คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 12
ไม่ว่ากิจกรรมที่ทำกำลังทำอยู่จะน่าสนใจแค่ไหน แต่ก็ไม่มีอะไรที่จะดึงดูดสายตาคนทั้งโรงเรียนได้เท่ากับภาพตรงหน้านี้อีกแล้ว เมื่อคู่อริประจำโรงเรียนอย่างตฤณภพและเมยาวีที่ตั้งป้อมประกาศความเป็นศัตรูมาหลายปีกำลังเดินพูดคุยกันอย่างสนุกสนานราวกับเป็นเพื่อนซี้พี่น้องกันมาแต่ชาติปางก่อน
แต่นั่น!
มันก็ยังไม่เท่ากับใครอีกคน...ที่กำลังทำหน้าที่ประคองเจ้าชายเพลย์บอยอันดับหนึ่งให้เดินออกไปยังหน้าโรงเรียนด้วยกัน
...พระเจ้าช่วยทอดกล้วยหมดกระทะ ก็ยังไม่น่าตะลึงเท่ากับซาตานแผนกศิลป์ประคองเจ้าชาย!!!...
เป็นที่รู้กันทั้งโรงเรียนว่า เทพธิดาตีนหนัก หรือซาตานแผนกศิลป์ (โหมดองค์ลง) ค่อนข้างที่จะหยิ่ง เย็นชาและน่ากลัวจนใคร ๆ ก็ไม่กล้าเข้าใกล้ เลยได้แต่ชื่นชมอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ ชีวิตของตัวเอง(ซะอย่างนั้น) แถมยิ่งข่าวจากเมื่อหลายวันก่อนที่ลือกันว่า มีนและตฤณมีเรื่องกรณีพิพาทกันก็ทำให้ความงงงวยเกิดขึ้นได้กับคนทั้งโรงเรียน
...โอ้ววว มันเกิดอะไรขึ้น...
ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันอย่างหงุดหงิดเต็มทีกับสายตาที่จ้องมองมาที่เขาเป็นทางเดียว
“จะมองอะไรกันนักกันหนาฮะ ไม่เคยเห็นคนรึไง” มีนสบถเบา ๆ อย่างหัวเสียที่วันนี้ทั้งวันต้องตกเป็นเป้าสายตาให้คนทั้งโรงเรียนได้มอง ถ้าจะหาคนผิดก็ต้องโทษได้คนที่เดินอยู่ข้าง ๆ เขาคนเดียว
...เพราะมันคนเดียวเลยพับผ่าสิ! เกลียดมันจริง ๆ ...
“สีหน้าไม่ค่อยดีเลย น้องมีนเป็นอะไรรึเปล่าครับ”
น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยที่มาพร้อมกับประกายตาพราวบอกความขบขันเต็มที่ทำเอาเขาที่กำลังเพียรนับหนึ่งถึงพันกัดฟันกรอด
“เมื่อคืนนี้ก็ไม่ได้นอนทั้งคืน เดินไหวรึเปล่าหือ”
ตฤณแทบจะหลุดหัวเราะออกมาดัง ๆ เมื่อเห็นร่างบางที่กำลังประคองเขาอยู่ตัวสั่นระริกอย่างโกรธจัด ดวงตากลมโตประกายวาววับราวกับมีกองเพลิงขนาดย่อมที่พร้อมจะเผาเขาทุกเวลาเมื่อคนทั้งโรงเรียนทำท่าหูผึ่งผสมกับตกตะลึงไปกับประโยคกำกวมที่เขาแกล้งถามเมื่อกี้ เหลือบไปเห็นหน้าของยัยเด็กแสบเมย์ก็ยิ่งกลั้นหัวเราะไม่ไหว สงสัยจะได้ยินชัดเต็มสองรูหูเลยลืมตัวอ้าปากค้างจนลืมวิธีหุบไปแล้ว
...แกล้งคนนี่สนุกดีจริง ๆ แฮะ...
หากแต่ตฤณลอบหัวเราะในใจได้ไม่นาน คำพูดของคนข้าง ๆ ที่ส่งมาพร้อมกับรอยยิ้มเย็นก็ทำเอาเขาสำลักอากาศขึ้นมาทันควัน
“อย่ามัวแต่ห่วงคนอื่นแล้วไม่ห่วงตัวเองสิครับ”
ใบหน้าหวานราวกับผู้หญิงส่ายไปมาคล้ายกับระอาการกระทำของเขา
“เมื่อคืนพี่ตฤณโดนผมทำ...” ริมฝีปากบางสวยเว้นวรรคชวนให้คิด ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยไม่แพ้กัน ”
ไปตั้งหลายที คงเจ็บมากแน่ ๆ ผมขอโทษนะครับ”
“เฮ้ย!!!”
