คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 6
ปัง!!!
เสียงตบโต๊ะประจำตำแหน่งเหรัญญิกสภาโครมใหญ่ ทำเอาเจ้าของโต๊ะสะดุ้งโหยง ก่อนจะส่งยิ้มแหย ๆ เกลื่อนให้เป็นเป็นทัพหน้าที่ถูกพม่า...เอ้ยไม่ใช่..คนตรงหน้าดีตีด่านเสียแตกยับเยิน
“นี่มันหมายความว่ายังไง!”
เสียงเกรี้ยวกราดของซาตานแห่งชมรมการแสดงที่นึกครึ้มใจมาประทับลงองค์เอาวันนี้ทำให้แตมที่รักษาการอยู่ในห้องเพียงคนเดียวต้องเหงื่อตกกับการมาเยือนห้องสภาฯเป็นครั้งที่สามของเด็กหนุ่ม
“อะ..อะไร ยังไงเหรอครับน้องมีน”
ดวงตากลมโตตวัดฉับกลับมามองอย่างเชือดเฉือน จนรุ่นพี่อย่างแตมหวั่นใจจะโดนฆ่าหมกสภาก็วันนี้
...ไอ้โต้งงงงง เอ็งจะไปโบสถ์อะไรเอาตอนเนนนนนนน้ รีบ ๆ กลับมาช่วยชีวิตเพื่อนเอ็งเร็วเข้า...
“ไอ้มีน หายใจลึก ๆ โว้ย ท่องไว้ว่า...ชมรม...เพื่อชมรม”
กวินยอมเสี่ยงคว้าตัวเพื่อนรักที่กำลังโมโหเจียนคลั่งให้ถอยห่างออกจากโต๊ะที่เต็มไปด้วยเอกสารกระจัดกระจายเพราะแรงโทสะของมีน
“เฮ้ย! เจน...รีบ ๆ คุยสิวะ ธุระการเงินแกน่ะ”
...จะให้ฉันคุยอะไรเล่ายะไอ้กวิ๊นนนน ที่ต้องโผมากันทั้งคณะอย่างนี้ก็เพราะจะมาดึงไอ้มีนกลับไม่ใช่รึง้ายยย...
เจนตอบกลับเพื่อนชายด้วยสายตา ก่อนจะหันมาเหลือบมองรุ่นพี่แผนกวิทย์ที่ถอนหายใจโล่งอกอย่างกับผ่านเหตุการณ์ Die Today (ดัดแปลงเค้าโครงเรื่องมาจาก Die Another Day) มาสด ๆ ร้อน ๆ
“เอ้อ...พี่แตมคะ” เจนหันกลับมาที่รุ่นพี่หนุ่มอีกครั้ง หลังจากกวินและหนิมดึงมีนออกไปสงบสติอารมณ์นอกห้องสภา “เจนต้องขอโทษแทนเพื่อนด้วยนะคะ พอดีไอ้มีนมันอารมณ์เสียนิดหน่อย”
...นิดหน่อย!!!...พระเจ้า! ถ้ามากกว่านี้ตรูไม่ตายคาตรี-นเทพธิดาซาตานเลยเหรอวะนั่น...
“มะ..ไม่เป็นไรครับ” อยากตอบตรงข้ามเฟ้ย...แต่ตรูมะอยากตายยย “ว่าแต่น้องเจนกับเพื่อน ๆ มาหาพี่ถึงนี่มีอะไรรึเปล่าครับ”
“ถ้าพี่แตมว่าอย่างนั้น งั้นเจนก็ขอพูดตรง ๆ เลยนะคะว่า ทางชมรมการแสดงขอเปลี่ยนตัวเจ้าหน้าที่ที่ทางสภาส่งมาตรวจสอบการเงินของทางชมรม”
“เห?...” งงหนักยิ่งกว่าซาตานมาอาละวาด “คนที่ทางสภาส่งไปมีปัญหาเหรอครับ”
“มาก ๆ เลยล่ะค่ะพี่” เจนตอบเหรัญญิกหนุ่มตามตรงแม้เสี้ยวหนึ่งจะแอบเสียดายลึก ๆ ก็ตาม “ทางชมรมเราจะไม่มีปัญหาเลยค่ะ ถ้าเจ้าหน้าที่ของสภาคนนั้นจะไม่ใช่พี่ตฤณ”
“ห๊า!!!”
