ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ซารางเฮโยรักวุ่นวายยัยตัวร้ายกับนายตัวแสบ

    ลำดับตอนที่ #8 : การพบกันอีกครั้งของ พ่อ แม่ ลูก

    • อัปเดตล่าสุด 14 ม.ค. 51


    ตอนที่ 8 การพบกันอีกครั้งของ พ่อ แม่ ลูก

            ผมจึงตัดสินใจเดินตรงเข้าไปส่องดูห้องที่อยู่ข้างหน้า ผมเดินไปแตะกระจกบานใหญ่ที่กันอยู่ พอสัมผัสปั๊บเสียงมันก็ดังครืนๆเหมือนกับเวลาเรากดชักโครก จากนั้นบานกระจกก็แบ่งเป็นสองส่วนกลายเป็นประตูให้เข้าไปในห้อง ผมจึงตัดสินใจเดินเข้าในนั้น ข้างในมันจะเป็นท่อหลอดแก้วขนาดใหญ่ แล้วข้างในหลอดแก้วก็เป็นน้ำสีเหลืองกับลูกกลมๆเหมือนหัวคนลอยอยู่ในนั้น แต่ทำไมไอ้หัวที่มันลอยตุบป่องๆนั้นมันหน้าคล้ายๆกับผู้หญิงคนที่เราเจอเมื่อกี้จังเลยนะ
            ผมยืนสำรวจอุปกรณ์รอบข้าง มันเหมือนกับในหนังแนววิทยาศาสตร์ มีทั้งหลอดทดลอง สายไฟ แล้วก็เครื่องชาร์ตไฟหุ่นยนต์ ทุกอย่างเหมือนจริงมาก ผมเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆก็พบกับชายชราคนหนึ่งท่าทางหยังกับนักวิทยาศาสตร์ นั่งอ่านหนังสือตำราเล่มหนึ่งอยู่ ผมเดินเข้าไปใกล้ๆเค้ามาขึ้น ดูเหมือนว่าเค้าจะโดนขังอยู่ในนี้นะโซ่ที่คล้องอยู่ขาจนขึ้นสนิม ผมเอามือไปสะกิดที่ไหล่ของเขาแต่มือผมกลับทะลุผ่านเสื้อผ้าไปโดยง่ายดาย นี่มันอะไรกัน ทำไมมือผมถึงทะลุผ่านเสื้อเค้าไปง่ายๆ ผมจึงลองสัมผัสใหม่อีกครั้งคราวนี้ก็ทะลุผ่านอีกตามเคย
    มันเกิดอะไรขึ้นทำไมร่างกายผมจึงไม่สามารถสัมผัสกับสิ่งของได้ นี่ผมตายแล้วเหรอ
           เสียงเปิดประตูดังมาจากข้างหลัง ผู้ชายใส่ชุดขาวสามคนเดินมาปลดโซ่ออกจากชายชราคนนั้น เมื่อชายชราหลุดพ้นจากโซ่ เค้าก็หันหน้ามองมาทางผม เค้าหน้าตาคุ้นมากๆเหมือนกับเคยเห็นที่ไหนสักแห่ง
    “ด็อกเตอร์พิรัชต์ครับเชิญห้องแล็บครับ” ชื่อพิรัชต์เหรอ นั้นมันพ่อผมนิ พ่อคร๊าบ................