เจออีกฝ่ายดับเครื่องชนแบบนี้ก็ทำเอาเจ้าชายเพลย์บอยแสนกะล่อนถึงกับไปไม่เป็นก็งานนี้ ตฤณอ้าปากพะงาบ ๆ อย่างนึกหาคำพูดมาต่อกรไม่ทันเมื่ออีกฝ่ายเล่นโต้กลับเสียกระบวนทัพแตกพ่าย
...นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า แต่เหนือนักแสดงสมัครเล่นธรรมดายังมีผู้กำกับอย่างเทพธิดาตีนหนักอย่างเมธารักษ์อยู่...
...ตฤณภพโดนคนสวยรุกซะเสียเชิงชาย...
“นะ..นะ..นี่..พี่....พี่ตฤณ....กับ...พะ....พี่มีน” เมย์พูดติดอ่างเหมือนยังช็อคไม่หาย นิ้วเล็กชี้สลับไปมาระหว่างเขาและมีนอย่างสับสน
“เฮ้ย! มันไม่ใช่อย่างที่เราคิดนะ” เขารีบพูดสวนขึ้นตัดจินตนาการในหัวสมองของยัยเด็กแสบ ก่อนจะหันมามองดุ ๆ ใส่แฝดพี่ของเมย์ที่ทำไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับประโยคที่เจ้าตัวพูดออกมา
หนำซ้ำยังบอกอีกว่า
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ยัยเมย์รับได้
ใช่มั้ยเมย์?”
ถ้าไม่ใช่ในสถานการณ์อย่างนี้ เขาก็คงจะชื่นชมความรักความเข้าใจระหว่างพี่น้อง แต่นี่ไม่ใช่!!!
...ถ้าได้เป็นฝ่ายรุกเองจะไม่ว่าเล้ย เฮ้ย! ไม่ใช่ล่ะ ล้อเล่น ๆ ...
@@@
“ที่บอกว่าไม่ได้นอนทั้งคืนหมายความว่า...”
“ก็หมายความว่า พี่โดนใครบางคนไล่เตะทั้งคืนน่ะสิ”
“แล้วที่บอกว่า เดินไม่ไหว?”
“วิ่งไล่เตะกันทั้งคืนมันเหนื่อยนะ”
“แล้วที่โดนทำ...เอ่อ...ไปหลายที เจ็บมาก ๆ ล่ะ”
“เคยเห็นหนังสือบนหัวเตียงพี่ชายตัวเองมั้ยล่ะยัยตัวแสบ”
“ฮะๆๆ ฮ่าๆๆๆ”
เมย์หัวเราะเสียงใสขึ้นมาทันที หลังจากที่เขาแก้ไขความข้องใจที่มีอยู่ล้านแปดจบ
“เรื่องมันก็เป็นอย่างที่เล่านี่แหล่ะ เมื่อคืนไม่ได้มีอะไรอย่างที่คิด”
ตฤณส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจที่กว่าจะอธิบายให้ยัยเด็กแสบเมย์เข้าใจได้ก็ต้องเสียน้ำลายหมดไปเป็นถัง ๆ เพราะเจ้าหล่อนเล่นถามช็อตต่อช็อต ส่วนไหนของประโยคที่ฟังแล้วให้ความหมายกำกวมชวนคิดลึกก็ถามเสียปรุจนคนตอบคำถามพรุนไปทั้งตัว
...แต่แน่นอนว่าเรื่องเล่าทั้งหมดของเมื่อคืนฉากที่ไม่เหมาะสมกับเยาวชนถูกเขาเซ็นเซอร์ทิ้งไปหมดแล้ว
ไม่ใช่เพราะยัยเด็กแสบจะไร้เดียงสาอายุไม่ถึง แต่กลัวคนที่นั่งข้าง ๆ เขามากกว่าที่จะลุกฮือมาเตะเขาออลเดย์กลางรถเมล์
...ไม่ได้กลัว แต่เกรงใจ...