@@@
"ห๊า!!!"
“เอ้อ! แกไม่ต้องห๊าแล้ว ได้ยินเป็นรอบที่ร้อยได้แล้วมั้งเนี่ยวันนี้”
ตฤณตะโกนกลับเมื่อไอ้เพื่อนซี้เจ้าเล่ห์ยังทำหน้าช็อคยังไม่หายตั้งแต่เขากลับจากการตรวจบัญชีกับน้องเจน และคู่อริคนสำคัญ
...มีน เมธารักษ์ ปภาณว่องวานิช ผู้กำกับมือทองจอมโหด...
“แล้วแกจะก่อเรื่องทำม๊ายยย...รู้ทั้งรู้ว่า น้องเค้าไม่ชอบหนังหน้าแกขนาดไหน เท่าที่ยังมีเงาหัวรอดมาเจอหน้าฉันกับไอ้โต้งได้ก็บุญหัวแล้วนะเว้ย”
“เว่อร์ไป...ไอ้แตม” ตฤณส่ายหน้า “แกคิดว่าเพื่อนแกอ่อนขนาดนั้นเลยรึไงวะ ฉันน่ะมันเจ้าชายอัจฉริยะเฟ้ย”
คนที่บอกว่าตัวเองเป็นเจ้าชายอัจฉริยะหัวเราะออกมาเบา ๆ เมื่อหวนนึกไปถึงใครบางคนที่กำลังอาละวาดหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่ในห้องซ้อมของชมรมการแสดงหลังจากที่เขาตรวจบัญชี...อย่างละเอียด(!?)...เสร็จ
“อัจฉริยะในเรื่องซวย ๆ ล่ะไม่ว่า” เหรัญญิกหนุ่มสบถ...แน่ล่ะไอ้เพื่อนสองตัวตรงหน้า มันไม่ได้เจออย่างเขานี่หว่า...พ่อเจ้าประคุณเล่นซะจอมเจ้าเล่ห์อย่างเขายังหัวหด
ตั้งแต่ที่โดนอาละวาดไปเมื่อบ่าย ก็ทำเอาแตมเลิกคิดเรื่องบุพเพ(วาย)อาละวาดทันที...คนอะไรน่ากลัวชะมัดยาด
“แล้วยังแกอีกไอ้โต้ง เซ็นอนุมัติให้มันทำไมวะ”
แตมหันไปเล่นงานท่านประธานนักเรียนที่กำลังก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือเล่มใหม่ล่าสุดจากคุณพ่อแอนเดอร์สัน...คราวนี้คุณพ่อท่านให้เอาไว้ทำใจที่มีเพื่อนสนิทจิตตกไม่เว้นวัน โต้งเงยหน้าขึ้นมาจากตัวอักษรภาษาอังกฤษเล็กน้อยก่อนจะให้ความเห็นในทางตรงข้าม
“เอาน่า..ถือว่าขำ ๆ สนุกดีออก”
“สนุกกับผีบ้านแกสิไอ้โต้ง”
โต้งกับตฤณหัวเราะขำกับท่าทีขวัญเสียของจอมเจ้าเล่ห์อย่างแตมที่ขอสู้กับอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่น้องมีน ซาตานจอมโหดแห่งชมรมการแสดง
“แล้วนี่แกจะกลับเลยรึเปล่าวะตฤณ”
“อืม...กลับเลย ช่วงนี้ออเดอร์ที่ร้านเยอะ”