             ผมวิ่งเข้าไปหาพ่อแต่ก็กลับทะลุไปโผล่ข้างหลัง อุตส่าได้เจอพ่อทั้งทีแต่กลับพูดคุยไม่ได้กอดไม่ได้ ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ด้วย
             ผมเดินตามผู้ชายทั้งสามไปห้องแล็บอีกห้องหนึ่ง พอเข้าไปห้องนี้ก็คล้ายๆห้องผ่าตัดของโรงพยาบาลแต่มีสองเตียง เตียงหนึ่งคิดว่าหน้าจะเป็นหุ่นยนต์เพราะว่ามีสายไฟระโยงระยางเต็มไปหมด ส่วนอีกเตียงหนึ่งมีผู้หญิงนอนอยู่
    “พลอยเธอรอก่อนนะ ฉันจะต้องทำให้เธอกลับมาอยู่กับฉันให้ได้” พลอยนั้นแม่เหรอ คุณแม่ไม่จริงใช่ไหม                                          
            ในที่สุดผมก็ได้พบกับพ่อและแม่ผมสักที แต่ทำไมผมต้องมาอยู่แบบร่างไร้วิญญาณด้วย แล้วศพคุณแม่ที่เราเจออยู่ละ งงกันใหญ่แล้ว คุณพ่อหยิบอุปกรณ์สายไปต่อเข้ากับตัวคุณแม่ จากนั้นทั้งร่างหุ่นยนต์และร่างของคุณแม่ก็กระตุก ชักเหมือนกับโดนไฟช็อต สักพักก็หยุดลง ร่างของคุณแม่ไหม้เกรียมเหมือนกับโดนไฟไหม้ ส่วนเจ้าหุ่นยนต์ที่หน้าตาเหมือนยองฮวาก็ลุกขึ้นนั่งอยู่บนเตียง
    “ฟื้นแล้วสินะที่รัก ผมเฝ้าดูคุณมาตลอดบัดนี้ เราทั้งสองคนก็ได้กลับมาอยู่ด้วยกันแล้วนะ”
    “คุณคะ ขอบคุณนะคะ แล้วร่างนี้จะเอายังไง”
    “ก็เอาไปขึ้นเครื่องทาเม้ดชีนย้อนเวลาไปตอนเครื่องบินตกแล้วทิ้งร่างคุณไว้นะสิ” ฮ่ะทาเม้ดชีนมันมีซะที่ไหนกันเล่า เล่นกันเป็นเด็กๆไปได้ ทาเม้ดชีนมันมีแต่ในการ์ตูนเท่านั้นแหละ
    “แล้วลูกเชนละคะ เราจะบอกลูกยังไง”
    “ตอนนี้อย่าพึ่งบอกเลย พวกองค์กรลับมันยังไม่ไว้ใจเราเท่าไหร่ คุณรู้ไหม ผมแรกกับการมาเป็นคนขององค์กรลับเพื่อช่วยให้คุณพ้นจากความตาย ดังนั้นเราควรอยู่ที่นี่ต่อไปเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับลูกเรา”
    “ค่ะ ฉันทราบแล้ว”
              เพราะอย่างนี้เองใช่ไหมที่พ่อไม่ส่งข่าวมาหาผม กลัวว่าผมจะเป็นอันตราย แต่ยังไงก็ช่างเถอะผมได้พบพวกท่านผมก็ดีใจแล้วละครับ
    “เชน เชน ตื่นได้แล้วลูก” เสียงใครคนหนึ่งเรียกผม ภาพข้างหน้าที่ผมเห็นพ่อกับแม่กอดกันก็เริ่มจางหายไป พอผมลืมตาขึ้นผมก็นอนอยู่ที่ห้อง ที่เตียงของผมเหมือนทุกวัน คุณป้าก็มาปลุกผมเหมือนเคย นี่ผมฝันไปเหรอ หรือว่ามันเป็นเรื่องจริง ผมงงไปหมดแล้วนะ
    “คุณป้าครับผมมานอนที่นี่ได้ไง”
    “ก็เชนมานอนตามปกติไม่ใช่เหรองานเสร็จก็ขึ้นมานอนเลยชุดก็ไม่ได้เปลี่ยน”
    “เหรอฮ่ะ”
