ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sweet heart...แบบว่ารักไม่ได้ตั้งใจ (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.ย. 51









                “เฮ้ย
    !



    พลั่ก!!!



    “ฉันบอกนายแล้ว” โต้งหันมาบอกเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงเนือย ๆ พร้อมกับส่งสายตาประมาณว่า...แกไม่เชื่อที่ฉันพูดเอง



    ดวงตากลมโตสีดำสนิทจ้องมองมายังคนชื่อโต้งและชายหนุ่มร่างสูงอีกคนที่เพิ่งผลักร่างของเขาให้ล้มลงไปกับพื้นเย็นจัดอย่างไม่พอใจ  ริมฝีปากบางชมพูสวยเม้มเข้าหากันนิด ๆ อย่างกรุ่นโกรธ  ก่อนจะเอาสองมือยันพื้นให้ลุกขึ้นแล้วยกฝ่าเท้าน้อย ๆ ขึ้นมาประเคนตัวต้นเหตุของเรื่องกลับทันใด



    โครม!!!  เพล้ง!!!  เคร้ง!!!  ตูม!!!



    “...อาเมน” 



    เป็นเสียงของโต้งอีกครั้งที่เอ่ยไว้อาลัยให้แก่เพื่อนรักและทรัพย์สินต่าง ๆ ในห้องคณะกรรมการนักเรียนเมื่อมองเห็นสภาพดูไม่จืดทั้งคนและสิ่งของ  โต๊ะไม้ตัวหนาล้มคว่ำอย่างไม่เป็นท่าโดยมีร่างของซากอะไรสักอย่างที่คาดว่าจะเป็นเพื่อนของเขาถูกทาบทับด้วยกองแฟ้มเอกสารจำนวนมากอยู่ 



    “อย่ามายุ่งกับฉันอีก...จำเอาไว้! 



    เจ้าของฝ่าเท้าประกาศลั่นอย่างโมโหสุดขีด  ก่อนจะหันหลังย่ำเท้าตึงตังเสียงดังออกไปจากห้องคณะกรรมการนักเรียน



    ...เท้าหนักจริง ๆ พ่อคุณ...



    โต้งมองตามร่างสูงโปร่งที่สูงไล่เลี่ยกับพวกเขาอย่างให้ความเห็น  เคยได้ยินแต่กิตติศัพท์มาเสียนานก็เพิ่งมาประจักษ์กับตาตัวเองนี่แหละว่า คนที่เดินจากไปแรงเท้าผิดมนุษย์มนาจริง ๆ  สมแล้วที่ได้ฉายาลับ ๆ ว่า เทพธิดา ตี-น หนัก



    “จะให้จองศาลาไหนวะ” 



    โต้งหันไปถามเพื่อนรักที่ทำหน้าเหยเกอย่างเจ็บปวดพลางลุกขึ้นมาอย่างทุลักทุเล



    “ยังไม่ตายโว้ย” ตฤณแยกเขี้ยวใส่โต้ง “แล้วจะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานไหมวะไอ้ท่านประธาน  น้ำใจอ่ะ...มีมั๊ย”



    “คร้าบ ๆ ทราบแล้วครับไอ้ท่านรอง” 



    โต้งส่ายหน้าให้กับตฤณที่นั่งหน้าบูดผูกใจเจ็บให้กับร่างสูงโปร่งที่ยันเจ้าตัวเสียกระเด็นหมดมาดท่านรองประธานนักเรียนผู้สง่างาม  งานนี้จะโทษคนถีบก็ไม่ได้ในเมื่อเพื่อนรักของเขาดันโง่ไม่ถูกที่ถูกทางจับตัวมาผิดคนเอาซะเฉย ๆ  แถมจะจับมาก็ไม่จับมาดี ๆ เหมือนชาวบ้านชาวช่องเขา  ท่านรองประธานฯตฤณเล่นอุ้มเทพธิดาตีนหนักต่อสายตาคนทั้งโรงเรียนพร้อมทั้งหอมแก้มขู่



    ...แค่ถีบเดียวมันคงจะน้อยไป



    “คนอะไรตัวก็เล็กแต่แรงเยอะชะมัดเลย” ตฤณนอนแผ่หรากับโซฟานุ่มที่มุมพักผ่อน  มือข้างหนึ่งกุมท้องที่ยังคงจุกไม่หายเพราะแรงเท้าของใครบางคน



    “ก็นายเนี่ยน้า...ดันทำอะไรไม่ดูตาม้าตาเรือเองนี่นา”



