*~สาระน่ารู้~*

ลำดับตอนที่ #50 : 10 องครักษ์..พิทักษ์ผิว

10 องครักษ์..พิทักษ์ผิว

ความสวยความงามจากสถานเสริมสวยหรือจากผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางนั้น หากมองอย่างเป็นกลางแล้ว ต้องยอมรับว่าเป็นความงามที่มาจากปัจจัยภายนอก  ซึ่งอายุของความงามทั้งหลายนี้จะมีมากน้อยหรือยาวนานขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการใช้บริการ

ดังนั้น ความงามที่เกิดจากปัจจัยภายใน จึงกลายเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายกำลังส่งเสริมสนับสนุน นั่นคือหากสาวๆ มีสุขภาพพลานามัยดี ผิวพรรณย่อมผ่องใส หน้าตาย่อมมีน้ำมีนวลตามไปด้วย

ถ้าคุณไม่อยากเสียเวลาไปกับสถานความงามทั้งหลาย หรือต้องทาครีมสารพัดก่อนเข้านอนโดยไม่จำเป็นล่ะก็ วันนี้คุณลองศึกษาและหาองครักษ์มาพิทักษ์ผิวให้สวยตลอดไป น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า

1.แอปเปิ้ล  ในแอปเปิ้ลมี วิตามินซี  บี 6 ธาตุเหล็ก ทองแดง แคลเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม และโพแทสเซียม ที่ช่วยในการเผาผลาญไขมัน และควบคุมปริมาณคอเลสเตอรอลในร่างกาย

2.แครอท  อุดมด้วยเบต้าแคโรทีน ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ อาหารที่จำเป็นสำหรับผิวหนังและสายตา

3.บร็อกโคลี มีวิตามินซี และสารแอนตี้ออกซิแดนท์ เพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย ป้องกันมะเร็ง ช่วยให้ผนังเส้นเลือดแข็งแรงและยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล

4.กระเทียม  สร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ช่วยให้ระบบเผาผลาญไขมันทำงานได้ดียิ่งขึ้น ฟื้นฟูระบบการไหลเวียนของโลหิต และยังช่วยลดคอเลสเตอรอล

5.ถั่วต่างๆ อุดมด้วยสารอาหารมีประโยชน์เช่นเดียวกับผักและผลไม้สด มีโปรตีน วิตามินบี 1 และแมกนีเซียม  ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับผิวสวย  และมีผลดีต่อระบบประสาท ฮาเซลนัท คือถั่วที่มีโปรตีนสูงที่สุด บราซิลนัทมีเซเลเนียมสูงช่วยชะลอความชราได้ดี

6.อะโวคาโด  มีวิตามินอี ที่ช่วยบำรุงผิว  ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ สนับสนุนการผลิตเส้นใยคอลลาเจนของผิวหนังให้เรามีผิวสวยใส และมีน้ำมันธรรมชาติที่มีประโยชน์

7.ส้ม มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ วิตามินซี และเส้นใยอาหารสูง ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใส ป้องกันหวัด การเกิดนิ่ว มะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งเต้านม

8.พริก  พริกทุกชนิดอุดมด้วยวิตามินซี โดยเฉพาะพริกแดงและเหลือง มีวิตามินซีมากกว่าส้มถึง 4 เท่า ช่วยให้ผิวหนัง เหงือก และเส้นผมมีสุขภาพดี

9.โยเกิร์ต  ในโยเกิร์ตมีแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ต่อระบบการย่อย  ช่วยในการขับถ่าย  ทำให้ผิวพรรณสดใสไม่หมองคล้ำ ฟื้นฟูการทำงานของลำไส้

10.โอเมก้า  3  จากปลาทะเล  เช่น  ปลาแซลมอน แมคเคอเรลและทูน่า มีไขมันโอเมก้า 3 ช่วยระบบการทำงานของเซลล์ผิวหนัง ลดความดันโลหิต   การบริโภคปลาสัปดาห์ละครั้งจะลดความเสี่ยงโรคหัวใจลงได้ถึง 50% น้ำมันปลา ยังช่วยลดอาการปวดรอบเดือนและระงับอาการซึมเศร้าได้ด้วย