           นี่มันแปลกจริงเลย ผมจำได้ว่าล่าสุดนี่ผมอยู่กับยองฮวาคนนั้นไม่ใช่เหรอ แต่ทุกอย่างก็ดูเหมือนกับว่าเป็นปกติ ถ้าผมจำไม่ผิดนี่ผมโดนแทงตรงเอวด้านขวานี่นา ผมจึงตัดสินใจรื้อเสื้อดู แต่ก็พบเพียงรอยช้ำเขียวๆขนาดใหญ่อยู่ตรงบริเวณรอบๆเอว โอ้ว...มันช่างเป็นเรื่องที่หน้าอัศจรรย์ใจจริงๆ
          ผมเดินจ้ำเท้าไปโดยเร็ว เดินไปที่ลานจอดรถที่อยู่ใต้บริษัทก็พบผู้หญิงที่ชื่อยองฮวายื่นกอดอกรออยู่นั้นก่อนแล้ว ผมจึงตัดสินใจวิ่งเข้าไปถามให้รู้ความว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร ผมคิดไปเองหรือมันฝันไปกันแน่ แต่เมื่อผมเดินเข้าไปเกือบจะถึงตัวเธอ ยองฮวาก็ถลาเข้ากอดผมก่อน
    “ลูก ลูกจำแม่ได้แล้วสินะ”
    “แม่....” เราสองคนยืนกอดกันกลม สมกับที่ไม่ได้พบกันมานาน แต่แล้วผมก็ได้ยินเสียงคนตระโกนเรียกชื่อผม มันก็คือปาปารัสซี่ มาถ่ายรูปตอนผมกับแม่กอดกันอยู่
           เราทั้งสองคนจ้องหน้ากัน ต่างคนต่างทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าปาปารัสซี่โผล่มาจากไหน แต่ผมว่ามันคงต้องเป็นข่าวใหญ่แน่ๆงานนี้
    “ลูกเชน ลูกไม่ต้องห่วงแม่จะอยู่ข้างๆลูกต่อไป ให้ลูกแก้ตัวกับนักข่าวว่าแม่เป็นชาวต่างชาติ เป็นเพื่อนของเชน กอดกันตามเพื่อนรักที่ไม่ได้พบกันนานเข้าใจไหมลูก”
    “ครับแม่”
          ผมและคุณแม่พากันเดินจับมือกันไปกินข้าวนอกบริษัท ร้านอาหารร้านนี้ออกแนวเป็นร้านอาหารเกาหลี และเมื่อพนักงานนำรายการอาหารมาวางไว้ให้ ผมก็เปิดอ่าน
         ในที่สุดผมก็รู้ว่าตัวเองอ่านภาษาเกาหลีไม่ออกก็ครั้งนี้แหละครับ อยู่บริษัทล่ะมาทำเป็นฮันนยองคนนั้นคนนี้ พอมารู้ตัวอีกทีอายไหมละครับอายคนหรือเปล่า  แล้วผมจะสั่งอาหารมากินยังไง อ่านไม่ออกอะ    
    “น้ำส้มสองครับ”
    “อ้าวทำไมไม่สั่งอาหารกินละจ๊ะ”
    “แม่ครับผมอ่านเกาหลีไม่ออก (กระซิบสุดตัว)”
    “แล้วทำไมไม่บอกละจ๊ะ ถ้างั้นเอา จัมปง บุลโกกิแล้วก็ห่อซัมกเยทังกลับบ้านค่ะ”
    “แม่มันคืออะไรครับ (กระซิบครั้งที่สอง)”
    “จัมปงคือบะหมี่ต้มยำ บุลโกกิคือเนื้อย่าง ซัมกเยทังคือไก่ตุ๋นโสมจ๊ะ” ว้าว...รอบรู้จังเลยนะครับ ถ้าเกิดผมมาคนเดียวจะสั่งยังไงละครับอ่านไม่ออก (รวมทั้งภาษาอังกฤษด้วย)
           สักพักพนักงานเสิร์ฟก็ยกถ้วย แต่คงจะเรียกถ้วยไม่ได้หรอกกะละมังใบน้อย มาว่างต่อหน้าผม
    “จัมปงมาแล้วครับ” โอ้ว...วันนี้ถ้ากินหมดนี่ข้าวเย็นก็ไม่ต้องกินกันเลยทีเดียว
    “เป็นไงเชนลูกหน้าเปลี่ยนสีแล้วนะนั้น”
    “แม่ครับ ผมเห็นแล้วผมสงสารตัวเอง ถ้ากินหมดนี่ข้าวเย็นผมคงไม่ต้องกินกันพอดี”