“ชื่อเสียงเจ้าชายอย่างฉันป่นปี้เพราะนายคนเดียว เด็กอะไรชอบโกหก”
เมื่อเมย์กลับเข้าสู่โลกดนตรีในไอพอด ตฤณก็หันมาคาดโทษใส่คนข้าง ๆ ที่ดูจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ มีนยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะจำใจตอบตัดรำคาญเมื่อเห็นผู้เสียหายจ้องเขม็ง
“ฉันไม่ได้โกหก แล้วนายก็เลิกทำตัวเหมือนผู้หญิงได้แล้วเพราะมันทำให้ฉันเสียสายตาเข้าไปทุกที”
คนที่ถูกว่าทำตัวเหมือนผู้หญิงสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะโต้กลับด้วยประโยคที่ฉุดอารมณ์ดี ๆ ให้เสียทันตา
“แสดงว่านายมองฉันตลอดเวลางั้นสิ”
“อยากเสียชื่อเสียงอีกรอบไหมล่ะ” มีนตอบเสียงเย็นพลางกวาดสายตาไปรอบ ๆ คันรถที่มีทั้งนักเรียนหญิงและชายแอบมองให้ความสนใจอยู่เป็นเชิงเตือน
“ก็ถ้านายยอมเป็นฝ่ายรับ แล้วฉันเป็นฝ่ายรุก...ก็ไม่มีปัญหา”
ตฤณยักคิ้วกวน ๆ ให้กับใบหน้าหวานที่แผ่รังสีประหัตประหารใส่เขาเต็มที่ แล้วแกล้งยื่นหน้าเข้าไปเกือบชิดแก้มขาว ๆ จนอีกฝ่ายผงะไปติดกระจก
“เอาไงจ้ะที่รัก”
ป้าบ!!! หนังสือว่าด้วย สังคมและจิตวิทยาเล่มที่นาบแก้มขวาเขาอยู่เมื่อคืนถูกผู้เป็นเจ้าของหยิบขึ้นมาจากกระเป๋าแล้วประเคนใส่เขาเสียเต็มหน้า
...ช่างเป็นคำตอบที่หนักแน่นและรุนแรงดีจริง ๆ...
“ไปตายซะ!!! ไอ้รองประธานฯเฮงซวย!!!”
@@@
“เด็กบ้า”
ตฤณบ่นพึมพำเบา ๆ ให้กับคนมือหนักที่เอะอะก็ใช้กำลังกับเขา ก่อนจะเผยยิ้มที่มุมปากนิด ๆ เมื่อเหลือบไปเห็นดวงตากลมที่มักจะฉายแววดุและเย็นชาอยู่เสมอถูกเปลือกตาบางปิดสนิทจนขนตาที่งอนยาวเป็นแพทาบทับกับแก้มขาวจัด ปรากฏให้เห็นใบหน้าหวานยามไร้พิษสงใด ๆ ตอนหลับ
...ดูแล้วน่ารักกว่าตอนตื่นเป็นไหน ๆ...
“สงสัยจะเพลียจัด”
“หืม?” เขาหันไปหาเมย์ที่ยื่นหน้ามาดูแฝดพี่ที่นอนหลับไม่รู้เรื่องอย่างเป็นห่วง “ไม่ได้นอนวันเดียวเนี่ยนะ”
ตฤณเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ เท่าที่เขารู้จากไอ้วัฒน์...รุ่นน้องคนโปรดของมันแข็งแรงยิ่งกว่าใคร ขนาดทำงานติดต่อกันหามรุ่งหามค่ำเจ้าตัวก็ยังไม่มีทีท่าจะป่วยตรงข้ามกับบรรดาสมาชิกคนอื่น ๆ ที่ล้มหายกันไปทีละคนสองคนไม่เว้นแม้แต่ท่านประธานชมรมอย่างมันเอง
“ใครว่าล่ะพี่ตฤณ พี่มีนไม่ได้นอนมาหลายวันแล้วต่างหาก...โชคดีนะที่ไม่มีไข้”
เมย์ลดมือที่ทาบวัดอุณหภูมิพี่ชายอย่างเบาใจเมื่อเจ้าตัวยังคงปกติ ไม่มีอาการเจ็บป่วย
...ไม่ได้นอนมาหลายวัน?...โชคดีไม่มีไข้?...
“ไหนไอ้วัฒน์บอกพี่ว่า...”
“พวกที่ชมรมรู้ซะที่ไหนล่ะคะ พี่มีนทำหน้าตายอยู่หน้าเดียวอย่างนี้คงจะรู้หรอก” เมย์หัวเราะเบา ๆ อย่างรู้ทัน ก่อนจะมองออกไปข้างนอกกระจกแล้วถอนหายใจ “เฮ้อ...รถติดชะมัดเลย กว่าจะถึงบ้านอีกนานเลย”
“หมายความว่าไงเมย์?”
