คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 6 :: โอ้ว...บอกฉันทีว่ามันไม่จริงแซนดร้า O[]O!!!
บทที่ 6 :: โอ้ว...บอกฉันทีว่ามันไม่จริงแซนดร้า O[]O!!!
@ 10:15 pm.
“งืมๆ” ปิ่นโตค่อยๆลืมตาหน้าเพราะรู้สึกเหมือนมีอะไรอุ่นๆมาจ่ออยู่ทีหน้าแล้วกระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับแสง
“ตื่นสักทีนะ =_=” เธอเห็นไมเนอร์ยื่นเอาไฟฉายกระบอกใหญ่จ่อมาที่หน้าเธอ ไม่พอแค่นั้นยังเอาแว่นขยายมากรองก่อนแสงโดนหน้าเธออีกต่างหาก (วิธีปลุกของนายยอดเยี่ยมจริงๆ - -;;)
“แว้กกกกกกกกก นี่นายจะเผาหน้าเค้ารึไงห๊า!” ปิ่นโตโวยวายพร้อมกับกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่งดีๆ
“ถ้าจะโวยวายก็ช่วยเช็ดน้ำลายก่อนได้มั้ย” ไมเนอร์หรี่ตาลงมองปิ่นโตที่รีบเอามือเช็ดมุมปากอย่างตกใจ
“ทำไมไม่พาเค้าเข้าไปในบ้าน!” ปิ่นตำแก้มป่องแล้วเมินหน้าหนีไปอีกทาง
“ก็ไม่มีกุญแจนี่ จะให้ปีนเข้าไปหรอ”
“เอ่อ...” ปิ่นโตเงียบปากไปเพราะเถียงไม่ออก
“นั่งเงียบอยู่ได้ รู้แล้วก็เอากุญแจมาดิ” ไมเนอร์ยื่นมือไปตรงหน้าของปิ่นโตแต่แทนที่มือของเขาจะแบบเพื่อให้ปิ่นโตวางกุญแจ มือของไมเนอร์กลับกำแน่นมีเพียงนิ้วก้อยที่ยื่นออกมา
“หือ?”
“ไม่ต้องมาเอ๋อเลย คนเค้าง้ออยู่ก็รีบหายงอนสักที! ( -////-)” ไมเนอร์เสมองไปทางอื่นแล้วแกล้งโวยวายเสียงดังเพื่อกลบเกลื่อนความเขิน
“....”
“....”
“อื้ม” ปิ่นโตนิ่งไปสักพักนึงก็แย้มยิ้มกว้างแล้วยื่นนิ้วก้อยของตัวเองไปเกี่ยวไว้กับนิ้วก้อยของไมเนอร์อย่างเต็มใจ
“เธอนี่เหมือนเด็กจริงๆด้วย” เขาอมยิ้มแล้วเอื่อมมือมาโยกหัวของปิ่นโต
“ไม่เอากุญแจหรอ” ปิ่นโตหน้างอเมื่อไมเนอร์เปลี่ยนจากการโยกหัวเธอเบาๆเป็นการยีผมเธอจนฟูแทน
“เอามาสิ” ไมเนอร์เลิกยีผมปิ่นโตแล้วแบมือขอปิ่นโตจึงหยิบกุญแจบ้านที่อยู่ในกระเป๋ากระโปรงให้
“เปิดประตูเล็กนะ” ปิ่นโตพูด
“มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วล่ะ แต่ขาเธอเจ็บ ขี่หลังมั้ย?” ไมเนอร์ทำหน้าเนือย
“พยุงก็เดินได้เล่า เค้าเจ็บขาแค่ข้างเดียวนะ -^-)”
“โอเคๆ รอแป๊ปนะ” ไมเนอร์เดินไปไขประตูเล็กแล้วเดินกลับมาที่รถ
“ลุกไหวมั้ย” ไมเนอร์ยื่นมือไปข้างหน้าปิ่นโตแล้วถาม
“ไหวดิ เอามือออกไปเลย ยี้ๆ -3-” ปิ่นโตลุกขึ้นยืนเองอย่างกระฉับกระเฉง
“เธอนี่มัน =_=” เขาบ่นพึมพำแล้วจับแขนปิ่นโตพาดคอของตัวเองส่วนมือเขาก็โอบเอวปิ่นโตไว้
“เดินหน้าเต็มกำลัง >_<)/” ปิ่นโตทำหน้าดี้ด้าแล้วยื่นมือชี้ไปข้างหน้า
“ปัญญาอ่อน -_-” ไมเนอร์เลยขัดเข้าให้
“โหดร้ายยยยยยยยยยยยยยย T^T” ปิ่นโตโอดแล้วลดมือลง