ตฤณหันไปตอบโต้งที่เงยหน้าจากหนังสือเล่มหนาขึ้นมาอีกครั้ง มือหนากวาดทุกอย่างใส่กระเป๋าเป้อย่างรีบเร่ง วันนี้เขาบอกแม่ไว้ว่าจะไปช่วยส่งดอกไม้แทนพี่แดง พนักงานส่งเดลิเวอร์รี่ที่ขอลาหยุดพักหนึ่งวัน บ้านของตฤณเปิดเป็นร้านขายดอกไม้ รับจัดช่อ และตกแต่งงานนอกสถานที่โดยมีเพียงแม่และเขาช่วยประคับประคองร้านไปด้วยกันสองแม่ลูก
“ระวังตัวดี ๆ ล่ะ”
คำปิดท้ายแปลก ๆ ของเพื่อนสนิททำเอาคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ก่อนจะยักไหล่ทิ้งความสงสัยที่มีออกไปเมื่อเข็มบนหน้าปัดนาฬิกาข้อมือบอกว่า ช้ากว่านี้จะไม่ทันส่งดอกไม้
@@@
“ขอบคุณมากครับ แล้วอย่าลืมเรียกใช้บริการจากเราอีกนะครับ”
ตฤณก้มหัวให้เล็กน้อยพร้อมกับโปรยรอยยิ้มหว่านเสน่ห์แบบเจ้าชายให้กับสาว(ไม่)น้อยตรงหน้าที่กำลังทำหน้าแดงเรื่ออย่างเขินอาย...หนึ่งในกลยุทธการขายของเขาหล่ะ
“เฮ้อ...หมดซะที” เด็กหนุ่มบิดตัวไล่ความเมื่อยล้าตลอดเย็นที่เขาต้องวิ่งวุ่นขับรถส่งออเดอร์ให้กับลูกค้าขาประจำที่โทรเข้ามาสั่ง แต่ละที่ก็อยู่กันแทบจะคนละฟากเมืองทำเอาเขาหัวหมุนไม่น้อย
...ตืดดดดดดดดดดดดด ตืดดดดดดดด...
“อ่า...จะกลับแล้วครับแม่.....ครับ ๆ เพิ่งส่งออเดอร์เสร็จพอดีครับ ไม่ต้องเป็นห่วงครับ อีกสักพักคงจะถึง...อืม แม่ทานข้าวไปก่อนก็ได้ครับ ไม่ต้องรอทานพร้อมตฤณหรอกเดี๋ยวจะหิวจนเป็นลมไปซะก่อน เอางั้นก็ได้ครับ ครับ ๆ สวัสดีครับ”
เสียงทุ้มกรอกไปตามสายให้คนปลายทางไม่ต้องเป็นห่วง ตฤณเก็บโทรศัพท์มือถือเข้ากระเป๋ากางเกง ก่อนจะล้วงกุญแจรถเพื่อมาไขสตาร์ทกลับบ้าน แต่ว่า...
...รู้สึกว่าตอนนี้เขาคงจะยังกลับไม่ได้ซะแล้วสิ...
“จะไปไหนไอ้หน้าหล่อ”
นับได้หกเจ็ดคนพร้อมกับไม้หน้าสามที่ยืนล้อมหน้าล้อมหลังปิดทางเดินอยู่ แสงไฟสลัวจากเสาไฟฟ้าข้างทางเผยให้เห็นใบหน้าที่ติดขีดระดับติดลบในสายตาเขาก้าวเข้ามาประจันหน้า นัยน์ตาคมมองรอบตัวอย่างสังเกตและระมัดระวัง
“คราวที่แล้วพวกกูยังไม่ได้จัดให้ น้ำหน้าอย่างเมิงก็หนีจุกตูดหายไปซะก่อน”
...ใครจะบ้าเอาหน้าหล่อ ๆ ไปแลกกับพวกติดขีดระดับติดลบอย่างพวกเมิงล่ะคร้าบ...
