คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : ตอนที่ 14
“อย่าดิ้นสิ!”
...แล้วจะให้ฉันเต็มใจให้นายลวนลามรึไง ไอ้บ้านี่...
“ฉันบอกให้ปล่อยไงเล่า” มีนไม่ได้สนใจคำสั่งตฤณ เอาแต่ก้มหน้านั่งแกะมือปลาหมึกออก
“มาจับมือฉันไว้ทำไมห๊ะ ออกไปไกล ๆ เลยนะ ฉันไม่ได้อยู่ชมรมอนุรักษ์ป่าไม้แบบนาย เข้าใจเอาไว้ซะด้วยไอ้รองประธานฯเฮงซวย”
“แล้วทำไมไม่ลองย้ายมาดูมั่งล่ะ สนุกนะ” ตฤณหัวเราะพลางยกขาข้างหนึ่งขึ้นมาพาดขาของเขาทั้งสองข้างไว้อย่างรู้ทันว่าเขากำลังจะยันเจ้าตัวอีกครั้ง “จะได้ไม่เหนื่อยไง”
มีนชะงักไปกับถ้อยคำท่อนท้ายที่อีกฝ่ายพูด ก่อนจะสบกับดวงตาคมที่อ่านได้ว่า...เข้าใจแล้วสิ
“ต้องการอะไร?” เมื่อเขายอมสงบนิ่งลง ตฤณก็พร้อมที่จะปล่อยมือและขาที่พันธนาการออกไว้ให้
ป๊อก!!
นี่เป็นครั้งแรกที่ประวัติศาสตร์จะต้องจารึกไว้เมื่อคนอย่างตฤณภพสามารถยกมะเหงกขึ้นเคาะหัวจอมซาตานของชมรมการแสดงที่ไม่เคยมีใครกล้าแหยมได้
“หน้าฉันมันบอกว่าเป็นพวกแสวงหาประโยชน์มากนักรึไงห๊ะเด็กบ้า ทำดีโดยไม่หวังผลตอบแทนน่ะเคยได้ยินมั้ย”
ป๊อก!!! ๆๆ มะเหงกนั้นคืนสนอง คนอย่างมีน เมธารักษ์รู้จักคืนบุญคุณคนสองเท่า!
“ไม่เคย แล้วก็ไม่ยักรู้ว่าคนอย่างนายทำดีเป็นเหมือนกับคนอื่นเขาด้วย หน้าไม่ให้เลยสักนิด” มีนกวนประสาทหน้าตาย “แล้วอีกอย่างนายจะมาทำดีกับฉันทำไม ระหว่างฉันกับนายไม่เคยเกี่ยวข้องอะไรกันมาก่อน นอกจากความแค้น”
มีนเน้นคำว่าแค้นหนัก ๆ ให้อีกฝ่ายสะดุ้งเล่น
...บอกให้มันรู้ว่าที่เฉย ๆ อยู่เพราะแค้นมันจัดยิ่งกว่าเดิม...ฮึ่ย!
“ฉันสงสารน้องนายต่างหากล่ะ ก็บอกไปแล้วไงว่า น้องนายเค้าเป็นห่วงนายมาก เรื่องงานโรงเรียนอาทิตย์หน้าเดี๋ยวฉันจะช่วยพูดกับอาจารย์ให้”
“ไม่จำเป็น” เหมือนกับกรอเทปกลับซ้ำ แต่แน่นอนว่าเขาจะไม่ต่อด้วยประโยคอุปโลกน์ที่นำพาเหตุการณ์อัปลักษณ์ในชีวิตสิ้นดีมาให้คนตรงหน้าได้ทำอย่างที่ใจคิดแน่...ไอ้โรคจิต
นัยน์ตาคมดุที่ฉายวาบอย่างพร้อมที่จะเผชิญกับอีกด้านที่เขาโกหกเมื่อหลายนาทีก่อนอีกครั้งทำให้เขาจำต้องขยายความให้อีกฝ่ายฟังโดยไม่จำเป็นเลยสักนิดอย่างหงุดหงิด ไม่รู้ว่ามันจะยุ่งอะไรกับเขานักหนา
“นอกจากที่เมย์บอกเรื่องงานโรงเรียนกับนายว่าฉันต้องรับงานแบบยอดมนุษย์ทั้งหมดคนเดียว แล้วยัยตัวยุ่งไม่ได้พูดอะไรต่อจากนี้อีกเลยรึไง”
“นายหมายความว่าไง?”...มันโง่เกินความคาดหมายเขาเป็นครั้งที่สอง มีนถอนหายใจอย่างหงุดหงิด เสี้ยวหนึ่งในร้อยคงมีส่วนแบ่งไปให้กับยัยตัวยุ่งที่ช่างขยันหาเรื่องมาให้พี่ชายไม่หยุดหย่อน
“นายเคยเห็นฉันปล่อยลำแสงแอคชั่นบีมรึเปล่าล่ะ หรือเคยเห็นพรรคพวกขบวนการสีของฉันอีกสี่คนมะ”
คำตอบที่มาในรูปคำถามกวน ๆ สะท้อนเครื่องหมายคำถามอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาของเจ้าชายเพลย์บอยอันดับหนึ่งของโรงเรียน
...เขาจะไม่ตั้งความหวังไว้กับลูกชายของคุณอริศราอีกแล้ว เมื่อมันกำลังแสดงความโง่เกินความคาดหมายของเขาเป็นครั้งที่สาม...ช่างฉลาดได้ไม่สมตำแหน่งเลยให้ตายเถอะ!...
