คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : คู่ปรับตัวฉกาจ
ตอนที่ 6 คู่ปรับตัวฉกาจ
โอ๊ยปวดหัวจัง ผมอยู่ที่ไหนเนี่ย เอ่อใช่สิเราอยู่โรงพยาบาลนี่นา แป้งละ แป้งเป็นไงบ้าง ผมกระโดดลงจากเตียง ดึงสายน้ำเกลือออกจากแขน แป้ง...ฉันจะไปหาเธอรอก่อนนะ
“คุณพยาบาลครับคนไข้ที่ชื่อหนึ่งนภาอยู่ห้องไหนครับ”
“อยู่ห้อง502คะ เลี้ยวซ้ายแล้วตรงไปเลยนะค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
พอรู้ว่าแป้งอยู่ห้องไหนผมก็รีบวิ่งไปทันที เมื่อมาถึงผมมาหยุดอยู่หน้าห้อง ผมก็เห็นไอ้หมอนั้นที่ไปหาแป้งที่บริษัทกำลังคุยกับแป้งอย่างสนุกสนานแล้วก็ป้อยยาให้แป้งกิน นี่นะเหรอเพื่อน...
ไอ้หน้าจืดนายนำหน้าฉันไปก่อนเสมอ ค่อยดูและกันนายกับฉันใครจะได้ยัยแป้งไปเป็นแฟน ตั้งแต่วันนี้ฉันจะทำให้ยัยแป้งได้รู้ว่าใครกันแน่จะเหนือกว่ากันฉันหือไอ้หน้าจืด
พอพูดจบผมก็เดินกลับไปที่ห้องของผม พอดีพี่เจนและทีมงานมารอก่อนแล้ว
“น้องเชนไปไหนมาจ๊ะ หายปวดหัวแล้วเหรอ” พี่เจนรีบวิ่งเข้ามาประคองผมให้ไปนั่งบนเตียง
“หายแล้วครับ เมื่อกี้ไปหาของกินมานะ” ผมต้องขอโทษพี่เจนด้วยที่ผมโกหก ถ้าผมบอกว่าผมไปเยี่ยมแป้งทุกคนต้องรู้แน่ว่าผมชอบแป้งตอนนี้งั้นเก็บไว้เป็นความรับก่อน
“ทำไมไม่บอกพี่ละจ๊ะพี่จะได้ซื้อมาให้”
“ไม่เป็นไรครับ ผมหายแล้วออกจากโรงพยาบาลได้เลย”
“งั้นเชนเก็บของนะ เดี๋ยวพี่ไปรับแป้งก่อนเจอกันหน้าเคาเตอร์โรงพยาบาลนะ”
“ครับ”
ผมเก็บของเปลี่ยนเสื้อผ้า ลงไปนั่งรอพี่เจนอยู่ข้างล่างตามที่พี่เจนสั่ง พอลงมาถึงก็พบแป้งจี่กับไอ้หน้าจืดนั่งอยู่ก่อนแล้ว ผมเลยเอากระเป๋าไปวางไว้ข้างยัยแป้งแล้วนั่งลงข้างเธอ หลังจากเงียบอยู่นานยัยแป้งก็พูดขึ้นมาให้หายจากความกดดันที่มีอยู่รอบข้าง
“เชนนี่เยเย่ เยเย่นี่เชนนี่รู้จักกันไว้ซะ” แป้งลุกขึ้นจับมือเราสองคนให้จับมือกัน แต่ยังไม่ทันจะสัมผัสผมก็ชักมือกลับทันที เมื่อไอ้หน้าจืดเห็นเชนนั้นมันก็ลุกขึ้นมาว่าผม
“นี่นายรังเกียจฉันมากขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันไปทำอะไรให้แกวะ แกถึงจ้องฉันตั้งแต่อยู่บริษัทแล้ว”
“ใช่สิ ฉันมันเป็นพวกรังเกียจสังคม เห็นใครดีกว่าไม่ได้เข้าใจไหมไอ้โยโย่” ผมลุกขึ้นบ้าง แต่คราวนี้ผมว่ามันคงจะไม่ใช่เรื่องเล็กๆแล้วละครับ เพราะสายตาทุกคู่ที่อยู่ในบริเวณนั้นจับจ้องมาที่เราสองคนอย่างกับจะยุให้เราสองคนทะเลาะกัน
“ฉันชื่อเยเย่ ไม่ใช่โยโย่ ส่วนนายนะไอ้เชนนายหัดดูตัวเองซะบ้างสภาพของนายตอนนี้เหมือนคนตายฟื้นคืนชีพอย่างนั้นแหละ จะมีแรงอะไรมาสู้กับฉันได้ ฉันถามทีเถอะที่นายหลงตัวเองว่านายเหมือนดงแฮนะ นายเอาส่วนไหนดู ขนาดฉันเหมือนเยซองฉันยังไม่เปล่าประกาศให้ชาวบ้านรู้เลย อย่างนายก็แค่ไอ้พวกหลงตัวเอง แป้งเค้าเล่าทุกอย่างให้ฉันฟังหมดแล้ว” แป้งนะเหรอเล่าทุกอย่างให้เค้าฟังแต่ทำไมเราถึงไม่รู้จักไอ้โยโย่เลย
“ไม่จริงหรอกแป้งเค้าไม่เผาฉันแน่ ใช่ไหมแป้ง”
“เชนฉันขอโทษนะ ฉันบอกเรื่องทุกอย่างให้เยเย่ฟังหมดแล้วละ” หน๋อย...ยัยแป้งทำกันได้เพียงนี้เราไม่รู้จุดอ่อนของมันเลยแต่มันดันมาล้อจุดอ่อนของเราได้ ว่าไม่เหมือนดงแฮ แต่เอะเมื่อกี้มันบอกว่าอะไรนะเยซอง เยซอง
อ๋อ...มันบอกว่ามันเหมือนเยซองนี่แหละจุดอ่อนมัน
“แกนะก็เหมือนกันใช้อะไรดูว่าเหมือนเยซอง ขนาดอี๊ดโปงลางสะออนไม่รู้จะเป็นได้หรือเปล่า ยังมีหน้ามาบอกว่าตัวเองเหมือนเยซองหน้าไม่อาย”
“เฮ้ย...พูดอย่างนี้ก็สวยสิวะ” พอสิ้นคำพูดไอ้หมอนั้นก็ยื้นกำปั้นมาอย่างแรงใส่เข้าที่เบ้าตาของผมอย่างจัง
“แกไอ้เลว” พอผมตั้งสติได้ผมก็ชกมันเข้าไปที่คางเต็มๆ เยเย่ถึงกลับล้มลงไปนอนกองอยู่กับพื้น เก่งนักใช่ไหม ผัวะ...ผมเตะซ้ำเข้าไปที่กลางตัวของมันจนมันไม่สามารถลุกขึ้นได้
“จำเอาไว้อย่ามาถือใหญ่กับฉันถ้าแกไม่อยากเจ็บตัวอีกละก็ จำเอาไว้ฉันนี่แหละฝาแฝดดงแฮชื่อวอนดงฮัน จำไว้”
จากนั้นผมก็เดินไปลากกระเป๋าพร้อมกับยัยแป้งขึ้นไปนั่งรอพี่เจนที่รถ ส่วนพี่ๆทีมงานต่างคนก็ต่างลากสำภาระขึ้นรถตามหลัง