ตฤณคิดในใจ ก่อนจะคำนวณหาทางหนีทีไล่ที่จะทำยังไงก็ได้ให้เขารอดกลับไปทานข้าวกับแม่ที่บ้าน ตอนนี้ตัวเขาไม่มีอาวุธเลยสักกะอย่าง จะมีก็แค่กุญแจรถแล้วก็โทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกง
“เรื่องเมื่อวันนั้นผมว่ามันเป็นการเข้าใจผิดน่ะครับ”
ถึงจะเคยยกพวกตีข้ามสถาบันจนชื่อ ‘ตฤณภพ’ ติดอันดับบน ๆ ของท็อปสกอร์ แต่นั่นเขาก็มีพวกมีพ้องแถมยังพร้อมสรรพด้วยเครื่องมือช่วยเหลืออีกต่างหาก...ฉะนั้น เวลานี้คงไม่ค่อยเหมาะที่ตฤณภพจะเปิดเดี่ยวไมโครโฟนอย่างโน๊ต อุดมสักเท่าไหร่ ตฤณจึงพยายามหาเรื่องคุยถ่วงเวลาเพื่อเบนความสนใจของพวกมันให้อยู่ที่หน้าของเขาไม่ใช่มือที่กำลังล้วงกระเป๋ากางเกงอย่างช้า ๆ เพื่อทำการกดหมายเลขฉุกเฉินอย่าง 191
“ถุย! เข้าใจผิดอะไรวะ กูเห็น ๆ อยู่ว่าเมิงหม้อใส่แฟนกู”
...อยากจะถุยเหมือนกันครับ จะหม้อ จะไห จะอะไรเขาก็ไม่คิดสั้นที่จะหม้อรุ่นป้าเด็ดขาด ไม่รู้ว่าพวกมันใช้ตาตุ่มมองรึยังไง ถึงไม่เห็นน้องแนนสวยเอ็กซ์ เด็กเอ๊าะที่ยืนแอ๊บแบ๊วเกาะแขนอยู่ข้าง ๆ...
ว่าแล้วก็ขอเลื่อนระดับกิ๊กให้เป็นแฟนชั่วคราวเพื่อความอยู่รอด
“วันนั้นแฟนผมก็ไปด้วย ผมไม่คิดจะไปหม้อแฟนใครหรอกครับ”
“ถ้าวันนั้นแฟนเมิงไม่มา เมิงก็คิดจะหม้องั้นสิแฟนกูงั้นสิวะ”....เอากันเข้าไป
“ผมว่าพวกพี่ใจเย็น ๆ ก่อนดีกว่า จะเอาไม้หน้าสามยกพวกมาตีผมหน้าตลาดABC อย่างนี้ไม่ดีหรอกครับ ผมว่าเราน่าจะคุยกันดี ๆ ดีกว่ามั้ยพี่”
ตฤณเจรจาต่อรองกับอีกฝ่ายช้า ๆ โดยเน้นเสียงที่ประโยคกลางดัง ๆ ให้ปลายสายที่เขาคาดว่า น่าจะรับสายแล้วได้ยิน
“กูไม่คุยเว้ย! แล้วก็หุบปากมาก ๆ ของเมิงไว้ หน้าหล่อ ๆ ของเมิงจะได้เหลืออยู่”
แน่นอนว่าพวกมันคงไม่รู้จักคำว่าเจรจา ถึงสาวเท้าเข้ามาพร้อมกับตะโกนลั่น
“เมิงตายแน่! ไอ้หน้าหล่อ!”
...โอ๊ะอย่างน้อยก่อนมันจะใช้ไม้หน้าสามฟาดเข้ามา มันก็ยังคงชมเขาว่าหล่อครับท่านผู้ชม ช่างเป็นนักเลงอันธพาลที่แน่วแน่เสียนี่กระไร...
TO BE CONTINUE >>
ความคิดเห็น