวเองทันที เพราะรถของเค้าจอดอยู่ใกล้ทางเข้ามากกว่า

    คิบอมก็เดินก้มๆเงยๆเกือบจะถึงรถขอตัวเองแล้วก็ต้องผง่ะ  เมื่อเห็นอีกร่างยืนพิงรถของตัวเองอยู่

     

    ทำไงดีว่ะเนี่ย ที่นี้    อ่า  ไอ้คยู  เค้าบ่นกับตัวเองก่อนที่จะนึกได้ แล้วตัดสินใจวิ่งกลับมาที่รถของคยูฮยอน  โดยที่คังอินก็ยังทำหน้าที่เบนความสนใจจากจิลได้ดีอยู่

     

    ปั๊บบ  เสียงปิดประตูรถของคยูฮยอน

    เฮ้ยย  ขึ้นมาทำไรว่ะ??”  คยูฮยอนถามเพื่อนอย่างงงๆ

    ก็แคลร์หน่ะดิ่  ยืนอยู่ที่รถชั้น  ชั้นเลยกะจะจอดไว้ที่เนี่ยแหล่ะ  แกจะไปไหนชั้นไปด้วยละกันคิบอมบอกเหตุผลว่าทำไมถึงขึ้นมา

    เอออ  ชั้นว่าจะไปเดินเล่นหน่อยหว่ะ ยังไม่อยากกลับบ้านตอนนี้  แม่ชั้นชอบบังคับให้ชั้นเรียนทำเค๊กอยู่เรื่อย

    เออๆ  ไปไหนก็ไปซักทีเหอะ

             รถมินิคูเปอร์คันสวยของคยูฮยอนถอยอย่างช้าๆ ก่อนจะกลับรถแล้วขับออกไปจากโรงเรียน  โดยที่แคลร์และจิลไม่มีท่าทีว่าจะสงสัยเลยซักนิด

     

              เอรินที่เดินมาถึงลานจอดรถแล้วเช่นกัน เธอบอกให้เพื่อนอีกสามคนยืนรออยู่ตรงประทางออกโรงเรียน แล้วเดี๋ยวเธอจะเดินมาเอารถเอง

     

              เมื่อมาถึงเอรินก็แอบดีใจที่เห็นพ่อเทพบุตรที่รับเธอไว้เมื่อตอนเช้า   คังอินนั่นเอง   แต่ก็ต้องเปลี่ยนอารมณ์ทันทีเมื่อเห็นว่าคังอินยืนคุยกับจิลอยู่  ก่อนจะหุบยิ้มแล้วเดินไปที่รถของตัวเอง  แล้วขับออกไปรับเพื่อนๆ

     

     

             เอี๊ยดดดด  เสียงเบรกของรถที่เกิดจากการบังคับของเอริน  เพื่อจะจอดรับเพื่อน  ขึ้นมาสิ!!” เอรินกวักมือเรียนอีกสามสาวผ่านหน้าต่างบานใสที่เปิดกระจกรับลม

     

    สี่สาวมองอย่างอึ้งๆ  ก็รถของเอรินหน่ะ  รถโฟล์ค สวาเก้น (รถเต่านั่นเอง)    รุ่นสมัยคุณแม่ยังสาว   รถของเธอมันดูช่างเข้ากับเจ้าของอะไรอย่างนี้

     

             จะไหวมั้ยเนี่ยยย  ฮาระถามพลางมองสำรวจไปรอบรถทันทีที่นั่งมาซักพัก  จนได้ยินเสียงเอี๊ยดอ๊าดของเครื่องยนต์

              นี่ เธออย่ามาดูถูกน้าลูซี่ของชั้นนะย่ะ  ชั้นขับไปปูซาน ยังไปมาแล้วเลย  แค่เนี้ยสบายยย   เอรินบอกถึงความแกร่งของน้าลูซี่  รถของเธอ

     

     

     

     

     

     

     

     