“เฮ้อ...นายนี่มัน...ยิ่งกว่าที่ฉันคิดไว้ซะอีก” มีนถอนหายใจหนัก ยอมแพ้ให้กับความโง่เขลาบริสุทธิ์ของรองประธานฯเฮงซวย “ฉันหมายความว่าฉันไม่ใช่ยอดมนุษย์ ฉันฉลาดพอที่จะรู้ขีดจำกัดตัวเองดีว่าทำได้แค่ไหน”
“แต่นายก็ยังรับมาทำทั้งหมด ทั้งทำผลงานแสดงแล้วก็เป็นตัวแทนลงแข่งทั้งตอบปัญหากับโครงงานด้วย แล้วยังไม่รวมถึงไอ้ละครเวทีอะไรนั่นอีก” ตฤณแย้ง
“ใช่! ถ้านั่นคือข้อมูลที่น้องฉันบอกนายไป แต่นายน่าจะรู้จักนิสัยอดีตคู่อริอันดับหนึ่งของนายอย่างยัยเมย์ออก ยัยตัวยุ่งเคยพูดให้จบ ๆ หมดทั้งประโยคซะทีไหน ฉันพูดแค่นี้หวังว่านายคงจะรู้นะ”
...“จะพูดก็พูดให้จบประโยคเมย์ ไม่ต้องเว้น”....ประโยคเมื่อเช้าที่มีนหันมาปรามแฝดน้องคงลอยเข้ากระทบเซลล์ฉลาดที่ใดที่หนึ่งของสมองของตฤณเข้าแล้ว
“งั้นหมายความว่า...”
มีนลุกขึ้นยืนพร้อมกับปัดเศษหญ้าที่ติดตามเสื้อผ้าออกโดยไม่สนใจคนที่เพิ่งจะเก็ทขึ้นมาแล้ว มือเรียวผลักประตูรั้วสีขาวน่ารักให้เปิดออก ก่อนจะหันมาไขข้อข้องใจลูกชายคนเดียวของคุณอริศราให้กระจ่างแบบที่ยาวที่สุดในชีวิต
“ฉันไม่ใช่ยอดมนุษย์ที่จะทำได้ทุกอย่าง แล้วฉันก็ไม่ใช่เทวดาหรือซาตานที่จะเนรมิตอะไรให้ใครก็ได้ตามปรารถนาด้วย เพราะฉะนั้นสิ่งที่ยัยเมย์ยังเล่าไม่จบก็คือ ฉันตอบปฏิเสธพวกอาจารย์ไปทั้งหมดยกเว้นเพียงงานแสดงละครเวทีที่ผู้กำกับอย่างฉันต้องรับผิดชอบ แล้วการที่ฉันไม่ได้นอนมาหลายวันก็เพราะต้องการที่จะเคลียร์บัญชีของชมรมให้ไอ้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบจอมจุ้นบางตัวที่อาสามาเพื่อหาเรื่องฉันโดยเฉพาะได้รู้ซะที แล้วจะได้อนุมัติงบประมาณมาให้โดยที่สมาชิกในชมรมไม่จำเป็นต้องควักเนื้อของตัวเองมาโปะให้กับชื่อเสียงของโรงเรียนอีกต่อไป”
คำประกาศที่ทิ้งท้ายไว้ให้คนข้างหลังได้คิดของมีน ทำเอาร่างสูงนิ่งเงียบไปถนัดใจ...ตฤณมองแผ่นหลังบางที่หายลับไปกับรถแท็กซี่สีเหลืองสดอย่างครุ่นคิด บางทีนี่อาจจะเป็นอีกด้านที่เจ้าตัวคงจะไม่ตั้งใจจะหันให้เขาเห็นแต่อย่างใด แต่คงเป็นการตัดรำคาญบอกหมดอย่างลืมตัวเสียมากกว่า
@@@
“พี่ขอดูแฟ้มบัญชีของชมรมการแสดงหน่อยครับน้องเจน”
“เอ่อ...เอาแฟ้มของสองปีก่อนไปดูก่อนนะคะพี่ตฤณ คือตอนนี้ทางชมรมกำลังจัดทำเอกสารใหม่น่ะค่ะ ทางสภาฯจะได้ตรวจสอบได้ง่ายกว่าเดิม...เอ้อ...เจนไม่ได้หมายความว่า ปลอมเอกสารนะคะ”