    “ใครมันจะไปรู้เล่า  แต่งตัวแบบนั้นฉันก็นึกว่าเป็นยัยนั่นสิ” 



    ตฤณเถียงข้าง ๆ คู ๆ ก็ใครจะรู้ว่า คนที่เขาจับตัวมาเป็นจะแฝดพี่ของคู่อริจอมแสบของเขา  หน้าตาก็โขกกันมาเหมือนยังกับแกะ  แถมเจ้าตัวยังอยู่ในชุดผู้หญิงอีกต่างหากถึงแม้จะไม่ใช่ชุดนักเรียนหญิงก็เหอะ  แต่ใครเห็นต่างก็ต้องเข้าใจผิดเหมือนเขานั่นแหล่ะ



    “เขาแยกออกกันทั้งโรงเรียน  มีแต่แกคนเดียวเท่านั้นแหละที่แยกไม่ออก  คนพี่กับคนน้องสูงเท่ากันซะที่ไหนเล่า  แถมยังรังสีสังหารที่แผ่ออกมาอีก  แกไม่รู้สึกรึไงตอนที่ตาหมอนั่นมองมาน่ะ...บรื๋อ” โต้งลูบแขนไปมาประกอบ



    ...ตอนที่ตาหมอนั่นมองมางั้นหรอ  ดวงตากลมโตสีดำสนิท  ใส...



    “...น่ารัก” เสียงทุ้มที่เผลอหลุดออกมา  ทำเอาโต้งตาโต



    “ว่าไงนะ”



    “น่า...น่า  น่าเฉย ๆ ออก ไม่เห็นน่ากลัวตรงไหนเลย” ตฤณรีบบอกเมื่อรู้สึกตัวทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็รู้สึกมึนงงอยู่ไม่น้อยที่จู่ ๆ คำว่า น่ารักก็ผุดขึ้นมาในหัวสมอง...สงสัยพิษฝ่าเท้าจะแล่นเข้าสู่เส้นสมองจนความฉลาดกระเทือน


     

    “อ้อ...เหรอ” โต้งทำน้ำเสียงไม่อยากจะเชื่อ  แต่ก็ไม่คิดจะเซ้าซี้แหย่เล่นในเมื่อคู่กรณีของตฤณเป็นผู้ชาย 



    ...เขายังไม่อยากจะชี้โพรงให้กระรอกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน...



    “เออ!!” 



    “จริงหรอวะ  ทำไมเมื่อกี้ฉันได้ยินใครพูดว่า น่า..น่ารัก อยู่เลยวะ” 



    อีกเสียงหนึ่งดังขึ้นจากประตูทางออกเรียกให้ทั้งโต้งและตฤณหันไปมอง  แววตาคมเจ้าเล่ห์ไม่ผิดกันส่งสายตาล้อเลียนตฤณที่นอนพังพาบบนโซฟา  แตม...เพื่อนสนิทอีกคนของตฤณนั่นเอง  แตมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการนักเรียนรับหน้าที่เป็นเหรัญญิก



    “ใคร้...ใครพูด...ไหน  ไม่เห็นจะมี” ตฤณแกล้งหันซ้ายหันขวา  ใครจะไปยอมรับ  ขืนคนอื่นมาได้ยินเข้าว่า เพลย์บอยอย่างเขาชมผู้ชายว่า น่ารัก  ชีวิตนี้คงหมดกัน  แล้วอีกอย่างเดี๋ยวจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่ว่า เขาเป็นเกย์



    แตมหันไปสบตากับโต้ง  ก่อนจะหรี่ตามองเจ้าชายเพลย์บอยอันดับหนึ่งของโรงเรียน



    “มองไรวะ” ตฤณจ้องแตมกลับตาขุ่น  



    “มองคนหอมแก้มผู้ชายว่ะ” 



    แตมแกล้งตอบกวนพลางกลั้วหัวเราะ  ส่วนโต้งได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอา  หากแต่ทั้งสองก็ต้องเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อเห็นใบหน้าขาว ๆ ของเพื่อนรักมีสีแดงจาง ๆ ปรากฏเหมือนคนเขินอายอย่างไม่รู้ตัว



    ...เอาแล้วสิ เพื่อนตรู...