ผมนั่งรอพี่เจนอยู่ในรถได้ประมาณสิบนาทีดูเหมือนว่าแป้งจะทำท่าลงจากรถอีก สงสัยจะไปหาไอ้โยโย่เยเย่อะไรนั้นมั้ง
“แป้งเธอจะไปไหนนะ”
“ฉันจะไปหาเยเย่”
“ถ้าเธอไปงานถ่ายเอ็มวีจะไม่เสร็จนะ”
“แล้วใครบอกให้นายไปต่อยเค้าละ”
“...” ถึงกับพูดไม่ออกครับว่าผมโกรธอะไรเค้าถึงได้ใส่อารมณ์ออกไปซะขนาดนั้น พอดีพี่เจนเดินมาก่อนแป้งก็เลยไม่ได้ลงไปจากรถ พอทุกคนขึ้นรถเสร็จก็เดินทางกลับไปที่โรงแรมก่อนเพื่อเตรียมถ่ายเอ็มวีต่อ เจ้าหมาน้อยมินจุงก็ดีใจใหญ่เลยที่เห็นแป้งอีกครั้งสงสัยมันคิดว่าแป้งเป็นแม่แล้วผมเป็น...ช่างเถอะ
“แป้งเจ้านี่มันชื่อมินจุงนะ หมาที่เธอช่วยไว้ไง”
“ตัวนี้เหรอ หน้ารักขึ้นเยอะเลยนิ” แป้งอุ้มลูกหมาขึ้นมาดูหน้าตา เจ้ามินจุงก็ดีใจใหญ่เชียวส่ายหางใหญ่เลย
“แล้วนายเจอมันได้ยังไง”
“อ๋อ...มันไปเรียกฉันให้ไปช่วยเธอนะ”
“ว้าว...ขนาดนั้นเลยเหรอแสนรู้นะเนี่ย”
“เพราะงี้ไงฉันถึงไปรับมันมาเลี้ยง”
ในที่สุดสภาพในรถตอนนี้ก็กลับมาครึกครื้นดังเดิม เพราะมีเจ้ามินจุงอยู่ด้วยแท้ๆถึงทำให้ทุกคนมีความสุขได้ขนาดนี้ สมแล้วที่เป็นหมาของผม ทั้งฉลาด แสนรู้ เหมือนเจ้านายไม่มีผิดเลย มินจุงเอ๊ย...
เมื่อรถเคลื่อนมาถึงโรงแรม พี่ๆทีมงานก็เลยบอกให้รีบเอาของไปเก็บที่ห้องแล้วลงมาถ่ายต่อ เดี๋ยวจะไม่เสร็จตามกำหนด ซึ่งผมและแป้งก็ต้องยอมรับโดยดีห้ามท้อ ห้ามบ่นกับงาน ผมพอจะเข้าใจแล้วว่าดารานักร้องทั้งหลายทำไมเค้าทำหน้าเบื่อหน่ายนัก ซึ่งตอนนี้ผมก็พอจะเข้าใจแล้วเพราะสิ่งที่กล่าวมานี้มันเกิดขึ้นกับผมเองทั้งหมด
เมื่อกล้องพร้อม ไฟพร้อมนายแบบนางแบบพร้อม เค้าก็เริ่มถ่ายกันเลย เป็นดาราเนี่ยลำบากจริงๆกว่าจะถ่ายได้แต่ละฉากต้องใช้เวลาชะมัด
“เอาละจะน้องเชน ฉากต่อไปให้น้องจับมือกันเดินไปริมทะเลแล้วน้องเชนก็บอกรักน้องแป้งนะจ๊ะ”
“เอ่อ...บอกรักด้วยเหรอครับพี่”
“จ๊ะ มีอะไรเหรอ”
“เปล่าครับ”
“งั้นเริ่มกันเลยนะ กล้องพร้อมไหม ไฟพร้อมไหม...”