“หมายถึงรถติดเหรอ?” ดวงตากลมสีน้ำตาลหันมามองเขาตาแป๋ว เหมือนจะแอ๊บแบ๊วแต่ความโหดที่พอจะรู้กันอยู่ไม่ให้
...มองแล้วบอกว่า ใสซื่อไม่ลงพอ ๆ กับคนพี่...
“พี่หมายถึงพี่เรา...ทำไมถึงไม่ได้นอนมาตั้งหลายวันแล้ว”
“เป็นห่วงพี่เค้าอ่ะดิ...อิอิ” ยัยเด็กแสบทำตาเจ้าเล่ห์ แต่ความเจ้าเล่ห์มันคนละชั้นกันเด็กน้อย
“แล้วยอมให้ห่วงป่ะล่ะ” ตฤณหันไปยักคิ้วให้พลางแกล้งโน้มศีรษะได้รูปของมีนที่กระแทกกับแผ่นกระจกยามที่คนขับรถแตะเบรกให้เอนมาซบเข้าที่ไหล่แทน ทำเอาแฝดน้องของเจ้าตัวหน้าเหวอ
“ง่า...เมย์ยังไม่อยากมีพี่เขยตอนนี้แฮะ”
ว่าแล้วมือเล็กก็คว้าเอากระเป๋าเป้ตุ๊กตาแสนนุ่มของตัวเองมาวางกับกระจกแล้วเอนศีรษะของพี่ชายให้ซบแทนไหล่กว้างของคนอยากเป็นพี่เขย ก่อนจะทำเสียงล้อเลียนน่าหมั่นไส้
“ทีตอนเค้าตื่นก็กล้าทำให้ได้อย่างนี้ละกันนะพี่ตฤณ”
“ยิ่งกว่านี้ก็กล้าทำมาแล้ว”
“หมายความว่าไงอ่ะ” เมย์ทำตาโตขึ้นมาทันที
“อยากรู้ก็บอกก่อนสิ” ตฤณมองเด็กสาวที่ทำท่าอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันควันอย่างขำ ๆ สีหน้าของคนน้องอ่านง่ายกว่าคนพี่เยอะ ดูปราดเดียวก็รู้แล้ว...ผิดกับคนพี่
ทำหน้าตายกับสายตาเย็นชาเป็นอยู่อย่างเดียว
“เฮ้อ...เกลียดพวกรู้ทันจริง ๆ เลย” เมย์ยกมือขึ้นยอมแพ้ “ก็...เวลาพี่มีนป่วยน่ะไม่ค่อยมีใครรู้หรอกค่ะ พี่เค้าปากหนักอย่างกับอะไรดี”
“แล้วที่บอกว่า พี่เราไม่ได้นอนมาหลายคืนแล้วล่ะ”
เขาปรายตาไปยังใบหน้าหวานที่ยังคงหลับสนิทไม่รู้เรื่องอะไร ดูท่าคงจะหลับลึกมากด้วย
“พี่ตฤณรู้ใช่มั้ยว่านอกจากพี่มีนเป็นผู้กำกับเวทีของชมรมแล้วยังเป็นนักเรียนดีเด่นอีก”
ตฤณพยักหน้ารับกับข้อมูลที่ใคร ๆ ในโรงเรียนก็รู้ ก่อนจะอึ้งไปถนัดตากับคำบอกเล่าของเมย์ที่บอกถึงภาระที่ร่างบางข้าง ๆ เขาแบกอยู่
“อาทิตย์หน้านี้โรงเรียนเราเป็นเจ้าภาพการแข่งขันและการจัดนิทรรศการทางวิชาการ อาจารย์ทั้งแผนกศิลป์แล้วก็แผนกวิทย์เลยมาขอร้องให้พี่มีนทำผลงานแสดงแล้วก็เป็นตัวแทนลงแข่งทั้งตอบปัญหากับโครงงานด้วย”
ตฤณนึกย้อนไปเมื่อช่วงเช้าที่เขาถามไอ้แตมถึงรายละเอียดของงานเดียวกันนี้ ซึ่งไอ้แตมก็ยักไหล่บอกเขาด้วยท่าทีสบาย ๆ ว่า พวกสภานักเรียนไม่ต้องทำอะไรมากเพราะทางอาจารย์บอกมาว่า มีผู้ช่วยฝีมือดีอยู่แล้ว พอเขาถามว่าใคร ไอ้แตมก็ได้แต่ส่ายหน้าไม่รู้เหมือนกัน
อย่าบอกนะว่า ผู้ช่วยฝีมือดีของอาจารย์
...บ้าไปแล้ว...
