Sekai's
sekai คือโลกทั้งใบของกันและกัน
ผู้เข้าชมรวม
533
ผู้เข้าชมเดือนนี้
8
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
สามวันมาแล้วที่พวกเขาไม่ได้คุยกัน...
ช่วงเวลาสั้นๆ แบบนี้ มันพอที่จะทำให้จิตใจของเขาฟุ้งซ่านเอาได้ง่ายๆ สามวันที่ไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับอีกฝ่ายหนึ่งบ้าง เขาจะเป็นอย่างไรในเวลาที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันเหมือนที่ผ่านมา
ช่วงเวลาแค่สามวันที่แค่รู้สึกถึงแรงสั่นเพียงเล็กน้อยจากสมาร์ทโฟนสีแบล็คเจ็ทรุ่นล่าสุดในมือก็สามารถทำให้ใจของเขาเต้นรัวแรงขึ้นมาได้ แล้วก็ปรับลดลงแทบจะทันทีเมื่อเห็นแจ้งเตือนข้อความหนึ่ง เขาใช้นิ้วโป้งสไลด์แจ้งเตือนไปทางด้านซ้ายเพื่อเคลียร์ข้อความของผู้โชคร้ายบนหน้าจอสมาร์ทโฟนราคาแพงออก ด้วยเหตุผลที่ว่าข้อความนั้นไม่ได้มาจากคนที่กำลังรอ
ชายหนุ่มจ้องมองพื้นหลังหน้าจอสีดำสนิท มีเพียงความอ่อนช้อยของตัวอักษรสีขาวหนึ่งตัว ออกแบบโดยนักวาดภาพประกอบชื่อดังด้านศิลปะการคัดตัวอักษร เขาตั้งใจใช้ภาพนี้และตัวอักษรนี้แทนตัวตนของอีกฝ่ายที่เรียบง่ายแต่งดงามไม่ต่างกัน คนเดียวกับที่ทำให้ใจของเขาอัดแน่นไปด้วยความฟุ้งซ่านอยู่ตอนนี้
วัตถุสีดำในมือสั่นอีกเพียงครั้ง หน้าจอปรากฏชื่อของบุคคลปลายทางที่ทำให้เขาต้องสไลด์หน้าจอเพื่อรับสายโดยอัตโนมัติ คิ้วเรียวได้รูปขมวดเข้าหากันทันที
"ใจร้าย..." ตัดพ้อเสียงทุ้มนิ่งเพียงเบาทั้งที่หัวใจของเขาแทบหยุดเต้น ชวนให้อีกฝ่ายหัวเราะออกมาทันทีที่ได้ยิน พลอยเรียกให้คนที่ตัดพ้อกระตุกมุมปากยิ้มตามอย่างอดไม่ได้ ยิ้มเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายจะดูน่ารักแค่ไหนยามที่เจ้าตัวหัวเราะออกมาจนตาหยี
"ปล่อยคนอื่นเขาเป็นบ้าอยู่ได้ตั้งสามวัน ยังจะหัวเราะอีก"
"เป็นบ้าอะไร ติดถ่ายละครอยู่ ก็รู้นี่" ทิ้งท้ายประโยคด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะเบาๆ
"ไม่ได้พักกองเลยหรือไงกัน?" โต้ตอบไปอย่างนั้นทั้งที่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนตั้งใจทุ่มเททำงานมากแค่ไหน
"ได้พักกองก็ต้องกินข้าว อ่านบทไปด้วย เพิ่งได้จับมือถือก็ตอนนี้"
"ปล่อยให้คิดถึงอยู่ได้ จะเป็นบ้าแล้วนะ รู้ตัวมั้ย"
"แล้วไม่ยอมโทรมาล่ะ?"