    @@@




              “คัท!   ถ้าคิดจะแสดงอย่างนี้ก็ไม่ต้องแสดง  กลับบ้านไปเลยดีกว่า”



                เสียงหวานตวาดลั่นทั่วห้องซ้อมของชมรมการแสดงอย่างหงุดหงิดพร้อมกับปาม้วนบทละครที่อุตส่าห์บรรจงแต่งตอนปิดเทอมทิ้งลงกับพื้นเสียงดัง  ดวงตากลมโตจ้องมองไปที่คู่พระนางที่ยืนตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างไม่พอใจ  สั่งให้ทำไอ้นู่นก็ไม่ได้  ไอ้นี่ก็ไม่ได้  แล้วยังจะคิดเอาเงินยัดใต้โต๊ะท่านผู้อำนวยการมาบงการให้เขารับพวกลูกคุณหนูทั้งหลายแหล่มาเข้าชมรมแสดงละครเวที



                “ใจเย็น ๆ ไอ้มีน...หายใจลึก ๆ เข้าไว้” 



    ร้อนถึงผู้ช่วยผู้กำกับเวทีอย่างกวินต้องวิ่งรี่เข้ามากล่อมเพื่อนซี้  บทละครปึกหนาถูกโบกขึ้นลงต่างพัดเร็ว ๆ “ท่องไว้เว้ย หายใจออก...เพื่อชมรม  หายใจเข้า...เพื่อชมรม”



                ลมหายใจฟืดฟาดที่ดังค่อย ๆ เบาลงและสม่ำเสมอในที่สุด  ร่างสูงโปร่งพยักหน้าเบา ๆ ให้กับกวินเป็นเชิงบอกว่า เขาสงบสติอารมณ์ได้แล้วทำให้กวินหายใจได้ทั่วท้อง  ตอนแรกที่กวินเห็นตาโต ๆ ของเพื่อนรักวาววับก็แทบจะลมจับแล้ว  แล้วนี่ถึงกับตะโกนลั่นขนาดนี้...ถ้าเจ้าตัวสงบสติอารมณ์ไม่ได้  บอกได้คำเดียวว่า



    ...ซวยฉิบหาย...



    กวินเหลือบมองเสี้ยวหน้าหวานที่สวยเกินชายจนทำให้นักเรียนหญิงในโรงเรียนหลายต่อหลายคนพากันอิจฉาอย่างหวาด ๆ ปนไม่เข้าใจที่เห็นเพื่อนรักอารมณ์เสียง่ายผิดปกติ  หรือว่า...มันจะเสียมาก่อนหน้านี้(!?)  



    ไวเท่าความคิด  กวินหันไปถามมีนที่ก้มตัวลงไปหยิบขวดน้ำเย็นขึ้นมาดื่ม



    “แกไปอารมณ์เสียที่ไหนมาวะไอ้มีน” 



    ขวับ! ผู้กำกับเวทีของโรงเรียนส่งสายตาขวาง ๆ มาให้แทนคำตอบจนคนถามรู้สึกอยากตบปากตัวเองเหลือทน



    “มะ..ไม่อยากตอบ  ก็...ก็ไม่ต้องตอบก็ได้  กวินไม่ถือ...”



    “ดี  งั้นก็หุบปากแกไว้ซะ” เสียงเย็น ๆ ตอบ ก่อนจะหันไปตะโกนให้สมาชิกชมรมได้ยินกันอย่างทั่วถึง “ให้เวลาพักสิบห้านาที  แล้วข้ามไปซ้อมฉากที่สี่”



    มีนพ่นลมหายใจพรืดอย่างหงุดหงิดสุดขีด  ดวงตากลมโตสีดำฉายแววขุ่นมัวอย่างเห็นชัดจนเพื่อนร่วมชมรมพร้อมใจกันถอยกรูดและเว้นระยะห่างออกไปอย่างรู้ดี  ความจริงเด็กหนุ่มเองก็ไม่ได้อยากจะเป็นอย่างนี้สักเท่าไหร่นักถ้าไม่ติดว่า ไอ้เหตุการณ์เมื่อเช้าที่เพิ่งผ่านมาสด ๆ ร้อน ๆ จะไม่ผุดขึ้นมาในสมองเขาให้เห็นภาพลอยไปมา



    ...ไอ้รองประธานนักเรียนเฮงซวย!...



    “ไอ้มีนมันเป็นอะไรของมันวะกวิน” เจน  สาวห้าวผู้รับหน้าที่เป็นการเงินของชมรมปรี่เข้ามาถามกวินด้วยความอยากรู้



    “ไม่รู้เว้ย  อยากรู้ก็ไปถามมันเองดิ”



    คำตอบโบ้ยของกวินทำเอาเจนส่ายหน้าเป็นพัลวัน  ก็แน่ล่ะ...ใครอยากจะไปหาเรื่องกับซาตานตอนอารมณ์เสีย



    “แต่...ฉานนน...รู้” 



    “เฮ้ย!!!/ เฮ้ย!!!” 