“เล่นเป็นเด็ก” ไมเนอร์ส่ายหน้าช้าๆแล้ว
พยุงปิ่นโตเข้าไปส่งข้างใน
@ โรงเรียน (เช้า)
ปิ่นโตเดินไปนั่งเล่นที่สวนในโรงเรียนเพื่อรอเอากระเป๋ามาคืนหมอนอิงอย่างอารมณ์ดี เธอมองหาน้องซูซี่ที่เล่นด้วยทุกวันตั้งแต่มาอยู่ที่นี่แล้วสายตาก็ไปสะดุดที่รองเท้านักเรียนของใครคนนึง
“อยู่นี่เองงงงง” ปิ่นโตเงยหน้าไปมองต้นเสียงอย่างแปลกใจ
“คนสวยมีอะไรหรอ” ปิ่นโตกระพริบตาปริบๆ
“ฉันอยากเป็นเพื่อนกับเธอน่ะ!” นัสสึมิพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงเต็มพิกัด
“เมื่อวานคนสวยจะตบเค้าอยู่เลยอ่ะ” ปิ่นโตขัด
“แหมมมมม มันผ่านมาแล้วนะ ลืมๆไปเต๊อะ ^_^”
“อะไรทำให้คนสวยอยากเป็นเพื่อนกับเค้าอ่ะ =_=^”
“ก็ฉันไม่เคยมีเพื่อนเลยน่ะสิ ที่ได้มาก็มีแต่มิตรภาพจอมปลอม ฉันคิดว่าเธอคงไม่เป็นแบบคนพวกนั้นใช่มั้ย” นัสสึมิหันมาพูดด้วยท่าทีจริงจัง
“เอางั้นก็ได้” ปิ่นโตพยักหน้าหงึกหงัก
“ว้ายยยย เริ่ดที่สุด! >[]<” นัสสึมิกระโดดกอดปิ่นโตอย่างดีใจ
“อะแฮ่ม!” เสียงกระแอมของหมอนอิงที่ยืนหน้ามู่ทำให้นัสสึมิเปลี่ยนมาสงบเสงียมเรียบร้อยดังเดิม
“หมอนอิงงงงงงง เค้ามากระเป๋ามาให้” ปิ่นโตเห็นหมอนอิงก็แทบจะบินไปหา
“ขอบใจ” หมอนอิงตอบห้วนๆ
“เป็นอะไรไปอ่ะ” ปิ่นโตมองท่าทีของหมอนอิงด้วยท่าทีสงสัย
“ไม่มี กลางวันนี้ฉันไม่ไปกินข้าวด้วย ไม่ต้องรอ” หมอนอิงเบือนหน้าไปทางอื่น
“อ้าววว ทำไมอ้ะ” ปิ่นโตถามเสียงหลง
“ฉันจะไปกับวิกตอเรีย อ้อ! อาจจะไม่ไปด้วยต่อไปแล้วล่ะ”
“อิงโกรธอะไรเค้าอ่ะ T^T”
“ก็บอกว่าไม่มีไง! รำคาญ!” หมอนอิงตวาดใส่หน้าปิ่นโตแล้วกระชากกระเป๋าพร้อมกับหมุนตัวเดินออกไปทันที
“...!” ปิ่นโตยืนนิ่งสักพักก็เดินไปหยิบกระเป๋าของตัวเองที่วางไว้บนม้านั่งไม้แล้วเดินไปลากข้อมือของนัสสึมิให้ออกไปนอกสวยด้วยกัน
“หมอนอิงเป็นอะไรหรอ พิน?” นัสสึมิถามด้วยท่าทางงงๆ
“ไม่รู้อ่ะ” ปิ่นโตหยุดเดินแล้วหันหน้ามาตอบ
“ไปสืบกันมั้ย ><” นัสสึมิทำหน้าตาดี้ด้าแล้วลากข้อมือของปิ่นโตไปที่โรงอาหารด้วยความเร็วแสงบ้าง
“เหวออออออ เฮ้ย! ช้าๆหน่อย นัสสึมิขี้หมา! เค้ากำลังจะเหยียบขี้! T^T” ปิ่นโตร้องเสียงหลง
ด้วยท่าไม้ตายความไวแสง 6 วิ(?) ของนัสสึมิทำให้ทั้งสองคนมาถึงโรงอาหารไวกว่ากำหนด และทันเห็นหมอนอิงกับวิกตอเรียเดินไปในโรงอาหารพร้อมกัน
“คนสวยรู้ได้ไงอ่ะว่าหมอนอิงจะมาโรงอาหาร” ปิ่นโตถาม
“ฉันไม่รู้หรอกว่าหมอนอิงจะมาโรงอาหาร แต่รู้ว่ายัยวิกมหาภัยนี่ชอบสิงโรงอาหารตอนเช้า” นัสสึมิตอบ
“วิกตอเรียคนนี้ใช่คนที่เรียนเก่งๆ ใจบุญมาก แล้วก็นิสัยดี สวย รวย แถมยังเป็นที่นิยมของผู้ชายด้วยรึเปล่าอ่ะ” ปิ่นโตถามต่อ