“ก็กลัวโทรไปกวนใจ ไม่รู้ว่าจะคุยด้วยได้เมื่อไหร่” น้ำเสียงชายหนุ่มเริ่มตัดพ้อหนักขึ้น
“ไม่ใช่ว่าคุยกับใครอยู่หรอกนะ”
“จงอินครับ” เพราะเสียงปลายสายเริ่มนิ่ง ไม่เจือรอยยิ้มหรือเสียงหัวเราะเหมือนอย่างตอนแรกคุย “ถ้าได้คุยกับคนอื่น ตอนนี้เซฮุนคงไม่เป็นบ้า” จบประโยค เขาได้แต่เงียบ รอฟังคำตอบจากอีกฝ่ายที่ไม่แน่ใจว่ากำลังน้อยใจหรือเสียใจมาจากไหนกัน ถึงได้มาลงกับเขาแบบนี้ เพราะสิ่งที่เจ้าตัวกล่าวหา ไม่ได้เป็นความจริงเลยแม้แต่น้อย
“...”
“จงอิน...” ฝ่ามือใหญ่กำสมาร์ทโฟนเอาไว้แน่น เขาไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย อยู่ห่างกัน ต่างคนต่างฟุ้งซ่าน ทั้งความรู้สึกที่เหมือนจงอินกำลังจะลอยหายไประหว่างระยะทางที่ไกลกันขนาดนี้ ริมฝีปากเรียวเม้มเข้าหากันแน่น เขาอยากกลับบ้านแล้ว อยากกลับไปเห็นสีหน้าท่าทางตอนที่เจ้าตัวประชดประชัน เขาจะได้อ่านแววตาใสๆ ของอีกฝ่ายออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ จะกัดริมฝีปากล่างแบบที่ชอบทำเวลารู้สึกประหม่า หรือจะเล่นกับมือตัวเองแบบที่ชอบทำเวลาเขิน จะหลบสายตาของเขาหรือไม่
“หืม...”
“คิดถึงเซฮุนมั้ย?” ตัดสินใจถามออกไปเสียงอ่อน เพราะรู้สึกว่าอีกฝ่ายเริ่มจะน้อยใจขึ้นมาที่ไม่ได้รับโทรศัพท์จากเขาเช่นกัน เป็นความผิดของเขาเองที่ตั้งแง่ตั้งงอนใส่จงอินก่อน และเพราะเขาไม่ได้เห็นหน้ากันตอนนี้ ดีที่สุดคือไม่ชวนทะเลาะ
“อืม... กลับเมื่อไหร่?” เหมือนอีกฝ่ายจะรับรู้ได้ถึงความทรมานของเขา จึงยอมอ่อนข้อลงบ้าง
“มะรืนนี้ครับ โชว์มีวันนี้ พรุ่งนี้มีทานข้าว เยี่ยมชมงานนิดหน่อย”
“ครับ...”
“อยากได้อะไรมั้ย?”
“...เซฮุนไง”
“...”
“...ไปท่องบทต่อก่อนนะ” ทันใดนั้นสายก็ตัดไป ปล่อยให้เขาค้างเติ่งอยู่กับคำตอบอย่างช่วยไม่ได้ เซฮุนดึงสมาร์ทโฟนที่แนบหูออก จงอินวางสายไปก่อนแล้ว แต่เขายังคงจ้องมองหน้าจอที่เปลี่ยนเป็นหน้าจอดำสนิทกับตัวอักษรสีขาวสวยอย่างนั้น ตัวอักษร J ตัวย่อแทนชื่อของจงอิน คนที่ทำให้เขาแทบเป็นบ้าอยู่ตอนนี้
ไม่นานนักแรงสั่นน้อยๆ ในฝ่ามือเรียกความสนใจจากเซฮุนอีกครั้ง แจ้งเตือนจากแอพพลิเคชันสนทนาที่เขาใช้คุยกับจงอินปรากฏขึ้นบนหน้าจอ ข้อความสั้นๆ ห้วนๆ แต่แสดงออกถึงความน่ารัก เรียกอมยิ้มของเขาราวกับอาฟเตอร์ช็อก
“รีบกลับล่ะ”
ถ้าไม่ติดว่าต้องเข้าร่วมงานแฟชั่นแบรนด์ไฮเอนด์ระดับโลกที่ฝรั่งเศส เซฮุนแทบอยากจะหาไฟลท์กลับไปหาเสียตอนนี้ให้ได้
เขาคงใกล้บ้าเพราะจงอินเข้าไปทุกทีแล้ว...
ผลงานอื่นๆ ของ sejonginnie ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ sejonginnie
ความคิดเห็น