“ฮ่า ๆ พี่รู้ครับ ว่าแต่แฟ้มบัญชีส่วนที่เหลือที่จะได้ตรวจสอบเมื่อไหร่ล่ะ”
“ขอเวลามะ...เอ้ย...เจนหน่อยได้มั้ยคะ คือก็กำลังเร่งเคลียร์ให้อยู่น่ะค่ะ แบบอย่างสองแฟ้มในมือพี่ตฤณไงคะ”
“สองแฟ้มนี้? อื้อหือ...นี่ขนาดแค่ดูผ่าน ๆ ยังทำละเอียดซะจนพี่ไม่ต้องดูอะไรมากเลยนะนี่ ทั้งรายการ หมายเหตุ หนังสืออนุมัติ แล้วก็ใบเสร็จแนบ...โอเคเลย เอ๊ะ!”
“อะไรคะพี่ตฤณ”
“รายรับส่วนนี้มายังไงครับเนี่ย...ไม่เห็นเท่ากับหนังสืออนุมัติเลยเจน”
“เอาไว้เดี๋ยวเจนเคลียร์ทั้งหมดเสร็จแล้ว เจนจะมาอธิบายทั้งหมดพร้อม ๆ กันเลยนะคะ”
“เอางั้นก็ได้ครับ แต่ว่าพี่ขอแฟ้มที่เหลือพร้อมกับแผนงานของปีนี้เร็วหน่อยนะครับ ยิ่งได้เร็วเท่าไหร่ ทางสภาฯก็จะได้อนุมัติให้เร็วเท่านั้น หวังว่าคงเข้าใจนะ”
“เอ่อ...ค่ะ...ขอบคุณมากค่ะพี่ตฤณ”
.
.
“ใครว่าล่ะพี่ตฤณ พี่มีนไม่ได้นอนมาหลายวันแล้วต่างหาก...โชคดีนะที่ไม่มีไข้”
“ไหนไอ้วัฒน์บอกพี่ว่า...”
“พวกที่ชมรมรู้ซะที่ไหนล่ะคะ พี่มีนทำหน้าตายอยู่หน้าเดียวอย่างนี้คงจะรู้หรอก”
“หมายความว่าไงเมย์?”
“ก็...เวลาพี่มีนป่วยน่ะไม่ค่อยมีใครรู้หรอกค่ะ พี่เค้าปากหนักอย่างกับอะไรดี”
ยิ่งนึกถึงตอนที่คุยกับเหรัญญิกของชมรมการแสดงและแฝดน้องของใครบางคน ความจริงที่เพิ่งรับรู้ก็ทำให้รู้สึกวูบโหวงขึ้นในใจอย่างประหลาด ตฤณถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วงเมื่อนึกถึงดวงตากลมที่เย็นชายิ่งกว่าเก่าขณะพูดคำประกาศให้คนโง่ได้เข้าใจ
เปลือกตาหนาปิดแน่นอย่างทบทวนข้อมูลในระบบความคิดและหัวใจอย่างช้า ๆ นี่มันเรียกว่าอะไรกันแน่นะ จะหมายความว่าอย่างนั้นได้รึเปล่า
อยู่ ๆ ก็ห่วงขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ
อยู่ ๆ ก็อยากเห็นใบหน้าหวาน ๆ ขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
อยู่ ๆ ก็อยากได้ยินเสียงใส ๆ ที่แม้จะเย็นชาไปหน่อยแต่ก็เพราะดีอย่างไม่รู้คำตอบ
...ขี้หงุดหงิด อดทนอะไรนาน ๆ ไม่เคยได้ แถมยังปากร้ายเป็นที่หนึ่ง...คุณสมบัติต้น ๆ ของผู้ชายคนหนึ่งที่เพิ่งจะเจอหน้ากัน ได้รู้จักกันจริง ๆ เพียงไม่กี่วันจะเรียกอย่างนั้นได้จริง ๆ หรือ?