    “ก็อย่ากินเยอะสิจ๊ะ”
            ผมลองชิมเจ้าจัมปงนี่เข้าปากเป็นคำแรก โอ้วพระเจ้ามันช่างอร่อยอะไรถึงเพียงนี้ผมไม่เคยกินอะไรที่อร่อยขนาดนี้ (ยกเว้นส้มตำ)มาก่อนเลย
    “เชนแม่มีเรื่องจะขอนะ”
    “ครับว่ามาเลย”
    “อย่าเรียกแม่ว่าแม่นะ ให้เรียกยองฮวาเข้าใจไหม” นั้นนะสิถ้าเกิดเรียกแม่นะ เค้าจะหาว่าแม่คลอดผมตอนอายุสองขวบแน่ๆเลย   
           เวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง เราทั้งสองคนก็เริ่มจ้องหน้ากันกับอาหารจานยักษ์ที่กองกันอยู่ตรงหน้า ไม่รู้ว่ากินกันหมดได้ยังไง แต่ที่แน่ๆจัมปงผมหมด
    “เก็บตังค์ค่ะ”
    “ทั้งหมด 130000 วอนค่ะ”
    “ขอจ่ายเป็นเงินไทยค่ะ”
    “ทั้งหมด 4800ค่ะ”
            ไม่หน้าเชื่อว่ากินข้าวคาบเดียวถึงกับหมดเกือบตั้ง 5000 แน่ะ ว่าไปอาหารต่างประเทศก็ไม่อร่อยเท่าส้มตำบ้านเราเลยเนอะ ผมว่าเรากลับไปรักษาวัฒนธรรมบ้านเราดีกว่า
            พอทานอาหารเสร็จแม่ก็ไปส่งผมที่บริษัทตามเดิม แถมยังให้ค่าขนมผมอีกหนึ่งหมื่นถ้าทางท่านจะรวยแหะ
    “เชน” เสียงตระคอกเรียกจากด้านหลังผม ผมค่อยๆหันหน้าไปตามเสียงที่เรียก ก็พบแป้งยืนอยู่ข้างหลัง
    “อะไรเหรอ”
    “นายยังจะมีหน้ามาพูดอีกว่าอะไร นายนะเป็นข่าวดังแล้วรู้ไหม”
    “ขงข่าวอะไรฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
    “นายไปเปิดในหนังสือพิมพ์เอาสิเอาสิจะได้รู้ว่านายทำอะไรลงไป”
    “อะไปก็ได้”
           ผมเดินตามแป้งเข้าไปในห้อง เพื่อดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมแป้งดูตกใจขนาดนี้
                     ข่าวสตาร์ทูเดย์ ประจำวันที่ 32 /13/2555
           นักร้องหน้าใหม่อักษรนำหน้า ช. กอดกันกลมกับนักร้องชื่อดัง คิมยองฮวา
            นักร้องของประเทศเกาหลี  ทางลานจอดรถบริษัทแห่งหนึ่ง
            แถวเอเชี่ยนWorld โปรดสั่งเกตรูป
                                                                       จบข่าว
           เฮ้ยพึ่งเจอกับคุณแม่ เฮ้ย...ยองฮวาเมื่อเช้านี่ทำไมข่าวมันมาลงเร็วจัง คงต้องมีใครรู้ล่วงหน้าแน่ๆเลยว่าผมจะต้องมาพบกับยองฮวาอยู่ตรงนี้ แป้ง...แป้งไง แป้งเค้ารู้ว่าผมเจอยองฮวา 
    "แป้งเธอใช่ไหมถ่ายรูปฉัน"
    "จะบ้าเหรอ ฉันนะอยู่กับพี่เจนตลอดเวลา"
    "จริงอ่ะ"
    "จริงสิ"
    "แน่อ่ะ"
    "แน่สิ"
                                                

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×