             Cuz I can't stop thinking about you girl ..................   เสียงเพลงที่เปิดขึ้นในห้องซ้อมของชมรมเต้น   แสดงให้เห็นถึงมาใครบางคนซ้อมเต้นอยู่ในนั้น   ฮยอกแจที่ใส่เสื้อกล้ามสีดำ  กางเกงขาสั่นเท่าเข่าลายทหาร  ร่างกายมีเหงื่อชุ่มโชก  ดูต่างจากฮยอกแจคนเมื่อเช้า  กำลังซ้อมเต้นอยู่คนเดียวกับกระจกอย่างจริงจัง     ส่วนทงเฮเพื่อนเค้าหน่ะหรอ  วันนี้เห็นทีคงจะเต้นไม่ไหว เพราะทงเฮน้อยถูกทำร้าย เลยกลับบ้านไปก่อน  เหลือก็แต่ฮยอกแจนี่แหล่ะ

     

                  หน้าประตูทางเข้าชมรมกลับมีอีกสายตาหนึ่งคู่ที่กำลังแอบดูฮยอกแจซ้อมเต้นอยู่ห่างๆ โดยใช้ประตูเป็นที่กำบัง แล้วมองลอดผ่านกระจกใสเข้ามา  ทำให้คนที่อยู่ในห้องไม่รู้ตัวเลยซักนิด  และยังคนซ้อมเต้นต่อไปอย่างเป็นปกติ

     

                นาริมมองฮยอกแจด้วยสายตาออกแนวเพ้อฝัน ...ผู้ชายอะไร เท่ห์เหลือเกิน.....  ก่อนจะต้องผง่ะออกจากโลกของจินตนาการของเธอเมื่อมีเสียงเรียนที่ฟังดูคุ้นๆ ขัดเข้ามา


    แอบดูอะไรอ่ะ??”  

    นาริมหันไปหาต้นเสียง ถึงกับตกใจ  ฮีชอลมาอยู่ข้างๆเธอตั้งแต่เมื่อไหร่  แถมยังเปลี่ยนชุดใหม่มาอีกด้วย
    ออนนี่อา   ตกใจหมดเลยยย

    แอบชอบนายนั่นหล่ะสิ  ใช่ม้า ฮีชอลถามอย่างรู้ทัน พลางเอามือจับผมทรงสวยของเธอ   ทำให้หน้าริมถึงกับหน้าแดง พูดอะไรไม่ออก 

     

    ออนนี้ก็  บ้าหรอ  พูดอะไรไม่รู้นาริมบอกอย่างหลบสายตา  ก่อนที่จะหาประดยคมาแก้ตัว  ชั้นก็แค่สนใจชมรมเต้นเท่านั้นแหล่ะ เลยอยากมาดูก่อน 

     

    ถ้างั้นก็แล้วไป เดี๋ยวจะหาว่าสวยไม่เตือนนะจ๊ะ

    งั้นชั้นไปแล้วนะนาริมรีบชิ่งหนีก่อนที่ฮีชอลจะซักไซ้เธอไปมากกว่านี้

    เดินดีดีหล่ะ  ระวังมันจะหลงกับมาตรงนี้อีกนะ!!”  ฮีชอลตะโกนตามหลังไป

     

     

     

     

     

              ห้างล็อตเต้มีร้านไอศกรีมเปิดใหม่  บรรยากาศภายในร้านประดับประดับไปด้วยรุปถ่ายของไอศรีม  ของที่ตกแต่งในร้านก็ดูสดใสสะดุดตา เปิดเพลงคลอเบาสบายหู ชวนให้เข้ามานั่งยิ่งนัก

     

              เอาสตรอเบอร์รี่เชอเบ็ต  แคนตาลูป  รัมเรซิ่น  ช็อคโกแลต  แล้วก็ราสเบอร์รี่ค่ะนาริมสั่งออเดอร์ไอศครีมทันทีที่จัดแจงหาที่นั่งในร้านได้   อ้อ  พี่ค่ะ หนูขอเพิ่มวิปครีมเยอะๆ  ย้ำว่าเยอะๆนะค่ะ