“แม่ครับ...ทำไมแม่ถึงได้รักพ่อล่ะครับ” ตฤณลืมตาขึ้นมาถามคุณอริศราที่ทรุดตัวนั่งลงข้างเขาอย่างเงียบ ๆ
ดวงตาของแม่ที่ทอดมองมายังเขากำลังบอกคำตอบ...แม่ที่เข้าใจเขาที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร แม่เข้าใจเขาเสมอมา และตอนนี้ดวงตาของแม่ก็กำลังยิ้มอย่างเข้าใจพร้อมที่จะให้คำตอบที่แม่เองก็คงจะตอบตัวเองมาทั้งชีวิต
“ไม่รู้สิ...” แม่บอกคำตอบที่ชัดที่สุด ดวงตาของแม่เหม่อไปไกล อาจจะเป็นดาวสักดวงที่พ่อคงจะอยู่บนนั้น “คนเราอาจหาเหตุผลมาตอบได้ร้อยแปดพันเก้า...บางทีอาจจะมากกว่าที่ ๆพ่อของเราอยู่ก็ได้นะ”
เขามองตามมือของแม่ที่ชี้ไปยังฟากฟ้ามืดที่มีเพียงแสงดาวระยิบอยู่เต็มท้องฟ้า
“แต่ถ้าเหตุผลทั้งหมดมีเพื่อคน ๆ เดียว แม่ว่า หนูมีนคงจะรู้ถึงความรู้สึกของเราได้เหมือนที่พ่อรู้เสมอว่าแม่คิดยังไง”
“ผมขอโทษนะครับแม่”
การทบทวนความรู้สึกของเขาจบลงอย่างง่ายดายเมื่อคำตอบที่แท้จริงถูกเฉลยมาจากคนที่เขารักมากที่สุด ตฤณบอกขอโทษแม่จากส่วนลึกของหัวใจ...รู้ว่าแม่เข้าใจเขา...แต่ก็อดรู้สึกผิดไม่ได้ที่ทำให้ความหวังของคนเป็นแม่ที่อยากจะเห็นลูกมีอนาคตที่ดีอย่างค่านิยมที่ชายหญิงคือสิ่งคู่กัน...ไม่ใช่ชายกับชายจบลง
ชายกับชาย...ความรักที่แพร่หลายเหมือนเทรนด์ดังอย่างที่สื่อเสียดสี
...แต่ไม่ได้รับการยอมรับ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปแค่ไหนก็ตาม
“แหว่ะ! มาขอโทษทำซึ้งอะไรกันยะ เจ้าลูกชาย” แม่ยกมือโยกหัวเขาเหมือนเด็ก ๆ คล้ายจะปลอบโยนความรู้สึกผิดที่ก่อตัวขึ้นว่า ไม่เป็นไร
“ทำให้เค้ารักได้ก่อนเถอะ จะมาขอโทษแม่ทีหลังก็ไม่สายย่ะ ว่าแต่...มีน้ำยาให้หนูมีนของแม่เขาหลงรักรึเปล่าเหอะ”
คุณอริศราปรามาสลูกชายตัวเองอย่างขำ ๆ ก่อนจะเป็นฝ่ายหน้าเหวอบ้างเมื่อเจอลูกชายหยอดเหตุการณ์เด็ด ๆ
“มี...ไม่มี..ไม่รู้ รู้แต่ว่าหนูมีนของคุณอริศราน่ะ แก้มก็นุ้ม...นุ่ม ตัวก็นิ้ม..นิ่ม น่าหอมไปทั้งตัวเลยล่ะครับ ฮ่า ๆๆๆ”
ตฤณหัวเราะออกมาอย่างขบขัน ก่อนจะรีบเผ่นหนีกลับเข้าไปในบ้านโดยปล่อยให้คุณอริศราร้องเสียงหลงไล่ตามหลังมา
“กลับมานี่เดี๋ยวนี้นะยะ...เจ้าลูกชาย ได้ยินมั้ยว่าคุณอริศราสั่งน่ะฮะ เจ้าลูกบ้า!....โอ้ย!! ฉันจะเป็นลม.....หนูมีนของแม่....”