นี่อาจจะเป็นโอกาสดีก็ได้ที่ผมจะได้บอกรักแป้ง เอาวะ เพื่องานและอนาคตของเรา เราต้องทำให้ได้
พอคิดแค่นั้นผมก็ไปลากยัยแป้งไปประจำที่ที่พี่เจนบอกไว้ เมื่อผู้กำกับสั่งเริ่ม ผมก็ค่อยเดินไปริมชายหาดตามที่พี่เจนสั่ง พอถึงจุดที่ผมจะบอกรัก ผมก็จับมือแป้งขึ้นมา
“แป้ง ฉันรักเธอ”
“0///0”
“คัด...น้องเชนทำหน้าได้อารมณ์มากเลยดูสิน้องแป้งเค้าเขินใหญ่แล้ว”
นี่แป้งเขินเหรอ หรือว่า...แป้งเค้าก็ชอบผมเหมือนกัน งั้นคืนนี้ผมจะบอกแป้งให้เค้ารู้กันไปเลยว่าผมรักแป้ง ผมรักแป้งงงง และที่พูดมามันก็เป็นเรื่องจริงทั้งหมด
พอถ่ายเอ็มวีเสร็จก็ค่ำพอดี พรุ่งนี้ผมก็จะต้องกลับบริษัทแล้ว จึงต้องจัดการเก็บอุปกรณ์ต่างๆขึ้นรถไว้ก่อน ตื่นขึ้นมาจะได้กลับเลย อ่านั้นแป้งเดินมาพอดีเลย เอาละ อิล อี ซัม (1 2 3)
“แป้งเธอว่างหรือเปล่า พอจะมีเวลาไปเดินเล่นกับฉันได้หรือเปล่า”
“ได้สิ ว่างอยู่พอดีปะไปกันเลย”
“อืม”
สายลมพัดแผ่วเบาๆอากาศกำลังเย็นสบาย แสงของดวงจันทร์วันเพ็ญส่องแสงจ้าบนท้องฟ้าไม่มีเมฆบัง ทำให้มองเห็นดวงจันทร์ได้ชัด เราสองคนเดินไปริมชายหาดไปเรื่อยๆ บ้างก็คุยกันเรื่องเจ้ามินจุงอย่างโน้นอย่างนี้ คุยเรื่องดาราคนโน้นคนนี้แล้วก็คุยเรื่องที่เราเจอกันตอนแรก
“เชนนายว่าไหม ตอนแรกเราไม่หน้าทะเลาะกันเลยเนอะ ถ้าเราดีด้วยกันแบบนี้ตั้งแต่แรกเราคงเป็นเพื่อนที่ดีด้วยกันได้นะ นายว่าไหม”
“เพื่อนเหรอ...เธอว่าเราเป็นเพื่อนกันเหรอ”
“ก็ใช่นะสิ นายคือเพื่อนฉัน” ว๊า...เพื่อนเหรอ แต่ไม่เป็นไรเป็นเพื่อนแล้วค่อยขยับไปเป็นแฟน
“ดีจังเลยนะ ที่ฉันมีเพื่อนอย่างเธอนะแป้ง”
“จ้า พ่อหนุ่มดงแฮ”
เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก ผมกำลังเล่นกับแป้งดีๆก็มีผู้ชายสามคนเดินเข้ามาชนกับไหล่ของผม อะไรเนี่ยที่เดินมีตั้งกว้างมาเดินชนกันทำไมวะ นี่มันหาเรื่องนี่หว่า
“เออของโทษครับ คุณใช่คุณเชนหรือเปล่า” ผู้ชายคนที่ชนไหล่ผมเงยหน้าถามผมที่กำลังงงว่ามันเกิดอะไรกันแน่ แต่พูดดีอย่างนี้ด้วยไม่หาเรื่องดีกว่า
“ครับใช่ครับผมนี่แหละเชน”
“มีคนฝากของมาให้คุณครับ ย๊ากกกกกกกกก.............จึ้กกกกก” มีผู้ชายอีกคนทำท่าล้วงกระเป๋ากางเกง แล้วก็ดึงมีดออกมาจากกระเป๋าวิ่งตรงมาที่ผมทันที แต่แป้งก็มากระโดดรับมีดแทนผม
“นี่ไงละของฝากจากคุณเยเย่ เข้าฝากมาบอกอีกว่าอย่าอวดดีนักไม่งั้นจะเจออีก ไปพวกเรากลับ ผิดคนแต่ไม่เป็นไรโว้ย” ไอ้บ้าอยู่ดีๆไม่ว่าดี มาก่อความเดือดร้อนให้ชาวบ้านชาวช่องเค้า อย่าให้ฉันเจอแกนะไอ้เยเย่ไม่งั้นแกตาย
“โอ๊ย...” เสียงร้องครวญครางจากแป้งดังก้องในสมองผม ทำไมแป้งต้องมากระโดดรับมีดแทนผมด้วย แต่ดีนะแผลของแป้งแค่เฉียดๆข้างเอวเท่านั้น
“แป้งๆ ฉันจะพาเธอไปหาหมอนะรอก่อน” ผมแบกแป้งขึ้นหลัง แล้วพยายามวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ กลับไปโรงแรม แป้งรอก่อนนะฉันจะไม่ให้เธอเป็นอันตรายอีก
ความคิดเห็น