     

              ของหนูเอาบลูเบอร์นี่ซันเดย์ละกันค่ะ ฮาะระสั่งออเดอร์ของตัวเองบ้าง

     

             ขอทวนรายการที่สั่งนะค่ะ สตรอเบอร์รี่เชอเบ็ต  แคนตาลูป  รัมเรซิ่น  ช็อคโกแลต ราสเบอร์รี่  เพิ่มวิปครีมเยอะๆ  ย้ำว่าเยอะๆ  และอีกรายการก็คือบลูเบอร์รี่ซันเดย์  ถูกต้องนะค่ะ   รอออเดอร์ที่สั่งซักครู่นะค่ะ  พนักงานทำการทวนรายการได้อย่างไม่มีผิดเพี้ยน 

     

             สั่งไปเยอะขนาดนั้นจะกินไหวเหรอ

             ไม่ต้องห่วงงง มือชั้นนี้แล้วว

     

             เมื่อออเดอร์มาถึง ยูรินก็จัดการเขี่ยวิปครีมจำนวนมากออก เพื่อไว้กินทีหลัง เธอเลือกที่จะตักไอศกรีมกินก่อน  ส่วนฮาระก็กินตามปกติ   จนกระทั่งทั้งคู่กินจนหมด  เหลือก็แต่ยูริน ที่ยังไม่ได้กินวิปครีมที่เขี่ยไว้   เธอก็จัดการกินทันที  ท่าทางการกินของเธอเหมือนเด็กๆ ดูน่ารักไม่หยอก   ฮาระเห็นว่ายูรินกินใกล้จะหมดแล้ว เลยตัดสินใจลุกไปจ่ายเงินที่เค้าท์เตอร์  ส่วนยูรินก็ยังคงจัดการกับวิปครีมที่เหลืออย่างเอร็ดอร่อย 

     

              อ๊า  หมดแร้ววว ไอติมที่นี่อร่อยจริงทันทีที่วางช้อนยูรินก็พูดกับตัวเอง เธอกำลังจะลุกตามฮาระไป แต่สายตาก็ไปสะดุดกับชายหนุ่มสองคนที่คุ้นหน้าตา กำลังมองมาที่เธอ  ก่อนจะอมยิ้ม  แล้วหัวเราะกันเบาๆ  

             
    หัวเราะอะไรของเค้านะ  ว๊ายยย  ยูรินบ่นพึมพำสงสัย ก่อนจะไปเจอหน้าตัวเองในกระจกที่ติดประดับในร้าน  ก็ขอบปากของเธอหน่ะสิ เต็มไปด้วยวิปครีมขาวไปหมด  เมื่อเห็นอย่างนั้นเธอก็จัดการเช็ดออก แล้ววิ่งออกไปจากร้านอย่างอายๆ  โดยที่สายตาสองคู่ก็ยังไม่ได้ละไปจากเธอเลย

     

     

              สองคนนั้นเด็กปีหนึ่งโรงเรียนเราใช่ป่าวว่ะคิบอมถามเพื่อนอีกคน

              ใช่ กลุ่มเดียวกับยัยแว่นที่เชยๆนั่น  ข้าจำได้

              “แกบอกไม่รีบกลับใช่มั้ย คยู

              เออ  ทำไมว่ะ

              “ชั้นมีอะไรสนุกๆทำแระ  หึหึ คิบอมหัวเราะในลำคอ  ก่อนจะลุกเดินออกจากโต๊ะ โดยมีคยูฮยอนเดิมตามไปอย่างไม่เข้าใจเท่าไหร่

     

     

     

     

              ว้า  ทำไมฝนต้องมาตกตอนนี้ด้วยนะเนี่ยฮาระบ่นอย่างเสียดาย  ทันทีที่เดินมาถึงหน้าประตูห้างเพื่อที่จะข้ามฝั่งไปยังเมียงดง  แต่เนื่องจากเมียงดงเป็นสถานที่ช็อปปิ้งกลางแจ้ง  ฝนตกแบบนี้คงไม่สนุกแน่