    เสียงพูดยานคางแบบหลอน ๆ สอดแทรกขึ้นมาทำเอาวงสนทนาแตก



    “จะ...ตกก...จาย...อา...รายย...นักก...หนา.....ฮ้า...” 



    ไอ้คุณหนิม  หรือ น้องหนิมที่แล้วแต่ใครจะโปรดเรียกพูดออกมาช้า ๆ อย่างไม่สำนึกความผิด 



    “..ดู...ทามมม...หน้า...เข้า...สิ”



    “ขอถีบสักทีให้หายยานเถอะวะ” เป็นไอ้เจนที่ส่งบาทาเข้ายันบั้นท้ายไอ้คุณหนิม “แมร่งนึกว่าผี  โผล่มาได้”



    “เจนนน...ทาม...ร้ายยย...เรา....ทามมมมม....มายยยยย...อ่า”



    ดูเหมือนฤทธิ์เท้าของเจนจะทำให้ไอ้คุณหนิมเพิ่มประสิทธิภาพการพูดยานคางมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม



    “เรา...ก้ออออ...แค่...จา...บอกกกก...ว่า....เมื่อออ...เช้า...มีนนนน...โดน....รุ่นนนพี่...หอมมม...แก้ม.....เท่า...น้านนนนนนนนน...เองงงงงง.....ง่า......”



    “หอมแก้ม!!! 



    แทบจะประสานเสียงเป็นวงออเคสตร้ากันทั้งชมรมเมื่อไอ้คุณหนิมผู้ยานคางได้โล่ปล่อยประโยคเด็ดเข้าให้



    ...และมันก็โคตรเด็ดจริง ๆ เมื่อเสียงเย็น ๆ แต่ไม่ยานดังมาจากข้างหลัง



    “รู้สึกว่าจะว่างมากเลยใช่ไหม...หนิม  เจน  กวิน” มีนหันมาถามด้วยรอยยิ้มเล็ก ๆ แต่น่ากลัวในสายตาของคนถูกเรียก “ให้พักสิบห้านาทีคงจะว่างจนเบื่อกันสินะ” 



    เด็กหนุ่มถลึงตาดุ ๆ ใส่เพื่อนสนิทที่บัดนี้พากันนิ่งเงียบและสามัคคีชุมนุมกระจุกตัวอยู่มุม ๆ หนึ่งราวกับเห็นผีก็ไม่ปาน  แถมยังก้าวถอยหลังให้ห่างจากเขาอย่างช้า ๆ...ช้า ๆ



    ...นึกว่าจะรู้ไม่ทันรึไง   ว่าแล้วก็



    หมับ!!!



    “แง้ๆ  อย่าทำอะไรเจนเลยนะมีน   เจนยังไม่มีสามีเป็นตัวเป็นตน  หาผู้ชายหล่อ ๆ หลอกเอาเงินมาเลี้ยงก็ไม่ได้  ให้โอกาสผู้หญิงคนนี้แสวงบุญก่อนนะจ้ะมีนจ๋า” เสียงของสาวห้าวร้องขอพร้อมกับยกมือไหว้เขาปลก ๆ ทำเอามีนอดจะที่ขำในใจไม่ได้



    ...เพิ่งรู้ว่าทอมอย่างเจนจะมีคำปฏิญาณและความฝันอันมุ่งมั่นขนาดนี้



    “อย่า....ทาม....น้องงงง......หนิมมมมมม...ด้วยย...คน.......น้า.......  เค้า....ผิดดดด....ไปปปป....แล้ววววว”



    คิ้วเรียวสวยที่ขมวดมุ่นเข้าหากันผูกเป็นโบว์ยุ่งที่จอมยานคางแห่งปีพยายามแอ๊บแบ้วสุดชีพอย่างน่าสงสาร  แล้วปรายตาไปยังเพื่อนอีกคนที่นิ่งเงียบผิดวิสัย  ทั้ง ๆ ที่มันน่าจะร้องขอโทษเขาก่อนใคร



    ไม่เข้าใจ?....

     



     

    TO BE CONTINUE >>

    ***ขอแก้เพิ่มเนื้อหานะคะ  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×