TO BE CONTINUE >>
***มาอัพให้ตามสัญญาแล้วนะ แต่ไม่รู้ว่าตอนอ่านนี่จะเห็นดาวกันทุกคนรึเปล่าน้อ
ถึงคุณ AkiraTenrin
เห็นจะจริงค่ะ...งานนี้พี่ตฤณเราคงจะน่วมไปมิใช่น้อย แต่เอ๊ะ! คงจะไม่เป็นไรล่ะมั้งขิมว่าเพราะกองหนุนของตฤณเขามีทั้งหมอทั้งเภสัช น่วมยังไงก็ซ่อมได้ เอิ๊ก ๆๆๆ
ถึงคุณ akira_ked_sa
ถ้าหนูมีนเราสติแตกก็ต้องเผ่นเอาชีวิตให้รอดแบบตัวใครตัวมันน่ะสิคะ เพราะพี่ท่านจะมาแบบโหมดซาตานลงองค์ ส่วนเรื่องปัญหาก็อาจจะมีรึไม่มี งานนี้ต้องติดตามค่า ยกสองมือขึ้นมาจับตาดูไว้นะ อย่าปล่อยให้มันกระพริบล่ะ 555+ อ้อ...ขิมมาอัพแล้วน้า ได้อ่านยังอ่ะ
ถึงคุณ หยดน้ำในฤดูหนาว
โอ้วว...ดีใจที่ชอบค่ะ แต่อย่าปล่อยให้ความอิชชี่ครอบงำในจิตใจนานนะคะ เดี๋ยวความดันขึ้นค่า ฮ่าๆๆๆๆ
ถึงคุณ RedDevil with BlackMagic
อ๊ะ...ขอบคุณที่ทักท้วงคำผิดค่า ขิมมัวแต่พิมพ์เพลิน ๆ เลยลืมดูว่าสะกดผิดไป ขิมแก้คำแล้วน้า ถ้าตรงไหนขิมพิมพ์ผิดก็ส่งสัญญาณ S.O.S มาบอกได้นะคะ ถึงขิมจะตาโต หน้าตาก็แสนจะน่าร้ากกก...น่ารัก แต่ก็ผิดพลาดได้ค่ะ อิอิ
ถึงคุณ เลิฟโรมานซ์
ขิมขอชูธงเห็นด้วยทุกประการค่า ฮ่าๆๆๆ
ถึงคุณ -มะเฟือง-
เป็นความผิดพลาดของขิมเองค่ะ ที่ลืมใส่รายละเอียดให้ชัดเจนกว่านี้ ขิมกลับไปแก้ไขให้เข้าใจในตอนที่ 13 แล้วนะ
แต่เดี๋ยวขิมจะอ่านทวนอีกทีว่า ต้องแก้ตรงไหนเพิ่มบ้าง อ่านไปจะได้ไม่งงเนอะ ^^ ว่าแล้วก็กลัวจะหาไม่เจอ
ขิมจะอธิบายให้คุณ - มะเฟือง-ฟังดังนี้นะคะ (ดูเป็นทางการดีป่ะ อิอิ)
ขิมพิมพ์ว่ามีนขับรถมาส่งตฤณนั่นเป็นอันถูกแล้วค่ะ เพราะคุณเภสัชประจำบ้านท่านบงการมา...จากเทพธิดาเลยกลายเป็นคนขับรถไปซะงั้น...แต่ว่ารถที่มีนขับมาส่งน่ะเป็นรถส่งดอกไม้ที่ร้านของตฤณค่ะ ซึ่งจอดนิ่งไว้ที่หน้าบ้านของคุณลูกค้าคนสุดท้ายที่พระเอกของเราไปส่งนั่นแหล่ะค่ะ (ถ้าจำกันได้...ตฤณแค่ล้วงกุญแจแต่ยังไม่ได้ขึ้นรถก็ถูกเหล่าอันธพาลล้อมวงซะแล้ว)
ดังนั้น เมื่อตฤณนอนค้างบ้านมีน >> ไปร.ร.พร้อมมีน >> กลับพร้อมมีน >> ม๊ามีนเป็นห่วง >> ให้มีนขับรถให้แทน >> รถจอด
อยู่บ้านตฤณ >> มีนก็เลยต้องกลับแท๊กซี่ ประการฉะนี้แล
เอ๊ะ! ขิมอธิบายยาวฟุ่มเฟือยไปมั้ยนี่? แต่ว่าเคลียร์เนอะ ใช่ป่ะ ๆ
ความคิดเห็น