“ถูกต้อง แต่เธอน่ะโดนต้มแล้ว ยัยวิกนี่นะ สวมหน้ากาก ชัดๆ ดูปรู๊ดเดียวก็รู้” นัสสึมิหันมาบอกปิ่นโต
“อะไรคือปรู๊ดอ่ะ =_=”
“ช่างมันๆ เป็นคำที่ฉันคิดค้นขึ้นมาเพื่อเพิ่มอรรถรสในการเมาท์น่ะ”
“แล้วจะมาสืบอะไรอ่ะ”
“ก็สืบไงว่าหมอนอิงโดนยัยเฟคนี่เป่าหูอะไรถึงได้โกรธเธอ”
“อ่า...แล้ว...” ปิ่นโตกำลังจะอ้าปากถามแต่ก็ถูกขัดโดยนัสสึมิ
“เดี๋ยวค่อยถาม เงียบๆนะ ฉันจะอ่านปากที่สองคนนั้นคุยกัน”
“มันจะไม่บิดเบือนหรอ ความจริงน่ะ”
“ฉันมันนักอ่านปาก อยากรู้อะไรก็จะได้รู้ไง ฮิๆ”
“= =”
“...”
“...”
“บ้าจริง! ยัยวิกนั่นพูดเร็วชะมัด รู้แค่เค้าพูดเกี่ยวกับแอปเปิลอ่ะ” นัสสึมิสบถอย่าไม่พอใจ
“แอปเปิล?...” ปิ่นโตทวนงงๆ
“ใช่ ริงโงะไง”
“ริงโงะ...ริงโง” ปิ่นโตขมวดคิ้วแล้วพยายามนึงถึงคำที่เกี่ยวข้อง
“บางทีอาจเป็นชื่อคนก็ได้นะ ใครชื่อคล้ายๆแอปเปิลบ้างที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหมอนอิงด้วย”
“ริงโง...ริงโงะ...ริงโงโร่ไง!” ปิ่นโตโผลงขึ้นมา
“อ่า คงจะใช่”
“แล้วยังไงต่ออ่ะ ‘ ‘)”
“ก็เคลียร์สิยะ อย่างงี้ต้องคุย!” นัสสึมิพูดแล้วยกมือที่กำไว้ขึ้นฟ้าอย่างมุ่งมั้น
“งั้นไปโรงยิมกัน” ปิ่นโตจับข้อมือแล้วลากนัสสึมิไปโรงยิมที่อยู่ในเขตกีฬาของโรงเรียน
“โอ!” นัสสึมิตอบอย่างตื่นเต้น
@ โซนกีฬา
“เน่ๆ แอปเปิลคุงคนนั้นอยู่ไหนหยอออ >_<” นัสสึมิพึมพำขึ้นมาเมื่อปิ่นโตพาเดินเข้ามาถึงโรงยิมที่สี่แล้วแต่ก็ยังไม่เจอเขาอยู่ดี
“ถ้าจำไม่ผิดก็น่าจะอยู่ที่ยิมห้าทุกเช้ามั้ง เขาเป็นนักบาสอ่ะ” ปิ่นโตพูดแล้วเดินออกมาจากยิมสี่เพื่อจะตรงไปที่ยิมห้า
“อ้าว แล้วทำไมไม่ไปที่ยิมห้าตั้งแต่แรก เข้าๆออกๆทุกยิมอย่างงี้ก็เสียเวลาสิ” นัสสึมิบ่น
“ก็อยากแน่ใจ เค้ากลัวพลาด -3-” ปิ่นโตทำปากบู้
“ปิ่นโต!” เสียงทุ้มๆของใครคนนึงตะโกนมาจากด้านหลังของสองสาว
“=___=” <<< หน้าของปิ่นโตเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้ทันที
“มาหาฉันหรออออออ >_<” ผู้ชายตัวสูงๆ ผิวสีแทนสุดฮอต ใส่เสื้อกล้ามนักกีฬาที่ปกปิดกล้ามเนื้อมัดๆเรียงสวยรีบวิ่งมาหาสองสาว
“นี่หรอ O-O” นัสสึมิมองไปทางหนุ่มผิวแทนอย่างฉงนใจ
“เปล่า คนนี้ชื่อฟินส์เป็นเพื่อนสนิทของริงโงโร่น่ะ” ปิ่นโตตอบด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายแล้วพานัสสึมิเดินเลี่ยงนายฟินส์ที่ยืนเก๊กเท่อยู่เบื่องหน้าไปทางอื่น
“ปิ่นโตตต อย่าเมินกันสิ T^T” แล้วฟ.ฟินส์สุดน่าเบื่อก็เดินมาขนาบข้างของปิ่นโตพร้อมกับเสียงงุ้งงิ้ง
“เงียบน่า” ปิ่นโตบอกอย่างรำคาญ
“แต่ว่า...”