     

              เราก็เดินเล่นในนี้ก็ได้นี่หน่า  ไหนไหนก็มาแล้ว  ดีกว่าไม่ได้เดินนะฮาระ ยูรินเสนอความคิด

              อื้อ  ก็ได้

     

     

              สองสาวเดินเลือกซื้อของกันตามประสาผู้หญิง  เครื่องสำอางบ้างหล่ะ  เครื่องประดับเล็กๆน้อยๆบ้างหล่ะ  พวกเธอเดินขึ้นเดินลงกันอยู่หลายชั้น   โดยมีคิบอมกับคยูฮยอนที่นึกสนุกอะไรไม่รู้เดิมตามอยู่ห่างๆ

     

              ฮาระและยูริน เลือกที่จะเดินเข้ามาในฝั่งมอลล์ของห้างนี้  เพราะว่าพวกเธอเองก็เดินฝั่งพลาซ่าจนทั่ว และก็ได้ของติดไม้ติดมือกันไม่น้อย  ก่อนจะมาหยุดที่บริเวณเสื้อผ้าสตรี  บริเวณนี้ในวันนี้ไม่ค่อยมีคนเดินเยอะเท่าไหร่  อาจเป็นเพราะนี้เป็นวันธรรมดาก็เป็นได้

               ยูรินเดินนำหน้ามือข้างนึงถือถุงของที่ซื้ออยู่หลายถุง  แต่อีกข้างก็ถืออมยิ้มกินอย่างเพลินใจ   ฮาระที่เดินเริ่มช้าลงเพราะรู้สึกเมื่อยกับถุงของตัวเอง  มันเกือบจะสองเท่าของยูรินเลยนะนั่น  ก่อนที่จะตัดสินใจวางถุงพวกนั้นลงกับพื้นแล้วสะบัดแขนสองสามครั้งเพื่อเป็นกันคลายความเมื่อย   แต่เอ๊ะ  เหมือนมีสายตากำลังจับจ้องมองมาที่เธอจนเธอเริ่มสังเกตได้   จะใครซะอีกหล่ะ  ก็คิบอม และคยูฮยอนที่ใช้เสาเป็นที่กำบังอยู่หน่ะสิ

             ฮาระแค่เริ่มเอะใจ แต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไรมากมาย  แล้วก็หยิบถุงแล้วเดินตามเพื่อนสาวไปทันที  

              ควั่บบ    หรือเราคิดไปเองนะ  ฮาระหันไปดูข้างหลังอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีใคร  จนอดคิดไม่ได้ว่าตัวเองคิดไปเอง แล้วก็เดินไปจนถึงบูทของชุดชั้นในสตรี  

              ส่วนสองคนที่นึกสนุกก็เผยตัวออกมาแล้วเดินตามอยุ่ห่างๆ

     

             

             อุ๊ย บราลายทุเรียนน่ารักจังเรยฮาระ   ดูสิ  อุ๊ย  ดูสิ ลิ้นจี่ก็น่ารักยูรินที่ดูจะตื่นเต้นกับชุดชั้นในคอลเล็คชั่นใหม่  เธอหยิบมาทาบกับหน้าอกของเธอตามประสาของผู้หญิง

    แต่ฮาระกลับยืนเลือกที่ราวใกล้ๆกัน  ชุดชั้นในลายสายรุ้ง   โอ้วว สีสันมันโดนใจเธอจริงๆ เธอก็ใช้วิธีทาบเหมือนกับที่ยูรินทำ  

     

              คิบอมกับคยูฮยอนที่แอบมองพฤติกรรมการซื้อ  การเลือก  การลองทาบชุดชั้นในของทั้งสองคนแล้วก็ออกอาการความนิ่งเข้าครอบงำ   ตอนนี้เค้าสองคนมัวแต่ยืนเหม่อดูสาวๆเลือกชุดชั้นใน  (คล้ายๆพวกโรคจิตไงไม่รู้- -*)จ นลืมไปว่าตัวเองอยู่ในจุดที่ไม่ปลอดภัยนักเพราะไม่มีอะไรกำบังเค้าได้เลยในตอนนี้  