“แล้วนี่เห็นพี่มีนบอกว่า มติอาจารย์เพิ่งลงความเห็นว่าจะให้มีการแสดงละครปิดท้ายงานวิชาการอีก จบงานนี้คงต้องพักฟื้นยาว”
เมย์ถอนหายใจให้กับภารกิจกู้ศักดิ์ศรีโรงเรียนที่อาจารย์ทั้งโรงเรียนเห็นพี่เธอเป็นยอดมนุษย์ไปซะได้
สายตาที่มองคนที่กลายเป็นยอดมนุษย์อ่อนลงอย่างเห็นใจ เมื่อนึกได้ถึงกองเอกสารรายงานเป็นหลายตั้งบนโต๊ะทำงานของมีนที่เขานึกว่าเป็นบทละครเวทีเสียอีก มือหนาเอื้อมมาขยับกระเป๋าเป้ที่มีนใช้หนุนเล็กน้อยเพื่อหวังให้อีกฝ่ายได้นอนสบาย
...ไม่ยักรู้มาก่อนแฮะว่า เด็กบ้าข้าง ๆ เขาจะมีภาระให้รับผิดชอบเยอะขนาดนี้...
...แถมยังมีเวลาเหลือเฟือมาเผื่อทะเลากับเขาได้อีก...
“อะแฮ่ม ๆ สงสารได้แต่ห้ามแต๊ะอั๋งนะพี่ตฤณ เดี๋ยวพี่ชายเมย์เสียหายหมด” เมย์หันมาแซวอดีตคู่อริ
“พี่ว่า คนเสียหายน่ะมันพี่มากกว่ามั้ง” ตฤณทำหน้าปุเลี่ยนเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ตอนอยู่หน้าโรงเรียน
...รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น...เจ้าชายเพลย์บอยโดนเทพธิดารุก...
...ถึงจะไม่เป็นความจริงแต่มันก็คงจะลือสะพัดไปทั้งโรงเรียนแล้วชัวร์ ๆ ...
...เวรกรรมของคนหล่อจริง ๆ เฮ้อ...
“ไม่เป็นไรหรอกพี่ตฤณ เมย์รับได้...ฮ่า ๆ ”
ว่าแล้วคนรับได้ก็ระเบิดหัวเราะเสียงดังโดยไม่สนใจสายตาของคนบนรถที่มองมาอีกครั้งทำเอาตฤณนึกอยากหลับลึกเหมือนคนข้าง ๆ ซะให้รู้แล้วรู้รอดเสียจริง
“เฮ้อ....”
ตฤณลอบมองใบหน้าหวานที่หลับสนิทแล้วพลันถอนหายใจ คำล้อเล่นที่เขาแกล้งพูดกับเมย์เล่น ๆ เมื่อครู่ กลับกลายเป็นเขาที่ต้องเป็นฝ่ายคิดหนักเพราะคำพูดของตัวเองเมื่อรู้สึกได้ว่า ใครบางคนดูจะมีอิทธิพลกับหัวใจที่ไม่เคยมีใครเข้ามาได้อีก...และเป็นหัวใจที่คิดไว้ว่าจะไม่มอบให้กับใคร
...ทำไมนะ...
ตฤณกดนิ้วชี้ลงเบา ๆ ที่ระหว่างคิ้วเพื่อคลายปมที่ขมวดมุ่นกันอยู่ของมีนออก เป็นผลให้เสี้ยวหน้าหวานดูผ่อนคลายลงและเหมือนกับจะมีรอยยิ้มน้อย ๆ ประดับอยู่
...ทำไม?...
คำถามที่เปรยขึ้นในใจอย่างหวังลึก ๆ ว่าใครสักคนจะตื่นขึ้นมาตอบ ใครสักคนที่ทำให้ระบบความคิดของเจ้าชายเพลย์บอยอย่างเขาต้องล่มไม่เป็นท่า...ใครสักคนที่ทำให้หัวใจว่างเปล่านี้กลับมาเต้นได้อีกครั้ง
นายตื่นขึ้นมาตอบฉันหน่อยได้มั้ย...ตื่นขึ้นมาตอบว่าที่ฉันเป็นอย่างนี้
...เพราะอะไร?...
TO BE CONTINUE >>
*** เหอ ๆ แอบหนีแม่มาอัพนิยาย เพราะมีสอบอีกแล้วค่ะ ขิมคงลงให้ได้ตอนเดียวก่อน(แต่ยาวนะ) แล้วไว้เจอ
กันตอนหน้านะคะ โทษทีที่อัพให้ช้า...แบบว่าขิมโดนคุม 555+
ความคิดเห็น