“ฝุ่น!” ปิ่นโตตะโกนเรียกคนตัวสูงที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ข้างๆต้นไม้ขัดทันทีที่ฟินส์จะตื๊อต่อ แล้วก็ได้ผลฟินส์หัวหดเข้ากระดองเต่าทันทีที่เห็นหน้าคมๆของคนคนนั้นหันมามองแล้วก็กระตุกยิ้มให้ปิ่นโตก่อนจะเดินมาหาช้าๆ
“ว่าไงสาวน้อย” ฝุ่นเดินมาจับหัวปิ่นโตโยกไปมา
“สูงขึ้นอีกแล้ว -^-) นี่ฝุ่นจะสูงกว่ามาตรฐานนายแบบอยู่แล้วนะ” ปิ่นโตหน้างอเมื่อต้องเงยหน้าคุยกับฝุ่นคอแทบเคล็ด
“ช่วยไม่ได้แหะ” ฝุ่นยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
“แต่ฝุ่นเป็นผู้หญิงน้า”
“ฉันไม่ชอบทำตัวอ่อนแอเหมือนผู้หญิง แต่ฉันชอบปกป้องผู้หญิงอ่อนแอนะ ^_<”
“เชอะ... ว่าแต่ริงโงะล่ะ” ปิ่นโตมองซ้ายมองขวา
“!!!” และนัสสึมิก็ยืนช็อคนิ่งพร้อมกับมองไปรอบตัวแล้วหยุดที่ปิ่นโต (ทำไมมีแต่คนแปลกๆวะ -_-)
“คนสวยยยยย ย้าฮูวววววว เฮ้ๆ โย่วววว” ปิ่นโตหันมามองนัสสึมิที่เงียบไป
“โอ้ว...บอกฉันทีว่ามันไม่จริงแซนดร้า O[]O!!!” นัสสึมิอ้าปากค้างเมื่อมองข้ามไหล่ปิ่นโตแล้วพบกับใครบางคนที่ไม่น่าจะมาพบกันตอนนี้เลย
“เค้าก็ไม่รู้เหมือนกันเดวิด =_=” ปิ่นโตรับมุกงงๆแล้วหันไปมองตามสายตาของนัสสึมิแล้วต้องเบิกตากว้างพร้อมกับพูดช็อคๆ
“เค้าว่าเค้ารู้แล้วล่ะจอร์จ... OoO!!!”
****************************************************************************************************
เอ้าาาาาาาาาาาาา มาจบกุ๊กกิ๊กแล้ว
ต่อไปอยากแต่งดราม่าเจ้าค่ะ
วางไว้ว่าต่อไปตัวร้ายจะกลายเป็นตัวดีและตัวดีจะกลายเป็นตัวร้าย
บทนี้จะสามารถพบเจอกับความหลุดของคนคนนึงค่ะ
มันหลุดจริงๆ 5555
อย่าลืมไปกราบคุณแม่กันนะคะวันนี้วันดี
[12-8-13]
T^T แวะมาอัพเดตค่ะ มีข่าวเลวร้ายมาแจ้ง โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ
คอมข้าพเจ้าเหมือนเกิดอาการผิดปกติ
ไม่สามารถเปิดไมโครซอฟต์เวิร์ดได้เจ้าค่ะ
ที่จริงแต่งบทนี้จบนานแล้ว
บทนี้เป็นตัวตีที่สำคัญกับปมหลายๆอย่างด้วย -^-
คงต้องหาวิธีแก้ปัญหาก่อนนะเจ้าค่ะ
กราบขอบพระคุณ -/\-
[17-8-13]
บทนี้ยาวหน่อยนะฮะเพราะเป็นตัวเชื่อมไปถึงตัวละครและปมยิบย่อยต่างๆ
แก้ปัญหาเรื่องคอมแล้วแล้วฮะ ดีใจโฮกกกก
นึกว่าจะได้ดองนิยายซะแล้ว ฮ่าาาา
ก็ขอให้ช่วยติๆชมๆหน่อยก็ได้นะฮะ
แต๊งกิ้วที่แวะเวียนมาอ่านกันนะฮะ
กราบลา >/\< เจ้าค่ะ
[18-8-13]
ความคิดเห็น