     

              ยูรินกับฮาระที่เพลิดเพลินกับเการเลือกชุดชั้นในคอลเลคชั่นใหม่อยู่สักพัก

    ...เอ๊ะ!!  รู้สึกเหมือนมีคนกำลังจับจ้องเราอยู่อีกแล้ว  ฮาระเลยตัดสินใจกระซิบยูรินให้ยืนหันหลัง ทำเหมือนว่ากำลังจะเดินไป  แล้วนับ หนึ่ง  สอง  ซ้ามมม!!   

             

    ได้ผลแฮ่ะ  คิบอมกับคยูฮยอนหลบสายตาของทั่งคู่ไม่ทัน  แต่ก็ยังไม่วายหยิบอะไรแถวนั้นมาปิดหน้าปิดตาโดยอัติโนมัติ

    ....โดยไม่ทันสังเกตเลยว่าอะของที่หยิบมาปิดหน้าหน่ะ   มันคือ  กางเกงในผู้หญิง 

             

              ตอนนี้ทั้งคู่รู้แล้วว่าใครเดินตามพวกเธอมา  จริงๆถ้าเจอกันที่แผนกอื่นก็เป็นได้ ว่าพวกเค้าอาจจะมาช็อปปิ้งเหมือนกัน  แต่แผนกชุดชั้นในสตรีเนี่ยนะ

     

              ยูรินกับฮาระเห็นอย่างนั้นก็ถึงกับอดหัวเราะไม่ได้  แต่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับอีกสองคนที่พลางตัวด้วยกางเกงในผู้หญิงมากนัก   ก่อนจะเดินไปชำระเงิน

     

     

              เมื่อต่างคนต่างจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วยูรินก็ขอตัวกลับบ้านก่อน  เพราะเธอกลัวว่าเซียวาจะไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน  อีกอย่างเป็นห่วงเซียวาด้วย  เพราะตอนที่เธอลงจากรถของเอรินไปท่าทางของเซียวาดูไม่ดีเท่าไหร่

     

    ตอนนี้เหลือก็แต่ฮาระ  ที่เดินช็อปปิ้งเตร็ดเตร่อยุ่คนเดียว  คิบอมกับคยูฮยอนหลังโดนจับได้ก็ไม่ได้เดินตามเธอมาแต่อย่างใด   สงสัยจะกลับไปแล้วมั้ง

     

     

    // Chanel  SEAL !!// 

    ป้ายบอกแบรนด์โปรดของฮาระ  ตอนนี้ลดราคาอยู่ไม่ใช่หรอเนี่ยย

     

    ฮาระที่ยังไม่ลืมนิสัยคุณหนูเดิมๆของตัวเองตัดสินใจเข้าไปในช็อป ของ Chanel ทันที



           


      
    ห๊า!!  จาก หนึ่งล้านวอน  ลดเหลือ หกแสนวอนเธออุทาทนออกมาทันทีที่เห็นราคาของกระเป๋ารุ่นสุดคลาสสิค ที่เธออยากได้มาตั้งแต่เห็นมันครั้งแรกจากแฟชั่นโชว์ที่ดูผ่านทีวี   แต่ตอนนั้นมันยังไม่มีขายในเกาหลี   และช่วงที่มันมีขาย มันก็เป็นช่วงที่ธุรกิจของครอบครัวเธอต้องปิดลงเพราะพิษเศรฐษกิจ  แต่ก็ไม่ได้ทำครอบครัวเธอถึงกับจนหรือล้มละลายหรอกนะ  แต่เธอก็กลิกที่จะใช้ของแพงหรือฟุ่มเฟือยเหมือนแต่ก่อน

     

              ใบนี้พิเศษสามารถปั้มชื่อของเราลงไปที่โลโก้เหล็กหน้ากระเป๋าได้นะค่ะ  พนักงานยืนพรีเซ้นสินค้า  ทำให้ผูที่ดูอยู่สนใจเป็นอย่างยิ่ง

    ปั้มชื่อได้ด้วยหรอ  ถ้าเราปั้มชื่อเรามันก็มีใบเดียวในโลกหน่ะสิ  อ่าชั้นอยากได้มันจังเลยหน่ะ  แต่ราคาของมันหน่ะสิ  มันสูงอยู่ไม่น้อยเลยนะเนี่ย  เอาไงดีหว่าเรา

     

    ตกลงต้องการให้ปักชื่อว่าอะไรค่ะพนักงานถามขึ้น เพราะท่าทางของฮาระดูสนใจมากเลยหล่ะ เค้าเลยคิดว่า ยังไงฮาะระก็ต้องซื้ออย่างแน่นอน

     

    อ่ะ....ฮาระค่ะ.....คิมฮาระ ฮาระบอกชื่อของตัวเองให้พนักงาน ก่อนที่จะยื่นกระเป๋าใบสวยส่งให้พนักงานไปทำการปั้มชื่อทันทัน

     

    เอาก็เอาว่ะ  ไม่ได้ซื้ออะไรแบบนี้ให้ตัวเองก็นานแล้ว

     

              ผ่านไปซักสิบนาทีกระเป่าใบสวยที่ถูกทำการปั๊มชื่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พนักงานนำมาให้เจ้าของชื่อดูอย่างพอใจ  ก่อนที่เธอจะเปิดกระเป๋าสตางค์สีสมพูสวยแล้วหยิบบัตรเครดิตที่พักหลังไม่ค่อยได้ใช้ออกมาเพื่อเป็นการชำระเงิน

     

     

              น้องค่ะ   ขอโทษนะค่ะ  คือบัตรใบนี้ได้ถูกระงับการใช้งานไปแล้วค่ะ  ไม่ทราบว่ามีบัตรใบอื่น  หรือว่าจะชำระด้วยเงินสดแทนดีค่ะ  พนักงานอธิบายพร้อมบื่นบัตรเครดิตใบสวยคืน

              มีอะไรผิดพลาดหรือเปล่าค่ะ  ปกติมันก็ใช้ได้นี่หน่า ปกติที่เธอว่านั้นคือครั้งล่าสุดที่เธอใช้บัตรนี้กับพาเพื่อนๆที่โรงเรียนเก่าไปเลี้ยงสุกี้   ซึ่งนั่นมันผ่านมาเกือบจะสี่เดือนแล้วหน่ะสิ

     

              ไม่หรอกค่ะ  เราลองดูถึงสองครั้งแล้ว  แต่ก็ไม่ได้ค่ะ  งั้นสะดวกชำระเป็นเงินสดได้มั้ยค่ะ

     

               ชำระด้วยเงินสดหรอ   ชั้นไม่มีหรอกนะ  ตอนนี้เหลือติดตัวแค่ไม่กี่หมื่นวอนเท่านั้นเอง  บอกเค้าว่าเราไม่เอาแล้ว  ยอมหน้าแตกไปจะได้มั้ยนะ

     

              งั้นหนูขอไม่เอาแล้วแล้วกันนะค่ะฮาระบอกพร้อมก้มหัวขอโทษก่อนจะหันหลังเพื่อที่จะเดินออกจากช็อปนี้ไป  บัตรใช้ไม่ได้  น่าอายจริงๆ

     

              ไม่เอาแล้วไม่ได้นะค่ะ  เพราะว่าทางเราปั้มชื่อคุณลงไปแล้ว  ยังไงก็ต้องรับผิดชอบนะค่ะ

     

    จะทำยังไงดีหล่ะทีนี้  ยังไงที่มีอยู่ก็ไม่พอจ่ายแน่ๆ  จะบอกพ่อกับแม่ให้รู้ก็คงไม่ได้ด้วย  ซวยแล้วชั้นนน!!

     

     

              เดี๋ยวผมจ่ายเองครับ!!”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×